เที่ยว 1 วันตามรอยละครและภาพยนตร์! ในเขตสุกินามิ โตเกียว (Suginami, Tokyo)
โคเอ็นจิ, อาซากายะ, โอกิคุโบะ และนิชิ-โอกิคุโบะในเขตสุกินามิบนเส้นทางรถไฟสายชูโอ เป็นแหล่งเที่ยวสุดฮิต มีย่านการค้าคึกคัก คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ และทิวทัศน์เขียวขจี จึงมีภาพยนตร์และละครมากมายมาถ่ายทำที่นี่ บทความนี้ สามีภรรยาชาวไต้หวันกับชาวญี่ปุ่นจะพาไปตามรอยสถานที่ถ่ายทำขึ้นชื่อในเขตสุกินามินี้
เขตสุกินามิ (Suginami) เมืองสีเขียว เมืองแห่งนักสร้างสรรค์ กับบรรยากาศสบายๆ!
เขตสุกินามิตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของโตเกียว เป็น 1 ใน 23 เขตที่มีเสน่ห์อันหลากหลาย
แม้ที่นี่อยู่กลางกรุงโตเกียวแต่มีพื้นที่สีเขียวมาก มีบริษัทผลิตอนิเมะกว่า 130 แห่ง โมบิลสูท กันดั้ม (Mobile Suit Gundam) ที่ทุกคนรู้จักกันดีก็เป็นบริษัทแห่งหนึ่งในเขตสุกินามิ และยังถือกำเนิดขึ้นในเมืองแห่งนี้
ยังมีพิพิธภัณฑ์อนิเมชั่น สุกินามิ (Suginami Animation Museum) พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ที่ครอบคลุมตั้งแต่ประวัติและกระบวนการผลิตอนิเมชั่น รวมทั้งยังลองสร้างอนิเมชั่นได้ด้วย สุกินามิจึงเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมากในวงการอนิเมชั่น
ช้างสีชมพูรุ่นที่ 3
เขตสุกินามิมีย่านชุมชนต่างๆ อย่างโอกิคุโบะ (Ogikubo) นิชิ-โอกิคุโบะ (Nishi-Ogikubo) โคเอ็นจิ (Koenji) และอาซากายะ (Asagaya) ที่ผู้คนในท้องถิ่นได้ทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นชุมชนที่มีชีวิตชีวา
ช้างสีชมพูซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนิชิ-โอกิคุโบะนี้ ก็เป็นหนึ่งในความพยายามดังกล่าว ผู้คนในโชเท็นไก (ย่านการค้า) ได้ทำตามข้อเสนอของเจ้าของร้านหัตถกรรมไม้ไผ่ที่อยากให้เด็กๆ ได้สัมผัสความรู้สึกของการแบกมิโคชิ (ศาลเจ้าขนาดเล็กในขบวนแห่ของเทศกาลต่างๆ)
ในเทศกาลประจำปีของศาลเจ้าโอกิคุโบะฮาจิมังกู (Ogikubo Hachiman Shrine) ที่จัดขึ้นทุกเดือนกันยายน จึงให้เด็กๆ อุ้มช้างสีชมพูร่วมในขบวนแห่เดินทางไปรอบๆ นิชิ-โอกิคุโบะ
Photo by pixta
"ย่านการค้าจูนโจหรือจูนโจโชเท็นไก (Junjo Shotengai)" ในโคเอ็นจิ เดิมชื่อ "ย่านการค้าโคเอ็นจิกินซ่าหรือโคเอ็นจิกินซ่าโชเท็นไก (Koenji Ginza Junjo Shotengai)"
แต่ผู้คนในท้องถิ่นได้เปลี่ยนชื่อที่นี่ตามนวนิยายเรื่อง "โคเอ็นจิจูนโจโชเท็นไก (Koenji Junjo Shotengai)" ที่เล่าถึงเรื่องราวในโคเอ็นจิ ประพันธ์โดยโชอิจิ เนจิเมะ นวนิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลนาโอกิ (Naoki Prize) ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติในวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น
ถนนนาคาซุกิ (Nakasugi-Dori Ave) เดินเล่นยามเช้าตามรอยเส้นทางไปโรงเรียนของนางเอกกัน!
Photo by Sean
เขตสุกินามิมีสถานที่ใช้ถ่ายทำละครและภาพยนตร์หลายแห่ง และใช้เป็นฉากในอนิเมะต่างๆ ด้วย
อย่างถนนนาคาซุกิใกล้สถานีอาซากายะ (Asagaya) มีทิวทัศน์แนวต้นเคยาคิ (Zelkova) ที่งดงามตลอดเส้นทาง 1.6 กิโลเมตร ครอบคลุมเขตนากาโนะ (Nakano) และเขตสุกินามิ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อาสาสมัครได้รวบรวมต้นกล้านำมาปลูกที่นี่ และดูแลอย่างใส่ใจมานานกว่า 60 ปี
ต้นไม้เคยาคิเหล่านี้ให้ร่มเงาที่เย็นสบายในฤดูร้อน และมอบทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่สุดแสนโรแมนติกในฤดูใบไม้ร่วงแก่ผู้คนในท้องถิ่น
Photo by Sean
ในอนิเมะเรื่อง "เจ้าแมวยอดนักสืบ (The Cat Returns)" ของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) มีฉากที่ "ฮารุ" นางเอกได้ช่วยชีวิต "ลูน" เจ้าชายแห่งอาณาจักรแมวซึ่งเกือบถูกรถบรรทุกทับ ว่ากันว่า ถนนนาคาซุกิก็คือต้นแบบของถนนสายนี้ที่ฮารุใช้เดินทางไปโรงเรียน
ดอกสึสึจิ (ดอกอาซาเลีย) ที่เห็นในฉากหลังของลูนในอนิเมะ จะบานสะพรั่งในปลายฤดูใบไม้ผลิ
ยงโจเมะคาเฟ (Yonchome Café) คาเฟ่หัวมุมถนน สถานที่รังสรรค์บทเพลงชื่อดังและผลงานชิ้นเอกมากมาย
Photo by Sean
Yonchome Cafe เป็นสถานที่ถ่ายทำละครและภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงเช่นกัน ตั้งอยู่ตรงบล็อกที่ 4 โคเอ็นจิใต้ (Koenji Minami 4-chome) บนชั้น 2 ของอาคารหน้าสถานีโคเอ็นจิ (Koenji) ที่มองเห็นทิวทัศน์รถไฟสัญจรไปมาจากภายในร้านได้
คาเฟ่นี้เปิดกิจการเมื่อราว 35 ปีก่อน ในตอนนั้น คาเฟ่ส่วนใหญ่ในโตเกียวเป็นคาเฟ่ที่มีบรรยากาศหรูหราโอ่อ่า
แต่เจ้าของร้านใฝ่ฝันอยากมีคาเฟ่สไตล์อเมริกัน จึงนำเข้าของตกแต่งภายในที่งดงามมีเอกลักษณ์ซึ่งคัดสรรอย่างดีจากต่างประเทศ เช่น แก้วดีไซน์และโคมไฟ และเปิดร้าน Yonchome Cafe ที่ตกแต่งภายในเหมือนคาเฟ่ในนิวยอร์ก
Photo by Sean
Yonchome Cafe เป็นคาเฟ่ที่ผู้คนในท้องถิ่นและศิลปินต่างชื่นชอบ
The Fourth Avenue Café ของวงลาร์คอองเชียล (L'Arc~en~Ciel) ซึ่งใช้เป็นเพลงปิดอนิเมะยอดฮิตเรื่องรูโรนิ เคนชิน ซามูไรพเนจร (Rurouni Kenshin) ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากคาเฟ่นี้ ว่ากันว่าไฮด์ (Hyde) นักร้องนำได้แต่งเพลงนี้ในขณะที่นึกถึง Yonchome Cafe
Yonchome Cafe ก็ปรากฏในฉากของภาพยนตร์เรื่อง "ทำไงดีสามีเป็นโรคซึมเศร้า (My SO Has Got Depression)" ที่นำแสดงโดยมิยาซากิ อาโออิ และซาไก มาซาโตะด้วย เป็นฉากที่ฮารุ (มิยาซากิ อาโออิ) นางเอกมอบบัตรเชิญที่เขียนด้วยลายมือให้เพื่อน (โยชิดะ โย) ที่คาเฟ่แห่งนี้
เหล่าแฟนๆ มากมายได้ตามรอยภาพยนตร์มาที่นี่ และอยากนั่งเก้าอี้ที่มิยาซากิ อาโออิเคยนั่งนี้!
Photo by Sean
เมนูแนะนำของ Yonchome Cafe คือครีมโซดาสีเขียวมรกตบุษราคัม (Emerald Topaz Cream Soda) สไตล์ประเทศเขตร้อน และโรลเค้กต้นตำรับของร้าน (Original Roll Cake)
โรลเค้กหอมกลิ่นไข่โรยกะทิผงด้านบนช่วยเพิ่มความสดชื่น เข้ากับเครื่องดื่มรสหวานอมเปรี้ยว ทำให้เพลิดเพลินกับช่วงจิบน้ำชายามบ่ายที่ยอดเยี่ยม
ร้านจูกะโซบะ ฮารุกิยะ สาขาโอกิคุโบะ (Harukiya - Ogikubo Branch) ราเม็งรสชาติดั้งเดิมของร้านเก่าแก่
Photo by Sean
Harukiya ร้านจูกะโซบะ (คำเรียกบะหมี่ของจีนในสมัยก่อน ก่อนจะเรียกกันว่าราเม็ง) สาขาโอกิคุโบะเปิดกิจการในปี 1949 ปัจจุบันบริหารงานโดยเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 แล้ว
ตั้งแต่เปิดกิจการมา พนักงานทุกคนจะชิมราเม็งก่อนเปิดร้านเพื่อตรวจสอบรสชาติทุกวัน ว่ากันว่า ทางร้านจะปรับความหนาบางของเส้นและรสชาติของน้ำซุปเล็กน้อยตามอุณหภูมิและความชื้นในแต่ละวัน
ความอร่อยที่มาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของทางร้าน คือเหตุผลที่ Harukiya มีลูกค้ามากมายมาเข้าคิวเพื่อลิ้มลองความอร่อยเสมอ
Photo by Sean
ละครเรื่อง "โคอิซึมิซังกับราเมนชามโปรด ภาค 2 (Ramen Daisuki Koizumi-san Nidaime)" ฉากที่โคอิซึมิ (ซากุระดะ ฮิโยริ) นักเรียนมัธยมปลาย ตัวเอกของเรื่องมาที่ร้าน Harukiya สาขาโอกิคุโบะกับเพื่อนๆ นักกินราเม็ง และกินราเม็งกันอย่างเอร็ดอร่อยนั้นก็น่าประทับใจมาก
ลูกค้าบางรายเดินทางมาจากพื้นที่ห่างไกลเพื่อมาตามรอยละครและรายการอาหารชื่อดังที่ได้ดูทางโทรทัศน์
Photo by Sean
เมนูเด็ดของร้านคือ จูกะโซบะ (Chuka-Soba) ราคารวมภาษี 850 เยน และเมนูยอดนิยมคือบะหมี่เกี๊ยวน้ำ (Wantan-Men) ราคารวมภาษี 1,250 เยน
ซุปเข้มข้นแสนอร่อยทำจากปลาซาร์ดีนแห้ง ผัก กระดูกไก่ และกระดูกหมู ปรุงรสด้วยโชยุ
โชอันบุงโกะ (Shou-an Bunko) ดื่มด่ำกับกาแฟหอมอร่อยในบรรยากาศผ่อนคลาย
Photo by Sean
Sho-an Bunko คาเฟ่ในบ้านเก่าแก่อายุ 80 ปี ตั้งอยู่ที่นิชิ-โอกิคุโบะ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดต้องไปให้ได้ เดิมเป็นบ้านของคู่สามีภรรยานักดนตรี แต่ด้วยพรหมลิขิตเจ้าของปัจจุบันจึงได้บ้านนี้มาและเปิดเป็นคาเฟ่
เจ้าของร้านถือว่าบ้านเก่าแก่นี้เป็นทรัพย์สินของชุมชนด้วยจึงดูแลรักษาอย่างดี เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในร้าน ก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับบ้านเดิมของตัวเอง
Sho-an Bunko ก็ปรากฏในฉากของละครเรื่อง "ช่วยรักฉันที่ไม่เอาไหนที (Dame na Watashi ni Koishite Kudasai หรือ Please Love Me)" ที่นำแสดงโดยฟุคุดะ เคียวโกะ และดีน ฟุจิโอกะ ด้านหน้าทางเข้าของคาเฟ่นี้ใช้เป็นฉากด้านหน้าทางเข้า Cafe Himawari ร้านที่พระเอกเป็นเจ้าของ
Photo by Sean
ที่ชั้น 1 ของคาเฟ่ยังจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดด้วย มีทั้งเครื่องประดับ ของใช้ประจำวัน ภาชนะบนโต๊ะอาหาร ใบชา และอื่นๆ ซึ่งล้วนสื่อถึงความรู้สึกและความใส่ใจของเจ้าของร้าน
Photo by Sean
ชุดเมนูอาหารกลางวัน (ราคาไม่รวมภาษี 1,500 เยน) ซึ่งใช้วัตถุดิบที่ส่งตรงจากเกษตรกรคู่สัญญาก็เป็นเมนูยอดฮิตเช่นกัน
อาหารจานหลักและอาหารจานรอง (กับข้าว) ของทางร้านจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ลูกค้าจึงสามารถดื่มด่ำกับการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลด้วยสัมผัสทางตาและลิ้น อีกทั้งยังมั่นใจได้ว่าทุกเมนูได้รับการรังสรรค์ให้มีสมดุลทางโภชนาการครบถ้วน
อย่าลืมลองชิม "โชอันบุนโกะชีสเค้ก (Sho-an Bunko Cheesecake)" ราคาไม่รวมภาษี 700 เยน เค้กเนื้อนุ่มรสชาติเข้มข้น มีเกลือทะเลเป็นส่วนผสมลับช่วยดึงรสชาติของเค้กให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
เอล ซูร์ (El Sur) ดอกไม้กับการดำเนินชีวิต
Photo by Sean
El Sur ที่ทุกคนต้องหยุดยืนมองโดยไม่ตั้งใจ ภายนอกดูเหมือนกระท่อมในฝันที่หลุดมาจากเทพนิยายนี้ เป็นร้านดอกไม้ที่เปิดมานานกว่า 30 ปี จำหน่ายดอกไม้และต้นไม้ ทั้งสีขาว เขียว และสีอ่อนที่ดูงามสง่า
Photo by Sean
เกณฑ์เลือกดอกไม้ของเจ้าของร้านนั้น ราคาและความนิยมไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่จะดูว่าเข้ากับทัศนคติหรือมุมมองที่มีต่อโลกของตัวเองหรือไม่
ในร้านไม่มีป้ายราคาหรือการ์ดชื่อดอกไม้เขียนไว้ นี่เป็นความใส่ใจของร้านที่อยากให้ลูกค้าเลือกดอกไม้ที่ชอบได้ตามความรู้สึก หรือจะขอคำแนะนำจากพนักงานก็ได้
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า
ชายคนหนึ่งมาที่ El Sur เพื่อซื้อช่อดอกไม้ไปขอแฟนสาวแต่งงาน หลังจากที่เธอตกลง ชายคนนั้นก็มาบอกข่าวดีกับภรรยาของเจ้าร้าน บางทีอาจมีพลังวิเศษที่ทำให้ผู้คนมีความสุขซ่อนอยู่ในดอกไม้ของ El Sur ก็ได้นะ
Photo by Sean
El Sur ปรากฏในฉากละครโทรทัศน์ของปีนี้ (2021) เรื่อง "โอมาเมดะ ทาวาโกะและอดีตสามีทั้งสาม (Ohmameda Towako to San-nin no Moto-otto)" ซึ่งเป็นที่กล่าวขวัญและได้รับความนิยมจากผู้ชมมาก
ฉากที่ตัวละครเอกทาวาโกะ (มัตสึ ทาคาโกะ) เลือกช่อดอกไม้ประดับแท่นบูชางานศพของเพื่อนสนิทนั้น ถ่ายทำที่ร้านดอกไม้แห่งนี้
ในวันที่ผู้เขียนมาเก็บข้อมูล คุณอายะและคุณไอกะ คู่สามีภรรยาชาวไต้หวันกับชาวญี่ปุ่นได้เลือกดอกไม้มาทำช่อดอกไม้ตามคำแนะนำของพนักงาน ทั้งคู่ตื่นเต้นดีใจมากที่ได้ช่อดอกไม้สวยถูกใจมาก!
เขตสุกินามิที่ไม่ว่าจะมาเที่ยวกี่ครั้งก็อยากมาอีก
เขตสุกินามิเป็นสถานที่ซึ่งสามารถมาเดินเที่ยวเล่นสบายๆ ตั้งแต่เช้า เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สดชื่น และแวะร้านค้าที่มีเอกลักษณ์ โดยขึ้นรถไฟ JR Chuo Line ไปเที่ยวโคเอ็นจิ, อาซากายะ, โอกิคุโบะ และนิชิ-โอกิคุ ได้ ถ้าไปที่สถานีโคเอ็นจิ สถานีอาซากายะ หรือสถานีนิชิ-โอกิคุ ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้ขึ้นรถไฟ JR สายชูโอ-โซบุ (JR Chuo-Sobu Line) ซึ่งจอดทุกสถานี
นอกจากสถานที่ที่กล่าวมาข้างต้น ยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมายที่แฟนๆ ละคร ภาพยนตร์ หรืออนิเมะต้องไปตามรอยกัน
นั่งรถไฟครั้งต่อไป ลองไปเดินเที่ยวตามรอยละครและภาพยนตร์ในเขตสุกินามิกันดูนะ!
อนึ่ง วันและเวลาทำการของร้านที่แนะนำในบทความนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ทางการของแต่ละร้านก่อนไปด้วยนะ
Sponsored by Chuosen Aruaru Project / Experience SUGINAMI TOKYO
Written by miho
Main image courtesy of Sean
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง