แค่ดอกฟูจิยักษ์ยังไม่พอ! ต้องไปผจญภัยที่ "เกียวโตน้อย" ย่านเมืองเก่าในโทจิกิด้วย!
Ashikaga Flower Park ในเมืองอาชิคางะ มีดอกฟูจิยักษ์ที่สวยงามจน CNN ยกให้เป็น "สถานที่ท่องเที่ยวในฝันระดับโลก" แต่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ถ้าจะไปชมดอกฟูจิแล้วกลับก็น่าเสียดาย! เช่น ศาลเจ้าโอริฮิเมะที่มีเสาโทริอิ 7 สี และโรงเรียนเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ไปผจญภัยท่ามกลางบ้านเรือนโบราณกัน!
ออกท่องเที่ยวอย่างสดใสด้วยจักรยานเช่ากัน
เมืองอาชิคางะ (Ashikaga) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทจิกิ เป็นที่รู้จักในฐานะท้องถิ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับโชกุนอาชิคางะของมุโรมาจิบาคุฟุ (รัฐบาลในสมัยมุโรมาจิ) ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น โรงเรียนอาชิคางะ (Ashikaga School) ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และสภาพอาคารบ้านเรือนเรียงรายบนถนนที่ปูก้อนหินในสไตล์ย้อนยุค ซึ่งเรียกกันว่า "เกียวโตน้อย (ย่านเมืองเก่า) แห่งตะวันออก"
สถานที่ท่องเที่ยวมากมายอยู่ทั่วเมือง นอกจากจะเดินตระเวนไปตามจุดต่างๆ ได้แล้ว ยังสามารถเช่าจักรยานปั่นสำรวจเมืองได้ด้วย
สมาคมการท่องเที่ยวเมืองอาชิคางะ (ASHIKAGA CITY TOURISM ASSOCIATION) ของท้องถิ่น มีบริการจักรยานให้เช่า 2 แห่ง คือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอาชิคางะ (Ashikaga Tourist Exchange Center หรือ Ashi-Navi) ใกล้กับสถานีอาชิคางาชิ (Ashikagashi) รถไฟสายโทบุ (Tobu Railway) และไทเฮคิคัง (Taiheikikan) ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในสถานี JR อาชิคางะ (JR Ashikaga)
สามารถเช่าจักรยานที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวอาชิคางะ แล้วส่งคืนที่ไทเฮอิคิคังได้ด้วย
จักรยานมี 2 ประเภท: จักรยานธรรมดาและจักรยานไฟฟ้า
(3 ชั่วโมง 400 เยน / 600 เยน, วันละ 800 เยน / 1,200 เยน)
"ไทเฮอิคิคัง" เป็นจุดที่สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งในเมืองอาชิคางะได้สะดวกมากๆ และยังมีร้านขายของฝากรวมถึงคาเฟ่ให้ใช้เวลาพักผ่อนได้เต็มที่ด้วย
เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างใน จะมองเห็นหมวกและชุดเกราะที่โชกุนอาชิคางะ ทาคาอุจิ สวมในละครไทกะเรื่อง "ทาเฮอิกิ" นำแสดงโดยซานาดะ ฮิโรยุกิ หลังถ่ายละครจบ จึงนำมาจัดแสดงในท้องถิ่นนี้ ซึ่งว่ากันว่ามีจุดเริ่มต้นเรื่องราวของโชกุนอาชิคางะ ผู้เปิดยุคสมัยของมุโรมาจิบาคุฟุ
"ศาลเจ้าอาชิคางะ โอริฮิเมะ" ศาลเจ้าเสริมดวงเรื่องเนื้อคู่ และเสาโทริอิ 7 สี
ศาลเจ้าอาชิคางะ โอริฮิเมะ (Ashikaga Orihime Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เชื่อกันว่าขอพรเรื่อง "เนื้อคู่" และ "ธุรกิจการค้าเจริญรุ่งเรือง" ได้
ครั้งหนึ่งเคยถูกเพลิงไหม้ และสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยแรงกายแรงใจของผู้คนในท้องถิ่น ว่ากันว่า ศาลเจ้าหลักสีแดงสดงดงามอลังการที่อยู่เบื้องหน้านี้ สร้างขึ้นโดยมีสถาปัตยกรรมของโฮโอโด (วิหารนกฟินิกซ์) แห่งวัดเบียวโดอิน (Byodoin Temple) ในเมืองอุจิ (Uji) เกียวโต เป็นต้นแบบ ได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมสมัยใหม่ และเป็นที่รู้จักในนาม "วังมังกรบนบก"
อย่าพลาดชมการประดับไฟไลท์อัพในยามค่ำคืน ถึงขนาดได้รับการจัดอันดับในหนังสือพิมพ์นิฮงเคไซชิมบุน (NIKKEI) ให้เป็นศาลเจ้าที่มีไฟไลท์อัพสวยงาม ต่อจากศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji Temple) และวัดโคฟุกุจิ (Kofuku-ji Temple) ตามลำดับ
ศาลเจ้าอาชิคางะ โอริฮิเมะบูชาเทพเจ้าหลัก 2 องค์คือ เทพอาเมโนมิโฮโกโนมิโคโตะคือเทพบุตรผู้ควบคุมการทอผ้า และเทพอาเมโนยาจิจิฮิเมโนมิโคโตะคือเทพธิดาที่ทอผ้า ว่ากันว่า เทพทั้งสองได้รับการอัญเชิญมาจากศาลเจ้าอิเซะจิงกู (Ise Grand Shrine) ในจังหวัดมิเอะมาร่วมกันทอผ้าถวายแก่เทพอามาเทราซึโอมิคามิ ผ้าทอทำมาจากการทอด้ายยืนและด้ายพุ่งที่สื่อถึงการครองคู่ ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมายมาขอพรเรื่อง "เนื้อคู่" ที่ศาลเจ้าแห่งนี้
การขึ้นไปศาลเจ้าโอริฮิเมะ สามารถเลือกเดินขึ้นทางเนินโอโตโกซากะซึ่งเป็นบันได 229 ขั้นที่อยู่ด้านหน้า หรือเดินขึ้นจากเนินอนนะซากะที่อยู่ด้านข้างซึ่งมีเสาโทริอิ 7 สี สีของประตูโทริอิแต่ละสีจะสื่อถึงลักษณะต่างๆ ของเนื้อคู่ ดังนี้
ความสัมพันธ์กับผู้คน (สีแดง) สุขภาพ (สีเหลือง) ปัญญา (สีเขียว) ชีวิต (สีน้ำเงิน) การศึกษา (สีเขียว) การงาน (สีแดงเข้ม) การบริหารจัดการ (สีม่วง)
ในวันที่อากาศแจ่มใส สามารถมองเห็นส่วนของยอดภูเขาไฟฟูจิได้จากบริเวณศาลเจ้าด้วย
เมื่อพูดถึงอาชิคางะ หลายคนอาจนึกถึงดอกโอฟูจิหรือดอกฟูจิยักษ์สีม่วงของอาชิคางะฟลาวเวอร์พาร์ค (Ashikaga Flower Park) ระแนงไม้ดอกฟูจิหรือดอกวิสทีเรียสีม่วงที่บานอยู่มุมหนึ่งเป็นส่วนที่แบ่งศาลเจ้าอาชิคางะ โอริฮิเมะจาก Ashikaga Flower Park
ในสวนโอริฮิเมะ (Orihime Park) ซึ่งอยู่ถัดจากศาลเจ้า มีจุดชมวิวคากามิอิวะ (Kagamiiwa Observation Deck) อยู่ทางทิศเหนือที่สามารถมองเห็นที่ราบคันโตได้ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงชื่อดังด้วย
มารู้จักจุดที่น่าสนใจต่างๆ ในอาณาบริเวณศาลเจ้าที่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รักกัน นอกจากประตูโทริอิ 7 สีและทิวทัศน์ของสี่ฤดูกาลแล้ว ยังมีระฆังแห่งความรักและสถานที่คล้องกุญแจคู่รักด้วย
เนื่องจากเป็นศาลเจ้าที่บูชาเทพเจ้าแห่งการทอผ้า จึงไม่ควรพลาดชมลวดลายลูกไม้ที่สวยงามบนเพดานและในโอมาโมริ (เครื่องลาง) ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตไม่เพียงแค่เป็นจุดออกเดทของคู่รักเท่านั้น แต่ยังเหมาะไปเที่ยวกับเพื่อนฝูงอีกด้วย
วิธีเพลิดเพลินกับศาลเจ้าอาชิคางะ โอริฮิเมะอีกอย่างที่ผู้เขียนขอแนะนำคือการมองหา "ดวงตาหมูป่า" รูปหัวใจซึ่งมีอยู่ทุกที่ในศาลเจ้า เชื่อกันว่า หมูป่าเป็นสัตว์แข็งแรงที่ช่วยป้องกันภัยพิบัติและนำโชคลาภมาให้ จึงนำลวดลายนี้มาสื่อถึงความหมายดังกล่าว
ลองสนุกกับการตามหาเหมือนการล่าสมบัติในบริเวณกล่องรับเงินทำบุญและศาลเจ้าหลักดู เจ้าหน้าที่ศาลเจ้าแอบกระซิบผู้เขียนว่ามีสถานที่พิเศษอีกแห่งที่มีรูปหัวใจซ่อนอยู่ จะอยู่ที่ไหนลองมาสนุกกันดูนะ!
GINGAMA ร้านเก่าแก่รุ่นที่ 4 ที่รังสรรค์คุณค่าใหม่ๆ จากสิ่งที่เป็นประเพณีดั้งเดิม
ข้าวอบหน้ารวมมิตร (Gomoku Kamameshi) 1,600 เยน (ราคารวมภาษี)
GINGAMA (กินกามะ) ตั้งแต่เปิดกิจการเมื่อปี 1926 ก็ให้บริการคามาเมชิ (ข้าวอบญี่ปุ่น) มาตลอด หลังจากได้รับออร์เดอร์จากลูกค้า ทางร้านก็จะซาวข้าวแล้วหุงโดยใช้น้ำสต็อกไก่ นี่เป็นความใส่ใจของทางร้านเพื่อให้ลูกค้าได้เพลิดเพลินกับคามาเมชิที่หอมกรุ่นไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอดเกือบ 100 ปี
ในละแวกใกล้เคียงมีโรงภาพยนตร์ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ และมีดาราดังมากมายแวะเวียนมาบ่อยๆ ด้วย
ข้าวหน้าไก่ทอดจุ่มซอส 900 เยน (ราคารวมภาษี)
นอกจากคามาเมชิยังมีเมนูต่างๆ มากมาย อย่าง "ข้าวหน้าไก่ทอดจุ่มซอส" และ "ข้าวหน้าไก่ทอด" เมนูชื่อดังในท้องถิ่นของอาชิคางะก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ซอสหอมหวานกับเนื้อนุ่มๆ เข้ากันได้ดีกับกะหล่ำปลีกรอบๆ อร่อยมากๆ!
ปัจจุบัน เจ้าของร้านรุ่นใหม่สืบทอดร้านมาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว จากแนวคิดที่ต้องการขจัดภาพลักษณ์ร้านเก่าโบราณๆ และมอบบรรยากาศใหม่ให้กับร้านเก่าแก่
เขาจึงได้รังสรรค์เมนูแนวใหม่ๆ เช่น โดเรียคามาเมชิ (Doria Kamameshi) ซึ่งเดิมให้บริการเฉพาะฤดูกาล แต่เนื่องจากเป็นที่นิยมมากจึงต้องให้บริการเป็นเมนูประจำร้าน
*: โดเรีย เป็นข้าวอบชีสกับซอสต่างๆ สไตล์ฝรั่ง คล้ายกราแตง
"มาจินากะ ยูกักคุคัง" กับผ้าไหมอาชิคางะเมเซ็น (Ashikaga Meisen) ลวดลายสดใสมีพลัง
อาชิคางะเดิมเป็นเมืองสิ่งทอระดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ติดอันดับ 1 และ 2 ผ้าไหมอาชิคางะเมเซ็นมีความเป็นแฟชั่นและใช้งานได้จริง จึงได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยไทโชจนถึงสมัยโชวะ
ผ้าไหมอาชิคางะเมเซ็นทำมาจากรังไหมและเศษรังไหมซึ่งทำด้ายได้ยาก อันดับแรกจะเรียงด้ายพุ่งเย็บติดกันแล้วย้อมลวดลายและลายดอกไม้ เมื่อย้อมเรียบร้อย หลังจากคลายด้ายพุ่งที่ตรึงไว้ก็เริ่มทอผ้าลายจริงกัน
ลักษณะเด่นของผ้าไหมอาชิคางะเมเซ็นคือการผสมผสานลวดลายดอกไม้ต่างๆ ดูเป็นสไตล์เก่าแต่ไม่ล้าสมัย มีความเป็นแฟชั่น และดูทันสมัย การผสมผสานแบบใหม่นี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเสรีภาพและสถานะทางสังคมที่เป็นอิสระของสตรีในยุคปัจจุบัน
Picture courtesy of Ashikaga City
สามารถเช่าชุดกิโมโนผ้าไหมอาชิคางะเมเซ็นในเมืองอาชิคางะได้ที่มาจินากะ ยูกักคุคัง (Machinaka Yugakukan หรือ Ashikaga Information and Communication Space) เท่านั้น เนื่องจากมีแพ็คเกจบริการที่หลากหลาย เช่น แพ็คเกจพักหนึ่งคืน และบริการเช่าชุดเกราะซามูไร ขอแนะนำให้จองล่วงหน้า
แพ็คเกจชุดกิโมโนประกอบด้วย ชุดกิโมโน รองเท้า ถุงเท้าทาบิ และกระเป๋า หากต้องการใช้บริการแต่งหน้าหรือทำผม สามารถแจ้งล่วงหน้าตอนจองได้
วิธีการจอง: โทรศัพท์ 0284-41-8201 / (อีเมล) yugakukan.kimono@gmail.com
"อาชิคางะกักโก" เป็นชื่อของโรงเรียน
อาชิคางะกักโกหรือโรงเรียนอาชิคางะเป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ว่ากันว่าสมัยก่อนมีเพียงโรงเรียนอาชิคางะเท่านั้นที่สามารถใช้อักษรคันจิ 2 ตัว "กักโก (โรงเรียน)" ได้ มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับการก่อตั้งโรงเรียนอาชิคางะ แต่ในหนังสือประวัติศาสตร์ระบุว่า อุเอซึกิ โนริซาเนะ ได้มอบหนังสือซึ่งเป็นสมบัติของชาติให้กับโรงเรียนอาชิคางะในช่วงสมัยมุโรมาจิ
จากนั้นในปี 1549 นักบุญฟรังซิส ซาเวียร์ได้แนะนำโรงเรียนแห่งนี้ให้โลกรู้จักในฐานะ "มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงที่สุดในบันโด (ญี่ปุ่นตะวันออก)" ปัจจุบัน โรงเรียนอาชิคางะยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นโบราณสถานของชาติด้วย
นักเรียนที่โรงเรียนอาชิคางะจะเรียนหนังสือโบราณต่างอย่างหนังสือของลัทธิขงจื๊อและคัมภีร์อี้จิง สมัยก่อนจะมีการเขียนตัวอักษรที่นักเรียนอ่านไม่ออกหรือคำที่นักเรียนไม่เข้าใจลงในกระดาษแล้วผูกไว้กับกิ่งของสนต้นนี้ วันรุ่งขึ้นจะเติมฟุริกานะ (เขียนเสียงอ่านด้วยอักษรฮิรางานะ) และคำอธิบายเพิ่มเติม จึงเรียกต้นสนนี้ว่า "คานาฟุริมัตสึ"
จากกิ่งไม้ที่ห้อยลงมา ทำให้สัมผัสได้ถึงความตั้งใจอันแรงกล้าในการเรียนรู้ ความกระตือรือร้น และจิตใจที่ท้าทายของนักเรียนทั้งหลาย
กล่าวกันว่า "โฮโจ" ที่ได้รับการบูรณะเคยเป็นสถานที่ซึ่งนักเรียนทั้งหลายพักอาศัย ล่าสุดยังใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ อย่าง "คินทามะ" ด้วย
สถานที่เที่ยวยอดฮิตอื่นๆ ในอาชิคางะ & สถานที่ท่องเที่ยววันเดย์ทริป
Hachikura คาเฟ่อบอุ่นหัวใจ ที่เติบโตเคียงคู่กับท้องถิ่น
ชีสเค้ก 440 เยน + กาแฟ 530 เยน (ราคารวมภาษี)
ในละแวกโรงเรียนอาชิคางะมีคาเฟ่ Hachikura (ฮาจิคุระ) ซึ่งนำโกดังสีขาวบริสุทธิ์มาปรับปรุงใหม่ จากทางเข้าจะเห็นเค้กที่สตรีเจ้าของร้านอบด้วยความใส่ใจ
เจ้าของร้านจะช่วยแนะนำกาแฟที่ชงอย่างพิถีพิถันซึ่งเข้าคู่กับของหวานต่างๆ รวมถึงสินค้าเบ็ดเตล็ดที่ทั้งคู่ใช้แล้วได้ดีจริงๆ ให้
ของหวานตามฤดูกาล 550 เยน (ราคารวมภาษี)
บรรยากาศภายใน Hachikura ทำให้สัมผัสถึงไลฟ์สไตล์ของเจ้าของและภรรยาได้ชัดเจน
ของหวานของที่นี่จะใช้ผลไม้ที่ปลูกในโทจิกิ ของหวานตามฤดูกาลในวันที่ผู้เขียนไปคืออิจิโงะโนะปังบิส (รูปด้านบน ปังบิสคือขนมปังที่ด้านบนมีความกรุบกรอบเบาๆ คล้ายบิสกิต) ซึ่งใช้สตรอเบอรี่สายพันธุ์โทจิโอโตเมะจากสวนสตรอเบอรี่ชิโนดะในเมืองอาชิคางะ ความหวานอมเปรี้ยวของสตรอเบอรี่สายพันธุ์โทจิโอโตเมะที่ฉ่ำมายๆ กับความหวานของครีมสดและซอสคัสตาร์ดนั้นสุดยอดจริงๆ
พุดดิ้ง 380 เยน (ราคารวมภาษี)
ยังมีเมนูของหวานประจำร้าน เช่น ชีสเค้กแบบอบรสชาติเข้มข้นและพุดดิ้ง ทุกชิ้นที่รับประทานจะสัมผัสถึงรสชาติดั้งเดิมของส่วนผสม เมื่อรับประทานคู่กับกาแฟ ความอร่อยยิ่งสอดผสานได้รสชาติที่แปลกใหม่
Hachikura เพิ่งย้ายจากจุดที่ห่างออกไปเล็กน้อยมาที่นี่ ดังนั้น จึงไม่เพียงมีแต่ลูกค้าที่คุ้นเคยแต่ยังมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
เจ้าของจะบันทึกส่วนสูงของลูกค้าของเด็กไว้ที่เสาหลักของร้าน เป็นคาเฟ่น่ารักๆ ที่เติบโตไปพร้อมกับลูกค้า
Ashikaga Flower Park นอกจากดอกฟูจิยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย
Picture courtesy of Tochigi Prefecture
Ashikaga Flower Park มีดอกฟูจิยักษ์อายุกว่า 100 ปี จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก
ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฟูจิกว่า 350 ต้นจะบานสะพรั่งในสวนขนาด 94,000 ตารางเมตร ดอกฟูจิสีม่วงบานแข่งกับดอกฟูจิสีขาวงดงามยิ่ง ทำให้ผู้คนมากมายต่างมาชื่นชมความงามนี้
แต่ในสวนแห่งนี้นอกจากดอกฟูจิยังมีดอกไม้นานาชนิดให้เพลิดเพลินได้ตามฤดูกาลด้วย อาทิ ดอกโบตั๋นและดอกบ๊วยในฤดูหนาว ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกกุหลาบและดอกอาจิไซหรือดอกไฮเดรนเยียในฤดูร้อน
การประดับไฟที่จัดขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวยังได้รับเลือกให้เป็น "มรดกด้านทิวทัศน์ยามค่ำคืน" ในญี่ปุ่นด้วย ปี 2018 ได้มีการสร้างสถานีอาชิคางะฟลาวเวอร์พาร์ค (Ashikaga Flower Park) ขึ้นทางฝั่งตะวันตกของ Ashikaga Flower Park ทำให้การเดินทางมาง่ายยิ่งขึ้น
10 กิจกรรมแนะนำและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดโทจิกิเพิ่มเติม
บทส่งท้าย
การเดินทางจากโตเกียวไปยังอาชิคางะหลักๆ มี 2 วิธี ได้แก่ วิธีแรกคือการขึ้นรถไฟด่วนพิเศษเรียวโม (Ryomo Limited Express) สายโทบุ-อิเซซากิ (Tobu Isesaki Line) จากสถานีอาซากุสะ (Asakusa) ไปยังสถานีอาชิคางาชิ (Ashikagashi)
วิธีที่ 2 คือ ขึ้นรถไฟ JR โทโฮคุชินคันเซ็น (JR Tohoku Shinkansen) หรือรถไฟสายอุตสึดนมิยะ (Utsunomiya) จากสถานีอุเอโนะ (Ueno) ไปลงที่สถานีโอยามะ (Oyama) เปลี่ยนไปนั่งสายเรียวโม (Ryomo) ไปลงที่สถานี JR อาชิคางา (JR Ashikaga) ทั้งสองวิธีใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง (* อนึ่ง สถานี Ashikagashi ของรถไฟสายโทบุในวิธีแรก กับสถานี JR Ashikaga ในวิธีที่ 2 เป็นคนละแห่งกัน)
บริเวณรอบสถานีมีจุดชมวิวที่งดงามเทียบได้กับสมบัติของชาติและอาหารเลิศรสที่คนท้องถิ่นชื่นชอบมายาวนานด้วย
ในเมืองอาชิคางะ เกียวโตน้อยแห่งคันโต มีสถานที่ดีๆ แอบซ่อนอยู่มากมายที่ยังไม่ได้แนะนำ! ลองมาพักที่นี่สัก 2 -3 วัน และวางแผนการผจญภัยของตัวเองดูก็ดีไม่น้อยนะ!
Main image courtesy of Tochigi Prefecture
Sponsored by Tochigi Prefecture
ขอขอบคุณร้านค้า หน่วยงาน ศาลเจ้า และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทุกท่าน ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลและให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์
Written by Lin
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง