Start planning your trip
41 ที่เที่ยวห้ามพลาดในฮอกไกโดตามพื้นที่
ฮอกไกโดเป็นที่เที่ยวเหนือสุดของญี่ปุ่น เพลิดเพลินกับธรรมชาติและของอร่อย มีพื้นที่กว้างใหญ่มากจนลังเลว่าจะไปไหนดี บทความนี้ได้รวบ 41 ที่เที่ยวชื่อดังที่ห้ามพลาดตามแต่ละพื้นที่ เช่น ซัปโปโร โนโบริเบ็ตสึ ฮาโกดาเตะ นิเซโกะ อาซาฮิคาวะ อาคัง / ทะเลสาบมาชู และชิเรโตโกะ
เที่ยวฮอกไกโดครั้งหน้าไปไหนดี? แนะนำจุดเที่ยวน่าสนใจตามแต่ละพื้นที่
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นที่เที่ยวสมบูรณ์แบบ สามารถลิ้มรสอาหารทะเลและผักต่างๆ แบบสดสุดๆ ขณะที่ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันงดงามซึ่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ถักทอขึ้น
ฮอกไกโดอยู่เหนือสุดของญี่ปุ่น เป็นจุดเที่ยวสุดฮิตที่สามารถเพลิดเพลินกับสายลมเย็นสดชื่นในฤดูร้อน ทิวทัศน์หิมะงดงามและกิจกรรมต่างๆ บนหิมะในฤดูหนาว
แต่ฮอกไกโดมีที่เที่ยวเยอะมากๆ จนไม่รู้ว่าจะเริ่มจากที่ไหนดีนะ
บทความนี้ขอแนะนำที่เที่ยวชื่อดังในฮอกไกโดตามพื้นที่ เช่น ซัปโปโร (Sapporo) ฮาโกดาเตะ (Hakodate) นิเซโกะ (Niseko) และชิเรโตโกะ (Shiretoko) สามารถนำไปวางแผนเที่ยวฮอกไกโดในครั้งต่อไปกันได้เลย
สารบัญ:
1. ฮอกไกโดแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่
2. ที่เที่ยวในซัปโปโร / โจซังเค
3. ที่เที่ยวในโนโบริเบ็ตสึ
4. ที่เที่ยวในฮาโกดาเตะ
5. นิเซโกะ สกีรีสอร์ตสุดฮิต
6. ที่เที่ยวในอาซาฮิคาวะ / ฟุราโนะ / บิเอ
7. ที่เที่ยวบริเวณรอบทะเลสาบอาคัง / มาชู
8. ที่เที่ยวในชิเรโตโกะ โทคาจิ และโอบิฮิโระ
9. ของอร่อยในฮอกไกโด
10. เทศกาลและอีเวนท์ในฮอกไกโด
11. ดอกซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี และเสื้อผ้า
12. การเดินทางไปฮอกไกโด ที่พัก และ WiFi
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ฮอกไกโดแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่
ฮอกไกโดแบ่งโดยสังเขปได้ 4 พื้นที่
1. พื้นที่ฮอกไกโดกลาง (ซัปโปโร / โจซังเค / โนโบริเบ็ตสึ ฯลฯ)
ประกอบด้วยซัปโปโรซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางของฮอกไกโดที่ค่อนข้างเจริญ โจซังเค / โนโบริเบ็ตสึซึ่งเป็นเมืองออนเซ็นที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขา และโอตารุซึ่งมีทิวทัศน์บ้านเมืองตามลำน้ำและคูคลองที่สวยงาม
2. พื้นที่ฮอกไกโดใต้ (ฮาโกดาเตะ / นิเซโกะ ฯลฯ)
มีฮาโกดาเตะที่โด่งดังในเรื่องออนเซ็นและทิวทัศน์ยามค่ำคืน สวนโอนุมะที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโด และนิเซโกะ พื้นที่เล่นสกีที่มีหิมะสวยเนื้อละเอียดสุดๆ
3. พื้นที่ฮอกไกโดเหนือ (อาซาฮิคาวะ / ฟุราโนะ / บิเอ ฯลฯ)
มีทัศนียภาพธรรมชาติอันงดงาม เช่น อาซาฮิคาวะซึ่งมีสวนสัตว์ขนาดใหญ่ชื่อดัง ทุ่งลาเวนเดอร์ในฟุราโนะ และบิเอซึ่งมีบ่อน้ำสีฟ้า
4. พื้นที่ฮอกไกโดตะวันออก (อาคัง / ทะเลสาบมาซู, โอบิฮิโระ / โทคาจิ, ชิเรโตโกะ ฯลฯ)
เป็นพื้นที่ซึ่งมีธรรมชาติอันหลากหลาย เช่น อาคัง / ทะเลสาบมาชูในคุชิโระ, ชิเรโตโกะที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนักซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO, โอบิฮิโระ / โทคาจิซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ฟาร์มปศุสัตว์ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
รวมจุดท่องเที่ยวในฮอกไกโดตามพื้นที่
ขอแนะนำที่เที่ยวชื่อดังในฮอกไกโดกลาง ฮอกไกโดใต้ ฮอกไกโดเหนือ และฮอกไกโดตะวันออกตามลำดับ ดังนี้เลย
ซัปโปโร / โจซังเค (ฮอกไกโดกลาง)
โจซังเค (Jozankei) เมืองออนเซ็นที่ชาวซัปโปโร (Sapporo) ภาคภูมิใจยิ่ง ว่ากันว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่คือ น้ำพุร้อนที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องอาการปวดเส้นประสาทและโรคไขข้ออักเสบ และทิวทัศน์ภูเขาอันงดงามที่แผ่กว้างอยู่ด้านหนึ่ง
1. หอนาฬิกาซัปโปโร (Sapporo Clock Tower)
หอนาฬิกาซัปโปโรซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศ เป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาว ภายในอาคารจัดแสดงเอกสารเกี่ยวกับประวัติการพัฒนาพื้นที่ซัปโปโร
2. จุดชมวิวฮิสึจิกาโอกะ (Hitsujigaoka Observation Hill)
จากจุดชมวิวฮิสึจิกาโอกะแห่งนี้สามารถชมทิวทัศน์เมืองซัปโปโรได้แบบพาโนรามาเลย
ทั้งฝูงแกะ และรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ของดร. วิลเลียม สมิธ คลาร์ก ผู้มีส่วนร่วมในการศึกษาด้านเกษตรของซัปโปโร กับคำพูดที่ฝากไว้ให้ชนรุ่นหลังว่า "เด็กทั้งหลาย จงทะเยอทะยาน!"
อย่าลืมแวะจุดชมวิวนี้ และโพสท่าถ่ายรูปเหมือนกับดร. คลาร์กกันนะ
3. มหาวิทยาลัยฮอกไกโด (Hokkaido University)
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด มีต้นแปะก๊วยสีทองสวยงาม รวมถึงฟาร์มที่ก่อตั้งตามข้อเสนอของดร. คลาร์ก ส่วนหนึ่งของวิทยาเขตเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี
4. อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด (Former Hokkaido Government Office)
อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโดเป็นที่รู้จักกันในนามอาคารรัฐบาลอิฐแดง (Red Brick Government Building) ผนังด้านนอกเป็นอิฐสีแดงที่โดดเด่น
อาคารรัฐบาลเก่าหลังนี้ดูงดงามด้วยการออกแบบสไตล์นีโอบาโรกแบบอเมริกัน เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรี
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5. ตลาดนิโจ (Nijo Market)
ตลาดนิโจที่เก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นแหล่งของอร่อยสุดฮิต ไม่เพียงจำหน่ายอาหารทะเลชื่อดังของฮอกไกโดอย่างปูและอิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) เท่านั้น แต่ยังมีตรอกและย่านกินดื่มเก่าแก่ของซัปโปโร ไปสัมผัสวันวานเก่าๆ ของซัปโปโรกัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
6. พิพิธภัณฑ์เมืองซัปโปโรหรือซัปโปโร ชิเรียวคัง (Sapporo Shiryokan หรือ Sapporo Archives)
ซัปโปโร ชิเรียวคัง (หอจดหมายเหตุซัปโปโร) ซึ่งสามารถร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำโอชิบานิ (ดอกไม้ทับแห้ง) และการทำคิริเอะ (ศิลปะการตัดกระดาษ) รวมทั้งการชมคอนเสิร์ตดนตรี
อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1926 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าที่ชาวเมืองรักยิ่ง
7. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร พิพิธภัณฑ์เบียร์แห่งเดียวในญี่ปุ่น เป็นที่เที่ยวแนะนำสำหรับผู้ชื่นชอบเบียร์ สามารถเข้าร่วมทัวร์ชมโรงงานแบบมีค่าใช้จ่ายและสัมผัสประสบการณ์การชิมเบียร์เปรียบเทียบรสชาติได้ด้วยนะ
8. กระเช้าลอยฟ้าเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa Ropeway)
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของซัปโปโรที่มองจากเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 531 เมตร เป็นหนึ่งในทิวทัศน์ยามราตรีอันงดงามที่ต้องมาสัมผัสด้วยตาเมื่อมาเยือนฮอกไกโด
เมื่อนั่งกระเช้าลอยฟ้าหรือโรปเวย์ขึ้นไปถึงยอดเขา จะเจอร้านอาหารที่มีผนังกระจกแบบ 270 องศาตั้งตระหง่านและส่องแสงอยู่บนท้องฟ้า สามารถรับประทานอาหารและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้
9. อุทยานหรรษา ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
เมื่อพูดถึงของฝากจากซัปโปโร ต้องนึกถึงชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito) ขนมช็อกโกแลตชื่อดัง เมื่อแวะไปที่อุทยานหรรษา ชิโรอิ โคอิบิโตะ ไม่เพียงแต่จะได้ชมกระบวนการผลิตขนมชื่อดังนี้เท่านั้น แต่ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การทำขนมด้วยตัวเองด้วย
10. สวนโมเอเรนุมะ (Moerenuma Park)
สวนโมเอเรนุมะแห่งนี้ออกแบบโดยอิซามุ โนกุจิ สถาปนิกระดับตำนาน เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ผสานธรรมชาติและศิลปะเข้าด้วยกัน
ลองแวะไปผ่อนคลายอารมณ์ที่สวนโมเอเรนุมะซึ่งมีความงดงามต่างกันในแต่ละฤดูกาลกัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
11. สวนศิลปะซัปโปโร (Sapporo Art Park)
Sapporo Art Park หรือ Sapporo Geijutsu no Mori เป็นสวนศิลปะกลางแจ้งที่จัดแสดงประติมากรรม 74 ชิ้นโดย 64 ศิลปิน
ประติมากรรมเหล่านี้ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้สามารถชื่นชมศิลปะในหลากหลายอารมณ์ที่ต่างกันตามสภาพอากาศและฤดูกาล
12. หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโด (Hokkaido Kaitaku No Mura หรือ Historical Village of Hokkaido)
Hokkaido Kaitaku no Mura สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสครบ 100 ปี การสถาปนาฮอกไกโด สามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ของฮอกไกโดได้จากการชมอาคารและเอกสารทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งลิ้มรสอิโมโมจิ (โมจิมันฝรั่ง) ของขึ้นชื่อของหมู่บ้าน และมิโซะราเม็ง ราเม็งแสนอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอกไกโดได้ที่โรงอาหารของที่นี่ด้วย
13. สวนลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden)
Horomitoge Lavender Garden มีดอกลาเวนเดอร์กว่า 5,000 ต้นบานสะพรั่งงดงาม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกลาเวนเดอร์คือ ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม ระยะเวลาราว 1 เดือน
สามารถสัมผัสประสบการณ์การเก็บดอกลาเวนเดอร์ในสวนได้ด้วย มาสร้างความทรงจำสุดวิเศษกับครอบครัวและคนรักท่ามกลางกลิ่นหอมหวลของดอกลาเวนเดอร์กัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
14. โจซังเคออนเซ็น (Jozankei Onsen) จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี
Jozankei Onsen เป็นออนเซ็นชื่อดัง และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อด้วย
สามารถเพลิดเพลินกับสีสันของฤดูใบไม้ร่วงได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นจากเมืองออนเซ็นไปตามลำธาร นั่งเรือกอนโดลาชมใบไม้เปลี่ยนสี และนั่งรถบัสกัปปะตระเวนชมใบไม้เปลี่ยนสีตามที่เที่ยวสุดฮิตต่างๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในซัปโปโรกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในซัปโปโรกับ Agoda
15. คลองโอตารุ (Otaru Canal)
คลองโอตารุซึ่งไหลผ่านเมืองโอตารุใกล้กับซัปโปโรนั้น มีทัศนียภาพที่มีมนต์เสน่ห์เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ อาคารอิฐแดงที่เรียงรายอยู่ริมคลอง กับแสงอันอบอุ่นของตะเกียงแก๊สที่ส่องสว่างไปทั่วเมืองสร้างบรรยากาศชวนฝันในยามค่ำคืนให้โรแมนติกมากๆ
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโอตารุกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในเมืองโอตารุกับ Agoda
โนโบริเบ็ตสึ (ฮอกไกโดกลาง)
16. โนโบริเบ็ตสึออนเซ็น (Noboribetsu Onsen)
Noboribetsu Onsen เป็นที่รู้จักในฐานะออนเซ็นรีสอร์ตชั้นนำแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ในละแวกใกล้ๆ มีปล่องภูเขาไฟจิโกคุดานิ และหนองน้ำธรรมชาติที่เกิดจากการปะทุและการระเบิดของภูเขาไฟเรียงรายอยู่ ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุดฮิต
17. ฟาร์มหมีโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu Bear Park หรือ Kuma Bokujo)
จาก Noboribetsu Onsen ขึ้นกระเช้าลอยฟ้ามาเพียง 7 นาที ก็จะพบกับ Noboribetsu Bear Park สวนสัตว์ที่เหมาะมาเที่ยวกับครอบครัวมากๆ สามารถชมน้องหมีสีน้ำตาลตัวโตแบบใกล้ชิดด้วยนะ
18. โนโบริเบ็ตสึดาเตะ ดาเตะ จิไดมุระ (Noboribetsu Date Jidai Village)
อาคารเพื่อความบันเทิงต่างๆ ทั้งบ้านนินจาและที่พักซามูไรที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเหล่านี้ ก็คือ Noboribetsu Date Jidai Village สวนวัฒนธรรมที่นำบ้านเมืองและวัฒนธรรมสมัยเอโดะทั้งหมดกลับมาทำใหม่ให้เป็นสวนสนุกในธีมสมัยเอโดะนั่นเอง
หลังดื่มด่ำกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตาของฮอกไกโดแล้ว ลองย้อนเวลาไปสนุกในโลกที่รายล้อมด้วยนินจาและเกอิชากัน
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโนโบริเบ็ตสึกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโนโบริเบ็ตสึกับ Agoda
ฮาโกดาเตะ (ฮอกไกโดใต้)
19. เขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate)
เขาฮาโกดาเตะเป็นที่เที่ยวขึ้นชื่อของฮาโกดาเตะ มีทิวทัศน์งดงามยิ่งซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมของโลก
ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของฮาโกดาเตะที่มองจากบนกระเช้าลอยฟ้างดงามน่าตะลึงยิ่ง
20. หอคอยโกเรียวคาคุ (Goryokaku Tower)
จาก Goryokaku Tower สามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาของโกเรียวคะคุ (Goryokaku) ป้อมปราการรูปดาวซึ่งสร้างเมื่อปี 1864 โดยผู้สำเร็จราชการในสมัยเอโดะ
เมื่อขึ้นไปบนจุดชมวิว รับรองว่าจะประทับใจกับความงามของป้อมปราการโกเรียวคะคุซึ่งเป็นการผสานเทคนิคการก่อสร้างปราสาทแบบตะวันตก
21. อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park)
Onuma Quasi National Park สร้างเมื่อปี 1958 เป็นอุทยานธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มองเห็นโคมากาทาเกะ (Mt. Komagatake) ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นซึ่งสูง 1,131 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ภูเขาไฟโคมากาทาเกะจะมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไปตามมุมมอง เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวในฐานะภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นซึ่งหาได้ยาก สามารถปีนเขาได้ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม
22. ยุโนะคาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen)
Yunokawa Onsen เมืองออนเซ็นในยุโนะคาวะโจ (Yunokawacho) เมืองฮาโกดาเตะ นั่งรถจากสนามบินฮาโกดาเตะ (Hakodate Airport) มาแค่ 5 นาที
สามารถลิ้มรสอาหารทะเลสุดอร่อยหลังแช่ออนเซ็นในเรียวกังเก่าแก่ที่อบอวบไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ หรือชมความงดงามของท้องทะเลจากโรงแรมสไตล์โมเดิร์น
ในฤดูร้อนยังสามารถแช่ออนเซ็นและชมการแสดงดอกไม้ไฟไปด้วยได้ ในสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden) ซึ่งตั้งอยู่มุมหนึ่งของเมือง มีซารุยามะออนเซ็น (Saruyama Onsen) ที่สามารถชมน้องลิงแสมญี่ปุ่นแช่น้ำพุร้อนด้วยนะ
23. เนินฮาจิมันซากะ (Hachimanzaka Slope)
Hachimanzaka Slope เป็นทางลาดที่ทอดยาวตรงจากโกดังอิฐแดงคาเนโมริไปยังเขาฮาโกดาเตะ
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน พื้นที่ปูหินจะส่องประกายเมื่อไฟถนนส่องกระทบ ยังสามารถมองเห็นเรือต่างๆ สัญจรไปมาที่ท่าเรืออยู่ไกลๆ ด้วย
24. ท่าเรือฮาโกดาเตะ (Hakodate Port)
ของอร่อยขึ้นชื่อในบริเวณรอบฮาโกดาเตะก็คืออาหารทะเลสดๆ อย่างปลาหมึก คอนบุ (สาหร่ายทะเล) อาวาบิ (หอยเป๋าฮื้อ) และอุนิ (หอยเม่นทะเล)
มีการจัดงานเทศกาลท่าเรือฮาโกดาเตะ (Hakodate Port Festival) ขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี โดยจะมีการจุดดอกไม้ไฟที่งดงามตระการตา ทำให้บริเวณรอบๆ ท่าเรือเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
25. โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouses)
โกดังอิฐแดงคาเนโมริมีประวัติยาวนานราว 150 ปี สร้างจากอิฐแดง เป็นอาคารเชิงพาณิชย์ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายต่างแดน ในแต่ละปีมีผู้คนแวะเวียนมาเยื่ยมชมมากถึง 1.5 ถึง 2 ล้านคนเลยทีเดียว
ส่วนหนึ่งของย่านอาคารแห่งนี้มีคลองไหลผ่านเป็นทิวทัศน์ที่ดูแปลกตา ในยามค่ำคืน ริมน้ำและโกดังต่างๆ จะแสงสว่างไสว ทำให้ทัศนียภาพที่มองเห็นเบื้องหน้าดูงดงามยิ่ง
26. ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Asaichi หรือ Hakodate Morning Market)
ถ้าอยากลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮาโกดาเตะอย่างปู อุนิ และไข่ปลาแซลมอน ต้องแวะไปตลาดเช้าซึ่งอยู่ติดกับสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate Station) ตลาดเช้าที่สามารถลิ้มรสไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าซาซิมิสดๆ) อร่อยๆ ในราคาย่อมเยาแห่งนี้ จะคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายทุกเช้า
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
27. สถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ (Former British Consulate of Hokodate)
Former British Consulate of Hakodate สร้างเมื่อปี 1859 หลังเกิดไฟไหม้หลายครั้งจึงมีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ในปี 1992 ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
มีห้องเอกสารอ้างอิงที่สามารถเรียนรู้ประวัติการเปิดท่าเรือฮาโกดาเตะหลังเหตุการณ์กองเรือดำของพลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รีมาญี่ปุ่น และคาเฟ่ที่สามารถนั่งจิบน้ำชายามบ่ายสไตล์อังกฤษแท้ๆ ได้
28. อนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง มาชูมารุ (Seikan Ferry Memorial Ship Mashumaru)
Seikan Ferry Memorial Ship Mashumaru (Hakodate-shi Seikanrenrakusen Kinenkan Mashumaru) เป็นพิพิธภัณฑ์ในเรือที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เดิมใช้เป็นเรือข้ามฟากระหว่างเกาะฮอกไกโดและเกาะฮอนชู
สามารถสัมผัสอุปกรณ์บนเรือที่ใช้จริงในสมัยนั้นได้ เป็นที่เที่ยวแนะนำสำหรับครอบครัว
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในฮาโกดาเตะกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในฮาโกดาเตะกับ Agoda
นิเซโกะ (ฮอกไกโดใต้)
29. นิเซโกะ (Niseko) สกีรีสอร์ตสุดฮิต
เมื่อพูดถึงฮอกไกโด ต้องนึกถึงกีฬาฤดูหนาว นิเซโกะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องหิมะเนื้อเนียนราวผงแห่งนี้ มีผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดมาเที่ยวกันเยอะมากทุกปี หากอยากสนุกกับหิมะเนื้อละเอียดสุดๆ ต้องแวะไปที่นิเซโกะในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์กัน
ที่อยู่: Niseko, Hokkaido
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในนิเซโกะกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในนิเซโกะกับ Agoda
อาซาฮิคาวะ / ฟุราโนะ / บิเอ (ฮอกไกโดเหนือ)
30. สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
Asahiyama Zoo เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีผู้คนจากทั่วญี่ปุ่นมาเที่ยวกันมากมาย ผู้เข้าชมจะได้เห็นพฤติกรรมและระบบนิเวศของสัตว์ต่างๆ ซึ่งมีทั้งความสนุกสนานและตื่นเต้น ทำให้ที่นี่เป็นที่เที่ยวซึ่งผู้คนทุกวัยต่างชื่นชอบ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในอาซาฮิคาวะกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในอาซาฮิคาวะกับ Agoda
31. ฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita)
Farm Tomita เปิดให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง สามารถชมสวนดอกไม้หลากสีสัน โดยมีดอกลาเวนเดอร์เป็นตัวเอก
Farm Tomita เปิดให้เข้าชมฟรี สามารถซื้อของฝากที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์ เช่น ดอกไม้แห้งและน้ำหอมด้วยนะ
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในฟุราโนะกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในฟุราโนะกับ Agoda
32. โซอุนเคียวออนเซ็น (Sounkyo Onsen)
Sounkyo Onsen อยู่ห่างจากอาซาฮิคาวะราว 70 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในหุบเขาของเทือกเขาไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan)
น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการต่างๆ เช่น โรคปวดไขข้อ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน
อาคารบ้านเรือนต่างๆ ของที่นี่สร้างในสไตล์รีสอร์ตบนภูเขาของแคนาดา เป็นแหล่งท่องเที่ยวออนเซ็นสุดเก๋ในบรรยากาศสไตล์ตะวันตก
ที่อยู่: Sounkyo Onsen, Kamikawa, Kamikawa, Hokkaido
33. เคน แอนด์ แมรี่ ทรี (Ken and Mary Tree)
Ken and Mary Tree เป็นชื่อของต้นไม้ที่ตั้งตระหง่านอย่างสงบในเมืองบิเอของฮอกไกโดต้นนี้
ชื่อนี้ถือกำเนิดมาจากโฆษณารถยนต์ชื่อ Ken and Mary's Skyline ต้นป็อปลาร์ในสถานที่ถ่ายทำโฆษณานี้ ปัจจุบันกลายเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของเมืองที่ชาวเมืองรักยิ่ง
34. สระน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะ (Shirogane Blue Pond)
สระน้ำสีฟ้าชิโรกาเนะกลายเป็นกระแสพูดถึงอย่างมากในปี 2012 เมื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท Apple ใช้ภาพสระแห่งนี้เป็นภาพวอลเปเปอร์
ผิวน้ำสีฟ้านี้ที่มาจากคุณสมบัติพิเศษของน้ำในสระ เป็นหนึ่งในทิวทัศน์สวยที่ต้องมาชมกันสักครั้งในชีวิต และอย่าพลาดชมการประดับไฟไลท์อัพในยามค่ำคืนช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ด้วยนะ
35. เนินบิเอ (Biei no Oka หรือ Biei Hills)
เนินบิเอซึ่งมีชื่อเล่นว่า แพชเวิร์ค (งานต่อผ้า) เนื่องจากพืชพันธุ์หลากชนิดที่ปลูกบนเนินแห่งนี้ มีสีสันงดงามคล้ายแพชเวิร์คนั่นเอง
ขณะที่ชมทิวทัศน์ของทุ่งที่มีเฉดสีเปลี่ยนไปตามความเข้มของแสงแดดที่ตกกระทบ เราจะรู้สึกเหมือนเวลาค่อยๆ เคลื่อนไปอย่างช้าๆ เป็นจุดชมทิวทัศน์สวยที่แนะนำสำหรับผู้ที่อยากถ่ายรูปทิวทัศน์ที่งดงามไปอวดกัน
ที่อยู่: Biei, Kamikawa, Hokkaido
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในบิเอกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในบิเอกับ Agoda
บริเวณรอบทะเลสาบอาคัง / มาชู (ฮอกไกโดตะวันออก)
36. ทะเลสาบอาคัง / ทะเลสาบมาชู / อาคังออนเซ็น
ทะเลสาบอาคังที่อยู่เบื้องหน้าเขาโออาคัง (Mt. Oakan)
ทะเลสาบอาคัง (Lake Akan) มีความยาวโดยรอบ 27 กิโลเมตร เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ส่วนทะเลสาบมาชู (Lake Mashu) นั้นในภาษาไอนุ หมายถึง ทะเลสาบแห่งพระเจ้า น้ำในทะเลสาบมีระดับความใสเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นที่เที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาฮอกไกโดกลางและตะวันออกนี้
ในเมืองออนเซ็นรอบๆ ทะเลสาบอาคัง ยังมีเรียวกังและโรงแรมมากถึงราว 30 แห่ง สามารถนั่งรถบัสจากสนามบินคุชิโระ (Kushiro Airport) ซึ่งมีชื่อเล่นว่าสนามบินทันโจคุชิโระ (Tancho Kushiro Airport) มาถึงเมืองออนเซ็นได้โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง
37. คาวายุออนเซ็น (Kawayu Onsen)
ใช้เวลาขับรถจากทะเลสาบมาชูไปยัง Kawayu Onsen ได้ในเวลาราว 20 นาที น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณในการเก็บรักษาความร้อนได้ดีช่วยให้ร่างกายอุ่นนานและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงนิยมใช้เป็นออนเซ็นเพื่อการพักฟื้นกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ในเมืองออนเซ็นมีอาชิยุ (ออนเซ็นเท้า) และน้ำพุร้อนอุณหภูมิสูงที่ไหลเป็นสาย ใกล้ๆ กันมีจุดเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเขาอิโอ (Mt. Iou) ซึ่งสามารถขับรถไปถึงได้ในเวลาราว 10 นาทีด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในอาคัง / ทะเลสาบมาชูกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อที่พักในอาคัง / ทะเลสาบมาชูกับ Agoda
ชิเรโตโกะ / โทคาจิ / โอบิฮิโระ (ฮอกไกโดตะวันออก)
ชิเรโตโกะ (Shiretoko) พื้นที่ซึ่งยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนักนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ส่วนพื้นที่โทคาจิ / โอบิฮิโระ (Tokach / Obihiro) เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่มีฟาร์มปศุสัตว์และหมู่บ้านเกษตรกรรม
ถ้าจะไปชิเรโตโกะ ขอแนะนำให้ขึ้นรถบัสจากสนามบินเมมันเบ็ตสึ (Memanbetsu Airport) หรือขึ้นรถไฟ JR จากสนามบินคุชิโระ ส่วนการเดินทางไปโทคาจิ / โอบิฮิโระ ขอแนะนำใช้สนามบินโทคาจิโอบิฮิโระ (Tokachi Obihiro Airport) จะสะดวกที่สุด
38. อุโทโระออนเซ็น (Utoro Onsen)
Utoro Onsen ในชิเรโตโกะ เป็นน้ำพุร้อนที่มีการพบเมื่อปี 1965 เนื่องมาจากมีการทำการก่อสร้างในบริเวณนั้น
แวะมาแช่ออนเซ็นผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ขณะที่ชมพระอาทิตย์ตกสู่ทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk Sea) ที่มีเทือกเขาในชิเรโตโกะเป็นฉากหลังสุดโรแมนติกกัน
39. อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko National Park)
Shiretoko National Park มีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ราว 60,000 เฮกตาร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO มีกิจกรรมการอนุรักษ์ที่เข้มงวดมากเนื่องจากเป็นเขตคุ้มครองพิเศษ
ทะเล ภูเขา และทะเลสาบที่กินอาณาบริเวณกว้างนี้ ยังเป็นที่อยู่ของน้องหมีสีน้ำตาลและน้องกวางเอโซซิกะที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติที่ยังไม่มีมนุษย์เข้าไปแตะต้อง
40. ทะเลสาบชิเรโตโกะทั้ง 5 (Shiretoko Five Lakes หรือ Shiretoko Goko)
Shiretoko Goko เป็นเหมือนประตูสู่แหล่งมรดกโลก มีทางเดินให้เดินเล่นรอบทะเลสาบได้อย่างอิสระ
Shiretoko Goko ยังเป็นที่อยู่อาศัยของน้องหมีสีน้ำตาลเช่นกัน ดังนั้น ขอแนะนำให้ร่วมทัวร์เดินเล่นพร้อมไกด์เพื่อการเดินเล่นที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นนะ
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในชิเรโตโกะกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในชิเรโตโกะกับ Agoda
41. โทคาจิกาวะออนเซ็น (Tokachigawa Onsen)
Tokachigawa Onsen ในโอบิฮิโระ (Obihiro) เป็นเมืองออนเซ็นที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำพุร้อนเสริมความงาม จึงทำให้ลูกค้าผู้หญิงแวะเวียนมาเป็นมาก
เนื่องจากต้นน้ำของ Tokachigawa Onsen มีพืชพันธุ์ต่างๆ ทำให้น้ำพุร้อนของที่มีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติมาก ดังนั้นจึงว่ากันว่า น้ำพุร้อนของที่นี่มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการต่างๆ เช่น อาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย อาการปวดหลังปวดเอว และโรคผิวหนัง
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโทคาจิกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโทคาจิกับ Agoda
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโอบิฮิโระกับ Booking.com
คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักในโอบิฮิโระกับ Agoda
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ของอร่อยแนะนำในฮอกไกโด
เกาะฮอกไกโดล้อมรอบด้วยทะเล อุดมไปด้วยธรรมชาติและมีทุ่งเลี้ยงสัตว์มากมาย ทำให้ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของอร่อยมากๆ
มีอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อหลากหลายอย่างเจงกิสข่าน (เนื้อแกะย่างกับผักต่างๆ) และอิชิการินาเบะ (Ishikarinabe) เป็นหม้อไฟมิโซะปลาแซลมอนกับผักต่างๆ
ของอร่อยเด่นๆ ของฮอกไกโดอื่นๆ ก็ยังมีซูชิและไคเซ็นด้งที่ใช้ของทะเลสดๆ รวมทั้งมิโซะราเม็งอย่าง ซัปโปโรราเม็งด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
งานเทศกาลและอีเวนท์ในฮอกไกโด
ฮอกไกโดมีงานเทศกาลและอีเวนท์ตามฤดูกาลมากมาย
โดยเฉพาะในฤดูหนาว มีงานเทศกาลและอีเวนท์มากมายเกี่ยวกับหิมะ อย่างงานเทศกาลหิมะซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีการจัดแสดงประติมากรรมจากหิมะและน้ำแข็งที่น่าทึ่งมากมาย จำหน่ายของอร่อยของฮอกไกโดอุ่นๆ ซึ่งเหมาะกับฤดูหนาว ว่ากันว่าช่วงเวลานี้ทั่วทั้งซัปโปโรจะมีผู้คนแน่นขนัดจนลืมหนาวไปเลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ดอกซากุระ ใบไม้ร่วง และเสื้อผ้า
ธรรมชาติของญี่ปุ่นจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปตามแต่ละฤดูกาล ดอกซากุระในฮอกไกโดจะเริ่มบานช่วงปลายเดือนเมษายนซึ่งช้ากว่าโตเกียวราว 1 เดือน
ในทางกลับกัน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงของฮอกไกโดจะเริ่มต้นเร็ว ถ้ามาเที่ยวในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม จะสามารถถ่ายรูปภูเขาสีแดงเหลืองของฮอกไกโดได้
ถ้าอยากชมทิวทัศน์ของหิมะ ขอแนะนำให้มาเที่ยวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่หิมะตกหนักสุดๆ ระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ จะได้รับผลกระทบ อาจทำให้ออกไปเที่ยวข้างนอกได้ยากหลายวันเลยล่ะ
นอกจากนี้ ถึงฤดูร้อนในฮอกไกโดจะเย็นกว่าในเกาะฮอนชูเล็กน้อย แต่ในพื้นที่ฮาโกดาเตะและชิเรโตโกะก็ไม่จำเป็นต้องสวมเสื้อหลายชั้นหนาๆ แค่เสื้อแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นก็ยังออกไปข้างนอกได้สบายๆ
ส่วนในบริเวณรอบๆ ฟุราโนะและอาซาฮิคาวะจะมีอุณหภูมิระหว่างวันต่างกันมาก โดยเฉพาะถ้าไปเที่ยวบนพื้นที่สูงๆ ควรเตรียมเสื้อผ้าที่สามารถสวมทับให้อุ่นติดไปด้วย
ในทางกลับกัน ฤดูหนาวในฮอกไกโดจะหนาวสุดๆ ทุกที่ ดังนั้นควรสวมเสื้อผ้าให้อุ่นๆ ไปเที่ยวให้สนุกกันนะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
การคมนาคมในฮอกไกโด
หากต้องการเดินทางจากโตเกียวหรือที่อื่นๆ ไปฮอกไกโด ขอแนะนำใช้เครื่องบินจะสะดวกที่สุด แต่ก็สามารถเดินทางไปด้วยรถไฟชินคันเซ็นหรือรถเช่าได้ แต่จะใช้เวลานานกว่ามากๆ
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ MATCHA
คลิกที่นี่เพื่อจองเที่ยวบินจากโตเกียวไปสนามบินชินชิโตเซะ (New Chitose Airport): skyticket>
ตรวจสอบข้อมูล JR PASS และ Hokkaido Rail Pass บัตรฟรีพาสแสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เลย!
สำหรับการเดินทางในฮอกไกโด ซึ่งมีที่เที่ยวหลายแห่งอยู่ห่างจากเส้นทางรถไฟ การเช่ารถขับจะสะดวกกว่า
MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 10% ในการเช่ารถจาก Nippon Rent-A-Car หนึ่งในบริษัทรถเช่าชั้นนำของญี่ปุ่น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
การเตรียมตัวลุยเที่ยวอื่นๆ อย่างที่พักและ Wi-Fi
เมื่อตัดสินใจไปเที่ยวฮอกไกโด ถ้าจองตั๋วเครื่องบินและรถไฟเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องจองที่พักกัน
หากต้องการที่พักดีๆ ราคาสุดคุ้มในฮอกไกโด ลองมองหากันใน Booking.com และ Agoda ได้เลย
ในญี่ปุ่นมีสถานที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีไม่กี่แห่ง ดังนั้น ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเช่า Pocket Wi-Fi ใช้เที่ยวจะสะดวกกว่า
MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 20% สำหรับเช่า Ninja-Wifi ให้ นำไปใช้กันได้เลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Booking.com
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นใหม่จากบทความที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคม 2016
All pictures from PIXTA
Written by
94年生まれ。神戸出身、東京在住。アメリカからの帰国子女。旅、アート、食が大好きな大学生。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง