Start planning your trip

เสน่ห์ของการมาเที่ยวเกียวโตในฤดูใบไม้ผลิคือการได้ชมวัดวาอารามและบ้านเรือนในบรรยากาศเมืองเก่าที่ประดับประดาไปด้วยสีชมพูของซากุระไปทุกมุมเมือง ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 15 สถานที่ชมซากุระทั้งจุดชมยอดนิยม และจุดชมคนน้อยที่คนไม่ค่อยรู้กัน!
ซากุระที่ศาลเจ้าคามิกาโมะ Picture courtesy of Kamigamo Shrine
การชมดอกซากุระในเกียวโต เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ในปี 2025 คาดว่าดอกซากุระในเกียวโตจะเริ่มบานประมาณวันที่ 27 มีนาคม และจะถึงจุดสูงสุดในการบานประมาณวันที่ 3 เมษายน
แหล่งข้อมูล: Weathernews
จาก "5 แหล่งชมซากุระห้ามพลาดในคาเมโอกะ เกียวโต"
ในเกียวโตมีแหล่งชมซากุระชื่อดังอยู่หลายที่ อยู่ที่เราอยากจะไปแบบไหน เช่น อยากไปเดินเล่นชมซากุระริมแม่น้ำ อยากดูซากุระที่มีฉากหลังเป็นวัดหรือศาลเจ้าแบบญี่ปุ่น หรือ อยากดูซากุระพร้อมกับมรดกโลก
คราวนี้เราจะมาแนะนำจุดชมซากุระ 15 แห่งในเกียวโตให้เป็นตัวเลือกกัน
สารบัญ |
1. ศาลเจ้าฮิราโนะ ซากุระแห่งเทศกาลฮานามิ |
Picture courtesy of Hirano Shrine
ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine) เป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่อของเกียวโต ว่ากันว่าเมื่อต้นซากุระซากิกาเคะซึ่งมีต้นกำเนิดที่ศาลเจ้าแห่งนี้บานเมื่อไหร่ นั่นคือการเริ่มต้นของเทศกาลชมซากุระของเกียวโตในปีนั้น
ภายในศาลเจ้ามีต้นซากุระประมาณ 60 สายพันธุ์ซึ่งมีเวลาบานไม่พร้อมกัน เพราะงั้นตั้งแต่ซากุระพันธุ์แรกเริ่มบานในช่วงต้นเดือนมีนาคม เราจะมีเวลาไปชมซากุระที่นี่ได้นานถึงหนึ่งเดือนครึ่งเลย ช่วงปลายเดือนมีนาคม - กลางเมษายนจะมีการเปิดไฟไลท์อัพตอนกลางคืนด้วย
Picture courtesy of Hirano Shrine
วันที่ 10 เดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดเทศกาลโอกะไซ (Okasai Festival) แนะนำว่าห้ามพลาดการเดินขบวนย้อนยุคตอนเวลา 13:00 โดยผู้คนกว่า 200 คน มีทั้งการหามโอมิโคชิ และหญิงที่แต่งกายเป็นเจ้าหญิงทอผ้า โอริฮิเมะด้วย
*หมายเหตุ ด้วยผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นในปี 2018 ทำให้มีต้นซากุระหลายต้นในศาลเจ้าฮิราโนะได้รับความเสียหาย แต่ยังสามารถไปชมซากุระได้ โดยแผนฟื้นฟูพื้นที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2021 ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่กล่องรับบริจาคด้านในศาลเจ้า
ศาลเจ้าฮิราโนะ (Hirano Shrine)
เวลาทำการ : 6:00 - 17:00
ไลท์อัพระหว่าง 25 มีนาคม - 20 เมษายน เวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน - 21:00
ที่อยู่ : 1 Hirano Miyamotocho, Kita, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต ของ JR นั่งรถบัสสาย 50 หรือ 205 (ปลายทาง Kitaoji Bus Terminal) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Kinugasako-mae เดินต่อประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์ : http://www.hiranojinja.com/ (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of Kyoto Botanical Gardens
ภายในสวนพฤกษศาสตร์เกียวโต (Kyoto Botanical Gardens) มีต้นซากุระกว่า 130 สายพันธุ์ รวมกว่า 450 ต้น สามารถมาชมซากุระบานได้ตั้งแต่กลางมีนาคม - ปลายเมษายน จุดชมซากุระอยู่ที่สวนป่าซากุระทางด้านเหนือของสวนเรือนกระจก
สำหรับคนที่ชอบต้นไม้ขอแนะนำให้เข้าไปดูในเรือนกระจกด้วย เพราะมีไม้นานาพันธุ์ประมาณ 4,500 ชนิด เป็นเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
ช่วงปลายมีนาคม - ต้นเมษายนจะมีไลท์อัพให้ชมซากุระกลางคืนและเปิดทำการนานกว่าปกติถึงเวลา 21:00
สวนพฤกษศาสตร์เกียวโต (Kyoto Botanical Gardens)
เวลาทำการ 9:00 - 17:00 (เข้าสวนได้ถึงเวลา 16:00)
ไลท์อัพระหว่างปลายมีนาคม - ต้นเมษายน ในช่วงนี้จะเปิดสวนถึง 21:00 (เข้าสวนได้ถึงเวลา 20:00)
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 200 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 150 เยน
ค่าเข้าเรือนกระจก (จ่ายเพิ่ม) ผู้ใหญ่ 200 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 150 เยน
ที่อยู่ : Shimogamo Hangicho, Sakyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีคิตายามะ (Kitayama) รถไฟใต้ดินสายคาราซุมะ (Karasuma) ทางออก 3 ถึงทันที
เว็บไซต์ : http://www.pref.kyoto.jp/en/02-02-10.html (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Nijo-jo Castle Office
ปราสาทนิโจ (Nijo-jo Castle) ปราสาทมรดกโลกหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของเหล่าผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เพราะปราสาทแห่งนี้คือหนึ่งในที่พำนักของโชกุน โทคุกาวะ อิเอยาซุ (*1)
ภายในบริเวณปราสาทนิโจมีต้นซากุระมากกว่า 50 สายพันธุ์ รวมประมาณ 300 ต้นผลัดกันบานให้ชมคู่กับวิวของสวนญี่ปุ่นและสถาปัตยกรรมเก่าแก่ตลอดช่วงกลางมีนาคม - ปลายเมษายน
Picture courtesy of Nijo-jo Castle Office
ปลายเดือนมีนาคม - ต้นเมษายนมีเทศกาลซากุระปราสาทนิโจ ช่วงนี้จะเปิดให้เข้าชมซากุระกลางคืนที่สว่างไสวด้วยแสงสวย
ปราสาทนิโจ (Nijo-jo Castle)
เวลาทำการ : 8:45 - 16:00 ไลท์อัพ 18:00 - 21:30
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 600 เยน, นักเรียนมัธยม 350 เยน, นักเรียนประถม 200 เยน
ค่าเข้าเพิ่มเติมในช่วงเวลาประดับไฟกลางคืน ผู้ใหญ่ 400 เยน นักเรียนประถม-มัธยม 200 เยน
ที่อยู่ : 541 Nijojo, Nijo-dori Horikawa Nishi-iru, Nakagyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
รถไฟ จากสถานีนิโจโจมาเอะ (Nijo-jo mae) รถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai) ทางออก 1 ถึงทันที
รถบัส จากหน้าสถานีรถไฟเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 9, 50 หรือ 101 ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Nijojo-mae เดิน 2 นาที
เว็บไซต์ : https://nijo-jocastle.city.kyoto.lg.jp/?lang=en (ภาษาอังกฤษ)
วัดโทจิ (Toji Temple) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดเคียวโอโกะโคคุจิ (Kyo-o-gokoku-ji Temple)
จุดถ่ายรูปยอดนิยมคือเจดีย์ห้าชั้น เจดีย์ไม้ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นที่มีฉากหน้าเป็นซากุระมากมายกว่า 200 ต้น
ต้นซากุระที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือต้นซากุระพันธุ์ชิดาเระซากุระชื่อ ฟุจิซากุระ อายุ 130 ปี สูง 13 เมตร ซึ่งจะมีการไลท์อัพในช่วงกลาง - ปลายมีนาคม เป็นซากุระกลางคืนที่ดูงดงามราวกับภาพวาด
วัดโทจิ (Toji Temple)
เวลาทำการ : เวลาเปิดให้ไหว้ของวิหารคนโด (Kondo Hall) และ วิหารโคโด (Kodo Hall) 8:00 - 17:00
ไลท์อัพระหว่าง 16 มีนาคม - 14 เมษายน เวลา 18:30 - 21:30
ค่าเข้า : วิหารคนโด-วิหารโคโด ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนม.ปลาย 400 เยน, นักเรียนประถม - มัธยมต้น 300 เยน
ช่วงเวลาไลท์อัพ ตั้งแต่นักเรียนม.ปลายขึ้นไป 500 เยน, ไม่เกินนักเรียนมัธยมต้น 300 เยน
ที่อยู่ : 1 Kujo, Minami, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีเกียวโต (Kyoto) ของรถไฟ JR ทางออกฮาจิโจกุจิ (Hachijoguchi) เดินประมาณ 15 นาที หรือจากสถานีโทจิ (Toji) ของรถไฟคินเท็ตสึ (Kintetsu) เดินประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : http://www.toji.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of GRAPHIC Co., Ltd.
สวนมารุยามะ (Maruyama Park) แหล่งพักผ่อนหย่อนใจอันดับหนึ่งของผู้คนในท้องถิ่น
ภายในสวนมีต้นซากุระกว่า 680 ต้น ในช่วงกลางมีนาคม - กลางเมษายน จะมีไลท์อัพตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดิน - เที่ยงคืน รวมถึงร้านแผงลอยมากมาย เต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นทั้งกลางวันและกลางคืน
สัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้คือต้นชิดาเระซากุระที่ชื่อว่า ซากุระยามค่ำคืนแห่งกิอง (Gion no Yozakura) ซากุระพันธุ์กิ่งย้อยอายุกว่า 80 ปีในภาพนี่เลย ตามสถิติชิดาเระซากุระจะบานราวปลายมีนาคม พันธุ์อื่นๆ ก็จะทยอยบานไปเรื่อยๆ จนถึงกลางเมษายน
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ "จุดชมซากุระขึ้นชื่อในเกียวโต เดินชมซากุระบานจากย่านกิอง ถึงสวนสาธารณะมารุยามะ"
สวนมารุยามะ (Maruyama Park)
ที่อยู่ : Maruyamacho, Higashiyama, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
รถบัส จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 100 หรือ 206 ลงที่ป้าย Gion เดิน 5 นาที
รถไฟ จากสถานีฮิกาชิยามะ (Higashiyama) รถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai) เดินประมาณ 10 นาที
เว็บไซต์ : https://kanko.city.kyoto.lg.jp/detail.php?InforKindCode=1&ManageCode=10000011 (ภาษาญี่ปุ่น)
https://kyoto.travel/en (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Heianjingu Shrine
ศาลเจ้าเฮอันจิงกู (Heianjingu Shrine) สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1895 ภายในศาลเจ้ามีต้นซากุระมากกว่า 20 สายพันธุ์รวม 300 ต้น สีแดงชาดของวิหารตัดกับหลังคาสีเขียวดูสวยงามและยังมีสีชมพูของซากุระมาช่วยเพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีก
Picture courtesy of Heianjingu Shrine
ภายในพื้นที่ศาลเจ้ามีสวนญี่ปุ่นบรรยากาศเงียบสงบ สามารถมาชมซากุระในอีกบรรยากาศที่ตรงข้ามกับส่วนวิหารที่มีสีสันสดใส
ช่วงต้นเมษายนจะมีการจัดอีเวนท์หลายงาน เช่น งานดื่มน้ำชาชมซากุระ (Kan-ouchakai) เพียงจ่ายเพิ่มอีก 800 เยนก็สามารถมาดื่มชาเขียวมัทฉะชมซากุระได้
ช่วงต้นเดือนเมษายนมีการแสดงดนตรี คอนเสิร์ต เฮอันจิงกู เบนิชิดาเระ (Heianjingu Benishidare Concert) ชมการแสดงดนตรีท่ามกลางซากุระที่ถูกไลท์อัพอย่างสวยงาม ค่าเข้างาน 2,000 เยน
ศาลเจ้าเฮอันจิงกู (Heianjingu Shrine)
เวลาทำการ : 6:00 - 18:00
ที่อยู่ : Okazaki Nishitennocho, Sakyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
รถไฟ จากสถานีฮิกาชิยามะ (Higashiyama) รถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai) เดินประมาณ 10 นาที
รถบัส จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 5, 100 หรือ 110 ประมาณ 30 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Okazaki Koen (Bijutsukan, Heian Jingu-mae) เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.heianjingu.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
Picture courtesy of GRAPHIC Co., Ltd.
ภูเขาอาราชิยามะ (Arashiyama) เป็นแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามขึ้นชื่อของเกียวโตที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้ เป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีต ภูเขาทั้งลูกจะถูกย้อมไปด้วยสีชมพูอ่อนของซากุระในช่วงปลายมีนาคม - ต้นเมษายน
สามารถมานั่งรถไฟนำเที่ยว Sagano Romantic Train (Sagano Torokko) หรือเรือล่องแม่น้ำเพื่อชมซากุระสวยๆ ได้ ส่วนบริเวณสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) ที่ทอดข้ามแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) ก็เต็มไปด้วยซากุระกว่า 1,500 ต้น ในตอนกลางคืนจะมีการไลท์อัพด้วย
มาเดินเล่นชมซากุระกลางคืนก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ
ภูเขาอาราชิยามะ (Arashiyama) สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge)
ที่อยู่ : Saganakanoshimacho, Ukyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีซากะ-อาราชิยามะ (Saga-Arashiyama) รถไฟ JR สายซากาโนะ (Sagano Line) หรืออีกชื่อคือสายซันอิน (Sanin Line) เดินประมาณ 13 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kyoto-kankou.or.jp/info_search/?id=289&r=1549515705.7615 (ภาษาญี่ปุ่น)
จาก "The Weeping Cherry Trees In Okazaki, Kyoto"
มาเดินชมซากุระร่วม 100 ต้นบนเส้นทางรางรถเก่ากันที่ เคอาเกะ อินไคลน์ (Keage Incline)
เส้นทางเคอาเกะ อินไคลน์ ถูกใช้เป็นเส้นทางขนย้ายเรือระหว่างเมืองโอสึ จังหวัดชิกะ กับเกียวโตจนถึงปี 1948 บริเวณที่มีรางจะเป็นทางลาดเส้นตรงยาว 580 เมตร ตรงกลางของทางลาดและปลายทางจะมีรถรางที่ใช้บรรทุกเรือจอดอยู่ให้ดูด้วย
เคอาเกะ อินไคลน์ (Keage Incline)
ที่อยู่ : Keage, Sakyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
รถไฟ สถานีเคอาเกะ (Keage) รถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai Line) ทางออก 1 เดินไปทางซ้ายประมาณ 1 นาทีจะเจอทางเดินเข้าด้านซ้าย
รถบัส จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 5 ประมาณ 35 นาที 230 เยน ลงที่ป้าย Okazaki Hosshojicho เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.kyoto-kankou.or.jp/info_search/?id=170&r=1549515790.9106 (ภาษาญี่ปุ่น)
วัดโคไดจิ (Kodaiji Temple) เป็นวัดนิกายเซ็น สาขาของวัดเซ็นโจ สายรินไซ สร้างขึ้นในปี 1660 เพื่อระลึกถึงโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi *1) ขุนพลในยุคเซ็นโกคุ โดย เนเนะ ภรรยาของเขา
ในช่วงซากุระบานขอแนะนำให้มาชมสวนฮะชินเท (Hashintei) สวนหินตามแนวคิดเซ็นที่มีต้นชิดาเระซากุระต้นใหญ่บานสวย
*1 : โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ... ขุนพลผู้รวมญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในยุคเซ็นโกคุราวปลายศตวรรษที่ 15 - ปลายศตวรรษที่ 16 และเป็นผู้สั่งสร้างปราสาทโอซาก้า
ตั้งแต่เวลา 17:00 จะมีไลท์อัพและการแสดง Projection Mapping แสนสวยตรงสวนฮะชินเท
วัดโคไดจิ (Kodaiji Temple)
เวลาทำการ :
ระหว่าง 8 มีนาคม - 6 พฤษภาคม 2019 เวลา 9:00 - 22:00 (เข้าได้ถึง 21:30)
ช่วงปกติ 9:00 - 17:30 (เข้าได้ถึง 17:00)
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 600 เยน นักเรียนมัธยม 250 เยน
ที่อยู่ : 526 Shimogawara, Higashiyama, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 206 ใช้เวลา 20 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Higashiyamayasui เดินประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : https://www.kodaiji.com/e_index.html (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of National Gardens Association Kyoto Gyoen
สวนเกียวโต เกียวเอน (Kyoto Gyoen National Garden) หรือที่รู้จักกันในฐานะเซ็นทรัลพาร์คแห่งเกียวโต เดิมในยุคเอโดะเป็นสถานที่สำหรับพระจักรพรรดิและราชวงศ์เท่านั้น หลังจากนั้นได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสวนสาธารณะและเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมในยุคเมจิ
ในพื้นที่สวนขนาดใหญ่มีต้นซากุระกว่า 1,000 ต้นให้เดินชมได้อย่างสบายๆ อย่างในรูปด้านบนเป็นบริเวณลำธารเดมิซุทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสวน ทั้งธารน้ำใส ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวสด รวมกับซากุระสีชมพูดูสวยราวกับภาพวาดเลย
ส่วนใหญ่ซากุระที่นี่จะบานระหว่างช่วงต้น - กลางเมษายนแล้วแต่สภาพอากาศ แต่ส่วนใหญ่ช่วงที่บานเต็มที่จะอยู่ราวกลางเมษายน
สวนเกียวโต เกียวเอน (Kyoto Gyoen National Garden)
เวลาทำการ : เปิดตลอดวัน
ที่อยู่ : 3 Kyoto Gyoen, Kamigyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีมารุทามาจิ (Marutamachi) รถไฟใต้ดินสายคาราซุมะ (Karasuma Line) ทางออก 1 เดิน 3 นาที
เว็บไซต์ : http://www.env.go.jp/garden/kyotogyoen/english/index.html (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Daigoji Temple
วัดไดโกะจิ (Daigoji Temple) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1994 เป็นสถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อมาตั้งแต่ยุคเฮอัน ขุนพลใหญ่อย่างโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็มาชมซากุระพร้อมจัดงานรื่นเริงขนาดใหญ่ที่นี่เป็นที่สุดท้ายก่อนจะจากโลกนี้ไปในครึ่งปีให้หลัง
ว่ากันว่าฮิเดโยชิเป็นผู้สั่งให้นำต้นซากุระจากเมืองต่างๆ รอบเกียวโตมาปลูกถึง 700 ต้น พร้อมจัดงาน ไดโกะโนะฮานามิ งานชมซากุระที่มีคนเข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน ผ่านไป 400 ให้หลังวัดไดโกะจิก็ยังคงดึงดูดผู้คนให้มาชมซากุระอยู่ทุกปี
ภายในพื้นที่กว้างใหญ่ของวัดมีจุดให้เดินชมวิวซากุระในหลากหลายบรรยากาศ ทั้งสมบัติชาติอย่างเจดีย์ห้าชั้น วิหารเบ็นเท็นโดสีแดงชาดโดดเด่นอยู่เหนือสระน้ำ หรือจะเป็นสวนสวยบริเวณกุฏิซัมโบอิน
วัดไดโกะจิ (Daigoji Temple)
เวลาทำการ : 9:00 - 17:00 (เข้าได้ถึง 16:00) *เวลาเปิดมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ค่าเข้า : (สำหรับซัมโบอิน, กะรัน และ เรโฮคัง) ผู้ใหญ่ 1,500 เยน นักเรียนมัธยม 1,000 เยน *ราคามีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
ที่อยู่ : 22 Higashioji, Daigo, Fushimi, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
รถไฟ จากสถานีไดโกะ (Daigo) รถไฟใต้ดินสายโทไซ (Tozai Line) ทางออก 2 เดินประมาณ 10 นาที
รถบัส จากสถานีรถไฟเกียวโต ทางออกฮาจิโจกุจิ (Hachijoguchi Exit) ขึ้นรถบัสเคฮัน (Keihan Bus) จากป้าย H4 ประมาณ 30 นาที ราคา 300 เยน ลงที่ป้าย Daigoji ถึงทันที
เว็บไซต์ : http://www.daigoji.or.jp/index_e.html (ภาษาอังกฤษ)
แม่น้ำทาคาเซะ (Takase River) แม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลไปตามถนนคิยามาจิ (Kiyamachi-dori) ตลอดระยะทาง 1 กิโลเมตรเป็นจุดชมซากุระสวยกว่า 200 ต้นท่ามกลางบ้านเรือนที่ให้บรรยากาศของเมืองเกียวโต
บริเวณใกล้เคียงเป็นย่านร้านอาหาร เหมาะจะมานั่งดื่มนั่งทานอาหารอร่อยๆ พร้อมชมซากุระไปด้วย ยิ่งช่วงปลายมีนาคม - ต้นเมษายนจะมีการไลท์อัพให้ชมซากุระกลางคืน ชิโมะคิยามาจิ โยะซากุระ (Shimokiyamachi Yozakura) ตั้งแต่เวลา 18:00 - 23:00 ด้วย น่ามาเดินมากค่ะ
แม่น้ำทาคาเซะ (Takase River)
ที่อยู่ : Kawaramachidori Oike-agaru, Ichinofunairicho, Nakgyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
1. จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 4, 5 หรือ 205 ประมาณ 15 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Shijo-Kawaramachi เดินต่อประมาณ 8 นาที
2. จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 4 (ปลายทาง Kamigamojinja-mae) ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ลงที่ป้าย Kawaramachisanjo เดินต่อประมาณ 6 นาที
เว็บไซต์ : https://kanko.city.kyoto.lg.jp/detail.php?InforKindCode=4&ManageCode=7000044 (ภาษาญี่ปุ่น)
ไซโอซากุระ Picture courtesy of Kamigamo Shrine
โกะโชะซากุระ Picture courtesy of Kamigamo Shrine
ศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Shrine) ศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโตแห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศาลเจ้าคาโมะวาเกะอิคาซุจิ (Kamowake-ikazuchi Shrine) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย
ซากุระชื่อดังของที่นี่คือต้นชิดาเระซากุระแสนงามที่มีชื่อว่า ไซโอซากุระ (Saiou-zakura) และ โกะโชะซากุระ (Gosho-zakura)
"ไซโอ" หมายถึง เจ้าหญิง (พระราชธิดาของพระจักรพรรดิ) ที่ยังมิได้เสกสมรส ผู้ได้รับหน้าที่รับใช้เทพเจ้าอยู่ในราชวัง ส่วน "โกะโชะ" หมายถึง พระจักรพรรดิ ต้นซากุระทั้งสองต้นต่างแผ่กิ่งก้านโออ่าสง่างามดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาชมกันมากมาย
ศาลเจ้าคามิกาโมะ (Kamigamo Shrine)
เวลาทำการ : 5:00 - 17:00
ที่อยู่ : 339 Motoyama, Kamigamo, Kita, Kyoto Google Maps
การเดินทาง :
- จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 4 ประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Kamigamo jinja-mae เดินประมาณ 5 นาที
- จากสถานีคิตะโอจิ (Kitaoji) รถไฟใต้ดินสายคาราซุมะ (Karasuma Line) นั่งรถบัสสาย 37 ประมาณ 14 นาที ลงที่ป้าย Kamigamo Misono เดินประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์ : https://www.kamigamojinja.jp/english/index.html (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Kyoto Media Support Center
ทางเดินริมคลองส่งน้ำบิวะ (Biwakososui) ที่นักปรัชญาชื่อดังในอดีตชอบมาเดินพักผ่อนจนได้รับชื่อเรียกว่าถนนสายปรัชญา (The Philosopher's Walk) และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ถนนขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ริมถนนความยาว 2 กิโลเมตรสายนี้มีต้นซากุระปลูกอยู่ประมาณ 500 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระบนสองฝั่งคลองจะผลิบานเต็มที่ ยามเดินไปตามถนนจะรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ต้นซากุระเลย
ใกล้ๆ กับถนนสายนี้ก็มีจุดชมซากุระอย่างศาลเจ้าเฮอันจิงกู และเคอาเกะ อินไคลน์ ลองวางแผนตระเวนชมซากุระพร้อมกันในทีเดียวไปเลยก็ได้ค่ะ
ถนนสายปรัชญา (The Philosopher's Walk)
ที่อยู่ : Jodoji Ishibashicho, Sakyo, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 100 ประมาณ 40 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Ginkakuji-mae เดินประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ : https://kanko.city.kyoto.lg.jp/detail.php?InforKindCode=1&ManageCode=3000069 (ภาษาอังกฤษ)
Picture courtesy of Kyoto Media Support Center
แม่น้ำคาโมะ (Kamo River) สถานที่เดินเล่นริมน้ำ นั่งกินลมชมวิวประจำเกียวโต เมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิต้นซากุระริมแม่น้ำนับพันต้นจะบานสวย ดึงดูดผู้คนให้มาเดินชมกันอย่างคึกคัก
ริมฝั่งแม่น้ำมีร้านค้าร้านอาหารน่านั่งมากมาย มานั่งชมซากุระพร้อมทานอาหารอร่อยๆ ไปด้วยได้ค่ะ
บริเวณแม่น้ำคาโมะ (Kamo River)
ที่อยู่ : Wakamatsucho, Nak, Kyoto Google Maps
การเดินทาง : จากหน้าสถานีเกียวโต ขึ้นรถบัสสาย 5 หรือ 104 ประมาณ 20 นาที ราคา 230 เยน ลงที่ป้าย Sanjo keihan mae เดินมาทางฝั่งแม่น้ำถึงทันที
เว็บไซต์ : https://www.pref.kyoto.jp/kamogawa/1205475129577.html (ภาษาญี่ปุ่น)
อุณหภูมิเฉลี่ยของเกียวโตในช่วงชมซากุระระหว่างปลายมีนาคม - กลางเมษายน จะอยู่ที่ 10 - 12 องศา
ที่ควรระวังคืออุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนจะต่างกันเยอะมาก ในตอนกลางวันอากาศจะเย็นๆ แค่สวมเสื้อแจ็คเก็ตหรือเสื้อโค้ทบางๆ ก็พอ แต่ตกกลางคืนอุณหภูมิอาจลดต่ำไปอยู่ราว 5 องศา จึงขอแนะนำให้เตรียมเสื้อสเวตเตอร์หรือผ้าพันคอมาเพิ่ม นอกจากนี้ก็อาจจะซื้อถุงร้อนไคโระ อุปกรณ์ช่วยให้ความอบอุ่นตามร้านสะดวกซื้อหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตมาเป็นตัวช่วยอีกแรงก็ได้
จาก "รวมของจำเป็นเตรียมพร้อมก่อนไปชมซากุระ!"
ตามสวนสาธารณะส่วนใหญ่ที่เปิดให้เข้าชมฟรี มักจะสามารถไปปูเสื่อจองที่นั่งชมซากุระกันได้เลย บางแห่งอาจจะมีกำหนดพื้นที่สำหรับปูเสื่อโดยเฉพาะ หรือบางแห่งที่ห้ามเลยก็มี เพราะงั้นก่อนจะไปปูเสื่อที่ไหนอย่าลืมเช็คกันล่วงหน้านิดนึงนะ ลองอ่านคำแนะนำในการจองที่ได้จากบทความ "เตรียมปูเสื่อ! วิธีและมารยาทในการจองพื้นที่ชมซากุระ"
อีกเรื่องที่ต้องระวังคือการจัดการขยะหลังชมซากุระเสร็จ เช่น ต้องนำกลับไปทิ้งหรือทิ้งในจุดที่กำหนดไว้ ลองอ่านคำแนะนำเรื่องการทิ้งขยะเมื่อไปชมซากุระได้ที่บทความ "อ๊ะ อ๊ะ ตาวิเศษเห็นนะ! วิธีทิ้งขยะให้ถูกต้องเมื่อไปชมซากุระ"
จาก "นอนดูหนังในโรงแรมแคปซูลระดับพรีเมี่ยม THE MILLENNIALS KYOTO เกียวโต"
ช่วงชมซากุระถือเป็นช่วงพีคอีกช่วงของเกียวโตเลย นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วคนญี่ปุ่นเองก็ยังมาเที่ยวเกียวโตกันไม่น้อย ที่พักก็เลยไม่ค่อยจะว่างสักเท่าไหร่ ใครที่วางแผนจะมาล่ะก็ขอแนะนำให้รีบจองที่พักไว้ล่วงหน้าเลย หรืออาจจะเลือกพักที่โรงแรมในจังหวัดใกล้เคียงอย่างโอซาก้า โกเบ และนาราก็ได้ เพราะเดินทางมาเกียวโตได้ง่าย และน่าจะมีที่พักว่างให้เลือกเยอะกว่าด้วย
Main image by Pixta.
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก