เช่าเหมาพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน! ดินเนอร์เมนูอาหารเพื่อความยั่งยืน ข้างหน้าภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” ของเลโอนาร์โด ดา วินชี

ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะได้ดินเนอร์ พร้อมดื่มด่ำกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” จำกัดเพียง 1 คืนเท่านั้น

ภาพนี้เป็นผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ (Otsuka Museum of Art) ตั้งอยู่ในเมืองนารุโตะ (Naruto) จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดง “แผ่นเซรามิกภาพวาดชิ้นเอก” ซึ่งเป็นการจำลองภาพวาดชิ้นเอกระดับโลกโดยใช้เทคนิคโทบัง (*)

มีการจัดแสดงภาพวาดชิ้นเอกของตะวันตกมากกว่า 1,000 ชิ้น ตั้งแต่จิตรกรรมฝาผนังโบราณไปจนถึงภาพวาดร่วมสมัย ที่นี่จึงถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถดื่มด่ำกับภาพวาดชิ้นเอกจากทั่วทุกมุมโลกที่ญี่ปุ่นได้ในคราวเดียว

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยก็ว่า ที่จะได้มีโอกาสดินเนอร์สุดพิเศษ ด้านหน้าภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย (The Last Supper)” ภาพอันล้ำค่าของเลโอนาร์โด ดา วินชี ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ อีกทั้งนี่ยังเป็นกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สามารถเช่าเหมาทั้งอาคารและเพลิดเพลินกับคอร์สดินเนอร์ที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมากมายมารังสรรค์ความอร่อยให้ลิ้มลองกัน

สามารถใช้เวลาหรูหราในบรรยากาศสุดพิเศษของพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน พร้อมเสพงานศิลป์ระดับโลกได้อย่างเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ชื่นชอบภาพวาดและงานศิลปะ รวมถึงผู้ที่ต้องการสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในค่ำคืนสุดพิเศษด้วย

จากนี้ ขอแนะนำรายละเอียดของกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ รวมถึงไฮไลต์ให้ได้ทราบกัน

* โทบัง…เทคนิคการจำลองภาพวาดหรืองานศิลปะในรูปแบบของแผ่นเซรามิก

กำหนดการของกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์ ที่ได้ดื่มด่ำไปกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” ผลงานชิ้นเอกระดับโลก

ภาพนี้เป็นผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ

กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์จะจัดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม 2024 (วันศุกร์) และ 31 มกราคม 2025 (วันศุกร์) เพียง 2 วันเท่านั้น

ทั้ง 2 วัน เป็นการเช่าเหมาพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะในตอนกลางคืน ดังนั้นกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์จะเริ่มในเวลา 17:45 น. จากนี้ไปดูกำหนดการและรายละเอียดของกิจกรรมจริงกัน

1. ทัวร์ชมภายในพิพิธภัณฑ์

กิจกรรมจะเริ่มในเวลา 17:45 น. ด้วยการทัวร์ชมพิพิธภัณฑ์ที่เช่าเหมากัน

ภัณฑารักษ์ที่เชี่ยวชาญเรื่องภาพวาดของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะเป็นอย่างดีจะเป็นผู้พาชม มีบริการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี จีน และไทยด้วยนะ ดังนั้นแม้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่นก็สามารถสนุกเพลิดเพลินกับเรื่องราวเบื้องลึกของงานศิลป์ได้อย่างสบายใจ

ภัณฑารักษ์จะพาชมพิพิธภัณฑ์เป็นเวลาราว 1 ชั่วโมง และบรรยายเรื่องราวต่างๆ ให้โดยละเอียด ทั้งจุดที่น่าสนใจของผลงาน ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์ และแนวคิดของผู้สร้างพิพิธภัณฑ์ ทำให้ได้รู้เรื่องราวเบื้องลึกและซาบซึ้งถึงเสน่ห์อันล้ำค่าของผลงานต่างๆ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับการชมคนเดียว และดื่มด่ำกับโลกแห่งศิลปะได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เมื่อได้รู้ถึงความล้ำค่าของผลงานต่างๆ และดื่มด่ำกันเต็มที่แล้ว ก็ถึงช่วงสำคัญที่รอคอยกัน ภัณฑารักษ์จะพาไปยังบริเวณจัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” เพื่อเข้าสู่ช่วงที่สำคัญยิ่งของกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์นี้

2. สัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์ในบริเวณจัดแสดงภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย”

Picture courtesy of Otsuka Museum of Art

ภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” จัดแสดงอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องนิทรรศการเรอเนซองส์ (Renaissance Gallery) บนชั้น B2

ต้นฉบับภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” ในอิตาลีเริ่มบูรณะตั้งแต่ปี 1979 โดยใช้เวลานานถึง 20 ปี และจัดแสดงผลงานที่ได้รับการบูรณะแล้ว ดังนั้น ภาพที่เห็นในปัจจุบันจึงเป็นรูปลักษณ์หลังการบูรณะเท่านั้น

แต่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะได้จำลองภาพนี้ทั้งก่อนและหลังการบูรณะในขนาดเท่าของจริงโดยใช้เทคนิคโทบังและจัดแสดงให้ชม บนผนังทั้งสองข้างของห้องนิทรรศการได้จัดแสดงแผ่นเซรามิกที่จำลองภาพก่อนและหลังการบูรณะให้ได้ชมเปรียบเทียบถึงความแตกต่างอย่างละเอียดกัน

ที่สำคัญคือการได้เพลิดเพลินกับเมนูอาหารเพื่อความยั่งยืน สไตล์รักษ์โลก ซึ่งใช้วัตถุต่างๆ ที่เน้นการผลิตในท้องถิ่นเพื่อการบริโภคในท้องถิ่นของจังหวัดโทคุชิมะ ด้านหน้าภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” นี้

ในระหว่างรับประทานอาหาร ผู้ผลิตในท้องถิ่นจะมาอธิบายเมนูและผลงานแต่ละจานที่ได้รังสรรค์ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มอรรถรสแสนอร่อยให้รสชาติของท้องถิ่นให้ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ในสถานที่จัดดินเนอร์ยังมีงานหัตถกรรมดั้งเดิมที่ชาวโทคุชิมะภาคภูมิใจยิ่งประดับไว้ ช่วยเพิ่มระดับความสุนทรีย์ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก ผลิตภัณฑ์ย้อมครามที่ใช้เทคนิคดั้งเดิมของจังหวัดโทคุชิมะ และเครื่องถ้วยชามโอทานิยากิซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 230 ปี จะช่วยเติมเต็มค่ำคืนแสนพิเศษนี้ ไม่เฉพาะแค่ช่วยเพิ่มรสชาติทางศิลปะให้กับการรับประทานอาหาร แต่ยังช่วยให้ได้สัมผัสงานหัตถกรรมดั้งเดิมที่ค้ำจุนชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นโทคุชิมะแห่งนี้ด้วย

กิจกรรมที่ได้ชื่นชมภาพวาดชิ้นเอกระดับโลก ลิ้มรสอาหารท้องถิ่นตามฤดูกาล และสัมผัสงานหัตถกรรมดั้งเดิมนี้ ถือเป็นประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 เลยทีเดียว มาเพลิดเพลินกับค่ำคืนสุดพิเศษที่ได้ด่ำดิ่งสู่ดินแดนที่อยู่เหนือกาลเวลากัน

3. เมนูดินเนอร์

ด้านล่างคือเมนูดินเนอร์ที่จัดเสิร์ฟในกิจกรรมนี้ ในขณะดินเนอร์ ผู้ผลิตวัตถุดิบในท้องถิ่นจะมาบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังเมนูแต่ละจานให้ฟังด้วย

ดินเนอร์ อาหารค่ำมื้อสุดท้าย

คาร์ปาชโชปลาไทนารุโตะ

ซุปครีมข้นมันเทศพันธุ์นารุโตะคินโทกิ

ปลาไทนารุโตะย่างเตาอบ, สเต็กเนื้อสันนอกอาวะคุโรเกะวากิว

ไวน์แดง (Mommessin Merlot) หรือน้ำองุ่น

ทีรามิสุมาสคาร์โปเน่ชีส

ขนมปัง, กาแฟหรือชา

ไฮไลต์ของกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ดินเนอร์สุดพิเศษ

การเช่าเหมาพิพิธภัณฑ์ และดินเนอร์ในบรรยากาศสุดพิเศษนี้ เป็นกิจกรรมที่หาได้ยากและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แถมยังจัดที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ การผสานรสชาติของวัตถุดิบในท้องถิ่น งานหัตถกรรมดั้งเดิมของโทคุชิมะ และภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” อันล้ำค่าเข้าด้วยกันนี้ ถือเป็นการผสานความร่วมมือเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งสัมผัสได้เฉพาะที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

การดินเนอร์ที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของท้องถิ่น ทำให้ใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมดั้งเดิมอันน่าภาคภูมิใจของเมืองนารุโตะได้เป็นอย่างยิ่ง

ผลิตภัณฑ์ย้อมครามซึ่งเป็นงานหัตถกรรมดั้งเดิมของเมืองนารุโตะคือตัวอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ ยังใช้ภาชนะเครื่องถ้วยชามโอทานิยากิซึ่งพัฒนาจากไอกาเมะ (ไหหรือโถเก็บสีย้อมคราม) ที่ใช้ใส่น้ำครามในกระบวนการย้อมคราม ช่วยสร้างสีสันให้ได้เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมของนารุโตะไปพร้อมกับมื้ออาหารแสนอร่อย

ในช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ ผู้สร้างสรรค์งานหัตกรรมต่างๆ จะมาพูดคุยบอกเล่าเสน่ห์ของงานหัตถกรรมดั้งเดิมที่สืบทอดมาถึงทุกวันนี้ รวมถึงเบื้องหลังการพัฒนาต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่าอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ยังสามารถเพลิดเพลินการจับคู่ความอร่อยกับ 天 HEAVEN (天 ออกเสียงว่า เท็น แปลว่า สวรรค์) สาเกท้องถิ่นของจังหวัดโทคุชิมะ ซึ่งผลิตโดยโรงผลิตสาเกฮงเกะมัตสึอุระ (Honke Matsuura Shuzo) นอกจากนี้ยังมีสาเกพิเศษที่ไม่มีจำหน่ายในท้องตลาดให้บริการ และสัมผัสประสบการณ์สุดหรูหราที่ลิ้มลองได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น

Picture courtesy of Honke Matsuura Shuzo

ในดินเนอร์จะจัดเสิร์ฟสาเกที่ผลิตในจังหวัดโทคุชิมะซึ่งได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน ให้เข้ากับรสชาติและกลิ่นอายของอาหาร

นอกจากนี้ เมื่อกิจกรรมเสร็จสิ้น ยังสามารถนำภาชนะโอทานิยากิบนโต๊ะอาหารกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกได้ด้วย ดังนั้นถึงกลับบ้านไป ก็ยังสามารถสัมผัสถึงความรู้สึกอิ่มเอมกับช่วงเวลาพิเศษนี้ได้

ภาพวาดชิ้นเอกจากทั่วทุกมุมโลกมารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว! เสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะซึ่งจัดกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์นี้ ไม่เพียงแต่เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะซึ่งจำลองภาพวาดชิ้นเอกโดยใช้เทคนิคโทบังเท่านั้น แต่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะซึ่งสามารถเสพงานศิลป์ที่หายากในโลกได้ด้วย

นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นการจำลองภาพวาดบนแผ่นเซรามิกขนาดใหญ่ด้วยสีและขนาดที่เหมือนกับภาพวาดต้นฉบับ โดยใช้เทคนิคพิเศษ เมื่อเทียบกับผนังดิน กระดาษ หรือผ้าใบ สีของภาพบนแผ่นเซรามิกจะไม่เสื่อมไปตามกาลเวลา ดังนั้นแม้จะผ่านไปถึง 2,000 ปี สีและรูปลักษณ์จะยังคงอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ ยังจัดแสดงภาพ “บัวน้ำ (Water Lilies)” ของโคลด์ โมเนต์ (Claude Monet) กลางแจ้ง โดยใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะพิเศษของ “แผ่นเซรามิกภาพวาดชิ้นเอก” ที่ไม่ซีดจางลง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ต้องไม่พลาดชมเช่นกัน

ในกิจกรรมจองเหมาพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนนี้ ยังจะได้ชมภาพ “บัวน้ำ” ของโคลด์ โมเนต์นี้ในแบบประดับไฟไลต์อัพ ซึ่งไม่สามารถชมได้ในช่วงกลางวันด้วย

ภาพนี้เป็นผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ

อย่าพลาดประสบการณ์สุดล้ำค่าในการชมภาพ "ดอกทานตะวัน" ในแจกันทั้ง 7 ภาพของวินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh) ซึ่งต้นฉบับนั้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกในที่เดียว เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการจำลองภาพวาดโดยใช้เทคนิคโทบังนี้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีเอกสิทธิพิเศษเฉพาะที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือความสามารถถ่ายรูปโดยมีภาพวาดชิ้นเอกละดับโลกเป็นฉากหลังด้วย สามารถดื่มด่ำกับช่วงเวลาสุดพิเศษที่สัมผัสได้เฉพาะที่นี่ที่เดียวเช่นกัน

ภาพนี้เป็นผลงานที่จัดแสดงในนิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ

นิทรรศการสามมิติซึ่งจำลองจิตรกรรมฝาผนังรวมทั้งบรรยากาศแวดล้อมทั้งหมดของซากปรักหักพังและโบสถ์จากสถานที่จริง เป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

สามารถสัมผัสประสบการณ์เหมือนจริงราวกับได้เดินทางรอบโลก เช่น โบสถ์สโครเวนยี (Scrovegni Chapel) ในอิตาลี (Italy) และโบสถ์ซิสติน (Sistine Chapel) ในนครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City)

จองผ่านเว็บไซต์ทางการได้

กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่สามารถดื่มด่ำกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” ผลงานชิ้นเอกระดับโลกนี้ จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2024 และวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2025 เพียง 2 วันเท่านั้น

ทั้งสองวันรับจำกัดเพียงวันละ 20 คนเท่านั้น สำหรับการบรรยายโดยภัณฑารักษ์และผู้ผลิตในท้องถิ่นนั้น มีบริการล่ามในภาษาอังกฤษ เกาหลี จีน และไทยตลอดทั้งงาน ดังนั้นแม้ไม่เก่งภาษาญี่ปุ่นก็สบายใจได้

ค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจกรรมคนละ 150,000 เยน รวมดินเนอร์และค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์แล้ว กิจกรรมดินเนอร์สุดพิเศษด้านหน้าภาพวาดชิ้นเอกระดับโลกแบบเช่าเหมาพิพิธภัณฑ์ในช่วงกลางคืนนี้ จำกัดผู้เข้าร่วมเพียง 20 คนเท่านั้น นี่คือประสบการณ์อันล้ำค่าที่อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตก็ได้นะ

หลังกิจกรรมเสร็จสิ้น ยังมีบริการเสริมพักค้างคืนที่โรงแรมให้เลือกกันด้วย ตรวจสอบห้องว่างและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ ลองตรวจสอบก่อนได้เลยนะ

สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเมืองนารุโตะ

สัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะได้เพลิดเพลินกับดินเนอร์และดื่มด่ำกับงานศิลป์ในพื้นที่จัดแสดงแผ่นเซรามิกภาพจิตรกรรมฝาผนัง “อาหารค่ำมื้อสุดท้าย” ทั้งในแบบก่อนและหลังการบูรณะ วันที่ 13 ธันวาคม 2024 และ 31 มกราคม 2025 นี้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอสึกะ ผู้ผลิตวัตถุดิบท้องถิ่น และผู้ผลิตสาเกท้องถิ่นจะผนึกกำลังร่วมกัน เพื่อจัดกิจกรรมผสานความร่วมมือพิเศษระหว่างเมืองนารุโตะและภาพวาดชิ้นเอกระดับโลกขึ้น

การได้เพลิดเพลินกับคอร์สอาหารสุดพิเศษที่รังสรรค์ขึ้นอย่างยอดเยี่ยม สัมผัสการให้บริการสไตล์ญี่ปุ่นที่แสนอบอุ่น และคิดใคร่ครวญถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและเรื่องราวเบื้องหลังภาพวาดชิ้นเอกชิ้นนี้ จะกลายเป็นความทรงจำอันล้ำค่าที่จะคงอยู่ตลอดไป

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอทสึกะ

772-0053 65-1 เมืองนารุโตะ, นารุโตะ, Naruto-shi, Tokushima (ภายในสวน น...

ด้วยพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรประมาณ 30,000 ตารางเมตร และเส้นทางชมประมาณ 4 กิโลเมตร พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่...