ตัวอย่างคอร์สเที่ยวฮิเมจิ 3 วัน 2 คืน ไปเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมดั้งเดิมและธรรมชาติในฮิเมจิกัน

วิธีการเช่ารถที่ญี่ปุ่น และข้อควรรู้ต่าง ๆ

article thumbnail image

รถเช่าที่สะดวกเวลาไปเที่ยวนอกเมือง แต่การใช้บริการรถเช่าในต่างประเทศอาจจะเป็นเรื่องน่ากังวล ในบทความนี้จึงจะแนะนำวิธีการเช่ารถขับในญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงขั้นตอน ค่าเช่า และค่าทางด่วนต่าง ๆ

2017.02.12

ข้อดีของรถเช่า

ความสนุกสนานในการไปเที่ยวจะมากน้อยหรือสนุกสนานแค่ไหน วิธีการเดินทางก็เป็นส่วนหนึ่งด้วยค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น ฮ็อกไกโด, นากาโนะ, ฮิดะทาคายามะ, โอกินาว่า ถ้ามีรถเช่า เพื่อน ๆ ก็จะได้ไปชมวิวสวย ๆ ที่ไกลออกไปจากรีสอร์ทด้วยค่ะ หรือพวกสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ บริเวณรอบ ๆ ตัวเมืองก็อาจจะเดินทางเข้าถึงได้ยากถ้าใช้บริการขนส่งสาธารณะ ในกรณีนี้ถ้ามีรถเช่าก็จะสะดวกกว่าค่ะ

ค่าเช่ารถที่ญี่ปุ่นจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของรถ แต่ส่วนใหญ่จะประมาณวันละ 10,000 เยนค่ะ ถ้าใน 1 วัน เพื่อน ๆ ไปเที่ยวหลายที่ และเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยมีรถสาธารณะให้บริการ ก็จะช่วยประหยัดเงินได้พอสมควรเลย

นอกจากนี้ ที่บริเวณ Service Area (จุดพักรถ) บนทางด่วน หรือตามสถานีบนถนนปกติก็จะมีทั้งห้องน้ำ ร้านอาหาร รวมถึงของฝากหรือของดีในย่านที่ไปวางขายอยู่ ทำให้มีผู้คนค่อนข้างเยอะและน่าสนใจ นี่ก็เป็นอีกข้อดีหนึ่งของการขับรถเช่าค่ะ

เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลข้อควรรู้ในการเช่ารถที่ญี่ปุ่นมาไว้ในบทความนี้แล้วค่ะ

 

สารบัญ:

1.เรื่องสำคัญในการขับรถที่ญี่ปุ่น
2.วิธีการและมารยาทในการเช่ารถ
3.ราคารถเช่า
4.GPS ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี
5.การจราจรและกฎในญี่ปุ่น
6.การใช้ทางด่วนญี่ปุ่น
7.ที่จอดรถ
8.การเติมน้ำมัน
9.ประกันภัย

เรื่องสำคัญในการขับรถที่ญี่ปุ่น

【下書】レンタカー

ในการเช่ารถที่ญี่ปุ่น ผู้ขับขี่จะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะตามกฎหมายของญี่ปุ่นสามารถทำใบขับขี่ได้เมื่อมีอายุ 18 ปีขึ้นไป

ใครที่มีอายุเกิน 18 ปีแล้ว ก็ให้นำใบขับขี่ที่ยังไม่หมดอายุและพาสปอร์ตไปที่บริษัทรถเช่าได้เลยค่ะ

ใบขับขี่ที่สามารถใช้เช่ารถในญี่ปุ่นได้ มี 3 แบบด้วยกัน

・ใบขับขี่ของประเทศญี่ปุ่น (สำหรับผู้ที่อาศัยในญี่ปุ่น)
・ใบอนุญาตขับขี่สากล
・ใบขับขี่ที่มีคำแปลภาษาญี่ปุ่น (ในกรณีที่เป็นใบขับขี่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ไต้หวัน, เบลเยี่ยม, สโลวาเนีย และโมนาโค)

ใบอนุญาตขับขี่สากล

สำหรับใบอนุญาตขับขี่สากล จะต้องทำที่ประเทศของตนเองก่อนมาญี่ปุ่น เพราะหลังจากเดินทางมาญี่ปุ่นแล้ว ทางสถานทูตก็ไม่สามารถออกใบขับขี่สากลให้ได้

ใบขับขี่ที่มีคำแปลภาษาญี่ปุ่น

สำหรับคนที่มีใบขับขี่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ไต้หวัน, เบลเยี่ยม, สโลวาเนีย และโมนาโคไม่ต้องทำใบขับขี่สากลก็ได้ แต่ต้องนำใบขับขี่พร้อมคำแปลภาษาญี่ปุ่น และพาสปอร์ตมายื่นให้กับบริษัทรถเช่าได้เลย ฉบับแปลสามารถออกให้ได้โดย JAF ทั่วประเทศญี่ปุ่น, สถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศนั้น ๆ

ถ้าให้ JAF เป็นผู้ออกฉบับแปลให้ อาจจะได้รับในวันเดียวกันนั้นเลย หรืออาจจะใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ก็มีค่ะ ราคา 3,000 เยนต่อใบขับขี่ 1 ใบ

ในการเตรียมใบขับขี่สากลและใบขับขี่ฉบับแปลภาษาญี่ปุ่น ก็อย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับขั้นตอนการดำเนินการด้วยนะคะ

ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับใบขับขี่ที่ใช้ได้ในญี่ปุ่น :https://www.nipponrentacar.co.jp/english/user-guide/driverslicense.html

วิธีการและมารยาทในการเช่ารถ

【下書】レンタカー

ในการเช่ารถที่ญี่ปุ่น จะต้องลงทะเบียนบนหน้าเว็บกันก่อนค่ะ

ลักษณะก็คล้าย ๆ กันกับหลายประเทศทั่วไป คือต้องระบุ ดังนี้

・วันที่เริ่มเช่ารถ/คืนรถ
・ชนิดของรถ
・เช่าแล้วคืนที่สาขาอื่นหรือนำกลับมาคืน
・การเพิ่ม Option GPS หรือบัตร ETC (บัตรสำหรับทางด่วน)

หรืออาจจะลงทะเบียนเพื่อเช่ารถที่บริษัทรถเช่าในวันเดียวกันได้เลย ซึ่งชนิดของรถอาจจะมีให้เลือกไม่มากนัก หรือรถที่ต้องการมีคนเช่าไปแล้ว เป็นต้น ควรจะเช่าก่อนล่วงหน้า2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ก่อนวันที่จะรับรถดีกว่าค่ะ

เว็บไซต์ที่สามารถลงทะเบียนเช่ารถเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี ภาษาไทยได้

【完成】レンタカー

มีเว็บไซต์ที่สามารถจองได้โดยใช้ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี และภาษาไทยได้ด้วยนะคะ อย่างเช่น

Nissan Rent-a-Car, Toyota Rent a LeaseNippon Rent a CarTimes Car Rental เป็นต้น เมื่อลงทะเบียนเช่าเรียบร้อยแล้ว พอถึงวันที่จะรับรถ ก็ไปที่บริษัทรถเช่าได้เลย อย่าลืมเอาใบขับขี่และพาสปอร์ตไปที่ร้านเช่าด้วยนะคะ




ส่วนลด 10% เมื่อจองรถเช่าทางออนไลน์ของ Nippon Rent a Car คลิกที่รูปเพื่อดูรายละเอียดการใช้รหัสคูปอง

วันที่นำรถมาคืนต้องเติมน้ำมันให้เต็มถัง

ในการคืนรถเช่า ต้องเติมน้ำมันรถที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ บริษัทรถเช่า แล้วนำใบเสร็จไปแสดง บริษัทรถเช่าบางที่อาจจะระบุปั๊มน้ำมันที่ต้องเติมน้ำมันด้วยก็ได้ค่ะ ต้องเช็คข้อมูลล่วงหน้าให้ดีค่ะ

ในแถบชนบทหรือที่ห่างไกลจากตัวเมือง ส่วนใหญ่ปั๊มน้ำมันจะไม่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะปิดประมาณ 19:00น. ถ้าไม่สามารถเติมน้ำมันก่อนนำรถไปคืนได้ ทางบริษัทรถเช่าก็จะคำนวณราคาค่าน้ำมันให้ และส่วนใหญ่ราคาจะสูงกว่าไปเติมเองที่ปั๊มน้ำมัน

สำหรับการคืนรถที่บริษัทรถเช่าต่างสาขา ก็จะมีการระบุสถานที่ที่ต้องไปคืนไว้ก่อนล่วงหน้า อย่าลืมเช็คข้อมูลก่อนด้วยนะคะ

ราคารถเช่า

【下書】レンタカー

การเช่ารถจะมีเช่าทั้งแบบ 6 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง

ราคาสำหรับรถเก๋งหรือรถธรรมดาทั่วไปโดยประมาณ

6 ชั่วโมง 5,000〜7,000 เยน/12 ชั่วโมง 5,000〜7,000 เยน/24 ชั่วโมง7,000〜10,000 เยน

แต่ถ้าเป็นรถที่หรูหราขึ้นมาอีกหน่อยอย่าง Toyota Crown, Mercedes Benz ราคาก็จะแพงขึ้นมาอีกค่ะ

6 ชั่วโมง 10,000〜12,000 เยน/12 ชั่วโมง 10,000〜12,000 เยน/24 ชั่วโมง 15,000〜20,000 เยน

หลาย ๆ ที่ราคาอาจจะไม่ต่างกันนักระหว่าง 6 ชั่วโมงและ 12 ชั่วโมง

GPS

【下書】レンタカー

รถเช่าส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นมักจะมี GPS หรือ Navigator ติดมากับตัวรถอยู่แล้ว หรือแบบที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มก็มี ดังนั้นต้องเช็คข้อมูลให้ดีก่อนทำการจองค่ะ

GPS ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี

ส่วนใหญ่ GPS ที่บริษัทรถเช่าที่ญี่ปุ่นจะมีแค่ภาษาญี่ปุ่น แต่ตามสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะอย่างฮ็อกไกโด ก็จะมี GPS ภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาจีนเตรียมไว้ให้ด้วย

การจราจรและกฎในญี่ปุ่น

【下書】レンタカー

เราได้รวบรวมกฎการจราจรหลัก ๆ ที่สำคัญในการขับรถที่ญี่ปุ่นมาแล้วค่ะ

ขับรถด้านซ้ายของถนน

【下書】レンタカー

รถที่ญี่ปุ่นมีพวงมาลัยอยู่ทางขวา และขับเลนซ้าย ประเทศที่ขับฝั่งเดียวกันกับญี่ปุ่นก็อย่างเช่น ประเทศอังกฤษ, ออสเตรเลีย, อินเดีย, แอฟริกาใต้ ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาจากประเทศที่ขับทางด้านขวาของถนนอย่างอเมริกา, จีน, ยุโรป, เวียดนาม, บราซิล, ซาอุดิอาระเบียก็ต้องระมัดระวังไม่ขับผิดเลนให้มากเป็นพิเศษค่ะ

ล็อคโซ่ที่ล้อสำหรับถนนที่มีหิมะปกคลุม

ในสถานที่ที่มีหิมะตกมาก เช่น ฮ็อกไกโด, นากาโนะ, ฮิดะทาคายามะ จะต้องมีการล็อคโซ่ที่ล้อรถในฤดูหนาวเพื่อป้องกันไม่ให้รถลื่นไถลเวลาที่ขับบนหิมะ สามารถขอเช่าโซ่จากบริษัทรถเช่าได้ค่ะ

การใช้ทางด่วนญี่ปุ่น

【下書】レンタカー

ค่าทางด่วนญี่ปุ่น ถ้าเทียบกับหลาย ๆ ประเทศจะมีราคาค่อนข้างสูง ในระยะทางประมาณ 100km จะราคาประมาณ 3,000 เยน เวลาคำนวณงบก็อย่าลืมเผื่อค่าทางด่วนเข้าไปด้วยนะคะ

ส่วนความเร็วในการวิ่งบนทางด่วนคือ 100km/ชั่วโมง ถ้าขับเร็วเกิน 100km จะถูกตำรวจตามมานะคะ ต้องระวังอย่าขับเร็วเกินไปด้วยค่ะ

ETC

【下書】レンタカー

ทางด่วนของญี่ปุ่นใช้ระบบ ETC (Electronic Toll Collection System) เรียกเก็บเงินค่าทางด่วนผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์แบบพิเศษที่ผูกไว้กับบัตรเครดิต เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจ่ายเงินสดและทำให้รถติด

ปกติการสมัครบัตร ETC Card ของตัวเองจะใช้เวลาถึง 2 สัปดาห์ และต้องมีที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถเลือกออปชั่นเสริมเช่าบัตร ETC จากบริษัทเช่ารถได้ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้บัตร ETC ให้ขับรถผ่านช่องที่เขียนว่า 一般 (แปลว่า ทั่วไป) เพื่อรับบัตรผ่านขาเข้า (จุดรับบัตรนี้มีทั้งรับจากพนักงานและรับจากตู้อัตโนมัติ แล้วแต่สถานที่) เมื่อจะออกก็ยื่นบัตรให้พนักงานเพื่อคำนวณและจ่ายเงินสด

การใช้บริการที่จอดรถ

ที่ญี่ปุ่นไม่สามารถจอดรถตามข้างทาง หรือริมถนนได้ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จะมีที่จอดรถอยู่ใกล้ ๆ เราจะต้องไปจอดที่นั่น ค่าบริการที่จอดรถ ราคาประมาณ 1 ชั่วโมง 200-700 เยน โดยจะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมากในแต่ละสถานที่ ยิ่งใกล้ตัวเมืองมากเท่าไรก็ยิ่งแพงขึ้นค่ะ หลายที่เที่ยวส่วนใหญ่หรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ มักจะมีที่จอดรถให้ด้วย ซึ่งถ้ามีใบเสร็จที่ใช้จ่ายในห้างก็จะจอดได้ฟรีค่ะ

โดยทั่วไป ตามที่จอดรถจะต้องรับตั่วตรงทางเข้า ตอนออกจะมี 2 วิธี คือ แบบรั้วกั้นที่นำตั๋วที่ได้รับออกมาใส่เครื่องเพื่อคำนวณค่าที่จอดรถ กับแบบล็อคที่เอาเลขช่องที่จอดรถไปกดที่เครื่องแล้วจ่ายเงินเพื่อปลดล็อค

แบบรั้วกั้น

【下書】レンタカー

แบบรั้วกั้นที่ต้องรับตั๋วตอนเข้ามานี้ ตอนที่จะจอดรถต้องกดปุ่มที่ตู้ก่อน แล้วตั๋วก็จะเด้งออกมา ในตั๋วที่ออกมานี้จะมีวันเวลาที่เข้ามาจอดรถเขียนไว้ พอตอนที่จะออกจากที่จอดรถ ก็นำตั๋วนี้ใส่กลับเข้าไปในตัวเครื่อง หรือส่งให้กับพนักงานที่นั่งประจำที่อยู่ แล้วทำการจ่ายเงินค่าที่จอดรถค่ะ ต้องดูดี ๆ อย่าทำตั่วหายนะคะ

ถ้าเกิดโชคร้ายทำตั๋วหาย ให้โทรศัพท์ไปที่เบอร์ผู้รับผิดชอบของที่จอดรถได้ค่ะ ซึ่งน่าจะมีเบอร์โทรเขียนอยู่ที่ไหนสักที่ในบริเวณที่จอดรถ

แบบล็อค

【下書】レンタカー

แบบล็อคจะไม่ต้องรับตั่วตรงที่ทางเข้า ถ้ามีที่ว่างอยู่ก็เข้าไปจอดได้เลย ตรงช่องที่จอดรถจะมีล็อคอยู่ พอล้อรถเข้าไปแล้วสักพักก็จะล็อคค่ะ

ตอนที่จะเอารถออก ให้ใส่เลขช่องที่จอดรถลงไปที่เครื่อง หลังจากทำการจ่ายเงินเรียบร้อย ล้อก็จะถูกปลดล็อค สามารถเอารถออกได้ค่ะ

ชนิดของที่จอดรถ

ที่จอดรถที่ญี่ปุ่นจะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบลานจอดรถ, ที่จอดรถแบบจอดเอง หรือที่จอดรถโดยใช้เครื่องอัตโนมัติ

ลานจอดรถ

ที่จอดรถแบบลานกว้างไม่มีตัวตึกที่สามารถเข้าไปจอดตรงที่ที่ว่างได้เลย

ที่จอดรถแบบจอดเอง

เป็นที่จอดรถลักษณะคล้ายหอคอย ที่เจ้าของรถจะขับวนหาที่จอดรถเอง มักจะเชื่อมติดกับห้างสรรพสินค้าหรืออาคารต่าง ๆ

ที่จอดรถโดยใช้เครื่องอัตโนมัติ

เป็นที่จอดรถลักษณะคล้ายหอคอย เครื่องอัตโนมัติจะหาที่จอดที่ว่างอยู่ ค่อนข้างสะดวกเพราะผู้ขับขี่ไม่ต้องเสียเวลาหาเอง ที่ญ่ปุ่นมีหลายที่ที่เป็นที่จอดรถบริการ 24 ชั่วโมง ลองเลือกหาดูที่ที่เหมาะกับความต้องการ และงบประมาณดูค่ะ

การเติมน้ำมัน

【下書】レンタカー

ปั๊มน้ำมันก็จะมีอยู่เกือบทุกที่อยู่แล้ว แบ่งเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ แบบฟูลเซอร์วิสและแบบบริการตัวเอง

แบบฟูลเซอร์วิสคือแบบที่มีพนักงานให้บริการถึงหน้าต่างรถและเติมน้ำมันให้ ส่วนการเติมน้ำมันด้วยตัวเอง ซึ่งราคาจะถูกลงเพราะต้องเติมน้ำมันเองค่ะ

ชนิดของน้ำมันจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ

・Regular (สำหรับรถธรรมดา)
・High Octane(สำหรับรถหรูขึ้นมาอีกนิด หรือ 95ของบ้านเรา)

โดยแบ่งใช้ตามชนิดของรถ ซึ่งแน่นอนว่าแบบ High Octane จะมีราคาสูงกว่า การใช้บริการที่ปั๊มน้ำมันก็จะเหมือนกับประเทศทั้งแถบตะวันตกหรือเอเชียประเทศอื่น ๆ ค่ะ ถ้าหากมีข้อสงสัย สามารถถามพนักงานที่ปั๊มน้ำมันได้เลย

ประกันภัย

【下書】レンタカー

ในการเช่ารถที่ญี่ปุ่น จะมีค่าประกันอยู่ในค่าเช่ารถด้วยแล้ว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุอาจจะต้องมีการเพิ่มเงินอีก 50,000-100,000 เยนค่ะ รายละเอียดลองสอบถามจากบริษัทรถเช่าได้เลยค่ะ

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ