Start planning your trip

ฮาโกดาเตะเป็นเมืองท่าสำคัญของฮอกไกโด มีตลาดเช้าที่ลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ได้ ยังมีที่เที่ยวคัดสรรซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของฮาโกดาเตะ ทั้งออนเซ็น จุดชมวิวอย่างโกเรียวคาคุ, เนินฮาจิมังซากะ, เขาฮาโกดาเตะที่มี “ทิวทัศน์ยามค่ำคืนล้านดอลลาร์” รวมถึงตัวอย่างเส้นทางเที่ยวและวิธีเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวหลักในฮาโกดาเตะ
ฮาโกดาเตะตั้งอยู่เกือบใต้สุดของเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นเมืองท่าทางการค้าที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต ในเมืองเรียงรายไปด้วยอาคารอันงดงามที่ผสานวัฒนธรรมญี่ปุ่นกับต่างชาติอย่างยุโรปเข้าด้วยกัน
ฮาโกดาเตะสามารถแบ่งพื้นที่โดยสังเขปได้เป็นบริเวณโกเรียวคาคุ, บริเวณเขาฮาโกดาเตะและโมโตมาจิ, บริเวณสถานีฮาโกดาเตะ และบริเวณชานเมือง (ยุโนกาวะออนเซ็น ฯลฯ) บทความนี้ได้คัดสรรและแนะนำ 27 ที่เที่ยวสำคัญๆ ที่น่าสนใจของฮาโกดาเตะโดยแบ่งตามพื้นที่
บริเวณโกเรียวคาคุ
บริเวณเขาฮาโกดาเตะและโมโตมาจิ
บริเวณสถานีฮาโกดาเตะ
บริเวณรอบๆ ยุโนกาวะออนเซ็นและอื่นๆ
Photo by Pixta
โกเรียวคาคุ (Goryokaku) เป็นที่เที่ยวสุดฮิตในฮาโกดาเตะ ป้อมปราการแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าได้
จุดเด่นที่สุดของที่นี่คือพื้นที่ป้อมปราการทั้งหมดเป็นรูปดาวมหึมา ซึ่งเป็นกลยุทธป้องกันไม่ให้เกิดจุดบอดหากข้าศึกโจมตี บนปลายแหลมของรูปดาวติดตั้งปืนใหญ่เตรียมไว้เพื่อโจมตีศัตรู
บริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะ สามารถชมความงดงามที่เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง และในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
สวนโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)
ที่อยู่: 44-2 Goryokakucho, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakodate-jts-kosya.jp/park/goryokaku /
Photo by Pixta
หอคอยโกเรียวคาคุสูง 107 เมตร อยู่ติดกับสวนโกเรียวคาคุ ถือเป็นสัญลักษณ์ของโกเรียวคาคุ มีจุดชมวิวบนชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของโกเรียวคาคุได้แบบพาโนรามา
จุดชมวิวบนชั้น 2 สูงจากพื้นดิน 90 เมตร บนชั้นนี้ยังจัดแสดงนิทรรศการที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของโกเรียวคาคุได้ด้วย จุดชมวิวบนชั้น 1 มีพื้นเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่าง บนชั้นนี้ยังมีร้านขายของฝากและคาเฟ่ที่สามารถใช้เวลาเพลิดเพลินไปพร้อมกับการชมวิวได้
หอคอยโกเรียวคาคุ (Goryokaku Tower)
ที่อยู่: 43-9 Goryokakucho, Hakodate
เวลาทำการ: 9:00 - 18:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://www.goryokaku-tower.co.jp/en/
Photo by Pixta
เขาฮาโกดาเตะถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของฮาโกดาเตะ และเป็นที่เที่ยวทิวทัศน์งามซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองและช่องแคบสึการุ (Tsugaru Strait) จากจุดชมวิวที่ระดับความสูง 334 เมตร
นอกจากนี้ยังมีคอร์สเส้นทางเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาในเวลาราว 45 นาที ขอแนะนำให้เดินขึ้นไปบนยอดเขาพร้อมเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันเขียวขจีไปด้วย หรือไม่ก็นั่งกระเช้าลอยฟ้าเพียงแค่ 3 นาทีขึ้นไปบนยอดเขาพร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์งดงามตามฤดูกาล
บนยอดเขามีคาเฟ่และร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารพร้อมดื่มด่ำกับทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะ "ทิวทัศน์ยามค่ำคืนล้านดอลลาร์" รวมทั้งอาหารอร่อยของฮาโกดาเตะด้วย
เขาฮาโกดาเตะ (Mt. Hakodate)
ที่อยู่: Hakodateyama, Hakodate, Hokkaido
เว็บไซต์ทางการ: https://334.co.jp/eng/
Photo by Pixta
โรปเวย์หรือกระเช้าลอยฟ้าเชื่อมเชิงเขาฮาโกดาเตะกับยอดเขาฮาโกดาเตะที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 334 เมตร ในเวลาเพียง 3 นาที
โรปเวย์จะให้บริการทุกๆ 15 นาที จากภายในกระเช้าสามารถชมทิวทัศน์แบบ 360 องศา ไม่เพียงมองเห็นทิวทัศน์เมืองฮาโกดาเตะ อ่าวฮาโกดาเตะ และช่องแคบสึการุเท่านั้น แต่ยังสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ตามฤดูกาลกลางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระ พืชพรรณเขียวขจี ใบไม้เปลี่ยนสี และทิวทัศน์ที่ข้าวโพลนไปด้วยหิมะ นอกจากนี้ยังให้บริการในเวลากลางคืน จึงสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนสุดมมหัศจรรย์ได้
จากป้ายรถรางสถานีจูจิไก (Jujigai) ใช้เวลาเดินไปสถานีซันโรคุ (Sanroku Eki-mae) ฮาโกดาเตะซังโรปเวย์ (Mt. Hakodate Ropeway) เพียง 10 นาที
ฮาโกดาเตะซังโรปเวย์ (Mt. Hakodate Ropeway)
ที่อยู่: 43-9 Goryokakucho, Hakodate
เวลาทำการ: 20 เมษายน - 30 กันยายน 10:00 - 22:00 น., 1 ตุลาคม - 19 เมษายน 10:00 - 21:00 น.
เว็บไซต์ทางการ: https://334.co.jp/
Photo by Pixta
โกดังอิฐแดงคานาโมริเดิมทีเป็นโกดัง แต่ปัจจุบันเป็นคอมเพล็กซ์ที่มีชอปปิงมอลล์ด้วย มีสินค้าครบครันตั้งแต่แฟชั่น ของใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงของฝากจากฮอกไกโด มีคาเฟ่ซึ่งสามารถลิ้มลองซอฟต์ครีมจากนมวัวสดๆ ด้วย
ยามค่ำคืนที่นี่จะประดับไฟไลต์อัพ เหมาะกับการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกมากๆ แม้ในวันที่ฝนตก ก็สามารถถ่ายรูปสวยๆ ได้
โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouses)
ที่อยู่: 14-12 Suehirocho, Hakodate
เวลาทำการ: 9.30 - 19:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://hakodate-kanemori.com/th/
Photo by Pixta
เนินฮาจิมังซากะได้ที่ 1 ในการจัดอันดับ “เนินของญี่ปุ่นที่น่าเที่ยวที่สุด” เป็นเนินชื่อดังของฮอกไกโด
เนินลาดตรงไปถึงท่าเรืออันงดงาม บนทะเลมีพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง “มาชูมารุ” ที่ได้รับการอนุรักษ์ทอดสมออยู่ สามารถมองเห็นด้านหน้าเรือด้วย
ในฤดูหนาว ต้นไม้สองข้างทางถนนจะมีการประดับไฟไลต์อัพ ควบคู่กับแสงไฟจากท่าเรือ ให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก เป็นจุดชมวิวงดงามพอๆ กับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเขาฮาโกดาเตะเลยทีเดียว
เนินฮาจิมังซากะ (Hachimanzaka Slope)
ที่อยู่: Machimoto, Suehiro, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: −
Photo by Pixta
ที่นี่มีทางเดินปูด้วยหินและอาคารสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก เป็นทิวทัศน์ที่งดงามแปลกตา จนได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน “100 ถนนที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น”
ตามทางเรียงรายไปด้วยโบสถ์ อาคารสไตล์ตะวันตก และอาคารพาณิชย์ย้อนยุค เหมาะกับการเดินเล่นผ่อนคลายสบายๆ
ที่นี่ยังเลื่องชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามในฤดูใบไม้ร่วง ทั้งต้นนานากามาโดะซึ่งมักพบเห็นในฮอกไกโดนินจะแต่งแต้มสีสันให้ทั้งเนินงดงาม ให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ชื่อของเนินนี้มาจากชื่อของที่พักแห่งหนึ่งที่ชื่อ "ไดซัน"
เนินไดซังซากะ (Daisanzaka Slope)
ที่อยู่: 17-17 Motomachi, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: −
Photo by Pixta
ในปี 1859 ท่าเรือฮาโกดาเตะได้เปิดเป็นท่าเรือการค้าระหว่างประเทศแห่งแรกของญี่ปุ่น นับจากนั้น ก็มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาอาศัยเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน โมโตมาจิจึงเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยอาคารที่ผสานวัฒนธรรมอันหลากหลาย ทั้งอเมริกัน รัสเซีย และอังกฤษ
ทั่วย่านแห่งนี้มีอาคารที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมชมมากมาย ทั้งโบสถ์และอาคารตะวันตกมากมาย อย่างสถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ (Former British Consulate of Hokodate) และศาลาประชาคมเก่าของฮาโกดาเตะ (Old Public Hall of Hakodate Ward)
โมโตมาจิ (Motomachi)
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: −
Photo by Pixta
อาคารที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพื้นที่โมโตมาจิแห่งนี้คือโบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (รูปด้านบน) ซึ่งเป็นโบสถ์ออร์โธดอกซ์รัสเซียแห่งแรกของญี่ปุ่น ตัวอาคารทรงเสน่ห์ มีผนังสีขาวและหลังคาสีเขียวดูน่ารัก สามารถเดินชมด้านในได้ด้วย
ทุกวันเสาร์เวลา 17:00 น. และช่วงเช้าวันอาทิตย์ ทั่วทั้งบริเวณจะก้องกังวานไปด้วยเสียงระฆังอันไพเราะ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน “100 ภูมิทัศน์ทางเสียงของญี่ปุ่น” ปัจจุบันระฆังที่โบสถ์นี้เป็นรุ่นที่ 5 แล้ว
โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Orthodox Church)
ที่อยู่: 3-13 Motomachi, Hakodate
เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์ 10:00 - 17:00 น., เสาร์ 10:00 - 16:00 น. และอาทิตย์ 13:00 - 16:00 น.
เว็บไซต์ทางการ: https://www.orthodox-hakodate.jp/
Photo by Pixta
โบสถ์แห่งนี้เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1874 เมื่อมิชชันนารีชาวอังกฤษมาเยือนฮาโกดาเตะและเผยแผ่ศาสนาคริสต์ อาคารเดิมถูกเพลิงไหม้ทำลาย จากนั้นมีการสร้างขึ้นใหม่ อาคารปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ในปี 1979
จุดเด่นของโบสถ์หลังนี้คือหลังคาที่ยื่นออกไป 4 ด้าน ซึ่งได้รับการออกแบบให้ดูเหมือนไม้กางเขนเมื่อมองจากด้านบน
สามารถชมภายในโบสถ์ได้ (ต้องจองล่วงหน้า) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาล ที่นี่ยังมีการจัดคอนเสิร์ตและการสวดมนต์เข้าโบสถ์ในวันอาทิตย์ด้วย
โบสถ์อีพิสโคพัลฮาโกดาเตะแห่งญี่ปุ่น (Hakodate Episcopal Church of Japan)
ที่อยู่: 3-23 Motomachi, Hakodate, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: https://www.nskk- hokkaido.jp/church/hakodate.html
Photo by Pixta
ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เชิงเขาฮาโกดาเตะ ว่ากันว่าสร้างขึ้นช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เพื่อสักการะเทพเจ้าฮาจิมังในคฤหาสน์ในฮาโกดาเตะ เทพซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของผู้คนท้องถิ่นมายาวนานในฐานะเทพผู้พิทักษ์แห่งการพัฒนา การเดินเรือ และการประมง
อาคารศาลเจ้าในปัจจุบันสร้างขึ้นในปี 1915 และอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า “โชเทอิฮาจิมังซูคุริ” ซึ่งประกอบด้วย ฮนเด็น (วิหารหลัก) เฮย์เด็น (อาคารเชื่อม) และไฮเด็น (วิหารสักการะ)
ศาลเจ้าที่งามสง่าแห่งนี้ตั้งตระหง่านเหนือช่องแคบสึการุ ที่ล้อมรอบด้วยแมกไม้เขียวขจี
ศาลเจ้าฮาโกดาเตะฮาจิมังกู (Hakodate Hachimangu Shrine)
ที่อยู่: 2-5 Yachigamicho, Hakodate
เวลาทำการ: 9:00 - 17:00 น
เว็บไซต์ทางการ: −
Photo by Pixta
ฮาโกดาเตะเมจิคังเป็นอาคารอิฐแดงย้อนยุคทรงเสน่ห์ดูแข็งแกร่ง ชอปปิงมอลล์แห่งนี้เคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์ฮาโกดาเตะที่สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องแก้ว กล่องดนตรี ตุ๊กตาหมี ร้านของฝาก และอื่นๆ ที่สำคัญมีร้านให้บริการเช่าเครื่องแต่งกายซึ่งสามารถสวมชุดเดรสและเสื้อผ้าญี่ปุ่นดั้งเดิม พร้อมถ่ายรูปได้ด้วย
ส่วนร้าน Hakodate Rusama-ya Sweets และตลาดอาหารสดฮาโกดาเตะ (Hakodate Kaizen Ichiba) ที่อยู่ข้างๆ กัน ก็มีอาหารขึ้นชื่อของฮอกไกโดวางจำหน่ายมากมาย ทั้งขนมหวาน อาหารทะเลสด แฮม และไส้กรอก ขอแนะนำให้แวะไปกินไปชอปกันได้เลย
ฮาโกดาเตะเมจิคัง (Hakodate Meijikan)
ที่อยู่: 111-17 Toyokawacho, Hakodate
เวลาทำการ: 9:00 - 18:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakodate-factory.com/meijikan/
Photo by Pixta
สถานกงสุลอังกฤษเก่าเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้เปิดทำการมายาวนาน 75 ปีนับตั้งแต่ปี 1859 เป็นต้นมา พิพิธภัณฑ์เก่ายอดนิยมแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของฮาโกดาเตะในสมัยที่เพิ่งเปิดท่าเรือใหม่ๆ
ไม่เพียงสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของฮาโกดาเตะ แต่ยังมีคาเฟ่ให้นั่งผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับชาอังกฤษและขนมอบได้ บริเวณสวนในอาคารมีสวนกุหลาบที่ปลูกกุหลาบ 45 ต้น 18 สายพันธุ์ ซึ่งดอกจะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม
พิพิธภัณฑ์อยู่ติดกับเนินฮาจิมังซากะ จึงเป็นจุดเที่ยวที่ต้องแวะชมเมื่อมาแถวเนินนี้เลย
สถานกงสุลอังกฤษเก่าประจำฮาโกดาเตะ (Former British Consulate of Hokodate)
ที่อยู่: 33-14 Motomachi, Hakodate
เวลาทำการ: 1 เมษายน - 31 ตุลาคม 9:00 - 19:00 น., 1 พฤศจิกายน - 31 มีนาคม 9:00 - 17:00 น.
เว็บไซต์ทางการ: https://www.fbcoh.net/
Photo by Pixta
สวนฮาโกดาเตะ (Hakodate Park) เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ของฮอกไกโด ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน “100 สวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น” และ “มรดกทางภูมิสถาปัตยกรรมของฮอกไกโด” สร้างเมื่อปี 1879 ถือเป็นสวนสาธารณะสไตล์ตะวันตกแห่งแรกของฮอกไกโด ด้านในมีพิพิธภัณฑ์เมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate City Museum) และสวนสนุกโคโดโมะโนะคุนิ (Kodomonokuni) ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปโดยปริยาย
สวนสนุกโคโดโมะโนะคุนิในสวนฮาโกดาเตะ มีชิงช้าสวรรค์เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมที่มีรูปร่าง นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นสุดฮิตมากมายสำหรับเด็กเล็ก อย่างเครื่องบิน รถไฟชินคันเซ็น และม้าหมุน ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวแนะนำสำหรับครอบครัว
สวนสนุกโคโดโมะโนะคุนิและสวนฮาโกดาเตะ
ที่อยู่: 17-4 Aoyagicho, Hakodate
เวลาทำการ: วันธรรมดา 9:00 - 16:30 น., เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:00 - 17:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://kodomonokuni.sakuraweb.com/
Photo by Pixta
มิโดริโนะชิมะเป็นเกาะเทียมที่สร้างโดยใช้ดินทรายก้นมหาสมุทรที่เกิดขึ้นระหว่างการสร้างอ่าวฮาโกดาเตะ
มีทางเดินรอบเกาะ สามารถเดินเล่นเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของท่าเรือ เขาฮาโกดาเตะ ทิวทัศน์ของบ้านเมือง โกดังอิฐแดงคาเนโมริ และพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง “มาชูมารุ”
ที่นี่ยังมีสนามหญ้าที่ได้รับการดูแลอย่างดี และเป็นสถานที่พักผ่อนชื่อดังของชาวเมือง อีกทั้งยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ด้วย
เกาะเทียมชื่อ มิโดริโนะชิมะ (Midori-no-Shima หรือ Green Island)
ที่อยู่: 15 Omachi, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: -
แหลมทาจิมาจิมิอยู่ติดช่องแคบสึการุซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเขาฮาโกดาเตะ จากหน้าผาที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลราว 30 เมตร สามารถมองเห็นช่องแคบสึการุและแนวชายฝั่งชายหาดโอโมริ (Omori Beach)
ที่มุมหนึ่งมีสวนฮามานาซุ (Hanamasu Park) ซึ่งสามารถใช้เวลาผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงาม ช่วงต้นฤดูร้อนถึงฤดูร้อนดอกฮามานาซุซึ่งเป็นดอกกุหลาบสายพันธุ์อันโด่งดังของฮอกไกโดจะตกแต่งสีสันให้สวนแห่งนี้เป็นสีชมพู
แหลมทาจิมาจิมิ (Cape Tachimachimi)
ที่อยู่: 9-9 Sumiyoshicho, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: -
Photo by Pixta
ยาจิกาชิระออนเซ็น (Yachigashira Onsen) เป็นออนเซ็นที่โด่งดังของฮาโกดาเตะ อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างแหลมทาจิมาจิมิ และเชิงเขาฮาโกดาเตะ
น้ำพุร้อนของออนเซ็นแห่งนี้ไหลตรงมาจากแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่นี่ยังมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งรูปดาวซึ่งสร้างเลียนแบบป้อมโกเรียวคาคุ ซาวน่า และบ่อน้ำเย็นด้วย รวมทั้งพื้นที่พักผ่อนและชคคุโด (โรงอาหาร) ที่ใช้เวลาผ่อนคลายสบายๆ ได้
แถมยังสามารถใช้บริการได้ในราคาย่อมเยา เพียงคนละ 430 เยน (ผู้ใหญ่) ทำให้ที่นี่เป็นออนเซ็นที่ผู้คนท้องถิ่นต่างชื่นชอบ
อนึ่ง มีมารยาทพื้นฐานในการแช่ออนเซ็นของญี่ปุ่นด้วย อย่างการล้างตัวให้สะอาดก่อนลงแช่ในบ่อน้ำร้อน และต้องมัดผมที่ยาวเก็บให้เรียบร้อย สามารถอ่านเพิ่มได้ในบทความ “วัฒนธรรมและมารยาทการใช้ออนเซ็นและโรงอาบน้ำสาธารณะ”
ยาจิกาชิระออนเซ็น (Yachigashira Onsen)
ที่อยู่: 20-7 Yachigamicho, Hakodate
เวลาทำการ: 6:00 - 22:00 น. (แผนกต้อนรับปิดทำการเวลา 21:00 น.)
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakobura.jp/spots/433
Photo by Pixta
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะอยู่ติดสถานีฮาโกดาเตะ เป็นตลาดที่สามารถลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ได้ตั้งแต่เช้าตรู่
ในตลาดนอกจากจะสามารถลิ้มลองเมนูไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าอาหารทะเลสด) และอื่นๆ ที่ร้านอาหาร ยังมีร้านที่สามารถตกปลาหมึกซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นของฮาโกดาเตะแล้วให้เชฟทำซาซิมิรับประทานกันสดๆ ได้เลย
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ไม่ได้มีแค่อาหารทะเล แต่ยังมีผลไม้หวานๆ ตามฤดูกาล และของใช้ในชีวิตประจำวันจำหน่ายด้วย ในช่วงบ่ายหลายร้านจะปิดให้บริการ ดังนั้นขอแนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าตรู่จะดีกว่า
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Asaichi หรือ Hakodate Morning Market)
ที่อยู่: 9-19 Wakamatsucho, Hakodate
เวลาทำการ: มกราคม - เมษายน 6:00 - 14:00 น., พฤษภาคม - ธันวาคม 17:00 - 14:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakodate-asaichi.com/
Photo by Pixta
ไดมงโยโกโจเป็นย่านยาไต (แผงลอย) แห่งเดียวในฮาโกดาเตะ มีแผงลอยถึง 26 ร้านอยู่ในทำเลที่เดินทางมาง่าย เดินจากสถานีฮาโกดาเตะแค่ 5 นาที
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านอิซากายะและร้านซูชิที่มีอาหารทะเลสดใหม่เท่านั้น แต่ยังมีร้านราเม็ง ร้านเจงกีสข่าน (เนื้อแกะย่าง) ร้านอาหารเอเชีย ร้านอาหารอิตาเลียน รวมทั้งร้านอาหารเล็กๆ และบาร์ที่สามารถเพลิดเพลินกับโอเด้งได้ ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวซึ่งทั้งนักท่องเที่ยวและผู้คนท้องถิ่นมากินดื่มและลิ้มลองของอร่อยได้แบบสบายๆ
แถมยังเปิดถึงกลางดึก จึงเป็นที่เที่ยวแนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการนั่งดื่มสบายๆ ด้วย
ไดมงโยโกโจ (Daimon Yokocho)
ที่อยู่: 7-5 Matsukazecho, Hakodate
เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
เว็บไซต์ทางการ: https://www.goryokaku-tower.co.jp/
Photo by Pixta
ท่าเรือฮาโกดาเตะอยู่ใกล้สถานีฮาโกดาเตะ เป็นท่าเรือประมงและการค้าขายที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต
ท่าเรือฮาโกดาเตะมีเรือสัญจรไปมามากมาย ทำให้ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของฮาโกดาเตะ และวิวจากเนินฮาจิมันซากะสวยยิ่งขึ้นไปอีก
ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนธันวาคม สามารถขึ้นเรือนำเที่ยว Blue Moon (บลูมูน) ตระเวนชมรอบท่าเรือฮาโกดาเตะได้ ถ้ามากันไม่เกิน 15 คน ก็ไม่ต้องจองล่วงหน้า ตรงไปท่าเรือสำราญได้เลย (มีกรณีที่อาจไม่สามารถใช้บริการได้ อย่างมีการเช่าเหมาลำ)
ท่าเรือฮาโกดาเตะ (Port of Hakodate)
ที่อยู่: 14-17 Suehirocho, Hakodate (ท่าเรือสำราญ)
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakodate-factory.com/bluemoon/
Photo by Pixta
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง “มาชูมารุ” เป็นพิพิธภัณฑ์เรือ ซึ่งอยู่ติดสถานีฮาโกดาเตะ
เรือเฟอร์รี่เซคังเดิมเป็นเรือข้ามฟากที่เชือมจังหวัดอาโอโมริกับฮอกไกโด ป้จจุบัน หลังจากอุโมงค์ใต้ทะเลระหว่างอาโอโมริและฮอกไกโดเปิดให้บริการ เรือเฟอร์รี่ลำนี้จึงยุติบทบาทลง
เรือมาชูมารุที่เคยใช้งานนี้จึงกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยทั่วไปไม่สามารถเข้าห้องควบคุมบนเรือได้ ดังนั้น ลองเข้าไปและสัมผัสความรู้สึกเหมือนเป็นกัปตันเรือ หรือจะขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือรับลมทะเลเย็นสบายก็ได้
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์เรือเฟอร์รี่เซคัง “มาชูมารุ” (Seikan Ferry Memorial Ship Mashumaru)
ที่อยู่: 12 Wakamatsucho, Hakodate
เวลาทำการ: เมษายน - ตุลาคม 8:30 - 18:00 น., พฤศจิกายน - มีนาคม 9:00 - 17:00 น.
เว็บไซต์ทางการ: https://mashumaru.com/
Photo by Pixta
ย่านออนเซ็นที่เดินทางจากใจกลางเมืองฮาโกดาเตะไปได้ง่ายๆ คือยุโนกาวะออนเซ็น สามารถนั่งรถรางจากสถานีฮาโกดาเตะไปสถานียุโนกาวะออนเซ็นได้ในเวลาราว 30 นาทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ ในละแวกสถานีรถไฟมีเรียวกัง รวมถึงอาชิยุ (ออนเซ็นเท้า) ให้บริการฟรี และออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับที่สามารถแวะไปได้สบายๆ
ยุโนกาวะออนเซ็นอยู่ใกล้สนามบินฮาโกดาเตะ ขับรถมาแค่ 10 นาที จึงเหมาะเป็นที่แวะพักระหว่างทางไปและกลับจากการเที่ยวชมเมืองฮาโกดาเตะ
ยุโนกาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen)
ที่อยู่: Yukawa-cho, Hakodate
เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่
เว็บไซต์ทางการ: https://hakodate-yunokawa.jp/lan/en.html
Photo by Pixta
สำหรับผู้ที่มาเยือนฮาโกดาเตะช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ขอแนะนำสวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะที่ตั้งอยู่ในย่านยุโนกาวะออนเซ็น
ที่นี่เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่สามารถชื่นชมดอกไม้และต้นไม้เขตร้อน 3,000 ต้นราว 300 สายพันธุ์ มีทั้งต้นไม้ที่เราคุ้นเคยกันอย่างกล้วย มะนาว และชบา รวมถึงต้นไม้ชื่อแปลกๆ อย่างต้นหมากฝรั่งด้วย
แต่อันที่จริงที่นี่โด่งดังเรื่องลิง ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงช่วงโกลเด้นวีคในเดือนพฤษภาคม สามารถชมเหล่าน้องลิงแช่ออนเซ็นกันได้
สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden)
ที่อยู่: 3-1-15 Yukawacho, Hakodate, Hokkaido
เวลาทำการ: เมษายน - ตุลาคม 9:00 - 18:00 น., พฤศจิกายน - มีนาคม 9:00 - 17:00 น.
เว็บไซต์ทางการ: https://hako-eco.com/
หากต้องการชมใบไม้เปลี่ยนสีในฮาโกดาเตะ ขอแนะนำสวนโคเซ็ตสึ เดิมเคยเป็นสวนในบ้านพักตากอากาศของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง แต่ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สวนหลายสีสันได้ตลอดทั้งปี ทั้งดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และความสดชื่นเขียวขจีในฤดูร้อน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง ทิวทัศน์ของใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นบนพื้นราวกับพรมสีแดง แต่งแต้มทิวทัศน์ยามเย็นของฤดูใบไม้ร่วงให้งดงามน่าตะลึง
หากต้องการดื่มด่ำกับทิวทัศน์อบอวลไปด้วยบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ต้องแวะมาที่นี่เลย
สวนโคเซ็ตสึ (Kosetsu Garden)
ที่อยู่: 56 Miharashicho, Hakodate
เวลาทำการ: 9:00 - 17:00 น
เว็บไซต์ทางการ: https://www.hakodate-jts-kosya.jp/park/miharashi /
Photo by Pixta
ลองไปแช่ออนเซ็นท่ามกลางธรรมชาติกัน ที่นี่คือมิซุนาชิไคฮินออนเซ็น เป็นออนเซ็นที่ต่างจากออนเซ็นอื่นๆ ในญี่ปุ่น เพราะออนเซ็นกับทะเลเป็นหนึ่งเดียวกัน ปกติน้ำพุร้อนจะอยู่ใต้น้ำทะเล เฉพาะเวลาน้ำลงเท่านั้นที่น้ำพุร้อนจะปรากฎให้เห็นและสามารถลงแช่ได้
แม้จะอยู่ไกลสักหน่อย ใช้เวลาขับรถจากสถานีฮาโกดาเตะ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่หายากยิ่งที่ได้แช่ออนเซ็นและเล่นน้ำทะเลไปพร้อมๆ กัน แถมแช่ออนเซ็นฟรีด้วย เปลี่ยนชุดว่ายน้ำในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนลงแช่ออนเซ็นกันได้เลย
เวลาที่ลงแช่น้ำพุร้อนได้ขึ้นกับเวลาน้ำขึ้นน้ำลง สามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ทางการ
มิซุนาชิไคฮินออนเซ็น (Mizunashi Kaihin Onsen)
ที่อยู่: Esanmiisakicho, Hakodate
เวลาทำการ: ขึ้นอยู่กับเวลาน้ำขึ้นน้ำลง
เว็บไซต์ทางการ: https://www.city.hakodate.hokkaido.jp/docs/2014041800107/
Photo by Pixta
เขาเอซังเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ มีระดับความสูง 618 เมตร ตั้งอยู่ปลายด้านตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรโอชิมะ (Oshima Peninsula) ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมืองฮาโกดาเตะ
เขาเอซังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานธรรมชาติประจำจังหวัด สามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ทั้งพืชพันธุ์บนภูเขาสูง รวมทั้งหินรูปทรงแปลกตาและหน้าผาที่เกิดจากคลื่นในมหาสมุทรแปซิฟิกและช่องแคบสึการุกัดเซาะ
นอกจากนี้ ช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ดอกสึสึจิ (ดอกอาซาเลีย) จะแต่งแต้มทั่วทั้งที่ราบสูงให้มีสีสันงดงามตัดกับท้องทะเลสีคราม กลายเป็นทิวทัศน์สุดประทับใจ ในละแวกใกล้ๆ ยังมีบ่อน้ำพุร้อนด้วย ขอแนะนำให้แวะไปเที่ยวกัน
เขาเอซัง (Mt. Esan)
ที่อยู่: 43-9 Goryokakucho, Hakodate
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: https://www.goryokaku-tower.co.jp/
Photo by Pixta
สำหรับผู้ที่พอมีเวลา เดินทางจากฮาโกดาเตะไปอีกหน่อยได้ ขอแนะนำอุทยานแห่งชาติโอนุมะ ในฤดูร้อนจะได้ชมภาพเขาโคมากาทาเกะอันงดงามที่สะท้อนบนผิวทะเลสาบที่ใสราวกับกระจก ส่วนในฤดูหนาว สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของเขาโคมากาทาเกะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง
แต่แค่ไปชมวิวกับถ่ายรูปก็น่าเสียดาย ที่อุทยานแห่งชาติโอนุมะยังมีกิจกรรมต่างๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ให้เพลิดเพลินแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลตลอดทั้งปี ทั้งการพายเรือแคนูในทะเลสาบช่วงฤดูร้อน การตกปลาวาคาซากิในทะเลสาบน้ำแข็งช่วงฤดูหนาว และการขี่ม้าที่ให้บริการตลอดทั้งปี
ที่นี่นั่งรถไฟด่วนพิเศษโฮคุโตะ (Limited Express Hokuto) จากสถานีฮาโกดาเตะมาแค่ 30 นาทีเอง
อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi National Park)
ที่อยู่: Hakanameda, Nanae
เวลาทำการ: -
เว็บไซต์ทางการ: http://onumakouen.com/en/
หากไปเที่ยวฮาโกดาเตะครั้งแรก ขอแนะนำให้จัดทริปเที่ยวฮาโกดาเตะแบบ 2 วัน 1 คืน จะเยี่ยมสุดๆ
ตอนกลางวัน: สวนโกเรียวคาคุ (ใช้เวลาเที่ยว 40 - 80 นาที)
ตอนเย็น: โกดังอิฐแดงคานาโมริ (ใช้เวลาเที่ยว 60 - 120 นาที)
ตอนค่ำ: ฮาโกดาเตะซังโรปเวย์ (ใช้เวลาเที่ยวราว 60 นาที)
หากยังมีแรง ขอแนะนำให้แวะไปดื่มหรือหาของกินอร่อยที่ไดมงโยโกโจ (Daimon Yokocho) ในตอนค่ำกัน
ตอนเช้า: ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (ใช้เวลาเที่ยวรวมรับประอาหาร 60 - 90 นาที)
ตอนเช้าถึงเที่ยง: เดินเล่นละแวกโมโตมาจิ (ใช้เวลาเที่ยวราว 180 นาที) * ในโมโตมาจิมีที่เที่ยวเยอะมากมาย ขอแนะนำให้หาข้อมูลและวางแผนล่วงหน้าก่อนไป
Photo by Pixta
ที่เที่ยวหลักๆ ในเมืองสามารถเดินไปเที่ยวหรือใช้รถรางเมืองฮาโกดาเตะ (รถรางชมเมือง) ได้ หากไปเที่ยวแถบชานเมือง อย่างมิซุนาชิไคฮินออนเซ็น, อุทยานแห่งชาติโอนุมะ ต้องใช้บริการรถบัสหรือรถไฟด่วน ดังนั้นอย่าลืมเผื่อเวลาไว้ด้วย
ถนนในใจกลางเมืองฮาโกดาเตะมีป้ายบอกทางชัดเจน สามารถเดินเที่ยวได้สบายๆ โดยไม่หลงทางแน่นอน
เว็บไซต์ทางการของรถรางเมืองฮาโกดาเตะ: https://www.city.hakodate.hokkaido.jp/gov/
Photo by Pixta
การเดินทางจากโตเกียวไปฮาโกดาเตะโดยหลักๆ จะใช้เครื่องบินหรือรถไฟชินคันเซ็น เมื่อพิจารณาถึงระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ขอแนะนำให้เดินทางโดยเครื่องบินจะสะดวกกว่า
เครื่องบิน
จากสนามบินฮาเนดะ (Haneda Airport) หรือสนามบินนาริตะ (Narita Airport) ไปสนามบินฮาโกดาเตะ (Hakodate Airport) ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสายการบิน ค่าโดยสารเที่ยวเดียวอยู่ที่ราว 1 - 2 หมื่นเยน จากสนามบินฮาโกดาเตะไปสถานีรถไฟฮาโกดาเตะ มีรถบัสออกทุกๆ 20 - 30 นาที ใช้เวลาเดินทางราว 20 นาที ค่าโดยสาร 500 เยน
รถไฟชินคันเซ็น
หากใช้รถไฟชินคันเซ็น ก่อนอื่นให้นั่งรถไฟจากสถานีโตเกียวไปสถานีชิน-ฮาโกดาเตะ-โฮคุโตะ (Shin-Hakodate-Hokuto) ใช้เวลาราว 4 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสาร 23,760 เยน (Reserved-Seat แบบกำหนดที่นั่ง) และเปลี่ยนขบวนไปขึ้น JR Rapid Hakodate Liner ไปสถานีฮาโกดาเตะ ใช้เวลาอีก 17 นาที ค่าโดยสาร 440 เยน
นั่งรถไฟ JR Limited Express Super Hokuto จากสถานีซัปโปโร (Sapporo) ไปสถานีฮาโกดาเตะรวดเดียว 3 ชั่วโมง 50 นาที (ไม่เปลี่ยนขบวน) ค่าโดยสาร 9,440 เยน
ฮอกไกโดเป็นที่รู้กันดีว่าหนาวสุดๆ ในช่วงฤดูหนาว ส่วนฤดูร้อน (มิถุนายน - กันยายน) ของฮาโกดาเตะอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20 - 25 องศา เป็นอากาศที่เย็นสบายๆ สำหรับคนไทย แต่ปัจจุบันมีบางวันที่อุณหภูมิเกิน 30 องศาด้วย ฤดูหนาว (ธันวาคม - มีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลงราวจุดเยือกแข็ง หากไปเที่ยวช่วงฤดูนี้ อย่าลืมสวมเสื้อผ้าและอุกปรณ์กันหนาวให้อุ่นเข้าไว้นะ
ฮาโกดาเตะมีที่เที่ยวสุดฮิตที่ห้ามพลาดเลยคือ โกเรียวคาคุ, เขาฮาโกดาเตะ และเนินฮาจิมังซากะ นอกจากนี้โมโตมาจิยังมีที่เที่ยวมากมายและเดินทางไปง่ายด้วย
ฮาโกดาเตะโด่งดังเรื่องทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มองจากเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งได้รับการเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามราตรีที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถเพลิดเพลินกับมรดกทางประวัติศาสตร์ต่างๆ จากเรื่องราวการก่อตั้งท่าเรือการค้าระหว่างประเทศแห่งแรกของญี่ปุ่นเมื่อปี 1859
หากเดินทางจากโตเกียว อาจตัดสินใจลำบากว่าจะขึ้นเครื่องบินหรือรถไฟชินคันเซ็น แต่ค่าโดยสารเครื่องบินเที่ยวเดียวมักจะถูกกว่าเล็กน้อย ดังนั้นขอแนะนำให้ใช้เครื่องบิน ส่วนถ้าใช้รถไฟชินคันเซ็นก็จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ต่างๆ ตลอดทาง ดังนั้นถ้าสะดวกที่จะจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อย ก็สามารถเลือกใช้รถไฟชินคันเซ็นได้
ที่ฮาโกดาเตะเขตฮอนโจใกล้กับโกเรียวคาคุเป็นที่รู้จักกันว่า เป็นย่านคักคักใจกลางเมืองที่มีร้านอาหารมากมาย รวมถึงร้านอิซากายะและบาร์
ถนนสายหลักของฮาโกดาเตะคือ Daimon Yokocho เป็นย่านยาไต (แผงลอย) แห่งเดียวในฮาโกดาเตะ มีแผงลอยถึง 26 ร้านอยู่ในทำเลที่เดินทางมาง่าย เดินจากสถานีฮาโกดาเตะแค่เพียง 5 นาที
ฮาโกดาเตะเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่สามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมของเมืองท่าญี่ปุ่น ลองนำข้อมูลในบทความนี้ไปวางแผนเที่ยวฮาโกดาเตะสนุกให้เต็มที่กัน
บทความต้นฉบับเขียนโดย: Mayo Nomura
บทความนี้เรียบเรียงขึ้นใหม่จากบทความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2016
บทความโดย
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก