เต็มอิ่มกินเที่ยว ชมวิวทะเลสุดสวยใกล้โตเกียวด้วยฟรีพาส "Hayama Joshitabi Kippu"

ทะเลญี่ปุ่นก็สวยไม่แพ้ใครเหมือนกันนะ

เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น หลายๆ คนคงไม่เคยนึกถึง "ทะเล" สักเท่าไหร่ เพราะไปนึกถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นหรือช้อปปิ้งสินค้าญี่ปุ่นเสียมากกว่า

แต่วันนี้เราขอแหวกแนวพาไปเที่ยว "ทะเล" ทางใต้ของโตเกียวชนิดไปเช้าเย็นกลับได้ แถมยังมีตั๋วฟรีพาสเดินทางสะดวกคุ้มค่าอีกด้วย รับรองว่าเพื่อนๆ จะได้สนุกพร้อมกับชมวิวทะเลสวยๆ ของญี่ปุ่น ที่สำคัญคือ ... ถ้ามาในฤดูร้อนก็เล่นน้ำทะเลได้สนุก แต่ถ้ามาฤดูอื่นก็เดินชมวิวสวยๆ ได้ชิลๆ ไม่ร้อนอีกด้วย! นี่ล่ะข้อดีของทะเลญี่ปุ่น!

10:00 เริ่มต้นการเดินทางที่สถานีชินางาวะ (Shinagawa) สายเคคิว (Keikyu)

วันนี้เริ่มเดินทางกันในตัวเมืองโตเกียวที่สถานีชินางาวะเลย ตรงนี้มีสถานีของ JR ด้วย อย่าสับสนนะ เราจะไปที่สถานีของสาย "เคคิว" กันค่ะ ซึ่งสถานีของสองสายอยู่ติดกัน มีทางเชื่อมต่อกันเลย จะเดินมาจากทางไหนก็ได้
หน้าทางเข้าของสถานีสายเคคิวจะมีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว (TIC - Keikyu Tourist Information Center) อยู่ เราจะแวะไปซื้อตั๋วสุดประหยัดของวันนี้กันก่อนค่ะ

ตั๋วเที่ยวแบบสาวๆ (ที่ไม่สาวก็ซื้อได้) "ฮายามะ โจะชิทาบิ คิปปุ (Hayama Joshitabi Kippu)"

ตั๋วที่จะใช้กันวันนี้มีชื่อน่ารักว่าตั๋วทริปฮายามะสำหรับสาวๆ "ฮายามะ โจะชิทาบิ คิปปุ (Hayama Joshitabi Kippu)" หรือบางทีก็เรียกกันว่า Hayama Excursion Ticket
ถึงจะชื่อว่า "สำหรับสาวๆ" แต่ความจริงแล้วผู้ชายก็ซื้อใช้ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
ความพิเศษสุดคุ้มของตั๋วนี้คือรวมค่ารถไฟไปกลับของสายเคคิวจากชินางาวะไปถึงสถานีชินซุชิ (Shinzushi) และนั่งรถบัสจากสถานีชินซุชิเที่ยวบริเวณริมทะเลที่ชื่อว่า "ฮายามะ" ได้ไม่อั้น ... เท่านั้นยังไม่พอ! เพราะยังรวมอาหารหนึ่งมื้อและของฝากหนึ่งหรือกิจกรรมอย่างให้เลือกได้จากร้านที่ร่วมรายการเกือบ 60 ร้าน
ทั้งหมดนี้ในราคาแค่ 3,500 เยนเท่านั้น!! (เด็กราคา 2,900 เยน และหากใช้บริการจากสถานีอื่นที่ไม่ใช่ชินางาวะจะมีราคาแตกต่างกันเล็กน้อย)
สำหรับแผนที่ รายละเอียดราคา และรายชื่อร้านที่ร่วมรายการทั้งหมด ตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ทางการ(ภาษาญี่ปุ่น)ได้เลยค่ะ 

เมื่อเข้าไปถึง TIC ก็แค่บอกว่าจะซื้อตั๋วนี้ ชำระเงิน เราก็จะได้ตั๋วมาทั้งหมด 3 ใบด้วยกัน
ถึงจะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ให้สังเกตด้านขวามือจะมีตัวอักษร A B C อยู่ จำง่ายๆ ว่า A คือตั๋วรถ B คือตั๋วอาหาร กับ C คือตั๋วกิจกรรมและของฝากค่ะ

10:21 ขึ้นรถไฟไปทะเลกันเลย!

เราใช้ตั๋ว A สอดเข้าเครื่องตรวจตั๋วแล้วเข้าสถานีไปรอรถไฟกัน ยืนรอตามสีเขียวหรือสีแดงที่พื้นเพื่อรอรถแบบด่วน เป้าหมายของเราอยู่ที่สถานีชินซุชิ (Shinzushi) ซึ่งจะต้องเปลี่ยนรถหนึ่งครั้งที่สถานีคานาซาวะบุงโคะ (Kanazawa Bunko) หรือคานาซาวะฮัคเค (Kanazawa Hakkei) ก็ได้แล้วแต่จังหวะที่รถอีกสายจะมา ก่อนจะขึ้นรถคันต่อไปให้สังเกตป้ายไฟที่าสถานีว่าเป็นรถที่ไปสถานีชินซุชิด้วยนะคะ

11:08 สายลมและแสงแดดรอเราอยู่ที่ฮายามะ (Hayama)

ลงรถกันที่สถานีสุดท้ายสถานีชินซุชิกันง่ายๆ แล้วเดินออกทางทิศใต้ (South Exit) ตรงทางออกจะมีป้ายต้อนรับสู่ซุชิและฮายามะอยู่เลยค่ะ
เมื่อเดินออกมาแล้วมองขวามือเอาไว้จะเจอป้ายรถเมล์ทันที เราจะนั่งรถเมล์ไปเที่ยวกัน วิธีขึ้นรถก็ง่ายมาก เข้าประตูกลาง ลงประตูหน้า ตอนลงให้โชว์ตั๋ว A ให้คนขับดูเท่านี้ก็เรียบร้อย

11:21 ครบทั้งวิวสวย อาหารอร่อย ของฝากโดนใจต้องที่ฮายามะมารีน่า (Hayama Marina)

เป้าหมายแรกเราลงกันที่ป้าย "ฮายามะมารีน่า (Hayama Marina)" ชื่อเดียวกับสถานที่เป้าหมายของเรา ลงรถปุ๊ปเจอปั๊บ เพราะตั้งอยู่ตรงข้ามถนนเท่านั้นเองค่ะ
ที่ฮายามะมารีน่านี้เป็นอาคารที่รวมร้านอาหาร ร้านขนม ร้านของฝาก ไปจนถึงร้านเสริมสวย มีวิวทะเลสวยงาม มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ ด้านหลังเป็นท่าเรือส่วนบุคคลที่มีเรือเพื่อการสันทนาการจอดอยู่เพียบ ที่นี่จึงมีบริการ Cruising ให้นั่งเรือชมวิวจากฮายามะไปจนถึงแถวเอโนะชิมะ (Enoshima) ในคามาคุระ
หากใครล่ำซำจะซื้อเรือเป็นของตัวเองสักลำแล้วจอดให้ที่นี่ดูแลให้ก็ยังได้นะ

ฮายามะ มารีน่า

50-2 Horiuchi, Hayama-cho, มิอุระ-กุน, 240-0112

อิ่มความอร่อยจากทะเลที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน Il Timone

ร้านที่ใช้ตั๋ว B ตั๋วอาหารได้ร้านหนึ่งก็คืออิลติโมเน (Il Timone) ที่อยู่ชั้น 1 ตรงหน้าทางเข้าค่ะ หากจะใช้ตั๋วพิเศษของเรา เมื่อเข้าร้านให้แจ้งพนักงานก่อนเลย เพราะเมูนสำหรับคนถือตั๋วนี้จะพิเศษกว่าคนอื่นและเป็นเมนูที่ไม่มีระบุในเมนูอาหารปกติด้วย!
ระวังนิดคือตั๋วอาหารนี้ใช้ที่ร้านได้แค่ภายในเวลา 11:30 - 14:30 เท่านั้นค่ะ
(ตั๋วแลกอาหารแต่ละร้านมีเงื่อนไขและเวลาต่างกัน ควรตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการล่วงหน้า)

Picture courtesy of Il Timone

เมนูพิเศษสำหรับคนใช้ตั๋วฮายามะ โจะชิทาบิ คิปปุจะเป็นข้าวรีซอตโต้ผสมสาหร่ายทะเล มาพร้อมกับกุ้งทรายย่างหอมๆ เสิร์ฟพร้อมสลัดและขนมปังแท่งทอดกรอบ
*เมนูพิเศษมีจำนวนจำกัดแต่ละวัน หากหมดแล้วอาจมีการเสิร์ฟอาหารอื่นแทน

อิล ทิโมน

50-2 Horiuchi, Hayama-cho, มิอุระ-กุน, 240-0112

ของฝากและกิจกรรมที่แลกได้ด้วยตั๋ว C

ที่แนะนำให้แวะที่นี่ก่อนเพราะที่นี่มีร้านร่วมรายการในตั๋วมากมายทั้งร้านอาหาร ร้านกิจกรรมและของฝากค่ะ

Hayama Marina เองก็มีบริการ Cruising ล่องเรือชมวิวที่เล่าไปแล้วด้านบนวันละ 3 รอบ รอบละราวๆ 45 นาที เวลา 11:00, 13:30 และ 15:00 ซึ่งใช้ตั๋ว C ติดต่อที่เคานเตอร์ได้เลย อย่างไรก็ตามในวันที่อากาศไม่ดี ลมแรง อาจมีการงดออกเรือได้ ซึ่งจะกำหนดอย่างช้า 30 นาทีก่อนเวลาออกเรือ รวมถึงในช่วงไฮซีซั่นคิวอาจจะเต็ม ใครสะดวกแนะนำให้โทรไปสอบถามและจองก่อนได้ค่ะ

Marina Plaza Passage คือร้านค้าที่ชั้น 1 มีจำหน่ายสินค้า เสื้อผ้าในธีมชายทะเลและยี่ห้อดังอย่าง THE NORTH FACE, QUIKSILVER, ROXY และอื่นๆ รวมไปถึงสินค้าออริจินอลของทางร้าน ของฝากที่แลกได้จากที่นี่เป็นเซ็ทกระเป๋าเล็กกับผ้าเช็ดหน้าหรือคุ๊กกี้กล่องโลหะที่เป็นดีไซน์น่ารักของทางร้านเอง

Marlowe สาขาฮายามะมารีน่า เป็นร้านคาเฟ่และพุดดิ้งชื่อดังที่ชั้น 1 สามารถแลกของฝากเป็นพุดดิ้ง 1 ถ้วยกับขนมโบโล 1 ชิ้นหรือกับกระเป๋าเก็บอุณหภูมิ 1 ใบ พุดดิ้งของที่นี่รสชาติเข้มข้น ถ้วยใหญ่ ทานเต็มอิ่ม มีให้เลือกมากกว่า 10 รส (ที่ใช้ตั๋วแลกได้มี 9 รส) แถมถ้วยยังน่ารักเก็บไปใช้ต่อได้ มีถ้วยที่ร่วมมือกับการ์ตูนดังๆ อย่างคิตตี้หรือโดราเอมอนด้วย หากใครใช้บริการคาเฟ่ จะมีระเบียงที่ชมวิวสวยๆ ได้อีกต่างหาก

tricca Balcony Hayama ร้านเสริมสวยบนชั้น 2 ที่ให้บริการทำผม ทำเล็บ และอื่นๆ ที่ลูกค้านั่งชมวิวทะเลไปด้วยได้ สามารถแลกของฝากเป็น Marine hair milk, hair balm หรือ hair mist ซึ่งเป็นสินค้าบำรุงผมกลิ่นหอมยอดนิยมได้

ขนมของฝากและกิจกรรมพวกนี้ไม่ใช่ย่อยๆ เพราะมูลค่านั้นไม่ต่ำกว่า 1,000 เยนทั้งนั้น ยากจะหาตั๋วฟรีพาสไหนแถมได้ขนาดนี้!

13:36 ไปเที่ยวชมสวนญี่ปุ่นที่สวนฮายามะ ชิโอะไซ (Hayama Shiosai Park)

อิ่มท้อง ชมวิวแล้ว คราวนี้เราไปเปลี่ยนบรรยากาศนิดไปชมสวนญี่ปุ่นกัน ขึ้นรถบัสจากป้ายที่เราลงมา นั่งไปจนถึงป้าย "อิชชิคิไคกัน (Isshiki Kaigan)" ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วข้ามถนน เดินย้อนมานิดเดียวจะเจอทางเข้าสวนนี้แล้วค่ะ

สวยฮายามะ ชิโอะไซ สร้างขึ้นบนอดีตที่ตั้งของพระตำหนักของสมเด็จพระจักรพรรดิ์ไทโช ซึ่งเป็นสถานที่สวรรคตของพระองค์ด้วย ปัจจุบันจึงมีทั้งสวนญี่ปุ่น ห้องชงชา และสามารถชมวิวภูเขาฟูจิได้ รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์น้ำบริเวณนี้ (อ่าวซากามิ - Sagami Bay)
เดินเล่นสักรอบ แวะมองวิวทะเล หากเหนื่อยก็แวะจิบน้ำชาที่ห้องน้ำชาในสวน หรือจะไปนั่งชมสวนญี่ปุ่นเงียบๆ จากที่นั่งในพิพิธภัณฑ์ก็ได้ ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้แดงให้ชม ส่วนฤดูใบไม้ผลิก็มีดอกซากุระบานเช่นกัน สวนนี้มีค่าเข้า 300 เยนเท่านั้นค่ะ

สวนสาธารณะฮายามะ ชิโอไซ

2113-1 Isshiki, Hayama-cho, มิอุระกุน, 240-0111

15:00 ไหว้พระที่ศาลเจ้าริมทะเล ศาลเจ้าโมริโตะ (Morito Daimyojin Shrine)

ออกจากสวนเดินกลับไปใกล้รถบัสที่ลงมา แต่ไม่ต้องข้ามถนนกลับไปนะ จะมีป้ายรถปัสของฝั่งนี้อยู่ คราวนี้นั่งไปลงที่ป้าย "โมริโตะจินจะ (Morito Jinja)" ลงมาจะเจอเสาโทริอิสีแดงเลย ไม่มีหลงแน่นอน เดินลอดโทริอิตรงไปเรื่อยๆ คราวนี้จะเจอเสาโทริอิหิน ก็คือถึงหน้าศาลเจ้าโมริโตะแล้วค่ะ

ศาลเจ้าโมริโตะก่อตั้งขึ้นมามากกว่า 800 ปีแล้วโดยมินาโมโตะโนะ โยริโตโมะ (Minamoto no Yoritomo) โชกุนคนแรก และยังถือเป็นศาลเจ้าที่ปกป้องดูแลฮายามะแห่งนี้ มีชื่อเสียงด้านการเสริมดวง ผูกดวงความรัก และเรื่องการขอบุตร คลอดบุตร

่อยากนำเสนอก็มีเครื่องรางความรักรูปหอย (Kaiawase Koi Mamori) 700 เยน ที่มาจากความเชื่อว่าหอยสองฝานั้นจะมีเพียงคู่ของมันเท่านั้นที่รูปร่างจะตรงกันพอดี เช่นเดียวกับเครืองรางที่จะอวยพรให้เราเจอคนที่เป็นคู่ของเราเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีเซียมซีแบบตกปลาไท โดยเป็นเซียมซีธรรมดา (ปลาสีดำและแดง) กับเซียมซีความรัก (ปลาสีฟ้าและชมพู) ครั้งละ 500 เยน

โมริโตะ ไดเมียวจิน

ศาลเจ้าโมริโตะ, 1025 Horiuchi, Hayama-cho, Miura-gun, 240-0112

16:00 เดินเล่นชมวิวริมทะเลและย่านร้านค้าฮายามะ

ไหว้พระเสริมสิริมงคลตามแบบฉบับญี่ปุ่นเสร็จ เรามาเดินเล่นชมวิวกันดีกว่า!

ทั้งด้านหลังของศาลเจ้าโมริโตะเองก็เป็นทะเลให้เราได้ชมวิวแบบสบายๆ หากมองไปไกลนิดจะสังเกตเห็นโทริอิสีแดงอยู่บนเกาะที่ห่างออกไปซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าโมริโตะเช่นกัน

ออกจากศาลเจ้า พอเลยโทริอิหินแล้วเลี้ยวไปทางซ้าย จะเจอสะพานสีแดงให้ความรู้สึกญี่ปุ่นเชื่อมระหว่างศาลเจ้ากับชายหาดโมริโตะด้านข้าง ชายหาดแห่งนี้ลงเล่นน้ำได้ในฤดูร้อน ส่วนฤดูอื่นๆ ก็เดินเล่นชิลๆ ชมวิวเปิดโล่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจได้

ทั้งจากหาดและศาลเจ้าสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เช่นกัน ถือเป็นจุดชมวิวที่วิวดีสุดๆ และได้รับเลือกเป็นหนึ่งในจุดชมฟูจิที่ดีที่สุดของคันโตเลยล่ะค่ะ

หรือจากชายหาดเดินออกห่างไปที่ถนนแล้วเลี้ยวซ้าย บริเวณนี้จะเป็นย่านร้านค้าฮายามะที่มีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ท้องถิ่น จะเดินชมเมืองแบบง่ายๆ หรือจะหาร้านกาแฟนั่งพักสักนิดก็ดี แถวนี้มีร้านขายโครอกเกะ (หมูสับผสมมันบดชุดแป้งทอด) ขึ้นชื่อให้ได้ชิมด้วยนะ

ชายฝั่งโมริโตะ

โฮริอุจิ ฮายามะ-โช มิอุระกุน 240-0112

17:00 ชมอาทิตย์ตกยามเย็นที่งดงาม

วันที่มาเก็บข้อมูลกันเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงค่ะ พระอาทิตย์ตกราวๆ 5 โมงเย็น เราเลยอยากแนะนำให้อยู่ดูพระอาทิตย์ตกกันเลย!

เนื่องจากอยู่ริมทะเล เราจึงเห็นพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนมาก หากวันไหนอากาศดีๆ จะเห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย แถมยังมีโทริอิกลางน้ำให้เห็นอยู่ลิบๆ ด้วย
เป็นภาพพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่หาชมได้แค่ที่ญี่ปุ่นเท่านั้นจริงๆ ค่ะ

จะชมจากชายหาดหรือจะเดินกลับไปที่ด้านหลังศาลเจ้าโมริโตะก็ได้ความงามไม่แพ้กัน
แอบกระซิบอีกนิดว่าที่หาดนี้สามารถชม Diamond Fuji (พระอาทิตย์ตกตรงยอดภูเขาไฟฟูจิพอดี) ได้ปีละ 2 ครั้ง ช่วงราววันที่ 9 เมษายนและวันที่ 3 กันยายนด้วยนะ
*แต่ละปีวันอาจคลาดเคลื่อนกันเล็กน้อย

17:35 เดินทางกลับสถานีชินซุชิ

พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เราก็เดินทางกลับกันจากป้ายรถบัสที่เราใช้ลงมาได้เลย หรือจะหาอาหารเย็นทานแถวนี้ก็ย่อมได้

ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีมาถึงข้างๆ สถานีชินซุชิ เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามแล้วเดินตรงไปก็จะพบสถานีเลย จากนั้นก็นั่งรถกลับ โดยหากใครจะกลับไปที่สถานีชินางาวะจะต้องต่อรถหนึ่งครั้งเช่นกัน แต่ขากลับนั้นจะเปลี่ยนรถที่สองสถานีที่แนะนำไปตอนเช้า หรือจะไปเปลี่ยนที่สถานีเคคิวคาวาซากิ (Keikyu Kawasaki) หรือเคคิวคามาตะ (Keikyu Kamata) ก็สะดวกเช่นกัน
ตั๋วนี้ยอมให้เราแวะลงสถานีอื่นได้ (แต่ต้องไม่นั่งย้อนไปมา) ฉะนั้นหากใครอยากแวะทานข้าวที่โยโกฮาม่าก็แวะลงได้เลยค่ะ

ตามแผนนี้เราจะกลับถึงชินางาวะในเวลาราว 18:50 ถือว่าพอเหมาะสำหรับหาอาหารเย็น กลับที่พัก หรือใครยังมีแรงก็แวะช้อปสักนิดก็ยังได้
หากใครมาฤดูกาลอื่น อาจจะเดินเล่น จิบกาแฟ หรือหาข้าวเย็นทานแถวชายหาดเพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดินก่อนกลับก็ดีเหมือนกัน
แล้วก็เป็นอันปิดทริปฟรีพาสแสนสะดวกให้เราไปชมทะเลสวยๆ ของญี่ปุ่นอย่างสุดคุ้มค่ะ!

สรุปการเดินทาง
สถานีชินางาว่า → สถานีชินซุชิ → ฮายามะมารีน่า → ร้านอาหาร Il Timone → สวนฮายามะ ชิโอะไซ →  ศาลเจ้าโมริโตะ  → ชายหาดโมริโตะและย่านร้านค้าโมริโตะ → ชมพระอาทิตย์ตกในบริเวณเดียวกัน → สถานีชินซุชิ → สถานีชินางาวะ

ค่าเดินทางทั้งหมด : ค่ารถไฟ ฟรีพาส ฮายามะ โจะชิทาบิ คิปปุ (Hayama Joshitabi Kippu) 3,500 เยน (เด็ก 2,900 เยน)
ใช้จ่ายอื่นๆ : รวมค่าอาหารกลางวันและของฝากในค่าฟรีพาสแล้ว ค่าเซียมซี 500 เยน

รวมค่าใช้จ่ายใน 1 วัน/1 คนตามแผน : ประมาณ 4,000 เยน (ไม่รวมค่าซื้อของ)

เช็คข้อมูลเที่ยวเด็ดๆ ตามสาย Keikyu และการเดินทางไปกลับสนามบินฮาเนดะ ได้จาก : http://www.haneda-tokyo-access.com/en/

Supported by Keikyu Corporation International Tourism
The writer visited these facilities on 1 November 2019.