สวนพลัมสระบุรี และสวนพลัมสระบุรี

<กำเนิดพลัมสระบุรี> กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในสมัยเมจิตอนต้นโดยคุณวานิเบะ คาเมโซจากพื้นที่ซาบุริในท้องถิ่น โดยการต่อกิ่งลูกพลัมไว้บนต้นพีช ปัจจุบัน มีการตรวจสอบพันธุกรรมแล้ว และความจริงดูเหมือนว่า ``พลัมสระบุรี'' ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยการผสมข้ามพันธุ์หรือการกลายพันธุ์ ได้รับการขยายพันธุ์โดยการทาบบนต้นตอลูกพีช จากการตรวจสอบพบว่าลูกพลัม Saburi เป็นพันธุ์ที่มีพันธุกรรมคงที่ และในเดือนตุลาคม 2019 ก็ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของเมืองชิตะ <ลักษณะของพลัมสระบุรี> ดอกของต้นพลัมสระบุรีมีสีชมพูอ่อน ดอกเดี่ยว และมีขนาดเล็ก แต่ต้นพลัมแต่ละต้นมีจำนวนดอกค่อนข้างมาก เมื่อบานครั้งแรก กลีบดอกทั้งห้ากลีบจะแหลมเล็กน้อย ทำให้ดูเหมือนดาวสีชมพูดวงเล็กๆ ลูกพลัมอื่นๆ อีกหลายลูกมีปลายมน เปรียบเทียบกันได้ง่ายๆ ผลไม้หลายชนิดปรากฏในต้นเดือนมิถุนายน เมล็ดมีลักษณะแบนและเล็ก เนื้อจึงค่อนข้างหนา อุเมโบชิมีรสเปรี้ยวเหมือนลูกพลัม จึงเหมาะกับไวน์พลัมและน้ำเชื่อมบ๊วยเป็นอย่างยิ่ง <การใช้ผลพลัม> 1.กิจกรรมกลางแจ้งที่โรงเรียนประถมศึกษาสระบุรี ทุกปี นักเรียนทุกคนในโรงเรียนประถมศึกษาสระบุรีและผู้ปกครองจะตัดลูกบ๊วยจากสวนบ๊วยสระบุรีและขายให้กับคนในท้องถิ่น หนังสือสำหรับเด็กที่โรงเรียนประถมศึกษาซาบุรีมีชื่อว่า ``Ume no Mi Bunko'' และได้นำรายได้ไปซื้อหนังสือแล้ว 13,000 เล่มจนถึงขณะนี้ นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการอนุรักษ์และบริหารจัดการสวนพลัมสระบุรี 2. บ๊วยจิกิริที่น่าตื่นเต้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนนักเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาสระบุรีลดลง จึงทำให้มีต้นพลัมบางส่วนที่ถูกทิ้งไว้ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่ปี 2017 สมาคมการท่องเที่ยวเมืองชิตะโดยได้รับความร่วมมือจากคนในท้องถิ่นได้จัดงาน ``วาคุวากุ อุเมจิกิริ'' ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ต้องเสียเงินซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์เก็บลูกพลัม และผู้คนจำนวนมากก็สนุกสนานไปกับมัน นอกจากนี้ รายได้ยังนำไปใช้ในการอนุรักษ์และบริหารจัดการสวนพลัมสระบุรีอีกด้วย <จำหน่ายผลิตภัณฑ์บ๊วยสระบุรี> บ๊วยซาบุรีที่ผลิตโดยเกษตรกรในท้องถิ่นนำไปแปรรูปและจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ไวน์บ๊วย พลัมดอง และขนมหวานโดยธุรกิจในท้องถิ่น