Start planning your trip
![sponsor image](https://cf.bstatic.com/static/img/affiliate_base/flexi/booking_logo_blue/ebc3273565b5e682ccaf01872d2e046749306442.png)
ถ้าพูดถึงดอกไม้ของญี่ปุ่นก็ต้องนึกถึง ซากุระ แน่นอน ซากุระที่โอซาก้าจะบานไล่เลี่ยกับโตเกียวคือช่วงปลายเดือนมีนาคม ถ้ามาเที่ยวโอซาก้าแล้วยังไม่รู้จะไปดูซากุระที่ไหนดี เรารวบรวมมาให้แล้วถึง 10 ที่! มาหาที่ถูกใจแล้ววางแผนไปชมซากุระสวยๆ กัน
พอฤดูหนาวผ่านพ้นไปอากาศก็จะค่อยๆ อุ่นขึ้น ในที่สุดฤดูกาลของซากุระที่ทุกคนรอคอยก็จะมาถึงเสียที และนี่ก็เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างมุ่งหน้ามายังญี่ปุ่นเพื่อมาชมความงามของซากุระกันในเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่าฮานามิ
แน่นอนว่าเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างโอซาก้าเองก็มีจุดชมดอกซากุระมากมายเช่นกัน ตามสถิติซากุระแถวโอซาก้าจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนมีนาคม และบานเต็มที่ตอนต้นเดือนเมษายน ครั้งนี้เราเลยขอพาไปแนะนำ 10 จุดชมซากุระน่าไปในโอซาก้ากันค่ะ
มาดูข้อมูลเผื่อวางแผนเที่ยวล่วงหน้ากันเลย
สารบัญ |
1. แม่น้ำโอคาวะ ดูซากุระในโอซาก้าต้องที่นี่ก่อนเลย |
จาก "เที่ยวทั่วประเทศกับ 44 สถานที่ชมซากุระทั่วญี่ปุ่น (ฉบับเซฟเก็บไว้อ่าน)"
แม่น้ำโอคาวะ (Okawa River) เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองโอซาก้า และเป็นจุดชมซากุระที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะมีซากุระเรียงรายไปตามริมน้ำกว่า 4,800 ต้น เมื่อเข้าช่วงซากุระบานสองฝั่งแม่น้ำก็จะถูกย้อมไปด้วยสีชมพูอ่อนแสนสวย สัมผัสได้ถึงฤดูใบไม้ผลิจริงๆ
นอกจากจะเดินในสวนแล้วเรายังสามารถนั่งเรือโอคาวะ ซากุระครุยส์ (Okawa River Sakura Cruise) เพื่อชมซากุระจากบนแม่น้ำได้ด้วย ตลอด 25 นาทีที่เราล่องไปบนแม่น้ำโอคาวะจะผ่านทั้งสวนเคมะซากุระโนะมิยะ (Kema Sakuranomiya Park) และโรงกษาปณ์ (Japan Mint Bureau) ริมแม่น้ำซึ่งเป็นจุดชมซากุระชื่อดัง และได้เห็นปราสาทโอซาก้าจากระยะไกลด้วย
ถึงจะเป็นซากุระเหมือนกัน แต่พอได้เปลี่ยนบรรยากาศมาชมจากบนเรือแล้วก็รู้สึกว่าสวยไปอีกแบบแถมได้นั่งด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากชมซากุระแบบสบายๆ
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
สวนเคมะซากุระโนะมิยะ (Kema Sakuranomiya Park)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Osaka Loop Line ลงสถานีซากุระโนะมิยะ (Sakuranomiya) เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.osakapark.osgf.or.jp/kema_sakuranomiya/ (ภาษาญี่ปุ่น)
จาก "เที่ยวทั่วประเทศกับ 44 สถานที่ชมซากุระทั่วญี่ปุ่น (ฉบับเซฟเก็บไว้อ่าน)"
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) มีจุดชมซากุระมากมายไม่ว่าจะตรงป้อมปราสาทเท็นชุคาคุหรือตรงสวนนิชิโนะมารุ บริเวณทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่าสวนปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Park) ที่นี่ยังมีความพิเศษอีกอย่างคือมีต้นซากุระที่ทางจังหวัดเลือกใช้เพื่ออ้างอิงและประกาศวันซากุระบานอย่างเป็นทางการด้วย ถ้ามาแล้วขอแนะนำให้ไปตรงสวนนิชิโนะมารุที่มีซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะให้ชมกว่า 300 ต้น
ตอนกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพสวยงาม ได้บรรยากาศชวนฝันต่างกับตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง ภาพซากุระคู่กับปราสาทโอซาก้าสวยงามน่าดูทั้งกลางวันและกลางคืนเลยค่ะ
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
จาก "10 สถานที่ชมซากุระห้ามพลาดหากได้มาเยือนคันไซ!"
สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Expo’70 Commemorative Park) คือสถานที่จัดงานมหกรรมโลก World Expo เมื่อครั้งประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพในปีค.ศ. 1970 มีหอคอยพระอาทิตย์ (Tower of the Sun) ผลงานของศิลปินโอคาโมโตะ ทาโร ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ของสวนมาจนถึงทุกวันนี้
ภายในสวนมีซากุระ 9 สายพันธุ์เช่น โซเมโยชิโนะ และชิดาเระซากุระ รวมประมาณ 5,500 ต้น จะเดินไปทางไหนก็มีแต่สีชมพูของซากุระเต็มไปหมดจนติดอันดับ100 สถานที่ชมซากุระยอดนิยมของญี่ปุ่นเลย
ด้านในสวนกว้างขวางมากเหมาะกับการพกเบ็นโตมานั่งปิกนิกท่ามกลางดอกซากุระมากๆ
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
สวนอนุสรณ์บัมปาคุ (Expo’70 Commemorative Park)
การเดินทาง : นั่งรถไฟโอซาก้า โมโนเรล ลงที่สถานี Bampaku-kinen-koen หรือสถานี Koen-Higashiguchi
เว็บไซต์ : (ภาษาอังกฤษ)The Expo’70 Commemorative Park
Picture courtesy of Japan Mint
โรงกษาปณ์ (Japan Mint Bureau) ตั้งอยู่ที่เขตคิตะ ของจังหวัดโอซาก้า ปกติแล้วจะไม่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้า ยกเว้นช่วง 1 สัปดาห์ที่ดอกยาเอะซากุระ (*1) บานเท่านั้น โดยได้รับชื่อเรียกว่าทางผ่านดอกซากุระ (Sakura no toorinuke)
เสน่ห์ของทางผ่านดอกซากุระนี้คือซากุระหลากหลายสายพันธุ์ในที่เดียว ในปี 2018 มีซากุระมากถึง134 สายพันธุ์ โอกาสที่จะได้เห็นซากุระหลายพันธุ์ในครั้งเดียวแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ เลยค่ะ แถมยังเข้าขมฟรีด้วย
การมาชมซากุระที่นี่จะมีข้อบังคับต่างจากที่อื่นหน่อยเช่น เปิดให้เดินชมได้เท่านั้น ไม่สามารถมาปูเสื่อนั่งได้ และเป็นการจราจรทางเดียว ไม่สามารถเดินย้อนได้ เป็นต้น ลองดูตามคนอื่นๆ หรือสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนวันเวลาที่จะเปิดให้เข้าชมลองตรวจสอบได้จากประกาศประจำปีนั้นๆ ในหน้าเว็บไซต์ได้ค่ะ
*1 : ยาเอะซากุระ ... กลีบดอกจะมีหลายชั้นซ้อนกัน บานช้ากว่าซากุระพันธุ์อื่นๆ มีอีกชื่อว่า โบตั๋นซากุระ
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ช่วง 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 10 เดือนเมษายน เป็นต้นไป
โรงกษาปณ์ (Japan Mint Bureau)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายโทไซ (Tozai Line) ของ JR ลงสถานีโอซาก้าเท็มมังกู (Osakatemmangu) ใช้ทางออก JR หมายเลข 2 เดินประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ : https://www.mint.go.jp/eng/enjoy-eng/sakura-eng/toorinuke-eng (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Daisen Park Office
สวนไดเซ็น (Daisen Park) ตั้งอยู่ติดกับสุสานโบราณไดเซ็นเรียว (Daisenryo Kofun *2) ของจักรพรรดินินโทคุ ผู้ครองราชย์ในช่วงศตวรรษที่ 4-5 มีทั้งบึงน้ำและสนามหญ้ากว้างใหญ่ รวมถึงสวนญี่ปุ่นและห้องชงชาที่มีความเป็นญี่ปุ่นเต็มที่ ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งใน 100 สวนสาธารณะทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นด้วย
บริเวณรอบบึงน้ำ โดระอิเคะ (Dora-ike) มีต้นซากุระประมาณ 400 ต้น เมื่อถึงช่วงเวลาที่ซากุระบานสวนทั้งสวนก็กลายเป็นสีชมพูสวย มีลานเด็กเล่นด้วย สามารถมาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัวไม่มีเบื่อแน่นอน ในช่วงซากุระบานจะมีผู้คนมานั่งปูเสื่อทานอาหารกันเป็นครอบครัวอย่างสนุกสนานทุกปี
*2 : สุสานโบราณ ... หลุมฝังศพแบบญี่ปุ่นโบราณ มีไว้สำหรับผู้ที่มีอิทธิพลต่อประเทศชาติ หรือบุคคลสูงศักดิ์ โดยขนาดและรูปร่างของสุสานจะมีลักษณะแตกต่างกันไป
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
สวนไดเซ็น (Daisen Park)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายฮันวะ (Hanwa) ของ JR ลงสถานีโมซุ (Mozu) เดินต่อประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์ : http://www.city.sakai.lg.jp/kurashi/koen/shokai/daisenkouen.html (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of Bentenshu Meioji
วัดฮิริวซัน เมโอจิ (Hiryusan Meio-ji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองอิบารากิ (Ibaraki) ทางตอนเหนือของโอซาก้า มีหอคอยสูงถึง 73 เมตรตั้งเด่นเป็นจุดสังเกต
คนท้องถิ่นจะเรียกกันติดปากว่า เบ็นเท็นซังแห่งอิบาราคิ (Ibaraki no Benten-san) ซึ่งเบ็นเท็นเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 มีชื่อเต็มๆ ว่า เบ็นไซเท็น (Benzaiten) เป็นเทพแห่งน้ำ ทรัพย์สมบัติ และความสัมพันธ์ด้วย
ต้นซากุระหลากพันธุ์เช่นโซเมโยชิโนะร่วม 500 ต้นจะได้รับการประดับไฟไลท์อัพในตอนกลางคืน ซากุระในตอนกลางวันว่าสวยแล้ว ถ้าได้มาเห็นซากุระตอนกลางคืนจะยิ่งรู้สึกต้องมนต์อย่างแน่นอน
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
วัดฮิริวซัน เมโอจิ (Hiryusan Meio-ji Temple)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Kyoto ลงสถานี Ibaraki แล้วขึ้น Kintetsu Bus(14) ใช้เวลาอีก 9 นาที แล้วลงที่ป้าย Ibaraki-Bentenmae (220 เยน) จะถึงสถานที่เลย
เว็บไซต์ : (ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น)http://www.bentenshu.or.jp/
Picture courtesy of Ikeda City Office
สวนพฤกษศาสตร์ ซาสึกิยามะ (Satsukiyama Botanical Garden) อยู่ในเมืองอิเคดะ (Ikeda) ทางตอนเหนือของโอซาก้า ที่จริงบริเวณนี้ครอบคลุมเนินเขาเล็กๆ ทั้งลูก มีทั้งสวนสัตว์ซาสึกิยามะ (Satsukiyama Zoo) สวนซาสึกิยามะ (Satsukiyama Park) มีเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติ วัด ศาลเจ้า จุดชมวิว เรียกได้ว่ามีกิจกรรมให้ทำมากมาย ช่วงวันหยุดเลยเป็นที่เที่ยวยอดนิยมของกลุ่มครอบครัว
ด้วยพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้ก็ต้องมีต้นซากุระด้วยแน่นอน รวมแล้วถึงประมาณ 35,000 ต้นเลย! สามารถเลือกเดินชมซากุระตามเส้นทางเดินเขาที่มีถึง 9 คอร์สได้ เช่น ไดโมจิ คอร์ส เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น หรือจะเป็น ซาสึกิได คอร์ส ที่มีทางชันขึ้นมาหน่อย เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว ลองดูแผนผังแต่ละคอร์สได้ในเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวเมืองอิเคดะ ถึงจะเป็นภาษาญี่ปุ่นแต่มีการแบ่งสีให้ดูเข้าใจง่าย ใต้รูปแต่ละรูปจะมีบอกระยะเวลาที่ใช้เดิน (นาที) กับระยะทาง (เมตร) ไว้ด้วย
ชมซากุระเสร็จก็แวะไปเยี่ยมสัตว์น่ารักๆ กันต่อที่สวนสัตว์ซาสึกิยามะได้ แถมเข้าได้ฟรีด้วยนะ มีวอมแบท วัลลาบี แพะ อัลปากา และอีกมากรอทุกคนอยู่
พอตกกลางคืนก็จะมีแสงสลัวเรืองๆ จากโคมญี่ปุ่นส่องกระทบกับซากุระ กลายเป็นช่วงเวลาต้องมนต์แสนสวย
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
สวนพฤกษศาสตร์ ซาสึกิยามะ (Satsukiyama Botanical Garden)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายทาคาระซุกะ (Takarazuka Main Line) ของฮันคิว (Hankyu) ลงสถานีอิเคดะ (Ikeda) เดินประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์ : http://www.ikedashi-kanko.jp/search01.html (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of Hannan City Office
ยามานากะดานิ (Yamanakadani) ตั้งอยู่ในเมืองฮันนัน (Hannan) ทางตอนใต้ของโอซาก้า มีพื้นที่ติดกับจังหวัดวากายามะ
ในยุคเอโดะนั้นมีกฎหมายข้อหนึ่งเรียกว่าซังคิงโคไต กำหนดให้เหล่าไดเมียวปกครองหัวเมืองต้องกลับไปประจำการยังเมืองเอโดะ (เมืองโตเกียวในอดีต) สลับกันทุกๆ 1 ปี ในการเดินทางของไดเมียวก็จะมีขบวนผู้รับใช้ติดสอยห้อยตามนับสิบนับร้อยคน ทำให้เมืองตามเส้นทางที่ไดเมียวผ่านคึกคักไปด้วยร้านค้ามากมาย แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปเมืองฮันนันก็เงียบเหลาลง จน 50 ปีก่อนชาวเมืองได้ร่วมกันปลูกต้นซากุระ 50 ต้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อกระตุ้นให้เมืองกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ปัจจุบันนี้มีซากุระถึงประมาณ 1,000 ต้นบานสะพรั่งอย่างสวยงาม
บริเวณสองฝั่งทางรถไฟรอบๆ สถานียามานากะดานิ สายฮันวะ (Hanwa Line) ของ JR ก็มีซากุระต้นใหญ่เรียงรายจนดูเหมือนเป็นอุโมงค์ซากุระ เป็นอีกจุดหนึ่งที่แนะนำมากสำหรับคนที่ชื่นชอบทั้งรถไฟและซากุระ
ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศสนุกสนานแบบเทศกาลญี่ปุ่นก็ต้องไปเทศกาลซากุระ (Sakura Festival) ที่สวนวัมปาคุ (Wampaku Kingdom) ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานียามานากะดานิเลย ในสวนมีทั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ลานเล่นน้ำ ในช่วงเทศกาลก็มีเวทีการแสดงเพิ่มเข้ามาด้วย
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
Yamanakadani
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายฮันวะ (Hanwa Line) ของ JR ลงสถานียามานากะดานิ (Yamanakadani) ถึงทันที
เว็บไซต์ : Hannan City Office (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Kishiwada City
ปราสาทคิชิวาดะ (Kishiwada Castle) ตั้งอยู่ในเมืองคิชิวาดะที่มีเทศกาลดังอย่าง คิชิวาดะดันจิริ (Kishiwada Danjiri Matsuri *3) เป็นเทศกาลที่โด่งดังของเมืองคิชิวาดะ ถึงตัวปราการเท็นชุคาคุจะเล็กกว่าของปราสาทโอซาก้า แต่ก็มีจุดเด่นเช่น การซ้อนฐานหิน 3 รูปแบบ และคูน้ำรอบปราสาทที่กว้างมาก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองคิชิวาดะเลย
ภายในพื้นที่ปราสาทมีซากุระประมาณ 170 ต้นบานสวย โดยเฉพาะช่วงที่กลีบซากุระร่วงหล่นลอยอยู่บนผิวน้ำในคูยิ่งดูสวยงามมาก เทศกาลซากุระจะจัดพร้อมกับเทศกาลสินค้าพื้นเมืองเซ็นชู มีสินค้าและของกินท้องถิ่นมาให้เลือกซื้อกันมากมาย
ใครที่อยากดูซากุระแต่ไม่อยากไปที่ที่คนเยอะแออัด ขอบอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากเพราะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไหร่
*3 : เทศกาลคิชิวาดะดันจิริ ... เทศกาลแห่รถลากหรือดันจิริที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม จัดขึ้นทุกปีในเดือนกันยายน แต่ละครั้งมีผู้ร่วมงานร่วม 5 แสนคน
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ปลายมีนาคม - กลางเมษายน
ปราสาทคิชิวาดะ (Kishiwada Castle)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายนันไค (Nankai Main Line) ลงสถานีทาโกะจิโซ (Takojizo) เดินประมาณ 7 นาที
เว็บไซต์ : http://www.city.kishiwada.osaka.jp/soshiki/36/kishiwadajyo.html (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of Katsuo-ji Temple
วัดคัตสึโอจิ (Katsuo-ji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองมิโน (Minoh) ทางตอนเหนือของโอซาก้า เป็นวัดเก่าแก่กว่า 1,300 ปีที่เหล่าโชกุนมักจะมาไหว้ขอพรให้ชนะในการรบ รวมถึงชื่อวัดก็มีคำว่าชนะ (Katsu : 勝) อยู่ด้วย จึงกลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรด้านชัยชนะและการแข่งขัน ด้านในจะมีตุ๊กตาดารุมะแห่งชัยชนะวางถวายอยู่เต็มไปหมด แสดงให้เห็นว่าคนที่มาขอพรที่นี่ประสบความสำเร็จดังหวังจริงๆ
วัดคัตสึโอจิอยู่บนพื้นที่สูง อากาศเลยเย็นและทำให้ซากุระบานช้ากว่าที่อื่น ถ้าใครที่มาเที่ยวไม่ทันดูซากุระในเมืองล่ะก็ ไม่แน่อาจจะยังทันมาดูซากุระที่วัดคัตสึโอจินะ
ทันทีที่มาถึงวัดก็จะมีชิดาเระซากุระ ซากุระพันธุ์กิ่งย้อยรอต้อนรับอยู่แล้ว แล้วยังมีพันธุ์อื่นๆ อีกรวมกว่า 8,000 ต้น ประตูสีแดงชาดกับดอกซากุระสีชมพูนี่สวยงามเกินบรรยายจริงๆ ใครอยากได้รูปสวยๆ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอน
ถ้ามาช่วงกลางคืนจะไม่มีรถบัสวิ่งแล้ว แนะนำให้ใช้รถเช่าหรือรถแท๊กซี่จะสะดวกกว่า
เฉลี่ยช่วงซากุระบานของปีก่อนๆ
ต้นเมษายน - ต้นพฤษภาคม
วัดคัตสึโอจิ (Katsuo-ji Temple)
การเดินทาง : นั่งรถไฟสายมิโดซุจิ (Midosuji Line) ลงสถานีเซ็นริชูโอ (Senri-Chuo) แล้วนั่งรถบัสสาย 29 ประมาณ 35 นาที (490เยน)
เว็บไซต์ : http://www.katsuo-ji-temple.or.jp/katuouji_e/index.html (ภาษาอังกฤษ)
โอซาก้าที่เรารู้จักก็มีที่เที่ยวชมซากุระมากขนาดนี้ แถมแต่ละที่ก็มีจุดเด่นของตัวเองด้วย ใครที่ไปเที่ยวในตัวเมืองจนพรุนแล้ว คราวนี้ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวโอซาก้าในที่ใหม่ๆ พร้อมชมซากุระสวยๆ กันค่ะ
อย่างที่หลายคนรู้มาว่าซากุระจะบานเต็มที่แค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น แถมยังขึ้นอยู่กับอากาศของแต่ละปีด้วย เพราะงั้นก่อนจะเดินทางไปชมซากุระที่ไหนก็อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลการบานของซากุระกันล่วงหน้านะคะ
เตรียมตัวไปเที่ยวโอซาก้า!
- ค้นหาและซื้อตั๋วรถไฟกับกิจกรรมต่างๆ ในโอซาก้าที่ KLOOK
- ซื้อตั๋วเจอาร์พาสประเภทต่างๆ ที่ KLOOK
- ค้นหาและจองที่พักในโอซาก้ากับ Booking.com
Written by
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ