ไกด์นำเที่ยวมิเอะแบบจัดเต็ม! 28 แหล่งท่องเที่ยว・การเดินทาง・อาหาร

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน

บทความแนะนำ “จ.มิเอะ” แหล่งท่องเที่ยวแหล่งรวมมรดกโลกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายตั้งแต่ศาลเจ้าอิเสะอายุกว่า 2 พันปี, มรดกโลกคุมาโนะโคโด ไปจนถึงเมืองต้นกำเนิดนินจาอย่างอิกะ โดยตั้งอยู่ตรงใจกลางของเกาะญี่ปุ่น ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลการท่องเที่ยว

บทความโดย

MATCHA-PR

Tokyo, Japan

บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน

“จ.มิเอะ” เป็นแหล่งรวมมรดกโลกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายตั้งแต่ ศาลเจ้าอิเสะ อายุกว่า 2,000 ปี, มรดกโลก คุมาโนะโคโด และเมืองต้นกำเนิดนินจาอย่าง อิกะ โดยตั้งอยู่เกือบใจกลางของหมู่เกาะญี่ปุ่น

นอกจากนี้ก็ยังเต็มไปด้วยไฮไลท์เฉพาะประจำท้องถิ่นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์มากมายอีกต่างหากไม่ว่าจะเป็น ชายฝั่งทะเลแบบเว้าแหว่ง ที่เส้นชายฝั่งทะเลประกอบรวมกันอย่างซับซ้อนจนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงาม และภูเขา แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อ แต่ที่นี่ไม่ได้มีเสน่ห์เพียงแค่การท่องเที่ยวเท่านั้นนะจ๊ะ... เพราะว่าเรายังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นรสเลิศมากมายได้อย่างจุใจอีกด้วย เช่น อาหารทะเลสดใหม่อย่างกุ้งอิเสะ, หอยนางรม, หอยอาวาบิ และเนื้อวัวมัตสึซากะ 1 ใน 3 เนื้อวัวชั้นเลิศของญี่ปุ่น

1.วิธีการเดินทางไปยังมิเอะ
2.สนามบินที่ใกล้ที่สุดของมิเอะ
3.วิธีการเดินทางท่องเที่ยวมิเอะ
4.ข้อมูลโซนต่างๆในมิเอะ
5.28 แหล่งท่องเที่ยวของมิเอะ
6.แผนเที่ยวมิเอะ
7.อาหารในมิเอะ
8.ของฝากจากมิเอะ
9.สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวมิเอะ
10.สำหรับคนที่อยากรู้จักมิเอะมากขึ้นกว่าที่เคย
11.ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

วิธีการเดินทางไปยังมิเอะ

Mie Travel Guide

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังมิเอะ

วิธีการเดินทางโดยเครื่องบิน

◎Haneda Airport (เครื่องบิน) →【Chubu International Airport】 (μ-SKY Limited Express) →【Nagoya Station】 (Kintetsu Limited Express trains หรือ JR Mie Rapid) →【Iseshi Station】

เราสามารถเดินทางจากสนามบินฮาเนดะในโตเกียวไปยังสนามบินนานาชาติจูบุได้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ค่าโดยสารประมาณ 9,000 – 25,000 เยน แล้วก็จาก Nagoya Station มาถึง Iseshi Station สามารถใช้บริการ Kintetsu Limited Express trains หรือ JR Mie Rapid ได้เลยจ้า... ระยะเวลาในการเดินทางโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 4,000 เยน

◎Haneda Airport (เครื่องบิน) →【Chubu International Airport】 (Tsu Airport Line) →【Tsu Nagisamachi】 (Mie Kotsu Limited Express Bus) →【Iseshi Station】

เราสามารถใช้บริการ Tsu Airport Line จากท่าเรือด่วนที่ตั้งอยู่ในสนามบินนานาชาติจูบุไปยังอิเสะได้ด้วยนะเออ... โดยนั่งเรือด่วนไปยัง “Tsu Nagisamachi” ต่อจากนั้นก็เปลี่ยนรถเป็น Mie Kotsu Limited Express Bus เพื่อเดินทางมาถึง Iseshi Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารรวมเรือด่วนและรถบัสด่วน 3,200 เยน

วิธีการเดินทางโดยชินคันเซ็น

◎【Tokyo Station】 (Tokaido Shinkansen Nozomi) →【Nagoya Station】 (Kintetsu Limited Express Trains หรือ JR Mie Rapid) →【Iseshi Station】

ในกรณีที่ต้องการนั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวมาถึงมิเอะ ก่อนอื่นให้นั่ง Tokaido Shinkansen Nozomi ไปยัง Nagoya Station เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็น Kintetsu Limited Express Trains หรือ JR Mie Rapid มาถึง Iseshi Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง – 4 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 13,000 เยน

วิธีการเดินทางจากโอซาก้าไปยังมิเอะ

◎【Osaka Namba Station】 (Kintetsu Limited Express Trains) →【Iseshi Station】

การเดินทางจากโอซาก้ามาถึงมิเอะให้มุ่งหน้าไปยัง Osaka Namba Station ก่อนเลยจ้า... ถ้าเกิดนั่ง Kintetsu Limited Express Trains จาก Osaka Namba Station มาถึง Iseshi Station ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ค่าโดยสารประมาณ 3,000 เยน เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนให้ยุ่งยากแล้วล่ะค่ะ ^^

วิธีการเดินทางจากเกียวโตไปยังมิเอะ

◎【Kintetsu Line · Kyoto Station】 (Kintetsu Limited Express Trains) →【Iseshi Station】

สำหรับใครที่ต้องการเดินทางจากเกียวโตไปยังมิเอะ เพียงแค่ใช้บริการ Kintetsu Limited Express Trains For Kashikojima จาก Kintetsu Line · Kyoto Station เราก็จะสามารถเดินทางมาถึง Iseshi Station ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนแล้ว ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารรวมค่าตั๋วด่วน 3 ,620 เยน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่：

วิธีการเดินทางจากนาโกย่าไปจังหวัดมิเอะ ทริปท่องเที่ยวด้วยรถไฟหรูหรา "รถไฟด่วนพิเศษ ชิมะคาเซะ"

สนามบินที่ใกล้ที่สุดของมิเอะ

ในกรณีที่ต้องการเดินทางจากต่างประเทศมาถึงมิเอะโดยตรงขอแนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงที่ สนามบินนานาชาติจูบุ หรือ สนามบินนานาชาติคันไซ จะสะดวกที่สุด ทั้งคู่เป็นสนามบินที่ตั้งอยู่นอกตัวจังหวัดมิเอะ สนามบินนานาชาติจูบุในจ.ไอจิขอแนะนำสำหรับใครที่อยากแวะไปเที่ยว นาโงย่า หรือ โซนคันโต ด้วย ส่วนสนามบินนานาชาติคันไซในโอซาก้าขอแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปเที่ยว โซนคันไซ อย่าง โอซาก้า หรือ เกียวโต หลังเที่ยวมิเอะ

ไกด์นำเที่ยวมิเอะแบบจัดเต็ม! 28 แหล่งท่องเที่ยว・การเดินทาง・อาหาร

Mie Travel Guide

ยังไงเพื่อนๆก็เลือกใช้สนามบินตามแผนเที่ยวหรือจุดตั้งต้นในการเดินทางกันนะคะ

วิธีการเดินทางจากสนามบินนานาชาติจูบุไปยังมิเอะ (Iseshi Station)

◎【Chubu International Airport Station】 (μ-SKY Limited Express) →【Nagoya Station】 (Kintetsu Limited Express trains หรือ JR Mie Rapid) →【Iseshi Station】

ในกรณีที่ต้องเดินทางจากสนามบินนานาชาติจูบุมาถึงอิเสะสามารถใช้บริการรถไฟได้อย่างสะดวกสบาย ก่อนอื่นให้นั่ง μ-SKY Limited Express (For Meitetsu Gifu) จากสนามบินนานาชาติจูบุไปยัง Nagoya Station และเปลี่ยนขบวนเป็น Kintetsu Limited Express trains หรือ JR Mie Rapid มาลงที่ Iseshi Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง รวมเปลี่ยนขบวนทั้งหมด 1 ครั้ง ค่าโดยสารประมาณ 4,000 เยน

◎【Chubu International Airport】 (Tsu Airport Line) →【Tsu Nagisamachi】 (Mie Kotsu Limited Express Bus) →【Iseshi Station】

นอกจากนี้ เราก็ยังสามารถนั่งเรือ Tsu Airport Line จากท่าเรือด่วนในสนามบินนานาชาติจูบุไปยังอิเสะได้อีกด้วย เพียงแค่นั่งเรือด่วนไปยัง Tsu Nagisamachi และเปลี่ยนรถเป็น Mie Kotsu Limited Express Bus ก็จะสามารถเดินทางมาถึง Iseshi Station ได้แล้วล่ะค่ะ ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารรวมค่าตั๋วเรือด่วนกับรถบัส 3,200 เยน

วิธีการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซไปยังมิเอะ

◎【Kansai International Airport Station】 (Nankai Limited Express Rapit) →【Osaka Namba Station】 (Kintetsu Limited Express trains) →【Iseshi Station】

ในกรณีที่ต้องการเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซมาถึงมิเอะให้นั่ง Nankai Limited Express Rapit (For Nankai Namba) จากสนามบินนานาชาติคันไซไปเปลี่ยนขบวนเป็น Kintetsu Limited Express trains ที่ Osaka Namba Station เพื่อมาลงที่ Iseshi Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง รวมเปลี่ยนขบวนทั้งหมด 1 ครั้ง ค่าโดยสาร 4,550 เยน

วิธีการเดินทางท่องเที่ยวมิเอะ

การเดินทางท่องเที่ยวภายในจ.มิเอะขอแนะนำให้ใช้บริการรถเช่าหรือรถแท็กซี่จะสะดวกมากค่ะ สำหรับใครที่ต้องการนั่งรถไฟเที่ยวจ.มิเอะนิยมใช้บริการรถไฟ Kintetsu Railway ที่สามารถเดินทางไปยัง Ise-Shima ได้อย่างสะดวกสบายและรถไฟ JR ที่เชื่อมต่อกับเมืองอิกะและคุมาโนะโคโด

Mie Travel Guide

ตั๋วฟรีพาสสุดคุ้ม

ถ้าเกิดใช้「Japan Rail Pass」ที่สามารถใช้ขึ้น-ลงรถไฟและรถบัสของบริษัท JR ทั่วญี่ปุ่นได้อย่างไม่จำกัดหรือ「KINTETSU RAIL PASS」ที่สามารถใช้บริการ Kintetsu Railway และ Iga Railway ทุกสายได้อย่างอิสระ เราจะสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายและคุ้มค่าสุดๆเลยล่ะค่ะ

「KINTETSU RAIL PASS」
ราคา：ในกรณีที่ซื้อในญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ 3,800 เยน เด็ก 1,900 เยน / ในกรณีที่ซื้อในต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 3,600 เยน เด็ก 1,800 เยน
อายุการใช้งาน：5 วัน
เว็บไซต์หลัก：http://www.kintetsu.co.jp/foreign/thai/ticket/krp.html

※ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซื้อและรับตั๋วสามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์หลัก「How to purchase discount tickets」

ข้อมูลโซนต่างๆในมิเอะ

โซนอิเสะชิมะ

〔ศาลเจ้าอิเสะ〕© (รัฐวิสาหกิจ) สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ

โซนอิเสะชิมะที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจ.มิเอะแห่งนี้เป็นโซนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น ศาลเจ้าอิเสะ ศาลเจ้าไทฉะที่เรียกกันว่าเป็น “ศูนย์รวมจิตใจของคนญี่ปุ่น”,「โอคาเกะโยโกโจ」ที่ห้ามพลาดหลังสักการะบูชาศาลเจ้าอิเสะ,「เมโอโตะอิวะ」หิน 2 ก้อนที่ลอยอยู่บนทะเลไกลจากชายฝั่ง และอื่นๆอีกมากมาย

นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งจัดงาน G-7 Ise-Shima Summit ปี 2016 อีกด้วย แถมเรายังสามารถเพลิดเพลินกับการชมทัศนียภาพอันงดงามริมชายฝั่งทะเลแบบเว้าแหว่งได้อีกต่างหาก

โซนอิกะ

〔นินจาสายอิกะ〕© (รัฐวิสาหกิจ) สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ

โซนอิกะที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจ.มิเอะแห่งนี้เป็นแหล่งต้นกำเนิดนินจาสายอิกะ โดยเป็น “บ้านเกิดของนินจา” ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ เรายังสามารถสัมผัสความรู้สึกราวกับเป็นนินจาท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์อย่างสวนอุเอโนะซึ่งเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริวและ น้ำตก 48 สายแห่งอาคาเมะ ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์การฝึกฝนของนินจาได้อีกต่างหาก

โซนฮิกาชิคิชู

〔คุมาโนะโคโด〕© (รัฐวิสาหกิจ) สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดมิเอะ

โซนฮิกาชิคิชูที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจ.มิเอะแห่งนี้เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่สนใจมาเที่ยว “คุมาโนะโคโด” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งชมทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามอีกด้วย เช่น ชายหาดชิจิริมิฮามะที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น

โซนจูนันเซ

〔ซากากิบาระ〕© (รัฐวิสาหกิจ) สมาคมการท่องเที่ยวจ.มิเอะ

ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจขึ้นชื่อที่มีทั้ง「ซากากิบาระออนเซ็น」ออนเซ็นชั้นแนวหน้าของญี่ปุ่นและ มัตสึซากะ ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และแหล่งเลี้ยงวัวมัตสึซากาะซึ่งเป็น 1 ใน 3 วัวชั้นนำของญี่ปุ่น

โซนโฮคุเซ

〔นาบานะโนะซาโตะ〕

โซนโฮคุเซที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจ.มิเอะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับกลุ่มเพื่อนและคู่รักไม่ว่าจะเป็น ภูเขาโกไซโฉะ ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีอันแสนงดงาม, นาบานะโนะซาโตะ ทุ่งดอกไม้ที่มีชื่อเสียงเรื่องการจัดอิลลูมิเนชั่นประจำฤดูหนาว, นากาชิมะสปาแลนด์ สวนสนุกขนาดใหญ่, แจ๊สดรีมนากาชิมะ เอาท์เล็ทมอลล์ขนาดใหญ่ และ ซูซูกะเซอร์กิต สถานที่จัดการแข่งขัน F1 กรังปรีซ์

〜28 แหล่งท่องเที่ยวในมิเอะ〜

＜โซนอิเสะชิมะ＞

1. Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ)

Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ) หนึ่งในศาลเจ้าขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วยศาลเจ้าคูฉะกว่า 125 แห่งทั้งในคู (ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน) และเกะคู (ศาลเจ้าอิเสะชั้นนอก) บริเวณในคูประดิษฐาน “อามาเทราสึโอมิคามิ” เทพเจ้าบรรพบุรุษของราชวงศ์ญี่ปุ่น ส่วนเกะคูประดิษฐาน “โทโยอุเคะไดจิงงู” ผู้ดลบันดาลให้อาหารและพืชผลอุดมสมบูรณ์ นอกจากเทพเจ้าทั้ง 2 องค์แล้วก็ยังมีการสักการะบูชาเทพเจ้าอีกมากมายภายในศาลเจ้า

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【มิเอะ】ศาลเจ้าอิเสะ・ที่พึ่งทางใจของคนญี่ปุ่นที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง」

ที่อยู่：1 Ujitachichō, Ise-shi, Mie-ken (ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน)
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Iseshi Station」15 นาที (ในศาลเจ้าอิเสะชั้นใน)
เว็บไซต์หลัก：Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ)

2. Okage Yokocho (โอคาเกะโยโกโจ)　

Okage Yokocho (โอคาเกะโยโกโจ) ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลเจ้าอิเสะชั้นในแห่งนี้เป็นย่านช้อปปิ้งและอาหารที่เรียงรายไปด้วยร้านค้ากว่า 50 ร้าน ภายในย่านเต็มไปด้วยร้านอาหารเก่าแก่ของอิเสะ, ร้านจำหน่ายสินค้าจิปาถะที่เหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝาก และหอสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「รวม 4 ของอร่อยที่ต้องลองที่「โอคาเกะโยโคะโจ」ข้างอิเสะจิงกู เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ」

ที่อยู่：52 Ujinakanokirichō, Ise-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Iseshi Station」15 นาที
เว็บไซต์หลัก：Okage Yokocho (โอคาเกะโยโกโจ)

3. Sengukan (เซ็งกูคัง)

Sengukan (เซ็งกูคัง) ที่บริหารโดยศาลเจ้าอิเสะแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์「จิงงูชิกิเน็นเซ็งกู (※)」ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในพิธีจิงงูชิกิเน็นเซ็งกูครั้งที่ 62 ในปี 2013 โดยมีการจัดแสดงส่วนหนึ่งของพิธีกรรมชินโต, เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย, สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างชิกิเน็นเซ็งกูทุกๆ 20 ปี

※ จิงงูชิกิเน็นเซ็งกู……พิธีสร้างศาลเจ้าและอัญเชิญเทพเจ้าไปยังศาลเจ้าแห่งใหม่

ที่อยู่：126-1 Maeno Toyokawacho, Ise, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR・Kintetsu「Iseshi Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Sengukan (เซ็งกูคัง)

4. Meoto Iwa (หินเมโอโตะอิวะ : หินสามี-ภรรยา)

「Meoto Iwa (หินเมโอโตะอิวะ : หินสามี-ภรรยา)」ที่ตั้งอยู่ในศาลเจ้าฟุตามิโอกิทามะ คือ หินศักดิ์สิทธิ์ 2 ก้อนที่ลอยอยู่เหนือทะเลไกลจากชายฝั่ง 700 เมตร หินโออิวะ (หินผู้ชาย) สูง 9 เมตร ส่วนหินเมอิวะ (หินผู้หญิง) ที่ตั้งอยู่ข้างๆสูง 4 เมตร โดยหินทั้ง 2 ก้อนเชื่อมต่อกันด้วยเชือกชิเมนาวะ 1 เส้น เสาโทริอิที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดหินโออิวะนั้นสร้างขึ้นเพื่อสักการะพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างเดือนพฤษภาคมและเดือนกรกฎาคม เราจึงสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นระหว่างหินทั้ง 2 ก้อนได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ว่ากันว่าตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาวยังมีโอกาสได้เห็นพระจันทร์เต็มดวงลอยอยู่เหนือทะเลระหว่างหินอีกด้วย

ที่อยู่：575 Futamichōe, Ise-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR「Futaminoura Station」15 นาที

5. Toba Aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ)

Toba Aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ) ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตั้งแต่ปี 1955 แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอันดับ 1 ในญี่ปุ่นที่เลี้ยงสัตว์น้ำมากมายหลากหลายสายพันธุ์ โดยเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเดียวในญี่ปุ่นที่เลี้ยง “พะยูน” ซึ่งเป็นสัตว์สงวนโลก นอกจากนี้ เรายังสามารถชม “เสือปลา” แมวที่อาศัยอยู่ริมน้ำภายใน “ป่ามหัศจรรย์” โซนกิจกรรมที่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2014 ที่ผ่านมาได้ด้วย แถมยังมีการจัดการแสดงสิงโตทะเลและวอลรัสยอดฮิตอีกต่างหาก ทำให้สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 2,500 เยน, เด็กเล็ก・เด็กม.ต้น 1,250 เยน, เด็กทารก 630 เยน

ที่อยู่：3 Chome-3-6 Toba, Toba-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR・Kintetsu「Toba Station」10 นาที
เว็บไซต์หลัก：Toba Aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโทบะ)

6. Mikimoto Pearl Island (เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ)

Mikimoto Pearl Island (เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ) ที่ลอยอยู่เหนืออ่าวโทบะแห่งนี้เป็นเกาะที่ประสบความสำเร็จด้านการเพาะเลี้ยงไข่มุกเป็นครั้งแรกในโลกโดยผู้ประกอบการ「MIKIMOTO」แบรนด์จิวเวอรี่ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น

ภายในเกาะมีทั้งผลงานศิลปะจากไข่มุกและพิพิธภัณฑ์ไข่มุกที่จัดแสดงความสัมพันธ์ของคนและไข่มุก รวมถึงสาขาต่างๆทั้งวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ・สังคมวิทยา・อุตสาหกรรม แถมเรายังสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงของเหล่าอามะ (※) ผู้เพาะเลี้ยงไข่มุกในสมัยก่อนได้อีกด้วย

โดยมีเสน่ห์อยู่ที่เป็นที่ตั้งของสวนและจุดชมวิวสำหรับชมหมู่เกาะและอ่าวโทบะ ทำให้เราสามารถใช้เวลาผ่อนคลายได้อย่างชิลล์ๆ ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็กเล็ก (เด็กเล็ก・เด็กม.ต้น) 750 เยน

※ อามะ : ผู้หญิงที่มีอาชีพดำน้ำจับสัตว์ทะเล เช่น หอย เป็นต้น

ที่อยู่：1 Chome-7-1 Toba, Toba-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR・Kintetsu「Toba Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Mikimoto Pearl Island (เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ)

7. Ise Azuchimomoyama Bunkamura (อิเสะ อาสึจิโมโมยามะ บุงกะมูระ)

Ise Azuchimomoyama Bunkamura (อิเสะ อาสึจิโมโมยามะ บุงกะมูระ) คือ หมู่บ้านจำลองอาคารบ้านเมืองเมื่อราว 400 ปีก่อนในสมัยที่ยังมีนายพลและซามูไรอยู่ ภายในหมู่บ้านเป็นที่ตั้งของ “Azuchi Castle (ปราสาทอาซึจิ)” ที่สร้างโดย ”โอดะ โนบุนางะ” นายพลเซ็งโกคุชื่อดัง และสถาปัตยกรรมที่คาดว่าน่าจะเคยมีอยู่เมื่อราว 400 ปีก่อน บรรยากาศเก่าแก่เหล่านี้ได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งเป็นส่วนหนึ่งของธีมปาร์คแห่งใหม่ ว่ากันว่าบางครั้งภายในหมู่บ้านก็มีการจัดการแสดงสดโดยเหล่านินจาและนายพลญี่ปุ่นด้วยนะเออ... ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 2,500 เยน, เด็กม.ต้น-ม.ปลาย 1,200 เยน, เด็กต่ำกว่าประถม 900 เยน

ที่อยู่：1201-1 Futamichō Mitsu, Ise-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR「Futaminoura Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Ise Azuchimomoyama Bunkamura (อิเสะ อาสึจิโมโมยามะ บุงกะมูระ)

8. Hinjitsukan (ฮินจิตสึคัง)

Hinjitsukan (ฮินจิตสึคัง) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่สร้างขึ้นในปี 1887 แต่เดิมแล้วสร้างขึ้นเป็นที่พักสำหรับผู้ที่เดินทางมากราบไหว้สักการะศาลเจ้าอิเสะ (ชั้นใน) ในปัจจุบันเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม สวนและสถาปัตยกรรมที่ได้รับการออกแบบโดยช่างฝีมือชั้นนำในสมัยนั้นนับเป็นไฮไลท์ที่ควรค่าแก่การชมสักครั้งในชีวิต ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก (เด็กประถม – เด็กม.ปลาย) 150 เยน

ที่อยู่：566-2 Futamichō Chaya, Ise-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR「Futaminoura Station」12 นาที
เว็บไซต์หลัก：Hinjitsukan (ฮินจิตสึคัง)

9. Amagoya (อามาโกยะ)

Amagoya (อามาโกยะ) เป็นแหล่งเพลิดเพลินกับอาหารทะเลสดใหม่ภายใต้การดูแลรับรองของเหล่าอามะ (ผู้หญิงที่มีอาชีพดำน้ำเก็บกุ้งหอยปูปลา)

แต่เดิมแล้วอามาโกยะเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและอบอุ่นร่างกายของเหล่าอามะที่เหนื่อยล้าจากการหาปลา ดังนั้น การได้ดื่มด่ำกับอาหารท้องถิ่นของชิมะและอาหารทะเลสดใหม่พลางฟังเรื่องราวการหาปลาของเหล่าอามะที่นี่จึงนับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่ลืมไม่ลงอย่างแน่นอน

・Hachiman Kamado (ฮาจิมังคามาโดะ) (819 Ōsatsuchō, Toba-shi, Mie-ken)

・Osatsu Kamado (โอซัตสึคามาโดะ) (Maenohama, Osatsucho, Toba-shi, Mie-ken)

・Satoumian (ซาโตะอุมิอัน) (2279 Koshika Shimachō,Shima-shi, Mie-ken)

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับอามาโกยะหรืออ่าวอาโกะแสนงดงามถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น “ทะเลอีเจียนญี่ปุ่น” สามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【มิเอะ】วิวสวย・อาหารดี・กิจกรรมเด่น! เจาะลึก「อ่าวอาโกะ」ทะเลอีเจียนของญี่ปุ่น」

10. Ago Bay (อ่าวอาโกะ)

Kashiko Island (เกาะคาชิโกะ) สถานที่จัดงาน G-7 Ise-Shima Summit ปี 2016 แห่งนี้เป็นเกาะที่ลอยอยู่เหนือ「Ago Bay (อ่าวอาโกะ)」ซึ่งเรียกกันว่าทะเลอีเจียนญี่ปุ่น หมู่เกาะที่ลอยอยู่เหนือชายฝั่งทะเลแบบเว้าแหว่งเป็นทัศนียภาพอันแสนงดงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว

อ่าวอาโกะซึ่งเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์แห่งทัศนียภาพอันงดงามที่ลืมไม่ลงและอาหารทะเลสดใหม่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของจ.มิเอะพอๆกับศาลเจ้าอิเสะเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【มิเอะ】วิวสวย・อาหารดี・กิจกรรมเด่น! เจาะลึก「อ่าวอาโกะ」ทะเลอีเจียนของญี่ปุ่น」

ที่อยู่：Ago, Shima District, Mie Prefecture

＜โซนอิกะ＞

11. Ninja Museum of Igaryu (พิพิธภัณฑ์นินจาสายอิกะ)

เมืองอิกะซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ นินจาสายอิกะ แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมนินจาแบบใกล้ชิดได้ด้วยนะเออ... ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งของคฤหาสน์นินจาที่มีทั้งกลไกและกับดักมากมาย, ห้องจัดแสดงดาวกระจายของจริง และเวทีการแสดงนินจาซึ่งเป็นไฮไลท์ห้ามพลาดของแฟนๆนินจา ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 756 เยน, เด็ก (4 ขวบ - เด็กม.ต้น) 432 เยน ค่าชมการแสดงนินจา 400 เยน

ที่อยู่：117 Uenomarunouchi, Iga-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก Iga Railway「Uenoshi Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Ninja Museum of Igaryu (พิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริว)　ตารางโชว์นินจา

12. Haiseiden (ไฮเซเด็น)

Matsuo Bashō คือ นักประพันธ์กลอนไฮคุที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ในเมืองอิกะ จ.มิเอะซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ「Haiseiden (ไฮเซเด็น) 」ที่สร้างขึ้นในปี 1942 เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 300 ปีของ Matsuo Bashō ในวันที่ 12 ตุลาคมของทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลบาโชเพื่อรำลึกถึงวันที่เสียชีวิตของครูกลอนไฮคุชื่อดัง รูปปั้นของบาโชขนาดใหญ่เท่าตัวจริงนั้นจะเปิดให้ผู้คนทั่วไปได้ชมกันเฉพาะในวันนี้เท่านั้น

ที่อยู่：117-4 Uenomarunouchi, Iga-shi, Mie-ken (ในสวนอุเอโนะ)
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก Iga Railway「Uenoshi Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Haiseiden (ไฮเซเด็น)

13. Akame 48 Waterfalls (น้ำตก 48 สายแห่งอาคาเมะ)

Akame 48 Waterfalls (น้ำตก 48 สายแห่งอาคาเมะ) คือ น้ำตกน้อย-ใหญ่หลายสายที่สรรสร้างศิลปะทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆได้ชมกัน โดยเส้นทางเดินเล่นประกอบด้วยเส้นทางเดินเล่นชิลล์ๆ, เส้นทางเดินเขาแนะนำสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และเส้นทางเดินเขานากาซากะยามะแนะนำสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับการเดินป่า ยังไงเพื่อนๆก็ลองแวะมาชมน้ำตกและสัมผัสความงดงามของแม่น้ำและธรรมชาติที่นี่กันดูนะคะ นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียงก็ยังเป็นที่ตั้งของออนเซ็นและ “ป่านินจา” ที่สามารถแต่งชุดนินจาไต่กำแพงและปาดาวกระจายจริงๆได้ด้วย

ที่อยู่：861-1 Akamechō Nagasaka, Nabari-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก Kintetsu「Akameguchi Station」10 นาที
เว็บไซต์หลัก：Akame 48 Waterfalls (น้ำตก 48 สายแห่งอาคาเมะ)

14. Shorenji-ko Kankomura (โชเร็นจิโกะคังโคมูระ)

Shorenji-ko Kankomura (โชเร็นจิโกะคังโคมูระ) ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองนาบาริ จ.มิเอะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เราสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ได้ตลอดทั้งปีไม่ว่าจะเป็นเก็บสตรอว์เบอร์รี่ในฤดูหนาว-ใบไม้ผลิและเก็บองุ่นในฤดูร้อน-ใบไม้ร่วงภายในสวนผลไม้อันกว้างใหญ่ริมทะเลสาบ

ที่อยู่：976 Shorenji, Nabari, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก Kintetsu「Nabari Station」10 นาที
เว็บไซต์หลัก：Shorenji-ko Kankomura (โชเร็นจิโกะคังโคมูระ)

＜โซนฮิกาชิคิชู＞

15. Kumano Kodō (คุมาโนะโคโด)

Kumano Kodō (คุมาโนะโคโด) แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจ.มิเอะรองจากศาลเจ้าอิเสะแห่งนี้เป็นทางเดินที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยเป็นทางเดินไหว้พระชื่อดังที่เชื่อมต่อจาก Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ) ไปยัง Kumano Hongū Taisha (ศาลเจ้าคุมาโนะฮองงูไทฉะ), Kumano Hayatama Taisha (ศาลเจ้าคุมาโนะฮายาทามะไทฉะ) และ Kumano Nachi Taisha (ศาลเจ้าคุมาโนะนาจิไทฉะ) ศาลเจ้าไทฉะศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่งที่เรียกกันว่า “คุมาโนะซังซัง”

เว็บไซต์หลัก：Kumano Kodō (คุมาโนะโคโด)

16. Onigajyo (โอนิกาโจ)

「Onigajyo (โอนิกาโจ)」มรดกโลกของเมืองคุมาโนะ จ.มิเอะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เราสามารถดื่มด่ำกับศิลปะทางธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมและคลื่นแรงได้ ส่วนไฮไลท์ที่ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยก็คือ「ชิชิอิวะ」หินที่มีรูปร่างเหมือนกับสิงโตซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับโอนิกาโจ ถ้าเกิดโชคดี เราก็จะสามารถถ่ายรูปราวกับสิงโตกำลังอมพระอาทิตย์อยู่ในปากตอนพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วยนะจ๊ะ... สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【มิเอะ】มรดกโลกที่เกิดจากหน้าผาและคลื่นทะเล อำเภอคุมาโนะ「โอะนิกะโจ」」

ที่อยู่：1835-7 Kinomotochō, Kumano-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR「Kumanoshi Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก:Onigajyo (โอนิกาโจ)

17. Kizuro (คิซึโระ)

เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าระหว่างจ.มิเอะและจ.วากายาม่ามีแหล่งชมวิวที่มีลักษณะเหมือนกับฐานทัพ UFO ด้วยนะเออ...!? แหล่งท่องเที่ยวที่ว่านั้นคือ Kizuro (คิซึโระ) นั่นเอง ถ้าเกิดปีนเขาขึ้นไปถึงตอนกลางของภูเขาฝั่งจ.วากายาม่า เราก็จะสามารถมองเห็นคิซึโระได้อย่างชัดเจน เนื่องจากนักปีนเขามือใหม่มีโอกาสหลงทางได้ง่ายมาก จึงต้องให้สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวชิมัตสึพาไปด้วยนะคะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ฐานทัพ UFO!? เสี่ยงตายแค่ไหนก็อยากไป 「คิซึโระ」จังหวัดมิเอะ」

ที่อยู่：99 Kiwachō Kizuro, Kumano-shi, Mie-ken
เว็บไซต์หลัก：สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวชิมัตสึ

18. Maruyama Senmaida (มารุยามะเซ็มไมดะ)

Maruyama Senmaida (มารุยามะเซ็มไมดะ) ที่โด่งดังเรื่องการทำนาแบบขั้นบันไดอันดับ 1 ในญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นผืนนาขนาดเล็กกว่า 1340 ผืนเรียงรายกันในลักษณะเหมือนกับขั้นบันได เหล่าเกษตกรท้องถิ่นคอยดูแลรักษาที่นี่เอาไว้เป็นอย่างดี โดยมีการจัดงานอีเว้นท์พิเศษให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆสามารถสัมผัสประสบการณ์การเกี่ยวข้าวด้วยตัวเองในฤดูเก็บเกี่ยวได้ด้วย

ที่อยู่：Kumano, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถยนต์จาก JR「Kumanoshi Station」30 นาที
เว็บไซต์หลัก：Maruyama Senmaida (มารุยามะเซ็มไมดะ)

19. Plage de Shichirimi (ชายหาดชิจิริมิฮามะ)

Plage de Shichirimi (ชายหาดชิจิริมิฮามะ) แหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามชั้นนำติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นหลายรายการแห่งนี้เป็นหาดทรายที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น โดยทางเดินปูไปด้วยก้อนกรวดขนาดเล็กที่ถูกคลื่นแรงกัดกร่อนจนกลม

ที่อยู่：Kumano-shi～Kiho
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR「Kumanoshi Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Plage de Shichirimi (ชายหาดชิจิริมิฮามะ)

＜โซนจูนันเซ＞

20. Sakakibara Hot Spring (ซากากิบาระออนเซ็น)

น้ำร้อนของ Sakakibara Hot Spring (ซากากิบาระออนเซ็น) ซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในหมู่คนญี่ปุ่นมาเป็นเวลายาวนานกว่า 1 พันปีแห่งนี้มีลักษณะใสไม่มีสีและอ่อนโยนต่อผิว ว่ากันว่าได้รับความนิยมโดยเฉพาะในหมู่สาวๆในฐานะที่เป็น “น้ำร้อนเพื่อความงาม” เชียวล่ะค่ะ

ที่อยู่：Sakakibaracho, Tsu, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถยนต์จาก Kintetsu「Sakakibara-Onsenguchi Station」15 นาที
เว็บไซต์หลัก：Sakakibara Hot Spring (ซากากิบาระออนเซ็น)

21. Gojobanyashiki (โกโจบันยาชิกิ)

Gojobanyashiki (โกโจบันยาชิกิ) คือ คฤหาสน์ที่นักรบย้ายมาอยู่เพื่อคุ้มครองมัตสึซากะในช่วงปลายสมัยเอโดะ โดยเป็นสภาปัตยกรรมบ้านทรงยาวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ นอกจากนี้ แม้ในปัจจุบันก็ยังคงเป็นคฤหาสน์สุดแปลกที่เหล่าทายาทของนักรบในสมัยนั้นอาศัยอยู่และซ่อมบำรุงให้ใหม่อยู่เสมอ บางส่วนมีการเปิดให้ผู้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมด้วย ยังไงเพื่อนๆก็ลองแวะมาเยี่ยมชมวิถีชีวิตของนักรบกันดูนะคะ ^^

ที่อยู่：1385 Tonomachi, Matsusaka-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Matsusaka Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก：Gojobanyashiki (โกโจบันยาชิกิ)

＜โซนโฮคุเซ＞

22. Nabana no Sato (นาบานะ โนะ ซาโตะ)

「Nabana no Sato (นาบานะ โนะ ซาโตะ)」คือ การ์เด้นสแควร์ที่ครอบคลุมอาณาบริเวณอันแสนกว้างใหญ่กว่า 3 แสนตารางเมตร เราสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้ตามฤดูกาลและอิลลูมิเนชั่นแสนงดงามยามค่ำคืนได้ที่นี่เลย อิลลูมิเนชั่นโดยทั่วไปมักจะเป็นงานอีเว้นท์พิเศษเฉพาะฤดูหนาว แต่สำหรับนาบานะโนะซาโตะนั้นจัดอิลลูมิเนชั่นทุ่งดอกไม้สว่างไสวสวยงามไปจนถึงเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว สำหรับรายละเอรียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【มิเอะ】ชมอิลลูมิเนชั่นยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น「นะบะนะ โนะ ซาโตะ」!」

ที่อยู่：270 Nagashimachō Komae, Kuwana-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Kuwana Station」10 นาที
เว็บไซต์หลัก：Nabana no Sato (นาบานะ โนะ ซาโตะ)

23. Nagashima Spa Land (นากาชิมะสปาแลนด์)

Nagashima Spa Land (นากาชิมะสปาแลนด์) คือ ศูนย์รวมความบันเทิงทั้งรถไฟเหาะ, สระว่ายน้ำทะเล, ออนเซ็น และที่พักที่เหมาะกับการมาเที่ยวกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนๆ ภายในโซนมีการจัดงานอีเว้นท์ตามฤดูกาลมากมายไม่ว่าจะเป็นฮาโลวีนหรือคริสต์มาส

ที่อยู่：333 Nagashimachō Urayasu, Kuwana-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Kuwana Station」20 นาที
เว็บไซต์หลัก：Nagashima Spa Land (นากาชิมะสปาแลนด์)

24. JAZZ DREAM NAGASHIMA (แจ๊สดรีมนากาชิมะ)

MITSUI OUTLET PARK JAZZ DREAM NAGASHIMA (มิตสึอิเอาท์เล็ทปาร์ค แจ๊สดรีมนากาชิมะ) คือ เอาท์เล็ทมอลล์ขนาดยักษ์แหล่งรวมร้านค้ามากมายกว่า 200 ร้าน นอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นจากทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้ามากมายได้ในราคาลดกว่า 30 – 80% ตลอดทั้งปีแล้วก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารที่สามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของมิเอะได้อีกต่างหาก เช่น อิเสะอุด้ง เป็นต้น

ที่อยู่：368 Urayasu Nagashimachō, Kuwana-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก JR・Kintetsu「Kuwana Station」20 นาที
เว็บไซต์หลัก：Nagashima Spa Land (นากาชิมะสปาแลนด์)

25. Suzuka Circuit (ซูซูกะเซอร์กิต)

Suzuka Circuit (ซูซูกะเซอร์กิต) คือ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจซึ่งเป็นที่ตั้งของถนนแข่งรถนานาชาติ เราสามารถชมการแข่งรถสุดมันส์หรือว่าจะลองขับรถบนถนนแข่งรถนานาชาติกันจริงๆเลยก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต นอกจากนี้ ในสวนสนุก MOTOPIA ก็ยังเต็มไปด้วยเครื่องเล่นและพาหนะมากมายที่รับรองว่าคุณหนูๆจะต้องชอบกันอย่างแน่นอนอีกด้วย บอกเลยว่าเหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวสุดๆ

ที่อยู่：7992 Inouchō, Suzuka-shi, Mie-ken
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก Kintetsu「Shiroko Station」20 นาที
เว็บไซต์หลัก：Suzuka Circuit (ซูซูกะเซอร์กิต)

26. Yokkaichi Kombinat Yakei (ยกกะอิจิ คอมบิแนต ยะเค)

「Yokkaichi Kombinat (ยกกะอิจิคอมบิแนต)」โซนโรงงานน้ำมันปิโตรเลียมที่ตั้งอยู่ในเมืองยกกะอิจิ จ.มิเอะแห่งนี้นับเป็นแหล่งชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของโรงงานขึ้นชื่อในหมู่ช่างภาพเลยทีเดียว ในตอนกลางคืนจะมีเรือสำราญแล่นบริเวณโดยรอบโรงงาน เราจึงสามารถดื่มด่ำกับโลกชวนฝันที่สว่างไสวไปด้วยไฟของโรงงานได้จากบนเรือสำราญเลยจ้า...

เว็บไซต์หลัก：Yokkaichi Kojo Yakei (ยกกะอิจิ โคโจ ยะเค)

27.Tokaido Seki-juku (โทไคโด เซกิจุกุ)

Tokaido Seki-juku (โทไคโด เซกิจุกุ) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนดั้งเดิมที่สร้างขึ้นราว 200 ปีก่อนอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โซนที่เรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายของฝากแห่งนี้ขอแนะนำสำหรับใครที่อยากเดินเล่นชิลล์ๆเที่ยวเมืองสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่เลยค่ะ ^^

ที่อยู่：Shinsho, Nakachō, Sekichokozaki, Kameyama, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：เดินจาก JR「Seki Station」5 นาที
เว็บไซต์หลัก： Seki-juku (เซกิจุกุ)

28. Gozaisho Ropeway (กระเช้าโกไซโฉะ)

Mount Gozaisho (ภูเขาโกไซโฉะ) สูงกว่า 1,212 เมตรแห่งนี้เป็นแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทั้ง 4 โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะมีผู้คนจำนวนมหาศาลเดินทางมาสัมผัสกลิ่นอายแห่งฤดูใบไม้ร่วงกันเพียบ! ทัศนียภาพสีส้มอมแดง, สีแดง และสีเหลืองที่สามารถชมได้จากบนกระเช้าเป็นอะไรที่ต้องชมให้ได้สักครั้งในชีวิต

นอกจากนี้ เรายังสามารถเพลิดเพลินกับปรากฏการณ์ต้นไม้กลายเป็นน้ำแข็ง(Ice Monster)ได้ในฤดูหนาวอีกด้วย ความงดงามที่ตั้งตระหง่านสะท้อนแสงอาทิตย์และท้องฟ้าสีน้ำเงินเป็นอะไรที่งดงามจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆค่ะ บรรยากาศเบื้องล่างจะกลายเป็นดินแดนสีขาวโพลนเกินจินตนาการ

ที่อยู่：Yunoyama Onsen, Komono, Mie District, Mie Prefecture
วิธีการเดินทางมาจากสถานีที่ใกล้ที่สุด：นั่งรถบัสจาก Kintetsu「Yunoyama Onsen Station」10 นาที
เว็บไซต์หลัก：Gozaisho Ropeway (กระเช้าโกไซโฉะ)

แผนเที่ยวตัวอย่าง

เพลิดเพลินกับอิลลูมิเนชั่นที่นาบานะโนะซาโตะ, ศาลเจ้าอิเสะ และนินจา

เนื่องจากจ.มิเอะเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวมากมาย จึงมีผู้คนไม่น้อยเลยที่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ในครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำแผนเที่ยวมิเอะแบบ 3 วัน 2 คืนซึ่งรวมทริปชมอิลลูมิเนชั่นของนาบานะโนะซาโตะและไหว้พระที่ศาลเจ้าอิเสะกันค่ะ ^^

◉ วันที่ 1：เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและชมอิลลูมิเนชั่นในโซนโฮคุเซ

11:30 น. เดินทางมาถึงสนามบินนานาชาติจูบุ
13:00 น. ช้อปปิ้งที่ JAZZ DREAM NAGASHIMA (แจ๊สดรีมนากาชิมะ)
17:00 น. สัมผัสบรรยากาศชวนฝันจากการชมอิลลูมิเนชั่นที่ Nabana no Sato (นาบานะ โนะ ซาโตะ)
ตอนกลางคืน เข้าพักที่ Nagashima Spa Land (นากาชิมะสปาแลนด์) เนื่องจากที่นี่มีออนเซ็นด้วย เราจึงสามารถผ่อนคลายได้อย่างชิลล์ๆ

◉ วันที่ 2：หลังไหว้พระที่ศาลเจ้าอิเสะและดื่มด่ำกับอาหารรสเลิศแล้วก็มุ่งหน้าไปยังเกาะไข่มุกมิกิโมโตะ

9:30 น. เดินทางจากคุวานะไปยังอิเสะ
11:00 น. ไหว้พระที่ Ise Grand Shrine (ศาลเจ้าอิเสะ) (ศาลเจ้าอิเสะชั้นใน)
13:00 น. ดื่มด่ำกับอาหารท้องถิ่นของอิเสะที่ Okage Yokocho (โอคาเกะโยโกโจ) !
15:00 น. สัมผัสความงดงามของทะเลและไข่มุกที่ MIKIMOTO PEARL ISLAND (เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ)
ตอนกลางคืน：พักที่โทบะ

◉ วันที่ 3：เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริวยอดนิยมในหมู่เด็กๆและผู้ใหญ่

10:00 น. เริ่มออกเดินทางจากโทบะ
12:30 น. แปลงกายเป็นนินจาที่ Ninja Museum of Igaryu (พิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริว) !
16:00 น. เดินทางไปยังสนามบินนานาชาติคันไซ

9 อาหารในมิเอะ

1. อิเสะอุด้ง

อิเสะอุด้ง มีต้นกำเนิดในเมืองอิเสะ จ.มิเอะ โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่เส้นอวบหนานุ่มนี่แหละ เมนูนี้รับประทานคู่กับน้ำซุปดาชิรสหวานเข้มข้นปริมาณน้อยที่สกัดมาจากปลาโอหรือปลาซาบะ ว่ากันว่าความหนาของเส้นเป็น 2 – 3 เท่าของซานูกิอุด้งโดยทั่วไปเลยทีเดียว โดยเป็นอุด้งแบบเรียบง่ายที่ไม่ใส่วัตถุดิบท็อปปิ้งอะไรมาเยอะจนเกินพอดี เราสามารถลิ้มลองเส้น “รสสัมผัสนุ่มลื่น” ได้ที่ร้าน “Mameya (มาเมยะ)” ขึ้นชื่อเรื่องอิเสะอุด้งอายุกว่า 100 ปีเลยจ้า...

2. เนื้อวัวมัตสึซากะ

เนื้อวัวมัตสึซากะ ที่เลี้ยงกันในเมืองมัตสึซากะ จ.มิเอะเป็น 1 ใน 3 เนื้อวัวชั้นเลิศของญี่ปุ่นถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น “ผลงานศิลปะของเนื้อสัตว์” เลยทีเดียว ด้วยความอร่อยของเนื้อลายหินอ่อนและความสุดยอดของรสชาติ ทำให้มันได้รับความสนใจจากเหล่านักชิมจากทั่วโลก สุกี้ยากี้เนื้อวัวมัตสึซากะนับเป็นเมนูชั้นเลิศที่ต้องลิ้มลองกันให้ได้สักครั้งในชีวิต

3. ฮามากุริ

「ฮามากุริ」ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อประจำเมืองรอบปราสาทคุวานะนี้มีเสน่ห์อยู่ที่รสสัมผัสชุ่มฉ่ำและไซส์ใหญ่เต็มคำ โดยมีวิธีการปรุงหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นฮามากุริย่าง, ฮามากุริทอด และชาบูชาบูฮามากุริ

4. เทโกเนะซูชิ

“เทโกเนะซูชิ” เป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อประจำโซนอิเสะชิมะ โดยเป็นเมนูข้าวหน้าปลาโอแล่ชิ้นใหญ่ผสมโชยุ ว่ากันว่าแต่เดิมแล้วเคยเป็นอาหารทำง่ายสำหรับของเหล่าชาวประมงมาก่อน ทางร้านจะเสิร์ฟเมนูข้าวผสมผักและเครื่องเทศอย่างใบงาและขิง ปรุงรสด้วยซอสโชยุสูตรพิเศษของร้าน

5. กุ้งอิเสะ

กุ้งอิเสะ คือ วัตถุดิบชั้นเลิศที่มีเสน่ห์อยู่ที่เนื้อรสหวานรสสัมผัสหยุ่นๆ โดยเป็นอาหารทะเลขึ้นชื่อประจำจ.มิเอะ ไม่ว่าจะรับประทานในรูปแบบไหนก็อร่อยเหมือนกันทั้งนั้น เช่น ซาชิมิ, ย่าง หรือทอด

6. หอยอาวาบิ

โทบะ・ชิมะเป็นแหล่งหอยอาวาบิชั้นแนวหน้าของประเทศญี่ปุ่น หอยอาวาบิส่วนใหญ่จับมาโดยเหล่า “อามะ” (ผู้หญิงที่มีอาชีพดำน้ำจับกุ้งหอยปูปลาขาย) เพราะว่าในอิเสะชิมะมีอามะเยอะมากๆเลยล่ะค่ะ ยังไงเพื่อนๆก็ลองไปสัมผัสรสชาติของหอยอาวาบิสดใหม่ที่ Amakoya (อามาโกยะ) ที่เสิร์ฟโดยเหล่าอามะกันดูนะคะ ^^

7. สาเกญี่ปุ่น

และเครื่องดื่มห้ามพลาดคู่กับอาหารรสเลิศประจำท้องถิ่นเลยก็คือ “สาเกญี่ปุ่นของจ.มิเอะ” นั่นเอง “ซาคุ” สาเกญี่ปุ่นของโรงกลั่นเหล้า “Shimizu Seizaburo Shoten (ชิมิสึ เซซาบุโร่ โชเท็น)” ในซูซูกะสำหรับชนแก้วในงาน G-7 Ise-Shima Summit ปี 2016 และ “ฮันโซ” ของ “โรงกลั่นเหล้าโอตะ” ในอิกะนั้นกำลังเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันสาเกญี่ปุ่นของจ.มิเอะนั้นได้รับความนิยมสูงมากเลยก็ว่าได้ ยังไงเพื่อนๆก็อย่าลืมลิ้มลองเหล้าท้องถิ่นสุดพิถีพิถันเหล่านี้กันดูนะคะ ^^

8. ซันมะซูชิและเมฮาริซูชิ

ซันมะซูชิ ที่นิยมรับประทานกันตามงานเฉลิมฉลองนี้เป็นหนึ่งในอาหารท้องถิ่นที่สืบทอดต่อกันมาในมิเอะตั้งแต่สมัยก่อน โดยเป็นข้าวผสมน้ำส้มสายชูหน้าปลาซันมะจากทะเลคุมาโนะหมักด้วยน้ำส้มสายชูส้มมิคัง เอกลักษณ์ของเมนูนี้อยู่ที่การได้รับประทานหัวปลาซันมะสดๆเลยนี่แหละ ส่วน「เมฮาริซูชิ」ของขึ้นชื่อประจำคุมาโนะนี้เป็นเมนูข้าวปั้นห่อใบผักกาดประจำครัวเรือนแสนเรียบง่าย เนื่องจากแถวคุมาโนะโคโดมีร้านจำหน่ายเมฮาริซูชิโดยเฉพาะด้วย จึงขอแนะนำให้ลองซื้อมาทานเป็นข้าวกลางวันก่อนปีนเขาเลยจ้า...

9. อาคาฟุกุ

และเมนูที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเมื่อได้มาเที่ยวมิเอะเลยก็คือ อาคาฟุกุ นั่นเอง มันจูแสนเรียบง่ายแต่มีรสชาตินุ่มลึกนี้ทำมาจากน้ำตาล ข้าวเหนียว และถั่วแดงกวนสุดพิถีพิถันของ “Akafuku (อาคาฟุกุ)” ร้านขึ้นชื่ออายุกว่า 300 ปี

อ่านเพิ่มเติมได้ที่：

รวม 4 ของอร่อยที่ต้องลองที่「โอคาเกะโยโคะโจ」ข้างอิเสะจิงกู เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ

ของฝากจากมิเอะ

อิจิโกะไดฟุกุ

「อิจิโกะไดฟุกุ」คือ ขนมแป้งโมจินุ่มลิ้นสอดไส้สตรอว์เบอร์รี่ทั้งลูกและถั่วแดงกวนที่ได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ รสเปรี้ยวของสตรอว์เบอร์รี่และรสหวานอ่อนๆของถั่วแดงกวนละลายในปากฟินสุดๆ รับรองว่าได้ลองสักครั้งจะติดใจ

ชิกุเรนิเนื้อวัวมัตสึซากะลายหินอ่อน

ชิกุเรนิเนื้อวัวมัตสึซากะลายหินอ่อน นี้มีต้นกำเนิดมาจาก「Kakiyasu (คาคิยาสุ)」ร้านเนื้อวัวมัตสึซากะเก่าแก่ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในหมู่ผู้คนที่ต้องการซื้อเนื้อวัวมัตสึซากะกลับไปเป็นของฝาก “ชิกุเรนิ” คือ วิธีการปรุงอาหารดั้งเดิมของคุวานะซึ่งก็คือการตุ๋นวัตถุดิบกับขิงในซอสโชยุหวานนั่นเอง

เชือกเปียอิกะคุมิฮิโมะ

“คุมิฮิโมะ” คือ ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นซึ่งหมายถึงเชือกที่ทำขึ้นมาจากการถักด้ายไหมหรือฝ้ายเป็นเส้น

เมืองอิกะแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตคุมิฮิโมะขึ้นชื่อมาตั้งแต่ในอดีต โดยคนญี่ปุ่นนำมาใช้กันอย่างสารพัดประโยชน์มากไม่ว่าจะเป็นเชือกรัดโอบิที่ใช้ตอนใส่ชุดกิโมโน ส่วนในปัจจุบันก็นำมาทำเป็นที่ห้อยพวงกุญแจและเครื่องประดับต่างๆ

นอกจากนี้ก็ยังปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง “Kimi no Nawa (Your Name)” ที่เข้าฉายในปี 2016 อีกด้วย ทำให้ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้นไปอีก บอกเลยว่าผลงานศิลปหัตถกรรมสไตล์ญี่ปุ่นสีสันสดใสสวยงามแบบนี้เหมาะสำหรับการซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกสุดๆ

กระดาษแพทเทิร์นอิเสะคาตากามิ

“อิเสะคาตากามิ” คือ ผลงานศิลปหัตถกรรมที่ใช้ในการย้อมผ้ากิโมโนหรือยูกาตะ โดยเป็นผลงานที่ทำโดยการใช้มีดแกะสลักกรีดลวดลายหรือแบบลงบนกระดาษที่แปรรูปมาจากกระดาษญี่ปุ่น ส่วนการทำนั้นจำเป็นต้องอาศัยฝีมือขั้นสูงเอามากๆ

ในปัจจุบันก็เริ่มมีการนำมาใช้ทำลวดลายสวยงามของ โชจิ และ ฟุซุมะ ของห้องสไตล์ญี่ปุ่นกันบ้างแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีการทำเป็นของประดับตกแต่งที่ใส่ไฟหรือกระดาษแพทเทิร์นสไตล์อาร์ตลงในกรอบรูปด้วย จึงเรียกได้ว่าคนญี่ปุ่นนำไปใช้กันในวงกว้างจริงๆค่ะ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่：

5 ของฝากห้ามพลาดใน「โอะคาเงะโยโกะโจ」จ.มิเอะหลังเที่ยวศาลเจ้าอิเสะ!

สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวมิเอะ

จ.มิเอะเป็นพื้นที่ที่มีความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิ เช่น เมืองอิกะซึ่งเป็นแผ่นดินรูปแอ่งล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นต้น โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 15.5 องศาซึ่งนับเป็นสภาพอากาศอบอุ่นกำลังสบายเชียวล่ะค่ะ

แต่เนื่องจากบางแห่งก็มีฝนตกบ่อยด้วย จึงขอแนะนำให้เช็คพยากรณ์อากาศมาก่อนล่วงหน้าจะดีที่สุด

สำหรับคนที่อยากรู้จักมิเอะมากขึ้นกว่าที่เคย

เช็คข้อมูลอัพเดทล่าสุดของจ.มิเอะจากเฟสบุ๊ค!

เว็บไซต์ของจ.มิเอะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

Mie Travel Guide

ข้อมูลรายละเอียดของแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในจ.มิเอะ

【มิเอะ】ศาลเจ้าอิเสะ・ที่พึ่งทางใจของคนญี่ปุ่นที่ต้องมาให้ได้สักครั้ง
รวม 4 ของอร่อยที่ต้องลองที่「โอคาเกะโยโคะโจ」ข้างอิเสะจิงกู เมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ
5 ของฝากห้ามพลาดใน「โอะคาเงะโยโกะโจ」จ.มิเอะหลังเที่ยวศาลเจ้าอิเสะ!
【มิเอะ】วิวสวย・อาหารดี・กิจกรรมเด่น! เจาะลึก「อ่าวอาโกะ」ทะเลอีเจียนของญี่ปุ่น
【มิเอะ】ชมอิลลูมิเนชั่นยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น「นะบะนะ โนะ ซาโตะ」!
【มิเอะ】มรดกโลกที่เกิดจากหน้าผาและคลื่นทะเล อำเภอคุมาโนะ「โอะนิกะโจ」
ฐานทัพ UFO!? เสี่ยงตายแค่ไหนก็อยากไป 「คิซึโระ」จังหวัดมิเอะ
วิธีการเดินทางจากนาโกย่าไปจังหวัดมิเอะ ทริปท่องเที่ยวด้วยรถไฟหรูหรา "รถไฟด่วนพิเศษ ชิมะคาเซะ"

ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...

เวลาที่เงินสดไม่พอ! สถานที่4แห่งสำหรับแลกเงินในญี่ปุ่น

ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^

รู้ไว้ใช่ว่า ช็อปเพลินเงินหมดจะหาตู้กด ATM ได้ที่ไหนบ้าง

สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้

รวม 10 ภาษาญี่ปุ่น ที่สามารถใช้ได้ในโรงแรม！

นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ「Japan Connected-free Wi-Fi」แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะเออ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย

รวมจุดให้บริการ Japan Connected-free Wi-Fi ในญี่ปุ่น

เอ่อ...แล้วค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด

ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (ร้านสะดวกซื้อ,ร้านอาหาร,ร้านซูชิ)

Sponsored by จังหวัดมิเอะ

บทความโดย

MATCHA-PR

Tokyo, Japan

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง