เราถามชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่น! 6 สถานที่ห้ามพลาดในภูมิภาคนันโยะของจังหวัดเอฮิเมะ

สถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคนันโยะของจังหวัดเอฮิเมะที่แนะนำโดยชาวต่างชาติ!

ภูมิภาคนันโยะของจังหวัดเอฮิเมะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของชิโกกุ เป็นที่ตั้งของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ และสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวยังไม่เคยไปเยี่ยมชม จึงเป็นภูมิภาคที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางรอบญี่ปุ่นแบบสบายๆ อย่างแน่นอน

ในบทความนี้ เราได้ถาม Jason จากอังกฤษ ผู้สอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนประถมในฐานะผู้ช่วยครูสอนภาษาต่างประเทศ (ALT) ในเขตนันโยะ จังหวัดเอฮิเมะ และจาร์รอนจากตรินิแดดและโตเบโกเกี่ยวกับสถานที่โปรดของพวกเขา!

• สารบัญ
• แนะนำโดย Jason จากสหราชอาณาจักร!
• เจสันแนะนำ! ภูเขาไฟฟูจิ (เมืองโอซุ)
• เจสันแนะนำ! วัดเนียวโฮจิ (เมืองโอซุ)
• เจสันแนะนำ! ซากปราสาทคาโงโมริ (เมืองมัตสึโนะ)
• แนะนำโดย Jarron จากตรินิแดดและโตเบโก!
• จาร์รอนแนะนำ! การิว ซันโซ
• จาร์รอนแนะนำ! ปราสาทโอสุ
• จาร์รอนแนะนำ! สึนาคาเคอิวะ

แนะนำโดย Jason จากสหราชอาณาจักร!

ก่อนอื่น เจสันจากอังกฤษเป็นผู้แนะนำให้เรารู้จักสถานที่แนะนำในนันโยะ เขาสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนประถมในเมืองโอซุในฐานะผู้ช่วยครูสอนภาษา (ALT) ฉันมักจะขับรถไปกับเพื่อน ๆ และท่องเที่ยวไปทั่วภูมิภาคนันโยะของจังหวัดเอฮิเมะ เขาแนะนำสามจุดนี้

เจสันแนะนำ! ภูเขาไฟฟูจิ (เมืองโอซุ)

สถานที่แรกที่เจสันแนะนำคือภูเขาไฟฟูจิ! ดอกอาซาเลียประมาณ 60,000 ต้นจะบานสะพรั่งตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ทำให้ยอดเขากลายเป็นสีชมพู นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขาที่คุณสามารถมองเห็นเมืองโอซุและแม่น้ำฮิจิคาวะที่ไหลผ่านโอซุ ในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ พื้นที่รอบๆ ยอดเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์

▼ความคิดเห็นของ Jason ฉันชอบดอกอาซาเลียที่บานสะพรั่งสวยงามในฤดูใบไม้ผลิเป็นพิเศษ! บนยอดเขาคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของโอซุ

โทมิสุยามะ

795-0063 ทากุจิ เมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ

ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกอาซาเลียกว่า 60,000 ต้นจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูด้านบน สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะที่ด้านบนซึ่งเป็นสถานที่สำหรับคนในท้องถิ่นได้พักผ่อน

เจสันแนะนำ! วัดเนียวโฮจิ (เมืองโอซุ)

สถานที่ต่อไปที่เจสันแนะนำคือวัดเนียวโฮจิ! วัดเนียวโฮจิเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานซึ่งมีหลุมศพของขุนนางศักดินาแห่งเมืองโอซุด้วย วัดพุทธในภาพนี้สร้างขึ้นในปี 1670 และถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น นอกจากนี้ มอสยังเจริญเติบโตอยู่ทั่วบริเวณ ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ
*เมื่อเดินไปรอบๆ วัดเนียวโฮจิ ระวังอย่าเหยียบตะไคร่น้ำ

▼ความคิดเห็นของ Jason ฉันชอบไปเที่ยว Nyohoji ในวันที่ฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ! ฝนตกทำให้วัดเนียวโฮจิและป่าไม้ส่องสว่างอย่างสวยงาม ฉันยังชอบบรรยากาศที่เงียบสงบเพราะปกติแล้วไม่มีผู้คนอยู่รอบๆ!

วัดเนียวโฮจิ

795-0011 943 ยูซึกิ เมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ

วัดนี้เป็นของนิกายเมียวชินจิของนิกายรินไซ ซึ่งสร้างขึ้นโดยยาสุโอกิ คาโตะ ขุนนางคนที่สองของแคว้นโอซุ ในฐานะผู้ก่อตั้งบันเคอิ เอตาคุ หอพุทธของวัดเนียวโฮจิมีโครงสร้างที่แปลกตาซึ่งเพิ่มเป็นสองเท่าของเซนโด พระศากยมุนี เนียวไร พระพุทธองค์หลักประดิษฐานอยู่ตรงกลางอาคาร ทำให้เป็นพื้นที่สำหรับหอพุทธ แต่ทั้งสองด้านมีเสื่อทาทามิ เสื่อสำหรับพระภิกษุปฏิบัติธรรม มีพื้นที่จัดไว้ให้ วัดพุทธยังได้รับเลือกให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติอีกด้วย

เจสันแนะนำ! ซากปราสาทคาโงโมริ (เมืองมัตสึโนะ)

ในที่สุด เจสันก็แนะนำซากปราสาทคาโงโมริในเมืองมัตสึโนะ แม้ว่าปราสาทคาโงโมริจะไม่มีหอคอยปราสาท แต่ก็เป็นซากปรักหักพังของปราสาทที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 1500 และล้อมรอบด้วยแม่น้ำสามสาย เนินเขาแห่งนี้ได้รับความนิยมเป็นเส้นทางเดินป่า เหนือสิ่งอื่นใดไฮไลท์อยู่ที่วิวจากด้านบน! เมืองมัตสึโนะเป็นหนึ่งในพื้นที่ท้องถิ่นที่สุดในเอฮิเมะ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันเงียบสงบได้

▼ความเห็นของเจสัน

"การเดินป่าในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนเยี่ยมมาก! สิ่งที่ฉันชอบคือคอกม้าที่คุณพบตลอดทาง คุณสามารถเขียนชื่อของคุณลงในสมุดบันทึกขนาดเล็กเพื่อรำลึกถึงช่วงเวลาที่คุณอยู่ที่นั่น ยอดเขามองเห็นเมืองมัตสึโนะและเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปิกนิก! "

แนะนำโดย Jarron จากตรินิแดดและโตเบโก!

คนต่อไปที่แนะนำฉันคือจาร์รอนจากตรินิแดดและโตเบโก ฉันเป็นผู้ช่วยสอนภาษาต่างประเทศ (ALT) ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นทุกวันและกระตือรือร้นมากจนสามารถพูดคุยเป็นภาษาญี่ปุ่นได้เล็กน้อย! นี่คือ 3 สถานที่ที่เขาแนะนำ!

จาร์รอนแนะนำ! การิว ซันโซ

ของโปรดของจาร์รอนคือ การิว ซันโซในเมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ การิวซันโซเป็นหนึ่งในอาคารที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น การิว ซันโซะถูกสร้างขึ้นโดยพ่อค้าในท้องถิ่นเพื่อใช้เป็นบ้านพักคนชรา และใช้เวลาประมาณ 10 ปีในการสร้างนับตั้งแต่ประมาณปี 1897 อาคารที่มีชื่อเสียงแห่งนี้คือการแสดงออกถึงความรู้สึกด้านสุนทรียศาสตร์ของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และความใส่ใจในรายละเอียดก็ยังคงอยู่ในนั้น และยิ่งคุณมองมันมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งถูกดึงดูดเข้าไปมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลหนึ่งดาวใน Michelin Green Guide Japan และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากมาเยี่ยมชมการิวซันโซ

การิว ซันโซ

795-0012 411-2 โอซุ เมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ

การิว ซันโซเป็นบ้านพักบนภูเขาขนาด 3,000 ซึโบะที่มองเห็นจุดชมวิวการิว-บุจิที่งดงามที่สุดของลุ่มน้ำฮิจิกาวะ ยาซิตสึเนะ คาโตะ ผู้ปกครองลำดับที่สามของแคว้นโอสุกล่าวว่า ``ภูเขาโฮไรมีลักษณะคล้ายรูปร่างของมังกรเอนกาย'' ว่ากันว่าได้รับการตั้งชื่อว่า ``การิว'' ด้วยเหตุผลนี้ อาคารทั้งสามหลัง ได้แก่ การิวอิน ฟูโระอัน และชิโจอันแต่ละหลังถือเป็นผลงานชิ้นเอกอันวิจิตรงดงาม และสวนยืมที่ผสมผสานธรรมชาติของภูเขา แม่น้ำฮิจิคาวะ และริมแม่น้ำเนียวโฮจิแสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนอันสง่างามของธรรมชาติและมนุษย์ -ทำออกมาให้เห็นหน้าตาที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาล อาจกล่าวได้ว่า ``จิตวิญญาณแห่งชา'' และ ``จิตวิญญาณแห่งญี่ปุ่น'' ที่ถูกลืมยังคงมีชีวิตอยู่ในทิวทัศน์บรรยากาศภายในสวนและจากการิว ซันโซ

จาร์รอนแนะนำ! ปราสาทโอสุ

สถานที่ต่อไปที่จาร์รอนแนะนำคือปราสาทโอสุ ปราสาทโอสุตั้งอยู่ในเมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ และเป็นปราสาทไม้ที่ได้รับการบูรณะเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว หอคอยปราสาทพังยับเยินในปี พ.ศ. 2431 แต่ได้รับการบูรณะในปี พ.ศ. 2547 โดยได้รับเงินบริจาคจากประชาชน เสน่ห์ของปราสาทโอสุอยู่เหนือสิ่งอื่นใดคือความงาม

เมื่อปราสาทญี่ปุ่นได้รับการบูรณะ ปราสาทเหล่านี้มักจะทำด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กและไม่ค่อยทำด้วยไม้ โชคดีที่ยังมีแบบจำลองของปราสาทโอซุหลงเหลืออยู่ก่อนที่มันจะถูกทำลาย และเราสามารถบูรณะปราสาทให้เป็นโครงสร้างไม้ได้อย่างซื่อสัตย์ เจ้าหน้าที่ของปราสาทโอสุบอก ``ความจริงที่ว่ามันทำจากไม้และได้รับการบูรณะใหม่ทำให้คุณได้เห็นทิวทัศน์เหมือนกับที่ซามูไรเห็นในสมัยนั้น นั่นคือเสน่ห์ของปราสาทโอซุ''

ปราสาทโอสุยังมอบประสบการณ์พิเศษที่เรียกว่า ``ปราสาทโอสุ'' ซึ่งคุณสามารถเข้าพักในหอคอยปราสาทได้

ที่พักปราสาทโอสุ

ปราสาทโอสุ

903 โอซุ เมืองโอซุ จังหวัดเอฮิเมะ 7950012

กล่าวกันว่าปราสาทโอสุมีต้นกำเนิดมาจากปราสาทจิโซกาทาเกะ ซึ่งสร้างขึ้นโดยโทโยฟุสะ อุสึโนมิยะ ผู้ว่าราชการจังหวัดอิโยะ ในปี 1331 ในช่วงปลายยุคคามาคุระ และตั้งแต่นั้นมา ปราสาทแห่งนี้ก็อยู่มาเป็นเวลา 237 ปีแล้ว หลังจากยุทธการที่เซกิงาฮาระ ช่วงเวลาอันวุ่นวายก็บรรเทาลง และเมืองปราสาทก็เริ่มก่อตัวขึ้นในสมัยของโทโดะ ทากาโทระและวากิซากะ ยาสุฮารุ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างปราสาทระดับปรมาจารย์ ต่อมา ซาดายาสุ คาโตะ กลายเป็นเจ้าแห่งปราสาท และการปกครองของตระกูลคาโตะยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งได้รับการฟื้นฟูกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ในสมัยเมจิ หอคอยปราสาทถูกรื้อถอนในปี พ.ศ. 2431 เนื่องจากการทรุดโทรม หอคอยปราสาทในปัจจุบันได้รับการบูรณะในปี 2004 โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 10 ปี โดยเริ่มจากความพยายามในการอนุรักษ์และการบริจาคจากผู้อยู่อาศัย นับเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นที่มีสี่ชั้นและสี่ชั้นเป็นหอคอยปราสาทไม้ที่ได้รับการบูรณะหลังสงคราม และด้วยความสูง 19.15 เมตร ถือเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น

จาร์รอนแนะนำ! สึนาคาเคอิวะ

ในที่สุด Jarron แนะนำ Tsunakakeiwa ในเมือง Ozu! สึนาคาเกะอิวะเป็นหินตามแนวชายฝั่งของเมืองโอซุ และมีประตูโทริอิและศาลเจ้าตั้งตระหง่านอยู่ด้านบน ว่ากันว่าหินสึนาคาเกะแห่งนี้มีประวัติยาวนานกว่า 1,200 ปี คุณยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นได้อีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในเอฮิเมะ!