Start planning your trip

ความสุขหนึ่งในการเที่ยวคือการชอปปิง โดยเฉพาะทริปต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นที่สามารถชอปสินค้าแบบปลอดภาษี บทความนี้ได้สรุปข้อมูลร้านค้าปลอดภาษีในญี่ปุ่น วิธีซื้อสินค้าในราคาปลอดภาษี และร้านค้าที่ให้บริการสินค้าปลอดภาษี รวมถึงมาตรการยกเว้นภาษีใหม่ของญี่ปุ่นที่จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2025
ปัจจุบัน (ณ ปี 2024) ญี่ปุ่นมีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% จากการจับจ่ายซื้อของของผู้บริโภค แต่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากมีเงื่อนไขตรงก็จะได้รับการยกเว้นภาษี ทำให้ซื้อสินค้าได้ถูกลง 10% จากที่ต้องจ่ายจริง
บทความนี้ขอแนะนำวิธีการยกเว้นภาษีและการปรับเปลี่ยนมาตรการยกเว้นภาษีล่าสุด
Picture courtesy of pixta
ปัจจุบัน (ณ ปี 2024) รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพยายามปรับปรุงขั้นตอนการยกเว้นภาษี เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้สิทธิการยกเว้นภาษี นำไปซื้อสินค้าหรูกลับมาขายในญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาผลกำไรที่ไม่ถูกต้อง
ที่ผ่านมา มาตรการยกเว้นภาษีของญี่ปุ่นโดยพื้นฐาน การขอคืนภาษี (Tax Refund) จะดำเนินการและรับภาษีคืน ณ ร้านค้าที่ซื้อสินค้าโดยตรง แต่มาตรการยกเว้นภาษีใหม่จะมีการปรับปรุงขั้นตอน โดยดำเนินการและรับภาษีคืนที่สนามบินก่อนเดินทางออกนอกประเทศ
คาดว่ารายละเอียดของมาตรการยกเว้นภาษีที่ปรับปรุงและวันที่มีผลบังคับใช้จะพิจารณาเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า อาจเริ่มใช้เร็วสุดในปี 2025
ระหว่างเที่ยวและชอปปิงอย่างสนุก เราควรหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นให้มากที่สุด การชอปปิงระหว่างเที่ยวต่างประเทศ สามารถซื้อของที่อยากได้ในราคาถูกกว่าปกติ ลองแวะไปจับจ่ายที่ร้านค้าปลอดภาษีดูสิ “ร้านค้าปลอดภาษี” ในสนามบินและย่านชอปปิงใจกลางเมือง เป็นร้านจำหน่ายสินค้ายกเว้นภาษี 10% สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวญี่ปุ่นระยะสั้น (ไม่เกิน 6 เดือน)
ในญี่ปุ่นมีร้านค้าปลอดภาษีหลายแห่ง ตั้งแต่สนามบินไปจนถึงชอปปิงมอลล์ หากวางแผนที่จะซื้อของชิ้นใหญ่ราคาแพงระหว่างเที่ยว อย่างของฝากสำหรับหลายคน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ชาวญี่ปุ่นแสนภูมิใจ ต้องไปใช้บริการร้านค้าปลอดภาษีชอปสินค้าที่ต้องการอย่างชาญฉลาดกันเลย
วัตถุประสงค์ของร้านค้าปลอดภาษีคือจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคหรือกินใช้นอกประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่ซื้อสินค้าเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ นอกเหนือจากการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน (ทั้งการจำหน่ายและวัตถุประสงค์ทางธุรกิจต่างๆ ) ไม่สามารถใช้บริการร้านค้าปลอดภาษีได้
สินค้าในร้านค้าปลอดภาษีมีทั้ง สินค้าทั่วไป ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ และงานฝีมือ และสินค้าอุปโภคบริโภค ได้แก่ อาหาร เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ผลไม้ และยา
สิ่งที่ต้องจำไว้คือสินค้าที่ซื้อเข้าข่ายสินค้าที่ได้รับสิทธิ์การยกเว้นภาษีหรือไม่ และยอดซื้อตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดหรือไม่ กรณีสินค้าทั่วไป ยอดซื้อต่อคนในร้านค้าเดียวกัน 5,000 เยนขึ้นไป จะใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีได้
หากยอดซื้อเกิน 1 ล้านเยน ทางร้านค้าจะถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางของเราไว้
ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ต้องมียอดรวม 5,000 เยนขึ้นไป แต่ไม่เกิน 500,000 เยน จะใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีได้ หากยอดเงินเกิน 500,000 เยนจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษี ดังนั้นต้องคำนวณยอดกันให้ดีๆ ก่อนซื้อสินค้านะ
จุดที่ต้องระวังอีกอย่างในส่วนของสินค้าอุปโภคบริโภคคือ หากแกะกล่องอาจต้องเสียภาษีตอนเดินทางออกจากญี่ปุ่น ดังนั้นต้องไม่เปิดจนกว่าจะเดินทางออกจากญี่ปุ่นนะ นอกจากนี้ควรนำสินค้าออกจากญี่ปุ่นภายใน 30 วันหลังจากซื้อโดยไม่เปิดบรรจุภัณฑ์ ข้อพึงระวังอีกอย่างคือสินค้าทั่วไปและสินค้าอุปโภคบริโภคจะไม่คิดยอดเงินรวมกัน
วิธีการและจุดดำเนินการยกเว้นภาษีจะต่างกันในแต่ละร้าน กรณีดำเนินการยกเว้นภาษีที่เคาน์เตอร์ชำระเงิน จะจ่ายเงินโดยหักภาษีเลย ส่วนอีกกรณีคือจ่ายเงินรวมภาษีแล้วไปขอคืนภาษีที่เคาน์เตอร์ยกเว้นภาษีทีหลัง
โดยขั้นตอนการขอยกเว้นภาษีมีดังนี้
สิ่งจำเป็นในการขอยกเว้นภาษีคือหนังสือเดินทาง เมื่อไปที่จุดดำเนินการยกเว้นภาษี อันดับแรกให้แสดงหนังสือเดินทางก่อน หากซื้อสินค้าที่เคาน์เตอร์ชำระเงินแล้วไปขอคืนภาษีที่เคาน์เตอร์ยกเว้นภาษี ต้องแสดงใบเสร็จรับเงินและสินค้าที่ซื้อด้วย
เซ็นชื่อในหนังสือสัญญาซื้อที่ได้รับ
จากนั้นให้ติดบันทึกการซื้อ (購入記録票 หรือ Record of Purchase) ในหนังสือเดินทาง ตรวจสอบอีกทีให้แน่ใจว่ามีตราประทับการลดราคาว่า 輸免ระหว่างหนังสือเดินทางกับบันทึกการซื้อด้วยนะ
เมื่อเดินทางออกจากญี่ปุ่น ศุลกากรจะเก็บรวบรวมบันทึกการซื้อ ขั้นตอนการยกเว้นภาษีก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
ญี่ปุ่นมีร้านค้าปลอดภาษีหลายแห่ง ทั้งที่สนามบินและย่านชอปปิงใจกลางเมือง ปัจจุบัน ห้างสรรพสินค้า ชอปปิงมอลล์ และร้านเสื้อผ้าใหญ่ๆ มีเคาน์เตอร์ยกเว้นภาษีเพิ่มขึ้น ลองมองหาร้านค้าปลอดภาษีซึ่งมีภาพสัญลักษณ์ข้อความ Japan Tax-Free Shop สีแดงกันนะ
มองหาสัญลักษณ์ร้านค้าปลอดภาษีที่จัดทำโดยสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไปชอปกันได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่ตั้งร้านค้าปลอดภาษีทั่วญี่ปุ่นและวิธีการขอยกเว้นภาษีได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้านล่าง
คาดว่าวิธีการและช่วงเวลาเริ่มใช้มาตรการยกเว้นภาษีใหม่จะพิจารณาเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2024 และคาดว่าน่าจะเริ่มใช้เร็วสุดในปี 2025
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีสิทธิ์ได้รับการยกเว้นภาษีจะต้องเป็น “นักท่องเที่ยวระยะสั้น” หรือมีวีซ่า “นักการทูต” หรือวีซ่า “ราชการ”
สินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีแบ่งเป็น “สินค้าทั่วไป” ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ และงานฝีมือ กับ “สินค้าอุปโภคบริโภค” ได้แก่ อาหาร เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม และยา โดยทั่วไป สินค้าที่จับจ่ายต่อคนในร้านเดียวกันที่มียอดรวมเกิน 5,000 เยน (ยังไม่รวมภาษี) จะได้รับการยกเว้นภาษี
อันดับแรก ไปที่เคาน์เตอร์ยกเว้นภาษีในแต่ละร้านค้าแล้วปฏิบัติตามขั้นตอนด้านล่างนี้
1. ยื่นหนังสือเดินทาง
2. ลงนามในหนังสือสัญญาซื้อ
3. แนบบันทึกการซื้อ (Record of Purchase)
4. สิ้นสุดขั้นตอน
สำหรับร้านค้าปลอดภาษีมีจุดสังเกตง่ายๆ แค่มองหาร้านซึ่งมีภาพสัญลักษณ์ข้อความ Japan Tax-Free Shop สีแดง
ไหนๆ ก็มาเที่ยวญี่ปุ่นกันทั้งที ต้องเที่ยวชมและชอปปิงกันให้เต็มที่ ดังนั้น มาสร้างความทรงจำดีๆ ให้เป็นทริปสุดแสนวิเศษด้วยการชอปปิงที่ร้านปลอดภาษีในราคาสุดคุ้มกันนะ
บทความโดย
94年生まれ。神戸出身、東京在住。アメリカからの帰国子女。旅、アート、食が大好きな大学生。