Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

พาเที่ยวคามาคุระและเกาะเอะโนะชิมะที่อยู่ใกล้โตเกียวขนาดไปกลับในวันเดียวได้สบายๆ นอกจากหลวงพ่อโตที่โด่งดังแล้ว ยังมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดๆ และการประดับไฟอิลลูมิเนชั่นสุดงาม 1 ใน 3 ของภูมิภาคคันโตเลยทีเดียว! แถมด้วยเกร็ดเล็กน้อยที่ "คนไทยต้องไม่พลาด"

บทความโดย

สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥

more

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ

ไปไหว้พระและชมวิวสุดสวยที่คามาคุระกับเอะโนะชิมะ แบบธรรมดาที่แอบแฝงความไม่ธรรมดา!

พูดถึงเมืองคามาคุระ (Kamakura) กับเกาะเอะโนะชิมะ (Enoshima) หลายๆ ท่านที่เป็นเซียนญี่ปุ่นต้องรู้จักแน่ๆ
แต่วันนี้เราจะมาพาไปเที่ยวสถานที่ยอดนิยมในหนึ่งวัน พร้อมเรื่องเล่าที่หลายท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าคามาคุระมีแหล่งท่องเที่ยวที่ "มีความผูกพันธ์กับไทย" มากๆ เลยอยู่ด้วยล่ะ!
ก่อนจะปิดท้ายด้วยวิวสวยงามทั้งพระอาทิตย์ตกดิน และไฟประดับอิลลูมิเนชั่นระดับ "1 ใน 3 งานใหญ่ที่สุดของภูมิภาคคันโต" 

7:10 เริ่มต้นการเดินทางด้วยการซื้อพาสสุดสะดวกที่ชินจูกุ (สถานีของ Odakyu)

เริ่มการเดินทางกันแต่เช้าหน่อย เผื่อเวลาไว้นิด เพราะเราต้องมาหาซื้อ One day pass สุดคุ้มกันที่สถานีชินจูกุ
แต่ตั๋วของเจ้านี้สามารถซื้อล่วงหน้าได้ ถ้าใครได้แวะที่ชินจูกุในวันก่อนหน้า ก็มาหาซื้อเตรียมไว้ก่อนได้นะ
ถ้าใครคิดว่ากลับมืดหน่อยได้ จะเริ่มออกเดินทางสายกว่านี้ก็ไม่ว่ากัน!

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

มาถึงสถานีชินจูกุ ให้มองหาป้ายของรถไฟสายโอดะคิว (Odakyu) กันไว้นะคะ
หรือใครเดินมาจากด้านนอกสถานี มองหาตัวอักษรใหญ่ๆ สีน้ำเงินด้านหน้าซึ่งจะอยู่ด้านตะวันตกของสถานีชินจูกุ (Shinjuku West)
และที่ชั้นหนึ่งนี้จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Odakyu Sightseeing Service Center, Shinjuku West อีกด้วยค่ะ
ศูนย์บริการตรงนี้เปิดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนะ บางวันจะมีพนักงานคนไทยมาให้บริการด้วย ถือว่าสะดวกสุดๆ เลยค่ะ
ลองไปดูรายละเอียดได้จากที่นี่เลยจ้า

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

แต่ถ้าหากมาเช้าๆ แบบนี้ ศูนย์บริการยังไม่เปิด ให้เราเดินไปด้านหน้าที่ตรวจตั๋ว ตรงบริเวณเครื่องขายตั๋วจะมีเครื่องขายตั๋วภาษาอังกฤษและเครื่องให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ใครที่ยังไม่มีตั๋ว หรืออยากเช็คข้อมูลอีกนิด จะมาตอนเช้าๆ แล้วแวะมาจิ้มๆ หน้าจอที่นี่ก็ได้เหมือนกันนะ! 

สำหรับตั๋วที่เราจะใช้วันนี้คือ Enoshima-Kamakura Free Pass สำหรับผู้ใหญ่ (เมื่อเริ่มใช้จากชินจูกุ)
สามารถกดซื้อตั๋วจากเครื่องได้เลยค่ะ เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว เราจะใช้ตั๋วใบนี้ใบเดียวทั้งวันเลย หรือจะซื้อตั๋ว Enoshima-Kamakura Freepass ทางออนไลน์ด้วยมือถือสมาร์ทโฟนก็ได้ โดยซื้อได้ทุกเวลาที่เว็บไซด์ EMot Online Tickets (เว็บไซต์ขายตั๋วออนไลน์ของบริษัทรถไฟฟ้าโอดะคิว)
รายละเอียดล่าสุดของตั๋วฟรีพาสสุดคุ้มใบนี้สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ทางการของ Odakyu (เอโนชิมะคามาคุระฟรีพาส) ได้เลยค่ะ

ได้ตั๋วแล้วก็เอาตั๋วสอดเข้าเครื่องตรวจแล้วเดินเข้าสถานีของสาย Odakyu ไปได้เลย
เราจะนั่งรถไฟแบบด่วน Express ไปกันค่ะ โดยปกติรถจะออกจากชานชาลา 4 หรือ 5
ส่วนที่ชานชาลา 2 และ 3 จะเป็นรถด่วน Limited Express แบบมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ระวังอย่าไปขึ้นผิดที่นะ
นอกจากนี้ที่ต้องระวังอีกอย่างคือ รถบางคันเราจะต้องไปเปลี่ยนรถกลางทาง ตอนขึ้นต้องสังเกตดีๆ นะคะ
รถที่วิ่งไปคนละทางมักจะเขียนว่าไป Odawara ส่วนรถที่วิ่งตรงไปเป้าหมายเราเลยวันนี้จะเขียนว่าไป Katase - Enoshima ค่ะ
ถ้าหากว่าขึ้นรถสายที่วิ่งไป Odawara เราจะต้องไปลงเปลี่ยนที่สถานี Sagami Ono ค่ะ

8:10 ลงจากสาย Odakyu ไปต่อรถไฟฟ้าสุดน่ารักที่สถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa)

เมื่อกี้เราบอกว่าให้นั่งรถที่วิ่งไป Katase - Enoshima แต่เราจะลงก่อนไปสุดทางที่สถานีนั้นค่ะ
เราจะลงกันที่สถานีฟูจิซาวะ (Fujisawa) เพื่อไปต่อรถไฟฟ้าคันเล็กน่ารักประจำเมืองกัน

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เมื่อลงที่สถานีแล้ว ให้เดินไปตามทางออก มองหาป้าย Enoden Line จะเจอบันไดขึ้นชั้นสองค่ะ
เดินขึ้นมาจะเจอสถานีของ JR ให้เราเชิดใส่ เดินไปทางตรงกันข้ามที่จะเป็นสะพานลอยด้านนอกอาคาร แล้วคอยสังเกตหาป้าย Enoden Line เดินตามไปเรื่อยๆ จะเข้าไปอีกอาคารนึง แล้วจะเห็นสถานีรถไฟของสาย "เอะโนะเด็น" ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าท้องถิ่นคันเล็กๆ น่ารัก บางคันจะประดับด้วยลายตัวมาสคอตประจำสายเป็นรถไฟตัวน้อยๆ ชื่อน้อง "เอะนง" ด้วยล่ะ!

ใช้พาสที่ซื้อมาในวันนี้สอดเข้าเครื่องตรวจตั๋วได้ตามปกติ เข้าสถานีไปยืนรอรถ แล้วนั่งไปสุดสายที่สถานีคามาคุระ (Kamakura) ได้เลยจ้า
ความน่าสนใจอีกอย่างของสายเอะโนะเด็นนี่คือ เป็นหนึ่งในสายรถไฟที่ "วิ่งเฉียดบ้านเรือนสองข้างทาง" มากที่สุดในญี่ปุ่นสายนึงเลยล่ะค่ะ
ในหลายจุดนี่เรียกว่าเคาะกระจกบ้านได้เลยล่ะ (ห้ามทำจริงนะคะ!)
นอกจากนี้ด้วยความสวยงามของแถวนี้ ทำให้กลายเป็นโลเคชั่นของภาพยนตร์รวมไปถึงการ์ตูนหลายเรื่องด้วย อย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง Taiyo no Uta (24 ชม. ขอรักเธอทุกวัน) ที่เคยเรียกน้ำตาในไทยมาแล้ว หรือการ์ตูนที่คนยุคผู้เขียนต้องเคยดูทางทีวีอย่างเด็กเกเรที่หันมาทุ่มเทกับบาสเกตบอลในเรื่อง Slamdunk

9:00 ไหว้พระและเดินเล่นรอบสถานีคามาคุระ ที่ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu)

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เวลาประมาณ 9 โมง เราจะมาถึงสถานีคามาคุระกันค่ะ ออกจากสถานีแล้วเดินไปทางขวามือ จะเจอทางลอดใต้สะพานอยู่ พอเดินลอดไปแล้วด้านหน้าเราจะเห็นเสาโทริอิสีแดงอันใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของถนนที่จะนำทางไปสู่ศาลเจ้าค่ะ
ระหว่างทางไปศาลเจ้านั้นจะเป็นถนนที่เรียงรายด้วยร้านค้ามากมายชื่อว่า ถนนโคะมาจิ (Komachi Street) ตอนเก้าโมงร้านอาจจะยังไม่เปิดเท่าไหร่นัก ไว้มาเดินหลังไหว้พระเสร็จก็ยังได้ค่ะ แถวนี้มีทั้งร้านขนม ของฝากมากมาย ไปจนถึงร้านขายสินค้าของ Studio Ghibli เลยล่ะค่ะ
ผู้เขียนมักจะมาเดินทาน "โครอกเกะ" (หมูบดและมันบดชุบแป้งทอด) แล้วซื้อถั่วรสแปลกหลากรส ไม่ก็ขนมญี่ปุ่นอร่อยๆ กลับไปฝากตัวเองและคนอื่นค่ะ

ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู (Tsurugaoka Hachimangu) ที่แม้แต่โชกุนยังนับถือ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เดินตามถนนโคะมาจิไปจนสุดจะเจอแยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวามาเรื่อยๆ จะเห็นเสาโทริอิสีแดงใหญ่เบิ้มกว่าเดิมอีก! แปลว่าเรามาถึงทางเข้าของศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกูแล้วค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูสีแดงเข้าไป จะพบกับทางเดินหินกว้างๆ พอเดินลึกเข้าไปอีกเราถึงจะเจอกับที่ชำระล้างทางด้านซ้ายค่ะ ตัวอาคารของศาลเจ้าจริงๆ ที่มีเทพเจ้าสถิตย์จะต้องเดินเข้าไปอีกนิด แล้วเดินขึ้นบันไดไป บันไดสูงอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน เวลาเดินก็ระมัดระวังด้วยนะคะ
ด้านในของตัวอาคารยังมีพิพิธภัณฑ์อย่างง่ายๆ ที่จัดแสดงสมบัติเก่าแก่ของศาลเจ้าอยู่ด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม พร้อมกับเอกสารอธิบายเป็นภาษาอังกฤษด้วย

ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกูแห่งนี้หากจะนับย้อนถอยหลังไปแล้ว ก็ถือว่ามีอายุเกือบพันปีเลยล่ะค่ะ
เพราะศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1063 โดยมินาโมโตะ โนะ โยริโยชิ ซามูไรในตระกูลมินาโมโตะซึ่งถือเป็นตระกูลที่มีอำนาจมากในสมัยก่อน โดยตระกูลนี้ได้ถือว่าเทพฮะจิมังเป็นเทพประจำตระกูลด้วย
ส่วนศาลเจ้าได้รับการปรับปรุงอีกครั้งให้อยู่ในตำแหน่งปัจจุบันในปี ค.ศ. 1191 โดย "มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ" ผู้ที่เป็นโชกุนคนแรกของญี่ปุ่น และได้ย้ายฐานอำนาจจากขุนนางที่เกียวโต มาเป็นเหล่านักรบซามูไรที่เมืองคามาคุระนี้เอง
เนื่องจากเทพฮะจิมังนั้นเป็นเทพที่ปกป้องคุ้มครองเรื่องการรบ และคุ้มครองประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้เป็นที่นับถือของเหล่าซามูไรรวมไปถึงโชกุนที่เป็นผู้นำของเหล่าซามูไรเลยล่ะค่ะ

และเพราะว่าคำว่า "สึรุ" (Tsuru) ในชื่อศาลเจ้าแปลว่า "กระเรียน" ซึ่งเป็นสัตว์มงคลด้วย ทำให้เครื่องรางของศาลเจ้ามีเครื่องหมายสวยๆ รูปนกกระเรียนหรือมีเครื่องรางรูปกระเรียนพับค่ะ

10:35 ไปไหว้พระใหญ่กันที่วัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple)

ไหว้เทพที่ศาลเจ้าเสร็จ เราจะไปไหว้พระที่วัดกันต่อบ้าง!
เดินออกจากศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู จะเดินจากตรงหน้าศาลเจ้าเลยที่มีต้นไม้ปลูกสองข้างทางสวยก็ย่อมได้
เวลาประมาณ 10 โมงร้านรวงที่ถนนโคะมาจิก็จะเริ่มเปิดกันแล้ว จะเดินช้อปปิ้งหรือหาของทานเล่นก่อนก็สนุกไม่เลวเลยล่ะ
กลับมาถึงสถานีคามาคุระ (ระวังอย่าเข้าผิด เพราะมีสถานีของ JR อยู่ที่เดียวกัน แต่สาย JR จะใช้ฟรีพาสวันนี้ไม่ได้นะ) คราวนี้ขึ้นรถนั่งไปที่สถานีฮาเสะ (Hase) กันค่ะ ใช้เวลาแค่ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

พอถึงสถานีแล้วเดินออกมาจากสถานี จากนั้นเดินตรงไปอย่างเดียวเลยจ้า ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที พลางชมร้านขายของ ร้านขนมข้างทางไปเรื่อยๆ
ถ้าใครกลัวหลงทาง ให้เงยหน้านิด ตามข้างทางจะมีป้ายผ้าเป็นรูปพระพุทธรูปตลอดเส้นทาง ถ้ายังเห็นอยู่ก็มั่นใจได้ว่ายังไม่หลงนะ

ทางเข้าวัดอาจจะดูไม่ค่อยเด่นสักเท่าไหร่ และเหมือนสวนมากกว่า
เดินเข้าไปนิดนึงจะเจอกับที่ขายบัตร ซื้อบัตรผ่านประตูแล้วเดินเข้าไป เราจะเห็นพระพุทธรูปใหญ่โตอลังการ แต่มีสีหน้าแสนสงบตระหง่านอยู่เลยค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

พระพุทธรูปนี้สามารถเดินเข้าไปชมภายในเพื่อดูวิธีการก่อสร้างและบูรณะได้ โดยมีค่าเข้าชม สามารถชำระเงินและเข้าได้จากด้านขวาของพระพุทธรูปเลย
เลยออกไปอีกทางด้านขวาจะเป็นที่ขายเครื่องราง พระพุทธรูป และหนังสือพุทธประวัติ
สำหรับเครื่องรางที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ เครื่องรางสำหรับปัดเป่าโรคภัยที่ขาโดยเฉพาะ ทำเป็นรูปรองเท้าเกี๊ยะสีทอง เหมาะซื้อให้ญาติผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก

เวลามาที่นี่ หลายท่านอาจจะงงว่า "ไหนวัด?"
นั่นก็เพราะตัวพระพุทธรูปและวัดนั้นสร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1252 แต่หลังจากนั้นตัวอาคารได้รับความเสียหายอย่างมากจากพายุถึง 2 ครั้งและแผ่นดินไหวอีก 1 ครั้ง ทำให้ตัวอาคารถูกรื้อถอนไปจนหมดเหลือแต่ตัวพระพุทธรูปที่ยังคงสภาพได้อย่างสมบูรณ์!
องค์พระพุทธรูปนั้นถือเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นองค์หนึ่งเลยล่ะค่ะ

สายใยไทยญี่ปุ่นกับต้นสนสายสัมพันธ์ 4 รัชกาล

ที่สวนด้านหน้าทางเข้าออกของวัดแห่งนี้ยังมีสิ่งยืนยันความสัมพันธ์อันดีของไทยกับญี่ปุ่น และยังเป็นที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ชาวไทยควรค่าแก่การแวะมาอย่างยิ่งค่ะ!

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เมื่อเราเข้าจากทางเข้ามาเจอกับจุดล้างมือเพื่อชำระให้บริสุทธิ์แล้ว ด้านหลังตรงนั้นเราจะเห็นต้นสนสามต้นได้ค่ะ (ตำแหน่งตามในรูปเลย)
ต้นสนสามต้นนี้ แท้จริงแล้วคือต้นสนพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทยรวมแล้วทั้งสิ้น 4 รัชกาลค่ะ
โดยต้นหนึ่งเป็นพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ทรงปลูกร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี
อีกต้นหนึ่งเป็นพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) แต่ต้นไม้ถูกแมลงรังควานจนตายไป พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) จึงทรงมีพระกระแสรับสั่งให้เอกอัครราชฑูตไทยในญี่ปุ่นนำต้นสนต้นใหม่มาปลูกทดแทน
ส่วนต้นสุดท้ายเป็นต้นสนพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (รัชกาลที่ 10) นี้เองค่ะ

ด้านหน้าต้นสนแต่ละต้นยังมีแผ่นป้ายอธิบายไว้ สามารถไปอ่านรายละเอียดได้เลย

12:00 เดินทางสู่เกาะ "เอะโนะชิมะ" (Enoshima) สถานที่เดทยอดนิยม

ไหว้พระและชมพระบารมีกันเสร็จแล้ว เราก็เดินกลับมาที่สถานีเดิมค่ะ คราวนี้นั่งรถไฟไปยังสถานีเอะโนะชิมะ (Enoshima) กันเลย
เวลาขึ้นรถต้องระมัดระวังว่าต้องนั่งจากชานชาลาฝั่งไหนด้วยนะคะ

ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จะมาถึงสถานีเอะโนะชิมะ เมื่อออกมาจากสถานีแล้วให้เลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ อย่างเดียวเลยจ้า 

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เราก็จะเห็นแสงสว่างสะท้อนกับผิวทะเลสวยแล้ว! แต่ในการไปยังสะพานข้ามเกาะจะต้องเดินลงทางลอดใต้ถนนนะจ้ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

วันที่ผู้เขียนเดินทางไปนั้นอากาศดีมากค่ะ จนมองเห็นภูเขาฟูจิจากตรงนี้ได้เลยล่ะ! ผู้เขียนเองก็ตื่นเต้นมากเช่นกันจ้า ^^

12:50 ทานอาหารขึ้นชื่อ "ปลาชิราสุ" ที่ โทะบิจโจะ (Tobiccho)

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เดินข้ามสะพานยาวสัมผัสลมทะเลกันชิลล์ๆ มาจนถึงเกาะเอะโนะชิมะแล้ว ตรงเข้าไปจะเห็นเสาโทริอิในสีแปลกตาเป็นทางเข้าสู่ถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าเรียงรายค่ะ แถวนี้ก็เป็นทำเลเหมาะแก่การหาซื้อของฝากเหมือนกันนะ มีทั้งร้านขายพวกเปลือกหอยสวยๆ ไปจนถึงเสื้อยืดและหมวกสกรีนลายเฉพาะของที่นี่เท่านั้น! แถมยังมีร้านของ Hello Kitty อยู่ด้วยนะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Tobiccho

แต่ก่อนอื่นเลย เดินลอดโทริอิมาได้แป๊บเดียว ทางด้านขวามือเราจะเห็นร้านที่ขายทั้งของฝากและมีตู้โชว์เมนูอาหารเด่นอยู่หน้าร้านอย่างร้านโทบิจโจะ "Shirasu Toiya Tobiccho" ค่ะ
ร้านนี้มีเมนูมากมายจาก "ปลาชิราสุ" ซึ่งคล้ายๆ กับปลาข้าวสารบ้านเรา เมนูแนะนำที่สุดเห็นจะไม่พ้น นามะชิราสุ หรือ ปลาชิราสุสด ค่ะ แต่เนื่องจากชิราสุเป็นปลาที่เสียความสดง่าย ทางร้านจะเสิร์ฟเฉพาะปลาชิราสุสดๆ ที่จับได้ในวันนั้นเท่านั้น หากเป็นช่วงห้ามจับปลาหรือวันที่อากาศไม่ดีจนออกเรือไม่ได้ ทางร้านจะไม่นำปลาเก่ามาเสิร์ฟเป็นปลาสดเด็ดขาด เพื่อความอร่อยและความปลอดภัยของลูกค้าค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

แต่เมนูจากปลาชิราสุนั้นก็มีทานแบบสุกๆ เช่นกัน รวมไปถึงเมนูเอกลักษณ์ของร้านนี้อย่าง ชิราสุโนะคาคิอาเกะ (Shirasu no Kakiage) เป็นเมนูปลาชิราสุชุบแป้งทอดเป็นแผ่นใหญ่ขนาดพอๆ กับใบหน้าเลยล่ะ! เมนูของทอดแบบนี้ทำให้ทานง่ายมากเลย
หากท่านใดที่ไม่ชอบทานของดิบแต่กลัวจะพลาดของดีของท้องถิ่น ก็ขอแนะนำเมนูนี้เลย!

ส่วนเมนูที่เราสั่งมาทานกันในวันนี้คือข้าวหน้าปลาแซลมอน ไข่ปลาแซลมอน พร้อมกับปลาชิราสุต้ม (Kamaage shirasu Shake Ikura no Oyako-don) ที่ทั้งอร่อยจากปลาแซลมอนพร้อมไข่ปลา (อิคุระ) สดๆ แถมยังได้ลิ้มรสปลาชิราสุแบบต้มสุกแล้วอีกต่างหาก

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูภาษาต่างชาติทั้งอังกฤษและไทยด้วยค่ะ การแปลอาจจะมีแปลกๆ อยู่บ้าง แต่มีรูปประกอบ ทำให้เข้าใจง่ายมากเลย

14:00 ไหว้พระขอพรที่จะทำให้สมหวังและสวยด้วย!? ที่ศาลเจ้าเอะโนะชิมะ (Enoshima Shrine)

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

พอทานอาหารเสร็จ เราก็กลับมาเดินที่ทางเดิม ตรงเข้าไปเรื่อยๆ จะพบกับซุ้มประตูโทริอิสีแดง จากตรงนี้ไปก็คือเขตแดนเทพเจ้าของศาลเจ้าเอะโนะชิมะค่ะ
ศาลเจ้าเอะโนะชิมะแบ่งออกเป็น 3 อาคารใหญ่ๆ ด้วยกัน โดยจะต้องขึ้นบันไดไปตามภูเขาเรื่อยๆ
แต่ถ้าหากใครอยากเที่ยวแบบสบายๆ แล้วล่ะก็!? พอลอดผ่านโทริอิมาแล้ว ให้มองซ้ายเลยค่ะ! เราจะพบกับอาคารที่หน้าตาคล้ายๆ ศาลเจ้า แต่แท้จริงแล้วคือ Enoshima Escar หรือบันไดเลื่อนค่ะ!
วันนี้เราจะเข้าไปชมสวนและประภาคารด้านบนด้วย จึงแนะนำให้ซื้อเป็น Smart Pass ที่รวมทั้งค่าใช้บริการ Enoshima Escar และบัตรผ่านประตูเข้าสวน Samuel Cocking กับประภาคาร Sea Candle ในราคาสุดคุ้มกันค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ศาลเจ้าเอะโนะชิมะประกอบด้วยสามอาคารที่สถิตย์ของเทพีสามองค์ โดยเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นแรกจะเป็น "เฮสึโนะมิยะ" (Hetsunomiya) ชั้นที่สองคือ "นากาสึมิยะ" (Nakatsumiya) และเมื่อขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงชั้นบนสุด เดินต่อไปอีกสักระยะจะเจอกับ "โอคุสึมิยะ" (Okutsumiya) เทพีทั้งสามเชื่อกันว่าเป็นผู้คุ้มครองน้ำและท้องทะเล รวมถึงให้โชคลาภ และความสามารถด้านศิลปะต่างๆ นอกจากนี้ยังถูกเชื่อมโยงกับเทพีเบงไซเท็น จึงทำให้เชื่อว่าให้โชคด้านความรักและความงามอีกด้วยค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ที่นี่จึงมีทั้งแผ่นป้ายขอพร (เอมะ) วาดรูปหัวใจที่ให้เขียนชื่อของคนสองคน และเครื่องรางแปลกๆ หาที่อื่นไม่ได้ เช่น เครื่องรางขอพรให้หุ่นดี ผมสวย ผิวเปล่งปลั่ง เป็นต้น
แถมในชั้นที่สอง (นากาสึมิยะ) นี่ยังมีเซียมซีที่น่าสนใจ คือ เซียมซีน้ำ ที่ต้องเอากระดาษไปทำให้เปียกเสียก่อน คำทำนายถึงจะปรากฏค่ะ

15:00 เข้าสวน Samuel Cocking Garden ชมดอกไม้แสนสวย

พอใช้บริการบันไดเลื่อนครบหมดแล้ว เราจะมาอยู่บนยอดเขาเลยค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ใกล้ๆ กับบันไดเลื่อนเราจะเจอกับทางเข้าสวนซามูเอลคอกกิ้ง (Samuel Cocking Garden) ซึ่งภายในเป็นสวนที่มีต้นไม้ ดอกไม้ให้หย่อนใจ มีร้านอาหาร คาเฟ่ให้นั่งพัก และยังมีจุดชมวิวกับประภาคาร Sea Candle ด้วยค่ะ
สามารถซื้อบัตรผ่านประตูได้จากด้านหน้าได้เลย แต่ถ้าใครซื้อมาพร้อมกับค่าบันไดเลื่อนแล้วก็เข้าได้เลยจ้า

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ประมาณกลางเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมกราคม ที่นี่มีจัดแสดงทิวลิปฤดูหนาวหลากสีสัน สายพันธุ์และรูปทรงกว่าสองหมื่นต้นด้วยค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

อากาศหนาวๆ อย่างนี้ เราอาจจะคิดว่าดอกไม้คงทนหนาวไม่ไหว เหี่ยวเฉากันไปหมด
พอได้มาเดินท่ามกลางดอกทิวลิปที่บานอวดโฉมกันท้าหนาวแบบนี้ ทำให้เราต้องรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปรัวๆ เลยทีเดียว
หรือใครจะนั่งผ่อนคลายสบายๆ ชมดอกไม้ก็ยังได้นะคะ

LONCAFE ผู้เชี่ยวชาญด้าน French Toast!

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

สำหรับใครที่อยากพักผ่อนชิลล์ๆ พร้อมทานขนมอร่อยๆ ขอแนะนำ LONCAFE ซึ่งอยู่ภายในสวน Samuel Cocking เลยค่ะ
ร้านนี้เป็นคาเฟ่ที่เป็นร้านเฉพาะทางด้าน French Toast ร้านแรกของญี่ปุ่นเลยทีเดียวนะ!

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ขนมปังนุ่มชุ่มเนย โปะหน้าด้วยเครมบรูเล่หอมคาราเมล ราดด้วยบลูเบอรี่ซอส เสิร์ฟพร้อมไอศครีมวานิลลาหอมหวาน
เมนูในภาพคือ French Toast เครมบรูเล่เข้มข้น (Noukou Creme Brulee)
เมนู French Toast ทั้งหมดมาพร้อมเครื่องดื่มด้วยค่ะ

16:40 ขึ้นประภาคาร Sea Candle ชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยเหนือคำบรรยาย

เป้าหมายต่อไปคือ เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกกัน!
วันที่ผู้เขียนมานั้น พระอาทิตย์ตกประมาณเวลา 16:50 เราเลยขึ้นมาก่อนเวลานิดนึงเพื่อเตรียมตัวค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่จะมานั้น ก็ควรเช็คเวลาพระอาทิตย์ตกในวันนั้นๆ ด้วยนะคะ จะได้ไม่เสียเที่ยว
และถ้าใครเตรียมกล้องมาเพื่อเก็บภาพความงดงามล่ะก็ แนะนำให้ขึ้นไปรอก่อนเวลาค่ะ จะได้มีเวลาจองมุมส่วนตัวและเตรียมอุปกรณ์

สำหรับประภาคาร Sea Candle มีค่าเข้า จึงแนะนำให้ซื้อพร้อมตั๋ว Smart Pass คุ้มสุดที่แนะนำไปจ้า แต่หากยังไม่ได้ซื้อตั๋ว Smart Pass คุ้มสุดมา ก็สามารถซื้อตั๋วเข้าที่นี่ได้
ตัวประภาคารสูงใหญ่ขนาดนี้ รับรองว่าไม่มีหลงแน่นอน พอขึ้นลิฟท์มาจนสุดจะเป็นห้องกระจกที่ชมวิวได้รอบทิศ พร้อมภาพอธิบายว่าอะไรอยู่ตรงไหน
แต่แค่นี้ยังไม่ชัดสมใจ เราจึงเดินบันไดขึ้นไปอีกชั้นนึงค่ะ ด้านบนจะเป็นจุดชมวิวแบบไม่มีกระจกกั้น มีเพียงรั้วเท่านั้น ต้องระมัดระวังเรื่องลมนิดนะคะ
ขึ้นมาถึงตรงนี้ก็เดินชมรอบๆ สักรอบสองรอบ แล้วมายืนตั้งป้อมทางทิศตะวันตกได้เลยค่ะ!

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ภาพดวงอาทิตย์ค่อยๆ คล้อยต่ำลงจนถึงขอบฟ้า เปลี่ยนแสงจากเหลืองทองเป็นสีส้ม ก่อนจะอ่อนแรงลับฟ้าไป
ยิ่งวันนี้เห็นภูเขาฟูจิได้ชัด บอกได้เลยว่าภาพความสวยงามเช่นนี้ จะตราตรึงในใจ เป็นความทรงจำในการเที่ยวญี่ปุ่นที่งดงามมากๆ แน่นอนค่ะ

17:00 ชมการประดับไฟสุดอลังการและโรแมนติกที่ยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคคันโต

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

พอลงมาจากประภาคาร รอบข้างก็ระยิบระยับไปด้วยประกายแสงแล้ว!
งานประดับไฟที่สวนนี้มีชื่อว่า Shonan no Houseki หมายถึง "อัญมณีแห่งโชนัน" ซึ่ง โชนันเป็นชื่อที่หมายถึงบริเวณนี้นี่เองค่ะ งานประดับไฟนี้จะจัดขึ้นทุกฤดูหนาว
ถ้าหากมาทันเวลาเปิดไฟ จะได้เคานท์ดาวน์พร้อมกับเห็นแสงไฟทั้งสวนเปิดสว่างวาบขึ้นพร้อมๆ กันด้วยล่ะค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

ไฮไลท์ของงานคือซุ้มทางเดินที่ประดับด้วยดวงไฟและคริสตัลกว่าเจ็ดหมื่นชิ้น ในชื่อ Shonan Chandelier
เป็นทางเดินสุดโรแมนติกที่ทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในโลกแห่งความฝันเลยล่ะค่ะ

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

บริเวณรอบๆ ก็มีการประดับไฟอย่างงดงาม รวมไปถึงเราสามารถชมดอกทิวลิปท่ามกลางแสงไฟชวนฝันแบบนี้ได้ด้วย

18:00 เดินทางกลับที่พักในโตเกียว

หลังจากเดินชมความงดงามและโรแมนติกเกินคำบรรยายจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลากลับโตเกียวกันแล้วล่ะ
เราสามารถนั่งรถกลับจากสถานีเอะโนะชิมะที่เราใช้ตอนขามาก็ได้

แผนเที่ยวคามาคุระและเอะโนะชิมะ ทั้งพระอาทิตย์ตกสุดสวย ไฟประดับสุดโรแมนติคติดอันดับ!

แต่พอเดินข้ามสะพานจากเกาะกลับมายังฝั่งแล้ว เราจะขอแนะนำให้เดินไปทางซ้ายมือแทน เพื่อชมสถานีคาตาเสะ เอะโนะชิมะ (Katase-Enoshima) ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือน "วังมังกร" วังใต้น้ำของชาวบาดาลในนิทานเรื่องอุราชิมะทาโร่ของญี่ปุ่น ในช่วงนี้ยังมีการประดับไฟสวยงามอีกด้วยนะ
และเรายังสามารถนั่งรถกลับจากสถานีนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
โดยใช้พาสใบเก่งใบเดิมของเรานั่งจากสถานีนี้ไปลงถึงสถานีชินจูกุได้เลย!
แต่รถบางคันที่ออกจากสถานีอาจจะไม่ใช่รถด่วน ในกรณีแบบนั้นเราจะแนะนำให้ไปเปลี่ยนรถเป็นรถแบบ Express ที่สถานีฟูจิซาวะที่เราใช้ตอนขามาค่ะ
เวลาประมาณ 20:00 เราก็จะกลับมาถึงชินจูกุใจกลางเมืองโตเกียวเรียบร้อย
เป็นอันจบทริปการเดินทางที่ได้ทั้งไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลแถมยังได้ชมความงดงามแบบญี่ปุ่นที่หาได้ยากยิ่งรวมกันในทริปเดียวชนิดที่เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ เลยล่ะ!

สรุปการเดินทาง

สถานีชินจูกุ → สถานีฟูจิซาวะ → สถานีคามาคุระ → ศาลเจ้าสึรุงะโอกะฮะจิมังกู → สถานีฮาเสะ → วัดโคโตคุอิน → สถานีเอะโนะชิมะ → โทบิจโจะ → ศาลเจ้าเอะโนะชิมะ → สวน Samuel Cocking → ประภาคาร Sea Candle → สถานีคาตาเสะ เอะโนะชิมะ → สถานีชินจูกุ

Supported by Odakyu Electric Railway Co.,Ltd.

บทความโดย

Kogetsu(GREATERTOKYO_Explorer)

สาวไทยในโตเกียว ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยวและชิมของอร่อย สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง