7 สถานที่เที่ยวรอบสนามบินฮาเนดะ (โอตะ, ชินากาวะ, คาวาซากิ) ตัวอย่างคอร์สเที่ยว 2 วัน 1 คืน
สนามบินฮาเนดะได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่ดีที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในสนามบินที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากที่สุดในโตเกียว ใกล้กับสนามบินมีจุดท่องเที่ยวหลายแห่งในเขตโอตะ เขตชินากาวะ และเมืองคาวาซากิ บทความนี้ขอแนะนำตัวอย่างคอร์สเที่ยว 7 สถานที๋เที่ยวยอดฮิตแบบ 2 วัน 1 คืน
ทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืน ในจุดท่องเที่ยวละแวกสนามบินฮาเนดะ
ช่วงไม่กี่ปีมานี้พื้นที่รอบๆ สนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในโอกาสที่สนามบินฮาเนดะมีการเปลี่ยนชื่ออาคารเทอร์มินอลระหว่างประเทศ (International Terminal) เป็นอาคารเทอร์มินอล 3 (Terminal 3) ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อสถานี Haneda Airport International Terminal ของรถไฟเคคิวหรือรถไฟเคฮินคิวโค (Keikyu Line หรือ Keihin Electric Express Railway) และรถไฟโตเกียวโมโนเรล (Tokyo Monorail) ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ในการเดินทางมาสนามบิน เป็นสถานี Haneda Airport Terminal 3
ไม่ได้มีแค่การเปลี่ยนแปลงภายในสนามบิน สถานที่เที่ยวในพื้นที่โดยรอบ เช่น เขตโอตะ (Ota), เขตชินากาวะ (Shinagawa) และเมืองคาวาซากิ (Kawasaki) ก็พัฒนาไปในทุกๆ วันเช่นกัน
บทความนี้ขอแนะนำตัวอย่างทริปเที่ยว 2 วัน 1 คืน ตระเวนเที่ยว 7 สถานที่เที่ยวใกล้สนามบินฮาเนดะที่คัดสรรมาอย่างดี พร้อมอัพเดทข้อมูลล่าสุดต่างๆ เช่น จุดท่องเที่ยวซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงซึ่งจะทำให้รู้สึกฉุกหวนคิดถึง
1. วันที่ 1 ช่วงเย็น: HANEDA INNOVATION CITY อาคารคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ มีอาชิยุที่สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันยอดเยี่ยมด้วย
จากสถานี Haneda Airport Terminal 3 ให้ขึ้นรถไฟเคคิวหรือรถไฟโตเกียวโมโนเรลไปยังสถานีเท็นกูบาชิ (Tenkubashi) ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1 สถานี ก็จะถึง HANEDA INNOVATION CITY (ฮาเนดะอินโนเวชั่นซิตี้) อาคารคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี
HANEDA INNOVATION CITY เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่เน้นนวัตกรรมล่าสุดและวัฒนธรรมเป็นหลัก
ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น สำนักงานของบริษัทเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมล่าสุด ร้านอาหารและโรงแรมที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น ไลฟ์ฮอลล์ และสถานที่ผ่อนคลายต่างๆ ดังนั้นจึงสามารถสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ต่างๆ ได้
HANEDA INNOVATION CITY ยังมี Footbath Skydeck (ดาดฟ้าที่มีอาชิยุหรือออนเซ็นเท้า) ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ออนเซ็นเท้าได้ฟรี
จาก Footbath Skydeck สามารถมองเห็นสนามบินฮาเนดะได้ การผสานกันระหว่างเครื่องบินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีล้ำสมัย กับอาชิยุซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสถานที่เที่ยวที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ ที่นี่ยังได้รับความนิยมในฐานะจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก และทิวทัศน์ยามค่ำคืน มีผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพต่างแวะมากันมากมาย บางวันที่สภาพอากาศดี อาจมองเห็นภูเขาฟูจิซึ่งเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นด้วย
Footbath Skydeck มีตู้อัตโนมัติจำหน่ายผ้าขนหนูแบบออริจินัล ถึงจะมามือเปล่าไม่นำผ้าขนหนูสำหรับเช็ดเท้ามาด้วย ก็สามารถเพลิดเพลินกับการแช่เท้าได้สบายๆ
สามารถใช้บริการที่ Footbath Skydeck ได้ตั้งแต่ 5:30 - 23:30 น. หลังเดินเล่นและเพลิดเพลินกับอาหารใน HANEDA INNOVATION CITY แล้ว ก็แวะมาลองแช่เท้าในอาชิยุอุ่นๆ และใช้เวลาค่อยๆ เพลิดเพลินกับทิวทัศน์สวยๆ กัน
2. วันที่ 1 ช่วงกลางคืน: สถานีคามาตะ สวรรค์ของอาหารอร่อยในราคาย่อมเยา
คืนวันแรกไปเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยในบริเวณรอบๆ สถานีคามาตะ (Kamata) ซึ่งมีรถไฟหลายสาย เช่น รถไฟ JR Keihin-Tohoku Line, รถไฟ Keikyu Line และรถไฟ Tokyu Line วิ่งผ่าน
เมื่อเข้าไปในถนนเล็กๆ จะพบกับร้านค้ามากมายที่จำหน่ายอาหารรสเลิศราคาย่อมเยา เช่น ฮาเนะทสึกิเกี๊ยวซ่า (เกี๊ยวซ่าแบบมีปีกบางกรอบๆ) ราเม็ง และทงคัตสึ (หมูทอด) ในยามค่ำคืนเมื่อร้านอิซากายะเปิด ย่านคามาตะแห่งนี้จะมีบรรยากาศคึกคักยิ่งขึ้น
คามาตะยังมีชื่อเสียงในฐานะย่านสมรภูมิราเม็งที่มีร้านราเม็งมากมายแข็งขันกัน ดังนั้น ที่นี่จึงมีราเม็งต้นตำรับที่เจ้าของร้านปรุงขึ้นด้วยความมุ่งมั่นและใส่ใจให้ลิ้มรสกันอย่างแน่นอน ผู้ชื่นชอบราเม็งยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับราเม็งอย่างลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
3. วันที่ 2 ช่วงเช้าตรู่: คาวาซากิไดชิ วัดแก้ชงที่มีความใกล้ชิดกับโคโบไดชิ
คาวาซากิไดชิ (ชื่อทางการคือคงโกซังคินโจอินเฮเก็นจิ - Kongosan Kinjoin Heikenji) เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานกว่า 890 ปี
ใช้เวลาเดินทางจากสถานีคามาตะราว 30 นาที เริ่มต้นนั่งรถไฟสาย JR เคฮินโทโฮคุ (JR Keihin Tohoku Line) ไปที่สถานีคาวาซากิ (Kawasaki) แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสายเคคิวไดชิ (Keikyudaishi Line) และลงที่สถานีคาวาซากิไดชิ (Kawasaki-daishi Line) จากนั้นเดินต่อราว 8 นาที
ทางเดินเข้าวัดติดกับคาวาซากิไดชิมีนากามิเซะโชเท็นไกหรือย่านการค้านากามิเซะ (Nakamise Shopping Street) ที่จำหน่ายสินค้าต่างๆ เช่น ตุ๊กตาดารุมะแก้ชง ขนมวากาชิ (ขนมนญี่ปุ่นดั้งเดิม) รสหวาน และขนมเซ็มเบ้
โดยเฉพาะของที่อยากแนะนำคือ คุซุโมจิซึ่งรับประทานโดยราดด้วยและคุโรมิตสึ (น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง) แล้วโรงผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลืองคั่วบด) นอกจากนี้ยังมีของอร่อยรสเลิศมากมายที่สามารถเดินรับประทานได้ ดังนั้นจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเที่ยวชมได้อย่างเต็มที่จนกระทั่งถึงคาวาซากิไดชิ
คาวาซากิไดชิสร้างขึ้นในปี 1128 (ปีไทจิที่ 3) มีไดฮนโด (โบสถ์หลักหลังใหญ่) ที่สักการะรูปปั้นของโคโบไดชิ คูไคโชนิน ผู้ก่อตั้งศาสนาพุทธนิกายชินกอนหรือนิกายมนตรยาน
ทุกวันที่คาวาซากิไดชิจะมีการจัดพิธีโกมะคิโต (พิธีสวดมนต์ปัดเป่าความทุกข์) เพื่อให้คำอธิษฐานต่างๆ สมปรารถนา รวมถึงการแก้ชง โอโกมะในภาษาอินเดียสมัยเก่าจะออกเสียงว่า โฮมะ ซึ่งแปลว่า "เผา" หมายถึงการเผาไหม้กิเลสหรือความปรารถนาทางโลก (ความยากลำบากและความทุกข์ต่างๆ) ด้วยไฟแห่งปัญญาของพระพุทธ
ในบริเวณยังมีอาคารที่เรียกว่า ฮัคคาคุโกจูโนโตหรือเจดีย์ห้าชั้นทรงแปดเหลี่ยม (เจดีย์จูโต) เป็นเจดีย์ห้าชั้นหลังคาแปดเหลี่ยม ทรงแปดเหลี่ยมนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรูปทรงของอาคารที่ใกล้เคียงวงกลมมากที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของ "พลังโอบอุ้ม" และ "ความสมบูรณ์แบบ" ด้วย
4. วันที่ 2 ช่วงเช้า: สถานีโนโบริโตะ สุดน่ารัก
สถานีโนโบริโตะ (Noborito) ซึ่งมีรถไฟสาย JR และรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu Line) วิ่งผ่าน เป็นสถานีที่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ เมืองคาวาซากิ (Fujiko・F・Fujio Museum, Kawasaki City) ที่สุด คนไทยมักเรียกที่นี่ติดปากกันว่า พิพิธภัณฑ์โดราเอมอน
เมื่อนั่งรถไฟสายโอดะคิวมาลงที่สถานีโนโบริโตะ จะสังเกตเห็นว่าส่วนต่างๆ ของสถานีได้รับการตกแต่งด้วยการออกแบบในธีมของ "โดราเอมอน"
ภายในสถานีได้รับการออกแบบด้วยลวดลายต่างๆ เกี่ยวกับโดราเอมอนเป็นต้นว่าประตูตรวจตั๋วที่ทาสีซึ่งชวนให้นึกถึงโดราเอมอน ป้ายชื่อสถานีโนโบริโตะที่มีรูปกระดิ่งห้อยคอโดราเอมอน ห้องน้ำ ตู้เก็บของ และอื่นๆ
ลิฟต์ที่สถานีก็ได้รับการออกแบบด้วยลวดลาย "ประตูไปที่ไหนก็ได้" ของวิเศษที่ปรากฏในการ์ตูน เมื่อเข้าไปในประตูนี้จะรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับว่า “สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ทันทีจริงๆ”
นอกจากนั้นยังซ่อนลูกเล่นที่น่าสนใจเล็กๆ ไว้มากมายภายในสถานีโอดะคิวโนโบริโตะ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนดำดิ่งไปสู่โลกของโดราเอมอนได้
ⒸFujiko-Pro・2011 Fujiko-Museum
ด้านนอกสถานีโนโบริโตะมีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของโดรามิจัง ซึ่งเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่องโดราเอมอน ใกล้กับรูปปั้นนี้มีป้ายรถบัสวิ่งตรงไปยัง Fujiko・F・Fujio Museum, Kawasaki City ด้วย
รถบัสทั้งหมดมีการออกแบบ 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีจุดต่างๆ ที่แตกต่างกันอย่างลวดลายของปุ่มที่ใช้กดเวลาลงรถและที่นั่ง
5. วันที่ 2 ช่วงเช้า: Fujiko・F・Fujio Museum, Kawasaki City ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กกัน
Fujiko・F・Fujio Museum, Kawasaki City หรือพิพิธภัณฑ์โดราเอมอนเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ถ่ายทอดโลกและข้อความของอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ผู้สร้างการ์ตูน “โดราเอมอน” สู่ผู้คนหลากหลายรุ่นผ่านภาพวาดต้นฉบับการ์ตูนโดราเอมอนและอื่นๆ
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่มักคิดกันว่ามีแต่นิทรรศการเกี่ยวกับโดราเอมอน แต่ภายในพิพิธภัณฑ์มีการนำเสนอแง่มุมชีวิตของอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะที่ไม่ค่อยรู้จักกัน รวมทั้งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน และกระบวนการต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังผลงานต่างๆ
นอกจาก "โดราเอมอน" การ์ตูนชื่อดังระดับโลก ที่นี่ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับนิทรรศการมากมายที่ยังคงเป็นที่รักของคนรุ่นหลังสืบต่อมา เช่น คิเตเร็ทสึ เจ้าหนูนักประดิษฐ์ และปาร์แมน
ทุกๆ ที่ในพิพิธภัณฑ์จะได้พบกับตัวการ์ตูนที่ผู้คนมากมายคุ้นเคยซึ่งเกิดจากปลายปากกาของอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ
"ฮารัปปะ" สวนกลางแจ้งบนชั้น 3 (Rooftop Playground) มีตัวการ์ตูนอย่างโคโรสุเกะ ปาร์แมน และผีน้อยคิวทาโร่มาปลุกความทรงจำวัยเด็กให้ตื่นขึ้น นอกจากนี้ ด้านในสุดของห้องนิทรรศการบนชั้น 2 ยังมีจุดที่จำลอง "บ่อคนตัดฟืน" หนึ่งในของวิเศษของโดราเอมอนที่ปรากฏอยู่ในการ์ตูน และยังจะได้พบกับ "ไจแอนท์รูปงาม" ที่กลับมาเกิดใหม่ด้วยหน้าตาและจิตใจที่งดงามด้วย
Obage no Q-Taro / ©Fujiko Pro, Fujiko Studio
ที่คาเฟ่ในพิพิธภัณฑ์ มีเมนูยอดฮิตซึ่งมีลวดลายผลงานต่างๆ ที่วาดโดยอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ
ร้านจำหน่ายสินค้าของพิพิธภัณฑ์ (Museum Gift Shop) และมุมของขวัญฟูจิโกะยะ (Gift corner Fujikoya) จัดจำหน่ายขนมและสินค้าออริจินัลของพิพิธภัณฑ์ ไปหาซื้อของฝากที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความทรงจำอันสนุกสนานที่พิพิธภัณฑ์กัน
©Fujiko-Pro
6. วันที่ 2 ช่วงกลางวัน: โทโกชิกินซ่าโชเท็นไก ย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว
โทโกชิกินซ่าโชเท็นไกหรือย่านการค้าโทโกชิกินซ่า (Togoshi Ginza Shopping Street) ใกล้สนามบินฮาเนดะเป็นถนนชอปปิงที่ยาวที่สุดในโตเกียว มีความยาวรวม 1.3 กม.
สามารถเดินทางจากสถานีโทโกชิ (Togoshi) รถไฟโทเอะ (Toei) สายอาซากุสะ (Asakusa) หรือสถานีโทโกชิกินซ่า (Togoshi-Ginza) รถไฟโทคิว (Tokyu) สายอิเคบุคุโระ (Ikegami Line) มาได้
มีชื่อสถานที่หลายแห่งเรียกว่า "○○ กินซ่า" ในส่วนต่างๆ ของญี่ปุ่น แต่กล่าวกันว่าโทโกชิกินซ่าคือต้นแบบของการตั้งชื่อเช่นนี้
ย่านกินซ่าในเขตจูโอ (Chuo) โตเกียวได้รับความเสียหายหนักจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในคันโตเมื่อปี 1923 ว่ากันว่าการที่ย่านนี้ได้รับการเรียกขานว่าโทโกชิกินซ่า ก็เนื่องจากผู้คนในโทโกชิทราบข่าวว่าอาคารในกินซ่าพังทลาย มีซากปรักหักพังและเศษหินเต็มไปหมดไม่รู้จะกำจัดอย่างไร ดังนั้น พวกเขาจึงได้ไปขนเศษหินเหล่านี้แล้วนำมาใช้ซ่อมแซมถนนที่นี่
โทโกชิกินซ่าโชเท็นไกมีร้านค้ามากกว่า 350 ร้านตั้งเรียงราย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเสน่ห์อีกอย่างคือสามารถสนุกกับชอปปิงได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรถ เนื่องจากทุกวันจะมีกำหนดเวลาปลอดรถให้เฉพาะผู้คนสัญจรได้เท่านั้น
หลังรับประทานอาหารอร่อยรสเลิศ ราคาถูก และเพลิดเพลินกับการชมสินค้าจิปาถะแล้ว ก็ไปพักเหนื่อยที่คาเฟ่ได้ ลองแวะมาสนุกเพลิดเพลินที่ย่านการค้าแห่งนี้เหมือนกับชาวเมืองที่อาศัยอยู่ที่นี่กัน
7. วันที่ 2 ช่วงบ่าย: Tennozu Isle หนึ่งในพื้นที่ศิลปะชั้นนำของญี่ปุ่น
Picture courtesy of Warehouse TERRADA © Tennoz Art Festival 2019 งานศิลปะโดย ARYZ, ©Tennoz Art Festival 2021 Art Work by KINJO
พื้นที่รอบสถานีเท็นโนซุไอล์ (Tennozu Isle) ซึ่งมีรถไฟ Tokyo Waterfront Area Rapid Transit (TWR) สายริงไก (Rinkai Line) และรถไฟโมโนเรลวิ่งผ่าน เป็นหนึ่งในพื้นที่ศิลปะชั้นนำของญี่ปุ่น
TERRADA ART COMPLEX I และ TERRADA ART COMPLEX II มีอาร์ตแกลลอรี่ที่จัดแสดงผลงานของศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศอยู่ราว 20 แกลลอรี่
ใกล้ๆ กับแกลเลอรีคอมเพล็กซ์ยังมีคาเฟ่สไตล์หรูหลายแห่ง ทำให้ที่นี่เป็นจุดแวะพักของผู้รักงานศิลป์
WHAT CAFE
Picture courtesy of Warehouse TERRADA
ภายใน WHAT CAFE ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคาเฟ่กับแกลเลอรี มีผลงานมากมายของศิลปินหน้าใหม่จัดแสดงและจำหน่าย ที่นี่ไม่เพียงแค่เพลิดเพลินกับการดื่มชาแต่ยังได้ดื่มด่ำกับโลกแห่งศิลปะด้วย
WHAT CAFE ยังเป็นสถานที่แสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ด้วย การได้แลกเปลี่ยนกับผู้คนมากมายที่แวะมาที่นี่ อาจเป็นโอกาสได้พบเพื่อนศิลปินที่มีความชื่นชอบเหมือนกันก็ได้นะ
ศิลปะสาธารณะกลางแจ้ง
Picture courtesy of Warehouse TERRADA ©Tennoz Art Festival 2019 Artwork by DIEGO Photo by Shin Hamada
Tennozu Isle (เท็นโนซุไอล์หรือเกาะเท็นโนซุ) พื้นที่ศิลปะชั้นนำในภูมิภาคคันโต เป็นย่านที่มีบรรยากาศงดงาม สบายๆ มีสไตล์ เพียงแค่เดินเล่นไปรอบๆ ย่านนี้ก็จะได้ชมผลงานศิลปะต่างๆ
หากแวะมาที่ Tennozu Isle ซึ่งเต็มไปด้วยลวดลายกราฟฟิกสีสันสดใสและจุดถ่ายรูปสวยมากมาย จะรู้สึกราวกับอยู่ในศูนย์กลางการเผยแพร่งานศิลป์และวัฒนธรรมอย่างแน่นอน
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างคอร์สตระเวนเที่ยวสถานที่แนะนำรอบสนามบินฮาเนดะแบบทริป 2 วัน 1 คืน ซึ่งมีทั้งจุดท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดที่สามารถเพลิดเพลินกับอาชิยุ เขตคามาตะย่านสมรภูมิราเม็งที่ยังคงบรรยากาศบ้านเมืองแบบเก่า และโทโกชิกินซ่าโชเท็นไก
ลองนำบทความนี้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงแล้วไปสนุกกับค้นพบแง่มุมต่างๆ ที่หลากหลายของโตเกียวที่มีทั้งความเก่าและความใหม่ผสมผสานกัน
Written by Lin
Sponsored by Ota Ward, Shinagawa Ward, Kawasaki City
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง