รับลมเย็นท่ามกลางฤดูร้อนในดินแดนเทพนิยายที่ฮอกไกโด ณ ฟุราโนะและบิเอ

เมื่อเอ่ยถึง ฮอกไกโด แล้วจะต้องนึกถึงงานเทศกาลหิมะ สกีรีสอร์ท และทัศนียภาพไร่นากว้างใหญ่อันแสนเงียบสงบขึ้นชื่อกันอย่างแน่นอน เมื่อฤดูหนาวอันยาวนานของฮอกไกโดผ่านพ้นไป ดวงอาทิตย์ฤดูร้อนก็เริ่มเคลื่อนเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ฤดูร้อนปีนี้เราออกไปรับลมเย็นในฤดูร้อนที่ ฟุราโนะ และ บิเอ สรวงสวรรค์สีเขียวและสีฟ้ากันมาเถอะค่ะ

ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวฮอกไกโด

ก่อนเริ่มทริปจริง เรามาชมเคล็ดลับเพื่อการท่องเที่ยวแสนวิเศษในราคาสบายกระเป๋ากันก่อนดีกว่า～

ข้อมูลน่ารู้ 1 : จองล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนเสมอเพื่อการท่องเที่ยวที่ราคาถูกลง!

การจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักนั้น ยิ่งจองเร็ว ก็ยิ่งถูก! ดังนั้นจึงควรรีบวางแผนเที่ยวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจะได้ไม่พลาดส่วนลดพิเศษสุดคุ้ม เอาล่ะ ทริปฤดูร้อนนี้ต้องรีบจองกันแล้วล่ะ

ข้อมูลน่ารู้ 2 : ตั๋วเครื่องบินไปซัปโปโรสุดคุ้ม!

สำหรับใครที่วางแผนนั่งเครื่องบินไปยังโซนฟุราโนะและบิเอ ขอแนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปยังซัปโปโรที่ไม่ใช่ตั๋วเครื่องบินตรงไปยังสนามบินอาซาฮิคาวะซึ่งเป็นสนามบินที่ใกล้กว่าจะดีที่สุด

โดยปกติแล้วตั๋วเครื่องบินไปยังสนามบิน New Chitose Airport (สนามบินนิวจิโตเสะ) สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่าตั๋วเครื่องบินไปยังสนามบินอาซาฮิคาวะถึง 3 เท่าเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็ซื้อ ตั๋วฟรีพาสฟุราโนะ บิเอ จากสถานีรถไฟ JR ซัปโปโรเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ตระการตาของฮอกไกโดจากนอกหน้าต่างรถไฟกันได้เลย～

ตั๋วฟรีพาสนี้มีราคาผู้ใหญ่ 6,500 เยน เด็ก 3,250 เยน โดยเป็นตั๋วโดยสารสำหรับนั่งไป - กลับภายจากสถานีรถไฟ JR ซัปโปโรจนถึงสถานีใดก็ได้ในขอบเขตของตั๋วฟรีพาสฟุราโนะ บิเอ (ส่วนในพื้นที่ขอบเขตของตั๋วสามารถนั่งรถไฟได้ไม่จำกัด) ตั๋วนี้มี อายุการใช้งานนานที่สุด 4 วัน ใช้ได้ในช่วงระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 31 ตุลาคม

รถไฟสายโนรกโกะที่ขึ้นชื่อของฮอกไกโด

สำหรับใครที่อยากเพลิดเพลินกับวิวในมุมกว้างของทัศนียภาพไร่นาและกลิ่นหอมของทุ่งหญ้าดอกลาเวนเดอร์ก็ขอแนะนำให้ซื้อตั๋วฟรีพาสที่ว่านี้เลยค่ะ เพราะว่าเราสามารถใช้นั่ง “รถไฟโนรกโกะฟุราโนะ บิเอ” รถไฟไร้กระจกที่ขึ้นชื่อได้นั่นเอง! แล้วก็อย่าลืมปั๊มตราปั๊มที่ระลึกตอนนั่งรถไฟกันด้วยน้า รับรองว่าจะกลายเป็นของที่ระลึกแทนความทรงจำที่ดีอย่างแน่นอน

เนื่องจากเป็นรถไฟไร้กระจก เราจึงสามารถนั่งรถไฟรับลมเย็นสุดฟินได้อย่างเต็มอิ่ม แถมยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวในมุมกว้างของฮอกไกโดได้ด้วยนะ!

ข้อมูลน่ารู้ 3 : เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์รับมือกับอากาศหนาวและฝนตกให้ดี

สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงง่ายนับเป็นเอกลักษณ์สำคัญของพื้นที่โซนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นจึงอย่าลืมพกร่มหรือเสื้อกันฝนกันมาด้วย เนื่องจากอากาศจะหนาวเย็นลงในช่วงเช้าและช่วงเย็น จึงขอแนะนำให้เตรียมเสื้อหนาวบางๆ มาด้วยจะดีที่สุด

3 แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในฟุราโนะและบิเอ

แหล่งท่องเที่ยว 1 : ฟาร์มโทมิตะและทุ่งดอกลาเวนเดอร์

หลังจากโบกมือลารถไฟโนรกโกะมาแล้วก็รีบมุ่งหน้าไปยัง Tomita Farm (ฟาร์มโทมิตะ) จุดมุ่งหมายแห่งแรกของเรากันเลยดีกว่า เมื่อลงมาจาก Lavender Farm Station และเดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆ ก็จะถึงฟาร์มโทมิตะแล้วล่ะค่ะ ฟาร์มโทมิตะได้รับเลือกจากเว็บไซต์ TripAdvisor ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับ 1 ของฟุราโนะด้วย

ภายในฟาร์มโทมิตะเป็นที่ตั้งของสวนและไร่มากมาย โดยมีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งตั้งแต่ฤดูร้อนไปจนถึงฤดูใบไม้ร่วง แต่ไฮไลท์ประจำฟาร์มโทมิตะที่โด่งดังไปทั่วโลกก็หนีไม่พ้น “ดอกลาเวนเดอร์” นี่แหละ

ช่วงเวลาบานสะพรั่งของดอกลาเวนเดอร์ประจำปีนี้คาดว่าอยู่ในช่วงต้น - กลางเดือนกรกฎาคม บอกเลยว่าห้ามพลาดชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันแสนงดงามด้วยประการทั้งปวง!

ไม่ได้มีเฉพาะทุ่งดอกไม้เท่านั้นนะ เพราะว่าฟาร์มโทมิตะแห่งนี้ยังมีจำหน่ายสินค้ามากมายจากลาเวนเดอร์อีกด้วย ตั้งแต่ดอกลาเวนเดอร์แห้ง น้ำหอมกลิ่นดอกลาเวนเดอร์ ถุงหอม ไปจนถึงไอศกรีมรสลาเวนเดอร์เลยทีเดียว! แถมยังมีการจัดแสดงดอกไม้แห้งที่แกลเลอรีของฟาร์มโทมิตะด้วยนะ

โรงป๊อบปี้ : อาคารตามภาพด้านบนเป็นอาคารจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับดอกลาเวนเดอร์ โดยร้านค้าเปิดให้บริการเฉพาะในเดือนกรกฎาคมเท่านั้น

โรงดอกไม้แห้ง

โรงดอกไม้แห้งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นที่เราสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้แห้งหลากสีสันได้ตลอดทั้งปี

แหล่งท่องเที่ยว 2 : สระน้ำสีฟ้าชิโรงาเนะ (Shirogane Aoi Ike)

แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดของฮอกไกโดแห่งถัดไปก็คือ Blue Pond (สระน้ำสีฟ้า) ที่ดูราวกับความฝันแห่งนี้นั่นเอง เราสามารถนั่งรถบัสโดโฮคุของท้องถิ่นจากสถานีบิเอมาถึงที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย ระยะเวลาในการเดินทาง 20 นาที / เที่ยว ค่าโดยสาร 540 เยน

บ่อน้ำสุดพิเศษแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำสีฟ้าสุดงามจนต้องตกตะลึง โดยสีฟ้าสุดงามนี้สรรสร้างขึ้นโดยแร่ธาตุตามธรรมชาติที่ละลายผสมเข้ากับน้ำ

เนื่องจากตอนที่เราเดินทางมาถึงบ่อน้ำในครั้งนี้เกิดฝนตกหนัก ตอนแรกคิดกับตัวเองว่าดวงไม่ดีเอาซะเลย... แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม เมื่อฝนที่ตกลงมานี่แหละ ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าโคบอลต์บลูที่สดใสสวยงามมาก

และเมื่อฝนหยุดก็ได้เห็นภาพของพวกเราสะท้อนลงบนกระจกสีฟ้าใสงดงามสุดๆ!

น้ำฝนช่วยกวนผสมแร่ธาตุที่อยู่ใต้น้ำให้ลอยกระจายมาใกล้ผิวน้ำ เกิดเป็นสีฟ้าโทรโคบอลต์บลูสองสีไล่กันไปอย่างสวยงาม เพื่อน ๆ ชอบสีไหนเอ่ย? ไม่ว่าสีไหนก็สวยไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย

แหล่งท่องเที่ยว 3 : เนินบิเอที่สามารถปั่นจักรยานเที่ยวได้

เนื่องจากบนเกาะฮอกไกโดมีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงง่าย แสงอาทิตย์จึงเป็นสิ่งล้ำค่ามาก ถ้าเกิดวันไหนอากาศดีจึงขอแนะนำให้ออกไปปั่นจักรยานเล่นบนเนินบิเอแสนเงียบสงบกัน จักรยานสามารถหาเช่าได้ที่ร้านเช่าจักรยานซึ่งตั้งอยู่เลียบสายรถไฟ JR ฟุราโนะในราคา 3,000 – 6,000 เยน / วัน

ค่อย ๆ ปั่นจักรยานไฟฟ้าก็สามารถปั่นขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ได้ไม่ยาก

ด้วยบรรยากาศแสนโรแมนติกจึงทำให้ต้องเผลอหยุดชมทัศนียภาพอันงดงามจนเกือบลืมหายใจระหว่างทางกันหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว

เนิน ชินเอโนะโอกะ (Shinei no Oka) เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออยู่เลียบถนนต่างจังหวัด ที่นี่โอบล้อมไปด้วยท้องฟ้าอันแสนกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เพียงแค่ยื่นมืออออกไปนิดเดียวก็รู้สึกว่าเหมือนจะแตะเมฆได้แล้ว

หรือว่าจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักจากผืนแผ่นดินแม่หรือเปล่านะ...?

กลิ่นหอมของไร่นาในช่วงที่เจริญเติบโตเต็มที่นี่มันช่างทำให้ใจสงบดีจริงๆ เพื่อนๆ สัมผัสถึงอากาศบริสุทธิ์จากภาพกันรึเปล่าเอ่ย?

มัดฟางขนาดใหญ่นี้ดูราวกับว่ามันกำลังเพลิดเพลินกับการกลิ้งไปมาบนเตียงฟางเลยทีเดียว น่ารักสุดๆ 

ตอนจบทริปก็อย่าลืมแวะพักที่คาเฟ่สุดน่ารักกันด้วยนะ ที่นี่ตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าของฟาร์มโทมิตะ เมื่อหันหน้าไปยังฟาร์มโทมิตะ เดินขึ้นเนินด้านขวามือไปประมาณ 5 นาทีก็จะพบกับคาเฟ่ขนาดเล็กน่ารักแห่งนี้ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

บทส่งท้าย

ใครล่ะจะไม่หลงเสน่ห์หมู่มวลดอกไม้แสนน่ารักขนาดนี้

เวลาประมาณ 4 - 6 วันเหมาะกับทริปท่องเที่ยวผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของฮอกไกโดเป็นอย่างยิ่ง ถ้าเกิดใครอยากเพลิดเพลินกับการวาดภาพหรืออ่านหนังสือท่ามพลางแสงแดดก็ขอแนะนำให้ใช้เวลาผ่อนคลายชิลล์ ๆ สัก 1 - 2 อาทิตย์ได้เลย

ทริปท่องเที่ยวฟุราโนะและบิเอนั้นยอดเยี่ยมที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นหรือยาว ยังไงก็ขอให้เพื่อน ๆ วางแผนเที่ยวเพื่อมาทำในสิ่งที่อยากทำและชมในสิ่งที่อยากชมให้เต็มที่กันเลยนะคะ

ฟาร์มโทมิตะ

〒071-0704 No. 15 Kisenkita, Nakafurano-cho, Sorachi-gun, ฮอกไกโด