AEON MALL Tokoname ศูนย์การค้าที่มีออนเซ็นและสนามแข่งรถ! เดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์มาแค่ 3 นาที

15 แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในฮาโกดาเตะ (ป้อมโกะเรียวคาคุ, เนินฮาจิมันซากะ, โกดังอิฐแดง, อุทยานแห่งชาติโอนุมะ)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด เมืองท่าที่รุ่งเรืองในอดีต มีทิวทัศน์ยามค่ำคืนสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ตลาดเช้าที่มีอาหารทะเลสดใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และแหล่งช้อปปิ้งสำหรับซื้อของฝากมากมาย เราคัดเลือกที่เที่ยวน่าสนใจของฮาโกดาเตะมาให้แล้ว

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ที่นี่เป็นเมืองท่าส่งออกที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต และในเมืองก็เรียงรายไปด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและวัฒนธรรมต่างชาติ เช่น ยุโรป

เมืองที่มีเสน่ห์หลากหลาย และเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม และมีอาหารทะเลสดใหม่ ในบทความนี้จะขอแนะนำ 15 แหล่งท่องเที่ยวที่ไปถึงฮาโกดาเตะแล้วห้ามพลาด

raw output

raw output

1. ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

เมื่อเอ่ยถึงฮาโกดาเตะแล้วจะต้องนึกถึงภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ทัศนียภาพยามค่ำคืนอันงดงาม"

การชมวิวนี้จำเป็นต้องนั่งกระเช้าจากเชิงเขาขึ้นไปบนยอดเขาโดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที เราจะได้สัมผัสความงดงามของทัศนียภาพยามค่ำคืนที่เกิดจากการตัดกันระหว่างแสงไฟภายในเมืองและทะเลอันมืดสนิท ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงดงามมาก

การเดินทาง :
จากสถานีฮาโกดาเตะ
1. นั่งรถแท็กซี่หรือรถยนต์ 7 นาที
2. นั่งรถรางจากสถานี Hakodate-mae ไปลงสถานี Jujigai เดินต่ออีก 10 นาที (รวมประมาณ 20 นาที)
3. นั่ง Loop Bus (ย่านโมโตมาจิ-ท่าเรือ) 15 นาที 210 เยน (เฉพาะตอนกลางวัน)
4. นั่ง Ropeway Shuttle Bus 11 นาที 240 เยน (ตั้งแต่ตอนเย็นเป็นต้นไป)

2. ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate morning market)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

ตลาดเช้าฮาโกดาเตะอยู่ติดกับสถานีฮาโกดาเตะ ออกจากสถานีแล้วก็ถึงทันที เป็นตลาดที่สามารถมาลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ได้ตั้งแต่เช้าตรู่

นอกจากการลิ้มลองข้าวหน้าอาหารทะเลสด ไคเซ็นด้ง ที่ร้านอาหารแล้ว ภายในตลาดยังมีร้านที่สามารถตกหมึกขึ้นชื่อของฮาโกดาเตะได้ด้วย หมึกที่ตกได้ จะมีพ่อครัวทำเป็นซาชิมิให้รับประทานกันสดๆ ตรงนั้นเลย

ที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ไม่ได้มีแค่อาหารทะเลเท่านั้น ยังเต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอีกเพียบ แต่ถ้าเลยเที่ยงไปแล้วร้านค้าส่วนใหญ่ก็จะเริ่มปิด ฉะนั้นควรไปเยือนแต่เช้าตรู่เลยค่ะ

การเดินทาง : เดินจากสถานี JR Hakodate 1 นาที หรือเดินจากรถรางสถานี Hakodate-mae 2 นาที

3. ป้อมโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower)

函館

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของฮาโกดาเตะคือป้อมโกะเรียวคาคุ ที่นี่เป็นป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นมาในปลายยุคสมัยเอโดะ ในปัจจุบันเปิดเป็นสวนสาธารณะให้เข้าชมได้

หากพูดว่าความพิเศษของที่นี่คืออะไร นั่นก็คือพื้นที่ของป้อมปราการที่เป็นรูปดาวขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเป็นจุดบอดหากมีศัตรูโจมตีเข้ามา ในส่วนที่เป็นยอดแหลมของรูปดาวจะมีการติดตั้งปืนใหญ่เอาไว้ เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีการจู่โจมจากศัตรู

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

บริเวณรอบๆ เป็นสวนสาธารณะ เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างสวยงามในทุกฤดูกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบาน และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะถูกย้อมไปด้วยใบไม้แดงสวยงาม

หากขึ้นไปบนจุดชมวิวของหอคอยโกะเรียวคาคุที่มีความสูงถึง 107 เมตร จะมองเห็นภาพรวมของสวนรอบป้อมโกะเรียวคาคุทั้งหมดได้จากด้านบน ตรงชั้น 1 ของหอคอยมีร้านขายของฝากด้วยนะ

การเดินทาง :
รถราง จากสถานี "โกะเรียวคาคุ โคเอ็นมาเอะ (Goryokaku Koen-mae)" เดินต่ออีก 15 นาที
รถบัส จากสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate) นั่งรถบัสเมืองฮาโกดาเตะไปลงป้าย "โกะเรียวคาคุ โคเอ็นอิริกุจิ (Goryokaku Koen-iriguchi)" เดินต่ออีกประมาณ 7 นาที

4. เนินฮาจิมันซากะ (Hachiman-zaka Slope)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

เนินฮาจิมันซากะ เนินที่ทอดยาวโดยมีวิวท่าเรืออันงดงามอยู่ปลายทางแห่งนี้ ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 1 ใน "เนินของญี่ปุ่นที่น่าเที่ยวมากที่สุด" เป็นเนินซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของฮอกไกโดเลย

函館

ในช่วงฤดูหนาว ต้นไม้บริเวณริมถนนทั้งสองข้างทางจะมีการไลท์อัพ ประดับไฟส่องแสงสวยงามควบคู่ไปกับแสงไฟจากท่าเรือที่อยู่ไกลออกไป กลายเป็นวิวทิวทัศน์ที่แสนโรแมนติกจริงๆ

Hachiman-zaka Slope (เนินฮาจิมันซากะ)
ที่อยู่ : 14 Machimoto, Suehiro, Hakodate, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะไปถึงเนินฮาจิมันซากะได้โดยการเดินเท้าประมาณ 20 นาทีและนั่งรถรางประมาณ 15 นาที (Suehirocho Station)

5. โมโตมาจิ (Motomachi)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

ในปี 1859 ท่าเรือฮาโกดาเตะเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ทำการค้าขายกับต่างชาติเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น มีผู้คนหลากเชื้อชาติเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และทำให้โมโตมาจิเรียงรายไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่ผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ เป็นต้น จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปในปัจจุบัน

อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้คือ Hakodate Orthodox Church หรือโบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ ในรูปด้านบน ซึ่งเป็นโบสถ์ของคริสตจักรรัสเซียออร์ทอดอกซ์แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ทุกวันเสาร์เวลา 17:00 และช่วงเช้าของวันอาทิตย์ ที่นี่จะก้องกังวานไปด้วยเสียงระฆังอันไพเราะ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 ภูมิทัศน์ทางเสียงของญี่ปุ่น"

ลองไปเดินเล่นในเมืองโมโตมาจิที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของญี่ปุ่นและตะวันตกกันดูนะคะ

โบสถ์ออร์โธดอกซ์ฮาโกดาเตะ (Hakodate Orthodox Church)
ที่อยู่ : 3-13 Motomachi, Hakodate Google Maps
การเดินทาง : ลงรถรางที่สถานี Jujigai เดินต่อ 15 นาที
เว็บไซต์ทางการ : http://orthodox-hakodate.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

6. โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)

15 แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในฮาโกดาเตะ (ป้อมโกะเรียวคาคุ, เนินฮาจิมันซากะ, โกดังอิฐแดง, อุทยานแห่งชาติโอนุมะ)

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Pixta

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ แรกเริ่มเดิมทีเคยถูกใช้เป็นโกดังมาก่อน แต่ในปัจจุบันกลายเป็นอาคารคอมเพล็กซ์ที่มีช้อปปิ้งมอลล์อยู่ข้างใน มีสินค้าครบครัน ตั้งแต่แฟชั่นเสื้อผ้า ของจิปาถะ ไปจนถึงของฝากจากฮอกไกโด และสามารถลิ้มลองซอฟท์ครีมที่ทำจากนมวัวสดใหม่ได้ในคาเฟ่

เมื่อตกกลางคืน จะมีการไลท์อัพประดับไฟ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การถ่ายรูปที่ระลึกเป็นที่สุด! แม้ในวันที่ฝนตก ก็ยังให้บรรยากาศที่สวยไปอีกแบบ

การเดินทาง : จากรถรางสถานี Jujigai เดิน 4 นาที หรือจากสถานี JR Hakodate เดิน 15 นาที

7. ฮาโกดาเตะเมจิคัง (Hakodate Meijikan)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

ถ้าอยากซื้อของฝากที่เป็นเอกลักษณ์จากฮาโกดาเตะล่ะก็ ต้องไปที่ฮาโกดาเตะเมจิคัง (Hakodate Meijikan) เลย ที่นี่มีสินค้าสวยๆ เพียบอย่างเครื่องแก้ว กล่องดนตรี และตุ๊กตาหมี เป็นต้น

ส่วนร้าน Hakodate Rusama-ya Sweets และตลาดอาหารสดฮาโกดาเตะ (Hakodate Kaizen Ichiba) ที่อยู่ข้างๆ กัน ก็มีอาหารขึ้นชื่อของฮอกไกโดวางจำหน่ายอยู่มากมาย เช่น ขนมหวาน อาหารทะเลสดใหม่ แฮม และไส้กรอก เป็นต้น แนะนำให้ไปหาของอร่อยทานและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งไปในทีเดียวเลยค่า

ฮาโกดาเตะเมจิคัง (Hakodate Meijikan)
ที่อยู่ : 11-17 Toyokawacho, Hakodate Google Maps
การเดินทาง : ลงรถรางที่สถานี Jujigai เดินต่อประมาณ 2 นาที

8. ท่าเรือฮาโกดาเตะ (Port of Hakodate)

hakodate port 160816a

ท่าเรือฮาโกดาเตะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฮาโกดาเตะ ที่นี่เจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นท่าเรือประมงและท่าเรือขนส่งสินค้าจากต่างประเทศมาตั้งแต่สมัยก่อน

ท่าเรือฮาโกดาเตะมีเรือจำนวนมากสัญจรไปมา จะทำให้ทิวทัศน์ในยามค่ำคืนของฮาโกดาเตะ และวิวจากเนินฮาจิมันซากะสวยขึ้นไปอีก ในช่วงระหว่างเดือนเมษายนจนถึงเดือนธันวาคม สามารถขึ้นเรือนำเที่ยว Blue Moon (บลูมูน) ชมรอบท่าเรือฮาโกดาเตะได้ ถ้าจำนวนคนน้อยกว่า 15 คนไม่จำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า ให้เดินทางไปที่ท่าเรือนำเที่ยวได้โดยตรงเลย (ในบางครั้งมีการเช่าเหมาลำ อาจไม่สามารถใช้บริการได้)

ท่าเรือนำเที่ยว
ที่อยู่ : 14-17 Suehiro-cho, Hakodate Google Maps
การเดินทาง : รถรางลงสถานี Suehirocho หรือ Jujigai ใช้เวลาเดิน 5 นาที, จาก JR สถานี Hakodate ใช้เวลาเดิน 20 นาที
เว็บไซต์ทางการ : http://www.hakodate-factory.com/bluemoon/ (ภาษาญี่ปุ่น)

9. พิพิธภัณฑ์เรือมาชูมารุ (Mashu-Maru Ship Museum)

函館

พิพิธภัณฑ์เรือ มาชูมารุ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเกี่ยวกับเรือ ตั้งอยู่ข้างสถานีฮาโกดาเตะ

เซคังเฟอร์รี่ คือเส้นทางเดินเรือที่ทำหน้าที่เหมือนเรือข้ามฟากเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดอาโอโมริกับฮอกไกโดที่ถูกคั่นกลางด้วยทะเล ในปัจจุบัน เนื่องจากมีอุโมงค์ใต้ทะเลระหว่างจังหวัดอาโอโมริกับฮอกไกโดแล้ว เรือลำนี้จึงหมดหน้าที่ไป

"เรือมาชูมารุ" ที่ถูกใช้จริงถูกนำมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ เราจะได้เข้าไปในห้องควบคุมบนเรือที่โดยปกติแล้วไม่สามารถเข้าไปได้ เพื่อสัมผัสอารมณ์ราวกับว่าเป็นกัปตันเรือเลยทีเดียว หรือว่าเพื่อนๆ จะลองขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือเพื่อรับลมทะเลเย็นสบายก็ฟินไปอีกแบบ

การเดินทาง : เดินจากสถานี JR Hakodate 15 นาที

10. สถานกงสุลอังกฤษเก่าเมืองฮาโกดาเตะ (Old British Consulate of Hakodate)

函館

สถานกงสุลอังกฤษเก่าเมืองฮาโกดาเตะแห่งนี้ถูกใช้งานตั้งแต่ปี 1859 รวมระยะเวลากว่า 75 ปี โดยได้รับความนิยมในฐานะที่เป็นพิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่ทำให้สัมผัสถึงบรรยากาศของฮาโกดาเตะในสมัยที่เพิ่งเปิดท่าเรือใหม่ๆ

แน่นอนว่าเราสามารถศึกษาประวัติศาสตร์ และยังนั่งผ่อนคลายพร้อมจิบชาอังกฤษและขนมอบจากเตาในคาเฟ่ที่อยู่ด้านในได้ ตรงสวนกุหลาบมีดอกกุหลาบกว่า 18 สายพันธุ์ รวม 45 ต้นที่จะบานสะพรั่งในช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคมของทุกๆ ปี

ที่นี่อยู่ใกล้กับเนินฮาจิมันซากะ ถ้าไปใกล้ๆ แถวนั้นอย่าลืมแวะไปเที่ยวดูนะคะ

การเดินทาง :
รถราง จากสถานี Suehirocho เดินต่อ 3 นาที
รถไฟ จากสถานี JR Hakodate เดินต่ออีก 25 นาที

11. ย่านร้านค้าแผงลอย ไดมงโยโกะโจ (Daimon Yokocho)

函館

ไดมงโยโกะโจ (Daimon Yokocho) เมืองแห่งร้านอาหารแผงลอยแห่งเดียวในฮาโกดาเตะ ภายในมีร้านมากมายถึง 26 ร้าน ที่ตั้งทำเลก็เดินทางง่ายมาก เดินเพียง 5 นาทีจากสถานีฮาโกดาเตะก็ถึงแล้ว

แน่นอนว่ามีทั้งร้านกินดื่มแบบอิซากายะและร้านซูชิที่มีอาหารทะเลสดใหม่ และร้านอาหาร เช่น ร้านราเม็ง เจงกิสข่าน (เนื้อแกะย่าง) และบาร์ที่มีโอเด้งให้เลือกทานได้ เป็นแหล่งรวมร้านอาหารที่คนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นก็สัญจรไปมาเช่นกัน

ไดมงโยโกะโจ (Daimon Yokocho)
ที่อยู่ : 7-5 Matsukazecho, Hakodate, HokkaidoGoogle Maps
การเดินทาง : จาก JR สถานีฮาโกดาเตะ ใช้เวลาเดิน 7 นาที, จากรถรางสถานี "Hakodate eki-mae" ใช้เวลาเดิน 5 นาที
เว็บไซต์ทางการ : http://www.hakodate-yatai.com/

12. หมู่บ้านออนเซ็น Yunokawa (Hakodate Tropical Botanical Garden)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

ถ้าพูดถึงหมู่บ้านออนเซ็นที่สามารถเดินทางมาจากตัวเมืองฮาโกดาเตะได้อย่างสะดวกสบาย ก็ต้องนึกถึงยูโนคาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen) ค่ะ จากสถานีฮาโกดาเตะไปถึงสถานียูโนคาวะออนเซ็น (Yunokawa Onsen Station) ใช้เวลานั่งรถรางประมาณ 30 นาที (240 เยน) นอกจากเรียวกังแล้ว บริเวณโดยรอบสถานียังมีอาชิยุหรือออนเซ็นเท้าฟรี และออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกอีกด้วย

ส่วนไฮไลท์ที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวฮาโกดาเตะในฤดูหนาวเลยก็คือ สวนพฤษศาสตร์โซนร้อนฮาโกดาเตะ (Hakodate Tropical Botanical Garden) นั่นเองค่ะ เพราะเราจะได้เห็นบรรยากาศน่ารักๆ ของลิงน้อยแช่น้ำร้อนผ่อนคลายอย่างสบายใจกันได้ที่นี่ ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคมไปจนถึงหยุดยาวโกลเด้นวีคของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคมเลยทีเดียว

จากสนามบินฮาโกดาเตะ สามารถไปยูโนคาวะออนเซ็นด้วยรถยนต์ได้ในเวลา 10 นาทีเท่านั้น จะแวะตอนขาไปหรือตอนขากลับจากการเดินทางเที่ยวฮาโกดาเตะก็สะดวกค่ะ

การเดินทาง : 
จากสถานี ฮาโกดาเตะ
นั่งรถบัสเมืองฮาโกดาเตะจากป้าย Hakodate Eki-mae (ปลายทาง Hiyoshi Eigyousho-mae) ไปลงป้าย Nettai Shokubutsu-mae (20 นาที)
หรือนั่งรถไฟลงที่สถานี Yunokawa Onsen Station เดินต่ออีก 15 นาที
จากสนามบิน ฮาโกดาเตะ
นั่ง Shuttle Bus จากสนามบินฮาโกดาเตะไปยังยูโนคาวะออนเซ็น (8 นาที)

13. สวนโคเซตสึเอ็น (Kosetsuen)

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

หากอยากจะไปเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีในฮาโกดาเตะล่ะก็ แนะนำให้ไปที่สวนโคเซตสึเอ็นค่ะ เดิมทีที่นี่เคยเป็นบ้านพักตากอากาศของพ่อค้าใหญ่ แต่ในปัจจุบันได้เปิดเป็นที่สาธารณะให้คนทั่วไปเข้าได้

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระจะบานสะพรั่ง และสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของสวนที่มีหลากสีสันได้ตลอดทั้งปี แต่ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าอะไรทั้งหมด ทิวทัศน์ยามเย็นของฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้ร่วงหล่นลงพื้นกลายเป็นผืนพรมสีแดง สวยงามมากจริงๆ ค่ะ

สวนโคเซตสึเอ็น (Kosetsuen)
ที่อยู่ : 56 Miharashicho, Hakodate, Hokkaido Google Maps
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสจากหน้าสถานีฮาโกดาเตะ (สาย 14) ประมาณ 40 นาที ลงรถที่สถานี Kosetsuen และเดินต่ออีก 1 นาที

14. ออนเซ็น มิสุนาชิไคฮิน (Mizunashikaihin Onsen)

函館

ลองไปแช่น้ำพุร้อนที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติกันดูไหมคะ? ที่นี่คือ ออนเซ็นมิสุนาชิไคฮิน (Mizunashikaihin Onsen) น้ำพุร้อนที่แปลกไปจากน้ำพุร้อนที่อื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น เพราะออนเซ็นกับทะเลเป็นหนึ่งเดียวกันนั่นเอง โดยปกติแล้ว บ่อน้ำพุร้อนจะปรากฎขึ้นมาเฉพาะเวลาที่น้ำลงเท่านั้น จึงจะสามารถเข้าไปแช่ได้ค่ะ

จากสถานีฮาโกดาเตะจะใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ 1 ชั่วโมงครึ่ง ระยะทางค่อนข้างจะไกลเล็กน้อย แต่การที่จะได้มาเล่นน้ำทะเลพร้อมๆ กับแช่ออนเซ็นไปด้วยอย่างนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้มีให้เจอกันได้ง่ายๆ ไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำในห้องแต่งตัวก่อน แล้วลงไปลงไปแช่ออนเซ็นกันฟรีๆ ได้เลยค่ะ

เนื่องจากเวลาที่สามารถเข้าไปแช่น้ำพุร้อนได้จะขึ้นอยู่กับเวลาของน้ำขึ้นน้ำลง โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ทางการ

ออนเซ็น มิสุนาชิไคฮิน (Mizunashikaihin Onsen)
ที่อยู่ : Esanmisakicho, Hakodate Google Maps
การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะ เดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ในกรณีที่ใช้รถสาธารณะ ให้ขึ้นรถบัสจากหน้าสถานีฮาโกดาเตะ ไป Hakodate Todohokke (คันที่วิ่งผ่าน Kakkumi) จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากลงรถแล้วใช้เวลาเดินต่ออีก 40 นาที จำนวนรถวันละ 4 คัน

15. อุทยานแห่งชาติโอนุมะ (Onuma Quasi-National Park)

onuma quasi national park 160816b

สำหรับใครที่มีเวลาเที่ยวเหลือเฟือก็บอกเลยว่าห้ามพลาดอุทยานแห่งชาติโอนุมะเด็ดขาด! ภายในอุทยานแห่งชาติโอนุมะแห่งนี้ ในฤดูร้อนเราจะได้ชมภูเขาโคมะกาทาเกะที่สะท้อนลงบนผิวทะเลสาบราวกับเป็นกระจก ส่วนในฤดูหนาวก็จะได้ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของภูเขาโคมะกาทาเกะที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง

แต่จะแค่ไปชมวิวกับถ่ายรูปอย่างเดียวก็น่าเสียดาย! ที่อุทยานแห่งชาติโอนุมะเต็มไปด้วยกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เราสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูกาลได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นพายเรือแคนู และตกปลาวาคาซากิบนทะเลสาบน้ำแข็งได้

การเดินทาง : 
จากสถานี JR Hakodate
นั่งรถบัสเมืองฮาโกดาเตะ (ไป Shikabe ผ่านอุทยานแห่งชาติโอนุมะ) จากป้าย Hakodate Eki-mae ไปถึง Onuma Koen ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
หรือนั่งรถไฟ JR Limited Express Super Hokuto ไปถึงสถานี JR Onuma Koen ประมาณ 20 นาที หากไปด้วยรถไฟธรรมดาใช้เวลาประมาณ 50 นาที

การเดินทางภายในเมืองฮาโกดาเตะ

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ภายในเมือง สามารถเดินเท้าหรือใช้รถรางเดินทางไปก็ได้ ในกรณีที่จะไปนอกเมืองอย่างออนเซ็น มิสุนาชิไคฮิน (Mizunashikaihin Onsen) และอุทยานแห่งชาติโอนุมะ จะต้องเดินทางด้วยรถบัสหรือรถไฟด่วนพิเศษ จึงควรต้องเผื่อเวลาเดินทางไปพอสมควร

ถนนในใจกลางเมืองฮาโกดาเตะยังมีการวางระบบและแบ่งเขตเป็นอย่างดี จึงสามารถเดินเล่นได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องกลัวหลงทางเลย

การเดินทางไปยังฮาโกดาเตะ

函館

เอื้อเฟื้อภาพโดย : แผนกการท่องเที่ยวเมืองฮาโกดาเตะ

จากสถานีโตเกียวไปยังฮาโกดาเตะ

วิธีการเดินทางจากสถานีโตเกียวไปยังฮาโกดาเตะ โดยหลักแล้วจะเดินทางโดยเครื่องบินหรือรถไฟชินคันเซ็น แต่หากคิดถึงระยะเวลากับค่าโดยสารแล้ว แนะนำให้เดินทางโดยเครื่องบินจะสะดวกกว่ามาก

เครื่องบิน
จากสนามบินฮาเนดะ หรือ สนามบินนาริตะไปยังสนามบินฮาโกดาเตะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสายการบิน ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ราคาประมาณ 1-2 หมื่นเยน จากสนามบินฮาโกดาเตะไปยังสถานีรถไฟฮาโกดาเตะ เดินทางได้ด้วยรถบัสที่ออกทุกๆ 20-30 นาที ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ค่าโดยสาร 400-500 เยน

รถไฟชินคันเซ็น
ในกรณีที่ใช้ชินคันเซ็น ก่อนอื่น จากสถานีโตเกียวให้นั่งไปจนถึงสถานีชินฮาโกดาเตะโฮคุโตะ (Shin-Hakodate-Hokuto) ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสาร 22,490 เยน (Reserved-Seat แบบกำหนดที่นั่ง) และเปลี่ยนขบวนไปขึ้น JR Express Super Hakodate Liner (ไปฮาโกดาเตะ) จะใช้เวลาอีก 15 นาที ค่าโดยสาร 360 เยน

จากสถานีซัปโปโรไปฮาโกดาเตะ

จากสถานีซัปโปโร สามารถนั่งรถไฟ JR Limited Express Super Hokuto ไปถึงสถานีฮาโกดาเตะได้แบบรวดเดียวถึง 3 ชั่วโมง 50 นาที (ไม่เปลี่ยนสายรถ) ค่าโดยสาร 8,830 เยน

สภาพอากาศและเครื่องแต่งกาย

函館

ฮอกไกโดเป็นที่รู้ดีว่าหนาวมากในช่วงฤดูหนาว ฮาโกดาเตะ ในช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายนถึงกันยายน) อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-25 องศา เป็นอากาศที่สบายๆ สำหรับคนไทย แต่ในช่วงฤดูหนาว (เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม) อุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง หากไปเที่ยวในช่วงฤดูนี้ อย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าแลอุกรณ์กันหนาวไปให้พร้อมนะคะ

เที่ยวให้สุดที่ฮาโกดาเตะ

ฮาโกดาเตะ เมืองที่สามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมตะวันตก และวัฒนธรรมของเมืองท่าญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ได้ ดูที่เที่ยวที่น่าสนใจจากบทความนี้ และไปสนุกให้เต็มที่กันเลย!

ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Mayo Nomura

* บทความนี้เรียบเรียงใหม่จากบทความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2016

Written by

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ