Start planning your trip
17 ที่เที่ยวและกิจกรรมน่าทำที่นารา พร้อมการเดินทางและที่พัก (Nara)
นารา (Nara) เมืองท่องเที่ยวใกล้เกียวโตและโอซาก้า มาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็ยังได้ มีมรดกหลายแห่ง เช่น ศาลเจ้าและวัดต่างๆ และมีเมืองเก่าที่ยังคงบรรยากาศของยุคเอโดะ ครั้งนี้เราขอแนะนำ 17 สถานที่และกิจกรรมน่าทำ รวมถึงการเดินทางจากโตเกียว โอซาก้า เกียวโต และที่พักแบบต่างๆ
นารา เมืองหลวงเก่าอันมีเสน่ห์
นารา (Nara) เป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับโอซาก้าและเกียวโต ได้รับการสร้างเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 8 เป็นยุคที่ศาสนาและวัฒนธรรมรุ่งเรืองอย่างมาก ดังเห็นได้จากวัดและศาลเจ้าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบันเช่น พระใหญ่ไดบุตสึของวัดโทไดจิ และสถาปัตยกรรมไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นอย่างวัดโฮริวจิ
หากมาเที่ยวแถวภูมิภาคคันไซ ก็อยากให้แวะมาเที่ยวที่จังหวัดนาราด้วยค่ะ นาราอยู่ใกล้เกียวโตและโอซาก้าสามารถจัดตารางท่องเที่ยวไปกลับได้ในวันเดียว ต่อไปจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของนารา และการเดินทางนะคะ
สารบัญ :
17 กิจกรรมน่าทำที่นารา
ที่พักแนะนำเมื่อมาเที่ยวนารา
วิธีการเดินทางจากโตเกียว โอซาก้า เกียวโต
การเดินทางเที่ยวภายในนารา
17 กิจกรรมน่าทำที่นารา
อันดับแรกขอแนะนำ 17 สถานที่และกิจกรรมน่าทำของนาราค่ะ
1. ชมความงามของศาลเจ้าคาซุกะไทชะ
ศาลเจ้าคาซุกะไทชะ (Kasugataisha Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่กว่า 1,300 ปีที่โดดเด่นด้วยประตูและอาคารสีแดงชาดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก พิธีพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้นคือ พิธีชิคิเน็นโซได โดยจะรื้อวิหารหลักและสร้างใหม่ทุกๆ 20 ปี
ในเดือนกุมภาพันธ์และสิงหาคมของทุกปีจะมี พิธีมันโทโร โคมไฟกว่า 3,000 โคมที่แขวนประดับอยู่ในศาลเจ้าจะถูกจุดขึ้นสว่างไสวสวยงาม
ที่อยู่ : 160 Kasuganocho, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.kasugataisha.or.jp/about/index_en.html (ภาษาอังกฤษ)
2. ให้ขนมเซ็มเบ้กับกวางในสวนนารา
สวนนารา (Nara Park) ที่อยู่ติดกับศาลเจ้าคาซุกะไทชะมีกวางอาศัยอยู่อย่างอิสระกว่า 1,400 ตัว มีความเชื่อกันว่ากวางเป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าในศาลเจ้าคาซุกะไทชะ จึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษในพื้นที่บริเวณนี้
นอกจากนี้ภายในสวนนารายังมีอีเวนท์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบอย่าง ชิกะโยเซะ (Shikayose) การแสดงเป่าเขาสัตว์เรียกกวางมารวมตัวกัน และ คาคุคิริ (Kakukiri) ประเพณีการตัดเขากวางที่จะจัดขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง
ที่อยู่ : 469 Zoshicho, Nara Map
เว็บไซต์ : http://nara-park.com/en/ (ภาษาอังกฤษ)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
3. ชมการเผาภูเขาวาคาคุซะ
Picture courtesy of Nara Visitors Bureau
งานเทศกาลวาคาคุซะ ยามะยากิ (Wakakusa Yamayaki Festival) คืองานเทศกาลที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 4 ของเดือนมกราคม เพื่อประกาศถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิในนารา โดยจะเผาภูเขาเพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษ รวมถึงขอพรให้นาราปลอดภัยจากภัยพิบัติและขอให้โลกมีแต่ความสงบสุข
4. ชมทัศนียภาพอันสวยงามของงานเทศกาลนาราโทกาเอะ
Picture courtesy of Nara Visitors Bureau
นาราโทกาเอะ (Nara Tokae) เป็นงานเทศกาลประจำฤดูร้อนของจังหวัดนารา โดยจะจัดช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปีเป็นระยะเวลา 10 วัน ภายในสวนสาธารณะนาราจะมีแสงไฟจากเทียนที่จุดขึ้นสว่างไสวทั่วพื้นที่ บรรยากาศของนาราที่อบอวลไปด้วยแสงไฟจากเทียนนั้นน่าหลงใหลและชวนฝันสุดๆ เลยค่ะ
5. ขอพรในงาน Nara Daimoji Okuribi (นาราไดโมจิโอคุริบิ)
Picture courtesy of Nara Visitors Bureau
ไดมงจิ (Daimonji) คือพิธีการวาดตัวอักษร 大 (ได) บนภูเขาด้วยไฟเพื่อส่งดวงวิญญาณผู้ที่ล่วงลับสู่สรวงสวรรค์ โดยจะจัดขึ้นในฤดูร้อนของทุกปี เทศกาลแบบนี้เป็นเทศกาลขึ้นชื่อของเกียวโต แต่ที่นาราเองก็มีเช่นเดียวกัน งานไดมงจิ โอคุริบิของนารา (Nara Daimoji Okuribi) จัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปีซึ่งตรงกับวันที่ระลึกสิ้นสุดเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากสงครามและเพื่อขอพรให้โลกสงบสุข
พิธีเซ่นไหว้ดวงวิญญาณจะจัดขึ้นที่บริเวณโทบิฮิโนะ (Tobihino) ภายในสวนสาธารณะนารา และจะเริ่มพิธีการวาดตัวอักษร 大 ด้วยไฟบนภูเขาทาคามาโดะ (Takamado yama) ในเวลา 20:00
6. ชมความยิ่งใหญ่ของพระใหญ่ไดบุตสึในวัดโทไดจิ
วัดโทไดจิ (Todai-ji Temple) เป็นวัดที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8 และได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่เราเรียกกันติดปากว่าพระใหญ่ไดบุตสึที่สูงกว่า 15 เมตรประดิษฐานอยู่ และอีกสิ่งที่อยากแนะนำให้ไปดูคือรูปปั้นเทพประจำประตูใหญ่ฝั่งใต้
นอกเหนือจากนี้ภายในบริเวณยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ให้ชมอย่าง ฮกเคะโด ห้องที่เรียงรายไปด้วยรูปแกะสลักสุดงดงาม และ นิกัตสึโด หอจัดพิธีโอมิซุโทริประจำฤดูใบไม้ผลิ อีกทั้ง เรายังสามารถชมวิวอาคารบ้านเมืองนาราจากภายในหอนิกัตสึได้ด้วย
ที่อยู่ : 406-1 Zoshicho, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.todaiji.or.jp/english/index.html (ภาษาอังกฤษ)
7. ขอพรให้ไม่เจ็บไม่ป่วยในพิธี โอมิซุโทริ
โอมิซุโทริ (Omizutori) เป็นพิธีที่ประจำปีของวัดโทไดจิ จัดขึ้นในเดือนมีนาคมเพื่อประกาศว่าฤดูใบไมผลิได้มาถึงนาราแล้ว พิธีนี้มีมายาวนานกว่า 1,260 ปี
ในระหว่างพิธีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากตั้งใจมาชมไฟที่โชดช่วงในคบเพลิงไทมัตสึบนระเบียงของหอนิเก็ตสึโด เชื่อกันว่าหากได้อาบสะเก็ดไฟจากคบเพลิงจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยด้วยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
8. ซาบซึ้งกับคุณค่าทางวัฒนธรรมของวัดโฮริวจิ
วัดโฮริวจิ (Horyu-ji Temple) เป็นวัดที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 ได้รับการบันทึกเป็นหนึ่งในมรดกโลกเช่นเดียวกับวัดอื่นๆ ในนารา วัดโฮริวจิเป็นวัดเก่าแก่ที่ยังคงสภาพเดิมอยู่จนถึงปัจจุบัน ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปและเครื่องใช้ทางพุทธศาสนาที่เกิดขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 อันเป็นวัตถุที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม
ที่อยู่ : 1-1 Horyuji Sannai, Ikaruga, Ikoma, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.horyuji.or.jp/en/ (ภาษาอังกฤษ)
9. ไปเที่ยวชมวัดยาคุชิจิและวัดโทโชไดจิ
วัดยาคุชิจิ (Yakushi-ji Temple) เป็นวัดพุทธที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 7 และได้ย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันในศตวรรษที่ 8 วัดยาคุชิจิประกอบด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ รวม 8 หลัง เช่น วิหารคนโด วิหารไดโคโด เจดีย์โทไซ ที่ดูสวยงามและเต็มไปด้วยเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่น โดยเฉพาะวิหารคนโดสีแดงชาดดังในภาพ
เมื่อเดินจากวัดยาคุชิจิไปทางทิศเหนือประมาณ 10 นาทีจะพบกับ วัดโทโชไดจิ (Toshodai-ji Temple) วัดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระภิกษุชาวจีนที่มีชื่อว่าคังจิน เพื่อเป็นสถานที่ฝึกฝนและเรียนรู้ศาสนา หลังจากคังจินเสียชีวิต อาคารห้องโถงและเจดีย์ฝั่งตะวันออกที่ได้รับความเสียหายจากฟ้าผ่าและไฟไหม้ได้รับการบูรณะซ่อมแซม และเสร็จสิ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 8 เป็นหน้าตาแบบที่เราเห็นในปัจจุบัน
ทั้งวัดยาคุชิจิและวัดโทโชไดจิได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกทั้งคู่ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ
วัดยาคุชิจิ (Yakushi-ji Temple)
ที่อยู่ : 457 Nishinokyo-cho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://www.nara-yakushiji.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
วัดโทโชไดจิ (Toshodai-ji Temple)
ที่อยู่ : 13-46 Gojocho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://toshodaiji.jp/english/index.html (ภาษาอังกฤษ)
10. ระลึกถึงความรุ่งเรืองของอดีตเมืองหลวงที่ร่องรอยพระราชวังเฮโจ
พระราชวังเฮโจ (Heijo Palace) พระราชวังหลักในสมัยที่นาราถูกตั้งเป็นเมืองหลวงเมื่อปี ค.ศ. 710 ได้รับการบันทึกเป็นหนึ่งในมรดกโลก สถาปัตยกรรมสำคัญภายในบริเวณพระราชวังอย่าง ไดโกคุเด็น (Daigokuden) ประตูซุซาคุมง (Suzakumon) และสวน ได้รับการสร้างใหม่อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ภายในหอจดหมายเหตุยังจัดแสดงอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ ที่ขุดพบเจอในบริเวณนี้ รวมถึงจัดแสดงภาพยนตร์เกี่ยวกับพระราชวังเฮโจในยุครุ่งเรืองด้วย
ที่อยู่ : Sakicho, Nara Map
เว็บไซต์ : http://heijo-kyo.com/en/ (ภาษาอังกฤษ)
11. ชมรอยยิ้มของพระศรีอริยเมตไตรย ณ วัดชูกูจิ
วัดชูกูจิ (Chugu-ji Temple) เป็นวัดที่อยู่ติดกับวัดโฮริวจิ ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระศรีอริยเมตไตรยแกะสลักจากไม้ในท่านั่งห้อยขาซ้าย และพาดขาขวาไว้บนตัก ซึ่งดูคล้ายกับรูปปั้นคนครุ่นคิด The Thinker ของโรแด็ง (โอกุสต์ โรแด็ง ประติมากรชาวฝรั่งเศส) ด้วยเหตุนี้พระพุทธรูปองค์นี้จึงถูกเรียกว่า "นักกวีแห่งตะวันออก"
นอกจากนี้ พระพุทธรูปองค์นี้ยังมีชื่อเสียงด้วยรอยยิ้มแบบ Archaic Smile ด้วย (รอยยิ้มแบบการกลั้นยิ้ม พบในประติมากรรมของกรีก) ความงามที่ไม่ธรรมดาแบบนี้น่ามาชมด้วยตาสักครั้งจริงๆ ค่ะ
ที่อยู่ : 1-1-2 Horyujikita, Ikaruga, Ikoma, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.chuguji.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
12. ชมซากุระที่ภูเขาโยชิโนะยามะ
จุดชมซากุระยอดนิยมอันดับ 1 ของนาราคือที่ภูเขาโยชิโนะยามะ (Mt. Yoshino)ค่ะ บนภูเขานี้มีต้นซากุระกว่า 200 สายพันธุ์ รวมมากถึง 3,000 ต้น ช่วงเวลาบานของซากุระ ช่วงเวลาบานที่ไม่พร้อมกันของแต่ละสายพันธุ์ทำให้สามารถชมได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน และหากมาเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง วิวของใบไม้เปลี่ยนสีที่มองได้จากกระเช้าโรปเวย์ก็สวยๆ มากค่ะ
ที่อยู่ : Yoshinoyama, Yoshino, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.yoshinoyama-sakura.jp/english/ (ภาษาอังกฤษ)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
13. ตื่นตาตื่นใจกับสุสานหินโบราณ อิชิบุไตโคะฟุน
สุสานหินโบราณ อิชิบุไตโคะฟุน (Ishibutai Tumulus) คือสุสานของ โซกาโนะ อุมาโกะ ผู้มีอำนาจในนาราช่วงศตวรรษที่ 7 สุสานนี้สร้างขึ้นด้วยหินก้อนยักษ์ซ้อนทับกันมากกว่า 30 ก้อน เมื่อรวมน้ำหนักของหินแล้วคาดว่ามีน้ำหนักกว่า 2,300 ตัน เห็นแล้วก็ได้แต่ตื่นตาและแปลกใจไปกับเทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายและก่อสร้างในสมัยนั้น โดยรอบนี้จะมีดอกซากุระแสนสวยบานในฤดูใบไม้ผลิด้วย
ที่อยู่ : 254 Shimasho, Asukamura, Takaichi, Nara Prefecture Map
เว็บไซต์ : https://www.visitnara.jp/venues/A00524/ (ภาษาอังกฤษ)
14. ชมเมืองเก่าย่านนารามาจิ
นารามาจิ (Naramachi) คือบริเวณรอบๆ วัดกังโคจิ (Ganko-ji Temple) ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลก เป็นย่านที่ยังคงอนุรักษ์กลิ่นอายและลักษณะของเมืองในสมัยเอโดะเอาไว้ ย่านนี้เหมาะแก่การเดินเล่นพักผ่อนสบายๆ พลางชมและเลือกซื้อของจากร้านค้า ร้านเครื่องประดับ และมีคาเฟ่น่ารักๆ ด้วยค่ะ
ศูนย์ข้อมูลนารามาจิ
ที่อยู่ : 21 Chuincho, Nara Map
เว็บไซต์ : http://www.naramachiinfo.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
15. ทานซูชิห่อใบพลับ
ซููชิห่อใบพลับ (คาคิโนะฮะ ซูชิ) เป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองของนารา เพราะเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขา อาหารทะเลสดๆ ถือเป็นของหายาก จึงนำปลาดองเกลือมาโปะบนข้าวผสมน้ำส้มสายชูแล้วห่อด้วยใบของต้นพลับที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคเพื่อเป็นการถนอมอาหาร ในปัจจุบันสามารถหาซื้อซููชิห่อใบพลับได้ตามแผนกอาหารในห้างสรรพสินค้าและร้านขายของฝากค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
16. ช้อปปิ้งที่สถานีนารา ของ JR
หากนึกอยากช้อปปิ้งแล้วหล่ะก็ ไปที่ VIERA Nara ที่ชั้นใต้ดินของสถานีนารา รถไฟ JR กันดีกว่าค่ะ นอกจากร้านอาหารและซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ยังมีร้านขายของฝากอย่างร้าน Nara Miyako และร้าน Nara Meihinkan ด้วย เดินตรงนี้ต้องได้ของฝากสักชิ้นแน่นอน
ที่อยู่ : 1-1 Sanjyou Honmachi, Nara-shi, Nara Prefecture Map
เว็บไซต์ : https://www.jrwd.co.jp/vierra/nara.html (ภาษาญี่ปุ่น)
17. ซื้อของฝากที่ Time’s Place สถานีคินเท็ตสึนารา
Time’s Place เป็นห้างสรรพสินค้าที่อยู่ภายในสถานีคินเท็ตสึนารา (Kintetsu Nara) มีร้านค้ามากมาย เช่น ร้าน GOTO-CHI ร้านรวมสารพัดสินค้าตั้งแต่ของกระจุกกระจิกจนถึงขนมและของฝาก ร้านที่ขายซููชิห่อใบพลับ และขนมญี่ปุ่นก็มี รับรองต้องเจอของถูกใจแน่นอนค่ะ
ที่อยู่ : Nakasujicho, Nara-shi, Nara Prefecture Map
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
แนะนำที่พักที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวนารา
ถึงแม้การเดินทางมาเที่ยวนาราจะสามารถไปกลับภายในวันเดียวจากโอซาก้าและโตเกียวได้ แต่การค้างที่เมืองนี้สักคืนเพื่อการท่องเที่ยวที่คลอบคลุมมากขึ้นก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ
โรงแรมใกล้สถานีรถไฟ
ติดกับสถานีนาราของ JR มีโรงแรมชื่อว่า Super Hotel Lohas JR Nara Eki ราคาต่อ 1 คืนประมาณ 10,000 เยน เป็นโรงแรมที่สร้างใหม่ไม่นาน สะอาดและสะดวกต่อการท่องเที่ยวมากค่ะ และยังมีโรงแรม Hotel Nikko Nara ที่อยู่ติดกับสถานีนาราเช่นกัน เป็นโรงแรม 4 ดาว ราคาเริ่มต้นคืนละประมาณ 12,000 เยน
Super Hotel Lohas Nara Eki
ที่อยู่ : 1-2 Sanjyou, Honmachi, Nara Map
เว็บไซต์ : https://www.superhoteljapan.com/en/s-hotels/lohasnara/ (ภาษาอังกฤษ)
Hotel Nikko Nara
ที่อยู่ : 8-1 Sanjyou, Honmachi, Nara Map
เว็บไซต์ : https://www.nikkonara.jp/en/ (ภาษาอังกฤษ)
เกสต์เฮาส์ราคาย่อมเยา
สำหรับท่านที่อยากจะพักในนาราด้วยราคาประหยัด เกสต์เฮาส์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ ขอแนะนำ Nara Guesthouse 3F ที่อยู่ใกล้กับสถานีคินเท็ตสึนารา หรือไม่ก็ Guest House Naramachi เกสต์เฮาส์ที่นำบ้านเก่ามารีโนเวท ราคาต่อคืนจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 10,000 เยนค่ะ
Nara Guest House 3F
ที่อยู่ : 5 Konishicho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/nara.guesthouse.3f/
Guest House Naramachi
ที่อยู่ : 30 Kitakyoubatecho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://nara-naramachi.com/?lang=en (ภาษาอังกฤษ)
ที่พักที่ให้ประสบการณ์อันหรูหรา
หากอยากจะพักผ่อนสบายๆ ที่นาราแล้วล่ะก็ เลือกโรงแรม 4 ดาว อย่าง Nara Hotel ที่อยู่ห่างจากศาลเจ้าคาซุกะไทชะเพียงเดินเท้า 10 นาที หรือ Noborioji Hotel Nara ที่อยู่ห่างจากสถานีคินเท็ตสึนาราแค่ 3 นาทีค่ะ
ทั้งสองโรงแรมมีการบริการที่ดีเลิศ ภายในตกแต่งสวยงามและสามารถสัมผัสประวัติความเป็นมาของเมือง เป็นโรงแรมที่เหมาะแก่การพักผ่อนมากๆ ค่ะ
Noborioji Hotel Nara
ที่อยู่ : 40-1 Noboriojicho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://noborioji.com/english/ (ภาษาอังกฤษ)
Nara Hotel
ที่อยู่ : 1096 Takabatakecho, Nara Map
เว็บไซต์ : https://www.narahotel.co.jp/eng/ (ภาษาอังกฤษ)
วิธีการเดินทางสู่นาราจากโตเกียว โอซาก้า เกียวโต
การเดินทางจากโตเกียว
การเดินทางจากโตเกียวสามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็น โดยนั่งชินคันเซ็นขบวนโนโซมิจากสถานีโตเกียวไปยังเกียวโต ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที ที่นั่งอิสระจะราคา 13,080 เยน จากนั้นให้เปลี่ยนมานั่งรถขบวน JR Miyakoji Rapid รถไฟด่วนสู่สถานีนารา ใช้เวลาอีกประมาณ 45 นาที ราคา 710 เยนค่ะ
รวมเวลาเดินทางจากโตเกียว 3 ชั่วโมง 20 นาที รวมค่าโดยสารรถไฟชินคันเซนและรถไฟปกติ 13,790 เยน
นอกเหนือจากรถไฟแล้ว สามารถเลือกเดินทางโดยรถบัสและรถบัสกลางคืนได้ด้วย รถจะออกจากสถานีโตเกียว หรือสถานีชินจูกุมายังสถานีนาราของ JR และคนเท็ตสึ ใช้เวลาไม่เกิน 9 ชั่วโมง ค่าโดยสารจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวันที่เดินทาง โดยทั่วไปราคาจะอยู่ระหว่าง 4,000 - 9,500 เยนค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
การเดินทางจากโอซาก้าและเกียวโต
ต่อไปขอแนะนำการเดินทางจากโอซาก้าและเกียวโตค่ะ
จากโอซาก้า
หากมาจากสถานีชินโอซาก้า ให้ขึ้นรถไฟ JR สายเกียวโต (Kyoto Line) มาลงที่สถานีโอซาก้า จากนั้นให้เปลี่ยนไปรถไฟ JR สายยามะโทจิ (Yamatoji Rapid) และลงที่สถานีนาราค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 920 เยน
หากมาจากนัมบะ สามารถนั่งรถไฟคินเท็ตสึสายนารา (Nara Line Rapid) จากสถานีโอซาก้านัมบะของรถไฟคินเท็ตสึ ไปยังสถานีคินเท็ตสึนาราได้เลย ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ราคาค่าโดยสาร 560 เยนค่ะ
จากเกียวโต
จากเกียวโตให้ขึ้นรถไฟ JR สายมิยาโคะจิ (Miyakoji Line Rapid) ขบวนที่วิ่งไปนารา ลงที่สถานีสุดท้าย สถานีนารา ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที ราคา 710 เยน
เที่ยวภูมิภาคคันไซด้วย Kansai Area Pass
สำหรับคนที่ต้องการท่องเที่ยวภูมิภาคคันไซโดยรอบทั้งโอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ สามารถใช้พาส Kansai Area Pass ได้ค่ะ จะคุ้มและสะดวกมากๆ สามารถใช้พาสนี้ขึ้นรถไฟในภูมิภาคคันไซกี่ครั้งก็ได้ในหนึ่งวัน ราคาอยู่ที่วันละ 2,200 เยน (ครึ่งราคาสำหรับเด็ก)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
การเดินทางภายในนารา
การเดินทางท่องเที่ยวภายในตัวเมืองจังหวัดนารา สามารถเลือกใช้ Gurutto Bus รถบัสที่วิ่งภายในตัวเมืองนาราได้ค่ะ หากไปสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างศาลเจ้าคาซุกะไทชะ วัดโทไดจิ ภูเขาวาคาคุสะ จะสะดวกมากๆ เลยค่ะ ค่าโดยสารอยู่ที่เที่ยวละ 100 เยน
นารา ย้อนอดีตสู่เมืองหลวงเก่าญี่ปุ่น
จะเห็นได้ว่าจังหวัดนาราเป็นเมืองหลวงเก่าที่เจริญรุ่งเรือง มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และมรดกโลกอยู่มากมาย นอกเหนือจากสถานที่ที่ได้แนะนำไปด้านบนยังมีวัด ศาลเจ้า และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกมากมาย หากมาเที่ยวโอซาก้าหรือเกียวโต ลองแวะมาที่นารา เรียนรู้และสัมผัสประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นกันนะคะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Nico
Main image courtesy of PIXTA
บทความนี้เรียบเรียงใหม่จากบทความที่เผยแพร่ในปี 2016
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง