เขียนโดย Kogetsu
ทุกข้อมูลของ Go To Travel เที่ยวญี่ปุ่นให้รัฐบาลช่วยจ่าย! คนไทยก็มีสิทธิ! (อัพเดทเรื่อยๆ)

Go to Travel โครงการฟื้นการท่องเที่ยวโดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะช่วยออกเงินให้คนไปเที่ยว จะมีรายละเอียดอย่างไร คนไทยมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือในการเที่ยวหรือไม่ และต้องทำอย่างไร เรารวมข้อมูลและข่าวอัพเดทไว้ในบทความนี้ พร้อมข้อมูล Go to Campaign อื่นๆ ไว้ครบ!
ช่วงนี้หลายคนอาจจะได้ยินเรื่องของโครงการช่วยเหลือการท่องเที่ยวของรัฐบาลญี่ปุ่นอันมีชื่อว่า Go To Travel แต่โครงการนี้มีรายละเอียดอย่างไร คนไทยมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือในการเที่ยวหรือไม่ และต้องทำอย่างไร เรารวมข้อมูลและข่าวอัพเดทไว้ในบทความนี้แล้ว!
เที่ยวประหยัดสูงสุดครึ่งหนึ่ง ด้วย Go To Travel ในโครงการ "Go To Campaign"

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization
ภาพจากบทความ : ไปชมฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ และที่เที่ยวน่าสนใจรอบๆ ทั้งเจดีย์ 5 ชั้นและ Fuji Q Highland
ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนว่า ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ ว่า Go To Travel นั้น จริงๆ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Go To Campaign ซึ่งเป็นโครงการที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นจะออกเงินช่วยเหลือคนที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นให้ออกไปทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่หยุดชะงักไปตั้งแต่ตอนประกาศปิดเมือง โดยแบ่งออกเป็น 4 โครงการย่อยด้วยกัน คือ
ประกาศระงับโครงการ Go To Travel ชั่วคราว
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองใหญ่ ทำให้โครงการ Go To Travel จึงถูกระงับชั่วคราวด้วย โดยมีกำหนดระงับในช่วงวันที่ 28 ธันวาคม 2020 - 7 กุมภาพันธ์ 2021 การเดินทางในช่วงนี้แม้จะจองไว้ล่วงหน้า จะไม่ได้รับส่วนลด กรุณาติดต่อบริษัทท่องเที่ยวที่คุณจองไว้เพื่อปรึกษาเรื่องการยกเลิก
โครงการจะเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศญี่ปุ่น จึงควรติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง
Go To Campaign 4 โครงการ |
|
ในบทความนี้จะขอแนะนำส่วนของ Go To Travel อย่างละเอียด และแนะนำสั้นๆ สำหรับ Go To อื่นๆ ด้วย
โครงการ Go To Campaign นั้นยังอยู่ในระหว่างวางแผนดำเนินการ รายละเอียดบางอย่างจึงยังไม่ได้เปิดเผย หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ทาง MATCHA จะขอติดตามข่าวและอัพเดทข้อมูลในบทความนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ!
*ข้อมูลอัพเดท ณ วันที่ 28 กันยายน 2020
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้ติดตามข้อมูลอยู่เสมอค่ะ
สารบัญ
-
- รายละเอียดของ Go To Travel
- เริ่มแล้วสำหรับโตเกียวและเตรียมรับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 เยน!
- ระยะเวลาของโครงการ Go To Travel
- วิธีการรับส่วนลด
- สรุปเงื่อนไขในการรับส่วนลด
- ตัวอย่างการคำนวณส่วนลดที่จะได้รับ
- รายชื่อบริษัททัวร์และเว็บไซต์ที่เข้าร่วมและคาดว่าจะเข้าร่วม
- ไปรู้จักกับ Go To อื่นๆ อีก 3 อย่าง
รายละเอียดของ Go To Travel

ภาพจากบทความ : 10 อย่างที่น่าไปทำในย่านโดทงโบริ (Dotonbori) & ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) ที่โอซาก้า (Osaka)
โครงการ Go To Travel นั้นเป็นโครงการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นออกไปเที่ยวในประเทศกัน ผู้รับสิทธิจะเป็นชาวต่างชาติก็ได้ ขอเพียงเป็นคนที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้องก็พอ
รายละเอียดโครงการ |
|
เว็บไซต์ทางการของโครงการ Go To Travel : https://goto.jata-net.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์ที่สามารถจองทริปเที่ยว Go To Travel
รวมเว็บไซต์ที่สามารถจองทริปและโรงแรมที่พักที่ร่วมโครงการ Go To Travel
1. Yahoo! Travel
2. HIS
3. JTB
4. AirTrip
5. Ikkyu
6. J-Trip
7. Kinki Nippon Tourist
8. NIPPON TRAVEL AGENCY
หรือจองทัวร์ Go To Travel ในภาษาอังกฤษกับ Japan Wonder Travel
R&Y Rental บริการเช่ากระเป๋าเดินทางในญี่ปุ่น สำหรับใครอยากเที่ยวแต่ไม่มีกระเป๋าหรือต้องใช้กระเป๋าด่วน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เริ่มแล้วสำหรับโตเกียว และเตรียมรับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 เยน!
ก่อนหน้านี้โตเกียวไม่ได้เข้าร่วมโครงการทั้งผู้ที่อยู่อาศัยในโตเกียวและการท่องเที่ยวที่มาโตเกียว
แต่ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 คนที่อาศัยอยู่ในเขตโตเกียวจะสามารถร่วมโครงการ Go To Travel เพื่อรับส่วนลดเวลาเที่ยวได้เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ แล้ว รวมถึงคนจากจังหวัดอื่นที่จะมาเที่ยวโตเกียวก็สามารถรับสิทธิได้ด้วย
สำหรับผู้ที่จองทริปเที่ยวที่เกี่ยวกับโตเกียวไปก่อนหน้านี้โดยไม่ได้รับสิทธิ ขอให้ลองติดต่อกับผู้ที่ขายให้ดู เนื่องจากทางบริษัทเหล่านั้นสามารถปรับเปลี่ยนให้การจองของเราเข้าระบบส่วนลดของ Go To Travel ได้ (เฉพาะการเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไปเท่านั้น)
พิเศษสำหรับชาวโตเกียว ถึงจะมาช้าแต่กำลังจะมีสิทธิพิเศษเพิ่มมาด้วยนั่นคือ เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมสูงสุดอีก 5,000 เยน ในกรณีที่ชาวโตเกียวเข้าพักหรือเที่ยวในเขตโตเกียว
โดยหากมีการค้างคืน จะได้รับคนละ 5,000 เยน/คืน สำหรับทัวร์ที่ไม่ค้างคืนจะได้รับคนละ 2,500 เยน/วัน และใช้ไม่ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยมีข้อแม้ว่าต้องจองผ่านบริษัททัวร์ต่างๆ เท่านั้น ไม่สามารถจองเองได้แบบ Go To Travel
* สิทธิเพิ่มเติมสำหรับชาวโตเกียวยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม
เงินจำนวนนี้คือส่วนที่ทบเพิ่มให้ เพราะฉะนั้นถ้าใช้ Go To Travel ที่มีให้ 20,000 เยนอยู่แล้ว ก็จะกลายเป็นได้เงินช่วยเหลือสูงสุดคนละ 25,000 เยนเลยทีเดียว
เป็นโอกาสดีที่จะได้ลองไปพักตามโรงแรมหรูๆ อย่าง Hoshinoya Tokyo, The Okura Tokyo หรือ Park Hyatt Tokyo รับช่วงใบไม้เปลี่ยนสีพอดี หรือจะลองไปเที่ยวตามเกาะที่ห่างไกลแต่ยังถือเป็นจังหวัดโตเกียวก็ยังได้
ระยะเวลาของโครงการ Go To Travel

ภาพจากบทความ : (ฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่น) เช็คให้พร้อม! สภาพอากาศ การแต่งตัว และที่เที่ยวใบไม้แดง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
โครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2020 เพื่อให้คนเริ่มไปเที่ยวตั้งแต่วันหยุดยาว 4 วันในเดือนกรกฎาคม แต่ในช่วงแรกนั้นจะได้รับส่วนลดแค่ส่วนของลดราคา (70% จากส่วนที่จะได้รับสิทธิทั้งหมด) ส่วนคูปอง 30% นั้นจะเริ่มให้ใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020
ผู้ที่ซื้อทัวร์หรือจองที่พักเอาไว้แล้ว หากวันที่ไปเที่ยวจริงคือตั้งแต่วันที่ 22 กรกฏาคม 2020 เป็นต้นไป จะสามารถรับสิทธิส่วนลดย้อนหลังได้ โดยการยื่นคำร้อง ซึ่งรายละเอียดจะประกาศอีกครั้ง
ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฏาคม 2020 บริษัทตัวแทนท่องเที่ยวต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถเปิดขายทัวร์และบริการในราคาลดได้เลยหากบริษัทนั้นๆ พร้อมแล้ว
สำหรับชาวโตเกียวและทริปมาเที่ยวโตเกียวนั้นเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 ค่ะ
ระยะเวลาสิ้นสุดของโครงการนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าโครงการจะจัดเป็นเวลาประมาณครึ่งปีจนถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2021 ค่ะ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ของบางจังหวัดที่แย่ลง อาจมีการประกาศมาตรการพิเศษเฉพาะท้องที่ได้ จึงควรตามข้อมูลเพิ่มเติมเสมอค่ะ
วิธีการรับส่วนลด

ภาพจากบทความ : ที่เที่ยวดูหิมะหน้าหนาวในญี่ปุ่น ไปช่วงไหน เมื่อไหร่ดี
ในการรับส่วนลดนั้นทำได้เฉพาะเมื่อจองซื้อทัวร์ ที่พัก บริการต่างๆ ผ่านบริษัทตัวแทนที่ร่วมรายการ หรือติดต่อโดยตรงกับทางที่พัก โดยมีเงื่อนไขแตกต่างกันดังนี้
เมื่อจองทริปพร้อมพาหนะเดินทาง เช่น รถไฟ รถทัวร์ ผ่านบริษัทตัวแทน เราจะสามารถใช้สิทธิรับส่วนลดได้จากมูลค่าทั้งหมด เช่น ทริป 1 วัน 1 คืน นั่งรถทัวร์ไปเที่ยวราคา 40,000 เยน เราสามารถรับส่วนลดและคูปองได้ถึง 20,000 เยน (50% ของ 40,000 เยน)
แต่หากจองหรือซื้อตั๋วพาหนะเดินทางเองแล้วจองที่พักกับโรงแรม เราจะสามารถรับสิทธิได้เพียงแค่ส่วนของที่พัก เช่น ค่ารถไฟชินคันเซ็น 10,000 เยน ค่าที่พัก 20,000 เยน รวม 30,000 เยน เราจะได้รับส่วนลดและคูปองเพียง 10,000 เยน (50% ของค่าที่พัก 20,000 เยนเท่านั้น)
ฉะนั้นการจองทุกอย่างผ่านบริษัทท่องเที่ยวต่างๆ อาจจะคุ้มค่ากว่าก็ได้
วิธีการรับส่วนลดนั้น มักจะเป็นการลดราคาตั้งแต่ตอนจองแล้ว แต่ผู้ให้บริการแต่ละเจ้าอาจจะมีวิธีการแตกต่างกันออกไป บางเจ้าอาจจะลดราคาเลย บางเจ้าอาจใช้วิธีการกดรับคูปองแล้วค่อยนำคูปองมาใช้เป็นส่วนลด ก่อนทำการจองกับเจ้าไหน ลองตรวจสอบกันดูนะคะ
วิธีการยื่นขอส่วนลดย้อนหลัง
ในกรณีที่เราได้ซื้อทัวร์หรือจองที่พักสำหรับการเที่ยวตั้งแต่วันที่ 22 กรกฏาคม - 31 สิงหาคม 2020 ไปแล้ว เราสามารถยื่นขอส่วนลดย้อนหลังได้ดังนี้
วิธียื่นขอส่วนลดย้อนหลัง |
|
สำหรับผู้ที่จองทริปเที่ยวโตเกียวไปก่อนที่จะมีประกาศให้โตเกียวเข้าร่วมโครงการ Go To Travel หากวันเที่ยวของคุณคือตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 เป็นต้นไป ขอให้ลองติดต่อกับทางบริษัทที่จองทริปเอาไว้นะคะ เนื่องจากเราสามารถรับสิทธิส่วนลดได้ แต่อาจจะต้องให้ทางบริษัททัวร์ช่วยดำเนินการให้ค่ะ
สรุปเงื่อนไขในการรับส่วนลด

ภาพจากบทความ : 13 ที่เที่ยวเกียวโตไม่ควรพลาด พร้อมการแต่งกาย และวิธีการเดินทาง (Kyoto)
โดยหลักๆ แล้วแค่เลือกซื้อทัวร์หรือจองที่พัก กิจกรรม ผ่านบริษัทท่องเที่ยวที่เป็นตัวแทนก็จะได้รับส่วนลดและคูปองอยางคุ้มค่าแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ควรรู้เอาไว้ด้วยก็ดีค่ะ
เงื่อนไขปลีกย่อยที่ควรรู้ |
|
ใช้คูปองที่ร้านเช่ารถ NIPPON Rent-A-Car ได้ด้วย

Picture courtesy of NIPPON Rent-A-Car
คูปองเงินสดสามารถนำมาใช้ที่ร้านเช่ารถ NIPPON Rent-A-Car ได้ แถมถ้าใช้โค้ดจาก MATCHA ตอนจองออนไลน์ก็จะได้ส่วนลดเพิ่มอีก 10% ด้วย!
ตัวอย่างการคำนวณส่วนลดที่จะได้รับ
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของโครงการอาจจะทำให้เข้าใจยากสักเล็กน้อย เราจึงจะลองคำนวณสิทธิส่วนลดที่จะได้รับให้ดูกันค่ะ
* ส่วนของคูปอง 30% ยังไม่ได้รับและคาดว่าจะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2020
ตัวอย่าง 1 : ซื้อทริป 2 วัน 1 คืนกับบริษัททัวร์
สมมุติว่าซื้อทริป 2 วัน 1 คืน ราคา 40,000 เยน
ส่วนที่ได้รับสิทธิ์ (50% ของทั้งหมด) | 40,000 × 50% = 20,000 บาท |
1. ส่วนลดค่าเที่ยว (70%) | 20,000 x 70% = 14,000 เยน |
2. รับเป็นคูปอง (30%) | 20,000 x 30% = 6,000 เยน |
เพราะฉะนั้นเราจะต้องจ่ายเองคือ 26,000 เยน และได้คูปองเงินสด 6,000 เยนไว้ใช้ จากราคาจริง 40,000 เยน (เพราะส่วนที่ได้รับเป็นคูปอง จะไม่ได้นำไปลดจากค่าเที่ยว)
ตัวอย่าง 2 : ซื้อตั๋วรถไฟเดินทางเอง และจองโรงแรมโดยตรงกับที่พัก
หากว่าเราซื้อตั๋วรถไฟเดินทางไปเอง 20,000 เยน และจองโรงแรมเองคืนละ 20,000 เยน
ส่วนที่ได้รับสิทธิ์ (50% ของทั้งหมด) | 20,000 × 50% = 10,000 เยน (ได้รับสิทธิ์แค่ค่าโรงแรม) |
1. ส่วนลดค่าเที่ยว (70%) | 10,000 x 70% = 7,000 เยน |
2. รับเป็นคูปอง (30%) | 10,000 x 30% = 3,000 เยน |
เพราะฉะนั้นเราต้องจ่ายเองคือ ค่ารถไฟ 20,000 เยน และค่าที่พัก 13,000 เยน (เพราะส่วนที่ได้รับเป็นคูปอง จะไม่ได้นำไปลดจากค่าเที่ยว)
รวมจ่ายจริง 33,000 เยน และได้คูปองเงินสด 3,000 เยนไว้ใช้ จากราคาจริงทั้งหมด 40,000 เยน
ตัวอย่าง 3 : ซื้อทริปรถบัสแบบไปเช้าเย็นกลับ
และในกรณีที่ซื้อทัวร์แบบไม่ค้างคืน จะรับส่วนลดได้สูงสุดแค่ 10,000 เยน
สมมติว่าซื้อทัวร์ราคา 40,000 เยน
แม้ 50% ของ 40,000 จะ = 20,000 เยน แต่เราจะได้รับสิทธิเพียงแค่ 10,000 เยน
ส่วนที่ได้รับสิทธิ์ (50% ของทั้งหมด) |
แต่ได้รับจริงแค่ 10,000 บาท (สูงสุดสำหรับทริปไม่ค้างคืน) |
1. ส่วนลดค่าเที่ยว (70%) | 10,000 x 70% = 7,000 เยน |
2. รับเป็นคูปอง (30%) | 10,000 x 30% = 3,000 เยน |
เพราะฉะนั้นเราจะต้องจ่ายเองคือ 33,000 เยน และได้คูปองเงินสด 3,000 เยนไว้ใช้ จากราคาจริง 40,000 เยน (เพราะส่วนที่ได้รับเป็นคูปอง จะไม่ได้นำไปลดจากค่าเที่ยว)

หากลองเทียบดูจะพบว่าในมูลค่า 40,000 เยนเท่ากัน การจองกับบริษัทตัวแทนต่างๆ จะคุ้มกว่าอย่างชัดเจนเลยค่ะ แถมยังสะดวกตรงที่ไม่ต้องจองแยกกันทีละอย่างด้วย
รายชื่อบริษัททัวร์และเว็บไซต์ที่เข้าร่วม
ในปัจจุบันยังมีแต่บริษัทในญี่ปุ่นซึ่งมีเว็บไซต์เป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น จึงอาจต้องมีความรู้ภาษาญี่ปุ่นในระดับหนึ่งในการจอง นอกจากออนไลน์แล้วยังสามารถซื้อจองจากร้านได้อีกด้วย คาดว่าบริษัทชั้นนำส่วนใหญ่จะเข้าร่วมโครงการทั้งหมด ส่วนบริษัทที่ประกาศแล้วว่าเข้าร่วมด้วย เช่น HIS, JTB, NIPPON TRAVEL AGENCY, Yahoo! Travel และอื่นๆ
สามารถดูรายชื่อเว็บไซต์ที่จองได้พร้อมลิงค์ไปจองได้จากบทความนี้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
- ค้นหาและจองที่พักกับ Booking.com
- ค้นหาและจองที่พักกับ Rakuten Travel
- ค้นหาและซื้อตั๋วรถไฟกับกิจกรรมต่างๆ ที่ KLOOK
- ค้นหาและซื้อตั๋วรถไฟกับกิจกรรมต่างๆ ที่ Voyagin
- ซื้อทัวร์แสนสะดวกพร้อมไกด์กับ HIS
- หาและจองเที่ยวรถบัสได้ที่ Kosokubus.com หรือที่ Willer Express
(บริษัทในกรอบนี้เป็นบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ MATCHA ซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียด แต่อาจจะเข้าร่วมโครงการ)
ไปรู้จักกับ Go To อื่นๆ อีก 3 อย่าง

ภาพจากบทความ : 21 ที่เที่ยวทั่วเซนได พร้อมการเดินทาง อาหาร งานเทศกาล (Sendai)
นอกจาก Go To Travel แล้ว ยังมี Go To อีก 3 โครงการซึ่งสามารถใช้สิทธิร่วมกันได้ เช่น ใช้ส่วนด Go To Travel ในการซื้อแพคเกจการเดินทางพร้อมที่พัก จากนั้นใช้สิทธิ Go To Eat จองร้านอาหารในที่ที่ไปเที่ยว พร้อมกับใช้สิทธิ Go To Event ซื้อตั๋วงานอีเวนท์ที่จะไปเข้าร่วมระหว่างการเที่ยว
โครงการอื่นๆ จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ เผื่อว่าเราจะได้ใช้สิทธิให้ทั้งการเที่ยวหรือการใช้ชีวิตประจำวันในญี่ปุ่นประหยัดคุ้มค่ายิ่งขึ้น!
Go To Eat (ลดสูงสุด 25%)
โครงการนี้เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้คนออกไปทานอาหารนอกบ้าน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
1. คูปองใช้แทนเงินสดสำหรับไปทานอาหาร
จะมีการจำหน่ายคูปองใช้แทนเงินสด ซึ่งเราจะได้คูปองที่มีมูลค่ามากกว่าราคาซื้อ 25% เช่น หากซื้อคูปองด้วยเงิน 10,000 เยน จะได้รับคูปองมูลค่า 12,500 เยน
ข้อควรระวังคือสามารถซื้อได้สูงสุด 20,000 เยน และในการใช้คูปองจะไม่มีการทอนเงินค่ะ
2. สะสมแต้มจากการจองร้านออนไลน์
เมื่อจองร้านอาหารผ่านบริการจองร้านอาหารออนไลน์ต่างๆ และไปใช้บริการจริงจะได้รับแต้มที่ใช้แทนเงินในร้านอาหารได้ (สูงสุดมื้อกลางวัน 500 แต้ม มื้อเย็นตั้งแต่ 15:00 เป็นต้นไป 1,000 แต้มต่อที่นั่ง/ครั้ง ไม่เกินครั้งละ 10 คน) แต้มนั้นสามารถนำไปใช้ในการจองร้านอาหารครั้งถัดไป
ทั้งสองแบบเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2020 จะจำหน่ายหรือแจกแต้มจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2021 และใช้ได้จนถึงสิ้นมีนาคม 2021
Go To Event (ลดสูงสุด 20%)
ส่วน Go To Event ส่งเสริมให้คนออกไปงานอีเวนท์และกิจกรรมบันเทิงต่างๆ ทั้งโรงภาพยนตร์ การชมการแสดงออนไลน์ พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ โดยเมื่อซื้อตั๋วผ่านบริษัทจำหน่ายตั๋วต่างๆ จะได้รับส่วนลดสูงสุด 20% (ไม่เกิน 2,000 เยน) และได้คูปองอื่นๆ เช่น คูปองซื้อของในงานหรือแต้มสำหรับใช้ซื้อตั๋วงานต่อไป อีกด้วย
คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ปลายเดือนตุลาคม 2020 ยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติม
Go To Shotenkai (Shopping Street) (ยังไม่ทราบส่วนลด)
และ Go To Shotenkai หมายถึงโครงการสำหรับ "โชเทงไก" หรือก็คือย่านร้านค้าตามชุมชนต่างๆ โดยจะมีทั้งการจัดกิจกรรมหรือคิดสินค้าบริการใหม่ๆ โดยคำนึงถึงการป้องกันโควิด-19 เช่น อีเวนท์สนับสนุนการซื้ออาหารกลับบ้าน ดีลิเวอรี่อาหาร ฯลฯ แตกต่างกันไปตามที่แต่ละย่านการค้าจะเสนอ
คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนตุลาคม 20201 และได้เริ่มรับสมัครชุมชนที่จะเข้าร่วมโครงการแล้ว
เที่ยวให้คุ้มและประหยัดด้วย Go To Travel!

ภาพจากบทความ : เที่ยวทาคายาม่า (Takayama) แบบจัดเต็ม! แนะนำ 15 กิจกรรมน่าทำและวิธีเดินทาง
โครงการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คุมาโมโตะในปี 2016 หรือในฮอกไกโดเมื่อปี 2018 ก็เคยมีโครงการส่วนลดการท่องเที่ยวเพื่อให้คนไปเที่ยว ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูพื้นที่แถบนั้นๆ เช่นกัน
เพียงแต่งบประมาณของโครงการ Go To Campaign นี้สูงกว่าที่เคยจัดมาหลายเท่าเลยทีเดียว
ท่ามกลางความกังวลของหลายๆ คนในสังคม คาดว่ากิจกรรม Go To Travel นี้จะดำเนินไปตามแผนพร้อมกับสนับสนุนการเดินทางในแบบต่างๆ เช่น workation การสนบสนุนให้คนใช้วันลา สนับสนุนให้คนลาแบบกระจายวันกัน วิธีการท่องเที่ยวแบบ New normal ให้ความรู้แต่ละอุตสาหกรรมเรื่องการป้องกันโรค เพื่อให้การท่องเที่ยวนี้ปลอดภัยมากที่สุดค่ะ
อย่างไรก็ตามคนญี่ปุ่นเองก็มีความสนใจจะรับสิทธิจากโครงการนี้ไม่น้อย เรามาติดตามข้อมูล พร้อมกับคิดไว้ก่อนเลยดีกว่าว่าจะไปเที่ยวไหน เมื่อพร้อม เราจะได้รีบจองกันเลย!