Start planning your trip
7 สถานที่ชมซากุระท่ามกลางธรรมชาติสุดอลังการในฮอกไกโด ปี 2021
ฮอกไกโดเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวสุดในญี่ปุ่น และซากุระจะเริ่มบานประมาณปลายเดือนเมษายน ช้ากว่าโตเกียวถึงหนึ่งเดือน เราขอแนะนำ 7 สถานที่ชมซากุระที่จะได้ชมซากุระในที่กว้างๆ ท่ามกลางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของฮอกไกโดให้ทุกคนได้รู้จักกัน
ชมซากุระที่ฮอกไกโดเมื่อไหร่ ที่ไหนดี?
ฮอกไกโด (Hokkaido) แดนเหนือของญี่ปุ่น ดินแดนแห่งธรรมชาติอันสวยงาม และแหล่งอาหารสดอร่อย เป็นจังหวัดที่อยู่ทางเหนือสุดของประเทศและมีอากาศหนาวที่สุดในญี่ปุ่น ทำให้ซากุระบานช้ากว่าที่โตเกียวถึงหนึ่งเดือน โดยจะเริ่มบานในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม และบานเต็มที่หลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
การได้ชมซากุระที่บานสะพรั่งท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่ในพื้นที่เปิดโล่งถือเป็นอีกประสบการณ์ที่หาได้แค่ในฮอกไกโดเท่านั้น เราจึงอยากแนะนำ 7 สถานที่ชมซากุระที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปกัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
สถิติวันที่ดอกซากุระเริ่มบาน - บานเต็มที่ในฮอกไกโด
วันที่เริ่มบาน | วันที่บานเต็มที่ | |
ซัปโปโร | 3 พฤษภาคม | 7 พฤษภาคม |
ฮาโกดาเตะ | 30 เมษายน | 4 พฤษภาคม |
อาซาฮิคาวะ | 5 พฤษภาคม | 7 พฤษภาคม |
สารบัญ |
1. หอคอยโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) - ฮาโกดาเตะ |
1. หอคอยโกะเรียวคาคุ เมืองฮาโกดาเตะ ชมซากุระจากเบื้องบน
Picture courtesy of เมืองฮาโกดาเตะ
หอคอยโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower) หอคอยชมวิวอันมีชื่อเสียงของฮอกไกโดในเมืองฮาโกดาเตะ จากด้านบนหอคอยจะสามารถมองเห็นสวนโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Park) ที่มีลักษณะเป็นรูปดาวห้าแฉกได้
สวนแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะจุดชมซากุระแสนสวยจากต้นซากุระรวมกว่า 1,600 ต้น
เมื่อมองจากจุดชมวิวบนหอคอยในฤดูใบไม้ผลิ ทิวทัศน์ด้านล่างจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูไปทั่วทุกมุม ด้านบนหอคอยมีโซนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของหอคอยโกะเรียวคาคุ และโซนพื้นกระจก ซีทรูฟลอร์ (See through floor) ที่สามารถมองทะลุลงไปเห็นพื้นด้านล่างได้
ภายในยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านไอศกรีมเจลาโต้ให้ได้ชิลล์พร้อมดูทิวทัศน์สวยๆ ไปด้วย
หอคอยโกะเรียวคาคุ (Goryokaku Tower)
การเดินทาง :
รถราง
นั่งรถรางจากสถานี "ฮาโกดาเตะ เอคิมาเอะ (Hakodate Eki-mae)" ไปลง "โกะเรียวคาคุ โคเอ็นมาเอะ (Goryokaku Koen-mae)" ค่ารถ 230 เยน แล้วเดินต่ออีก 15 นาที
รถบัส
สำหรับรถบัส จากป้ายสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate) นั่งรถบัสเมืองฮาโกดาเตะไปลงป้าย "โกะเรียวคาคุ โคเอ็นอิริกุจิ (Goryokaku Koen-iriguchi)" ค่ารถ 240 เยน แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที หรือลงที่ป้าย "โกะเรียวคาคุ (Goryokaku)" ค่ารถ 240 เยน เดินต่ออีก 15 นาที
ราคา : ผู้ใหญ่ 900 เยน นักเรียนมัธยมต้น-ปลาย 680 เยน นักเรียนประถม 450 เยน เด็กเล็ก เข้าชมฟรี
โรงแรมแนะนำใกล้หอคอยโกเรียวคาคุ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
2. สวนโมเอเรนุมะ เมืองซัปโปโร ซากุระท่ามกลางสวนกว้าง
Picture courtesy of Pixta
สวนโมเอเรนุมะ (Moerenuma Park) สวนสาธารณะนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ราว 1,175 ไร่ ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร เมืองที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโด
ภูเขารูปทรงเรขาคณิต น้ำพุ และเครื่องเล่นรูปร่างแปลกตา เป็นจุดเด่นที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากสวนสาธารณะทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด สวนสาธารณะนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้การออกแบบภาพรวมโดย โนะกุจิ อิซามุ (Noguchi Isamu) ศิลปินประติมากรชื่อดังระดับโลก ภายใต้คอนเซปต์ "ทั้งสวนคือหนึ่งผลงานประติมากรรม"
ทำให้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะพบกับเครื่องเล่นและสิ่งก่อสร้างดีไซน์แปลกตาประหนึ่งเป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับสวนสาธารณะแห่งนี้ได้อย่างแน่นอน
นอกจากช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สามารถชมดอกซากุระบานได้แล้ว ในช่วงฤดูร้อนยังมีลานเล่นน้ำและน้ำพุเปิดให้บริการ ในฤดูใบไม้ร่วงสามารถมาชมใบไม้เปลี่ยนสี และในฤดูหนาว ที่นี่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สามารถมาเล่นหิมะ สกี ลากเลื่อนกันได้ เป็นสวนสาธารณะที่ให้เราสัมผัสความสนุกได้เต็มที่ทั้ง 4 ฤดูกาลจริงๆ
จุดชมซากุระของสวนโมเอเรนุมะคือ ป่าซากุระ (Sakura no Mori) ภายในสวนป่าขนาด 80 ไร่นี้มีต้นซากุระให้ชมมากถึงราว 1,900 ต้น
ในบริเวณนี้ นอกเหนือจากต้นซากุระแล้ว ยังมีโซนเครื่องเล่นที่แอบซ่อนตัวอยู่ในสวนป่าถึง 7 แห่ง เครื่องเล่นสีสันสดใสกว่า 126 ชนิดกำลังรอคอยให้เด็กๆ มาเล่นสนุกกัน
Picture courtesy of Pixta
อีกหนึ่งบริเวณที่อยากแนะนำคือ ภูเขาโมเอเระ (Mt. Moere) บนยอดเขาเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นป่าซากุระและสวนทั้งหมดจากด้านบน รวมถึงชมทิวทัศน์เมืองซัปโปโรทั้งเมืองได้อีกด้วย ความสูงของภูเขาประมาณ 53 เมตร สามารถเดินขึ้นไปด้านบนได้ภายใน 10 นาที จึงปลอดภัยและไม่ลำบากเกินไปแม้จะพาเด็กๆ ไปด้วย
หากเดินเล่นกันจนรู้สึกหิวแล้วละก็ต้องแวะไปที่อาคารศูนย์วัฒนธรรม ปิรามิดแก้ว ฮิดามาริ (Glass Pyramid "HIDAMARI") ที่นี่มีร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ของฮอกไกโดรังสรรค์เมนูสไตล์ฝรั่งเศสไว้ให้ทุกคนได้อิ่มท้อง และยังมีห้องแสดงงานศิลปะ ร้านค้า จุดพักผ่อน และห้องแสดงประวัติความเป็นมาของสวนแห่งนี้ด้วย
สวนโมเอเรนุมะแห่งนี้จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับความงามของดอกไม้ ไปพร้อมๆ กับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและความอบอุ่นของแสงแดด ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเพลิดเพลินกันได้อย่างเต็มที่
สวนโมเอเรนุมะ (Moerenuma Park)
การเดินทาง :จากสถานีคันโจโดริฮิงาชิ (Kanjo-Dori-Higashi) รถไฟใต้ดินสายโทโฮ (Toho) นั่งรถบัสจูโอ (Chuo Bus) สายฮิงาชิ 69 หรือ 79 (Higashi 69 หรือ 79) ประมาณ 30 นาที ลงที่ป้าย โมเอเรนุมะโคเอ็น ฮิงาชิอิริกุจิ (Moerenuma Koen Higashi-guchi) แล้วถึงทันที
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
3. สวนมัตสึมาเอะ เมืองมัตสึมาเอะ เพลิดเพลินกับซากุระหลากพันธุ์
Picture courtesy of Pixta
ปราสาทมัตสึมาเอะ (Matsumae Castle) และสวนมัตสึมาเอะ (Matsumae Park) ถือเป็นสัญลักษณ์และสถานที่ชมซากุระอันมีชื่อเสียงไปทั่วญี่ปุ่นของเมืองมัตสึมาเอะ เมืองทางตอนใต้ของฮอกไกโด และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของย่านที่เรียกว่าเมืองรอบปราสาทเพียงแห่งเดียวของฮอกไกโดอีกด้วย นอกจากปราสาทก็ยังมีการจำลองบ้านเรือนในสมัยก่อนไว้ในบริเวณเดียวกันให้ได้เดินชมกันด้วย
ปราสาทมัตสึมาเอะแห่งนี้ยังได้รับฉายาว่าเป็น "ถิ่นกำเนิดแห่งซากุระ" เพราะภายในสวนแห่งนี้มีซากุระถึง 250 สายพันธุ์รวมกว่า 10,000 ต้น และเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ซากุระแต่ละสายพันธุ์จะเริ่มบานในเวลาที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถมาชมซากุระที่สวนแห่งนี้ได้ร่วมหนึ่งเดือนเต็มเลยทีเดียว
ในช่วงซากุระบานจะมีการจัดงานเทศกาลซากุระเมืองมัตสึมาเอะ (Matsumae Sakura Festival) มีการแสดงเดินขบวนของเหล่านักรบซามูไร การแสดงรำ และกิจกรรมต่างๆ
หากเดินไปที่สวนสาธารณะแห่งที่สองซึ่งอยู่บนเนินสูง จุดนี้ถือเป็นจุดชุมวิวสุดสวยที่สามารถมองเห็นสวนธารณะทั้งสวน และช่องแคบสึการุ (Tsugaru Strait) ช่องแคบระหว่างเกาะฮนชูและเกาะฮอกไกโดได้ด้วย
สวนมัตสึมาเอะ (Matsumae Park)
การเดินทาง : จากสถานี JR คิโคเอไน (Kikoenai) นั่งรถบัสฮาโกดาเตะที่มุ่งหน้าไปมัตสึมาเอะประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ลงรถที่ป้ายมัตสึชิโระ (Matsushiro) ค่ารถ 1,250 เยน แล้วเดินอีก 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.pref.hokkaido.lg.jp/kn/tkn/hana/place/s011.html
4. ถนนชิซุไนนิจุกเค็ง เมืองฮิดากะ ซากุระเรียงรายบนถนนที่ทอดยาว
Picture courtesy of Pixta
บนสองฟากฝั่งของถนนชิซุไนนิจุกเค็ง (Shizunai Nijukken Road) ที่ทอดยาวเป็นเส้นตรงระยะทาง 7 กิโลเมตร คือต้นซากุระกว่า 3,000 ต้นที่ใช้เวลาถึง 3 ปีตั้งแต่ปีค.ศ. 1916 ในการย้ายต้นซากุระจากภูเขาใกล้เคียงมาปลูกใหม่ จนปัจจุบันนี้ได้รับการเลือกให้เป็น "มรดกแห่งฮอกไกโด" ในฐานะที่เป็นสถานที่ที่อยากสืบต่อให้ชาวฮอกไกโดรุ่นหลัง และเป็นสถานที่ชมซากุระที่อันโด่งดังอีกแห่งของญี่ปุ่น
ในช่วงต้นเดือนจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะมีผู้คนจากทั่วประเทศกว่า 2 แสนคนเดินทางมาดูดอกซากุระที่บานสะพรั่งบนถนนที่ทอดยาวสายนี้
ถนนชิซุไนนิจุกเค็ง (Shizunai Nijukken Road)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR ซัปโปโร นั่งรถบัสโดนัน (Donan) สายรถด่วน Pegasus มาลงที่ป้ายหน้าสถานีรถไฟชิซุไน (Shizunai) ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 40 นาที ราคา 2,410 เยน จากนั้นต่อรถบัสโดยัน ที่วิ่งไปโนยะ (Noya) ลงที่ป้ายโอฟุเอ็น (Ofuen) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ราคา 410 เยนแล้วเดินต่อประมาณ 17 นาที
* จำนวนรถบัสที่วิ่งแต่ละวันจะมีน้อย แนะนำให้พักค้างคืนบริเวณใกล้สถานี Shizunai จะสะดวกกว่า
เว็บไซต์ : http://shinhidaka.hokkai.jp/kankoukyoukai/nizyukken/douro.html (ภาษาญี่ปุ่น)
5. สวนอาซาฮิกาโอกะ เมืองฟุราโนะ เฝ้ามองขุนเขาอันไกลโพ้น
Picture courtesy of ที่ว่าการเขตฟุราโนะ
สวนอาซาฮิกาโอกะ (Asahigaoka Park) สถานที่ซึ่งเคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดทิวทัศน์แห่งญี่ปุ่น จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นที่แอ่งฟุราโนะ และเทือกเขาโทคาจิ (Mount Tokachi) ได้ด้วย
Picture courtesy of ที่ว่าการเขตฟุราโนะ
ใบฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระพันธุ์เอโซะยามะซากุระมากกว่า 3,000 ต้นจะบานรอให้ทุกคนได้มาชม และที่สวนนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวาง จึงเหมาะในการมาปูเสื่อปิกนิกกันอย่างมาก
สวนอาซาฮิกาโอกะ (Asahigaoka Park)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR ฟุราโนะ (Furano) นั่งรถบัสสายโกะเรียว (Goryou) หรือ สาย Lavender (ปลายทางที่ New Furano Prince Hotel) ลงที่ป้ายคิเซ็น (Kisen) ราคา 160 เยน แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์ : http://www.furanotourism.com/jp/spot/spot_D.php?id=420&kid1=1&kid2=7&kid3=24 (ภาษาญี่ปุ่น)
โรงแรมแนะนำใกล้สวนอาซาฮิกาโอกะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
6. ภูเขาเท็นกุยามะ เมืองโอตารุ วิวกลางคืนอันงดงาม
Picture courtesy of ฝ่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมท่าเรือ แผนกส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ
ภูเขาเท็นกุยามะ (Mount Tenguyama) หนึ่งในสามสถานที่ชมวิวกลางคืนอันงดงามของฮอกไกโด เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะต้องมาชมต้นเท็นกุซากุระ ซากุระอายุกว่า 100 ปีที่ตั้งโดดเด่นเพียงต้นเดียวอยู่บนเขา ความพิเศษอีกอย่างคือ หากมองบางมุมอาจจะเห็นทั้งต้นเป็นรูปหัวใจก็ได้นะ
Picture courtesy of ฝ่ายสนับสนุนอุตสาหกรรมท่าเรือ แผนกส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองโอตารุ
ทัศนียภาพของเมืองโอตารุที่เป็นฉากหลังให้ซากุระนั้นก็ยิ่งทำให้ได้ภาพที่งดงามมากทีเดียว
ภูเขาเท็นกุยามะ (Tenguyama)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR โอตารุ (Otaru) นั่งรถบัสฮอกไกโดจูโอ (Hokkaido Chuo) สายที่วิ่งไปเท็นงูยามะ (Tenguyama) ลงรถที่ป้ายเท็นงูยามะ (Tenguyama) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที 220 เยน จากนั้นนั่งกระเช้าโรปเวย์ขึ้นเขาประมาณ 4 นาที ราคาตั๋วไป กลับผู้ใหญ่อยู่ที่ 1,200 เยน เด็กถึงระดับประถม 600 เยน
เว็บไซต์ : http://tenguyama.ckk.chuo-bus.co.jp/en/
โรงแรมแนะนำใกล้เทนกุยามะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
7. สวนอาซาฮิยามะ เมืองอาซาฮิคาวะ ชมซากุระใกล้สวนสัตว์
Picture courtesy of สมาคมกำกับดูแลสวนสาธารณะอาซาฮิยามะ
สวนอาซาฮิยามะ (Asahiyama Park) สวนสาธารณะที่สนุกสนานได้ทุกฤดู ผู้คนมาปิกนิกกันในฤดูร้อน มาชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และแน่นอนว่าต้องมาชมซากุระกันในฤดูใบไม้ผลิด้วย จากเริ่มแรกที่มีซากุระเพียง 1,000 ต้น ในปัจจุบันมีซากุระมากกว่า 3,500 ต้นที่จะเปลี่ยนสวนทั้งสวนให้เป็นสีชมพูอย่างสวยงาม
Picture courtesy of สมาคมกำกับดูแลสวนสาธารณะอาซาฮิยามะ
ตอนกลางคืนยังมีการประดับไฟ ให้เราได้ชมซากุระแสนสวนราวกับฝันไปอีกด้วย
นอกจากจะมาเดินชมซากุระแล้ว ยังสามารถแวะไปชมสัตว์น่ารักๆ ในสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) ที่อยู่ติดกันได้ด้วย
สวนอาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Asahikawa ทางออกทิศตะวันออก (East Exit) ป้ายรถบัสหมายเลข 6 นั่งรถบัสสาย 41, 42 หรือ 47 ลงที่ป้ายสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ราคา 440 เยน
เว็บไซต์ : http://www.asahikawa-park.or.jp/park/special/asahiyama.html (ภาษาญี่ปุ่น)
ชมซากุระท่ามกลางธรรมชาติในฮอกไกโด
หากใครพลาดโอกาสชมซากุระที่โตเกียวไปก็ไม่ต้องเสียใจ ลองมาชมซากุระท่ามกลางธรรมชาติของฮอกไกโดแทน
รับประกันเลยว่าสถานที่ชมซากุระของฮอกไกโดที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามเหล่านี้ จะทำให้ทุกคนได้สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมดอกซากุระอย่างเพลิดเพลินใจแน่นอน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Mami Wakamatsu
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง