Start planning your trip

Fuji Safari Park อยู่ในจังหวัดชิซุโอกะ เป็นหนึ่งในซาฟารีปาร์คที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพื้นที่มหึมาขนาดใหญ่เป็น 16 เท่าของโตเกียวโดม มีสัตว์มากมายถึง 60 สายพันธุ์ให้ชม สามารถนั่งรถบัสชมและสัมผัสสัตว์ต่างๆ แบบใกล้ชิด บทความนี้จะมาไขเสน่ห์ของ Fuji Safari Park แห่งนี้พร้อมวิธีการเดินทาง
ฟูจิซาฟารีปาร์ค (Fuji Safari Park)
ไขเสน่ห์ของ Fuji Safari Park กับ 6 วิธีเพลิดเพลินที่แนะนำ
ร้านอาหารและร้านค้าใน Fuji Safari Park
Fuji Safari Park ที่สามารถชมทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ เหมาะกับทริปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ!
Fuji Safari Park เปิดให้บริการเมื่อปี 1980 เป็นหนึ่งในซาฟารีปาร์คหรือสวนสัตว์เปิดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ (Mt. Fuji) ในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)
พื้นที่กินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ราว 740,000 ตารางเมตร ขนาดใหญ่โตเป็น 16 เท่าของโตเกียวโดม
ปัจจุบัน Fuji Safari Park แห่งนี้มีสัตว์มากมายถึง 60 สายพันธุ์อาศัยอยู่ ซึ่งไม่เพียงแค่ได้ชม แต่ยังสามารถลูบสัมผัสสัตว์ต่างๆ ได้ด้วย
ซาฟารีปาร์คไม่มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์แบบกักขังให้อยู่ในกรงหรือล้อมรั้วกั้น สัตว์ต่างๆ จะอาศัยอยู่โดยอิสระในพื้นที่กว้างใหญ่ที่สร้างเลียนแบบสภาพแวดล้อมเดิมที่พวกมันเคยอาศัย
นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถบัสของสวนสัตว์หรือนั่งรถยนต์ส่วนตัวตระเวนชมสัตว์ต่างๆ ได้แบบใกล้ชิด
การได้ชมสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงธรรมชาติเดิมตรงเบื้องหน้านั้น คือเสน่ห์ของซาฟารีปาร์คที่ต่างจากสวนสัตว์ทั่วไป
ซาฟารีโซน (Safari Zone) ที่เที่ยวชมโดยรถยนต์หรือรถบัสได้นั้น แบ่งออกเป็นหลายส่วน
ช่วงครึ่งแรกในโซนสัตว์กินเนื้อ สามารถชมสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ที่น่าทึ่ง เช่น หมี สิงโต เสือ และเสือชีตาห์ ได้อย่างใกล้ชิด ช่วงครึ่งหลังในโซนสัตว์กินพืช จะมีสัตว์กินพืชที่คุ้นเคยกัน อย่างช้าง ยีราฟ ม้าลาย และฝูงกวาง อาศัยอยู่อย่างอิสระ
สามารถชมสัตว์ต่างๆ ที่เป็นมิตร และใช้ชีวิตอิสระ อยู่ตามหลังโขดหินใหญ่และปลายทางโค้ง เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ต่างรอคอยต้อนรับทุกคนที่มาเยือน
Picture courtesy of Fuji Safari Park
หนึ่งในเสน่ห์สำคัญของ Fuji Safari Park คือสามารถชมภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่ตระการตาและสัตว์ต่างๆ ไปพร้อมกัน
ภูเขาไฟฟูจิเป็นภูเขาอันเลื่องชื่อซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย ที่ Fuji Safari Park ในวันที่อากาศแจ่มใสก็สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิได้จากทุกแห่งภายในสวนสัตว์แห่งนี้
หากถ่ายรูปโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง จะช่วยสร้างความทรงจำที่ทรงคุณค่ายิ่ง รับรองว่า ทริปนี้จะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนอย่างแน่นอน
ที่ Fuji Safari Park จะได้สัมผัสกับสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิดสุดประทับจนยากจะลืมได้อย่างแน่นอน
สามารถนั่งจังเกิลบัส (Jungle Bus) รถบัสสำรวจป่าของสวนสัตว์ ชมเหล่าสัตว์ป่าสุดทึ่ง สัมผัสสัตว์ตัวเล็กๆ ที่แสนอ่อนโยนในฟุเรไอโซน (โซนสัมผัสสัตว์) รับรองว่าจะได้รับประสบการณ์อันล้ำค่ามากมายอย่างแน่นอน
จากนี้ ไปรู้จักกับ 6 วิธีสนุกเพลิดเพลินกับ Fuji Safari Park ที่แนะนำกัน
สิ่งแรกที่ต้องรู้คือข้อมูลเกี่ยวกับ Fuji Safari Park
สวนสัตว์แบ่งเป็น 2 โซนหลัก ได้แก่ ซาฟารีโซน (Safari Zone) และฟุเรไอโซนหรือโซนสัมผัสสัตว์ (Fureai Zone)
ในซาฟารีโซนเป็นการนั่งรถบัสหรือรถยนต์ส่วนตัวชมเป็นหลัก แต่มีวอล์คกิ้งซาฟารี (Walking Safari) การเดินสำรวจตามเส้นทางชมธรรมชาติ ซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยมมากๆ ด้วย
ในกิจกรรมวอล์คกิ้งซาฟารีนี้ จะเดินสำรวจสัตว์ป่าแบบใกล้ชิดไปตามเส้นทางกลางป่าระยะทาง 2.5 กิโลเมตร
ในฟุเรไอโซน มีฟุเรไอโบคุโจหรือฟาร์มสัมผัสสัตว์ (Fureai Bokujo หรือ Petting Zoo) และโดบุตสึมูระหรือหมู่บ้านสัตว์ (Doubutsu Mura หรือ Animal Village)
โซนนี้สามารถเล่นและลูบสัมผัสสัตว์ตัวน้อยแสนอ่อนโยนได้ มีจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารสัตว์ด้วย คนรักสัตว์ต้องไม่พลาดโอกาสอันดีที่จะได้เพลิดเพลินกับกิริยาท่าทางแสนน่ารักของน้องๆ แสนน่ารักอย่างใกล้ชิด
Picture courtesy of Fuji Safari Park
มีการจัดโซนชมและเล่นกับน้องแมว, น้องหมา และน้องกระต่ายแยกกัน
ในโซนที่จัดเตรียมไว้โดยเฉพาะนี้ มีบรรยากาศผ่อนคลายที่นักท่องเที่ยวสามารถเล่นกับสัตว์ต่างๆ ได้สบายๆ ใช้เวลาผ่อนคลายและเพลิดเพลินได้เต็มที่
Picture courtesy of Fuji Safari Park
ที่เนโกะโนะคังหรือบ้านน้องแมว (House of Cats) จะมีน้องแมวหลากสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลก
มีค่าบริการแยกต่างหาก 600 เยน/ 20 นาที
ด้านในตกแต่งในสไตล์ยุโรปโบราณ น้องแมวแต่ละตัวมีนิสัยน่ารัก เป็นมิตร และช่วยเยียวให้จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย
สามารถลองให้อาหารน้องๆ ได้ ปกติน้องแมวมักเล่นตัวกันบ้าง แต่เมื่อยื่นขนมชิ้นเล็กๆ ให้ น้องๆ จะรีบมาหาอย่างเร็วเลย
อินุโนะคังหรือบ้านน้องหมา (House of Dogs) แบ่งเป็นพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง ซึงเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวาต่างจากบ้านน้องแมวนิดหน่อย
เมื่อเข้าไปด้านใน จะเห็นน้องๆ วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน หรือวิ่งกระดิกหางมาขอเล่นด้วย
บ้านน้องหมานี้มีน้องหมาตัวน้อยๆ น่ารักๆ ราว 25 ตัว
ค่าบริการของบ้านน้องหมาอยู่ที่ 700 เยน/ชั่วโมง สามารถสัมผัสน้องๆ ได้อิสระโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ดูแล
นอกจากนี้ยังสามารถพาน้องๆ ไปเดินเล่นในพื้นที่กลางแจ้งได้ด้วย
ทว่าในแต่ละวันน้องๆ ที่สามารถพาไปเดินเล่นจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของน้องๆ ดังนั้น กรุณาสอบถามรายละเอียดกับผู้ดูแล
อุซากิโนะคังหรือบ้านน้องกระต่าย (House of Rabbits) โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อังกฤษ มีบรรยากาศอบอุ่น น่ารักๆ ให้ความรู้สึกราวกับว่าก้าวเข้าไปสู่โลกของปีเตอร์ แรบบิท
ค่าบริการอยู่ที่ 600 เยน/ 20 นาที เมื่อบอกหมายเลขกระต่ายที่ต้องการลูบสัมผัสกับผู้ดูแล ผู้ดูแลจะเตรียมผ้ากันเปื้อนและผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ให้ สามารถอุ้มน้องมานั่งบนตัก และลูบสัมผัสอย่างเบามือได้
น้องกระต่ายสายพันธุ์ยอดนิยมคือสายพันธุ์เนเธอร์แลนด์แคระ ซึ่งเป็นต้นแบบของปีเตอร์ แรบบิท มีจุดเด่นคือตาโต หูตรง และขนนุ่มฟู
สัมผัสอันอบอุ่นนี้ จะช่วยเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจได้
ที่ Fuji Safari Park สามารถนั่ง Jungle Bus เที่ยวชมรอบสวนสัตว์
Jungle Bus มีการออกแบบน่ารักและมีเอกลักษณ์ รูปร่างหน้าตาคล้ายสัตว์ต่างๆ เช่น สิงโต เสือ ช้าง และแรด ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก ช่วยให้เพลิดเพลินกับซาฟารีปาร์คแห่งนี้ได้เต็มที่
นอกจากจะซื้อตั๋วรถบัสนี้ได้วันที่เข้าชมแล้ว ยังมีตั๋วจองทางออนไลน์บางส่วนให้บริการด้วย ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 1,500 เยน (อายุ 3 ปีขึ้นไป)
Picture courtesy of Fuji Safari Park
การเที่ยวชมซาฟารีโซน ใช้เวลาราว 50 นาที
ระหว่างทัวร์จะได้ฟังคำบรรยายของไกด์ และเพลิดเพลินกับกิจกรรมให้อาหารหมีสีน้ำตาล สิงโต และอูฐผ่านช่องลูกกรงเหล็ก
* ไกด์บรรยายด้วยภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
Picture courtesy of Fuji Safari Park
Super Jungle Bus เป็นรถบัสที่วิ่งรอบซาฟารีโซนเหมือน Jungle Bus ทั่วไป ต่างกันที่หลังคารถมีลูกกรงป้องกันไว้ด้วย
หมีและสิงโตจะปีนขึ้นหลังคารถ สามารถชมสัตว์ต่างๆ จากมุมด้านล่างแบบใกล้ชิดมากๆ นี่คือประสบการณ์สุดตื่นเต้นจริงๆ
จะได้ยินเสียงร้อง กระทั่งลมหายใจอย่างชัดเจน ให้ความรู้สึกราวกับเข้าไปอยู่ท่ามกลางโลกของสัตว์ป่า
นอกจากจะเข้าคิวซื้อตั๋วรถบัสนี้หลังเข้าสวนสัตว์แล้ว ก็มีตั๋วจองทางออนไลน์บางส่วนให้บริการ ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 2,100 เยน (เด็กชั้นประถมขึ้นไป ส่วนเด็กที่ต่ำกว่าชั้นประถมไม่อนุญาตให้นั่งรถบัสนี้)
* ไกด์บรรยายด้วยภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
Picture courtesy of Fuji Safari Park
ในซาฟารีโซนสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวชมได้อย่างอิสระ โดยไม่จำกัดเวลา เพียงซื้อตั๋วเข้าชม
แต่หากชมโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว มีกฎต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น ห้ามเปิดหน้าต่างรถ และห้ามให้อาหารสัตว์ กรุณาปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัย
การชมโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ขับรถจากโตเกียว (Tokyo) หรือนาโกย่า (Nagoya) เนื่องจากมีความอิสระมากมาย จึงเหมาะอย่างยิ่งในการมาเที่ยวกับคู่รัก และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
Picture courtesy of Fuji Safari Park
มีเส้นทางเดินเที่ยวรอบซาฟารีโซน และจุดชมสัตว์ต่างๆ ตลอดเส้นทาง
ในเส้นทางเดินนี้ สามารถร่วมทำกิจกรรมให้อาหารสิงโตและสัตว์กินพืชต่างๆ ได้เช่นกัน
Walking Safari เป็นการเดินซาฟารีซึ่งสามารถชมสัตว์ต่างๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติ สัมผัสลมหายใจ และชมพฤติกรรมของเหล่าสัตว์ทั้งหลายอย่างใกล้ชิด Walking Safari จะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง (ปลายเดือนมีนาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน)
ค่าบริการอยู่ที่ 600 เยน (สำหรับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป และฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี) และมีค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับกิจกรรมให้อาหารสัตว์ ตรวจสอบสถานที่และเวลารับจองที่เว็บไซต์ทางการ
มีสัตว์ไม่น้อยที่ใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ในยามกลางคืนมากกว่ากลางวัน กิจกรรมไนท์ซาฟารี (Night Safari) นี้ สามารถเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของเหล่าสัตว์ในระบบนิเวศยามค่ำคืนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ
ไนท์ซาฟารีเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเฉพาะในฤดูร้อน และต้องจองล่วงหน้า ดังนั้นกรุณาตรวจสอบกำหนดการที่เว็บไซต์ทางการ
สัตว์ต่างๆ ที่ฟาร์มสัมผัสสัตว์ (Fureai Bokujo) และหมู่บ้านสัตว์ (Doubutsu Mura) นี้ สามารถลูบสัมผัสตัวเป็นๆ ได้จริง น้องๆ ที่นี่น่ารัก อ่อนโยน และเป็นมิตร
น้องๆ จิงโจ้ที่ร่าเริงสดใส มีชีวิตชีวา จะกระโดดเข้ามาใกล้คน เพื่อขออาหาร ดูช่างน่ารักมากๆ
น้องๆ คาปิบาราที่ดูอ้อยอิ่ง และทำตัวสบายๆ เสมอ จะช่วยให้ผู้คนที่มาชมรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย
น้องๆ ลีเมอร์หางแหวน (สัตว์ตระกูลลิง หน้าเรียว จมูกยื่นคล้ายหมาป่า) มักอยู่รวมกันเป็นฝูง นอนกางแขนขาอาบแดดท่าทางสบายใจ ส่วนหนูตะเภาแก้มป่องนั้นก็ช่างน่ารักเกินต้าน
น้องสัตว์ทุกตัวล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนอดไม่ได้ที่จะอยากเข้าไปลูบสัมผัสกัน
Fuji Safari Park มีร้านอาหารให้นั่งเพลิดเพลินกับมื้ออาหาร อย่างร้านฟรอนเทียร์ (Frontier) ในฟาร์มสัมผัสสัตว์ และร้านอัลเพนโรส (Alpen Rose) ในฟุเรไอโซน
มีฟาสต์ฟู้ด (อาหารจานด่วน) และของว่างให้บริการในร้านค้าเล็กๆ ที่ให้บริการแบบซื้อกลับบ้าน ใกล้กับร้านจำหน่ายของฝากด้วย
* กรุณาตรวจสอบวันและเวลาทำการที่เว็บไซต์ทางการ
ปังโคโบหรือร้านเบเกอรี่ (Bakery)อยู่ถัดจากร้านอาหาร Alpen Rose ก็อีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ที่นี่จำหน่ายขนมปังออริจินัลรูปสัตว์น่ารักๆ
เมนูสุดฮิตคือ ขนมปังไส้ครีมรูปแพนด้าแดง และขนมปังเมลอนรูปเสือชีตาห์
Picture courtesy of Fuji Safari Park
ที่ร้านเบเกอรี่แห่งนี้ ไม่เพียงแต่สามารถเลือกซื้อขนมปังแสนอร่อยน่ารักๆ ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถลองทำเองได้ด้วย
กิจกรรมทำขนมปังสามารถจองล่วงหน้าได้ โดยเลือกเวลาที่ต้องการล่วงหน้าในเว็บไซต์ทางการ จากนั้นมาลงทะเบียนที่ร้านในวันนั้น
ค่าร่วมกิจกรรมครั้งละ 600 เยน สามารถทำขนมปังได้ 2 ชิ้น กิจกรรมใช้เวลาราว 30 นาที ไม่รวมเวลาหมักและอบขนมปัง
สามารถกลับมารับขนมปังที่อบเสร็จที่ร้านเบเกอรี่ หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว 1 ชั่วโมง ไปจนถึงเวลาราว 15:00 น.
Safari Restaurant เป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ มีที่นั่งให้บริการมากมาย จึงสะดวกสบายสำหรับครอบครัวและการมาเที่ยวกลุ่มใหญ่
มีทั้งเมนูอาหารสไตล์ตะวันตกและอาหารสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงของหวาน เช่น เค้กและแพนเค้ก หลังเยียวยาจิตใจด้วยการใกล้ชิดกับสัตว์ต่างๆ แล้ว ก็แวะมาเติมพลังงานและทำให้ท้องอิ่มกันได้ที่นี่
ซ้าย: ข้าวห่อไข่ (ราคารวมภาษี 1,200 เยน) ขวา: ข้าวแกงกะหรี่ภูเขาไฟฟูจิพร้อมสลัด (ราคารวมภาษี 1,400 เยน)
เมนูอาจแตกต่างกันตามฤดูกาลและกิจกรรมภายในสวนสัตว์ แต่ข้าวแกงกะหรี่ภูเขาไฟฟูจิ และข้าวห่อไข่เป็นเมนูประจำร้านที่จัดเสิร์ฟตลอดทั้งปี
และเป็นเมนูยอดนิยมของคนทุกวัยด้วย
Safari Shop เป็นร้านที่ควรต้องแวะเมื่อมาเยือน Fuji Safari Park
ในร้านมีสินค้าออริจินัลของที่นี่มากมายหลากหลายให้เลือกซื้อเลือกหากัน ตั้งแต่ของกินไปจนถึงของกระจุกกระจิกน่ารักๆ และของใช้ในชีวิตประจำวัน
สินค้าทุกชิ้นน่าโดน น่าเป็นเจ้าของทั้งสิ้น
มีสินค้าชุดน้องเสือน้อย Baby Lion Series ที่ฮิตมากๆ
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในที่ร้านจะหยิบน้องๆ ขึ้นมาแล้วอุทานว่า "น่ารักมาก!"
ยังมีของกระจุกกระจิกต่างๆ ทั้งผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กและพวงกุญแจที่มีรูปสัตว์ รวมทั้งรถมินิจังเกิล แม่เหล็กติดตู้เย็น และอื่นๆ ที่เบาและกะทัดรัด เหมาะสำหรับเป็นของฝาก
ทุกชิ้นล้วนเป็นสินค้าตัวตึงยอดฮิตที่ซื้อเหมาไปเป็นของฝากได้สบายๆ
ขนมก็เป็นสินค้าที่ห้ามพลาดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้รูปสัตว์ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง และเค้กลวดลายน่ารัก ล้วนเป็นสินค้ายอดฮิตประจำร้านซึ่งเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยว
บรรจุภัณฑ์ออริจินัลที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ก็เป็นที่ชื่นชอบมากๆ เช่นกัน ยังมีของฝากน่าสนใจอีกมากมาย เช่น คุกกี้กระป๋องรูปรถบัส และขนมเซมเบ้ (ข้าวเกรียบญี่ปุ่น) รูปภูเขาไฟฟูจิ
นอกจากพื้นที่อันกว้างใหญ่แล้ว Fuji Safari Park ยังมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสมบูรณ์แบบ เหมาะกับทริปไปเช้าเย็นกลับใกล้กับโตเกียว
ในสวนสัตว์ยังมีห้องเด็กอ่อนและบริการเช่ารถเข็นเด็ก แม้จะพาเด็กๆ มาก็เที่ยวได้อย่างสบายใจ
・11 มีนาคม - 31 ตุลาคม เวลา 9:00 - 16:30 น.
・1 พฤศจิกายน - 30 พฤศจิกายน เวลา 9:00 - 15:30 น.
・1 ธันวาคม - 10 มีนาคม เวลา 10:00 - 15:30 น.
* วัน-เวลาอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับฤดูกาล สามารถตรวจสอบวัน-เวลาทำการจริงและวันปิดทำการได้ที่เว็บไซต์ทางการ
・ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป): 3,200 เยน
・เด็ก (อายุ 4 ขวบ ถึงนักเรียนมัธยมต้น): 2,000 เยน
・ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป): 2,500 เยน
・กลุ่ม (15 คนขึ้นไป): ผู้ใหญ่ 2,500 เยน / เด็ก 1,500 เยน
สามารถเดินทางมายัง Fuji Safari Park ได้ด้วยรถยนต์หรือบริการขนส่งสาธารณะ
โดยรถยนต์
จากโตเกียว: ราว 25 นาทีจากทางออก Gotemba IC ทางด่วน Tomei Expressway
จากนาโกย่า: ราว 35 นาทีจากทางออก Fuji IC ทางด่วน Tomei Expressway
โดยระบบขนส่งสาธารณะ
・จากสถานี Tokyo นั่งรถไฟ Tokaido Shinkansen ไปยังสถานี Mishima จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส Fujikyu City Bus ราว 50 นาที
・จากสถานี Shinjuku นั่งรถไฟ Odakyu Limited Express Romancecar หรือนั่งรถบัส Odakyu Highway Bus ไปยังสถานี Gotemba จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถบัส Fujikyuko Bus ราว 35 นาที
・หากเดินทางโดยรถบัส จากสถานี Fuji นั่งรถบัส Fujikyu Shizuoka Bus ใช้เวลาเดินทางราว 60 นาที
Fuji Safari Park เหมาะสำหรับการออกไปเที่ยวกับครอบครัว สนุกสนานกับเพื่อนฝูง และออกเดทในย่านชานเมืองกับคู่รัก
หากวางแผนเที่ยวกันดีๆ สามารถแวะชอปปิงที่โกเท็มบะเอาท์เล็ท (Gotemba Outlet) ระหว่างทางกลับบ้านได้ด้วย ไปเพลิดเพลินกับประสบการณ์สุดพิเศษที่มีเฉพาะที่ Fuji Safari Park แห่งนี้เท่านั้นกัน
Sponsored by Fuji Safari Park
บทความโดย