5 กิจกรรมในอิบารากิที่สามารถจองออนไลน์ได้! ทั้งการปีนเขา ไคเซกิเรียวริ และกิจกรรมขุดรากบัว

ไปสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นในอิบารากิ (Ibaraki) กัน

Photo by Pixta
จังหวัดอิบารากิขึ้นชื่อในเรื่องพระอาทิตย์ขึ้นที่ศาลเจ้าโออาไร อิโซซาคิ (Oarai Isosaki Shrine) และเนินเขาดอกเนโมฟีลาสีน้ำเงิน (ดอกเบบีบลูอายส์) ที่ฮิตาจิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางใกล้กรุงโตเกียวที่น่าตื่นเต้นที่สุด

จังหวัดอิบารากินอกจากทิวทัศน์สวยงามก็ยังมีเสน่ห์อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากจะพรั่งพร้อมไปด้วยอาหารทะเลและอาหารป่า รวมทั้งอาหารเลิศรสมากมาย ยังเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะไปสนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสัมผัสกิจกรรมงานหัตถกรรมพื้นบ้านด้วย

บทความนี้จะพาไปรู้จัก 5 กิจกรรมแนะนำในอิบารากิที่สามารถจองทางออนไลน์ได้

สารบัญ: กิจกรรมทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่แนะนำในอิบารากิ

1. ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาซึมิกาอุระและกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ขุดรากบัว
2. กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารกลางวันแบบไคเซกิเรียวริและพิธีชงชาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น HANAMIYAKO
3. ทัวร์ชมสตูดิโอเครื่องเขินและแกลเลอรีพร้อมไกด์ในไดโกะมาจิ
4. ทัวร์ปีนเขาทสึคุบะพร้อมไกด์
5. คอร์สจับคู่อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับสาเกที่ SUDOHONKE โรงกลั่นสาเกที่เก่าแก่

1. ทัวร์ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาซึมิกาอุระและกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ขุดรากบัวสุดเพลิดเพลิน

Picture courtesy of Rakuten Travel
ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ (Lake Kasumigaura) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตของผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยาน มีเส้นทางจักรยานเลียบทะเลสาบ สามารถปั่นจักรยานพร้อมเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบและบริเวณโดยรอบได้

จังหวัดอิบารากิยังเป็นแหล่งปลูกรากบัวอันดับ 1 ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะพื้นที่นี้ถือเป็นแหล่งปลูกรากบัวชื่อดังของท้องถิ่น

ทัวร์นี้จะปั่นจักรยานเลียบทะเลสาบคาซึมิกาอุระและสัมผัสประสบการณ์ขุดรากบัวที่ฟาร์มท้องถิ่น ฤดูเก็บรากบัวส่วนใหญ่อยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว ดังนั้นทัวร์นี้จะให้บริการในช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคมเท่านั้น

Picture courtesy of Rakuten Travel

ทัวร์นี้จะเริ่มต้นโดยรวมตัวกันที่ศูนย์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเมืองคาซึมิกาอุระ (Kasumigaura City Cultural Exchange Center) ในตอนเช้าเวลา 10:30 น. ไกด์จะอธิบายรายละเอียดทัวร์และเช่าจักรยานกัน (* เฉพาะภาษาอังกฤษอย่างง่ายแก่ชาวต่างชาติได้เท่านั้น)

Picture courtesy of Rakuten Travel

หลังปั่นจักรยานรอบทะเลสาบราว 1 ชั่วโมง ก็จะย้อนกลับไปรับประทานอาหารกลางวันที่ Kasumigaura City Cultural Exchange Center ขอแนะนำเมนูอาหารกลางวันชุดข้าวโคฮันยอดฮิตที่ร้านคาซุมิคิกเช่น (Kasumi Kitchen)

Picture courtesy of Rakuten Travel

หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็จะขึ้นจักรยานปั่นมุ่งหน้าไปยังทุ่งนาใกล้ๆ เพื่อทำกิจกรรมขุดรากบัวกัน

เมื่อเปลี่ยนชุดแล้วเราจะลงไปในทุ่งรากบัวที่ชุ่มน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่เกษตรกรในบริเวณใกล้เคียงคอยช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่จะสอนวิธีหารากบัวและช่วยดึงรากบัวออกให้

กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ขุดรากบัวในทุ่งรากบัวนั้นสนุกมาก จนเวลาผ่านไปเมื่อไรไม่รู้เลย

รากบัวมีรูกลวง ถือเป็นอาหารมงคลที่สื่อถึงอนาคตที่ราบรื่นสดใส Photo by Pixta

กิจกรรมขุดรากบัวใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 15 นาที เมื่อกลับมาที่ Kasumigaura City Cultural Exchange Center ไกด์จะสอนวิธีการปรุงอาหารด้วยรากบัว และสามารถลองชิมได้เลย (* รูปด้านบนเป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น อาหารที่ปรุงจริงๆ จะต่างออกไป) ในศาสนาพุทธกล่าวกันว่าดอกบัวจะบานในดินแดนที่สะอาดบริสุทธิ์ ดังนั้นในญี่ปุ่นรากบัวจึงถือเป็นวัตถุดิบมงคล

ทัวร์นี้ใช้เวลาราว 6 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเพิ่มพูนความรู้ด้านอาหารญี่ปุ่นให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับอากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์งดงามของทะเลสาบคาสุมิงาอุระ (*1) กรุณาดูรายละเอียดทัวร์ที่ลิงก์ด้านล่าง

คลิกที่นี่เพื่อจองทัวร์ปั่นจักรยานรอบทะเลสาบคาซึมิกาอุระและกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ขุดรากบัว

*1: ค่าบริการทัวร์รวมค่าเช่าจักรยาน กิจกรรมขุดรากบัว ชิมอาหารจากรากบัว และค่ามัคคุเทศก์แล้ว แต่ไม่รวมค่าอาหารกลางวัน ค่าห้องอาบน้ำ และค่าที่พัก

2. กิจกรรมสัมผัสประสบการณ์รับประทานอาหารกลางวันแบบไคเซกิเรียวริและพิธีชงชาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น HANAMIYAKO ไปเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศกัน

Picture courtesy of Rakuten Travel

HANAMIYAKO (ฮานามิยาโกะ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตในเมืองฮิตาจินากะ (Hitachinaka) ให้บริการไคเซกิเรียวริที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงของจังหวัดอิบารากิ

Picture courtesy of Rakuten Travel

กิจกรรมนี้สามารถเพลิดเพลินกับคอร์สอาหารกลางวันแบบไคเซกิเรียวริและประสบการณ์พิธีชงชาโดยไทโชซัง (เจ้าของร้าน) นอกจากนี้ โอคามิซัง (คุณนายเจ้าของร้าน) จะสอนวิธีใช้ตะเกียบและเครื่องมือเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ใช้ใน HANAMIYAKO ผ่านการเวิร์กชอปแบบง่ายๆ

ไคเซกิเรียวริคืองานศิลปะชิ้นเล็กๆ ที่แต่ละจานจะแสดงถึงฤดูกาล นอกจากอาหารทะเลและเนื้อวัวฮิตาจิซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อของอิบารากิ ยังปรุงโดยใช้ผักและผลไม้ท้องถิ่นของฤดูกาลที่ดึงความอร่อยตามธรรมชาติออกมาให้ได้มากที่สุด

ปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่างจากองค์การยูเนสโก เมื่อได้รับประทานอาหารเมนูนี้จะเข้าใจถึงเหตุผลดังกล่าว

สำหรับกิจกรรมนี้ เมื่อจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คู่กับอาหารเมนูนี้ได้ด้วย สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีเครื่องดื่มที่เข้ากันได้ดีกับอาหาร โดยหลักๆ แล้วจะเป็นสาเกกับไวน์

ที่ห้องชงชา "เซ็นชินอัน" ในร้าน เจ้าของร้านจะให้การบริการแบบญี่ปุ่นด้วยการเสิร์ฟชาเขียวมัทฉะกับวากาชิ (ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม) ภายในห้องชงชาเต็มไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่นที่ทั้งมีม้วนภาพวาดกระดาษแขวนอยู่ ดอกไม้ตามฤดูกาล และอุปกรณ์ในพิธีชงชาดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเงียบสงบที่สร้างความประทับใจอย่างยิ่ง

คลิกที่นี่เพื่อจองอาหารกลางวันแบบไคเซกิเรียวริและพิธีชงชาที่ HANAMIYAKO

3. ทัวร์ชมสตูดิโอเครื่องเขินและแกลเลอรีพร้อมไกด์ในไดโกะมาจิ ไปสัมผัสความประทับใจในเครื่องเขินญี่ปุ่นกัน

จังหวัดอิบารากิเป็นแหล่งผลิตเครื่องเขินที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากจังหวัดอิวาเตะ (Iwate) โดยเฉพาะไดโกะมาจิ (Daigomachi) และพื้นที่โดยรอบนั้นขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเขินคุณภาพสูงมาก

Picture courtesy of Rakuten Travel

กิจกรรมนี้จะได้ชมช่างฝีมือที่ทำงานอย่างแข็งขัน พร้อมเยี่ยมชมสตูดิโอเครื่องเขินและแกลเลอรี นอกจากยังสามารถทำกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตเครื่องเขิน (*2) และยังสามารถใช้เครื่องเขินเพื่อลิ้มรสชา ซุป สาเก และอื่นๆ ได้ด้วย เมื่อได้ล่องใช้เครื่องเขินจริงๆ จะสัมผัสได้ถึงความดีเลิศของเครื่องเขินเหล่านี้อย่างแน่นอน

* 2: เนื้อหาของกิจรรมสัมผัสประสบการณ์การผลิตเครื่องเขินขนาดเล็กจะเปลี่ยนไปตามตารางการผลิตของสตูดิโอ

กิจกรรมนี้จัดโดย Kijian (คิจิอัน) แกลเลอรี่ที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องเขินคุณภาพสูง คุณทสึจิ โทรุ ช่างเครื่องเขินจะบอกเล่าเสน่ห์ของเครื่องเขินในไดโกะมาจิให้ฟัง ไปสัมผัสความยอดเยี่ยมของเครื่องเขินที่ยิ่งใช้ยิ่งเปล่งประกายกันดู

Picture courtesy of Rakuten Travel

ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน เมื่อจ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อยยังสามารถสัมผัสกับการเก็บยางรัก (ที่ใช้ทาเครื่องเขิน) คุณทสึจิจะสอนวิธีเก็บยางรักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมในสวนปลูกต้นรักให้

แกลเลอรีจัดแสดงเครื่องเขินที่ยอดเยี่ยมต่างๆ นอกจากถ้วยชามและถ้วยสาเกทีใช้ในชีวิตประจำวัน ยังมีอุปกรณ์เครื่องเขินที่ใช้ในพิธีชงชา ลองซื้อหาเป็นของฝากหรือของที่ระลึกกันได้เลยนะ

คลิกที่นี่เพื่อจองทัวร์ชมสตูดิโอเครื่องเขินและแกลเลอรีพร้อมไกด์ในไดโกะมาจิ

4. ปีนเขาทสึคุบะพร้อมไกด์ ไปตื่นตะลึกกับตำนานเทพของเขาทสึคุบะกัน

Picture courtesy of Rakuten Travel

เขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba) เป็น 1 ใน ภูเขาชื่อดังของญี่ปุ่น มียอดเขา 2 แห่ง ได้แก่ เขาเนียวไต (Mt. Nyotai) และเขานันไต (Mt. Nantai) ที่จัดเตรียมเส้นทางปีนเขาเป็นอย่างดี ดังนั้น ทั้งมือใหม่จนถึงมือโปรในการปีนเขาก็สามารถสนุกกับการปีนเขาได้ นอกจากนี้ เขาทสึคุบะซึ่งถือกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยโบราณ ยังมีหินรูปร่างแปลกตาและศาลเจ้าที่สักการะเทพเจ้าต่างอยู่มากมายด้วย

กิจกรรมของที่นี่คือทัวร์ปีนเขาทสึคุบะครึ่งวันแบบกำหนดเองซึ่งนำทางโดยไกด์มากประสบการณ์ที่ปีนเขามาแล้ว 400 ครั้ง เป็นกิจกรรมที่มือใหม่ไปจนถึงมือโปรในการปีนเขาสามารถสนุกเพลิดเพลินได้ตามความต้องการ

ไกด์เป็นคนท้องถิ่นที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาทสึคุบะ จะให้ข้อมูลที่ไม่สามารถหาได้โดยการปีนเขาทั่วไป ทั้งนำทางไปยังเส้นทางลับและจุดชมทิวทัศน์สวย รวมถึงเล่าตำนานและนิทานปรับปราเกี่ยวกับเขาทสึคุบะให้ฟัง

Picture courtesy of Rakuten Travel

เส้นทางต้นแบบสำหรับทัวร์ปีนเขา เช่น หลังรวมตัวกับไกด์ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเขาทสึคุบะ (Mt. Tsukuba Tourist Information) อันดับแรก ไปสักการะศาลเจ้าทสึคุบะซัง (Tsukubasan Shrine) ซึ่งบูชาเทพผู้พิทักษ์เขาสึคุบะ จากนั้นขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปยังยอดเขาแล้วเดินเล่นรอบเขานันไตและเขาเนียวไต

Picture courtesy of Rakuten Travel

ถึงจะขึ้นเข้าด้วยกระเช้าลอยฟ้า ก็สามารถไปที่เขาเนียวไตและสนุกกับการปีนเขาเต็มรูปแบบได้ เขาเนียวไตนั้นมีระดับการปีนค่อนข้างยาก มีบางจุดที่ต้องปีนขึ้นไปโดยจับโซ่ไว้ด้วย แต่นั่นก็ทำให้ทิวทัศน์บนยอดเขางดงามมาก

เนื่องจากทางมีความลาดชันและชะง่อนผา ดังนั้น ท่านที่เลือกปีนเขาเต็มรูปแบบหรือขึ้นเขาด้วยกระเช้าลอยฟ้า ก็ขอให้สวมรองเท้าปีนเขาจะดีที่สุด

ระยะเวลาของเส้นทางปีนเขานี้ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงกว่า หลังปีนถึงยอดเขา ทิวทัศน์อันงดงามจากยอดเขาจะกลายเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในการมาญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

คลิกที่นี่เพื่อจองทัวร์ปีนเขาทสึคุบะพร้อมไกด์

5. คอร์สจับคู่อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับสาเกที่ SUDOHONKE โรงกลั่นสาเกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น

Picture courtesy of Rakuten Travel

SUDOHONKE (ซุโดฮอนเคะ) เป็นหนึ่งในโรงกลั่นสาเกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในสมัยเฮอัน (ปี 795 - 1185) โรงกลั่นสาเกที่เก่าแก่แห่งนี้เป็นโรงกลั่นสาเกแห่งแรกที่ทำนามะซาเกะ, ฮิยาโอโรชิ (*) และสาเกวินเทจหรือสาเกสไตล์ย้อนยุค สาเกของที่นี่ได้รับรางวัลมากมายจากทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

กิจกรรมนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับการจับคู่สาเกกับอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมในมื้อกลางวันหรือมื้อค่ำ สาเกทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ที่คุณซุโดคัดสรรเอง

สาเกของ SUDOHONKE ทำจากน้ำและข้าวคุณภาพสูงภายใต้การควบคุมอุณหภูมิอย่างละเอียด มีรสชาติที่เต็มเปี่ยม เมื่อได้ดื่มสักครั้งจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน

* นามะซาเกะ, ฮิยาโอโรชิ…นามะซาเกะเป็นสาเกที่ไม่ผ่านกระบวนการทางความร้อนใดๆ ฮิยาโอโรชิเป็นสาเกที่กลั่นในฤดูใบไม้ผลิแล้วผ่านความร้อนเพียงครั้งเดียว จากนั้นจะบ่มในช่วงฤดูร้อนก่อนนำออกจำหน่าย

Picture courtesy of Rakuten Travel

อาหารของที่นี่เป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ใส่ใจในการคัดสรรวัตถุดิบต่างๆ ของอิบารากิ เช่น อาหารทะเล เนื้อวัวฮิตาจิ มันฝรั่ง ฟักทอง และเห็ด ซึ่งเป็นผลิตผลที่ชาวอิบารากิภาคภูมิใจ

Picture courtesy of Rakuten Travel

ผู้เข้าร่วมจะได้ลิ้มลองสาเกญี่ปุ่น 3 แบรนด์ที่ SUDOHONKE คัดสรรมาเป็นพิเศษ เมื่อเปลี่ยนสาเกที่ดื่ม ยิ่งทำให้รสชาติของอาหารโดดเด่นมากขึ้น ไปเพลิดเพลินกับโลกของสาเกและอาหารญี่ปุ่นซึ่งได้รับการยอมรับอย่างสูงจากทั่วโลกผ่านประสบการณ์นี้กัน

หลังมื้ออาหารยังสามารถเพลิดเพลินกับการจับคู่สาเกกับชีสและช็อกโกแลตรสเลิศได้ด้วย

Picture courtesy of Rakuten Travel

การรับประทานอาหารจะจัดเสิร์ฟในห้องทดลองชิมสาเกของ SUDOHONKE ซึ่งอยู่ติดกับโรงกลั่นสาเก เนื่องจากเหตุผลด้านสุขอนามัยและการควบคุมอุณหภูมิในการผลิตนามะซาเกะ จึงไม่สามารถเยี่ยมชมภายในโรงกลั่นได้ แต่สามารถชมสภาพของโรงกลั่นได้จากห้องทดลองชิมสาเกที่อยู่ติดกัน

อย่างไรก็ตาม ส่วนที่น่าจดจำที่สุดของกิจกรรมนี้ย่อมอยู่ที่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ของ SUDOHONKE อย่างแน่นอน ท่านที่ยังไม่มีสาเกที่โปรดปราน อาจพบสาเกที่ชื่นชอบได้ที่ SUDOHONKE แห่งนี้

คลิกที่นี่เพื่อจองคอร์สจับคู่อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกับสาเกที่ SUDOHONKE

ไปเที่ยวอิบารากิที่น่าประทับใจกัน

อิบารากิมีกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์มากมายที่สามารถเพลิดเพลินได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 เช่น สาเกและอาหารญี่ปุ่นรสเลิศ รวมทั้งกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น

อิบารากิยังมีจุดชมวิวมากมาย แต่หากได้เข้าร่วมทัวร์และทำกิจกรรมแนะนำที่นี่ รับรองว่าจะสามารถสร้างความทรงจำที่ล้ำค่ายิ่งขึ้น

ที่นี่มีกิจกรรมให้สัมผัสมากมาย แถมยังเดินทางจากโตเกียวมาได้ง่าย ดังนั้น ลองใช้โอกาสที่ดีเช่นนี้ไปสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักในอิบารากิกัน

Written by Ramona Taranu
Sponsored by Ibaraki Prefecture and Rakuten Travel