AEON MALL Tokoname ศูนย์การค้าที่มีออนเซ็นและสนามแข่งรถ! เดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์มาแค่ 3 นาที

รวมทุกข้อมูลนาโกย่า (Nagoya) วิธีเดินทาง แหล่งท่องเที่ยว ของฝาก

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

นาโกย่า (Nagoya) ในจังหวัดไอจิ (Aichi) เป็นเมืองขึ้นชื่อด้านวัฒนธรรมอาหารการกินสุดมีเอกลักษณ์ทั้งข้าวหน้าปลาไหล หรือหมูทอดซอสมิโสะ เราขอแนะนำทุกข้อมูลทั้งวิธีการเดินทางไปยังนาโกย่า การเดินทางภายในเมือง และแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อห้ามพลาด

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

นาโกย่า

愛知県名古屋市観光ガイド。アクセス、名所、おみやげ情報などまとめ

จังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูบุใจกลางของประเทศญี่ปุ่น มีนาโกย่า (Nagoya) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเหมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวและการเดินทางของจังหวัดและทั้งภูมิภาค

นาโกย่า เป็นเมืองแห่งอาหารการกินสุดเอกลักษณ์ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเมนูเฉพาะมากมาย เราเรียกเมนูสุดเอกลักษณ์ที่มีต้นกำเนิดในนาโกย่าว่า นาโกยย่าเมชิ มีเมนูขึ้นชื่อ เช่น ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมาบูชิ หมูทอดมิโซะคัตสึ ปีกไก่ทอดเทบาซากิ และอื่นๆ ทำให้ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนนาโกย่าโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลิ้มลองอาหารรสเลิศกันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์อีกด้วย เช่น ภายในศาลเจ้าอาสึตะจิงกู มีการเก็บรักษา คุซานากิโนะสึรุกิ ดาบล้ำค่าของ ยามาโตะ ทาเครุ บุคคลที่ปรากฏอยู่ในตำนานเทพนิยายของญี่ปุ่นเอาไว้ด้วย

ในครั้งนี้เราก็ได้รวบรวมวิธีการเดินทางไปยังนาโกย่า วิธีการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมือง และแหล่งท่องเที่ยวแนะนำมาไว้ที่นี่แล้วล่ะค่ะ ^^

สารบัญ :

1.วิธีการเดินทางเข้าเมืองนาโกย่า
2.ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวนาโกย่า
3.ไกด์แนะนำโซนต่างๆภายในเมืองนาโกย่า
4.ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวนาโกย่า
5.12 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในนาโกย่า
6.แผนเที่ยวนาโกย่า
7.งานอีเว้นท์และงานเทศกาลในนาโกย่า
8.ของฝากจากนาโกย่า
9.โรงแรมที่พักในนาโกย่า
10.อาหารการกินในนาโกย่า
11.คาเฟ่ในนาโกย่า
12.สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวนาโกย่า
13.ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

วิธีการเดินทางเข้าเมืองนาโกย่า

ก่อนอื่น เรามาพูดถึงวิธีการเดินทางไปยังนาโกย่ากันก่อนดีกว่าเนอะ

ตามที่ได้พูดถึงกันไปก่อนหน้านี้ว่านาโกย่าตั้งอยู่เกือบใจกลางของหมู่เกาะญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากมีการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะทั้งสายรถไฟชินคันเซ็น ทางด่วน และเส้นทางการบินเอาไว้อย่างครอบคลุม ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองที่สามารถเดินทางมาจากทั่วประเทศได้อย่างสะดวกสบายกว่าแห่งอื่นๆ

โตเกียว⇔นาโกย่า : รถไฟ

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปยังนาโกย่าอย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุดก็ขอแนะนำเป็น "ชินคันเซ็น" เลยค่ะ

ชินคันเซ็นเริ่มวิ่งให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่เป็นประจำ โดยเราสามารถนั่งชินคันเซ็นจากสถานีโตเกียวมาถึงสถานีนาโกย่าได้ในราคาประมาณ 10,000 - 15,000 เยน / เที่ยว ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง แถมยังมีขบวนรถไฟให้บริการมากมายอีกต่างหาก จึงทำให้วางแผนเที่ยวได้ง่ายดีต่อใจนักท่องเที่ยวอย่างเราสุดๆ

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังนาโกย่า

ส่วนรถบัสด่วนวิ่งให้บริการตามเส้นทางของป้ายรถบัสที่กำหนดไว้และตามสถานีเทอมินอลขนาดใหญ่ ค่าโดยสารมีราคาถูกเพียงแค่ประมาณ 2,200 - 8,000 เยนเท่านั้นเอง

นอกจากนี้ เนื่องจากรถบัสจอดป้ายสถานีนาโกย่า เราจึงสามารถเดินทางต่อไปยังจุดมุ่งหมายถัดไปได้อย่างสะดวกสบายทันทีที่ลงจากรถบัส รถบัสด่วนส่วนใหญ่วิ่งให้บริการตอนกลางคืน ดังนั้น การได้เดินทางระหว่างช่วงเวลานอนจึงช่วยประหยัดค่าที่พักได้ทั้งคืนเลยทีเดียว แถมยังไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย ถึงแม้จะใช้ระยะเวลาในการเดินทางค่อนข้างนานประมาณ 5 – 7 ชั่วโมง แต่ในปัจจุบันก็เริ่มมีรถบัสเบาะกว้างนั่งสบายเพิ่มมากขึ้น บริษัทรถบัสบางแห่งก็ยังจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างผ้าห่ม, หมอนขนาดเล็ก, เบาะรองหลัง, รองเท้าสลิปเปอร์ และแปรงสีฟันเอาไว้ให้อย่างครบครัน จึงทำให้การเดินทางยิ่งสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก แต่เนื่องจากเป็นการเดินทางที่ใช้เวลานาน สำหรับใครที่กลัวเมารถจึงควรเตรียมยาแก้เมามาให้พร้อม

Compare and book highway buses from Tokyo to Nagoya. Kosokubus.com

โตเกียว⇔นาโกย่า : รถเช่า

ส่วนใครที่ต้องการขับรถไปยังนาโกย่าขอแนะนำให้ใช้บริการ Tomei Expressway (ทางพิเศษโทเม) จะสะดวกที่สุด สำหรับนักท่องเที่ยวก็ลองเก็บตัวเลือกรถเช่าเอาไว้พิจารณากันได้เนอะ

ค่าทางด่วนตกประมาณ 4,980 - 7,110 เยน แต่ราคานี้ยังไม่รวมค่าเช่ารถนะจ๊ะ... ยิ่งผู้ร่วมเดินทางเยอะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหารได้ราคาถูกมากขึ้นเท่านั้น ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ยิ่งถ้าเกิดมีคนที่ขับรถเป็นเยอะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายเข้าไปอีก แถมเรายังสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางโดยแวะตามสถานที่ต่างๆระหว่างทางได้อย่างอิสระอีกด้วยซึ่งนับเป็นข้อดีสุดยอดของวิธีการขับรถเที่ยวเองเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากมีโอกาสประสบกับปัญหารถติดทำให้แผนเที่ยวรวน หลงทาง หรือในกรณีที่แย่ที่สุดคือเกิดอุบัติเหตุเพราะไม่ชินเส้นทางได้ จึงควรระวังให้ดี

เกียวโต⇔นาโกย่า

เราสามารถนั่งชินคันเซ็นจากสถานีเกียวโตมาถึงสถานีนาโกย่าได้โดยใช้เวลาประมาณ 40 – 50 นาที ค่าโดยสาร 5,070 เยน

โอซาก้า⇔นาโกย่า

ในกรณีที่วางแผนเดินทางจากโอซาก้ามาถึงนาโกย่าขอแนะนำให้นั่งชินคันเซ็นจาก Shin-Osaka Station มาถึงสถานีนาโกย่าเลยจ้า... ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสาร 5,830 เยน

ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวนาโกย่า

【完成】名古屋

ภายในเมืองนาโกย่ามีการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะขึ้นมาอย่างครอบคลุมไปว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน, รถบัส และรถไฟ เป็นต้น ทำให้เราสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย เดี๋ยวเรามาแนะนำวิธีการเดินทางแต่ละประเภทกันหน่อยดีกว่า

รถไฟใต้ดิน

พาหนะหลักของนาโกย่าเลยก็คือ "รถไฟใต้ดิน" นั่นเอง รถไฟใต้ดินเมืองนาโกย่าประกอบด้วย 6 สายด้วยกันคือ Higashiyama Line, Meijo Line, Meiko Line, Tsurumai Line, Sakura-dori Line และ Kamiiida Line โดย Meijo Line ได้เปิดตัวโฉมใหม่เป็นเส้นทางวงกลมในเดือนตุลาคม ปีเฮเซที่ 16

เนื่องจาก Meijo Line สายวงแหวนเชื่อมต่อกับสายรถไฟใต้ดินทุกสาย เช่น Sakae Station, Motoyama Station และ Kanayama Station เป็นต้น เราจึงสามารถเปลี่ยนสายรถไฟท่องเที่ยวภายในเมืองได้อย่างสะดวกสบายสุดๆ แหล่งท่องเที่ยวหลักๆภายในเมืองตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดินประมาณเดินเท้ามาถึงได้ แค่นี้ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ใช้บริการรถไฟใต้ดินแล้วล่ะค่ะ ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินเขตหนึ่ง 200 เยน เขตห้า 330 เยน

รถไฟ (JR, Meitetsu, Kintetsu Railway)

รถไฟภายในเมืองนาโกย่าประกอบด้วย 3 บริษัทด้วยกันคือ JR, Meitetsu ที่เชื่อมระหว่างจ.ไอจิ - จ.กิฟุ และ Kintetsu Railway ที่เชื่อมระหว่างจ.มิเอะ - คันไซ สถานีรถไฟที่เชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินประกอบด้วย Nagoya Station และ Kanayama Station ของ Tokaido Line / Nagoya Station, Kanayama Station, Tsurumai Station, Chikusa Station และ Ozone Station ของ Chuo Line ส่วน Meitetsu เราสามารถเปลี่ยนขบวนได้ที่ Nagoya Station, Kanayama Station, Sakae Station หรือ Ozone Station เนื่องจาก Tsurumai Line ขยับขยายไปยัง Akaike Station และ Kamiotai Station ทั้งคู่ เราจึงสามารถเดินทางไปทางฝั่งเมืองอินุยามะและเมืองโทโยตะได้อย่างสะดวกสบาย

Kintetsu Railway ที่วิ่งให้บริการมาจากจ.มิเอะ, นารา และโอซาก้านั้นเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดินที่ Hatta station และ Nagoya Station เนื่องจากภายในสถานีรถไฟมีป้ายนำทางติดเอาไว้ให้ด้วย จึงขอให้เพื่อนๆเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพโดยเช็คข้อมูลจากป้ายให้ดีกันนะคะ ^^

รถบัส

สำหรับใครที่วางแผนตระเวนเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในเมืองนาโกย่าก็ขอแนะนำให้ใช้บริการรถบัสท่องเที่ยวเมืองนาโกย่าอย่าง Nagoya Sightseeing Routebus Meguru จะคุ้มสุดๆ โดยเฉพาะยิ่งถ้าเกิดซื้อตั๋ว 1-day Pass Ticket เราก็จะสามารถขึ้น-ลงรถบัสเมกุรุได้อย่างไม่จำกัดภายในระยะเวลา 1 วันและได้รับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอีกด้วย

【1 เที่ยว】
ผู้ใหญ่ : 210 เยน เด็ก : 100 เยน

【1 Day Pass Ticket (ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขึ้น-ลงรถบัสไม่จำกัดภายใน 1 วัน)】
ผู้ใหญ่ : 500 เยน เด็ก : 250 เยน

รถบัสเมืองมีบัสเทอมินอลหลักอยู่ที่ Nagoya Station และ Sakae Station ค่าโดยสารรถบัสเมือง 210 เยนตลอดสาย นอกจากนี้ ตามสถานีรถไฟใต้ดินหลักๆก็ยังมีบัสเทอมินอลเป็นของตัวเองด้วยนะเออ... ทำให้เส้นทางรถบัสครอบคลุมไปทั่วทั้งเมืองเลยทีเดียว จากศูนย์บริการรถบัส Meitetsu ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีนาโกย่ามี Meitetsu Bus และรถบัสด่วนแสนสะดวกวิ่งให้บริการ

สำหรับใครที่อยากท่องเที่ยวในราคาสุดคุ้มก็ขอแนะนำเป็นตั๋ว 1-day Pass Ticket เลยจ้า... เนื่องจากมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบด้วยกันประกอบด้วยสำหรับรถบัส, สำหรับรถไฟใต้ดิน หรือแพ็คคู่สำหรับรถบัสและรถไฟใต้ดิน เราจึงสามารถเลือกใช้ตามแผนเที่ยวได้อย่างอิสระ แถมยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งภายในเมืองนาโกย่าเพียงแค่โชว์ตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

รถจักรยาน

นาโกย่าเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวและเขตชุมชนเมืองเอาไว้ภายในพื้นที่แคบถึงขนาดว่าเพียงแค่มีจักรยานก็สามารถเดินทางไปไหนก็ได้ภายในเมืองเลยทีเดียว เนื่องจากที่นี่มีร้านเช่าจักรยานให้บริการด้วย จึงขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถดำเนินการต่างๆได้อย่างคล่องตัวเลยค่ะ ^^

ไกด์แนะนำโซนต่างๆภายในเมืองนาโกย่า

1. โซนสถานีรถไฟนาโกย่า

ภายในสถานีนาโกย่าซึ่งเป็นสถานีจอดของชินคันเซ็นแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหุ่นโชว์ขนาดยักษ์สัญลักษณ์ของนาโกย่าที่ชื่อว่า "นานะจัง" โดยเสื้อผ้าของเจ้าตุ๊กตานานะจังนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล เช่น เสื้อผ้าของตัวการ์ตูนในอนิเมะ จนเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งนาโกย่าเลยก็ว่าได้ โดยบริเวณโดยรอบเป็นเขตความเจริญที่เต็มไปด้วยช้อปปิ้งมอลล์มากมาย

2. โซนซากาเอะ

ส่วนโซนซากาเอะมีแลนด์มาร์คเป็น "หอคอยนาโกย่าทีวีทาวเวอร์" ที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในสวนฮิซายะโอโดริ โดยเป็นย่านชุมชนอันดับ 1 ของนาโกย่าซึ่งเป็นที่ตั้งของคาเฟ่แหล่งรวมวัยรุ่นและร้านจำหน่ายวัตถุดิบอาหารชั้นเลิศยอดนิยม เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านอาหารรสเลิศมากมาย จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไปโดยปริยาย

3. โซนฟุชิมิ・โอสุ

โซนฟุชิมิ・โอสุเป็นทั้งแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมและแหล่งรวมวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของนาโกย่า โดยมีการรับวัฒนธรรมเข้ามามากมายตั้งแต่วัฒนธรรมหลักไปจนถึงวัฒนธรรมย่อยเลยทีเดียว แถมที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองอีกต่างหาก จึงบอกเลยว่าเป็นโซนเอาใจผู้หลงใหลในความสวยงามเก๋ไก๋จริงๆค่ะ

4. โซนปราสาทนาโกย่า・เส้นทางแห่งวัฒนธรรม (บุงกะโนะมิจิ)

เพียงแค่อ่านชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นโซนแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์เพียบ! โดยเต็มไปด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์มากมายตั้งแต่ "ปราสาทนาโกย่า" แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดลมบนไปจนถึง "สวนโทกุกาวะ" ถึงขนาดเรียกพื้นที่นี้ว่า "เส้นทางแห่งวัฒนธรรม (บุงกะโนะมิจิ)"

ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวนาโกย่า

นาโกย่าเป็นที่ตั้งของศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทั้งหมด 3 แห่งด้วยกันประกอบด้วย Nagoya Station Tourist Information Center (ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสถานีนาโกย่า), Oasis 21 i-Center (โอเอซิส 21 ไอ-เซ็นเตอร์) และ Nagoya Kanayama Tourist Information Center (ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวนาโกย่าคานายามะ) ซึ่งล้วนรองรับภาษาอังกฤษทั้งสิ้น

โดยสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้จาก เว็บไซต์หลัก (http://www.nagoya-info.jp/view/icenter/) ของ NAGOYA-INFO

12 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในนาโกย่า

ต่อไปเรามาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในนาโกย่ากันบ้างดีกว่า~ โดยเพื่อนๆสามารถอ่านประกอบไว้เป็นข้อมูลเวลาวางแผนเที่ยวนาโกย่าได้เลยค่ะ ^^

1. Nagoya Castle (ปราสาทนาโกย่า)

【完成】名古屋

เมื่อเอ่ยถึงสัญลักษณ์ของนาโกย่าแล้วก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ปราสาทนาโกย่าที่มีปลาคินโนะชาจิโฮโกะหรือวาฬสีทองเปล่งประกายอยู่บนยอดปราสาท นั่นเอง

ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1612 หลังถูกไฟไหม้เสียหายจากสงคราม ปราการปราสาทใหญ่ (ประมาณ 48 เมตร) ที่มีวาฬสีทองตั้งตระหง่านอยู่บนยอดและปราการปราสาทเล็ก (ประมาณ 24 เมตร) ก็ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ต่อมาในปี 1959

ภายในปราการปราสาทใหญ่จัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์และภาพวาดฝาผนังสำหรับกั้นห้องซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ตั้งแต่ชั้น 3F ถึง 5F เราจะได้เห็น "โมเดลจำลองวาฬสีทองขนาดของจริง", "สัมผัสประสบการณ์ลากหิน" และ "สัมผัสประสบการณ์นั่งเกี้ยว" รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับ "วิถีชีวิตภายในปราสาทและเมืองรอบปราสาท" ผ่านแสง-เสียงด้วย จึงนับเป็นสถานที่ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับปราสาทนาโกย่าและประวัติศาสตร์ของนาโกย่าได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ยังมีการจัดโชว์ต่อสู้สุดพิเศษต้อนรับนักท่องเที่ยวตรงประตูปราสาทโดย "กองทัพนักรบต้อนรับแห่งนาโกย่า" ผู้บุกเบิกกระแสนิยมของกองทัพนักรบในญี่ปุ่นอีกด้วย ในปัจจุบันอยู่ในระหว่างการบูรณะปฏิสังขรณ์พระราชวังเนินปราสาทภายใน "ซุ้มประตูหน้า・โอโมเตะโชอิน" เริ่มเปิดให้บุคคลทั่วไปชมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2013 เป็นต้นมา เนื่องจากโครงการทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ตามแผนการในปี 2018 รออีกเพียงแค่อีกอึดใจเดียว เราก็จะได้ชมปราสาทนาโกย่าแบบสมบูรณ์กันแล้วล่ะค่ะ

Nagoya Castle (ปราสาทนาโกย่า)
ที่อยู่ : 1-1 Honmaru, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนใจกลางเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : Nagoya Sightseeing Routebus Meguru ป้าย Nagoya-jo (หน้าปราสาทนาโกย่า)
เดินจาก Shiyakusho Station ของ Meijō Line ประตูทางออกหมายเลข 7 ประมาณ 5 นาที
TEL : 052-231-1700 (รับรองภาษาอังกฤษ) / FAX : 052-201-3646 (รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 9 : 00~16 : 30 น. (เปิดให้เข้าชมปราการปราสาทถึงเวลา 16.00 น.)
วันหยุด : 29 ธันวาคม – 1 มกราคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน

2. Tokugawa Garden (สวนโทกุกาวะ)

Tokugawa Garden (สวนโทกุกาวะ) คือ สวนญี่ปุ่นที่มีทางเดินรอบบ่อน้ำสำหรับชมสวน โดยเป็นสไตล์สวนไดเมียวดั้งเดิมที่นิยมสร้างกันใน สมัยเอโดะ ว่ากันว่าบ่อน้ำที่ดูราวกับเป็นทะเลซึ่งกระแสน้ำไหลจากน้ำตกผ่านหุบเขาลงมารวมกันนั้นเป็นสัญลักษณ์ของทัศนียภาพทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ สวนโทกุกาวะแห่งนี้ก็ยังมีเอกลักษณ์อยู่ที่สภาพภูมิศาสตร์ที่มีระดับความสูง-ต่ำแตกต่างกันเป็นอย่างมาก, ป่าสนธรรมชาติ และกองหินขนาดใหญ่ที่มองเห็นเป็นสามมิติอีกด้วย แถมความสง่างามของสวนไดเมียวซึ่งใช้โครงสร้างเป็นทัศนียภาพอันหลากหลายก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของที่นี่เช่นเดียวกัน เราจึงสามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์อันแสนไกลพลางชมพืชพรรณตามฤดูกาลทั้ง 4 ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้อันเขียวขจี, ใบไม้เปลี่ยนสี, ดอกโบตั๋น และดอกฮานาโชบุได้ในแห่งเดียว

Tokugawa Garden (สวนโทกุกาวะ)
ที่อยู่ : 1001 Tokugawachō, Higashi-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนเหนือและโซนตะวันออกของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง :
เดินจาก JR Chūō Line Ōzone Station ประตูทางออกฝั่งใต้ประมาณ 10 – 15 นาที
เดินจากรถไฟใต้ดิน Ōzone Station ของ Meijō Line ประตูทางออกหมายเลข 3 ประมาณ 10 – 15 นาที
TEL : 052-935-8988 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
FAX : 052-937-3847 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 9 : 30~17 : 30 น. (เปิดให้เข้าชมถึงเวลา 17.00 น.)
วันหยุด : วันจันทร์ (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันถัดไปแทน) / วันสิ้นปี-ต้นปี (29 ธันวาคม – 1 มกราคม)
ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 300 เยน・ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ภายในเมืองนาโกย่า (อายุ 65 ปีขึ้นไปหรือเทียบเท่า) 100 เยน・นักเรียนมัธยมต้นลงไปหรือเทียบเท่าเข้าชมฟรี

3. Ōsu Kannon (วัดโอสุคันนอน)

Ōsu Kannon (วัดโอสุคันนอน) แห่งนี้มีชื่อทางการว่า "คิตะโนะยามะ ชินฟุกุจิ โฮโชอิน" โดยเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ "โอสุคันนอน" โบสถ์หลักถูกไฟไหม้เสียหายจากสงครามและได้รับการบูรณธปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในปี 1970 คลังหนังสือโอสุเป็นสถานที่เก็บรักษาหนังสือกว่า 15000 เล่มรวมถึง "โคจิกิ" หนังสือที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติด้วย

Ōsu Kannon (วัดโอสุคันนอน)
ที่อยู่ : 2 Chome-21-47 Ōsu, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนใจกลางเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง :
เดินจาก Ōsu Kannon Station ของ Tsurumai Line ประตูทางออกหมายเลข 2 ประมาณ 3 นาที
TEL : 052-231-6525 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ) / FAX : 052-231-9333 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : ไม่มี
วันหยุด : ไม่มี
ค่าเข้าชม : ฟรี

4. Atsuta Shrine (ศาลเจ้าอาสึตะ)

Atsuta Shrine (ศาลเจ้าอาสึตะ) แห่งนี้เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ "อาสึตะซัง" มาตั้งแต่ในอดีต ในปัจจุบันขึ้นชื่อในฐานะที่เป็นแหล่ง พาวเวอร์สปอต โดยเป็นศูนย์รวมจิตใจและแหล่งรวมความเชื่อมากมายของชาวเมืองนาโกย่าและผู้คนทั่วประเทศ บอกเลยว่าคึกคักไปด้วยผู้แวะเวียนมากราบไหว้สักการะกว่า 6 ล้าน 5 แสนคน / ปีเลยทีเดียว เนื่องจากที่นี่สักการะบูชาดาบ "คุซานางิ โนะ มิตสึรุงิ" 1 ใน "3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น" และเป็นแหล่งสักการะบูชาของผู้คนในราชสำนักและนักรบมาตั้งแต่ในสมัยก่อน ทำให้ที่นี่กลายเป็นศาลเจ้าใหญ่ขึ้นชื่อรองจากศาลเจ้าอิเสะไปโดยปริยาย

Atsuta Shrine (ศาลเจ้าอาสึตะ)
ที่อยู่ : 1 Chome-1-1 Jingu, Atsuta Ward, Nagoya, Aichi Prefecture
โซน : โซนใต้ของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Jingū-mae Station ของ Meitetsu Nagoya Main Line 3 นาที / เดินจาก Jingū-Nishi Station ของ Meijō Line 7 นาที
TEL : 052-671-4151 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)  / FAX : 052-681-0538 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : ศาลเจ้าไม่มี ส่วน Treasure Hall 9 : 00~16 : 30 น. (เปิดให้เข้าชมถึงเวลา 16.10 น.)
วันหยุด : ศาลเจ้าไม่มี ส่วน Treasure Hall ปิดทำการวันพุธสิ้นเดือนและวันถัดไป รวมถึง 25 – 31 ธันวาคม
ค่าเข้าชม : ศาลเจ้าเข้าชมฟรี

5. Arimatsu (เขตอนุรักษ์เมืองอาริมัตสึ)

Arimatsu (เขตอนุรักษ์เมืองอาริมัตสึ) แห่งนี้เป็นโซนที่ยังคงหลงเหลือสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าประจำเมืองนาโกย่าซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเมืองนาโกย่า โดยสร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ สถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาริมัตสึซึ่งยังคงหลงเหลือรูปแบบอาคารอันโอ่อ่าสง่างามก็คือ "คฤหาสน์โอคาเบะเท" นั่นเอง ที่นี่ประกอบด้วยอาคารหลัก 1 หลัง, โรงงาน 1 หลัง และโกดังอีก 2 หลัง โดยได้รับการอนุรักษ์ในฐานะที่เป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์สุดแปลกอันล้ำค่ามากของเมืองนาโกย่า นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบก็ยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมซึ่งยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนเก่าแก่ให้ได้ชมกันอีกด้วย

<Arimatsu (เขตอนุรักษ์เมืองอาริมัตสึ) : Okabetei (โอคาเบะเท)>
ที่อยู่ : 164~165 Ōkanminami Arimatsuchō Ōaza Arimatsu, Midori-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนใต้ของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Arimatsu Station ของ Nagoya Main Line 10 นาที
TEL・FAX : ไม่มี
เวลาทำการ : ไม่มี
วันหยุด : ไม่มี
ค่าเข้าชม : ไม่มี

6. Nagoya Noh Theater (โรงละครโนห์นาโกย่า)

Nagoya Noh Theater (โรงละครโนห์นาโกย่า) คือ สถาปัตยกรรมซึ่งมีเอกลักษณ์อยู่ที่รูปร่างหน้าตาภายนอกอันงดงามสไตล์ญี่ปุ่นเหมาะสมกับการใช้เป็นโรงละครโนห์สุดๆ, เวทีไม้สนฮิโนกิ และพื้นที่กว้างขวางกว่า 630 ที่นั่ง นอกจากเวทีละครโนห์จะใช้สำหรับทำการแสดงดั้งเดิมอย่างโนห์และเคียวเก็นแล้วก็ยังใช้จัดงานต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นงานประชุมนานาชาติและพิธีแต่งงานอีกด้วย เนื่องจากห้องจัดแสดงภายในโรงละครจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเสน่ห์ของละครโนห์ รวมถึงคำอธิบายเกี่ยวกับละครโนห์ของนาโกย่าแบบเข้าใจง่ายผ่านบอร์ดพาแนลและภาพยนตร์ เราจึงสามารถสัมผัสถึงทั้งสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรมได้แบบใกล้ชิดกันเลยทีเดียว

ช่วงเวลาทำการแสดงจะมีบริการอุปกรณ์ไกด์เสียง (ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ) อธิบายเกี่ยวกับการแสดงละครโนห์แจกให้ฟรี

Nagoya Noh Theater (โรงละครโนห์นาโกย่า)
ที่อยู่ : 1-1-1 Sannomaru, Naka Ward, Nagoya, Aichi Prefecture
โซน : โซนใจกลางเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Sengen-chō Station ของ Tsurumai Line ประตูทางออกหมายเลข 1 ประมาณ 10 นาที
เดินจาก Shiyakusho Station ของ Meijō Line ประตูทางออกหมายเลข 7 ประมาณ 12 นาที
TEL : 052-231-0088 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)  / FAX : 052-231-8756 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 9 : 00~17 : 00 น.
วันหยุด : 29 ธันวาคม – 1 มกราคม
ค่าเข้าชม : ห้องจัดแสดง (ฟรี)

7. Nagoya TV Tower (นาโกย่าทีวีทาวเวอร์)

【完成】名古屋

Nagoya TV Tower (นาโกย่าทีวีทาวเวอร์) แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในสวนฮิซายะโอโดริ โซนซากาเอะ ใจกลางเมืองนาโกย่า

จากบนสกายเด็คระดับความสูง 90 เมตรและสกายบัลโคนีระดับความสูง 100 เมตรสามารถชมวิวเมืองนาโกย่าและทิวเขาต่างๆอย่างภูเขาออนทาเกะและภูเขาชิรายามะได้อย่างชัดเจน ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมห้ามพลาดเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นหอคอยปล่อยคลื่นสัญญาณแห่งแรกของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1954 จึงทำให้มันกลายเป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์เช่นเดียวกัน ที่นี่เป็นหอคอยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของชาติเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 2005 โดยเริ่มเปิดให้บริการในรูปแบบโฉมใหม่เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปีเฮเซที่ 24 (ปี 2012) ที่ผ่านมา

Nagoya TV Tower (นาโกย่าทีวีทาวเวอร์)
ที่อยู่ : 3 Chome-6-15 Nishiki, Naka-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนใจกลางเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Hisaya-ōdōri Station ของ Sakura-dōri Line・Meijō Line 5 นาที
เดินจาก Sakae Station ของ Higashiyama Line・Meijō Line 5 นาที
TEL : 052-971-8546 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ) / FAX : 052-961-0561 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : เดือนมกราคม - เดือนมีนาคม 10 : 00~21 : 00 น., เดือนเมษายน - เดือนธันวาคม 10 : 00~22 : 00 น. (เปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนปิดทำการ 20 นาที)
วันหยุด : ไม่มี (มีวันปิดซ่อมบำรุง 1 ครั้ง / ปี)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไปหรือเทียบเท่า 700 เยน

8. Nagoya City Science Museum (พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า)

Nagoya City Science Museum (พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า) แห่งนี้เพิ่งเปิดให้บริการอาคารใหม่ที่มี Brother Earth โดมหอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดโลกเส้นผ่าศูนย์กลางว่า 35 เมตรไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011 ที่ผ่านมาก

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่ามีดีไซน์ภายนอกสไตล์โดมลูกโลกสุดล้ำ โดยประกอบด้วยงานจัดแสดงแสนสนุกขนาดใหญ่ถึง 4 อย่างด้วยกัน เช่น ห้องฉายภาพปรากฏการณ์ออโรร่าท่ามกลางอุณหภูมิ -30 องศาและอุปกรณ์สร้างพายุทอร์นาโดเทียมสูงกว่า 9 เมตร เป็นต้น เราจึงจะได้ทั้งเรียนรู้และเพลิดเพลินกับวิทยาศาสตร์ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ใช่แค่ตามองเท่านั้น!

Nagoya City Science Museum (พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า)
ที่อยู่ : Shirakawa Park (ป่าศิลปะและวิทยาศาสตร์), 2 Chome-17-1 Sakae, Naka Ward, Nagoya, Aichi Prefecture
โซน : โซนใจกลางเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสเมืองไปลงป้าย Hirokoji Fushimi แล้วเดินต่ออีก 5 นาที / เดินจาก Fushimi Station ของ Higashiyama Line・Tsurumai Line ประตูทางออกหมายเลข 5 ประมาณ 5 นาที
TEL : 052-201-4486 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)  / FAX : 052-203-0788 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 9 : 30~17 : 00 น. (เปิดให้เข้าชมถึงเวลา 16.30 น.)
วันหยุด : วันจันทร์ (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันธรรมดาถัดไปแทน) ・วันศุกร์ที่ 3 (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันศุกร์ที่ 4 แทน)・วันสิ้นปี-ต้นปี
ค่าเข้าชม : ห้องจัดแสดงและหอดูดาว ผู้ใหญ่ 800 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 500 เยน เฉพาะห้องจัดแสดงเท่านั้น ผู้ใหญ่ 400 เยน, นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษา 200 เยน, นักเรียนมัธยมต้นลงไปหรือเทียบเท่าเข้าชมฟรี

9. Nagoya City Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองนาโกย่า)

Nagoya City Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองนาโกย่า) คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะสุดเอกลักษณ์ที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนในโลก โดยจัดแสดงสมบัติอันล้ำค่าของตระกูลโอวาริ โทกุกาวะซึ่งรับบริจาคมาจากขุนนาง "โทกุกาวะ โยชิจิกะ" โดยสมบัติของ "โทกุกาวะ อิเอยาสึ" รวมถึงมรดกตกทอดจาก "โยชินาโอะ" ผู้ก่อตั้งตระกูลรุ่นแรกและสิ่งของที่ทางตระกูลใช้กันจริงๆในชีวิตประจำวันซึ่งทางพิพิธภัณฑ์เก็บรวบรวมเอาไว้ทั้งหมดมีจำนวนรวมมากกว่า 1 หมื่นหลายพันชิ้นเลยทีเดียว

Nagoya City Art Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองนาโกย่า)
ที่อยู่ : 1017 Tokugawachō, Higashi-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนตะวันออกของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Ōzone Station ของ JR Chūō Line ประตูฝั่งใต้ 15 นาที / นั่งรถบัสเมืองจากสถานีนาโกย่าประมาณ 30 นาที
TEL : 052-935-6262 (รองรับภาษาอังกฤษ)  / FAX : 052-935-6261 (รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 10 : 00~17 : 00 (เปิดให้เข้าชมได้ถึงเวลา 16 : 30 น.)
วันหยุด : วันจันทร์ (ในกรณีที่วันจันทร์ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันถัดไปแทน), ช่วงกลางเดือนธันวาคม – ต้นปี
ค่าเข้าชม : บุคคลทั่วไป 1,200 เยน (1,000 เยน)

10. SCMaglev and Railway Park (พิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า)

SCMaglev and Railway Park (พิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า) ที่เปิดให้บริการในวันที่ 14 มีนาคม ปีเฮเซที่ 23(ปี2011) แห่งนี้เป็นสถานที่นำเสนอ "ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง" ผ่านการจัดแสดงขบวนรถไฟตั้งแต่รถไฟธรรมดาไปจนถึงรถไฟแม่เหล็กหรือแม็กเลฟ โดยเน้นไปที่ Tokaido Shinkansen ซะส่วนใหญ่ โดยมีทั้งโมเดลจำลองรถไฟขนาดเล็กอันแสนละเอียดประณีตและกิจกรรมจำลองการขับชินคันเซ็น ทำให้เราสามารถเรียนรู้และเพลิดเพลินกับโครงสร้างและประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าของรถไฟญี่ปุ่นได้อย่างจุใจ

SCMaglev and Railway Park (พิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า)
ที่อยู่ : 3 Chome-2-2 Kinjofuto, Minato Ward, Nagoya, Aichi Prefecture
โซน : โซนใต้ของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟไปลงที่ Kinjofuto Station ของ Aonami Line แล้วเดินต่ออีก 2 นาที
TEL : 052-389-6100 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 10 : 00-17 : 30 น. (เปิดให้เข้าชมถึงเวลา 17.00 น.)
วันหยุด : วันอังคาร (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันถัดไปแทน)・28 ธันวาคม – 1 มกราคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, นักเรียนประถม มัธยมต้น และมัธยมปลาย 500 เยน, เด็กเล็ก (อายุ 3 ขวบหรือมากกว่า) 200 เยน
※ ซิมูเลเตอร์มีกิจกรรมจับฉลากแบบเสียเงิน

11. Higashiyama Zoo and Botanical Gardens (สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะ)

Higashiyama Zoo and Botanical Gardens (สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะ) แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาสัตว์น้อย-ใหญ่มากกว่า 500 สายพันธุ์ เช่น โคอาล่า เป็นต้น โดยมีทั้งอาคาร "เซไค โนะ เมดากะคัง" แหล่งรวมปลาซิวข้าวสารญี่ปุ่นและ "ชิเซ็นโดบุตสึคัง" สำหรับชมวิถีชีวิตของเหล่าสัตว์หากินตอนกลางคืน นอกจากนี้ก็ยังมี "โคโดโมะโดบุตสึเอ็น" สำหรับเล่นกับสัตว์ตัวเล็กน่ารักอีกด้วย โดยเป็นงานจัดแสดงยอดนิยมในหมู่เด็กๆผู้ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบกับเหล่าสัตว์ในชีวิตประจำวัน ส่วนภายในสวนพฤกษศาสตร์เต็มไปด้วยพืชพรรณกว่า 7,000 ชนิดในเรือนกระจก โดยมีไฮไลท์มากมายไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้ตามฤดูกาลและสวนญี่ปุ่นที่สามารถเพลิดเพลินกับเสียงนกร้องท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบได้ เนื่องจากภายในสวนมีสวนสนุกด้วย จึงบอกเลยว่าคุณหนูๆทั้งหลายห้ามพลาดจ้า...

Higashiyama Zoo and Botanical Gardens (สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์ฮิกาชิยามะ)
ที่อยู่ : 3 Chome-70 Higashiyama Motomachi, Chikusa-ku, Nagoya-shi, Aichi-ken
โซน : โซนตะวันออกของเมืองนาโกย่า
วิธีการเดินทาง : เดินจาก Higashiyama Kōen Station ของ Higashiyama Line ประตูทางออกหมายเลข 3 ประมาณ 3 นาที
เดินจาก Hoshigaoka Station ของรถไฟใต้ดิน Higashiyama Line ทางออกหมายเลข 6 ประมาณ 7 นาที
TEL : 052-782-2111 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ) / FAX : 052-782-2140 (ไม่รองรับภาษาอังกฤษ)
เวลาทำการ : 9 : 00~16 : 50 น. (เปิดให้เข้าชมถึงเวลา 16.30 น.)
วันหยุด : ทุกวันจันทร์ (ในกรณีที่วันจันทร์ตรงกับวันหยุดจะเลื่อนเป็นวันธรรมดาถัดไปแทน)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน, นักเรียนมัธยมต้นหรือเทียบเท่าเข้าชมฟรี

12. นานะจัง

"ตุ๊กตานานะจัง" หุ่นโชว์ขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าอาคาร Meitetsu Young Building เป็นจุดนัดพบภายในสถานีนาโกย่าที่มีชื่อเสียง โดยเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ "นานะจัง" หุ่นโชว์ตัวนี้ถูกนำมาตั้งเอาไว้เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีของอาคาร Seven Hall ในปี 1973 เสื้อผ้าของนานะจังจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นชุดว่ายน้ำหรือชุดคอสเพลย์ตัวละครจากอนิเมะ แถมยังมีบทบาทสำคัญตามงานอีเว้นท์ต่างๆอีกด้วย ความจริงแล้วเสื้อผ้าของนานะจังอาจเกี่ยวข้องกับห้างสรรพสินค้าเมเท็ตสึหรือกิจกรรมเพื่อสังคมและการกุศลด้วย ยังไงเพื่อนๆก็ลองแวะมาชม「นานะจัง」ในเสื้อผ้าสุดพิเศษเฉพาะช่วงเวลากันให้ได้นะคะ

แผนเที่ยวนาโกย่า

"นาโกย่า" เป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายละลานตา อุตส่าห์มาถึงนาโกย่าแล้วก็ต้องเที่ยวให้คุ้มกันหน่อย ต่อไปเราจะมาแนะนำแผนเที่ยวนาโกย่าอย่างมีประสิทธิภาพกันค่ะ สำหรับใครที่สนใจก็สามารถอ่านประกอบไว้เป็นข้อมูลตอนวางแผนเที่ยวนาโกย่าได้เลย ^^

นั่งรถบัสท่องเที่ยว "เมกุรุ" แสนสะดวกตระเวนเที่ยวนาโกย่าตลอดทั้งวัน! เส้นทางของรถบัสท่องเที่ยวเมกุรุ

【完成】名古屋

Nagoya Sightseeing Routebus Meguru คือ รถบัสท่องเที่ยวนาโกย่าที่วิ่งให้บริการรับ-ส่งตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในเมืองนาโกย่า โดยเฉพาะถ้าเกิดซื้อตั๋ว 1-day Pass Ticket เราก็จะสามารถนั่งรถบัสเมกุรุได้อย่างไม่จำกัดภายในระยะเวลา 1 วัน แถมยังได้สิทธิพิเศษส่วนลดค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆอีกต่างหาก รับรองว่าถ้าหากใช้บริการรถบัสท่องเที่ยวเมกุรุจะทำให้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวภายในเมืองนาโกย่าได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่ากันอย่างแน่นอน

★ ออกเดินทางในช่วงเช้า

① พบกับนานะจังที่สถานีนาโกย่า : ก่อนอื่นห้ามพลาดถ่ายรูปแฟชั่นสุดเก๋ไก๋ของ "นานะจัง" จุดนัดพบสัญลักษณ์ประจำสถานีนาโกย่าเด็ดขาด! โดยเสื้อผ้าของนานะจังจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาลน่าสนใจสุดๆ

② เดินเล่นชมสวนโนริทาเกะ : ที่นี่เปิดให้บริการในปี 2001 เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัทผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาและกระเบื้องเคลือบ "โนริทาเกะ" นอกจากเราจะสามารถเพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จัดแสดงOld-Noritakeและโรงงานผลิตโนริทาเกะแล้วยังมีกิจกรรมตกแต่งลวดลายให้กับโนริทาเกะอีกต่างหาก แถมภายในร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์โนริทาเกะแหล่งรวมภาชนะและอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารก็ยังเป็นที่ตั้งของเอ้าท์เลทอีกด้วย จึงเหมาะกับการแวะมาหาซื้อของฝากสุดๆ เท่านั้นยังไม่พอ เพราะว่าร้านอาหารและคาเฟ่ที่ใช้ภาชนะของโนริทาเกะก็มาจ้า... ทั้งอาคารปราศจากสิ่งกีดขวางเอาใจทั้งผู้พิการและผู้สูงอายุดีต่อใจจริงๆ

③ เยี่ยมชมปราสาทนาโกย่า : สัญลักษณ์แห่งนาโกย่าที่ไม่มีใครไม่รู้จักกันอย่างแน่นอน โดยเราจะได้เรียนรู้ข้อมูลอันล้ำค่าที่จัดแสดงภายในปราสาทและวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นในสมัยก่อนซึ่งนับว่าเป็นการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของนาโกย่าขึ้นไปอีกขั้น

④ พักทานอาหารกลางวัน (ของขึ้นชื่อประจำนาโกย่า "ฮิตสึมาบูชิ") : "ฮิตสึมาบูชิ" ที่มีต้นกำเนิดในดินแดนปลาไหลอย่าง "จ.ไอจิ" เป็นเมนูขึ้นชื่อประจำนาโกย่าเลยก็ว่าได้ ปลาไหลแล่บางย่างซอสโปะหน้าข้าวสวยภายในกล่องขนาดใหญ่มีปริมาณเน้นๆเต็มอิ่ม โดยตักข้าวและปลาไหลภายในกล่องแบ่งลงในชามแยกรับประทาน ก่อนอื่นขอแนะนำให้รับประทานเปล่าๆเพื่อเพลิดเพลินกับรสชาติดั้งเดิมของปลาไหลก่อนแล้วค่อยโรยเครื่องเทศหรือผักอย่างวาซาบิ, ต้นหอม และสาหร่ายปรุงรสให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ต่อจากนั้นก็รินน้ำซุปดาชิทำเป็นโอฉะซึเคะรับประทานในเวอร์ชั่นรสสัมผัสลื่นคล่องคอเลยจ้า บอกเลยว่าเมนูนี้ต้องลิ้มลองกันให้ได้สักครั้ง!

⑤ สวนโทกุกาวะ : ไหนมาเดินเล่นชิลล์ๆภายในสวนเก่าแก่กันหน่อยดีกว่า ที่นี่เป็นสวนสุดสง่างามในดวงใจของโทกุกาวะโคซึ่งสามารถดื่มด่ำกับช่วงเวลาที่ผันแปรไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ได้อย่างช้าๆ

⑥ นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ : ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามจากบนจุดชมวิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แน่นอนว่าเราจะได้เห็นทั่วทั้งเมืองนาโกย่าไปจนถึงทิวเขาในบริเวณโดยรอบเลยทีเดียว

⑦ แวะพักผ่อนที่โคเมดะคาเฟ่ : โคเมดะคาเฟ่ซึ่งมีต้นกำเนิดในนาโกย่าแห่งนี้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับกาแฟปริมาณคับแก้ว เพื่อนๆคนไหนอยากลิ้มลองชิโรโนวารุและแพนเค้กแซนวิชคู่กันบ้างเอ่ย? เพียงแค่ได้พักผ่อนชั่วครู่ก็ช่วยยกระดับความฟินในการท่องเที่ยวขึ้นไปอีกระดับ

⑧ ตอนเย็น เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและมื้อค่ำที่ซากาเอะและโอสุ
"ซากาเอะ・โอสุ" ย่านชุมชนภายในเมืองนาโกย่าแห่งนี้เป็นแหล่งรวมร้านค้าและศูนย์การค้ามากมาย ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้อย่างจุใจ โดยเป็นโซนที่ยังคงสว่างไสวแม้ในยามค่ำคืน ทำให้เราสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศสุดคึกคักของนาโกย่าได้ บอกเลยว่าขาช้อปห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

งานอีเว้นท์และงานเทศกาลในนาโกย่า

ภายในนาโกย่ามีการจัดงานเทศกาลต่างๆขึ้นมากมายซึ่งเดี๋ยวเราจะมาแนะนำกันต่อไปจ้า...

Wakamiya Festival (งานเทศกาลวากามิยะ)

Wakamiya Festival (งานเทศกาลวากามิยะ) คือ งานเทศกาลแสดงละครหุ่นกลไกสุดแปลกซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปีที่ Wakamiya Hachimansha (ศาลเจ้าวากามิยะฮาจิมันฉะ) ตรงสถานีรถไฟใต้ดิน Yabachō Station

Kisogawa Ukai (งานเทศกาลคิโซกาวะอุไค)

Kisogawa Ukai (งานเทศกาลคิโซกาวะอุไค) คือ งานเทศกาลสอนนกกาน้ำจับปลาที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน – 15 ตุลาคมของทุกปี โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับงานเทศกาลขณะโดยสารอยู่บนเรือนำเที่ยวได้อย่างชิลล์ๆ เนื่องจากจำเป็นต้องจองล่วงหน้า จึงขอแนะนำให้เข้าไปอ่านรายละเอียดจากเว็บไซต์หลัก (http://kisogawa-ukai.jp/) เลยจ้า...

Atsuta Festival (งานเทศกาลอาสึตะ)

Atsuta Festival (งานเทศกาลอาสึตะ) คือ งานเทศกาลที่จัดขึ้นใน Atsuta Shrine (ศาลเจ้าอาสึตะ) ตรง Jingū-mae Station ของ Meitetsu หรือ Atsuta Station ของ JR หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Jingū-Nishi Station ในช่วงฤดูฝนเป็นประจำทุกปี เนื่องจากมีกิจกรรมจุดดอกไม้ไฟสุดตระการตาด้วย จึงทำให้มันกลายเป็นงานเทศกาลประจำฤดูฝนขึ้นชื่อไปโดยปริยาย

สำหรับกำหนดการสามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์หลัก (http://www.atsutajingu.or.jp/jingu/)

World Cosplay Summit (เวิลด์คอสเพลย์ซัมมิท)

World Cosplay Summit (เวิลด์คอสเพลย์ซัมมิท) คือ งานมหกรรมคอสเพลย์สุดยิ่งใหญ่ที่เป็นแหล่งรวมตัวของตัวการ์ตูนมากมายจากทั่วโลก

โดยมีกำหนดการจัดขึ้นที่โอเอซิส 21 และศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไอจิในวันที่ 29 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม 2017

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์หลัก (http://www.worldcosplaysummit.jp/)

Nagoya Festival (งานเทศกาลนาโกย่า)

Nagoya Festival (งานเทศกาลนาโกย่า) ที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นงานเทศกาลประจำฤดูใบไม้ร่วงขึ้นชื่อสุดยิ่งใหญ่ โดยเราจะได้พบกับขบวนพาเหรดของผู้คนมากมายกว่า 650 คนซึ่งนำโดย 3 บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างโอดะ โนบุนางะ, โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และโทกุกาวะ อิเอยาสึ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับงานเทศกาลนาโกย่าสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「สัมผัสประสบการณ์ในยุคซามูไร!เที่ยว「งานเทศกาลเมืองนาโกย่า」กับนักเรียนต่างชาติ

Aichi Triennale (งานเทศกาลศิลปะนานาชาติไอจิ)

Aichi Triennale (งานเทศกาลศิลปะนานาชาติไอจิ) คือ งานเทศกาลศิลปะนานาชาติที่จัดขึ้นเพียง 3 ปีครั้งเท่านั้น เนื่องจากเต็มไปด้วยผลงานศิลปะร่วมสมัยมากมาย จึงเป็นที่สนใจของเหล่าวัยรุ่นซะส่วนใหญ่

ของฝากจากนาโกย่า

เมืองแห่งอาหารอย่างนาโกย่าอุดมไปด้วยขนมที่เหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝากเพียบ! ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 7 ของฝากน่าซื้อในนาโกย่ากันค่า~

มันจูสุดน่ารักของร้าน Namikoshiken (นามิโคชิเค็ง)

ขนมมันจูรูปสัตว์แสนน่ารักขนาดพอดีคำมีทั้งรสช็อกโกแลตและรสถั่วแดงกวน

อุยโร

ขนมที่ทำมาจากแป้งข้าวเจ้ารสสัมผัสเหนียวนุ่มสุดฟิน โดยเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำนาโกย่า

คิชิเมนพาย

เนื่องจากมีรสสัมผัสกรุบกรอบและรสชาติหวานน้อย จึงสามารถอิ่มอร่อยได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

คาเอรุมันจู

ไส้ถั่วแดงกวนของคาเอรุมันจูมีรสชาติอร่อยล้ำเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทุกเพศทุกวัย

เซนนาริ

ของว่างที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ "โดรายากิ" ขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น ภายในขนมปังหน้าตาเหมือนกับแพนเค้กนี้สอดไส้ด้วยถั่วแดงกวนแสนอร่อย

โมริคุจิซึเคะ

ขนมที่ได้แนะนำกันไปในข้างต้นมีแต่ขนมหวานๆทั้งนั้นเลย สำหรับใครที่ไม่ชอบทานหวานจึงขอแนะนำเป็น "โมริคุจิซึเคะ" เลยจ้า... หัวไชเท้าดองที่ใช้วัตถุดิบเป็นสาเกลีส์นี้เป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมประจำนาโกย่า

ไดนางน

คาสเทลล่ารสชาติเบาๆสอดไส้ถั่วแดงก็เป็นอีกหนึ่งของว่างชั้นเลิศยอดนิยมที่มีผู้คนย้อนกลับมาทานมากมายเช่นเดียวกัน

นอกจากอาหารการกินแล้วก็ยังมีของฝากยอดนิยมอย่าง "คินโนะชาจิโฮโกะ", "ผ้าอาริมัตสึชิโบริ" และเครื่องปั้นดินเผาอีกด้วย เห็นแบบนี้แล้วถึงกับกลุ้มใจไม่รู้จะซื้ออันไหนกันเลยทีเดียว...

โรงแรมที่พักในนาโกย่า

เนื่องจากนาโกย่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม การจองโรงแรมที่พักล่วงหน้าหรือค้นหาโรงแรมที่พักภายในเมืองจึงอาจมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ถ้าเกิดลองค้นหาดูดีๆก็จะพบว่ามีโรงแรมราคาถูกอยู่มากมายเชียวล่ะค่ะ

Hotel Wing International Nagoya

Hotel Wing International Nagoya คือ โรงแรมธุรกิจที่ตั้งอยู่ห่างจาก Marunouchi Station ประมาณเดินเท้า 1 นาทีและห่างจาก Fushimi Station ประมาณเดินเท้า 4 นาที เนื่องจากสามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกสบาย แถมยังมีราคาถูกที่สุดเลยอีกด้วย จึงนับเป็นโรงแรมล้ำค่าเอาใจคนที่อยากประหยัดค่าที่พักสุดๆ

Nagoya Crown Hotel Aichi

Nagoya Crown Hotel Aichi คือ โรงแรมติดออนเซ็นธรรมชาติ ไหนใครอยากผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวภายในโรงอาบน้ำสาธารณะกันบ้างเอ่ย? โดยขอแนะนำให้ลงแช่ออนเซ็นในตอนเช้าจะฟินมากจ้า!

Nagoya Tokyu Hotel

Nagoya Tokyu Hotel คือ โรงแรมบรรยากาศสไตล์ยุโรปที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองนาโกย่าห่างจาก Sakae Station ประมาณเดินเท้า 8 นาที

อาหารการกินในนาโกย่า

ในนาโกย่าเต็มไปด้วยอาหารการกินขึ้นชื่อมากมายดังที่ได้แนะนำกันไปในข้างต้นไม่ว่าจะเป็นมิโซะคัตสึ, ฮิตสึมาบูชิ, มิโซะนิโคมิอุด้ง, คิชิเมน และเทมมุซุบิ โดยเป็นเมนูที่มีผู้คนชื่นชอบมากมาย จึงเรียกได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเอาใจสายกินเลยก็ว่าได้

"มิโซะคัตสึ" โดยทั่วไปแล้วมักจะราดซอสลงบนเมนูชุบแป้งทอด แต่สำหรับเมืองนาโกย่าแห่งนี้นิยมราดมิโซะรับประทาน โดยเป็นเมนูขึ้นชื่อประจำนาโกย่ายอดนิยมซึ่งมีรสชาติแตกต่างจากเมนูทงคัตสึทั่วไป

ฮิตสึมาบูชิ 」คือ เมนูปลาไหลในแบบฉบับข้าวกล่องเหมือนทั่วไป แต่จะราดน้ำซุปดาชิเพิ่มลงไปด้วย โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่รสสัมผัสลื่นคล่องคอเหมือนกับเมนูโอฉะซึเคะนั่นแหละ คอมโบระหว่างซอสหวานและน้ำซุปดาชิเป็นอะไรที่สุดยอดเกินบรรยาย!

คาเฟ่ในนาโกย่า

นาโกย่าเป็นเมืองต้นกำเนิดวัฒนธรรมคาเฟ่ โดยเฉพาะวัฒนธรรม "มอร์นิ่ง" ที่ขึ้นชื่อมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว โดยเป็นวัฒนธรรมบริการเอาใจลูกค้าที่ถ้าเกิดสั่งเครื่องดื่ม เช่น กาแฟ ก็จะมาเสิร์ฟพร้อมกับไข่หรือขนมปังปิ้งนั่นเอง

คาเฟ่「Komeda (โคเมดะ)」ซึ่งมีต้นกำเนิดในนาโกย่ามีเอกลักษณ์พิเศษแตกต่างจากคาเฟ่แห่งอื่นๆในนาโกย่า ขนมปังปิ้งที่เสิร์ฟด้วยบริการมอร์นิ่งสุดใจดีนั้นสามารถเลือกของกินคู่กันอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ประเภทได้ โดยประกอบด้วยไข่ต้ม, ครีมไข่บด หรือถั่วแดงกวน

ส่วนเมนูยอดนิยมอันดับ 1 เลยก็คือ "ชิโรโนวารุ" เมนูขนมปังเดนิชโปะหน้าด้วยซอฟท์ครีมแสนอร่อยนั่นเอง เราจะได้ดื่มด่ำกับรสหวานเข้มข้นจากซอฟท์ครีมหอมมันละลายในปากบนขนมปังเดนิชร้อนๆจากเตา

สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวนาโกย่า

ฤดูใบไม้ผลิ

ในฤดูกาลนี้มีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำเล็กน้อย แต่เนื่องจากลมไม่แรง ดังนั้น เพียงแค่สวมเสื้อโค้ทบางก็เพียงพอแล้ว เมื่อผ่านช่วงโกลเด้นวีคไปอากาศจะค่อยๆอุ่นขึ้นมาเรื่อยๆก็จริง แต่เนื่องจากช่วงเช้าและช่วงเย็นมีโอกาสที่อากาศจะเย็นลง จึงขอแนะนำให้เตรียมเสื้อคลุมใส่-ถอดง่ายเอาไว้สักตัวจะดีที่สุด

ฤดูร้อน

ฤดูร้อนในนาโกย่าเรียกได้ว่ามีอากาศร้อนจัดเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่นๆในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เนื่องจากมีแดดแรงมาก ดังนั้น ถ้าเกิดใครวางแผนเที่ยวเอ้าท์ดอร์เยอะๆ จึงขอแนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันแสงแดดและโรคลมแดดอย่างหมวกหรือแว่นกันแดด รวมถึงน้ำดื่มกันมาด้วยนะจ๊ะ...

ฤดูใบไม้ร่วง

ช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีอากาศเย็นลงก็จริง แต่ก็ยังคงหลงเหลืออากาศร้อนจัดอยู่ระหว่างวัน ว่ากันว่านาโกย่าเป็นเมืองที่มีฤดูร้อนยาวนาน ดังนั้น ในช่วงกลางวันจึงจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์กันแสงแดดมาเหมือนกับฤดูร้อนเลย แต่ก็อย่าลืมเตรียมเสื้อคลุมสำหรับช่วงเช้าและช่วงเย็นมาด้วยเนอะ

ฤดูหนาว

นาโกย่าเรียกได้ว่าเป็นเมืองที่ฤดูร้อนก็มีอากาศร้อนจัด ส่วนฤดูหนาวก็มีอากาศหนาวจัดเช่นเดียวกัน บอกเลยว่ามีทั้งอากาศหนาวจัดและมีหิมะตกอยู่บ่อยๆเลยทีเดียว จึงควรเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อม

ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

ค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด

ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (ร้านสะดวกซื้อ,ร้านอาหาร,ร้านซูชิ)

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...

เวลาที่เงินสดไม่พอ! สถานที่4แห่งสำหรับแลกเงินในญี่ปุ่น

ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^

รู้ไว้ใช่ว่า ช็อปเพลินเงินหมดจะหาตู้กด ATM ได้ที่ไหนบ้าง

สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้

รวม 10 ภาษาญี่ปุ่น ที่สามารถใช้ได้ในโรงแรม!

นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ「Japan Connected-free Wi-Fi」แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะเออ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย

รวมจุดให้บริการ Japan Connected-free Wi-Fi ในญี่ปุ่น

Written by

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง