เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

ไกด์นำเที่ยวฮิเมจิแบบจัดเต็ม! ข้อมูลการเดินทาง・แหล่งท่องเที่ยว・ข้อมูลปราสาทฮิเมจิ・ของฝาก

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

“เมืองฮิเมจิ” จ.เฮียวโกะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องมรดกโลกอย่างปราสาทฮิเมจิและศิลปหัตถกรรมดั้งเดิม ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทางไปยังฮิเมจิ, วิธีการเดินทางท่องเที่ยว, ปราสาทฮิเมจิ, แหล่งท่องเที่ยว, แผนเที่ยวตัวอย่าง และของฝากจากฮิเมจิกันค่ะ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ข้อมูลเมืองฮิเมจิ

ฮิเมจิ คือ เมืองที่เรียกว่าโซน “ฮาริมะ” ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจ.เฮียวโกะใน ภูมิภาคคันไซ โดยโด่งดังในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางมาเที่ยวจากโอซาก้าและเกียวโตแบบไปเช้า-เย็นกลับได้อย่างสบายๆ

นอกจากจะเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวอย่างปราสาทฮิเมจิซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและวัดเอ็งเกียวจิซึ่งเรียกกันว่าเป็น “ภูเขาฮิเอตะวันตก” แล้วที่นี่ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องศิลปหัตถกรรมอย่าง “ลูกข่างฮิเมจิ” และกระดิ่งลมจากตะเกียบเขี่ยขี้เถ้า “เมียวจินฮิบาชิ” อีกด้วย

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทางไปยังฮิเมจิ, ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในฮิเมจิ, ของขึ้นชื่อประจำฮิเมจิซึ่งล้วนเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวฮิเมจิกันค่ะ เอ้า... มาสนุกกันเลยดีกว่า ^^

สารบัญ:

1.วิธีการเดินทางไปยังฮิเมจิ
2.ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองฮิเมจิ
3.6 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในฮิเมจิ
4.ปราสาทฮิเมจิ
5.แผนเที่ยวเมืองฮิเมจิ
6.ของฝากจากฮิเมจิและแหล่งช้อปปิ้ง
7.สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวฮิเมจิ
8.ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

วิธีการเดินทางไปยังฮิเมจิ (แบบไปเช้า-เย็นกลับจากโอซาก้าและเกียวโต)

姫路S記事

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังฮิเมจิ

เราสามารถนั่งชินคันเซ็นหรือเครื่องบินมาถึงฮิเมจิก็ได้ ในกรณีเครื่องบินให้นั่งเครื่องบินไปลงสนามบินโกเบก่อนแล้วนั่งรถไฟไปต่อ ส่วนใครที่อยากประหยัดเวลาในการเดินทางก็ขอแนะนำให้ใช้บริการชินคันเซ็นจะดีที่สุด

วิธีการเดินทางจากโอซาก้าไปยังฮิเมจิ

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางจากโอซาก้ามาถึงฮิเมจิก็มีให้เลือกรถไฟหรือรถยนต์ เพียงแค่นั่งรถไฟ JR Kobe Line Special Rapid Service ที่มุ่งหน้าไปยังฮิเมจิจากสถานีโอซาก้าไป 8 สถานีโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ส่วนในกรณีที่นั่งรถยนต์มาจากเมืองโอซาก้าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

วิธีการเดินทางจากเกียวโตไปยังฮิเมจิ

การเดินทางจากสถานีเกียวโตมาถึงสถานีฮิเมจิให้ใช้บริการรถไฟ JR สายเกียวโต โดยนั่งรถแบบ Special Rapid Service ที่มุ่งหน้าไปยังฮิเมจิ (Himeji) นั่งเพียง 11 สถานีเท่านั้น

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ประวัติ สิ่งที่น่าสนใจ และการเดินทางไป「ปราสาทฮิเมจิ」จากโอซาก้า เกียวโตไปเช้าเย็นกลับก็ได้

ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองฮิเมจิ

ต่อไปเรามาแนะนำระบบขนส่งสาธารณะสำหรับท่องเที่ยวภายในเมืองฮิเมจิกันบ้างดีกว่าเนอะ

รถบัส

จากสถานีฮิเมจิมีรถบัสรับ-ส่งตามสถานที่ต่างๆภายในเมืองวิ่งให้บริการอยู่ การเดินทางไปยังโชะชะซัง (วัดเอ็งเกียวจิ) ให้นั่งรถบัสชิงกิจากสถานีฮิเมจิที่มุ่งหน้าไปยังกระเช้าโชะชะ ส่วนการเดินทางไปยังปราสาทฮิเมจิ, สวนโคโคเอ็น หรือสวนโบตั๋นเซ็นฮิเมะให้นั่งรถบัสท่องเที่ยวปราสาทฮิเมจิอย่างที่จะกล่าวถึงกันต่อไป

Himeji Castle Loop Bus (รถบัสท่องเที่ยวปราสาทฮิเมจิ)

“Himeji Castle Loop Bus (รถบัสท่องเที่ยวปราสาทฮิเมจิ)” ซึ่งบริหารโดยบริษัทชิงกิบัส นับเป็นพาหนะแสนสะดวกต่อการท่องเที่ยวฮิเมจิเลยก็ว่าได้ โดยวิ่งให้บริการจากสถานีฮิเมจิและออกรับ-ส่งตามแหล่งท่องเที่ยวรอบปราสาท เช่น ปราสาทฮิเมจิ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะประจำเมือง, พิพิธภัณฑ์ และสวนโคโคเอ็น เป็นต้น

ค่าโดยสาร:ผู้ใหญ่ 100 เยน / เด็กเล็ก 150 เยนตลอดสาย

รถจักรยาน

จากสถานีฮิเมจิมาถึงปราสาทฮิเมจิมีระยะห่างประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งเหมาะกับการขี่จักรยานเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง ด้านหน้าสถานีรถไฟเป็นที่ตั้งของร้านเช่าจักรยานอย่าง Himechari (ฮิเมะชาริ) และ Eki-Rinkun (เอกิรินคุง) ถ้าเกิดใครได้ลองขี่จักรยานเที่ยวเองดูอาจได้ค้นพบอะไรใหม่ๆอย่างคาดไม่ถึง เช่น ร้านอาหารรสเลิศประจำท้องถิ่นหรือร้านค้าจิปาถะขนาดเล็ก กันก็ได้นะเออ...

Himechari (ฮิเมะชาริ)
ราคามาตรฐาน:60 นาที 100 เยน, หลังจากนั้นชาร์จเพิ่มอีก 100 เยน / ทุกๆ 30 นาที
เว็บไซต์หลัก:http://interstreet.jp/himeji/

จักรยานเช่า Eki-Rinkun (เอกิรินคุง : ฮิเมจิ)
ราคา:310 เยน / ครั้ง (ถึงเวลา 10.00 น. ของวันถัดไป)
เวลาทำการ:6:30~23:00 น.
เว็บไซต์หลัก:http://www.ekiren.com/EKIRIN/

รถแท็กซี่

ภายในเมืองฮิเมจิขนาดเล็กแห่งนี้มีรถแท็กซี่วิ่งให้บริการด้วย จากสถานีฮิเมจิมาถึงปราสาทฮิเมจิมีค่าโดยสารประมาณ 740 – 970 เยน

เว็บไซต์หลัก:http://www.shinkibus.co.jp/teikan/loopbus/loopbus.html

6 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในฮิเมจิ

ในครั้งนี้เราก็ได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวฮิเมจิมาไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ

1. Himeji Castle (ปราสาทฮิเมจิ)

姫路S記事

Himeji Castle (ปราสาทฮิเมจิ) คือ ปราสาทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโกแห่งแรกของญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคม 1993 เนื่องจากกำแพงปราสาททาด้วยปูนขาว ทั้งปราสาทจึงดูเป็นสีขาวเปล่งประกายงดงามมาก ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงเรียกกันว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” ไปโดยปริยาย

ที่อยู่:68 Honmachi, Himeji-shi, Hyōgo-ken
เวลาทำการ:9:00〜16:00 น. (ปิดประตูปราสาทเวลา 17:00 น.), ฤดูร้อน (27 เมษายน~31 สิงหาคม):9:00~17:00 น. (ปิดประตูปราสาทเวลา 18:00 น.)
ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปี~):1000 เยน, เด็กเล็ก (นักเรียนประถม・นักเรียนมัธยมต้น・นักเรียนมัธยมปลาย): 300 เยน
เว็บไซต์หลัก:http://www.city.himeji.lg.jp/guide/castle/

2. Koko-en Garden (สวนโคโคเอ็น)

姫路S記事
姫路S記事

Koko-en Garden (สวนโคโคเอ็น) สวนร่องรอยพระตำหนักตะวันตกของปราสาทฮิเมจิแห่งนี้เป็นสวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1992 ทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถชมปราสาทฮิเมจิและสถาปัตยกรรมสไตล์คฤหาสน์นักรบได้จากสวนใหม่แบบนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายเลยทีเดียว

โดยเฉพาะใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงนั้นงดงามสุดๆ ด้วยทัศนียภาพสไตล์ญี่ปุ่นจ๋า ทำให้ถูกนำมาใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครทีวีย้อนยุคเรื่อง Mito Kōmon (มิโตะโคมอน)

ที่อยู่:68 Honmachi, Himeji-shi, Hyōgo-ken
ค่าเข้าชม:ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปี~) 300 เยน, เด็กเล็ก (นักเรียนประถม・นักเรียนมัธยมต้น-ปลาย) 150 เยน
เว็บไซต์หลัก:http://www.himeji-machishin.jp/ryokka/kokoen/

3. Shoshazan (โชะชะซัง : วัดเอ็งเกียวจิ)

姫路S記事

Shoshazan (โชะชะซัง) คือ วัดระดับสูงซึ่งเรียกกันว่าเป็น “ภูเขาฮิเอตะวันตก” หอระฆังและหอประชุมขนาดใหญ่ภายในวัดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ แถมที่นี่ยังเป็นวัดต้นกำเนิดศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมอย่าง “เครื่องเขินโชะชะนูริ” อีกต่างหาก

เว็บไซต์หลัก:http://www.shosha.or.jp/

4. Senhime Botan-en (สวนโบตั๋นเซ็นฮิเมะ)

姫路S記事

Senhime Botan-en (สวนโบตั๋นเซ็นฮิเมะ) คือ สวนโบตั๋นที่ตั้งอยู่บนเนินสูงของลานกว้างซันโนะมารุภายในปราสาทฮิเมจิ โดยขึ้นชื่อเรื่องดอกโบตั๋นกว่า 2000 ดอกที่บานสะพรั่งงดงามในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี

ที่อยู่:68 Honmachi, Himeji, Hyogo Prefecture (ภายในปราสาทฮิเมจิ)
ค่าเข้าชม:ฟรี
เว็บไซต์หลัก:http://www.himeji-kanko.jp/search/?act=detl&id=22

5. Japan Toy Museum (พิพิธภัณฑ์ของเล่นญี่ปุ่น)

Japan Toy Museum (พิพิธภัณฑ์ของเล่นญี่ปุ่น) คือ พิพิธภัณฑ์สะสมของเล่นมากกว่า 9 หมื่นชิ้นไม่ว่าจะเป็นของเล่นท้องถิ่นของญี่ปุ่น, ของเล่นยุคใหม่ และตุ๊กตาดั้งเดิม แถมยังมีโซนที่สามารถสัมผัสและเล่นของเล่นได้จริงๆอีกด้วย บอกเลยว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการพาลูกมาเที่ยวสุดๆ

ที่อยู่:671-3 Nakanino,Koderacho ,Himeji, Hyogo Prefecture
ค่าเข้าชม:บุคคลทั่วไป 600 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย・นักศึกษา 400 เยน, เด็ก (อายุ 4 ปี~) 200 เยน
เวลาทำการ:10:00~17:00 น.
เว็บไซต์หลัก:http://www.japan-toy-museum.org/

6. Himeji Central Park (ฮิเมจิเซ็นทรัลพาร์ค)

姫路S記事

Himeji Central Park (ฮิเมจิเซ็นทรัลพาร์ค) คือ สวนสนุกที่มีทั้งสวนสนุกและสวนสัตว์สไตล์ซาฟารีปาร์คตั้งอยู่ในแห่งเดียวกัน กิจกรรมไดร์ฟทรูซาฟารียอดนิยมช่วยเปิดประสบการณ์สุดตื่นเต้นในการนั่งรถบัสซาฟารีของสวนสัตว์หรือรถส่วนตัวตระเวนชมซาฟารีที่มีทั้งเสือ, สิงโต และช้าง

ที่อยู่:1436-1 Kodani, Toyotomichō Himeji-shi, Hyōgo-ken
ราคา:ผู้ใหญ่ 3,100 เยน, เด็ก (นักเรียนประถม) 1,900 เยน, เด็กเล็ก (อายุ 3 ปี~) 1,200 เยน
เว็บไซต์หลัก:http://www.central-park.co.jp/

ปราสาทฮิเมจิ

【完成】姫路S記事

“ปราสาทฮิเมจิ” คือ ปราสาทที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1346 โดยยังคงหลงเหลือปราการปราสาทซึ่งสร้างขึ้นมาตั้งแต่ก่อนสมัยเอโดะให้ได้ชมกันจนถึงปัจจุบัน จึงว่ากันว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงมาก นอกจากนี้ ปราสาทฮิเมจิก็ยังเรียกกันว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” จากกำแพงสีขาวของมันอีกด้วย

โดยเฉพาะสวนนิชิโนะมารุนั้นเป็นจุดที่สามารถชมปราการปราสาทสีขาวได้โดดเด่นกว่าแห่งอื่น จึงนับเป็นจุดถ่ายรูปปราสาทที่เวิร์คสุดๆ

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ชม「ปราสาทฮิเมจิ」มรดกโลกอายุกว่า 400 ปีของญี่ปุ่น

วิธีการเดินทางจากสถานีฮิเมจิไปยังปราสาทฮิเมจิ

ระยะห่างจากสถานีฮิเมจิและปราสาทฮิเมจิประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเราสามารถนั่งรถบัส เดินเท้า หรือนั่งแท็กซี่มาถึงก็ได้เหมือนกัน ในกรณีที่เดินเท้าใช้เวลาประมาณ 20 นาที

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ประวัติ สิ่งที่น่าสนใจ และการเดินทางไป「ปราสาทฮิเมจิ」จากโอซาก้า เกียวโตไปเช้าเย็นกลับก็ได้

แผนเที่ยวเมืองฮิเมจิ

ต่อไปก็ขอแนะนำแผนเที่ยวเมืองฮิเมจิที่มีประสิทธิภาพกันต่อเลยดีกว่าเนอะ

ช่วงเช้า:ออกเดินทางจากโอซาก้าหรือเกียวโตมาถึงสถานีฮิเมจิ หลังเที่ยวปราสาทฮิเมจิเสร็จก็เดินทางต่อไปยังสวนโคโคเอ็น

ส่วนมื้อกลางวันก็ขอแนะนำให้ลิ้มลอง เนื้อวัวโกเบ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำเฮียวโกะเลยจ้า... บริเวณโดยรอบสถานีฮิเมจิมีร้านสเต็กที่จำหน่ายเนื้อวัวโกเบตั้งอยู่มากมาย

ช่วงบ่าย:เยี่ยมชมโชะชะซังอย่างชิลล์ๆ

ถ้าเกิดใครมีเวลาเที่ยวเหลือเฟือก็ลองแวะไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของเล่นญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทฮิเมจิเล็กน้อยกันดูได้เนอะ ในเดือนพฤษภาคมบอกเลยว่าห้ามพลาดสวนโบตั๋นเซ็นฮิเมะที่เต็มไปด้วยดอกโบตั๋นบานสะพรั่งอย่างงดามด้วยประการทั้งปวง!

ของฝากจากฮิเมจิ

ของฝากจากฮิเมจิเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมอย่างงานหัตถกรรมหนัง “ฮิเมคาวะไซกุ” และ “ลูกข่างฮิเมจิ” บอกเลยว่าของฝากสีสันสดใสสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะกลายเป็นความทรงจำดีๆระหว่างเที่ยวอย่างแน่นอน

โดยเราสามารถหาซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ตามร้านค้าภายในปราสาทฮิเมจิ, บันซังคังด้านหน้าสถานีฮิเมจิ และมิยาเกะคังที่ตั้งอยู่ภายในอาคารสถานีรถไฟ piole HIMEJI

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ของฝากจากฮิเมจิ งานฝีมือดั้งเดิมแสนประณีต เช่น "ลูกข่างฮิเมจิ" และ "งานฝีมือเครื่องหนังฮิเมะ" เป็นต้น

สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวฮิเมจิ

เมืองฮิเมจิมีสภาพอากาศคงที่และแจ่มใสมากเมื่อเปรียบเทียบกับแห่งอื่นๆ แต่ในฤดูร้อนบางวันก็มีอากาศร้อนจัดทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน เนื่องจากช่วงกลางฤดูร้อนบางวันก็มีอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 35 องศา จึงควรเตรียมครีมกันแดดและอุปกรณ์สำหรับรับมือกับโรคลมแดดมาให้พร้อม

ส่วนในฤดูหนาวบางวันก็มีหิมะตกด้วย สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวในฤดูร้อนจึงควรสวมเสื้อผ้าเบาสบาย ส่วนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้เต็มที่เช่นเดียวกัน

ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

เวลาที่เงินสดไม่พอ! สถานที่4แห่งสำหรับแลกเงินในญี่ปุ่น

ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

รู้ไว้ใช่ว่า ช็อปเพลินเงินหมดจะหาตู้กด ATM ได้ที่ไหนบ้าง

สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

รวม 10 ภาษาญี่ปุ่น ที่สามารถใช้ได้ในโรงแรม!

นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ「Japan Connected-free Wi-Fi」แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะเออ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

รวมจุดให้บริการ Japan Connected-free Wi-Fi ในญี่ปุ่น

เอ่อ...แล้วค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด

อ่านเพิ่มเติมได้ที่:

ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (ร้านสะดวกซื้อ,ร้านอาหาร,ร้านซูชิ)

※ ระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารเป็นข้อมูลที่อ้างอิงมาจากเว็บไซต์หลัก โดยเป็นข้อมูล ณ ปัจจุบัน เดือนมีนาคม 2017 โปรดทราบว่าข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายในหลัง

Written by

Previous experience as an editor at a women's media company in Japan. I lived in Australia for a while and joined MATCHA after returning to Japan. In charge of editing, promoting sponsored content, and creative direction. I love watching Western TV series.
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ