"Reoma Resort" สรวงสวรรค์แห่งดอกไม้ 4 ฤดูกาลที่ใหญ่ที่สุดในชิโกะคุ (Shikoku) คากาวะ (Kagawa)

จัดให้! สำหรับใครที่อยากชมดอกไม้แสนสวยตลอดปี

ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ทุกฤดูกาลและแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อสำหรับชมดอกไม้เหล่านั้นมากมายไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ ดอกบ๊วย ดอกเนโมฟิลา ดอกฟูจิ (วิสทีเรีย) และอื่นๆ

แต่ตามแหล่งชมดอกไม้มักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแน่นขนัด แถมทริปชมดอกไม้แบบนี้ ... ถ้าพลาดเรื่องช่วงเวลานิดเดียวอาจกลายเป็นทริปชมใบไม้แทนไปได้เลย

ดังนั้น ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่สามารถใช้ช่วงเวลาผ่อนคลายชิลล์ๆ ชมดอกไม้นานาพันธุ์ 4 ฤดูกาลได้ตลอดทั้งปีกันค่ะ

โดยสถานที่ที่ว่านี้ก็คือ "Reoma Resort" ในจังหวัดคากาวะ (Kagawa) ของภูมิภาคชิโกะคุ (Shikoku) นั่นเอง

“Reoma Resort” ศูนย์กลางการท่องเที่ยวชิโกะคุที่สามารถสนุกได้ทั้งครอบครัว

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

"Reoma Resort" คือ สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชิโกะคุและภูมิภาคจูโกกุของญี่ปุ่น รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวรวมความบันเทิงขึ้นชื่อด้วย
ภายในสถานที่เป็นที่ตั้งของทั้งโรงแรม "Hotel Reoma No Mori", ออนเซ็นธรรมชาติ "Morinoyu", สวนสนุก "NEW Reoma World", โซนจำลองสถาปัตยกรรมในเอเชีย "Oriental Trip" และสวนน้ำ "Reoma Waterland" (สระว่ายน้ำกลางแจ้งเปิดให้บริการเฉพาะในฤดูร้อน)
บอกเลยว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดสำหรับสัมผัสกับ “ความบันเทิง” และ “ความผ่อนคลาย” ในแห่งเดียวเลย

Reoma Resort แห่งนี้แบ่งออกเป็นโซนๆ โดยหนึ่งในนั้นคือ "Oriental Trip" เป็นโซนที่เน้นธีมเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมเอเชีย ภายในโซนมีทั้งสถาปัตยกรรมของเอเชียและทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลอันแสนกว้างใหญ่ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เดี๋ยวเรารีบไปเที่ยวชมข้างในกันเลยดีกว่าค่ะ!

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :

สรวงสวรรค์แห่งชิโกะคุที่ "Reoma Resort" ครบทั้งออนเซ็น โรงแรม และสวนสนุก ในคากาวะ!

“Oriental Trip” โซนจำลองวัฒนธรรมเอเชีย

เมื่อเปรียบเทียบกับ "NEW Reoma World" โซนสวนสนุกขนาดใหญ่ใจกลาง Reoma Resort และโรงแรมออนเซ็น "Hotel Reoma No Mori" แล้ว โซน "Oriental Trip" อาจจะดูเล็กสักนิด แต่ภายในโซนนี้อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่มีในธีมปาร์คหรือสวนสนุกแห่งอื่นๆ แน่นอน!

สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกเมื่อเดินเข้ามาภายใน "Oriental Trip" เลยก็คือสถาปัตยกรรมที่ดูเหมือนมัสยิดแห่งนี้นั่นเอง โดยเป็นการจำลองสถาปัตยกรรมทางศาสนาของอิสลามที่มีทั้งกำแพงสูงและเพดานทรงกลมสุดเอกลักษณ์ จึงบอกเลยว่าไม่ว่าใครได้มาจะต้องรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในประเทศอื่นกันอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เมื่อเดินเข้าไปข้างในเรื่อยๆ ก็จะพบกับโซน "อาณาจักรอังกอร์แห่งกัมพูชา" ซึ่งมีการจำลองวัดสไตล์มรดกโลกอย่างนครวัดเอาไว้อย่างสมจริงสุดๆ สาเหตุที่สร้างออกมาได้สมจริงขนาดนี้ก็เพราะว่าที่นี่จ้างช่างฝีมือชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาสร้างสรรค์ผลงานให้อย่างละเอียดยิบๆ ถึงญี่ปุ่นเลยนั่นเอง

แถมภายในโซนนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมที่จำลองมาจาก "ตาชิโชซอง" วัดของประเทศแห่งพุทธศาสนาอย่าง "ภูฏาน" ด้วยนะเออ

สร้างออกมาได้เหมือนจริงขนาดทำให้รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังอยู่ในกัมพูชาและภูฏานจริงๆ เลยนะเนี่ย!

ถ้าเกิดเรามองลงมาจากเนินเขาขนาดย่อมจะไม่ได้เห็นแค่นครวัดจำลองนี้เท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นภูเขาอีโนะ (Mt. Iino) ภูเขาชื่อดังประจำคากาวะซึ่งเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า "ซานูกิฟูจิ" ตั้งอยู่ไกลๆ ด้วย เราจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามจากบนเนินแห่งนี้กันอย่างจุใจเลยล่ะค่ะ

หลังจากชมวัฒนธรรมสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันออกกันจนเต็มอิ่มแล้วก็มุ่งหน้าไปยัง "Reoma Flower World" กันต่อเลย!

"Reoma Flower World" โซนที่บานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์

"Reoma Flower World" คือ โซนทุ่งดอกไม้ขนาดกว้างใหญ่กว่า 62 ไร่ภายใน Reoma Resort มีการปลูกดอกไม้ 100 สายพันธุ์เอาไว้มากกว่า 42,000 ต้น ไม่ว่าจะเป็นดอกลิลลี่ ดอกไฮเดรนเยีย ดอกชิบะซากุระ ดอกทิวลิป ไปจนถึงสวนกุหลาบกว่า 300 สายพันธุ์จากทั่วโลก และอื่นๆ อีกมากมาย จึงบอกเลยว่าไม่ว่าจะมาเที่ยวฤดูกาลไหนก็มีดอกไม้สวยๆ บานสะพรั่งรอทุกคนอยู่ทุกเมื่ออย่างแน่นอน ^^

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

แม้พื้นที่กว่า 62 ไร่ของทุ่งดอกไม้ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซน "Oriental Trip" ก็จริง แต่บางส่วนก็กระจายไปถึงโซนอื่นด้วย
บอกเลยว่าต้องมาชมทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของทะเลดอกไม้ที่นี่กันให้ได้ค่ะ!

ตระการตากับทะเลทิวลิป

ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนเมษายนของทุกปี ที่เนินลาดด้านหน้านครวัดจะมีการจัด "งานเทศกาลทิวลิป" ขึ้น โดยเป็นทุ่งดอกทิวลิปขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคชิโกะคุที่บานสะพรั่งไปด้วยดอกทิวลิปมากกว่า 175 สายพันธุ์ รวมกว่า 15,000 ดอกเลยทีเดียว

ดอกทิวลิปหลากสีสันชูดอกขึ้นตรงค่อยๆ พลิ้วไหวไปตามแรงลม โดยมีแสงอาทิตย์สาดส่องมากระทบจนทำให้นครวัดที่ตั้งอยู่เป็นฉากหลังดูยิ่งใหญ่ตระการตาขึ้นมาทันที ส่วนตอนเย็นนั้นเราจะได้ชมอาทิตย์โน้มต่ำแสนสวนงามที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้และอาคารโบราณสถาน

เพลิดเพลินกับสวนดอกกุหลาบ Rose Garden

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

ในเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคมเป็นช่วงชม "ดอกกุหลาบ" ซึ่งนับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่เลยค่ะ
ภายใน "Reoma Rose Garden" พื้นที่ขนาด 1,000 ตารางเมตรด้านใน Oriental Trip บานสะพรั่งไปด้วยดอกกุหลาบจากทั่วโลกมากมายกว่า 20,000 ต้น ไม่ว่าใครก็จะต้องประทับใจในความงดงามของดอกกุหลาบขนาดใหญ่กลิ่นหอมอบอวลภายใต้ท้องฟ้าใสกันอย่างแน่นอน!

สวนที่อยู่ในโซนสถาปัตยกรรมมัสยิดบานสะพรั่งไปด้วยดอกกุหลาบกว่า 300 สายพันธุ์จากทั่วโลกและมีจำหน่ายต้นอ่อนของกุหลาบพันธุ์ดีด้วย กุหลาบที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ "Reoma Rose" ซึ่งเป็นกุหลาบสายพันธุ์เฉพาะของ Reoma Resort แห่งนี้นั่นเอง เพียงแค่ได้ชม Reoma Rose เราจะรับรู้ถึงความรักและความเอาใจใส่ต่อกุหลาบของ Reoma Resort ได้ทันที

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

เมื่อมีโอกาสได้มาเยือน Rose Garden ซึ่งเป็นงานเทศกาลกุหลาบที่ใหญ่ที่สุดในชิโกะคุระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคมแล้วก็บอกเลยว่าห้ามพลาดชมดอกกุหลาบพันธุ์ "Reoma Rose" ด้วยประการทั้งปวง!

สวนสีขาวบริสุทธิ์ที่ White Garden (ภายใน English Garden)

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

นอกจากทิวลิปและกุหลาบแล้วก็มีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ภายใน "โซน English Garden" ของ Oriental Trip ที่นี่เป็นโลกที่สรรสร้างขึ้นมาด้วยดอกไม้สีขาวมากมายซึ่งมีชื่อว่า "White Garden" โลกสีขาวอันงดงามหรูหรา ดูตระการตาแห่งนี้มีทั้งดอกคอสมอสสีขาว ดอกมาร์กาเร็ตสีขาว ดอกไฮเดรนเยียสีขาว ดอกกุหลาบสีขาว และอื่นๆ ตรงกลางยังเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำกว้างใหญ่เหมาะกับการแวะมาพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ

ทอดน่องไปตามทางเดินสไตล์ยุโรป

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

แถมเราสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้นอก Oriental Trip ได้ด้วยนะ
ห้ามพลาดมาดื่มด่ำกับพรมดอกชิบะซากุระในเดือนเมษายนภายในโซนสวนสนุก "NEW Reoma World" ด้วยประการทั้งปวง!
ส่วนบริเวณติดกับคลองเป็นที่ตั้งของ "Wind of Road" ทางเดินสไตล์กรีซที่ประดับตกแต่งไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ตัดกับกำแพงสีขาว
เพียงแค่ได้มาเดินเล่นกินลมชมวิวเลียบคลองก็ให้อารมณ์ความรู้สึกราวกับอยู่ยุโรปเลยทีเดียว แถมระหว่างเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคม เราจะได้เพลิดเพลินไปกับ "ทางเดินกุหลาบแขวน" ที่ปกคลุมไปด้วยกุหลาบแขวนผนังตามทางเดินยาวกว่า 160 เมตรด้วยนะ!

ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีการจัดแสดงรักเร่และกุหลาบฤดูใบไม้ร่วง ส่วนในฤดูหนาวจะได้สัมผัสกับดอกวิโอลาที่บานสะพรั่งงดงามมาก เห็นไหมคะว่าที่นี่เป็นธีมปาร์คที่สามารถชมดอกไม้สวยงามได้ตลอดทั้งปีเลยนะ!

ทริป 2 วัน 1 คืนแนะนำสำหรับการชมดอกไม้บานสะพรั่ง!

หลังจากชมบรรดาดอกไม้นานาพันธุ์ในช่วงกลางวันจนครบแล้วก็อย่าลืมอยู่รอชมอีเว้นท์จัดแสดงไฟ "Legend Palace" ภายใน Oriental Trip ช่วงกลางคืนกันด้วยเนอะ โดยจะมีการประดับไฟสว่างไสวให้อารมณ์ของดอกไม้ที่แตกต่างออกไปจากช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิง

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Reoma Resort

แล้วที่พลาดไม่ได้เลยก็คือถ้าใครได้มาเข้าพักที่ "Hotel Reoma No Mori" สักคืน นอกจากจะได้สนุกกับการชมดอกไม้ทั้งกลางวันและกลางคืนแล้ว ยังจะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันไปกับอาหารและออนเซ็นครบเซ็ทกันสุดคุ้มด้วย! ทริปดีๆ แบบนี้นี้ขอแนะนำสำหรับทั้งครอบครัว คู่รัก หรือแก๊งสาวๆ เป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ!

รายละเอียดการจองที่พัก “Hotel Reoma No Mori” สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่

คูปองส่วนลดสุดคุ้มก็มา!!

รับคูปองส่วนลดสุดคุ้มในการเข้าพักที่ Hotel Reoma No Mori สำหรับแฟนๆ MATCHA เท่านั้น!!
เพียงแค่บุ๊คมาร์คหรือเซฟหน้าจอนี้ไว้ และแสดงกับพนักงานตอนเช็คอิน ก็ได้รับส่วนลดสุดคุ้มนี้แล้ว

COUPON

ใหม่ Reoma World

40-1 Kurikuma Nishi, Ayauta-cho, เมือง Marugame, จังหวัด Kagawa 761-24...

Written by Chia
Sponsored by Reoma Resort