ไปลิ้มรสอาหารรสเลิศของ Iiokaya Suisan ในโออาไร จังหวัดอิบารากิ ที่แปรรูปปลาด้วยชาเขียวและไดกินโจ

โออาไร (Oarai) เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวยอดฮิตและมีอุตสาหกรรมประมงที่เฟื่องฟู

โออาไรในจังหวัดอิบารากิสามารถขับรถจากโตเกียวไปแค่ 90 นาที ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก เนื่องจากเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ (Oarai Isosaki Shrine) ที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และเป็นฉากในอนิเมะยอดนิยมเรื่อง Girls und Panzer

อันที่จริงโออาไรยังเป็นเมืองประมงที่สามารถรับประทานอาหารทะเลแสนอร่อยและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปได้

น่านน้ำนอกชายฝั่งโออาไรเป็นจุดที่กระแสน้ำเย็นโอยาชิโอะกับกระแสน้ำอุ่นคุโรชิโอะมาบรรจบ จึงมีแพลงก์ตอนซึ่งเป็นอาหารของปลาอุดมสมบูรณ์ ทำให้เป็นแหล่งประมงที่ดี

โออาไรยังมีใช้เป็นแหล่งอนุบาลลูกปลาและลูกหอยต่างๆ อย่างหอยฮามากุริ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างเต็มที่

ด้วยเหตุนี้ ท่าเรือประมงโออาไร (Oarai Fishing Port) ในโออาไรจึงสามารถจับอาหารทะเลหลากหลายชนิด เช่น หอยฮามากุริ ปลาชิราซุ ปลาเท็นเน็นฮิราเมะ ปลาคาเระ ปลาอิวาชิ และปลาซาบะ ได้เสมอ

ใกล้ท่าเรือประมงโออาไรมีตลาดอาหารทะเลสดโออาไรที่สามารถรับประทานปลาสดๆ ได้ แต่ถ้าจะซื้อไปเป็นของฝากก็มีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปยอดนิยมที่ซื้อกลับบ้านได้สบายๆ

บทความนี้ผู้เขียนจะพาไปเยี่ยมชม Iiokaya Suisan ซึ่งผลิตอาหารตากแห้งที่ไม่เหมือนใครโดยใช้ชาเขียวและสาเกข้าวบริสุทธิ์ รวมถึงเรื่องราวความมุ่งมั่นในการแปรรูปและผลิตภัณฑ์แนะนำกัน

Iiokaya Suisan สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปที่ไม่เหมือนใคร และส่งออกไปต่างประเทศด้วย

Iiokaya Suisan บริษัทแปรรูปอาหารทะเลที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1896 เป็นบริษัทเก่าแก่ซึ่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปทั้งแบบปลีกและส่งด้วย

นับตั้งแต่ก่อตั้งกิจการ บริษัทก็ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปต่างๆ เช่น ปลาชิราซุตากแห้ง (ได้รับรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง) ปลาคิงคิฮิรากิ (ได้รับรางวัลจากผู้ว่าการจังหวัดอิบารากิ) และหอยฮามากุริย่าง (ได้รับรางวัลจากนายกสมาคมประมงญี่ปุ่น) เป็นสินค้ายอดฮิต

ในครั้งนี้คุณเซกิเนะ มาซารุ รองประธานบริษัทได้ให้เกียรติมาตอบการสัมภาษณ์

คุณเซกิเนะกล่าวว่า ผลกระทบจากเหุตการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางตะวันออกของญี่ปุ่นและการแพรระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวได้เต็มที่ แต่ปัจจุบันบริษัทได้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปไปยังไต้หวันและสหรัฐอเมริกา ขณะที่กำลังวางรากฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่กำลังจะฟื้นตัว

คุณเซกิเนะกล่าวถึงความมุ่งมั่นใส่ใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปว่า “อย่างการแปรรูปอาหารตากแห้ง เราให้ความสำคัญกับกระบวนการแช่หมักในน้ำเกลือ หากอุณหภูมิน้ำเกลือไม่คงที่ ทั้งน้ำและปลาจะบูดเสียทันที"

คุณเซกิเนะกล่าวอีกว่า การแช่หมักปลาในน้ำเกลือ จะใช้เครื่องจักรช่วยรักษาอุณหภูมิของน้ำให้อยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส และระวัดระวังอย่างดีไม่ให้ปลาและน้ำเกลือเน่าเสีย

หลังจากแช่หมักในน้ำเกลือแล้วก็จะนำมาตากให้แห้งที่สุดในระยะเวลาอันสั้น ต้องใช้เวลาในการตากแห้งประมาณ 1.5 ถึง 2 ชั่วโมง “ด้วยการตากให้แห้งที่สุดและใช้เวลาสั้นๆ อาหารตากแห้งจึงไม่เพียงมีรสชาติที่ดี แต่ยังไม่มีกลิ่นด้วย ทำให้ได้อาหารตากแห้งคุณภาพเยี่ยม” (คุณเซกิเนกล่าว)

ผลิตภัณฑ์ของ Iiokaya Suisan ล้วนอัดแน่นด้วยความใส่ใจในรายละเอียด แต่ครั้งนี้ ผู้เขียนรู้สึกทึ่งเป็นพิเศษกับ Ryokucha Ichibanboshi Series (緑茶一番干しシリーズ) และ Daiginjo Tsukuri Series (大吟醸造りシリーズ) อาหารตากแห้งที่ใช้ชาเขียวและไดกินโจแทนน้ำเกลือ

ครั้งนี้ ผู้เขียนได้ลองชิมอาหารตากแห้งสุดอร่อยซึ่งหาได้ยากในญี่ปุ่น รวมถึงชิราซุตากแห้ง และหอยฮามากุริย่าง ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของ Iiokaya Suisan

ลิ้มลอง Ryokucha Ichibanboshi Series และ Daiginjo Tsukuri Series ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร!

Ryokucha Ichibanboshi Series (ชุดปลาตากแห้งที่ใช้ชาเขียว) และ Daiginjo Tsukuri Series (ชุดปลาตากแห้งที่ใช้ไดกินโจ) เป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของ Iiokaya Suisan ซึ่งเดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของงานอันท้าทายในการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่า

ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา ขิงและคอลลาเจนก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วย แต่ก็ต้องเผชิญกับอุปสรรค์ที่ไม่คาดคิดคือ เมื่อลองนำมาแช่หมัก อาหารตากแห้งที่ได้จะมีสีเหลืองและเก็บรักษาไม่ได้

หลังจากลองผิดลองถูกอยู่ราว 1 ปี ในที่สุดก็ได้น้ำแช่หมักที่มีคาเทชินที่สกัดจากชาเขียวและสาเกข้าวบริสุทธิ์ กล่าวกันว่า เนื่องจากสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระของคาเทชินและการขจัดกลิ่นของสาเกข้าวบริสุทธิ์ ทำให้ได้อาหารตากแห้งที่รับประทานง่ายกว่าอาหารตากแห้งทั่วไป

นี่คือปลาอาจิใน Ryokucha Ichibanboshi Series ที่ผู้เขียนลองกิน

เมื่อย่างบนตะแกรงประมาณ 10 นาที จนผิวเป็นสีน้ำตาล ก็พร้อมรับประทาน

ไขมันที่เห็นด้วยตานี้จะละลายในปาก กินแค่อย่างเดียวเป็นกับแกล้มคู่สาเกได้สบายๆ แต่พอกินแล้วก็ทำให้อยากกินข้าวขึ้นมาด้วย!

ใน Daiginjo Tsukuri Series ผู้เขียนยังได้ลองกินปลาอากาอุโอะ (ปลากระพงแดง) ทั้งตัวแล่แบบฟิเลย์ เนื้อหนา รสชาติเต็มคำ แม้จะหมักในไดกินโจ (สาเกหรือเหล้าญี่ปุ่นประเภทหนึง) แต่แทบจะไม่รู้สึกถึงกลิ่นของแอลกอฮอล์ แต่รสชาติที่เข้มข้นของปลาอากาอุโอะจะฟุ้งกระจายไปทั่วปาก

เนื้อปลาตากแห้งไม่เหม็นคาว รับประทานได้ง่ายๆ แม้แต่คนที่ไม่ชอบปลาก็สามารถลองได้สบายๆ

เมื่อรับประทานอาหารที่บ้าน สิ่งสำคัญคือไม่ควรปรุงมากเกินไปและรับประทานตอนที่ยังอุ่นอยู่ ลองชิมรสในตอนที่ไขมันยังอยู่บนเนื้อปลามากที่สุดและเนื้อยังชุ่มฉ่ำอยู่จะอร่อยที่สุด

Ryokucha Ichibanboshi Series: ราคารวมภาษี 4,980 เยน
Daiginjo Tsukuri Series: ราคารวมภาษี 4,980 เยน

ปลาชิราซุตากแห้ง (Shirasu-boshi) ซึ่งได้รับรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง

Iiokaya Suisan ผลิตปลาชิราซุตากแห้ง 2 ประเภท: Kamaage และ Kachiri (*) หลังจากจัดเรียงบนตะแกรงให้โดนแดดสม่ำเสมอ ตากแดดให้แห้งดีแล้วบรรจุลงถุง

*Kamaage และ Kachiri: Kamaage (คามาอาเกะ) คือการนำปลาชิราซุที่ต้มมาตากให้เย็น ปลาจึงมีเนื้อสัมผัสนุ่มไม่แห้ง ส่วน Kachiri (คาจิริ) เป็นการตากปลาชิราซุให้แห้งมากกว่าทั่วไป ทำให้ปลามีเนื้อสัมผัสที่แน่นกว่า

ร้านจำหน่ายจะขายตามน้ำหนัก ราคารวมภาษี 250 เยน/100 กรัม

ปลาชิราซุตากแห้งซึ่งได้รับรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง มีจุดเด่นที่เนื้อแน่น รับประทานกับข้าวสวยก็อร่อย แต่คุณเซกิเนะแนะนำวิธีรับประทานโดยโรยบนขนมปังปิ้งหรือพิซซ่า

Picture courtesy of Iiokaya Suisan

ปลาชิราซุอาจมีภาพลักษณ์ในสไตล์ญี่ปุ่น แต่เข้ากันได้ดีกับอาหารสไตล์ตะวันตก!

Shirasu-boshi: ที่ร้านจะจำหน่ายตามน้ำหนัก ราคารวมภาษี 250 เยน/100 กรัม ส่วน Tenpiboshi no Shirasu-boshi (ภาพข้างบน) ราคารวมภาษีห่อละ 600 เยน/180 กรัม

หอยฮามากุริย่าง (Yaki Hamaguri) ได้รับรางวัลจากประธานสมาคมประมงแห่งประเทศญี่ปุ่น

Picture courtesy of Iiokaya Suisan

หอยฮามากุริย่างของ Iiokaya Suisan เป็นหอยที่สุกแล้ว ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมตะแกรงหรือย่างไฟโดยตรงเองที่บ้าน

หอยฮามากุริย่างปรุงรสด้วยซอสสูตรลับเฉพาะ มีรสหวานและเค็ม เมื่อนำไปหุงกับข้าวเป็นข้าวอบจะช่วยเพิ่มรสอูมามิเป็นเท่าตัว รสชาติของโชยุที่กำลังพอดีและเนื้อสัมผัสนุ่มของหอย ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารจนอาจทำให้กินมากเกินไป

Yaki Hamaguri (หอยปรุงรส): ราคารวมภาษี 540 เยน/200 กรัม, ราคารวมภาษี 1,300 เยน/500 กรัม

สถานที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Iiokaya Suisan ในเมืองโออาไร

ผลิตภัณฑ์ของ Iiokaya Suisan สามารถหาซื้อได้ที่ Iiokaya Suisan Head Store ร้านจำหน่ายซึ่งอยู่หลัง Oarai Town Hall รวมทั้งร้านอิคิอิคิ (Ikiiki Shop) ในศูนย์ค้าส่งผลิตภัณฑ์จากทะเลและภูเขา และร้านคาคิโคยะ (Kaki Koya) ที่อยู่ห่างจากตลาดค้าส่งโออาไร (Oaraicho Oroshiuri Market) ไปเพียงไม่กี่ก้าว

ที่ Kaki Koya ยังสามารถย่างอาหารทะเลอย่างกุ้งและหอยฮามากุริรับประทานได้เลย ไปลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ที่สามารถรับประทานได้เฉพาะในท้องถิ่น พร้อมทั้งเลือกซื้อของฝากกัน

Iiokaya Suisan ไม่มีร้านค้าออนไลน์ แต่สามารถสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ (029-267-2839) หรือแฟกซ์ (029-266-2588) (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)

สำนักงานขายตรงสาขาอิโอคายะ ซุยซัน

679 Isohamama-cho, Oarai-cho, Higashiibaraki-gun, จังหวัดอิบารากิ 311-...

เพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสและชอปปิงจนเต็มอิ่มที่โออาไรซีไซด์สเตชั่น (Oarai Seaside Station)

เมื่อเดินทางมาที่โออาไร ก็อยากสนุกกับการเที่ยวชมสถานที่และเพลิดเพลินกับการซื้อของฝาก

ในกรณีนี้ขอแนะนำ Oarai Seaside Station เดินเพียง 3 นาทีจากท่าเรือเฟอร์รี่โออาไร (Oarai Ferry Terminal) ก็สามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิงและรับประทานอาหารในขณะที่สัมผัสลมทะเลไปด้วย

Oarai Seaside Station เป็นศูนย์การค้าแบบเปิดที่นำเอาท์เล็ทมอลล์มาปรับปรุงใหม่ ภายในมีร้านค้ากว่า 30 ร้าน

เมื่อเดินเล่นรับลมทะเลจนมาถึงโออาไรไมไวมาร์เก็ต (Oarai Maiwai Market) ร้านนี้มีผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป รวมถึงผักและผลไม้ที่เก็บเกี่ยวได้ในพื้นที่รอบโออาไรเรียงรายมากมาย

นอกจากนี้ยังมี Choppiri Karai Iidako (ちょっぴり辛い いいだこ) ปลาหมึกอีดาโกะรสชาติเผ็ดเล็กน้อยซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นซึ่งได้รับรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัด และปลาเมฮิคาริซึ่งจำหน่ายโดย Iiokaya Suisan ที่ผู้เขียนเผลอใจซื้อมาด้วยความรู้สึก “น่าเอาไปกินเป็นกับแกล้มจัง”

ในโออาไรมีจุดท่องเที่ยวมากมาย อย่าง Kamiiso no Torii สถานที่ซึ่งเหล่าทวยเทพเสด็จลงมา

หลังจากอิ่มท้องแล้ว ลองแวะที่ศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ หนึงในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดในโออาไร

เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 856 มีคามิอิโซะโนะโทริอิ (Kamiiso Torii) เสาโทริอิศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตระหง่ายอยู่บนแนวปะการัง ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิต

ศาลเจ้าหลักที่มีเสาโทริอิสีขาวก็มีเสน่ห์เช่นกัน ว่ากันว่าเนื่องจากเทพประจำศาลเจ้าเป็นเทพแห่งความรัก จึงมอบพรต่างๆ เกี่ยวกับการสมหวังในความรัก พบเจอเนื้อคู่ และความปลอดภัยในครอบครัว ที่นี่ยังใช้เป็นฉากในอนิเมะยอดฮิตเรื่อง Girls und Panzer ซึ่งปัจจุบันมีแฟนอนิเมะมากมายแวะเวียนมาเที่ยวชมที่นี่

นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น อควาเวิลด์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโออาไรประจำจังหวัดอิบารากิ (AQUAWORLD Ibaraki Prefectural Oarai Aquarium) และหาดโออาไรซันบีช (Oarai Sun Beach) ในบริเวณใกล้เคียงกับท่าเรือประมงโออาไร และยังสามารถขับรถราว 20 นาทีไปฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) ได้ด้วย

โออาไรสามารถเดินทางจากโตเกียวมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับหรือจะพักค้างหนึ่งคืนก็สนุก ลองแวะมาเที่ยวในฤดูกาลของอาหารทะเลที่ชื่นชอบ เที่่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวและเพลิดเพลินกับอาหารทะเลอร่อยๆ อย่างหอยฮามากุริ ปลาชิราซุ และปลาอังโกกัน

Written by nagino.an
In cooperation with Iiokaya Suisan
Sponsored by Reconstruction fishery processing industry market recovery promotion center