Start planning your trip
13 จุดชมซากุระในภูมิภาคชูโกะคุและชิโกะคุ ปี 2021 ฮิโรชิม่า โอคายามะ คากาวะ และ เอฮิเมะ
13 จุดชมซากุระพร้อมธรรมชาติสวยๆ ในภูมิภาคชูโกะคุ (Chugoku) และ ชิโกะคุ (Shikoku) ทั้งซากุระพร้อมปราสาท ซากุระกับเกาะน้อยใหญ่เป็นฉากหลัง ซากุระบนยอดเขา แต่ละที่โดดเด่นอลังการทั้งนั้น ต้องลองไปดูด้วยตากันเองให้ได้สักครั้งค่ะ
ทิวทัศน์อันแสนงดงามในฤดูใบไม้ผลิ! ไปชมดอกซากุระกันเถอะ
Photo by Pixta
เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะผลิบานทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานนั้นแสนสั้น! หลังจากบานเต็มที่แล้วก็จะร่วงโรยไปภายในหนึ่งสัปดาห์
ด้วยความที่ดอกซากุระร่วงไวมากอย่างนี้ แม้แต่คนญี่ปุ่นเองบางทีก็ยังคิดเลยว่าปีนี้ยังไม่ได้ไปฮานามิ (ชมดอกซากุระ) ให้เต็มที่เลย ถ้าอยากเต็มอิ่มกับทิวทัศน์ของซากุระที่ญี่ปุ่นล่ะก็ เราขอแนะนำให้วางแผนดีๆ ก่อนไปค่ะ
ในบทความนี้ จะขอมาแนะนำ 10 จุดชมดอกซากุระในภูมิภาคชูโกะคุ เช่น จังหวัดฮิโรชิม่า จังหวัดโอคายามะ และภูมิภาคชิโกะคุ เช่น จังหวัดคากาวะ จังหวัดเอฮิเมะกันค่ะ
จุดชมดอกซากุระที่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติของท้องทะเลและภูเขาไปพร้อมๆ กันได้ เป็นทิวทัศน์อันแสนงดงามที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังประทับใจไปตามๆ กัน แต่ละจุดน่าไปให้ได้สักครั้งจริงๆ ค่ะ
สารบัญ |
1. มิยาจิมะ ฮิโรชิมา - ถนนแห่งซากุระที่มุ่งสู่ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ |
ภูมิภาคชูโกะคุ |
1. มิยาจิมะ จังหวัดฮิโรชิม่า
ถนนแห่งซากุระที่มุ่งสู่ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ
Picture courtesy of Hiroshima Prefecture
เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island)ที่ตั้งของศาลเจ้ามรดกโลกอย่างศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) บนเกาะมีดอกซากุระกว่า 1,900 ต้น สีน้ำเงินของน้ำทะเลที่อยู่ด้านหลังยิ่งขับให้สีชมพูอ่อนของดอกซากุระดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
ด้านหน้าของมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างเจดีย์ทาโฮโทและวัดเก่าแก่อย่างวัดโคเมียวอิน เป็นจุดชมซากุระตอนกลางคืนแสนสวย ดอกซากุระที่ต้องแสงวับแวมจากโคมบมโบริ (*1) ช่างดูราวกับโลกในความฝันเลย
* ประตูโอริอิใหญ่ของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ อยู่ระหว่างการซ่อมแซมตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2019 และยังไม่ประกาศกำหนดเสร็จ
*1: บมโบริ ... โคมอันดงขนาดเล็กที่คลุมด้วยกระดาษหรือผ้าไหม
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
เกาะมิยาจิมะ (Miyajima Island)
การเดินทาง : จาก "ท่าเรือมิยาจิมะกุจิ" นั่งเรือ 10 นาที ลงที่ "ท่าเรือมิยาจิมะ" (180 เยน) เดินต่อประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : http://www.miyajima.or.jp/english/index.html
2. สวนอนุสรณ์สันติภาพ จังหวัดฮิโรชิม่า
ซากุระท่ามกลางสวนแห่งสันติภาพ
Picture courtesy of Hiroshima Prefecture
สวนอนุสรณ์สันติภาพ (Peace Memorial Park) แห่งนี้ตั้งขึ้นหลังเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อแสดงถึงความปรารถนาให้โลกได้พบกับสันติภาพอันเป็นนิรันดร์ เชื่อว่าหลายคนต้องรู้จักโดมปรมาณู (Atomic Bomb Dome) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกที่อยู่ด้านในสวนนี้อย่างแน่นอน
จริงๆ แล้วที่นี่ยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระขึ้นชื่ออีกด้วยค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิมีซากุระพันธุ์โซเมอิโยชิโนะที่งดงามตระการตากว่า 300 ต้นบานสะพรั่งอยู่ริมแม่น้ำ และยังมีไลท์อัพตอนกลางคืนอีกด้วย ดอกซากุระที่บานอย่างงดงามอยู่รอบๆ ซากปรักหักพังของโดมปรมาณูทำให้รู้สึกถึงความขลังอย่างบอกไม่ถูก
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
3. สวนเซระ โคซัน ฟุเรไอโนะซาโตะ จังหวัดฮิโรชิม่า
สถานที่หายากระดับประเทศ ถนนต้นชิดาเระซากุระ ซากุระพันธุ์กิ่งย้อย
Picture courtesy of Hiroshima Prefecture
ถนนต้นซากุระอาจจะมีหลายที่ แต่ถนนต้นซากุระของสวนเซระ โคซัน ฟุเรไอโนะซาโตะ (Sera Kouzan Fureainosato : Sera Village of Friendship) โดดเด่นและหายากเพราะเรียงรายไปด้วยต้นชิดาเระซากุระ เมื่อเดินผ่านต้นชิดาเระซากุระที่กิ้งย้อยเหมือนกำลังจะไหลลงมาหาเรา ก็จะได้เจอกับซากุระพันธุ์อื่นๆ ด้วย เช่น พันธุ์โซเมอิโยชิโนะและยาเอะซากุระ ด้านในมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ เหมาะจะมาชมซากุระกันเป็นครอบครัวมาก
ช่วงซากุระบานของที่นี่ไม่ยาวนานเท่าไหร่ ขอแนะนำให้เช็คข้อมูลดอกซากุระบานในเว็บไซต์ทางการก่อนเดินทางค่ะ
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
กลาง - ปลายเมษายน
สวนเซระ โคซัน ฟุเรไอโนะซาโตะ (Sera Village of Friendship)
การเดินทาง : จากสถานีคาวาซะ (Kawasa) รถไฟ JR สายฟุคุเอ็น (Fukuen Line) นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kouzan-f.com
4. สวนเซ็นโคจิ จังหวัดฮิโรชิม่า
กวาดสายตาชมวิวซากุระจากยอดเขา
Picture courtesy of Onomichi Tourism Association
เมืองโอโนมิจิ (Onomichi) เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดฮิโรชิม่า จะมาตระเวนชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ วัด ศาลเจ้า หรือมาปั่นจักรยานข้ามเกาะท่ามกลางทะเลในเซโตะสีครามบนเส้นทางชิมานามิไคโดก็ได้ ส่วนที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงของเมืองโอโนมิจิก็ต้องที่ สวนเซ็นโคจิ (Senkoji Park) ค่ะ
สวนที่มีขนาดกว้างใหญ่ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงกลางเขาขึ้นไปจนถึงยอดเขา สูงกว่าระดับน้ำทะเลในเซโตะราว 100 เมตร เพราะงั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราจะได้ชมวิวซากุระของสวนไปพร้อมกับวิวเมืองและเกาะต่างๆ ของทะเลในเซโตะด้วย
จากเชิงเขามีสถานีกระเช้าโรปเวย์ให้นั่งขึ้นไปด้านบน สามารถไปชมวิวได้อย่างสบายๆ เลย
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้นเมษายน
สวนเซ็นโคจิ (Senkoji Park)
การเดินทาง : จากสถานีชินโอโนมิจิ (Shin-Onomichi) นั่งรถบัสคันที่วิ่งผ่านนากาเอะ ปลายทางสถานีโอโนมิจิ (Onomichi via Nagae) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที 190 เยน ลงรถที่ป้ายนากาเอะกุจิ (Nagae-guchi) จะเห็นสถานีกระเช้าโรปเวย์อยู่ข้างๆ ให้นั่งกระเช้าขึ้นไปยังสถานีซันโจ บนยอดเขา ผู้ใหญ่ราคา 320 เยน
เว็บไซต์ : https://www.city.onomichi.hiroshima.jp/site/onomichikanko/1316.html
*สถานีชินโอโนมิจิ (Shin-Onomichi) ของชินคันเซ็นกับสถานีโอโนมิจิ (Onomichi) มีชื่อเหมือนกันแต่อยู่ห่างกัน ต้องใช้เวลาเดิน 45 นาที ต้องระวังอย่าไปผิดนะคะ
5. สวนอุเอโนะ จังหวัดฮิโรชิม่า
ซากุระแสนสวยบนผิวน้ำกลางสวนใหญ่
Photo by Pixta
สวนอุเอโนะ (Ueno Park) สวนชมซากุระชื่อดังที่มีบึงอุเอโนะขนาดกว้างใหญ่ร่วม 2 กิโลเมตรเป็นจุดศูนย์กลาง สามารถมาทัศนศึกษาชม โคะฟุน (*2) สุสานโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ทางประวัติศาตร์ของจังหวัดได้ด้วย
ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลซากุระ โชบาระอุเอโนะ (Shobara Ueno Sakura Festival) ในตอนกลางคืนสะพานสีแดงที่ทอดข้ามแม่น้ำและโคมบมโบริจะช่วยดึงความงดงามของดอกซากุระยามวิกาลให้เห็นชัดขึ้นค่ะ
*2 : โคะฟุน ... สุสานโบราณขนาดใหญ่ของผู้มียศศักดิ์และอำนาจในอดีต
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้น - กลางเมษายน
สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
การเดินทาง : จากสถานีบิงโกโชบาระ (Bingo-Shobara) รถไฟ JR สายเกบิ (Geibi Line) เดิน 10 นาที
เว็บไซต์ : https://shobara-info.com
*จากเมืองฮิโรชิม่าใช้เวลานั่งรถยนต์ไปเมืองโชบาระราว 1 ชั่วโมง หากจะเที่ยวในฮิโรชิม่าพร้อมๆ กันแนะนำให้ใช้บริการเช่ารถหรือนั่งรถบัสจะสะดวกกว่าค่ะ
6. สวนคาคุซัน ปราสาทสึยามะ จังหวัดโอคายามะ
ที่แสดงร่วมกันกับอิชิกากิ
Picture courtesy of Tsuyama Tourist Association
ปราสาทสึยามะ (Tsuyama Castle) หนึ่งใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ฐานหินสูง 10 เมตรที่ซ้อนกันหลายชั้นดูซับซ้อนและยิ่งใหญ่มาก มีก้อนหินที่เป็นรูปหัวใจด้วยนะคะ ลองไปตามหากันดูค่ะ
ยิ่งกว่านั้นที่นี่ยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระกว่า 1,000 ต้นจะเบ่งบานและมีการไลท์อัพในตอนกลางคืน ถือเป็นหนึ่งในที่เที่ยวเดเนดังของเมืองสึยามะค่ะ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็กเล็กถึงนักเรียนมัธยมต้นเข้าฟรีค่ะ
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้น - กลางเมษายน
สวนคาคุซัน ปราสาทสึยามะ (Kakusan Park, Tsuyama Castle)
การเดินทาง : จากสถานีสึยามะ (Tsuyama) รถไฟ JR สายสึยามะ (Tsuyama) เดิน 10 นาที
เว็บไซต์ : http://www.tsuyamakan.jp/en/index.html
7. แม่น้ำคุราชิกิ จังหวัดโอคายามะ
ซากุระพันต้นริมแม่น้ำ
Picture courtesy of Kurashiki Sightseeing Convention Bureau
คุราชิกิ (Kurashiki) แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่เรียงรายไปด้วยบ้านเรือนโบราณในเขตบิคัง (Bikan) ก็มีซากุระให้ชมเช่นเดียวกัน แต่เราลองเขยิบออกไปอีกหน่อยกันดีกว่า
Picture courtesy of Kurashiki Sightseeing Convention Bureau
บนระยะทางร่วม 3 กิโลเมตรเลียบแม่น้ำคุราชิกิตั้งแต่สะพานอิริฟุเนะบาชิ (Irifunebashi Bridge) ทางใต้สุดของเขตบิคัง มีต้นซากุระพันธุ์คาวาซุซากุระปลูกอยู่เรียงราย มาเดินเล่นริมน้ำที่ไหลเอื่อยๆ พลางชมซากุระสวยๆ กันค่ะ
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้น - ปลายมีนาคม
ซากุระพันต้นริมแม่น้ำคุราชิกิ (Kurashiki River)
การเดินทาง : จากสถานีคุราชิกิ (Kurashiki) รถไฟ JR สายซันโย (Sanyo Main Line) เดิน 20 นาที
เว็บไซต์ : https://www.kurashiki-tabi.jp/feature/2708/
8. สวนอุตสึบุกิ จังหวัดทตโตริ
ไลท์อัพฟุ้งฝันราวกับโลกในจินตนาการ
Photo by Pixta
ภูเขาอุตสึบุกิ (Utsubuki) สัญลักษณ์ของเมืองคุราโยชิ จังหวัดทตโตริ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สถานที่อาบป่าไม้ของญี่ปุ่น (*3) จากกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงแห่งชาติ บริเวณเชิงเขาอุตสึบุกิเป็นที่ตั้งของ สวนอุตสึบุกิ (Utsubuki Park) ที่มีดอกซากุระนานาพันธุ์เบ่งบานรอให้ทุกคนได้มาเที่ยวชม แต่ช่วงที่น่าดูที่สุดก็ต้องตอนกลางคืนที่ทั้งสวนจะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนวลจากโคมบมโบริกว่า 500 โคม สวยจนไม่นึกว่าจะมีสถานที่แบบนี้บนโลกด้วย
*3 : การอาบป่า ... Shinrin Yoku, Forest bathing ศาสตร์การบำบัดร่างกายและจิตใจโดยการเข้าไปสูดอากาศบริสุทธิ์และดื่มด่ำกับธรรมชาติในป่า
ความเก๋อีกอย่างของที่นี่คือถ้าเราเขียนเรื่องราวหรือความผิดพลาดที่อยากจะลืม ตามด้วยสิ่งที่ปรารถนาลงบนกระดาษโฮโดกิกามิ (Hodokigami) แล้วเอาไปลอยในบ่อน้ำฮาโกโรโมะ (Hagoromo Pond) ซึ่งมีตำนานนางฟ้าอุตสึบุกิ สิ่งที่เราอยากลืมจะสลายไปพร้อมกับกระดาษที่ค่อยๆ ละลายหายไปในน้ำ และช่วยให้สิ่งที่ปรารถนาต่อจากนี้กลายเป็นจริงขึ้นมา
หาซื้อโฮโดกิคามิได้ที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวคุราโยชิ (Kurayoshi Shirakabe Dozo-gun Information Center)
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
สวนอุตสึบุกิ (Utsubuki Park)
การเดินทาง : จากสถานีคุราโยชิ (Kurayoshi) รถไฟ JR นั่งรถบัสคันที่วิ่งผ่านชิยาคุโชะ (via Shiyakusho) ประมาณ 15 นาทีลงที่ป้าย Shiyakusho Utsubuki Koen Iriguchi ราคา 230 เยน แล้วเดินต่ออีกนิดเดียว
เว็บไซต์ : https://www.city.kurayoshi.lg.jp/gyousei/div/kensetsu/kanri/5/
*ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวคุราโยชิ (Kurayoshi Shirakabe Dozo-gun Information Center) ก็อยู่ใกล้กับป้ายรถบัสที่ลงเช่นกัน
9. สะพานคินไตเคียว จังหวัดยามากุจิ
สะพานโค้งสร้างจากไม้ที่แสนงดงาม
Picture courtesy of Iwakuni
สะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของจังหวัดยามากุจิ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะหนึ่งใน3 สะพานขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ร่วมกับ สะพานเมกาเนะบาชิ (สะพานแว่นตา) ในนางาซากิ และ สะพานนิฮมบาชิ ในโตเกียว
สะพานคินไตเคียวเป็นสะพานไม้ทรงโค้ง 5 ทอดที่หาได้ยากในโลก นับเป็นเวลากว่า 300 ปีแล้วตั้งแต่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1673 แม้ว่าจะเคยได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น แต่เทคนิคการก่อสร้างแบบช่างฝีมือในอดีตก็ยังถูกรักษาเอาไว้จนถึงปัจจุบัน
ช่วงที่สะพานคินไตเคียวงดงามที่สุดคือฤดูของดอกซากุระ ซากุระริมแม่น้ำจะบานอย่างพร้อมเพรียง เปลี่ยนบรรยากาศรอบๆ ให้สดใส เราสามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำชมธรรมาชาติ ซากุระบุเนะ (Sakurabune) ชมความงามของซากุระและสะพานจากบนน้ำได้ค่ะ (มีค่าใช้จ่าย)
สวนคิกโค (Kikko Park) ที่อยู่ใกล้ๆ กันก็มีดอกไม้สวยๆ ตามฤดูกาลปลูกไว้ให้ได้ชมเหมือนกัน
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม-ต้นเมษายน
สะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge)
การเดินทาง : จากสถานีอิวาคุนิ (Iwakuni) รถไฟ JR สายซันโย (Sanyo Main Line) นั่งรถบัสคันที่วิ่งไปสะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge) ประมาณ 15 นาที ราคา 350 เยน ลงที่ป้ายสะะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge) ถึงทันที
เว็บไซต์ : http://www.city.iwakuni.lg.jp
*จำนวนรถบัสที่วิ่งระหว่างสถานีชินคันเซ็น ชินอิวาคุนิ (Shin-Iwakuni) มาสะพานคินไตเคียวมีจำนวนน้อย ประมาณ 1 - 2 คันต่อชั่วโมงเท่านั้น และการเชื่อมต่อไม่สะดวกเท่าไหร่
10. ซากุระริมแม่น้ำฮิอิ จังหวัดชิมาเนะ
อุโมงค์ต้นซากุระยาว 2 กิโลเมตร
Picture courtesy of Yunnan Tourism Association
ต้นซากุระกว่า 800 ต้นช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับริมแม่น้ำฮิอิ (Hii River) เป็นระยะทางยาวถึง 2 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ตอนกลางคืนจะมีแสงของโคมบมโบริส่องเรืองๆ ยิ่งเพิ่มความงามให้ซากุระขึ้นอีกหลายเท่าตัว และยังมีการออกร้านขายของด้วย ที่นี่จึงเป็นจุดชมซากุระที่คึกคักมากของจังหวัดชิมาเนะ
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
ต้นซากุระริมแม่น้ำฮิอิ (Hii River)
การเดินทาง : จากสถานีคิซุกิ (Kisuki) รถไฟ JR เดินนิดเดียวก็ถึงทันที
เว็บไซต์ : http://www.unnan-kankou.jp/contents/sakura/59
ภูมิภาคชิโกะคุ |
11. สวนริตสึริน จังหวัดคากาวะ
สวนสวยพร้อมดาวมิชิลิน 3 ดวง
Picture courtesy of Kagawa Ritsurin Park Tourism Office
สถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามเป็นพิเศษ สวนริตสึริน (Ritsurin Garden) สวนญี่ปุ่นในจังหวัดคากาวะที่มีชื่อเสียงเรื่องอุด้ง เป็นสวนที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ยุคเอโดะ
นันเท สวนทางทิศใต้ยังคงมีบรรยากาศแบบเดียวกับเมื่อ 300 ปีก่อนไม่เปลี่ยน สวนริตสึรินเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามเป็นพิเศษเพียงแห่งเดียวของภูมิภาคชิโกะคุ ในปี 2009 ก็ยังได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาว หมายถึงมีความคุ้มค่าที่จะสู้อุตส่าห์เดินทางไปท่องเที่ยว จากมิชลิน กรีนไกด์ เจแปน ( Michelin Green Guide Japan) ด้วยค่ะ
ภายในสวนที่มีบ่อน้ำ 6 บ่อและภูเขาเทียม 13 ลูก เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระกว่า 320 ต้นก็จะบานสะพรั่งให้เราได้เพลิดเพลินไปกับความงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมและความงามของธรรมชาติพร้อมกัน ด้านในมีร้านอาหารให้ได้ลิ้มรสชาเขียวมัตฉะและอาหารเที่ยง สามารถมาเที่ยวเพลินๆ ได้ทั้งวันค่ะ
แค่ได้มาชมสวนญี่ปุ่นแสนร่มรื่นที่จำลองวิวทะเลและภูเขาไว้ในที่เดียวก็รู้สึกสดชื่นเหมือนได้รีเฟรชร่างกายแล้ว พอมีสีชมพูหวานๆ ของซากุระเข้ามาด้วยยิ่งทำให้รู้สึกจิตใจผ่อนคลายไปด้วย แวะมาชมซากุระและสวนญี่ปุ่นสวยๆ กันได้ค่ะ ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 410 เยน เด็กประถมและมัธยมต้น 170 เยน
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
12. ภูเขาชิอุเดะ จังหวัดคากาวะ
ซากุระพร้อมเกาะน้อยใหญ่เป็นฉากหลัง
Picture courtesy of Mitoyo Tourism and Exchange Authority
ภูเขาชิอุเดะ (Mt. Shiude) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ยื่นออกไปยังทะเลในเซโตะ ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัดคากาวะ บนเขามีซากุระกว่า 1,000 ต้นผลิดอกบานอย่างสวยงาม จากจุดชมวิวบนยอดเขาจะได้เห็นซากุระแสนสวย ที่มีหมู่เกาะต่างๆ เป็นฉากหลัง
เมื่อ 2,000 ปีก่อนเคยมีหมู่บ้านตั้งอยู่บนยอดเขานี้ เราสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เขาชิอุเดะเพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านในอดีตได้ ไปนั่งพักจิบกาแฟที่คาเฟ่ในพิพิธภัณฑ์แล้วชมวิวสวยๆ นอกหน้าต่างกันค่ะ
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
ภูเขาชิอุเดะ (Mt. Shiude)
การเดินทาง : จากสถานีทาคุมะ (Takuma) รถไฟ JR นั่งรถบัสสายทาคุมะ (Takuma Line) คันที่ไปนาบุโตะ (Nabuto) ประมาณ 30 นาที ลงที่ป้ายโอฮามะ (Ohama) เปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสายโชไน (Shonai Line) ประมาณ 5 นาที ราคา 100 เยน (ขึ้นคันที่วิ่งวนทางทิศตะวันตกจะเร็วกว่า) ลงที่ป้ายชิอุเดะยามะ โทซังกุจิ (Shiudeyama tozan guchi)
เว็บไซต์ : http://www.mitoyo-kanko.com
*ตอนที่เปลี่ยนรถบัส ให้ขอตั๋วต่อรถ (Noritsugi-ken) จากคนขับด้วย จากป้ายรถบัสชิอุเดะยามะ โทซังกุจิ (Shiudeyama tozan guchi) ใช้เวลาเดินไปยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง - 2 ชั่วโมง
13. สวนฮิราคิยามะ จังหวัดเอฮิเมะ
สวนบนเขาที่เหมาะจะมาเที่ยวกันเป็นครอบครัว
Picture courtesy of Imabari City Tourism Division
จังหวัดเอฮิเมะเป็นที่รู้จักในฐานะที่ตั้งของ โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ส่วนในเมืองอิมาบาริที่มีชื่อเสียงมากเรื่องผ้าขนหนูอิมาบาริคุณภาพดีก็มีสวนฮิราคิยามะ (Hirakiyama Park) บนยอดเขาฮิราคิยามะ (Mt. Hirakiyama) ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 149 เมตร เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ ซากุระหลากพันธุ์กว่า 1,000 ต้นจะผลิดอกบานไปทั่วทั้งสวน
จุดเด่นของสวนแห่งนี้คือจุดชมวิว! เราสามารถชมวิวของเกาะฮาคาตะจิมะ สะพานโอชิมะโอฮาชิ, สะพานโอมิชิมะบาชิ และ สะพานทาทาระได้พร้อมกัน แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีซากุระสวยๆ เข้ามาช่วยแต่งเติมสีสันเข้าไปอีก ภายในสวนสาธารณะยังมีสไลเดอร์ยาว 36 เมตรและจังเกิ้ลยิมด้วย มาเดินเล่นชมสวนเหมือนเดินเขาก็ได้ เหมาะจะมาเที่ยวกันเป็นครอบครัวมาก
ช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้น - กลางเมษายน
สวนฮิราคิยามะ (Hirakiyama Park)
การเดินทาง : จากสถานีอิมาบาริ (Imabari) ของ JR สายสายโยซัน (Yosan Line) นั่งรถบัสคันที่ไปโอมิชิมะ (Omishima) ประมาณ 40 นาที ราคา 860 เยน ลงที่ป้ายฮากาตะจิมะ (Hakatajima BS) เปลี่ยนไปขึ้นรถบัสสายวนรอบเกาะฮากาตะจิมะ (Hakatajima Loop Line) คันที่วิ่งไปทางคิตะอุระ (Kitaura) ประมาณ 5 นาที ราคา 120 เยน ลงที่ป้ายคุมาโก (Kumago) เดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ : https://www.shikoku.gr.jp/spot/1004
ชมซากุระสวยๆ ที่ภูมิภาคชูโกะคุและชิโกะคุ
ในภูมิภาคชูโกะคุและชิโกะคุมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสถานที่ทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย จะไปฤดูไหนก็ได้แต่ถ้าไปในฤดูใบไม้ผลิล่ะก็ เราจะได้พบกับทิวทัศน์ของซากุระที่ยากจะลืมเลือน แต่บางสถานที่ก็เดินทางลำบากหน่อย เพราะงั้นขอแนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางกันสักนิดด้วยนะคะ
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง