แนะนำกิจกรรมและของอร่อยที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ ทะเลใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น ใกล้โตเกียว
ทะเลสาบคาซึมิกาอุระอยู่ในจังหวัดอิบารากิ เดินทางจากโตเกียวมาได้ใน 1 ชั่วโมง เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ที่นี่มีการจับปลาหลากหลายชนิด นำมาแปรรูปเป็นสึคุดานิกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ บทความนี้ขอแนะนำกิจกรรมและที่เที่ยวในละแวกทะเลสาบคาซึมิกาอุระ รวมถึงเสน่ห์ของสึคุดานิ
ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ (Lake Kasumigaura) ที่เที่ยวสุดฮิต เที่ยวทริปแบบไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวได้
ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น ยาว 252 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) เป็นที่เที่ยวสุดฮิตในภูมิภาคคันโตซึ่งเดินทางจากโตเกียวได้ในเวลาราว 1 ชั่วโมง
ในละแวกทะเลสาบคาซึมิกาอุระมีกิจกรรมที่ไม่เหมือนใครมากมายซึ่งจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงาม และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษต่างๆ เช่น การล่องเรือสำราญชมเรือใบโฮบิคิเซ็นที่ท้ากระแสลมอยู่บนทะเลสาบ และการปั่นจักรยานรอบทะเลสาบ
นอกจากนี้ ทะเลสาบคาซึมิกาอุระยังเป็นทะเลสาบน้ำจืด ซึ่งเต็มไปด้วยขุมทรัพย์ของอาหารทะเลที่หลากหลาย เช่น ปลาอากาซากิ ปลาชิราอุโอะ และกุ้ง ทำให้ที่นี่มีบริษัทผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูปมากมาย สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สุดพิเศษที่มีเฉพาะท้องถิ่นนี้ได้
บทความนี้ขอแนะนำกิจกรรมสุดฮิตที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ ของอร่อยในท้องถิ่น ร้านจำหน่ายของฝาก และอื่นๆ
กิจกรรมแนะนำที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ:
1. เรือใบโฮบิคิเซ็น
เรือใบโฮบิคิเซ็น (Hobikisen) เป็นเรือประมงไม้แบบดั้งเดิมที่มีใบเรือสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งผู้คนที่นี่เคยใช้จับปลาในบริเวณนี้กัน โดยใช้พลังลมที่ใบเรือได้รับดึงอวนที่วางไว้ในน้ำขึ้นมา มีบทบาทสำคัญในฐานะเรือใบโฮบิคิเซ็นจึงดาวเด่นที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในวงการอุตสาหกรรมประมงที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระมาตั้งแต่ช่วงปี 1880 - 1967 นับเป็นเวลาที่ยาวนานเกือบ 90 ปีเลยทีเดียว
เนื่องจากปัจจุบัน การประมงของที่นี่ใช้เรือยนต์เป็นหลัก เรือใบโฮบิคิเซ็นจึงไม่ได้ใช้สำหรับการประมงอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ความงดงามของตัวเรือเมื่อกางใบ และภาพลักษณ์อันสง่างามในการทำประมงยังคงไม่เลือนหายไป ปัจจุบันเรือใบโฮบิคิเซ็นได้เปลี่ยนบทบาทจากดาวเด่นในการประมงไปเป็นผู้มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวทะเลสาบคาซึมิกาอุระอันสุดวิเศษซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวมากๆ
ชาวประมงที่มีทักษะเชี่ยวชาญจะทำหน้าที่กางใบเรือและพาเรือใบโฮบิคิเซ็นล่องไปในทะเลสาบ
นักท่องเที่ยวสามารถนั่งซุยฮันเซ็นหรือเรือติดตาม (เรือสำราญนำเที่ยว) ที่แล่นตามเรือใบโฮบิคิเซ็น และชมภาพอันตระการตาสุดประทับใจของใบเรือสีขาวตัดกับท้องฟ้าสีครามได้
ซุฮันเซ็น (เรือติดตาม) จะแล่นวนรอบเรือโฮบิกิ โดยเฉพาะตอนที่ใบเรือรับลมเต็มที่นั้น เป็นภาพสุดอลังการที่ตราตรึงใจ ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้มาก
ถ้าเตรียมกล้องพร้อมแล้ว ก็ไปเพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดประทับใจแบบจุใจในช่วงเวลาราว 30 นาทีนี้กัน
เรือใบโฮบิคิเซ็นให้บริการในวันอาทิตย์ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วันก่อนวันออกเรือที่เว็บไซต์ทางการของสมาคมการท่องเที่ยวเมืองคาซึมิกาอุระ (Kasumigaura City Tourist Association)
กิจกรรมแนะนำที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ:
2. ปั่นจักรยาน
Photo by Pixta
หนึ่งในกิจกรรมที่ต้องลองเมื่อมาที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระคือ การปั่นจักรยานบน Ring Ring Square Tsuchiura เส้นทางปั่นจักรยานสุดฮิตในจังหวัดอิบารากิ
สามารถสัมผัสประสบการณ์การปั่นจักรยาน และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงาม ในเส้นทางปั่นจักรยานยาวรวม 180 กิโลเมตร ที่ครอบคลุมทะเลสาบคาซึมิกาอุระด้วย
สามารถเช่าจักรยานได้ที่ Ring Ring Square Tsuchiura ซึ่งเชื่อมตรงกับสถานี JR ทสึจิอุระ (JR Tsuchiura) มีเส้นทางปั่นจักรยานหลากหลายให้เลือก ทั้งเส้นทางเรียบง่ายไปจนถึงเส้นทางสูงชันที่น่าท้าทายสำหรับนักปั่นมือโปร
สวนคาซึมิกาอุระที่สามารถชมทิวทัศน์ดอกทิวลิปในฤดูใบไม้ผลิ; Photo by Pixta
นอกจากนี้ตลอดเส้นทางปั่นจักรยานยังมีจุดชมวิวมากมาย เช่น สวนอายุมิซากิ (Ayumizaki Park) ที่สามารถมองเห็นเรือใบโฮบิคิเซ็นที่ท้าลมบนทะเลสาบคาซึมิกาอุระ และสวนคาซึมิกาอุระ (Kasumigaura Park) อันงดงามที่มีกังหันลมเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนและห้องน้ำสาธารณะด้วย จึงสามารถสนุกกับการปั่นจักรยานได้เต็มที่โดยไม่ยากลำบาก
สึคุดานิ อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ ที่ต้องลิ้มลองเมื่อมาทะเลสาบคาซึมิกาอุระ
สึคุดานิของ ONUMA SUISAN
เมื่อไปเที่ยวทะเลสาบคาซึมิกาอุระ ของอร่อยที่ต้องลิ้มลองก็คือสึคุดานิ (Tsukudani) อาหารทะเลแปรรูปที่มีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น
สึคุดานิเป็นอาหารแห้งแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เก็บไว้กินได้นาน ซึ่งถนอมอาหารโดยนำปลาตัวเล็กหรืออาหารทะเลอื่นๆ มาเคี่ยวกับโชยุและน้ำตาล เป็นของอร่อยที่ชาวญี่ปุ่นต่างชื่นชอบกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ว่าจะโรยบนข้าวหรือนำมาใช้ทำข้าวปั้นก็อร่อยมากๆ
โดยเฉพาะบริเวณทะเลสาบคาสึมิกาอุระซึ่งจับปลาตัวเล็กได้มาก ได้มีการพัฒนาวิธีการทำสึคุดานินี้สืบต่อกันมา
บริษัท โอนุมะซุยซัง (ONUMA SUISAN) ก่อตั้งเมื่อปี 1904 เป็นหนึ่งในบริษัทที่แปรรูปและจำหน่ายสึคุดานิในบริเวณทะเลสาบคาซึมิกาอุระ
ในช่วงแรกที่ก่อตั้งบริษัทที่ยังไม่มีการพัฒนาเทคนิคการแปรรูปและการถนอมอาหาร จึงนำปลาที่จับได้ไปต้มในน้ำเกลือ ตากแดด แล้วนำมาจำหน่าย ต่อมา เมื่อโชยุกับน้ำตาลหาซื้อง่ายขึ้น จึงมีการนำมาทำสึคุดานิอย่างจริงจัง
สึคุดานิที่ ONUMA SUISAN ผลิตมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถจัดเก็บด้วยการแช่เย็นหรือแช่แข็งได้
โดยปกติ จะมีการเคี่ยวสึคุดานิเป็นเวลานานเพื่อขจัดน้ำหรือความชื้นจากปลาออกไป จึงสามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ แต่สึคุดานิแบบนี้มักจะมีรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสแข็ง
คุณโอนุมะ โทชิยะ กรรมการผู้จัดการของ ONUMA SUISAN กล่าวว่า
“ผู้ค้าส่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต และผู้ค้าปลีกรายใหญ่นั้น แทนที่เลือกสึคุดานิที่ความอร่อย ส่วนใหญ่มักเลือกสึคุดานิที่จัดการง่าย สามารถจำหน่ายที่อุณหภูมิห้องได้โดยไม่ต้องแช่เย็น”
“แต่บริษัทของเราพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แม้แต่ผู้สูงอายุก็กินได้สบายๆ อาจจัดการยากสักนิด แต่อร่อยและกินง่าย จึงมีลูกค้าที่ติดใจและกลับมาซื้อซ้ำกัน”
Picture courtesy of ONUMA SUISAN
อันที่จริง สึคุดานิยังได้รับความนิยมในหมู่ผู้สูงวัยที่กังวลเรื่องสุขภาพหรือมีปัญหาในการรับประทานอาหารแข็งด้วย
สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ONUMA SUISAN ได้พัฒนาสึคุดานิที่นุ่ม รับประทานง่าย ดีต่อร่างกายที่สุด และใช้เวลาเคี่ยวน้อย
Wakasagi Ameni (ปลาวาคาซากิหวาน) โดยอาเมนิ (Ameni) เป็นสึคุดานิชนิดหนึ่ง
สึคุดานิที่ใช้ปลาวาคาซากิซึ่งเป็นผลิตผลในท้องถิ่นของทะเลสาบคาซึมิกาอุระ คือสุดยอดผลิตภัณฑ์ที่สามารถดื่มด่ำกับความนุ่มนวลของเนื้อปลาสุดแสนอร่อย เมื่อตักเข้าปาก รสหวานเค็มของโชยุกับน้ำตาลก็กระจายไปทั่วปาก
แม้เป็นปลาตัวเล็ก แต่เนื้อเยอะ กินกับข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันได้ดี อร่อยสุดๆ
Shirasu-Kurumi (ปลาชิราซุหวานผสมวอลนัท) ซ้ายบน, Shijimi-Umani (หอยชิจิมิหวานกับขิงสับ) ขวาบน, Namaami-Tsukudani (กุ้งเคยหวาน) ล่าง
นอกจากสึคุดานิที่ทำจากปลาอาคาซากิ ONUMA SUISAN ยังจำหน่ายสึคุดานิที่ทำจากกุ้งฝอย สาหร่ายคอนบุ หอยอาซาริ (หอยลาย) นามะอามิ (กุ้งเคยสด ที่บ้านเราใช้ทำกะปิ) และอื่นๆ ด้วย สึคุดานิที่ทำจากปลาชิราซุ (ปลาข้าวสารญี่ปุ่น), ปลาโคนาโกะ และปลาตัวเล็กอื่นๆ แบบที่ผสมวอลนัทซึ่งมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ เป็นผลิตภัณฑ์แนะนำสำหรับผู้ที่ลิ้มลองสึคุดานิเป็นครั้งแรก
ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถหาซื้อได้ในราคาสุดคุ้มที่ร้านจำหน่ายโดยตรงของ ONUMA SUISAN ซึ่งอยู่ติดกับโรงงานแปรรูป
* ทั้งอาเมนิ (เคี่ยวหวาน) และคันโรนิ (เคี่ยวสามรส) ล้วนเป็นสึคุดานิที่เน้นรสหวานเป็นหลัก
Kasumi KITCHEN และ Kasumi MARCHE แหล่งของอร่อยที่ต้องแวะ เมื่อมาเที่ยวทะเลสาบคาซึมิกาอุระ
Kasumi KITCHEN (คาซึมิคิทเช่น) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคาซึมิกาอุระ เป็นร้านที่สามารถลิ้มลองของอร่อยที่รังสรรค์ขึ้นจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเมืองคาซึมิกาอุระ
ด้วยแนวคิด "การผลิตในท้องถิ่นเพื่อการบริโภคในท้องถิ่น x เพื่อสุขภาพ" ที่นี่จึงรังสรรค์ของอร่อยจากของขึ้นชื่อในท้องถิ่นของทะเลสาบคาซึมิกาอุระ
Picture courtesy of Kasumigaura Miraidukuri Company Co., Ltd.
เมนูที่ผู้เขียนได้ลองชิมในครั้งนี้คือ นามะชินเซ็นชิราอุโอะด้ง (ข้าวหน้าปลาชิราอุโอสด) ที่เสริฟปลาชิราอุโอะตัวขาวอ้วนมาให้แบบจัดเต็ม
เนื้อสัมผัสของปลาชิราอุโอะที่นุ่มเด้ง เมื่อรับประทานคู่กับโชยุและขิงนั้นอร่อยเกินต้าน เนื้อปลาไม่คาวเลย แม้ผู้ที่รับประทานปลาชิราอุโอะสดๆ เป็นครั้งแรก ก็รับประทานได้สบายๆ
Kasumi KITCHEN ยังมีเมนูต่างๆ อีกมากมาย เช่น โคยโนะเมนจิคัตสึเบอร์เกอร์ (เบอร์เกอร์เนื้อปลาคาร์ฟสับชุปเกล็ดขนมปังทอด) และฮิตาจิกิวโนะกิวซุจิคาเระ (ข้าวแกงกระหรี่เอ็นเนื้อวัวฮิตาจิวากิว) ซึ่งทำจากเนื้อวัวฮิตาจิวากิว (Hitachi Wagyu Beef) แบรนด์เนื้อวัวชื่อดังที่จังหวัดอิบารากิภูมิใจนำเสนอ
เมื่อท้องอิ่มแล้ว ขอแนะนำให้แวะซื้อของฝากสำหรับตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่ร้าน Kasumi MARCHE ซึ่งอยู่ติดกับ Kasumi KITCHEN
นอกจากอาหารทะเลแล้ว ทะเลสาบคาซึมิกาอุระยังมีของขึ้นชื่อในท้องถิ่นอื่นๆ เช่น รากบัว Kasumi MARCHE จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อในท้องถิ่นมากมายที่ทำจากผักและผลไม้สดๆ ที่ผลิตได้ในละแวกทะเลสาบคาซึมิกาอุระแห่งนี้
สินค้าใน Kasumi MARCHE ยังจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์เช่นกัน ดังนั้นจึงสามารถซื้อของอร่อยที่ชื่นชอบได้บ่อยตามต้องการ
ยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ละแวกทะเลสาบคาซึมิกาอุระซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น มีที่เที่ยวสุดฮิตของจังหวัดอิบารากิมากมาย
Photo by Pixta
เช่น เมืองอุชิคุ (Ushiku) เป็นที่ตั้งของพระใหญ่อุชิคุหรืออุชิคุไดบุทสึ (Ushiku Daibutsu) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น สูง 120 เมตร ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊คว่าเป็น “Tallest Buddha” พระพุทธรูปปางประทับยืนทองสัมฤทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ภายในองค์พระใหญ่มีห้องต่างๆ ให้ได้สัมผัสมุมมองในโลกของพุทธศาสนา ส่วนด้านนอกองค์พระใหญ่ ก็สามารถเพลิดเพลินกับสวนสัตว์และสวนสวยๆ ได้
นอกจากนี้ เมื่อนั่งรถบัสจากพระใหญ่อุชิคุไปเพียง 5 นาทียังมี Ami PREMIUM OUTLETS® (อามิ พรีเมียม เอาท์เล็ทส์) ด้วย ทำให้ที่นี่มาเที่ยวแล้วไปชอปปิงต่อได้เลย
Photo by Pixta
นอกจากนี้ เขาทสึคุบะ (Mt.Tsukuba) ในเมืองทสึคุบะ (Tsukuba) ยังเป็นที่รู้จักในฐานะภูเขาชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งนักปีนเขามือโปรหรือแม้แต่มือใหม่ก็สามารถปีนได้ง่าย และยังมีโรปเวย์ที่สามารถดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีกิจกรรมและสถานที่ซึ่งสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้ เช่น งานแข่งขันประกวดดอกไม้ไฟแห่งชาติ ทสึจิอุระ (Tsuchiura All Japan Fireworks Competition) ซึ่งว่ากันว่าเป็น 1 ใน 3 งานแข่งขันประกวดดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และสวนฟูจิมิซึกะโคฟุน (Fujimizuka Kofun Park) ที่จะได้เห็นสุสานรูปรูกุญแจ ซึ่งว่ากันว่าสร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 6
ไปสร้างความทรงจำในการท่องเที่ยวอันแสนวิเศษที่ทะเลสาบคาซึมิกาอุระ ด้วยของอร่อยและกิจกรรมต่างๆ กัน
Written by nagino.an
Sponsored by Reconstruction Fishery Processing Industry Market Recovery Promotion Center
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง