Start planning your trip
"ส่วนลด 20%" เล่นเน็ตไม่จำกัด! การจองและการใช้งาน NINJA Wi-Fi สำหรับเที่ยวญี่ปุ่น
ขอแนะนำความพิเศษ วิธีการเช่าและคืน Pocket Wi-Fi แนะนำอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น "NINJA Wi-Fi" ที่มีโปรโมชั่นเล่นเน็ตไม่จำกัดให้บริการด้วย จึงสามารถเล่นเน็ตได้อย่างไร้กังวลตลอดการเดินทาง พร้อมส่วนลดพิเศษในบทความ!
เช่า Pocket Wi-Fi เที่ยวญี่ปุ่นกันเถอะ!
ทราบหรือไม่คะว่า "ปัญหาอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทาง" คืออะไร? นั่นก็คือจำนวนฟรี Wi-Fi ในญี่ปุ่นที่มีน้อย แม้ในปัจจุบันจะมีการพัฒนา Wireless LAN ทั่วประเทศ แต่สถานที่ให้ใช้งานได้ก็ยังมีไม่มาก
ในการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น การเตรียม Pocket Wi-Fi จึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีข้อแตกต่างกับ Pre-paid SIM (ซิมการ์ดแบบชำระเงินก่อนใช้งาน) ที่มักมีการกำหนดปริมาณ Data ที่ใช้ได้เอาไว้อย่างจำกัด แต่สำหรับ Pocket Wi-Fi เราสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องกังวลกับปริมาณการใช้งาน รวมถึงหากเปรียบเทียบกับการเปิดโรมมิ่ง ข้อดีอีกอย่างของ Pocket Wi-Fi ก็คือมีราคาถูกนั่นเองค่ะ
ในบทความนี้ ขอแนะนำความพิเศษ วิธีการจองและการไปรับเครื่องของ NINJA Wi-Fi และคูปองสุดคุ้มที่นำไปเป็นส่วนลดค่าใช้งานได้ 20% พิเศษสำหรับผู้อ่าน MATCHA เท่านั้นกันค่ะ
NINJA Wi-Fi ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่น
ในประเทศญี่ปุ่นมีบริการให้เช่า Wi-Fi หลายเจ้า แต่ที่อยากแนะนำเป็นอันดับหนึ่งเลยคือ NINJA Wi-Fi เพราะสามารถเล่นเน็ตได้ไม่จำกัดและยังมีราคาคงที่ จึงได้รับการสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี เราจะขอแนะนำความพิเศษของ NINJA Wi-Fi กันค่ะ
ความคุ้มค่าประการที่ 1 : ราคาประหยัด! สบายใจกับอัตราราคาคงที่!
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของ NINJA Wi-Fi ก็คือราคาที่ชัดเจน มีบริการ 3 โปรโมชั่น ได้แก่ โปรฯ ใช้เน็ตได้สูงสุดวันละ 1 GB ในราคา 770 เยน, โปรฯ ใช้เน็ตได้สูงสุดวันละ 5 GB ในราคา 1,100 เยน และโปรฯ ใช้เน็ตได้สูงสุดวันละ 10 GBในราคา 1,320 เยน โดยจ่ายค่าใช้งานตามจำนวนวันที่ใช้เท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใช้ 5 วัน ก็จะคิดราคาเป็น 770 เยน x 5 วัน = 3,850 เยน (ยังไม่รวมภาษี) ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ เลยล่ะค่ะ
และยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าส่งสัญญาณข้อมูล ค่าเช่าเริ่มต้น ค่ามัดจำในกรณีชำระผ่านบัตรเครดิต และอื่นๆ จึงสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มที่ตามต้องการ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย!
ความคุ้มค่าประการที่ 2 : เน็ตเร็วและเล่นได้ไม่อั้น!
ความพิเศษข้อที่ 2 ก็คือสามารถใช้เน็ตในปริมาณมาก
ค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง หรือของฝากต่างๆ ต้องใช้เน็ตมากกว่าที่คิด หากเราเลือกใช้โปรฯ ของ NINJA Wi-Fi ล่ะก็ หมดห่วงเรื่องปริมาณของข้อมูลไปได้เลย!
นอกจากนี้ โปรฯ ของ Ninja-Wifi ทั้งหมดการใช้ปริมาณเน็ตเกิน ความเร็วจะถูกจำกัดไว้ที่ 128kbps แต่ยังใช้อินเทอร์เน็ตต่อไปได้ไม่มีกำหนด
ด้วยเครือข่าย Softbank 4G LTE ทำให้สามารถชมคลิปวีดีโอได้แบบไม่ติดขัด
เรื่องที่ควรทราบ! ปริมาณเน็ตมาตรฐานในญี่ปุ่น (สำหรับ 1 GB)
ส่งอีเมล: 2,090 ฉบับ (ฉบับละประมาณ 500 KB)
รับชมวิดีโอ: คุณภาพปานกลางได้ราว 4 ชั่วโมง 16 นาที
Google Map: ค้นหาได้ราว 1,432 ครั้ง (ครั้งละ 10 นาที)
ความคุ้มค่าประการที่ 3: มีจุดรับเครื่องมากที่สุด! สนามบิน ส่งพัสดุ หรือรับที่เคาน์เตอร์ก็ได้!
เคาน์เตอร์รับเครื่อง Pocket Wi-Fi ที่สนามบินฮาเนดะ
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
จุดบอดที่คาดไม่ถึงในการเช่า Pocket Wi-Fi ในประเทศญี่ปุ่นก็คือ “จุดรับตัวเครื่อง Pocket Wi-Fi” ค่ะ แม้จะสามารถไปรับที่สนามบินได้ แต่บางสนามบินท้องถิ่นก็ไม่รองรับบริการในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็น NINJA Wi-Fi ที่มีจุดรับตัวเครื่องมากเป็นอันดับ 1 แล้วล่ะก็ หมดห่วงเรื่องนี้ไปได้เลย
นอกจากเทอร์มินอลที่ 1, 2, 3 ในสนามบินนานาชาตินาริตะแล้ว ยังมีเคาน์เตอร์รับเครื่องในอีก 11 สนามบินทั่วประเทศญี่ปุ่น เช่น เทอร์มินอลที่ 1, 2สนามบินนานาชาติคันไซ, สนามบินฮาเนดะ, สนามบินนาฮะ (โฮกินาว่า), สนามบินชินจิโตเสะ (ฮอกไกโด) เป็นต้น
สามารถรับเครื่องที่สนามบินอื่นๆ นอกจากในภูมิภาคคันโต เช่น ฮอกไกโด และโอกินาว่าได้ เป็นอะไรที่สะดวกมากๆ เลยค่ะ
เคาน์เตอร์ที่ชินจูกุ
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
สามารถรับและส่งคืนเครื่องที่ “เคาน์เตอร์ชินจูกุ” สาขาที่อยู่ในเมืองโตเกียวก็ได้ หากลงทะเบียนผ่านอินเทอร์เน็ตก่อนเวลา 15:00 สามารถไปรับเครื่องที่เคาน์เตอร์ชินจูกุได้ภายในวันนั้นเลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ลืมลงทะเบียนล่วงหน้า หรือคนที่ต้องการใช้งาน Wi-Fi กะทันหัน
อีกทั้ง สำหรับคนที่ “มาถึงสนามบินแล้วอยากไปเที่ยวเลย” ก็ยังมีบริการส่งเป็นพัสดุที่สะดวกสบายมากๆ อีกด้วย! เราสามารถรับเครื่องได้ที่โรงแรมที่พัก หรือบ้านเพื่อนได้เลยค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเคาน์เตอร์รับเครื่องที่สนามบินและเวลาทำการ ดูได้ที่การรับเครื่อง NINJA Wi-Fi บนเว็บไซต์ทางการ การรับเครื่องที่สนามบินหรือเคาน์เตอร์ชินจูกุไม่มีค่าธรรมเนียมค่ะ แต่ถ้ารับเครื่องโดยใช้บริการส่งพัสดุ จะมีค่าบริการเพิ่มเติม 550 เยน (ยังไม่รวมภาษี)
เคาน์เตอร์ชินจูกุ อยู่ห่างจาก JR สถานีชินจูกุ โดยใช้เวลาเดิน 12 นาที หรือเดินจากรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร สถานีฮิงาชิชินจูกุ (Higashi Shinjuku) เพียง 1 นาทีเท่านั้น ถือเป็นทำเลที่สะดวกมาก เคาน์เตอร์ตั้งอยู่บนชั้น 5 ของตึกค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูจากแผนที่ด้านล่างค่ะ
โรงแรมแนะนำใกล้2-4-10 Kabukicho, Shinjuku-ku, โตเกียว 160-0021
เช่า NINJA Wi-Fi กัน! ขั้นตอนการจอง รับ และส่งคืน
ขั้นตอนการจอง การรับ และการส่งคืน NINJA Wi-Fi นั้นไม่ยากเลยค่ะ
วิธีการจอง
หากจะรับที่สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ และสนามบินนาฮะ ให้จองให้เรียบร้อยก่อนเวลา 15:00 (เวลาประเทศญี่ปุ่น) ในวันก่อนหน้าวันที่จะใช้งาน ส่วนสนามบินนานาชาติจูบุ (Centrair) ให้จองก่อน 2 วันล่วงหน้า สนามบินนานาชาติชินจิโตเสะ ให้จองอย่างน้อย 3 วันล่วงหน้า รายละเอียดเกี่ยวกับวันจอง ดูเพิ่มเติมได้ที่ส่วนการจองในเว็บไซต์ทางการ NINJA Wi-Fi ค่ะ
ก่อนอื่นเลย กดปุ่มด้านล่างเพื่อเข้าไปสมัครใช้บริการกันค่ะ
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
เริ่มจากลงข้อมูลจำนวนวันที่เราจะเช่า Pocket Wi-Fi
จากตัวอย่างในรูป คือ ระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-5 มีนาคม
ต่อไป เราจะไปเลือกโปรโมชั่นกัน
ในตัวอย่าง เลือกโปรฯ วันละ 3GB จากนั้นก็จะเลือกจุดรับเครื่องและจุดส่งคืนในตัวเลือกค่ะ
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่รับและส่งคืนเครื่องที่เทอร์มินอลที่ 1 สนามบินนาริตะ เลือกแบบรูปด้านบนค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการให้ส่งเป็นพัสดุ ให้เลือก “Delivery Services” ถ้าหากจะใช้บริการเคาน์เตอร์ชินจูกุ (วันธรรมดา) ให้เลือก “Shinjuku office 10:00am-6:00pm weekdays” ค่ะ
Picture courtesy of NINJA Wi-Fi
ในขั้นตอนสุดท้าย แค่กรอกข้อมูลส่วนตัวก็เป็นอันสิ้นสุดการจองค่ะ!
วิธีการรับเครื่อง
เมื่อเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่นแล้ว ให้ไปรับเครื่องในสถานที่ที่เลือกเอาไว้ตอนจอง ที่เคาน์เตอร์รับเครื่องที่สนามบินและเคาน์เตอร์ชินจูกุมีพนักงานที่สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นคนที่กังวลกับภาษาญี่ปุ่นก็สบายใจได้เลยค่ะ
สำหรับคนที่เลือกส่งคืนโดยการส่งพัสดุ ตอนรับเครื่อง เราจะได้ซองที่ใช้สำหรับตอนส่งคืนมาด้วยค่ะ เก็บไว้ให้ดี ระวังอย่าให้หายระหว่างเดินทางนะคะ
วิธีการส่งคืน
ส่งคืนด้วยวิธีที่เลือกตอนที่จองล่วงหน้า
สำหรับคนที่เลือกส่งคืนที่สนามบิน สามารถคืนได้ที่เคาน์เตอร์ของ NINJA Wi-Fi ก่อนขึ้นเครื่องค่ะ แต่ถ้าเดินเลยจุดสแกนตรวจสัมภาระแล้วจะไม่สามารถกลับออกมาคืนเครื่องได้อีก จึงแนะนำให้ตรงไปที่เคาน์เตอร์ทันทีหลังจากที่ถึงสนามบินแล้วค่ะ
Photo by Pixta
สำหรับคนที่เลือกส่งคืนทางไปรษณีย์ ให้ใช้แบบฟอร์มส่งของบริการขนส่งแมวดำ คุโรเนโกะยามาโตะ (Yamato Transport) ที่แนบมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เช่ามา ไปติดต่อส่งของที่ร้านสะดวกซื้อหรือเคาน์เตอร์ของคุโรเนโกะยามาโตะในสนามบินได้เลย ในแบบฟอร์มการส่งคืนมีการกรอกข้อมูลที่จำเป็นเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้วค่ะ
สำหรับคนที่เลือกคืนที่เคาน์เตอร์ชินจูกุ ให้ไปคืนที่เคาน์เตอร์ภายในกำหนดวันส่งคืนค่ะ เคาน์เตอร์นี้มีเวลาทำการตั้งแต่ 10:00-18:00 และให้บริการเฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น สำหรับคนที่มีกำหนดส่งคืนในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ให้เลือกส่งคืนที่เคาน์เตอร์สนามบินหรือส่งทางไปรษณีย์แทนค่ะ
พิเศษเฉพาะผู้อ่าน MATCHA เท่านั้น! รับส่วนลดไปเลย 20%!
พิเศษสุดตอนนี้! เฉพาะผู้อ่าน MATCHA รับคูปองส่วนลด 20% ไปเลย!
วิธีการใช้งานเพียงแค่กดปุ่มสีฟ้าด้านล่างไปยังหน้าคูปองของ MATCHA และก็อปปี้คูปองโค้ดไปแปะในช่อง Coupon code field ตอนจองในเว็บไซต์ของ NINJA Wi-Fi เท่านั้น
นี่เป็นโอกาสที่เราจะได้ใช้ NINJA Wi-Fi ได้แบบคุ้มสุดๆ! เอาคูปองไปใช้ จะได้เล่นเน็ตเร็วแรงในญี่ปุ่นแบบไม่สะดุดกันค่ะ
Main image by Pixta
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง