Start planning your trip

เราสามารถจองที่นั่งสำหรับผู้เดินทาง 1 ถึง 16 คนเท่านั้น โปรดแก้ไขจำนวนผู้เดินทางสำหรับการค้นหาของคุณ
โปรดระบุอายุของเด็กทุกคน
เด็ก 1 คน (อายุ 0-2 ปี) ต่อผู้โดยสารผู้ใหญ่ 1 คนเท่านั้น
โปรดเลือกสนามบินต้นทาง
บทความแนะนำ "โอซาก้า" แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตรองจากโตเกียวที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่นอย่างโอโคโนะมิยากิและทาโกะยากิ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทาง ข้อมูลโซนต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว อาหาร และงานอีเว้นท์ในโอซาก้ากัน
"โอซาก้า" เมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของโตเกียวประมาณ 400 กิโลเมตร โดยเป็นเมืองขึ้นชื่อของคันไซที่สามารถนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวมาถึงได้โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
โอซาก้ากลายมาเป็นเมืองขนาดใหญ่อย่างในปัจจุบันนี้เมื่อราว 500 ปีก่อน หลังจากซามูไร "โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ" ได้สร้างปราสาทขึ้นมาในโอซาก้า จึงกลายเป็นเมืองศูนย์กลางและมีการพัฒนาทั้งวัฒนธรรมและการค้าขายขึ้นมาอย่างเจริญรุ่งเรือง จนโอซาก้าได้กลายเป็นเมืองใหญ่รองจากโตเกียว (เอโดะ) ไปโดยปริยาย ส่วนด้านวัฒนธรรรมอาหารการกินก็รุ่งโรจน์ถึงขนาดเรียกกันว่า "ครัวโลก" เลยทีเดียว โดยเป็นแหล่งรวมอาหารของแต่ละท้องถิ่นทั่วญี่ปุ่น
ในปัจจุบัน ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในดวงใจของนักท่องเที่ยวมากมายด้วยเสน่ห์ทั้งด้านอาหารท้องถิ่นประจำโอซาก้าอย่างทาโกะยากิ, โอโคโนะมิยากิ และเทปันยากิ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างปราสาทโอซาก้าและโดทงโบริ
1. วิธีการเดินทางไปยังโอซาก้า
2. วิธีท่องเที่ยวในโอซาก้าและตั๋วเที่ยวโอซาก้าในราคาสุดคุ้ม
3. ข้อมูลโซนต่างๆ ในโอซาก้า
4. 40 ไฮไลท์ที่น่าสนใจและแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในโอซาก้า
5. แหล่งช้อปปิ้งในโอซาก้า
6. ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวโอซาก้าแสนสะดวก
7. แผนเที่ยวโอซาก้าและโรงแรมที่พักในโอซาก้า
8. อาหารและของฝากจากโอซาก้า
9. ภาษาถิ่นโอซาก้าน่ารู้
10. งานอีเว้นท์ในโอซาก้า
11. สภาพอากาศและเสื้อผ้าที่เหมาะกับการเที่ยวโอซาก้า
12. ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว
เว็บไซต์ที่สามารถจองทริปเที่ยว Go To Travel
HIS | JTB | AirTrip | ikyu.com | J-Trip | Kinki Nippon Tourist | NIPPON TRAVEL AGENCY | Yahoo! Travel
"ชินคันเซ็น" เป็นยานพาหนะที่สะดวกรวดเร็วที่สุดในการเดินทางจากโตเกียวมาถึงโอซาก้า จาก JR Tokyo Station มาถึง JR Shin-Osaka Station ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารประมาณ 15,000 เยน ชินคันเซ็นนั้นนั่งสบาย ตัวรถก็ไม่ค่อยสั่นสะเทือนเวลาวิ่ง แถมที่นั่งยังสะอาดอีกต่างหาก เราจึงสามารถเดินทางมาถึงโอซาก้าได้อย่างสะดวกสบายทั้งกายและใจ นอกจากนี้ก็ยังใช้เวลาในการเดินทางน้อยกว่าพาหนะอื่นๆอีกด้วยนะเออ...
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "เปรียบเทียบระยะเวลาและค่าเดินทางสำหรับการเดินทางจากโตเกียวไปโอซาก้า!"
สำหรับใครที่ต้องการใช้บริการชินคันเซ็นก็ขอแนะนำให้ซื้อ Japan Rail Pass สุดคุ้มเลยจ้า
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "แค่ตั๋ว Japan Rail Pass ใบเดียวก็เที่ยวญี่ปุ่นได้ตามอำเภอใจในแบบคุณ"
เราสามารถเดินทางมาจากสนามบินฮาเนดะได้โดยการนั่ง Keikyu Airport Line Airport Express ไปยัง Shinagawa Station และนั่งชินคันเซ็นต่อจาก Shinagawa Station มาถึง Shin-Osaka Station ค่าโดยสาร 14,030 เยน ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
เราสามารถเดินทางมาจากสนามบินนาริตะได้โดยการนั่ง Narita Express ไปยัง Shinagawa Station และนั่งชินคันเซ็นต่อจาก Shinagawa Station มาถึง Shin-Osaka Station ค่าโดยสาร 16,180 เยน ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการเดินทางที่ราคาไม่แพงหรือไม่อยากเสียเวลาท่องเที่ยวไปกับการเดินทางก็ขอแนะนำเป็น "รถบัสด่วน" เลยจ้า ถ้าเกิดซื้อตั๋วบุฟเฟ่ต์ขึ้น-ลงรถบัสด่วนอย่าง Japan Bus Pass สำหรับนักท่องเที่ยวล่ะก็รับรองว่าจะสามารถตระเวนเที่ยวหลายๆ เมืองได้ในราคาถูกอย่างแน่นอน
หาและจองเที่ยวรถบัสได้ที่ Kosokubus.com หรือที่ Willer Express
เราสามารถนั่ง JR Kanku Rapid จากสนามบินนานาชาติคันไซมาถึงโอซาก้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยใช้เวลาประมาณ 65 นาทีในการเดินทางมาถึง Osaka Station ค่าโดยสาร 1,190 เยน
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "อธิบายถึงท่าอากาศยานนานาชาติคันไซอย่างละเอียดยิบ ตั้งแต่ข้อมูลการเดินทางถึงข้อมูลโรงแรม"
เนื่องจากโอซาก้าเพียบพร้อมไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมเกือบทั่วทั้งเมือง เราจึงสามารถนั่งรถไฟ รถไฟใต้ดิน หรือรถบัสไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆได้มากมาย เนื่องจากสถานีรถไฟหลักๆมักจะมีรถไฟวิ่งผ่านหลายสาย จึงขอแนะนำให้เช็ควิธีการเดินทางเอาไว้ก่อนล่วงหน้าจะดีที่สุด
JR เป็นสายรถไฟที่วิ่งให้บริการทั้งทางฝั่งตะวันออก-ตะวันตก-เหนือ-ใต้ของโอซาก้า โดยเฉพาะ Osaka Station ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตกนั้นเป็นสถานีหลักที่เชื่อมระหว่างเกียวโต โกเบ และโตเกียว นอกจากนี้ Osaka Loop Line ที่วิ่งให้บริการรอบเมืองโอซาก้านับเป็นสายรถไฟที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวโอซาก้าเลยล่ะค่ะ
รถบัสเมืองโอซาก้า คือ รถบัสทั่วไปที่วิ่งให้บริการเป็นรูปตารางสี่เหลี่ยมรอบเมืองโอซาก้า ส่วน OSAKA SKY VISTA ของบริษัท Kinki Bus นั้นเป็นรถบัสเปิดประทุนสองชั้น โดยไกด์นำเที่ยวรถบัสจะพาผู้โดยสารทุกคนตระเวนเที่ยวไปตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ปราสาทโอซาก้าและโอซาก้าสกายบิวดิ้ง ในราคาผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 1,000 เยน
รถบัสลักษณะนี้จะเป็นการนำเที่ยวแบบชมบรรยากาศจากภายในรถบัสโดยไม่ได้ลงไปเดินเที่ยวจริงๆ จึงขอแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเที่ยวโอซาก้าแบบทำเวลาเลยจ้า...
ในโอซาก้าประกอบด้วยรถไฟใต้ดินทั้งหมด 8 สายด้วยกัน คือ Midosuji Line, Tanimachi Line, Yotsubashi Line, Chuo Line, Sennichimae Line, Sakaisuji Line, Nagahori Tsurumi-ryokuchi Line และ Imazatosuji Line โดยสายรถไฟที่นิยมใช้ในการท่องเที่ยวมากที่สุดเลยก็คือ Midosuji Line (สายสีแดง)นั่นเอง สถานีจอดของ Midosuji Line ล้วนเป็นสถานีรถไฟหลักๆของโอซาก้าทั้งนั้น เช่น นัมบะ, ชินไซบาชิ และอุเมดะ เป็นต้น
Nanko Port Town Line คือ สายรถรางที่เชื่อมตั้งแต่ Cosmosquare Station ไปจนถึง Suminoekōen Station
ภายในเมืองโอซาก้าเต็มไปด้วยรถแท็กซี่และรถเช่าให้บริการเพียบ! เนื่องจากที่นี่มีลานจอดรถเยอะกว่าแห่งอื่น สำหรับใครที่ต้องการเที่ยวโอซาก้าแบบตามใจตัวเองจึงขอแนะนำให้เช่ารถขับเองเลยจะดีที่สุด
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "พาเที่ยวโอซาก้า แนะนำการเดินทาง สถานที่น่าสนใจของโอซาก้า"
เปรียบเทียบค่าบริการเช่ารถยนต์ที่ Tabirai Japan และ Web-Rentacar หากเจอรถที่ถูกใจ ก็สามารถกดจองได้เลยด้วย
หรือหากอยากได้ความสะดวกและมีผู้เดินทางตั้งแต่ประมาณ 3-4 คนขึ้นไป ก็สามารถเลือกใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับได้ ลองดูรายละเอียดและจองรถเช่าผ่าน Klook ได้จากที่นี่
Osaka Amazing Pass คือ ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขึ้น-ลงทั้งรถไฟใต้ดินเมืองโอซาก้าและรถบัสสาย Hankyu, Hanshin, Keihan, Nankai, Kintetsu ได้อย่างไม่จำกัด แถมยังพ่วงสิทธิพิเศษในการเข้าชมหอคอยซือเท็นคาคุ ชิงช้าสวรรค์เทมโปซัง สวนสัตว์เท็นโนจิ และอื่นๆ ได้ฟรีอีกด้วย ราคาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 2,300 เยนเท่ากัน
Aqua Metropolis Osaka enjoy ticket คือ ตั๋วเซ็ตรวม "Bar Ticket" ที่สามารถใช้ได้กับสถานที่ 63 แห่งของทั้ง 8 โซนภายในเมืองโอซาก้าทั้งร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว "One-Day Pass" สำหรับใช้ขึ้น-ลงรถไฟใต้ดิน รถบัสเมือง และรถรางอย่างอิสระ และ "One Day Cruise" สำหรับใช้ขึ้น-ลงเรือนำเที่ยวเมืองโอซาก้า 3 แบบอย่างไม่จำกัด ราคา 3,300 เยน (รวมภาษี)
Enjoy Eco Card คือ ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขึ้น-ลงรถไฟใต้ดินเมืองโอซาก้า รถราง (Osaka Municipal Transportation Bureau Nanko Port Town Line) และรถบัสทุกสายได้อย่างไม่จำกัดภายในระยะเวลา 1 วัน ราคาเด็ก 300 เยน ผู้ใหญ่วันธรรมดา 800 เยน วันเสาร์-อาทิตย์ 600 เยน
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "Enjoy Eco Card บัตรขึ้นรถไฟใต้ดิน-รถบัสแบบบุฟเฟ่ต์ตลอด 1 วันในโอซาก้า"
หรือซื้อฟรีพาสยอดนิยมต่างๆ สำหรับแถบโอซาก้า
- ซื้อตั๋วคันไซทรูพาส (Kansai Thru Pass) ที่ KLOOK
- ซื้อตั๋ว Kansai Area Pass จาก Klook ได้ที่นี่
- ซื้อตั๋ว OSAKA AMAZING PASS ที่ KLOOK
- ซื้อตั๋ว Kyoto-Osaka Sightseeing Pass ที่ KLOOK
เมืองโอซาก้าแบ่งออกเป็นโซนใหญ่ๆ ได้ทั้งหมด 5 โซนด้วยกัน เช่น โซนคิตะ แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดในโอซาก้าและโซนมินามิ ที่เต็มไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิงและร้านอาหารมากมาย เดี๋ยวเราจะมาแนะนำเอกลักษณ์ ของขึ้นชื่อ และแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละโซนกันค่ะ ^^
โซนคิตะ คือ แหล่งชุมชนของเมืองโอซาก้าที่มีศูนย์กลางอยู่ในเขตอุเมดะซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณสถานีโอซาก้า ที่นี่มีการพัฒนาเครือข่ายสายรถไฟขึ้นมาอย่างครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นเมืองต้นกำเนิดเทรนด์อันทันสมัยทั้งแฟชั่นและศิลปะอีกด้วย
GRAND FRONT OSAKA (แกรนด์ฟร้อนท์โอซาก้า) ที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 2013 แห่งนี้เป็นศูนย์การค้าใกล้สถานีโอซาก้าที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 266 ร้าน เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งท่ามกลางบรรยากาศสไตล์ธรรมชาติได้อย่างจุใจ
นอกจากนี้ ภายในโซนคิตะก็ยังเป็นที่ตั้งของช้อปปิ้งมอลล์อย่าง OSAKA STATION CITY (โอซาก้าสเตชั่นซิตี้) อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเทรนด์แฟชั่นทันสมัยในโอซาก้าก็บอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...
โซนมินามิ คือ เขตชุมชนที่มีศูนย์กลางอยู่ในย่านนัมบะ เป็นเมืองอันทรงเสน่ห์ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "โดทงโบริ" ที่เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร ศูนย์รวมความบันเทิง ร้านค้า และป้ายกูลิโกะที่คนไทยคุ้นเคย รวมถึง "ชินไซบาชิ" ศูนย์กลางของวัฒนธรรมวัยรุ่นด้วย
นอกจากนี้ ภายในโซนมินามิก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงละครคาบูกิและมันไซ (การแสดงตลกแบบหนึ่งของญี่ปุ่น) ด้วยนะ เราจึงสามารถชมบรรยากาศเก่าแก่ที่เคยมีโรงละครขนาดเล็กตั้งอยู่ที่นี่ใน สมัยเอโดะ ได้อย่างน่าประทับใจ ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นโซนสัมผัสบรรยากาศสไตล์โอซาก้าอย่างแท้จริง
โซนท่าเรือ คือ โซนสัญลักษณ์ของโอซาก้าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นเมืองท่ามาก่อน เรียงรายไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ช้อปปิ้งมอลล์ ชิงช้าสวรรค์ หอชมวิว และสวนสนุกธีมปาร์ค
นอกจากนี้ ภายในโซนท่าเรือก็ยังเป็นที่ตั้งของ Universal Studios Japan อีกด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวพลางสัมผัสบรรยากาศริมทะเลได้ตลอดทั้งวัน
โปรโมชั่นพิเศษส่วนลด 5% สำหรับผู้อ่านของ MATCHA เมื่อใช้บริการเว็บไซต์จองตั๋วร้านค้าและกิจกรรม Voyagin เพียงกรอกโค้ด "voyaginmatcha" ในหน้าชำระเงินของ Voyagin รับไปเลยส่วนลด 5% (ยกเว้นดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี)
ซื้อบัตรจาก Voyagin ได้ที่นี่
โซนปราสาทโอซาก้า คือ โซนที่สามารถเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์รอบปราสาทโอซาก้าได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากปราสาทแล้วก็ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ อีกด้วย แถมยังมีย่านเคียวบาชิซึ่งยังคงหลงเหลือย่านชุมชนเก่าแก่อีกต่างหาก ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งสัมผัสประวัติศาสตร์ของโอซาก้าแท้ๆ เลยจ้า
ในปัจจุบัน แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ในโซนปราสาทโอซาก้าอย่าง Osaka Business Park และ Mitsui Outlet Park Osaka Tsurumi (มิสึอิ เอาท์เล็ท ปาร์ค โอซาก้า สึรุมิ) ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมสมัยใหม่และสมัยก่อนของโอซาก้าไปโดยปริยาย
โซนเท็นโนจิ - อาเบโนะ - ชินเซไค คือ โซนที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองโอซาก้า โดยเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นหอคอยซือเท็นคาคุ แลนด์มาร์คทาวเวอร์อย่างอาเบะโนะฮารูคัส สวนสัตว์ พิพิธภัณศิลปะ และวัด-ศาลเจ้า
ย่านชินเซไคซึ่งเป็นที่ตั้งของหอคอยซือเท็นคาคุนับเป็นโซนที่เหมาะกับการช้อปปิ้งและทานอาหารมากที่สุด โดยยังคงหลงเหลือบรรยากาศสมัยก่อนของโอซาก้าให้เห็นกันอย่างป้ายหน้าร้านสุดโดดเด่นเก๋ไก๋ สำหรับใครที่อยากสัมผัสโอซาก้าสไตล์ย้อนยุค ที่นี่ก็นับเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วล่ะค่ะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「พาเที่ยวโอซาก้า แนะนำการเดินทาง และจุดที่น่าสนใจของโอซาก้า 」
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ ตัวปราสาทได้รับการบูรณะในปี 1931 จากเงินบริจาคของชาวเมืองโอซาก้าจนกลายเป็นปราสาทอย่างในปัจจุบัน ทุกปีจะมีการประดับไฟไลท์อัพตัวปราสาทขึ้นหลายครั้ง เช่น ในฤดูชมซากุระ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "อยากรู้ปราสาทโอซาก้ายามเย็นดีงามขนาดไหน เราจะพาคุณไปเดินชมกันถึงที่!"
Universal Studios Japan® คือ สวนสนุกธีมปาร์คสำหรับสัมผัสโลกแห่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดในโอซาก้า เต็มไปด้วยเครื่องเล่นยอดนิยมที่จำลองมาจากโลกภาพยนตร์มากมายไม่ว่าจะเป็น Jaws, Jurassic Park The Ride และ The Wizarding World of Harry Potter
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ราคาและวิธีการเดินทางไปยัง Universal Studios Japan® (USJ)"
ซื้อบัตรจาก Voyagin ได้ที่นี่
นัมบะ (Namba) คือ แหล่งช้อปปิ้งที่ครอบคลุมเขตจูโอและเขตนานิวะของเมืองโอซาก้า โดยเป็นที่ตั้งของ ห้าง Takashimaya สาขาโอซาก้า, Namba CITY, Namba Parks, Namba Marui, ถนนร้านค้า Ebisubashi-Suji, ถนนร้านค้า Namba Nankaidori, ถนนร้านค้า Nansandori และ ถนนร้านค้า Sennichimae Dogu Ya Suji
โดทงโบริ (Dotonbori) คือ ย่านชุมชนที่ตั้งอยู่ในเขตจูโอ เมืองโอซาก้า จ.โอซาก้า ทางตอนใต้ของโดทงโบริเรียงรายไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิง ส่วนทางตอนเหนือเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย โดยมีร้านแผงลอยอย่างโอโคโนะมิยากิและทาโกะยากิเพียบเลยล่ะค่ะ สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับรสชาติแห่งโอซาก้าก็บอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
ที่อยู่ : Dotonbori, Chuo, Osaka, Osaka
เว็บไซต์หลัก : http://www.dotonbori.or.jp/ja/
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "สัมผัสบรรยากาศความเป็นโอซาก้าเต็มๆ ที่โดทงโบริ"
มิโดซุจิ (Midosuji) คือ ถนนทางยาวจรดเหนือ-ใต้ผ่านใจกลางเมืองโอซาก้า โดยเป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของโอซาก้าเลยทีเดียว เลียบถนนเรียงรายไปด้วย ห้างสรรพสินค้า Shinsei Sogo ห้างสรรพสินค้า Daimaru และร้านค้าที่บริหารตรงโดยแบรนด์ดังมากมาย เช่น Chanel, Louis Vuitton และ Cartier
ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) คือ แหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อของโอซาก้าซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นมอลล์อย่าง Etoile Shinsaibashi และ Shinsaibashi Parco ร้านค้าแบรนด์สุดหรูตั้งแต่แบรนด์แฟชั่นมาไว-ไปไวอย่าง Uniqlo และ GAP ไปจนถึง Cartier และ Bulgari ร้านจำหน่ายนาฬิกาสุดหรูอย่าง Rolex และ Franck Muller และร้านค้าแบรนด์กีฬาอย่าง Adidas
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ชินไซบาชิ แหล่งรวมวัยรุ่นวัยอินเทรนด์ของโอซาก้า"
อเมริกามูระ / หมู่บ้านอเมริกา (America-mura / American Village) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของชินไซบาชิแห่งนี้เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นผู้ชื่นชอบในเทรนด์แฟชั่นทันสมัย โดยเรียงรายไปด้วยร้านบูติกและคาเฟ่มากมาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งต้นกำเนิดวัฒนธรรมวัยรุ่นขึ้นชื่อของโอซาก้าไปโดยปริยาย
ชินเซไค (Shinsekai) ที่ตั้งอยู่ติดกับหอคอยซือเท็oคาคุซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้าแห่งนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารพื้นบ้าน โดยเป็นย่านสุดคึกคักที่เต็มไปด้วยป้ายหน้าร้านสุดโดดเด่นเก๋ไก๋มากมาย บอกเลยว่าใครมาเที่ยวที่นี่ห้ามพลาดไปทานอาหารเสียบไม้ทอด คุชิคัตสึเด็ดขาด!
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ไปกินคุชิคัตสึที่ชินเซไก ย่านที่มีแต่ป้ายหน้าร้านฉูดฉาดตามสไตล์โอซาก้า"
จันจันโยโกโจ (Jyanjyan Yokocho) คือ แหล่งรวมร้านอาหารที่เรียงรายไปด้วยร้านผู้ให้การสนับสนุนวัฒนธรรมอาหารการกินของโอซาก้ามากมายไม่ว่าจะเป็นร้านโอเด้ง โดเตยากิ และคุชิคัตสึ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「จันจันโยโกโจ ย่านร้านค้าที่ให้ความรู้สึกถึงญี่ปุ่นในอดีต ที่ชินเซไค โอซาก้า」
หอคอยซือเท็นคาคุ (Tsutenkaku) คือ หอคอยสูง 103 เมตรสำหรับชมวิวเมืองโอซาก้า แน่นอนว่าเราสามารถเพลิดเพลินกับทั้งทัศนียภาพของโอซาก้าบนจุดชมวิวได้ แถมยังสามารถผ่อนคลายที่คาเฟ่ภายในหอคอยได้อีกต่างหาก ส่วนของหวานขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็คือ "ซือเท็งคาคุพาเฟ่ต์" นั่นเองจ้า
อาเบโนะฮารูคัส (Abeno Harukas) เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในโอซาก้าเมื่อปี 2014 เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยระดับความสูงกว่า 300 เมตร ภายในตึกมีทั้งจุดชมวิว โรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ
Umeda Sky Building คือ ตึกสูงที่สร้างเสร็จในเดือนมีนาคม ปี 1993 ระดับความสูงระหว่างชั้น 40F และชั้น B2F ประมาณ 173 เมตร โดยได้รับเลือกโดยนิตยสารชื่อดังของอังกฤษ THE TIMES ให้เป็น 1 ใน 20 สถาปัตยกรรมของโลก เราสามารถชมวิวย่านอุเมดะใจกลางเมืองโอซาก้าได้จากบนจุดชมวิวสวนลอยฟ้าเลยจ้า...
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ชมเมืองโอซาก้าบนสวนลอยฟ้าที่ตึก Umeda Sky Building"
ถนนช้อปปิ้งเท็นจินบาชิสึจิ (Tenjinbashi-Suji Shopping Street) คือ ถนนร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของโอซาก้า โดยมีทั้งร้านจำหน่ายของใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเสื้อผ้าแฟชั่นตะวันตก เครื่องปั้นดินเผา ยา และเครื่องสำอาง ผู้คนเรียกกันว่าเป็นย่านร้านค้าที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น
สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป (Expo Commemoration Park) ที่ตั้งอยู่ภายในลานจัดงาน Japan World Exposition ที่จัดขึ้นเมื่อปี 1970 แห่งนี้เป็นสวนสาธารณะขนาดยักษ์ที่รวมตั้งแต่ลานกว้างสำหรับชมดอกไม้และพืชพรรณ ลานจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว สวนญี่ปุ่น ลานกีฬา ไปจนถึงออนเซ็นเลยทีเดียว โดยมีสัญลักษณ์เป็น Tower of the Sun (หอคอยพระอาทิตย์) ซึ่งเป็นผลงานศิลปะของ Okamoto Taro ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่น
นิปปงบาชิ (Nipponbashi) ที่ผู้คนเรียกกันว่า "ปงบาชิ" แห่งนี้เป็นย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นชื่อที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายวิทยุไร้สายและเครื่องเสียงมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีร้านจำหน่ายสายต่อเครื่องเสียงและวิทยุสมัครเล่นที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปอีกด้วย
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "นิปปอนบาชิ เมืองของโอตาคุแห่งคันไซ"
ถนนช้อปปิ้งเซ็มบายาชิ (Senbayashi Shopping Street) คือ ถนนที่รวมร้านอร่อยชื่อดังที่ผลัดกันเป็นอันดับ 1 - 2 ของโอซาก้า เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมายกว่า 220 ร้านบนถนนยาว 660 เมตร ที่นี่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายของใช้ในชีวิตประจำวันและอาหารมากมาย โดยมีผู้คนท้องถิ่นเดินทางมาซื้อของกันเป็นประจำ นอกจากนี้ก็ยังมีจำหน่ายของว่างอย่างทาโกะยากิ ไอศครีมโมนากะ และเครปด้วย บอกเลยว่าหิวเมื่อไหร่ก็แวะมา (ไม่ใช่เซเว่นนะคะ 555)
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ไปเดินกินขนมที่ "เซนบายาชิ" ย่านการค้าของโอซาก้ากันเถอะ"
เอ็กซ์โปซิตี้ (EXPOCITY) ที่ตั้งอยู่ภายใน สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป (Expo Commemoration Park) แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถพักผ่อนหย่อนใจและช้อปปิ้งได้ในแห่งเดียว โดยประกอบด้วย LaLaport EXPOCITY ช้อปปิ้งปาร์ครวมร้านค้ากว่า 305 ร้านและศูนย์รวมความบันเทิง สวนสนุก Pocket Monsters จากเกมยอดฮิตนั้นได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ เป็นอย่างสูงเชียวล่ะค่ะ
ชิงช้าสวรรค์เทมโปซัง (Tempozan Ferris Wheel) ที่ตั้งอยู่ใน Tempozan Harbor Village ศูนย์รวมความบันเทิงและแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นนำของโอซาก้าแห่งนี้เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วยความสูง 112.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 100 เมตร โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวกลางอากาศโดยใช้เวลา 17 นาทีต่อรอบได้
ตลาดคุโรมงอิจิบะ (Kuromon Ichiba Market) คือ โซนแหล่งรวมตลาดและร้านค้าที่ตั้งอยู่ตรงบล็อก 1 และ 2 ของนิปปอนบาชิ เขตจูโอ เมืองโอซาก้า โดยเป็นที่ตั้งของทั้ง ตลาดทสึรุฮาชิ (Turuhasi-ichiba) เขตฮิกาชินาริและ ตลาดโฮนัน (Hounan-ichiba) เมืองโทโยนากะในโอซาก้า ทำให้ที่นี่กลายเป็นขุมทรัพย์แห่งอาหารขึ้นชื่อไปโดยปริยาย
โดยประกอบด้วยร้านค้ากว่า 180 ร้าน กว่าครึ่งเป็นร้านจำหน่ายปลาสดใหม่ นอกจากร้านจำหน่ายปลาสดใหม่แล้วก็ยังมีร้านจำหน่ายผัก-ผลไม้และอาหารแห้งด้วย แถมยังมีเอกลักษณ์อยู่ที่มีซุปเปอร์มาร์เก็ตอาหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดด้วยนี่แหละ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "อยากกินของอร่อย ทั้งปลาปักเป้า หรืออาหารทะเลสดๆ ในโอซาก้าต้องไปที่ ตลาดคุโระมง"
โฮริเอะ (Horie) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของชินไซบาชิแห่งนี้เป็นแหล่งรวมคาเฟ่ ร้านรวมสินค้าคัดสรร และร้านจำหน่ายของตกแต่งภายในสุดเก๋ไก๋
วัดโฮเซ็นจิ (Hozen-ji Temple) คือ วัดนิกายโจโดะที่ตั้งอยู่ในนัมบะ เขตจูโอ เมืองโอซาก้า จ.โอซาก้า หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วก็สามารถแวะเดินเล่นที่ ตรอกโฮเซ็นจิโยโกโจ (Hozenji Yokocho) ได้เลยตรอกเล็กๆ พื้นหินสไตล์เก่าแก่แห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านโอโคโนะมิยากิ บาร์ และสแน็ค
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "วัดโฮเซ็นจิ นัมบะ ถนนสายเล็กที่เปี่ยมไปด้วยความหลังและบรรยากาศของวัดยามค่ำคืนราวกับความฝัน"
เจ้าแม่กวนอิมโนซากิ วัดจิเก็นจิ (์Nozaki Kannon, Jigenji Temple) แห่งนี้ตั้งอยู่ในโนซากิ เมืองไดโต โอซาก้า ถ้าเดินขึ้นไปทางด้านหลังของโบสถ์ซักนนิดจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของที่ราบโอซาก้า
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "เจ้าแม่กวนอิมโนซากิ เขาอีโมริ โอซาก้า สัมผัสบรรยากาศในอดีตตั้งแต่สมัยเอโดะซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่ ณ สถานที่แห่งนี้"
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) คือ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันไซ เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลมากมายกว่า 620 สายพันธุ์ รวม 30,000 ตัว เปิดให้เข้าชมเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1990
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "จำลองมหาสมุทรแปซิปิคมาไว้ที่ ไคยูคัง โอซาก้า"
นิฟุเรรุ (NIFREL) คือ พิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่ได้รับการออกแบบโดยผู้สร้าง พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้นชื่อของโอซาก้า
ที่นี่จัดแสดงโดยนำรูปแบบขององค์ประกอบศิลป์แบบไร้รั้วกั้นมาประยุกต์ใช้ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์ศิลปะภายใต้คอนเส็ปต์ "สัมผัสความรู้สึก" ดังนั้น ที่นี่จึงไม่ได้มีแค่สัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำซึ่งนิยมเลี้ยงกันตามพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ปีกอีกด้วย โดยจัดแสดงแบบไร้รั้วกั้นระหว่างบรรดาสัตว์ที่จัดแสดง ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินราวกับว่าเข้าไปอยู่ในโลกของสัตว์จริงๆ เลยล่ะค่ะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "NIFREL พิพิทธภัณฑ์ที่สัตว์ นกและปลาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระไร้กำแพงกั้น"
สวนมิโน (Minoo Park) คือ วนอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางโอซาก้าไปทางตอนเหนือประมาณนั่งรถยนต์ 30 นาที ภายในสวนขนาดใหญ่กว้างกว่า 520 ไร่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของ น้ำตกมิโน (Minoo Fall) และ พิพิธภัณฑ์แมลงสวนมิโน (Minoo park insect pavilion) ในฤดูใบไม้ร่วงเราสามารถเพลิดเพลินกับการชมใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างจุใจ แถมบริเวณใกล้เคียงก็ยังเต็มไปด้วยร้านจำหน่าย "เทมปุระใบเมเปิ้ล" ของขึ้นชื่อประจำมิโนเพียบเลยด้วย
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "5 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในโอซาก้า สวนมิโนโอะ ปราสาทโอซาก้า สวนไดเซ็น"
ถนนที่ทอดยาวตั้งแต่ด้านหน้า Hankyu Minoo Station ไปจนถึง น้ำตกมิโน (Minoo Fall) เรียกว่า "ทาคิมิจิ" โดยเรียงรายไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นเยี่ยมไปโดยปริยาย
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "พาชมสถานที่ท่องเที่ยวสบายๆ ในโอซาก้า ไปเดินเล่นที่ทาคามิจิ ในเมืองมิโนโอะกัน!"
สวนโฮชิดะเอ็นจิ (Hoshida-enchi Park) ที่สามารถนั่งรถไฟมาถึงได้อย่างสะดวกสบายแห่งนี้เป็นอุทยานธรรมชาติแห่งชาติที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา โดยเป็นสวนสาธารณะกว้างใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่าได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของทางเดินป่าสำหรับเดินเล่นชมตลิ่งและภูเขาเทียมสูง 16.5 เมตรอีกด้วย เราจึงสามารถสัมผัสกิจกรรมทั้งเดินป่าและปีนเขาได้ที่นี่เลย
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "5 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในโอซาก้า สวนมิโนโอะ ปราสาทโอซาก้า สวนไดเซ็น"
สวนไดเซ็น (DAISEN PARK) คือ สวนสาธารณะที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น โดยตั้งอยู่ระหว่าง "นินโตคุเท็นโนเรียวโคะฟุน (หลุมศพของจักรพรรดินินโตคุ)" (*1) และ "ริชูเท็นโนโมสุโนมิมิฮาระโนะมินามิโนะมิซาซากิ (หลุมศพของจักรพรรดิริชู)" เราสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามที่มีทั้งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และหลุมศพขนาดเล็กภายในพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่ได้ที่นี่เลย
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "5 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในโอซาก้า สวนมิโนโอะ ปราสาทโอซาก้า สวนไดเซ็น"
*1 : โคะฟุน...สถานที่ฝังศพของครอบครัวหรือตระกูลที่มีอำนาจในสมัยก่อน
ภูเขาอีโมริ (Mt. Iimori) คือ ภูเขาที่ตั้งอยู่ในเมืองไดโต จ.โอซาก้า โดยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติเหมาะสำหรับการเดินป่าสุดๆ สำหรับใครที่ต้องการเดินเล่นชมร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของโอซาก้าขอแนะนำเป็น "เส้นทางเดินป่าบนภูเขาอีโมริ" ซึ่งเริ่มต้นจากวัดโนซากิคันนอนที่ตั้งอยู่ห่างจาก JR Nozaki Station ประมาณเดินเท้า 10 นาทีและแวะไปยัง ศาลเจ้าชิโจนาวาเตะ (Shijonawate Shrine) ด้วยเลยค่ะ ^^
เว็บไซต์หลัก : http://www.city.daito.lg.jp/kakukakaranoosirase/seisakusushin/miryoku/kankou/kaikan/1283308080070.html
สวนกุหลาบนากาโนะชิมะ (Nakanoshima Rose Garden) ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสวนนากาโนะชิมะแห่งนี้บานสะพรั่งไปด้วยกุหลาบกว่า 310 สายพันธุ์ ร่วม 4,000 ต้นในระยะทางยาวกว่า 500 เมตรจากตะวันออกจรดตะวันตก บรรยากาศที่ทั่วทั้งสวนบานสะพรั่งไปด้วยกุหลาบหลากสีสันทั้งสีแดง ม่วง ขาว เหลืองเป็นอะไรที่สบายตามากจริงๆค่ะ ^^
สวนนารุคาวะเอ็นจิ ภูเขาอิโคมะ (Mt.Ikoma Narukawa-Enchi Park) คือ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมอาณาบริเวณกว่า 204 เฮกเตอร์ตั้งแต่สันเขาคุราการิไปจนถึงสันเขานารุคาวะ ฤดูกาลของกุหลาบพันปีในช่วงเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมจะยิ่งคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายเชียวล่ะค่ะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ทะเลดอกอะซาเลีย ที่พบขณะเดินป่าในสวนนารุคาวาที่ภูเขาอิโคะมะ"
ชายหาดหินอ่อน (Marble beach) คือ ชายหาดยาวกว่า 900 เมตรที่ตั้งอยู่ตรงชายฝั่งตรงข้ามกับสนามบินนานาชาติคันไซ บริเวณชายหาดปูไปด้วยหินอ่อนสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีน้ำเงินงดงามมาก ที่นี่ขึ้นชื่อในฐานะที่เป็นแหล่งชมพระอาทิตย์ยามเย็นด้วยนะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ ""มาเบิ้ลบีช" จุดชมวิวยามเย็นแสนโรแมนติกของโอซาก้า"
พิพิธภันฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโมโมฟุกุ อันโด (Momofuku Ando Instant Ramen Museum) แห่งนี้เปิดคอร์สกิจกรรมทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออริจินอลเพียงหนึ่งเดียวในโลก ถ้าใครได้มาเข้าร่วมกิจกรรม รับรองว่าจะได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ระลึกเฉพาะของตัวเองกลับไปกันทุกคนจ้า...
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ทำคัพนู้ดเดิ้ลถ้วยเดียวในโลก ที่พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โอซาก้า"
SEMBA 223 café คือ คาเฟ่สุดแปลกที่สามารถเพลิดเพลินกับชา-กาแฟและขนมพลางชมพระพุทธรูปได้ในมินามิฮอมมาจิ เขตจูโอ "คุณทาคาฮาชิ" เจ้าของร้านกล่าวเอาไว้ว่า "การชมพระพุทธรูปก็คือการย้อนมองตัวเราเอง" ที่นี่จึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจอันล้ำค่าที่สามารถสัมผัสถึงเสน่ห์ของพระพุทธรูปที่มองกี่ทีก็ไม่มีเบื่อได้อย่างเต็มอิ่ม แอบกระซิบนิดนึงว่าพระพุทธรูปทั้งหมดที่จัดแสดงภายในร้านสามารถซื้อได้ทุกองค์เลยค่ะ ^^
ที่อยู่ : Youman Building B1F, 2 Chome-5-9 Minamihonmachi, Chuo, Osaka, Osaka
Facebook หลัก : https://www.facebook.com/223cafe/
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "SEMBA 223 Cafe คาเฟ่พระพุทธรูปในเซมบะ โอซาก้า"
GRADO คือ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่รีโนเวทมาจากบ้านอายุกว่า 70 ปี ด้านหน้าร้านเรียงรายไปด้วยต้นบอนไซขนาดเล็กมากมาย โดยเราสามารถซื้อกลับไปได้เกือบทุกต้น แต่เนื่องจากการนำกลับประเทศจำเป็นต้องผ่านงื่อนไขการนำเข้าของประเทศตัวเองด้วย จึงควรระวังให้ดีด้วยเนอะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "สำราญกับของหวานสไตล์ญี่ปุ่นและ ชิการะกิยากิที่คาเฟ่บอนไซ GRADO โอซาก้า"
ที่อยู่ : 2-15-29 Uesumiyoshi, Sumiyoshi, Osaka, Osaka
เว็บไซต์หลัก : http://grado-infinito.juno.weblife.me/pg105.html
คุทสึโรกิ โนะ ซาโตะ ยูราคุ (Kutsurogi-no-Sato Yuraku) คือ โรงอาบน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ในเมืองโอซาก้า เราสามารถเพลิดเพลินกับบ่อน้ำร้อนได้มากมายหลายแบบทั้งออนเซ็นเดดซี ออนเซ็นกลางแจ้ง และ "อาฮิรุโยโกโจโอะมัตสึริฟุโระ" ออนเซ็นที่มีตุ๊กตาเป็ดน้อยลอยอยู่ในอ่างเพียบ!
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "แช่ออนเซนกับเป็ดน้อยสีเหลือง คุซึโรกิโนะโกยูระคุ"
Eat Osaka คือ โรงเรียนสอนทำอาหารที่ตั้งอยู่ด้านล่างหอคอยซือเท็นคาคุ เราสามารถเรียนรู้การทำอาหารครัวเรือนญี่ปุ่นและเมนูแป้งของโอซาก้าภายในห้องสไตล์ญี่ปุ่นที่มีประตูบานเลื่อนกรอบไม้ได้ที่นี่เลย โดยคอร์สเรียนสอนเป็นภาษาอังกฤษ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "เรียนทำอาหารญี่ปุ่นกันที่ Eat Osaka ห้องเรียนทำอาหารในโอซาก้า"
mr.kanso คือ บาร์อาหารกระป๋องที่มีสาขากว่า 30 แห่งทั่วญี่ปุ่น โดยเป็นร้านที่ลูกค้าจะได้ค้นหาอาหารกระป๋องที่ถูกใจในบรรดาอาหารกระป๋องมากมายเพื่อทานเป็นกับแกล้มเหล้า ที่นี่มีจำหน่ายเฉพาะในรูปแบบอาหารกระป๋องเท่านั้น
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "แกล้มเหล้าด้วยอาหารกระป๋อง mr.kanso บาร์อาหารกระป๋องริมแม่น้ำโดทงบุริ"
Leisure City Misono Building คือ แหล่งเที่ยวกลางคืนของโซนมินามิที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1956 เมื่อเดินขึ้นบันไดวนด้านข้างตึกไปก็จะพบกับร้านค้าสุดเอกลักษณ์มากมายเรียงรายกันอยู่บนอาคารสุดลึกลับ สำหรับใครที่อยากใช้เวลายามค่ำคืนในมินามิก็บอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ใช้เวลาเพลิดเพลินที่บาร์น่าพิศวง บนชั้น 2 ของ "Leisure City Misono" อุระนัมบะ"
วัดเซ็งโค (Senko Temple) คือ วัดที่สามารถเพลิดเพลินกับการเรียนรู้เรื่องนรกหรือโลกหลังความตายได้ โดยเราจะได้เยี่ยมชมบรรยากาศของโลกในนรกสุดสะพรึงไม่ว่าจะเป็นท่านพญายมผู้ตัดสินคนตายว่าจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ภูเขาหนามแหลม และเกวียนเพลิง
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ ""วัดเซ็งโค" ขุมนรกแห่งความสยองขวัญในโอซาก้า ฮิราโนะ"
บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น 1 วัน (Universal Studios Japan 1 Day E-Ticket)
เฮอร์บิส พลาซ่า เอ็นท์ (HERBIS PLAZA ENT) คือ ช้อปปิ้งมอลล์ใกล้สถานีอุเมดะที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าแฟชั่นมากมาย เช่น ร้านค้าแบรนด์ดังของญี่ปุ่น เป็นต้น แถมบนชั้น B2F ก็ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารอิตาเลี่ยนอีกด้วย เราจึงสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่ออย่างแน่นอน
แกรนด์ฟร้อนท์โอซาก้า (GRAND FRONT OSAKA) คือ ศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีโอซาก้า ประตูฝั่งเหนือ ที่นี่แบ่งออกเป็นฝั่งเหนือ-ใต้และลานกว้างอุเมกิ โดยเรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 266 ร้าน
แถมยังมีโซนสัมผัสธรรมชาติอันแสนงดงามอย่างสวนบนดาดฟ้าอีกด้วย สำหรับใครที่ช้อปปิ้งกันจนเหนื่อยแล้วก็ขอแนะนำให้ขึ้นมาพักผ่อนหย่อนใจพลางชมน้ำและป่าไม้เขียวขจีที่นี่เลยค่ะ
HEP FIVE คือ ศูนย์รวมความบันเทิงใกล้สถานีอุเมดะ โดยเรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมาย เช่น ร้านค้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นและร้านค้าจิปาถะ เป็นต้น
ชิงช้าสวรรค์สีแดงบนชั้น 7F นับเป็นแลนด์มาร์คของย่านอุเมดะแห่งนี้เลย บอกเลยว่าต้องขึ้นไปชมวิวเมืองโอซาก้าจากบนชิงช้าสวรรค์กันให้ได้!
นัมบะมารูอิ (Namba Marui) คือ ช้อปปิ้งมอลล์ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีนัมบะ โดยเป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่มีทั้งชั้นร้านค้าแฟชั่นชาย-หญิงและโรงภาพยนตร์
ที่นี่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นทันสมัยมากมาย จึงนับเป็นแหล่งช้อปปิ้งแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาสินค้าเทรนด์แฟชั่นในโอซาก้าเลยจ้า...
Hoop คือ แฟชั่นมอลล์ที่ตั้งอยู่ในโซนเท็นโนจิ Hoop เป็นภาษาอังกฤษหมายถึง “ถังเหล้า” ซึ่งตั้งชื่อตามรูปทรงอาคารที่มีลักษณะเหมือนกับถังเหล้า โดยเรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 60 แห่ง
เมื่อตกกลางคืนก็จะมีการจัดอิลลูมิเนชั่นบนตัวอาคารแต่งแต้มสีสันให้กับโอซาก้ายามค่ำคืน สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวโซนเท็นโนจิก็อย่าลืมแวะมาที่นี่กันด้วยนะคะ ^^
ชินไซบาชิ โอพีเอ (Shinsaibashi Opa) คือ ช้อปปิ้งมอลล์ที่ตั้งอยู่ในชินไซบาชิ โดยมีร้านค้าแฟชั่นทุกรูปแบบตั้งแต่ร้านค้าแฟชั่นลำลอง, ร้านค้าคัดสรรแบรนด์สุดหรู ไปจนถึงร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเลยทีเดียว
ว่ากันว่าด้านหน้าอาคารที่มีโลโก้ OPA นิยมใช้เป็นจุดนัดพบของเหล่าวัยรุ่นมากมาย สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวโซนชินไซบาชิก็บอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...
เท็นโนจิ มิโอะ (Tennoji MIO) คือ ศูนย์การค้าบน JR Tennoji Station ที่นี่เต็มไปด้วยร้านค้าแฟชั่นกว่า 251 ร้าน โดยจำหน่ายสินค้าตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าทุกระดับ
ที่นี่เพิ่งผ่านการรีโนเวทไปเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมาจนกลายเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นสุดเก๋ไก๋ ทำให้ได้รับการจับตามองในฐานะที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ในโซนเท็นโนจิไปโดยปริยาย
America-Mura (America Village : อเมริกามูระ / หมู่บ้านอเมริกา) คือ ย่านที่ตั้งอยู่ในโซนนิชิชินไซบาชิซึ่งเรียกกันว่า "อาเมมูระ" โดยเรียงรายไปด้วยร้านค้าแฟชั่นสุดเอกลักษณ์และร้านอาหารแบบเดินไปกินไปมากมาย
ที่นี่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองและสินค้านำเข้าเป็นจำนวนมากถึงขนาดเรียกกันว่า "ฮาราจูกุแห่งโอซาก้า" เลยทีเดียว สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวชินไซบาชิก็อย่าลืมแวะมาช้อปปิ้งกันดูน้า...
นัมบะปาร์ค (Namba Parks) คือ ช้อปปิ้งมอลล์ใกล้สถานีนัมบะที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 240 ร้านประกอบด้วยร้านค้าแฟชั่นทันสมัย ร้านจำหน่ายของตกแต่งภายใน และร้านค้าจิปาถะ
ส่วนบนดาดฟ้ามีการสร้างสวนขนาดใหญ่ขึ้นเป็นโอเอซิสใจกลางเมือง ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งห้ามพลาดในนัมบะเลยก็ว่าได้
ถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิสึจิ (Shin Sai Bashi-Suji Shopping Street) คือ ถนนร้านค้าที่ทอดยาวตั้งแต่ชินไซบาชิไปจนถึงนัมบะ บนถนนยาวกว่า 600 เมตรแห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 180 ร้าน
เต็มไปด้วยบริการเอาใจนักท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นแผ่นพับภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี ภาษาจีนตัวย่อ และภาษาจีนตัวเต็ม บริการ Wi-Fi ฟรี และร้านค้าปลอดภาษี เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถช้อปปิ้งกันได้อย่างสบายใจหายห่วง
อาเบโนะฮารูคัส (Abeno Harukas) คือ ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2014 ที่ผ่านมา โดยสร้างขึ้นในเขตอาเบโนะ เมืองโอซาก้า ที่นี่เป็นตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นด้วยระดับความสูงกว่า 300 เมตร เราสามารถชมวิวเมืองโอซาก้าไปจนถึงฝั่งเกียวโตและนาราได้จาก "Harukas 300" จุดชมวิวติดกระจก 360 องศาเลยค่ะ
ที่นี่เป็นที่ตั้งของร้านค้าแบรนด์ดัง เราจึงสามารถช้อปปิ้งสินค้าได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง แถมยังมีซาลอนสำหรับนักท่องเที่ยว บริการปลอดภาษี และบริการแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศอย่างครบวงจรอีกต่างหาก
โอซาก้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเป็นเมืองรากฐานวัฒนธรรมสุดเอกลักษณ์ของโอซาก้า ยังไงเพื่อนๆก็ลองแวะมาดื่มด่ำกับการช้อปปิ้งในโอซาก้าตั้งแต่ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ไปจนถึงถนนร้านค้าท้องถิ่นกันดูนะคะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "11 แหล่งช้อปปิ้งในโอซาก้าทั้งอุเมดะ นัมบะ และชินไซบาชิ"
Kansai Tourist Information Center KIX (KTIC) คือ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่สามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยว จำหน่ายตั๋วท่องเที่ยว บริการรับฝากสัมภาระและส่งของ รวมถึงใช้เป็นแหล่งค้นหาข้อมูลผ่านบริการ Free Wi-Fi ได้ แถมยังมีการจัดเตรียมแผ่นพับนำเที่ยวเอาไว้อย่างครบครันอีกต่างหาก โดยตั้งอยู่ในย่านชินไซบาชิ 2 แห่งด้วยกัน
เราสามารถซื้อตั๋วท่องเที่ยวสุดคุ้ม เช่น ตั๋วท่องเที่ยวโอซาก้าและคันไซในราคาสุดคุ้ม ได้ที่นี่เลย สำหรับใครที่ต้องการสอบถามข้อมูลด้านการท่องเที่ยวหรือตกอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลยค่ะ ^^
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "เที่ยวโอซาก้าอย่างอุ่นใจกับ KANSAI TOURIST INFORMATION CENTER 2แห่ง ที่ชินไซบาชิ"
ในครั้งนี้เราก็มีแผนเที่ยวโอซาก้าอย่างมีประสิทธิภาพภายใน 2 วันมาฝากเพื่อนๆ ชาว MATCHA กันด้วยนะ
วันที่ 1
ตอนเช้า : เที่ยวสวยสนุก Universal Studios Japan
ตอนบ่าย : เดินเล่นชิมของอร่อยย่านชินเซไค (Shinsekai)
ตอนกลางคืน : เดินทางไปยังโซนคิตะเพื่อชมทัศนียภาพยามค่ำคืนจากบนชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE
วันที่ 2
ตอนเช้า : ชมวิวเมืองโอซาก้าจากบน Umeda Sky Building
ตอนเที่ยง : เดินทางไปยังโซนมินามิเพื่อเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งในนัมบะ
ตอนเที่ยง - ตอนเย็น : ดื่มด่ำกับอาคารบ้านเมืองสไตล์โอซาก้าที่ โดทงโบริ (Dotonbori) และ ชินไซบาชิ (Shinsaibashi)
ตอนเย็น - ตอนกลางคืน : ชมวิวกลางคืนของโอซาก้าบน อาเบโนะฮารูคัส (Abeno Harukas)
ตอนกลางคืน : อิ่มท้องด้วยโอโคโนะมิยากิ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "แผนเที่ยวโอซาก้าแบบรวบรัดภายใน 2 วัน"
ในโอซาก้าเต็มไปด้วยโรงแรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจตั้งแต่โรงแรมที่มีหุ้นส่วนต่างชาติอย่าง The Ritz Carlton, Osaka และ Hilton Osaka ไปจนถึงเรียวกัง และบิสิเนสโฮเต็ล (โรงแรมราคาย่อมเยาซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปติดต่องานต่างเมือง)
ถ้าอยากลองพักที่พักในแบบย้อนยุคแสนอบอุ่นลองดูที่ HOSTEL mokumoku เกสต์เฮ้าส์บรรยากาศเก่าแก่ที่รีโนเวทมาจากบ้านทรงยาวอายุกว่า 60 ปี สำหรับลูกค้าที่เข้าพักจะได้รับแพ็คเกจสุดคุ้มในการใช้บริการโรงอาบน้ำสาธารณะที่ตั้งอยู่ติดกับเกสต์เฮ้าส์ได้อย่างไม่จำกัด
นอกจากนี้ก็ยังมีเลิฟโฮเทลที่ตกแต่งภายในอย่างมีเอกลักษณ์เป็นสไตล์ปราสาทญี่ปุ่นอย่าง Hotel Fuki ด้วย ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆ เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวโอซาก้าโดยเลือกเข้าพักในโรงแรมที่ถูกใจกันนะคะ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "แช่น้ำร้อนแบบบุฟเฟ่ต์ที่ "เกสเฮ้าส์ โมคุโมคุ" ในโอซาก้า!" และ "รู้เรื่องเลิฟโฮเต็ลของญี่ปุ่นผ่าน "ฟุกิ" เลิฟโฮเต็ลเก่าแก่ของโอซาก้า"
"ทาโกะยากิ" คือ เมนูที่ทำโดยการนำปลาหมึกยักษ์ไปผสมกับแป้งสาลีและวัตถุดิบอื่นๆ หลังจากนั้นก็นำไปหยอดใส่เตาหลุมได้ออกมาเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ ราดหน้าด้วยมายองเนสและปลาแห้งให้เราได้เพลิดเพลินกับรสสัมผัสนุ่มลิ้นและกลิ่นหอมฉุยที่กระจายไปทั่วปาก
"โอโคโนะมิยากิ" หรือที่คนไทยเรียกกันว่าพิซซ่าญี่ปุ่น คือ เมนูที่ทำโดยการผสมวัตถุดิบต่างๆเข้ากับแป้งสาลีและกะหล่ำปลี หลังจากนั้นก็นำไปย่างบนเตาเหล็ก โดยมีวัตถุดิบให้เลือกใส่เพิ่มมากมายนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นมันยามะอิโมะ ปลา เนื้อหมู โมจิ และชีส เป็นต้น
"ทอมเปยากิ" คือ เมนูยอดนิยมของโอซาก้ารองจากโอโคโนะมิยากิและทาโกะยากิเลยทีเดียว โดยเป็นเนื้อหมูผัดกะหล่ำปลีห่อไข่ราดซอสและโรยหน้าด้วยสาหร่าย
"เนงิยากิ" คือ เมนูแป้งเหมือนกับโอโคโนะมิยากิ โดยทั่วไปแล้วนิยมใช้กะหล่ำปลีเป็นวัตถุดิบในการทำโอโคโนะมิยากิ แต่เมนูนี้จะใช้ต้นหอมแทนกะหล่ำปลี เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดนิยมของภูมิภาคคันไซโดยเฉพาะในโอซาก้า
"คุชิคัตสึ" คือ เมนูทอดโดยใช้วัตถุดิบต่างๆ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก หรือปลา มาเสียบไม้ชุบแป้งทอด วิธีทานคือเมื่อได้ของทอดที่สั่งมาแล้วให้เอาไปจิ้มซอสในถ้วยซอสที่ทางร้านเตรียมไว้ให้ และเนื่องจากถ้วยซอสนี้จะใช้ร่วมกันกับลูกค้าคนอื่นๆ หลังจากกัดทานไปแล้วจึงไม่สามารถจิ้มซอสเพิ่มได้อีก
"คาซุอุด้ง" คือ อุด้งใส่เครื่องในวัวทอดน้ำมันรสสัมผัสหยุ่นๆ สุดฟิน อุด้งและโซบะของโอซาก้านั้นมีเอกลักษณ์อยู่ที่ทสึยุมีรสชาติเบาๆ สไตล์คันไซแตกต่างจากของโตเกียว
แกงกะหรี่ร้าน "จิยูเค็ง (Jiyuken)" เป็นเมนูที่ไม่สามารถหาทานจากที่ไหนในโลกได้นอกจากที่นี่เท่านั้น วัตถุดิบของเมนูนี้จะมีเพียงหอมใหญ่และเนื้อวัวเท่านั้น เราจึงจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติต้นตำรับของแกงกะหรี่เพียวๆ เน้นๆ เต็มคำ
ซาลาเปาไส้หมูสับร้าน "551 โฮไร (551 Horai)" เป็นซาลาเปาไส้หมูสับลูกใหญ่ปั้นด้วยมือ กลิ่นและรสของหอมหัวใหญ่รสหวานกับเนื้อหมูชุ่มฉ่ำกระจายในปากฟินสุดๆ เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นเนื้อหมูด้วย สำหรับใครที่ต้องการซื้อกลับไปเป็นของฝากจึงควรเช็คกฎหมายการนำเข้าประเทศก่อนนะจ๊ะ...
เราสามารถหาทานเมนูขึ้นชื่อประจำโอซาก้าเหล่านี้ได้ตามแหล่งรวมร้านอาหารที่ย่าน โดทงโบริ และ ชินเซไค ถ้าได้มาโอซาก้ากันละก็ อย่าลืมแวะมาลิ้มลองเมนูในดวงใจของชาวเมืองโอซาก้ากันให้ได้น้า...
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับอาหารท้องถิ่นของโอซาก้าสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ตะลุยโอซาก้าแบบอิ่มใจอิ่มท้อง! กับเมนูสุดอร่อยแบบฉบับโอซาก้า"
ขนมปังกรอบนากาโนะชิมะ (Nakanoshima Rusk) และขนมเปี๊ยะญี่ปุ่นไส้ถั่วอย่างสึคิเกะโช (Tsukigesho) อย่างในรูปด้านบนก็เป็นขนมยอดนิยมของโอซาก้าที่ผู้คนนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝาก
อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เช่นกันคือ "เทมปุระใบเมเปิ้ล" ของขึ้นชื่อประจำเมืองมิโน
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "รวม 5 ของฝากแปลกแหวกแนวจากโอซาก้า!" และ "เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง...จุดที่เอาใบไม้มาทำเทมปุระ กับเทมปุระใบเมเปิ้ลของดีเมืองมิโนจังหวัดโอซากา"
ภาษาถิ่นโอซาก้าเป็นหนึ่งในภาษาถิ่นคันไซ (คันไซเบ็ง) เหมือนกับภาษาถิ่นเกียวโตและภาษาถิ่นโกเบ ภาษาถิ่นโอซาก้ามีเอกลักษณ์อยู่ที่พูดเร็วเป็นจังหวะจะโคนนี่แหละ เดี๋ยวเรามาทำความรู้จักกับภาษาถิ่นโอซาก้าที่ใช้จริงกันหน่อยดีกว่า
めっちゃ (เม็จจะ) หมายถึง มาก เช่น めっちゃ好き (เม็จจะสึคิ) ชอบมาก, めっちゃかっこいい (เม็จจะขักโคอี้) เท่มาก ,めっちゃ似合う (เม็จจะนิอาอุ) เหมาะมาก ,めっちゃ美味しい (เม็จจะโออิชี่) อร่อยมาก เป็นต้น
何でやねん (นันเด๊ะยะเน็น) หมายถึง "มันเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง?" โดยนิยมใช้เป็นคำตอบรับมุขตลกของอีกฝ่าย
เช่น เมื่อโดนคุณลุงเจ้าของร้านเล่นมุกใส่ว่า "はい、まいど。兄ちゃん700万円ねー (ขอบคุณครับน้อง 7 ล้านเยนครับ)" ให้พูดตอบกลับไปว่า "何でやねん!(ไหงงั้นล่ะลุง!)"
まけて (มาเคเต๊ะ) หมายถึง ลด (ราคา) ให้หน่อย การซื้อของดีในราคาที่ถูกลงถือเป็นธรรมเนียมของคนโอซาก้าเลยทีเดียว โดยการต่อราคานี้เป็นวัฒนธรรมของโอซาก้ามาตั้งแต่ในอดีตแล้ว
เราไม่สามารถต่อราคาตามห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ก็จริง แต่สามารถทำได้ตามร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าและร้านค้าท้องถิ่น สำหรับใครที่อยากได้ของในราคาถูกลงอีกนิดก็ลองนำคำว่า "มาเคเต๊ะ" ไปใช้กันดูเนอะ
ほな (โฮนะ) หมายถึง "ไว้พบกันใหม่" หรือใช้ในเวลาที่ต้องการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ตอนที่แยกย้ายกับเพื่อนคนโอซาก้าก็อย่าลืมจำคำว่า "ほな、また (โฮนะ มาตะ)" หรือ "ほな、さいなら (โฮนะ ไซนาระ)" ไปใช้กันนะคะ
おおきに (โอคินิ) หมายถึง ขอบคุณ โดยมักจะได้ยินคุณลุงคุณป้าพูดขอบคุณลูกค้าตามถนนร้านค้าอยู่บ่อยๆ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "เข้าเมืองโอซาก้าทั้งที มาจําวลีสําเนียงโอซาก้าเด็ดๆ ทั้ง 6 วลีกัน!"
เมื่อย่างเข้าสู่เดือนเมษายน ทั่วทั้งเมืองโอซาก้าก็จะแต่งแต้มไปด้วยซากุระสีสันสดใส โดยเฉพาะ สวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) และ ปราสาทคิชิวาดะ (Kishiwada Castle) นับเป็นแหล่งชมซากุระขึ้นชื่อประจำโอซาก้าเลยทีเดียว ในตอนกลางคืนก็จะมีการไลท์อัพให้เราเพลิดเพลินกับซากุระยามค่ำคืนด้วย
งานเทศกาลเท็นจินมัตสึริ (Tenjin Matsuri Festival) คือ งานเทศกาลที่จัดขึ้นใน ศาลเจ้าโอซาก้าเท็มมังงู (Osaka Tenman-gu) โดยเป็น 1 ใน 3 งานเทศกาลใหญ่ในญี่ปุ่น (คู่กับงานเทศกาลกิองในเกียวโตและงานเทศกาลคันดะในโตเกียว) เรือที่ประดับโคมไฟสวยงามจะล่องไปตามแม่น้ำโอกาวะแต่งแต้มสีสันให้กับงานเทศกาล
งานเทศกาลคิชิวาดะดันจิริ (Kishiwada Danjiri Festival) คือ งานเทศกาลลากขบวนรถไม้ที่จัดขึ้นในเมืองคิชิวาดะ โอซาก้า จุดเด่นของที่นี่คือ "ยาริมาวาชิ" การเลี้ยวขบวนรถดันจิริในมุมฉากขณะลากด้วยความเร็วสูง
ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมจะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับใบเมเปิ้ลสีแดงและใบแปะก๊วยสีเหลืองได้ภายในสวนปราสาทโอซาก้า
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "5 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีในโอซาก้า สวนมิโนโอะ ปราสาทโอซาก้า สวนไดเซ็น"
ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมจะมีการจัดงานประดับไฟอิลลูมิเนชั่นตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้าไม่ว่าจะเป็นมิโดสึจิ สวนพฤกษศาสตร์นาไก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง และวันเดอร์สแควร์ในชินอุเมดะซิตี้ เป็นต้น
โอซาก้าไม่ค่อยมีฝนตกตลอดทั้งปี แต่ในฤดูร้อนนั้นขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนเป็นพิเศษ จึงขอแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันรังสียูวีและลมแดดไปให้พร้อมทั้งหมวกและครีมกันแดด รวมถึงน้ำเปล่าด้วย
ส่วนในฤดูหนาวไม่ค่อยมีหิมะตกให้เห็นกันเท่าไหร่นัก แต่ก็มีบ้างในช่วงที่อุณหภูมิลดต่ำมากอย่างรวดเร็ว ยังไงก็เตรียมพวกเสื้อโค้ทหนา ถุงมือ และหมวกกันมาด้วยนะจ๊ะ...อย่าประมาท
ว่ากันว่าความเป็นกันเองนับเป็นเอกลักษณ์ของคนโอซาก้าเลยทีเดียว ถ้าเกิดหลงทางขึ้นมาจึงสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้คนตามท้องถนนได้เลยไม่ต้องกลัว
โดยเฉพาะตามถนนร้านค้าในโอซาก้า เราจะได้เพลิดเพลินกับการพูดคุยกับพนักงานร้านอย่างเป็นกันเอง แล้วก็อย่าลืมจำภาษาถิ่นโอซาก้าคำว่า "มาเคเต๊ะ (ลดให้หน่อย)" ไปใช้กันด้วยน้า...
แต่ข้อควรระวังเลยก็คือ "บันไดเลื่อน" นั่นเอง เพราะว่าในโอซาก้าจะยืนทางฝั่งขวาแตกต่างจากในโตเกียวที่ยืนฝั่งซ้าย เพียงแค่จำข้อนี้เอาไว้ก็สามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวโอซาก้าได้อย่างสบายใจหายห่วงแล้วล่ะค่ะ ^^
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...
"เวลาที่เงินสดไม่พอ! สถานที่4แห่งสำหรับแลกเงินในญี่ปุ่น"
ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^
"รู้ไว้ใช่ว่า ช็อปเพลินเงินหมดจะหาตู้กด ATM ได้ที่ไหนบ้าง"
สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้
"รวม 10 ภาษาญี่ปุ่น ที่สามารถใช้ได้ในโรงแรม!"
นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ "Japan Connected-free Wi-Fi" แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย
"รวมจุดให้บริการ Japan Connected-free Wi-Fi ในญี่ปุ่น"
เอ่อ...แล้วค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด
"ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านซูชิ)"
บัตรเข้าสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ญี่ปุ่น 1 วัน (Universal Studios Japan 1 Day E-Ticket)
Photos by Pixta