เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

7 ที่น่าเที่ยวในโอตารุ (Otaru) เดินทางไปกลับได้ง่ายๆ จากซัปโปโร! (Sapporo)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

โอตารุ (Otaru) เมืองท่าริมทะเลที่เดินทางไปจากซัปโปโรได้ง่ายๆ ในครั้งนี้จะขอแนะนำสถานที่เที่ยวน่าไป และวิธีการเดินทางสำหรับเที่ยวในโอตารุค่ะ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

เดินเที่ยวอย่างเดียวก็สนุก ณ โอตารุ เมืองท่าในวันวาน

小樽について

เอื้อเฟื้อภาพโดย : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ

เมืองโอตารุในฮอกไกโด มีท่าเรือสำหรับค้าขายกับต่างประเทศและทางรถไฟมาตั้งในอดีต เป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรือง ถือเป็นแหล่งกระจายสินค้าหลักของฮอกไกโด สามารถเดินทางด้วยรถเร็วจากซัปโปโรไปถึงโอตารุได้โดยใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ในเมืองโอตารุยังคงหลงเหลือสิ่งก่อสร้างเก่าๆ ที่สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 เช่น กลุ่มของตึกโกดังสินค้าที่สร้างจากหิน แม้ในปัจจุบันก็ยังมีอาคารที่ผู้ประกอบอาชีพประมงปลาเฮอร์ริ่งใช้เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและโรงงาน รวมถึงวัด โบสถ์ และธนาคาร เป็นต้น

อาคารบ้านเรือนที่มีความทันสมัยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางว่าเป็น "ทิวทัศน์สไตล์โอตารุ" และมีความพิเศษอีกอย่างคือสิ่งก่อสร้างจำนวนมากที่เป็นมรดกเก่าแก่ทางวัฒนธรรม

เพราะเป็นเมืองท่า แน่นอนว่าต้องเต็มไปด้วยอาหารทะเลสดใหม่ ร้านขนมหวานก็มีมากมายให้เลือกเข้าไปนั่งทานระหว่างเดินเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะกระจุกรวมอยู่บริเวณใจกลางเมือง จึงเพลิดเพลินกับการเดินเล่นได้แบบสบายๆ หากสถานที่ที่อยากไปอยู่ไกลหน่อย ก็ยังสะดวก เพราะมีรถบัสวิ่งผ่านเต็มไปหมด

ในบทความนี้ผู้เขียนได้คัดสรร "ที่นี่ต้องไปให้ได้" ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวไปจนถึงอาหารอร่อยสำหรับมือใหม่โอตารุให้แล้วค่ะ

raw output

raw output

1. "คลองโอตารุ" ประวัติศาสตร์ที่หลงเหลืออยู่ของโอตารุ

小樽運河

เอื้อเฟื้อภาพโดย : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ

"คลองโอตารุ" คลองโค้งเลียบอ่าวที่ไหลผ่านใจกลางเมืองโอตารุเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และเส้นทางเดินเล่นเลียบคลองเป็นเส้นทางคลาสสิกที่ห้ามพลาดหากได้มาโอตารุค่ะ

บริเวณเลียบคลอง ยังคงมีโกดังเก็บสินค้านำเข้าให้เห็นภาพความหลังในสมัยนั้นตั้งอยู่ ภายในโกดังได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านแสดงดนตรีไลฟ์เฮาส์ ร้านอาหาร เช่น ร้านเบียร์ คาเฟ่ เป็นต้น แนะนำให้ลองไปเที่ยวดูนะคะ

หากมีเวลาเหลือ อยากให้ลองไปล่องเรือที่คลองดูค่ะ กัปตันส่วนตัวของเรา จะพานั่งเรือท่องเที่ยวเป็นระยะเวลาประมาณ 40 นาที ท่าขึ้นและลงเรือจะอยู่ที่สะพานกลาง (สะพานจูโอ) ที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในโอตารุ จึงเดินทางไปมาได้สะดวก

Day Cruise (ล่องเรือกลางวัน) ราคา 1,500 เยน ส่วน Night Cruise (ล่องเรือกลางคืน) ราคา 1,800 เยน (เด็ก ราคา 500 เยน) หากเลือกล่องเรือในตอนกลางคืน เราจะได้ชมกลุ่มโกดังที่ถูกไลท์อัพ สว่างไสวด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม เป็นความงดงามที่แตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง

หากมีที่นั่งว่างก็สามารถขึ้นเรือได้โดยไม่ต้องทำการจองล่วงหน้า แต่ถ้าหากไม่อยากเสี่ยงว่าจะมีที่นั่งว่างหรือไม่ ให้จองก่อนล่วงหน้าที่เว็บไซต์ทางการกันก่อนจะดีกว่า

คลองโอตารุ
การเดินทาง : เดินจากสถานีโอตารุ (Otaru) สาย JR ใช้เวลา 8 นาที Google Maps
เว็บไซต์ทางการ: คลองโอตารุ เมืองโอตารุ (ภาษาญี่ปุ่น)

2. ดูการผลิตเหล้าแบบสดๆ ที่ "โรงกลั่นเหล้าทานากะ คิกโคกุระ"

田中酒造亀甲蔵

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Tanaka Sake Brewing Co.,Ltd

โรงกลั่นเหล้าทานากะ (Tanaka Shuso) ก่อตั้งขึ้นในปี 1899 เป็นบริษัทผลิตเหล้าหนึ่งเดียวในโอตารุ ที่นี่ผลิตเหล้าท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องมาเนิ่นนาน โดยใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ นั่นก็คือข้าวที่ได้รับความร่วมมือในการผลิตจากชาวนาในฮอกไกโด และน้ำที่ละลายจากน้ำแข็งที่ใสบริสุทธิ์ ผ่านการกรองโดยธรรมชาติจากเขาเทนกุยามะ

ปกติแล้วการกลั้นเหล้าจะเริ่มทำในช่วงหน้าหนาว เรียกว่า คันสึกุริ แต่ทว่าที่ "คิกโคกุระ (Kikkogura)" โรงงานของโรงกลั่นเหล้าทานากะ อาศัยสภาพอากาศหนาวเย็นของฮอกไกโด ทำให้ผลิตเหล้าได้ทั้งปี ถือว่าเป็นสิ่งแปลกใหม่ของทั้งประเทศ

สามารถเข้าไปเที่ยวชมโรงงานได้ทุกเมื่อ เพราะมีการผลิตเหล้าทุกวัน (จองล่วงหน้า : kikkogura@tanakashuzo.com)

ในมุมทดลองชิม สามารถชิมเหล้าญี่ปุ่นที่มีเฉพาะในคิกโคกุระได้ เช่น ยี่ห้อขึ้นชื่อ "ทาคาระกาวะ (Takaragawa)" เหล้าที่กลั่นเสร็จใหม่ๆ จะถูกเรียกว่า "นามะเก็นฉุ" เป็นเหล้าที่โดยปกติแล้วจะได้เริ่มดื่มกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาว แต่ที่นี่โชคดี เพราะมีให้ดื่มกันในช่วงฤดูร้อนด้วย ทำให้สามารถดื่มด่ำกับความกลมกล่อมของเหล้าที่สดใหม่รสเข้ม

การเดินทาง : เดินจากสถานี JR Minami-Otaru ใช้เวลา 5 นาที

3. รับประทานอาหารทะเลสดใหม่ที่ "ตลาดซังคาคุ"

小樽三角市場

เอื้อเฟื้อภาพประกอบโดย : ตลาดโอตารุซังคาคุ

หากพูดถึงโอตารุที่เป็นเมืองท่า ต้องนึกถึงอาหารทะเลสดใหม่! ที่ที่อยากให้ลองไปคือตลาด "ตลาดซังคาคุ" ที่อยู่ใกล้กับสถานีโอตารุ เป็นตลาดที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1957 ในบรรดาตลาดที่อยู่ในเมืองโอตารุ ที่นี่เป็นตลาดแห่งเดียวที่เปิดทำการทุกวัน และมีบรรยากาศครึกครื้นตั้งแต่เช้าตรู่

นอกจากอาหารทะเลทั้งหลาย ยังมีผักผลไม้สดใหม่และของใช้ในชีวิตประจำวันขายมากมาย เปรียบเสมือนห้องครัวของชาวเมืองเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะความเอร็ดอร่อยของผักผลไม้ต่างๆ ส่งตรงมาจากนิคิโจและโยอิจิโจที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เมืองที่เต็มไปด้วยสวนผักและผลไม้

นอกจากปู หอยเชลล์ แซลมอน และปลาฮอกเกะ ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของฮอกไกโดแล้ว ในช่วงมกราคมจนถึงกุมภาพันธ์ยังมีปลาเฮอร์ริ่ง สิ้นเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนสิงหาคมมีหอยเม่น และกรกฎาคมจนถึงสิงหาคมยังมีหมึกที่แสนอร่อยอีกด้วย ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือกั้งที่มีขนาดใหญ่และเนื้อแน่น โดยปกติแล้วฤดูกาลของกั้งคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่ที่โอตารุก็มีการจับในช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีในที่อื่น

ภายในตลาดยังมีร้านอาหารถึง 6 ร้าน เมนูยอดนิยมของแทบทุกร้านคือออริจินัลไคเซ็นด้ง (Original Kaisendon) (เริ่มต้นที่ 1,000 เยนขึ้นไป) ที่สามารถเลือกวัตถุดิบได้ ณ ที่ตรงนั้นเลยว่าอยากทานอันไหน และพ่อครัวก็จะปรุงและโปะลงบนข้าวให้สดๆ ไคเซ็นด้งที่มีแต่หน้าที่เราชอบทั้งนั้นเลย อยากให้ลองไปชิมดูกันสักครั้งนะคะ

ตลาดโอตารุซังคาคุ (Otaru Sankaku Market)
ที่อยู่: 3-10-16 Inaho, Otaru, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : เดินจากสถานีโอตารุ (Otaru) สาย JR ใช้เวลา 1 นาที
เว็บไซต์ทางการ : ตลาดโอตารุซังคาคุ (ภาษาไทย)

4. "คิตะอิจิ กลาส" งานกระจกแสนสวยในโอตารุ

北一硝子

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Kitaichi Glass

งานฝีมือจากแผ่นกระจกถือเป็นสิ่งพิเศษของเมืองโอตารุเลยค่ะ ในจำนวนทั้งหมดที่เด่นๆ คือร้านคิตะอิจิ กลาส (Kitaichi Glass) ที่เริ่มต้นผลิตโคมตะเกียงให้ส่องแสงไปทั่วเมืองมาตั้งแต่ปี 1901 ในอดีตเคยผลิตลูกลอยสำหรับอวนจับปลาด้วย ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบันก็เป็นร้านที่ทุ่มเทเพื่อพัฒนาโอตารุมาอย่างยาวนาน

ร้านที่บริหารโดยตรงมีเพียงแค่ร้านที่อยู่ในโอตารุเท่านั้น ไม่มีการเปิดขายออนไลน์ จึงมีแต่สินค้าพิเศษๆ ที่สามารถหาเลือกซื้อได้เฉพาะที่นี่เท่านั้น มีกิจกรรมทดลองสลักกระจกด้วยตัวเอง ให้เราวาดรูปต่างๆ ที่ตัวเองชอบลงบนกระจกได้ (ต้องจองล่วงหน้าที่เว็บไซต์ทางการ)

คิตะอิจิ กลาส อาคาร 3
ที่อยู่ : 7-26 Sakaimachi, Otaru, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : เดินจากสถานีโอตารุ (Otaru) สาย JR ใช้เวลา 10 นาที
เว็บไซต์ทางการ : Kitaichi Glass

5. "Otaru Music Box Museum"
เสียงเพรียกของความทรงจำจากการเดินทาง

小樽オルゴール堂

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Otaru Orgel

"Otaru Orgel" หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี แค่ในเมืองโอตารุก็มีสาขามากถึง 6 แห่ง ตัวอาคารหลักสร้างจากอิฐและหินรวมกัน 2 อาคาร แรกเห็นก็ให้ความรู้สึกเหมือนภาพตึกเก่าในอดีต

จำนวนทั้งหมดของกล่องดนตรี รวมผลงานที่จัดแสดงและสินค้าที่วางจำหน่ายมีมากถึงหลายหมื่นชิ้น ทั้งเสียงและและดีไซน์ของกล่องดนตรีก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่เพียงแต่ซื้อเท่านั้น ที่นี่ยังมีให้ทำกล่องดนตรีเอง เป็นกล่องดนตรีหนึ่งเดียวในโลก (สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ทางการ ถึงจะไม่จองก็สามารถเข้าร่วมได้ค่ะ)

แม้จะเดินทางกลับประเทศไปแล้ว แต่หากมีกล่องดนตรีนี้ เราก็จะรื้อฟื้นความทรงจำระหว่างการเดินทางได้ด้วยเสียงดนตรีนะคะ

Otaru Music Box Museum Main Building
ที่อยู่ : 4-1 Sumiyoshicho, Otaru, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : เดินจากสถานีโอตารุ (Otaru) สาย JR ใช้เวลา 7 นาที
เว็บไซต์ทางการ : พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (ภาษาไทย)

6. ลิ้มรสไวน์ฮอกไกโดขนานแท้ที่ "OcciGabi (โอจิกาบิ)"

OcciGabi

เอื้อเฟื้อภาพโดย : บริษัท OcciGabi Winery จำกัด

ลองนั่งรถไฟจากสถานีโอตารุออกไปอีกหน่อยประมาณ 30 นาที สู่เมืองข้างเคียงอย่างโยอิจิโจ เพื่อไปฟาร์มองุ่น "OcciGabi (ออจิกาบิ)"กันดูไหมคะ

ที่นี่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือและสถานที่ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการ "ผลิตและดื่มไวน์" ครบในที่เดียว ทั้งเก็บเกี่ยว บ่ม และทดลองชิม บริเวณรอบๆ โรงบ่มใต้ดินที่มีอุปกรณ์แบบบ่มได้ในระยะยาว มีไร่องุ่นสำหรับผลิตไวน์แสนอร่อยที่กว้างใหญ่มาก

นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ให้เราได้เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศพร้อมไวน์ที่เข้ากัน จากเคาน์เตอร์ทดลองชิมจะมองเห็นภูเขาลูกน้อยใหญ่ในโอตารุ และซัปโปโร เป็นทิวทัศน์ที่ทำให้รู้สึกสดชื่นมากๆ

ไวน์ฮอกไกโดขนานแท้ ที่ผลิตขึ้นด้วยความจริงใจและจริงจังตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกองุ่น ลองชิมดูเผื่อจะเจอไวน์ที่ถูกใจนะคะ

OcciGabi (ออจิกาบิ)
ที่อยู่ : 635 Yamadacho, Yoichi, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : นั่งแท็กซี่จากสถานี JR Yoichi-cho ประมาณ 15 นาที (ที่ขึ้นรถแท็กซี่อยู่หน้าสถานี)
เว็บไซต์ทางการ : http://www.occigabi.net/

7. ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางที่
"อาซาริกาวะออนเซ็น"

朝里川温泉

เอื้อเฟื้อภาพโดย : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ

ในฮอกไกโดมีออนเซ็นอยู่จำนวนมาก อาซาริกาวะออนเซ็น (Asarigawa Onsen) ในโอตารุก็เป็นหนึ่งในนั้น หากเดินทางด้วยรถบัสจากสถานีโอตารุไปจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที และเมื่อใกล้จะถึงเราก็จะมองเห็นเมืองออนเซ็นที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาทั้งสามด้าน

อาซาริกาวะออนเซ็นเดินทางไปได้ไม่ยากจากซัปโปโร และเป็นออนเซ็นยอดนิยมของคนในพื้นที่ ในช่วงฤดูหนาว ลานสกีของอาซาริกาวะออนเซ็นจะเปิด จึงคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาสนุกสนานกับกีฬาในฤดูหนาวและการแช่ออนเซ็น

ที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ และสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ได้ในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงเป็นอะไรที่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะ

จะเพลิดเพลินกับออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับก็ดี หรือถ้าไม่รีบร้อน มาพักผ่อนชมทิวทัศน์ที่เรียวกังสัก 1 คืนก็ดี คุณสมบัติของน้ำพุร้อนของอาซาริกาวะออนเซ็น ว่ากันว่าช่วยในเรื่องของอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ อาการปวดของประสาท ฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้าได้ จึงเหมาะแก่การผ่อนคลายหลังจากท่องเที่ยวมาอย่างเหน็ดเหนื่อย

อาซาริกาวะอองเซ็น
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีโอตารุจิกโค (Otaruchikko) รถำฟสาย JR ใช้เวลา 15 นาที (330 เยน), รถบัสจาก JR สถานีโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (330 เยน)
เว็บไซต์ทางการ : Asarigawa Onsen (ภาษาญี่ปุ่น)

เพลิดเพลินกับของหวานในโอตารุ

นอกจากอาหารทะเลสดใหม่แล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในโอตารุก็คือ ขนมหวานที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะซอฟท์ครีมที่เดินเล่นไปก็สามารถรับประทานไปด้วยได้ เป็นที่นิยมมาก

ลักษณะพิเศษของแต่ละร้านก็ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับคนที่อยากรับประทานซอฟท์ครีมแบบเยอะๆ! ขอแนะนำ นิวยอร์คจัมโบ้ของร้าน "Otaru Milk Plant (โอตารุ มิลค์แพลนท์)"

แล้วก็ซอฟท์ครีมของ "ฟาร์มยามานากะ สาขาโอตารุ" ที่ทำจากนมวัวที่ส่งมาโดยตรงจากฟาร์มของหมู่บ้านอาคาอิกาวะที่อยู่ใกล้กับโอตารุ เป็นรสชาติความอร่อยเข้มข้นด้วยรสนมวัวแท้

ルタオ

เอื้อเฟื้อภาพโดย : LeTAO

อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ขนมสไตล์ตะวันตก "LeTAO (เลอเตา)" ร้านขายขนมหวานที่กำเนิดในเมืองโอตารุ

สินค้าขึ้นชื่อคือ "Doubled fromage" ชีสเค้กที่มีความเข้มข้นของนมและแรร์ชีสเค้กซ้อนกัน นี่เป็นหนึ่งอย่างที่ถูกผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศของฮอกไกโด เพียงนำเข้าปากก็ละลายทันที

สินค้าแช่แข็งสำหรับซื้อเป็นของฝาก มีคนที่ชื่นชอบบอกว่า "ทานตอนละลายจากแช่แข็งไปได้ครึ่งหนึ่งก็อร่อย"

ยิ่งกว่านั้น บริเวณพื้นที่คาเฟ่ในร้าน ยังสามารถรับประทาน "Dekitate Double" ซึ่งทำจากชีสเค้กอบสดใหม่ๆ ได้จากสตูดิโอเลยด้วย ลองไปพักเบรกระหว่างเดินกันได้ค่ะ

เพลิดเพลินกับโอตารุ ไปเที่ยวชิมไวน์ที่สวนองุ่น
แช่ออนเซ็น พักเรียวกังสัก 1 คืน

ถ้าได้มาเที่ยวฮอกไกโด ก็เดินทางต่ออีกนิดไปยังโอตารุ ที่จริงหากออกจากซัปโปโรในตอนเช้า ก็สามารถเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ค่ะ รถไฟรอบสุดท้ายจะมีถึงเวลา 23 นาฬิกา หลังจากเที่ยวโอตารุรอบดึกจบแล้ว ก็สามารถเดินทางกลับไปยังซัปโปโรได้

ส่วนรถไฟเร็วจากสนามบินของ JR เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:00-19:00 โดย 1 ชั่วโมงจะออก 2 ขบวน หากเดินทางขาเดียวจากซัปโปโรจะไปถึงโอตารุโดยใช้เวลา 30 นาที หากเวลาที่จะออกเดินทางไม่มีรถออกก็จะต้องเดินทางโดยรถไฟธรรมดาที่จอดทุกสถานี แต่ถึงกระนั้นก็จะใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเท่านั้น

ในกรณีที่จะเดินทางไปเมืองโยะอิจิที่มี "OcciGabi (ออจิกะบิ)" คิดว่าควรจะเผื่อเวลาพักค้างคืนที่โอตารุสัก 1 คืนค่ะ เนื่องจากอาซาริกาวะออนเซ็นอยู่ห่างจากตัวเมือง จึงอยากแนะนำให้เต็มอิ่มกับการเดินทางให้เต็มที่ด้วยการพักค้างคืนที่เรียวกังออนเซ็นจะดีกว่าค่ะ

วิธีการเดินทางไปยังโอตารุ

จากสนามบินชินชิโตเสะ (New Chitose Airport) ไปยังซัปโปโร

JR รถเร็วใช้เวลา 40 นาที (ค่าเดินทาง 1,070 เยน, แบบจองที่นั่งเพิ่มอีก 520 เยน) หากเป็นรถไฟธรรมดาที่จอดทุกสถานี จะใช้เวลาประมาณ 50 นาที (1,070 เยน ไม่มีให้จองที่นั่ง)

รถบัสด่วนพิเศษ Express Bus (เที่ยวเดียว 1,030 เยน) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

รถเช่า ใช้ทางด่วน (สนามบินชินชิโตเสะ IC ไปยังทางออก ซัปโปโรมินามิ IC ใช้บัตร ETC : 700 เยน, ปกติ : 1,000 เยน) ใช้เวลา 30 นาที หากใช้ถนนทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

จากซัปโปโรไปโอตารุ

JR รถเร็ว ใช้เวลา 30 นาที (ค่าเดินทาง 640 เยน, แบบจองที่นั่งเพิ่มอีก 520 เยน) หากเป็นรถไฟที่จอดทุกสถานี จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 50 นาที (640 เยน ไม่มีให้จองที่นั่ง)

รถบัสด่วนพิเศษ Express Bus (ไปกลับ 1,140 เยน เที่ยวเดียว 610 เยน) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

รถเช่า ใช้ทางด่วน (จากซัปโปโรนิชิ IC ไปจนถึงทางออกโอตารุ IC ใช้บัตร ETC : 570 เยน, ปกติ : 810 เยน) ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หากใช้ถนนทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที

ใช้รถบัสอย่างชาญฉลาด

小樽バス

เอื้อเฟื้อภาพโดย : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ

ใช้รถบัสเดินทางเที่ยวในโอตารุก็สะดวกสบายค่ะ "โอตารุซังซาคุบัส" (ผู้ใหญ่ 220 เยน, เด็ก 110 เยน) มีรถออกจากหน้าสถานีรถไฟโอตารุ ทุกๆ 30 นาที บริการตั้งแต่ 9:40 - 17:40 ด้วยรถบัสนี้เราจะแวะคลองโอตารุหรือคิตะอิจิ กลาสก็ได้

นอกจากนั้น ยังมีรถบัสที่มีเส้นทางหลักวิ่งผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอตารุให้บริการอีกหลายคัน

ส่วนใหญ่เราจะเน้นเดินทางด้วยรถบัสเป็นหลัก หากใช้ตั๋วโดยสารในเมือง 1 วันจะคุ้มกว่า ผู้ใหญ่ ราคา 750 เยน เด็ก ราคา 380 เยน ใช้กับรถบัส โอตารุซังซาคุบัสก็ได้ สามารถขึ้นรถบัสกี่เที่ยวก็ได้ใน 1 วัน (ค่ารถในเมืองเฉลี่ยประมาณ 220 เยน)

เพลิดเพลินกับทุกฤดูกาล ซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี หิมะ

季節ごとの気候

เอื้อเฟื้อภาพโดย : สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ

โอตารุเป็นเมืองที่ค่อนข้างอบอุ่นหากเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ในฮอกไกโด แม้ในช่วงฤดูหนาวจะเย็นเยือก แต่ในช่วงฤดูกาลอื่นๆ นั้น ระดับอุณหภูมิจะช้ากว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโตเกียว เพียง 1 เดือนเท่านั้น

ถ้าจะไปดูซากุระ แนะนำให้ไปช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายนอยู่ที่ 10.5 องศา ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 2.5 องศา ช่วงกลางวันอากาศจะเย็นๆ สบาย แต่ช่วงเช้ากับช่วงกลางคืนจะเริ่มเย็นยะเยือก เมื่อเข้าสู่เดือนมิถุนายน อุณหภูมิสูงสุดก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 19.8 องศา ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.9 องศา จนถึงช่วงนี้ ยังไงก็ควรจะมีเสื้อแจ็กเกต หรือเสื้อคลุมติดไว้กับตัวจะดีกว่า

ในช่วงฤดูร้อน บางวันอาจจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศา ส่วนเวลากลางคืนจะเย็นขึ้น เป็นสภาพอากาศที่สบายๆ กว่าฤดูหนาว เป็นฤดูที่มีคนออกไปเล่นกีฬากลางแจ้งอย่างตีกอล์ฟ และเล่นกีฬาทางน้ำจำนวนมาก อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนสิงหาคม 25.5 องศา ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 18.2 องศา แม้แต่ในช่วงกรกฎาคมถึงสิงหาคมก็ควรจะพกเสื้อแขนยาวติดตัวไว้จะสะดวกกว่า

หากเลยไปถึงกลางเดือนสิงหาคม ก็จะเริ่มสัมผัสได้ถึงฤดูใบไม้ร่วง และตั้งแต่ช่วงปลายพฤศจิกายนก็จะเริ่มกลับมาหนาวลงอีกครั้ง ตั้งแต่ธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม อุณหภูมิต่ำสุดจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง นอกจากอุปกรณ์ป้องกันความหนาวอย่างดาวน์แจ็คเก็ต และอื่นๆ แล้ว ควรจะต้องมีหมวกถุงมือ ที่ปิดหู และอื่นๆ ด้วย

รองเท้าที่ไม่ลื่นง่ายก็จำเป็นหากหิมะตก เราสามารถไปซื้อแผ่นกันลื่นติดที่เท้าจากร้านสะดวกซื้อและร้านขายของที่สถานีรถไฟได้

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เราจะได้เห็น "ถนนโอตารุยูกิอาคาริ" แสงไฟที่ส่องสว่างท่ามกลางถนนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแสนโรแมนติก เพลิดเพลินกับกีฬาในช่วงฤดูหนาวบนภูเขาเทนกูยามะ และอาซาริกาวะอองเซ็นได้จนถึงเดือนมีนาคม

เมืองที่ไปแล้วอยากไปอีก

อาหาร ประสบการณ์ต่างๆ การเดินเล่นในเมือง กำลังรอทุกคนอยู่ แม้จะอยู่ติดกับซัปปโร แต่มีบรรยากาศที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นเมืองที่ควรต้องไปเยือนสักครั้ง คิดว่าทุกคนน่าจะติดใจกับบรรยากาศที่ชวนให้หวลคิดถึงอดีต หากไปเยือนครั้งนึงแล้ว ต้องอยากไปอีกเป็นครั้งที่สอง ครั้งที่สาม อย่างแน่นอนค่ะ

Written by

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ