【จังหวัดมิยาซากิ】เพลิดเพลินไปกับทั้งภูเขาและท้องทะเล! ออกสำรวจมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ยังไม่ถูกค้นพบ

เช่า Pocket WiFi ญี่ปุ่นที่ไหนดี? เราจับ 8 เจ้ามาเปรียบเทียบให้! ทั้งราคา ปริมาณเน็ต และวิธีจอง

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

WiFi เป็นของที่ขาดไม่ได้ในการเที่ยวญี่ปุ่น แต่มีเยอะจนงงไปหมด เราขอยก Pocket WiFi 8 เจ้ามาเปรียบเทียบกันทั้งราคา ปริมาณเน็ต วิธีการรับคืนเครื่อง บริการที่จองแล้วรับเครื่องได้เลย รวมถึงแบบแนะนำสำหรับผู้อาศัยในญี่ปุ่นระยะยาวด้วย

บทความโดย

Mizzochi

Mitoyo, Kagawa, Japan

ก่อนที่จะเข้าร่วม MATCHA เมื่อตุลาคม 2017 ฉันเคยทำงานในหน่วยงาน PR สำหรับ IR/CSR ของ บริษัท และ สำนักพิมพ์ที่เปิดตัวนิตยสารที่เน้นไปที่การร่วมมือระหว่างประเทศก่อนที่มีการย้ายมาอยู่ที่นครมิโตโยะ จังหวัดคาการะในเมษายน 2019 ฉันเขียนบทความสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมประเทศญี่ปุ่น และยังมีส่วนร่วมในการเร่งการดำเนินงานเพื่อวางการบริการของอินเทอร์เน็ต การเช่ารถ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวทางตอนตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น
more

Pocket Wi-Fi Router ที่ต้องมี เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น

eSIM, japan

Photo by Pixta

หากใช้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต แน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ย่อมคือสัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่ญี่ปุ่นมี Wi-Fi ฟรีมีให้บริการที่สนามบินและโรงแรมก็จริง แต่ในเมืองยังมีจุดที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีไม่มากนัก

ดังนั้นขอแนะนำให้เตรียม Pocket Wi-Fi หรือซิมการ์ดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น

Pocket Wi-Fi และซิมการ์ดมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน บทความนี้จะพาไปรู้จัก Pocket Wi-Fi Router แนะนำเพื่อการท่องเที่ยวระยะสั้นหรือพำนักระยะยาวในญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ยังได้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Pocket Wi-Fi กับซิมการ์ด และการใช้ Wi-Fi ฟรีในญี่ปุ่นไว้ในหัวข้อคำถามที่พบบ่อยในตอนท้ายบทความนี้ด้วย ลองอ่านและเก็บไว้เป็นข้อมูลกันได้เลย

สารบัญ

  • 1. วิธีเช่า Pocket Wi-Fi
  • 2. 10 Pocket Wi-Fi แนะนำสำหรับการเช่าระยะสั้น (1 วัน - 1 เดือน)
  • 3. 4 Pocket Wi-Fi 4 สำหรับเช่าระยะยาว (1 เดือนขึ้นไป)
  • 4. คำถามที่พบบ่อย
  • วิธีเช่า Pocket Wi-Fi

    ポケットWIFどこが一番お得? 日本WIFI7選

    Photo by Pixta
    ถ้าจะเช่า Pocket Wi-Fi ในญี่ปุ่นต้องทำอย่างไร? สิ่งแรกที่ลืมไม่ได้คือส่วนใหญ่ต้องจองล่วงหน้าทางออนไลน์

    แน่นอนว่ามีบางเจ้าที่ระบุว่าสามารถเช่าได้ทันที แต่ก็มีจำนวนเครื่องจำกัด ทำให้อาจไม่มีเครื่องให้เช่าได้ในวันนั้นเลย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาวุ่นวาย ขอแนะนำให้อย่าลืมจองล่วงหน้า

    ส่วนวิธีการรับเครื่อง สามารถรับได้ทั้งเคานเตอร์ของบริษัทนั้นในสนามบิน หรือไปตามร้านในเมือง บางเจ้ามีบริการส่งให้ถึงที่พักหรือสถานที่ที่ระบุด้วย

    วิธีการคืนเครื่องมีหลายวิธี เช่น คืนที่ร้านของบริษัทหรือเคาเตอร์ในสนามบิน ส่งคืนจากร้านสะดวกซื้อ และอื่นๆ ลองหาวิธีการที่สะดวกสำหรับตัวเองดู

    ในกรณีที่เครื่องเสียหายหรือทำหายจะต้องจ่ายค่าปรับ (ราว 40,000 เยน) จึงควรระมัดระวังให้มาก หากเจ้าไหนมีบริการเสริมเป็นประกันเครื่องก็ควรสมัครเอาไว้จะได้สบายใจ

    10 Pocket Wi-Fi แนะนำสำหรับเช่าระยะสั้น (1 วัน - 1 เดือน)

      บริการ ราคาแพ็กเกจหลัก ปริมาณเน็ตที่ใช้ได้ จุดเด่น
    • NINJA Wi-Fi
    • 770 เยน/วัน (มีส่วนลด 616 เยน/วัน) 3GB/วัน ราคาถูกที่สุด เมื่อเช่าไม่เกิน 2 สัปดาห์
    • Japan Wi-Fi rental
    • 430 เยน/วัน + 1,650 เยน (ค่าจัดส่งและที่ชาร์จ) 50GB/เดือน ราคาถูกสุด เมื่อใช้มากกว่า 1GB/วัน
    • Wifi Rental Store
    • 390 เยน/วัน + 1100 เยน (ค่าจัดส่ง) 20GB/เดือน ราคาต่อวันต่ำสุด
    • Japan Wireless
    • 7,960 เยน/ 7 วัน ปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 95Mbps ปริมาณเน็ตไม่จำกัด (แต่ความเร็วต่ำกว่า)
    • eConnect Japan
    • 4,900 เยน/ 7 วัน 20GB ปริมาณเน็ตคงที่ ไม่ขึ้นกับระยะเวลาการใช้งาน
    • Sakura Mobile
    • 10,580 เยน/ 7 วัน ไม่จำกัด มีการบริการที่เอาใจใส่ลูกค้า
    • Pupul
    • 900 เยน/วัน + 1,800 เยน (ค่าจัดส่ง) 50GB/เดือน เน็ตเร็วแรงในเขตเมือง
    • Softbank Global Rental
    • 860 เยน/วัน + 330 เยน (ค่าดำเนินการ) - เช่าสมาร์ตโฟนและโทรศัพท์มือถือได้
    • Global Advanced Communications
    • 4,450 เยน/ 7 วัน 3GB/วัน มีแพ็กเกจเน็ตเร็วแรง
    • iVideo
    • ราว 1,000 เยน/วัน ไม่จำกัด มีแพ็กเกจราคาถูก เมื่อซื้อเราเตอร์เฉพาะ

    ทั้งหมดเป็นราคารวมภาษีแล้ว นอกจากนี้ ค่าจัดส่งจะไม่แสดงไว้สำหรับบริการที่ไม่ต้องเสียค่าจัดส่ง เช่น การรับ-คืนที่สนามบิน

    ในญี่ปุ่น มีบริการ Pocket Wi-Fi มากมายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขนาดที่หลายคนบอกว่า "มีเยอะจนเลือกไม่ถูก"

    MATCHA ได้คัดเลือกบริการต่างๆ โดยเน้นที่ราคาและปริมาณเน็ต ก่อนอื่นขอแนะนำ 10 เจ้ามีเหมาะเช่าแบบระยะสั้น (1 วัน - 1 เดือน)

    MATCHA ขอแนะนำ NINJA Wi-Fi เป็นพิเศษ ซึ่งมีราคาไม่แพงและมีปริมาณเน็ตกำลังดี อย่างไรก็ตาม บริการอื่นๆ ก็มีข้อดีในตัวเอง ดังนั้นลองเลือกใช้บริการที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุด

    1. NINJA Wi-Fi: ถูกสุดสำหรับระยะเวลา 1 - 2 สัปดาห์

    Ninja-Wifi

    Picture courtesy of NINJA Wi-Fi

    NINJA Wi-Fi เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเที่ยว 1 - 2 สัปดาห์ ให้บริการโดย Vision บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักกันจากแบรนด์ Global WIFI

    แพ็กเกจพื้นฐานของ NINJA Wi-Fi มีบริการจำกัดแบบรายวัน 3GB ในราคา 770 เยน/วัน ยิ่งไปกว่านั้น หากสมัครผ่าน MATCHA จะได้รับส่วนลด 20% เหลือเพียงวันละ 616 เยน! เท่าที่ MATCHA ตรวจสอบ ราคานี้ถูกที่สุดในญี่ปุ่นสำหรับระยะเวลา 1 - 2 สัปดาห์

    นอกจากนี้เมื่อใช้บนเครือข่าย Softbank 4G LTE ก็ดูคลิปวิดีโอได้ไม่สะดุดโดยไม่ยุ่งยากด้วย

    จุดเด่นอีกอย่างคือมีเคาน์เตอร์รับเครื่องมากกว่าเจ้าอื่นๆ นอกจากสำนักงานในชินจูกุ ยังมีเคาน์เตอร์ครอบคลุมสนามบินหลักๆ ของญี่ปุ่น เช่น สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ ฮอกไกโด (สนามบินชินชิโตเซะ อาซาฮิคาวะ) สนามบินฟุกุโอกะ โอซาก้า (สนามบินนานาชาติคันไซ) นาโกย่า (สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์) อิชิคาวะ (สนามบินโคมัตสึ) สนามบินคาโกชิมะ โอกินาว่า (สนามบินนาฮะ) และอื่นๆ

    โดยเฉพาะที่สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สนามบินนานาชาติคันไซ และสนามบินนาฮะ หากจองในวันก่อนรับเครื่องภายในเวลา 15:00 น. ของญี่ปุ่น (13:00 น. เวลาไทย) สามารถเลือกรับเครื่องที่สนามบินในวันรุ่งขึ้นได้เลย

    NINJA Wi-Fi ยังมีแพ็กเกจเสริมมากมาย เช่น แพ็กเกจที่รวมบริการทางการแพทย์ในญี่ปุ่นและประกันกรณีทำเครื่อง Wi-Fi เสีย รวมทั้งการเช่าโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์แปลภาษาที่สามารถใช้ในญี่ปุ่นได้

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NINJA Wi-Fi ได้ที่บทความด้านล่าง

    2. Japan Wi-Fi rental: แนะนำกรณีใช้นานกว่า 2 สัปดาห์

    ポケットWI-FI

    Photo by Japan Wifi Rental

    หากต้องการใช้ Pocket Wi-Fi ราคาถูก หรือใช้นานกว่า 2 สัปดาห์ ขอแนะนำ Japan Wi-Fi rental

    แพ็กเกจนี้ให้บริการในราคาเพียงวันละ 430 เยน/ 612 Mbps (50 GB/เดือน, บนเครือข่าย SoftBank) มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับที่ชาร์จ (550 เยน) และค่าจัดส่งในการรับ-คืนเครื่อง (1,100 เยน) ดังนั้นเมื่อเทียบกับ NINJA Wi-Fi จึงแพงกว่าหากใช้น้อยกว่า 2 สัปดาห์ แต่ถ้าเช่านานกว่าจะถูกกว่า

    ปริมาณเน็ตหนึ่งเดือน 50GB หากเช่านานหนึ่งเดือน จะใช้งานเน็ตได้ราววันละ 1.6GB แต่ตามที่อธิบายไว้ในคำถามที่พบบ่อยที่ท้ายบทความ วันละ 1GB ก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากไม่ต้องใช้ปริมาณเน็ตมาก ตัวเลือกนี้ก็เหมาะ

    สามารถรับเครื่องของ Japan Wi-Fi rental ได้ ณ ที่ทำการไปรษณียภายในสนามบิน หรือให้จัดส่งที่โรงแรม เรียวกัง หรือบ้านเพื่อนในญี่ปุ่นก็ได้ ส่วนการคืน สามารถส่งคืนทางไปรษณีย์ได้ กรณีสูญหายจะต้องจ่ายค่าเครื่อง 16,500 เยน และค่าธรรมเนียมยกเลิกสัญญา 19,800 เยน

    3. Wifi Rental Store: มีแพ็กเกจให้บริการในราคา 390 เยน/วัน

    Wifi Rental Store

    Photo by Wifi Rental Store
    Wifi Rental Store ดำเนินงานโดย J-Field Co., Ltd. ผู้ให้บริการเช่า Wi-Fi สำหรับชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติมาตั้งแต่ปี 2013

    Wifi Rental Store มีบริการแพ็กเกจรายเดือนใช้เน็ตได้ 50GB ตกอยู่ที่วันละ 490 เยน ซึ่งแพงกว่า Japan Wi-Fi rental เล็กน้อย ในทางกลับกัน ยังมีแพ็กเกจหนึ่งเดือนใช้เน็ตได้ 20GB ตกอยู่ที่วันละ 390 เยนด้วย ดังนั้นถ้าใช้เน็ตน้อย ตัวเลือกนี้ก็เหมาะ

    โดยทั่วไป Wifi Rental Store จะรับ-ส่งคืนเราเตอร์ Wi-Fi ทางไปรษณีย์ โดยมีค่าส่งไปกลับ 1,100 เยน แต่ถ้าเลือกรับเครื่องที่สนามบิน จะมีค่าบริการเพิ่ม 550 เยน

    4. Japan Wireless: ปริมาณเน็ตที่ใช้ได้อย่างสบายใจ

    Pocket WiFi in Japan: A Guide to the Top 8 Companies by Price and Data

    Photo courtesy of Japan Wireless Wi-Fi

    บริการ Pocket Wi-Fi ส่วนใหญ่ เมื่อใช้ปริมาณเน็ตเกินที่กำหนด จะใช้ไม่ได้หรือความเร็วลดลง

    ตรงกันข้าม Japan Wireless ให้บริการแพ็กเกจพิเศษที่มีปริมาณเน็ตไม่จำกัด (และไม่จำกัดความเร็ว) แต่ความเร็วจะถูกจำกัดตามแพ็กเกจที่เลือก

    มี 3 แพ็กเกจ ได้แก่ ปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 95Mbps, ปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 120Mbps และปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 187Mbps (*)

    ทว่า Japan Wireless จะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แพ็กเกจปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 95Mbps จะอยู่ที่ 4,780 เยน/สัปดาห์ (เมื่อเทียบกับ NINJA Wi-Fi แพ็กเกจปริมาณเน็ต 3GB/วัน เมื่อใช้ส่วนลดจะอยู่ที่ 4,312 เยน) ส่วนแพ็กเกจปริมาณเน็ตไม่จำกัดที่ความเร็ว 187Mbps จะอยู่ที่ 7,960 เยน/สัปดาห์

    Japan Wireless ยิ่งเช่านาน จะยิ่งถูกลง แต่หากเลือกจากราคาเป็นหลัก ควรเลือก NINJA Wi-Fi หรือ Japan Wi-Fi rental จะดีกว่า

    แต่ข้อดีของ Japan Wireless คือไม่จำกัดความเร็ว ไม่ว่าจะใช้ปริมาณเน็ตเท่าใดก็ตาม บริการนี้จึงเหมาะสำหรับผู้เน้นการใช้งานที่ไม่จำกัดความเร็ว แม้ราคาจะแพงนิดหน่อย

    * ข้อมูลอ้างอิง: NINJA Wi-Fi ดังกล่าวมีความเร็วสูงสุด 187Mbps

    5. eConnect Japan: แพ็กเกจไม่ซ้ำใคร ด้วยปริมาณเน็ตคงที่

    eConnect Japan

    นอกจาก Japan Wireless แล้ว eConnect Japan ก็มีบริการแพ็กเกจพิเศษเช่นกัน จุดเด่นคือปริมาณเน็ตเท่ากันตลอดระยะเวลาการใช้งาน

    eConnect Japan มีแพ็กเกจปริมาณเน็ต 20G, 50G และ 100GB (ความเร็ว 187.5 Mbps บนเครือข่าย Softbank) แม้แพ็กเกจส่วนใหญ่จะแพงกว่า NINJA Wi-Fi แต่เหมาะกับผู้ที่เน้นใช้ปริมาณเน็ตมากกว่า 10GB ในช่วงเวลาสั้นๆ

    ราคาของ eConnect Japan จะต่างกันขึ้นอยู่กับระยะเวลาเช่า เมื่อตรวจสอบ ณ เดือนตุลาคม 2023 ถ้าเช่าแพ็กเกจ 20GB ในเวลา 1 สัปดาห์ ราคาจะอยู่ที่ 4,900 เยน และในเวลา 4 วัน ราคาจะอยู่ที่ 4,500 เยน เมื่อเทียบกับ NINJA Wi-Fi หรือ Japan Wifi Rental จะแพงกว่าเล็กน้อย

    6. Sakura Mobile: มีบริการในภาษาอังกฤษ

    Sakura mobile

    Photo by Sakura Mobile

    Sakura Mobile เป็นบริษัทที่ให้เช่าซิมราคาถูกและ Pocket Wi-Fi สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีบริการเช่า Pocket Wi-Fi 2 แบบ ได้แก่ แบบระยะสั้น และแบบรายเดือนสำหรับผู้ที่อยู่ญี่ปุ่นระยะยาว

    ราคาสำหรับแบบเช่าระยะสั้นแตกต่างกันตามช่วงเวลาและระยะเวลาเช่า MATCHA ได้ตรวจสอบ ณ เดือนมกราคม 2024 ราคาอยู่ที่หนึ่งสัปดาห์ 10,580 เยน สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณเน็ตได้ไม่จำกัด แต่หากใช้โดยละเมิด FUP (Fair Usage Policy นโยบายการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสม) ความเร็วจะลดลง

    Sakura Mobile มีราคาค่อนข้างสูงนิดหน่อย แต่เป็นที่ยอมรับในเรื่องการบริการลูกค้าในการตอบคำถามและช่วยแก้ปัญหาเป็นภาษาอังกฤษ มีเสียงจากผู้ใช้จริงว่า เมื่อให้ช่วยแนะนำซิมการ์ดหรือ Pocket Wi-Fi ที่เหมาะกับจุดหมายที่เดินทางไป ก็ได้รับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ที่นี่จึงเป็นพันธมิตรที่ดี ซึ่งช่วยคลายกังวลในการเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกได้

    7. Pupul: แพ็กเกจที่สะดวกสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมืองใหญ่

    Pupul

    Photo by Pupul

    Pupul มีสถิติผู้เช่ามากกว่า 100,000 คน จุดเด่นคือมี 2 แพ็กเกจให้บริการ ได้แก่ แพ็กเกจ Hi-Speed ซึ่งใช้งานได้รวดเร็วมากในเขตเมืองใหญ่ อย่างโตเกียว เกียวโต และโอซาก้า และแพ็กเกจ Broad-Coverage ซึ่งใช้งานได้ทุกที่ในญี่ปุ่น

    ทั้งสองแพ็กเกจมีปริมาณเน็ตไม่จำกัดในราคา 900 เยน/วัน แต่มีค่าจัดส่งจะอยู่ที่ 1,800 เยน ที่สำคัญสามารถถามคำถามผ่านแชท AI ได้บนเว็บไซต์ทางการ

    8. Softbank Global Rental: เช่าโทรศัพท์มือถือได้ด้วย

    Softbank Wifi

    Photo by Softbank Global Rental
    Softbank Global Rental เป็นบริการของ SoftBank หนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งให้บริการเช่า Pocket Wi-Fi ได้ในราคา 860 เยน/วัน ไม่ได้ระบุปริมาณเน็ตที่ใช้ได้ไว้

    อนึ่ง ยังมีค่าดำเนินการ 330 เยน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1,000 เยน หากเลือกการส่งเครื่องทางไปรษณีย์

    จุดพิเศษของ Softbank Global Rental คือไม่เพียงแค่เช่า Wi-Fi และซิมการ์ดได้เท่านั้น แต่ยังเช่าสมาร์ตโฟนและโทรศัพท์มือถือ (Simple Phones) ได้ สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเช่าโทรศัพท์ด้วย

    9. Global Advanced Communications: มีบริการในภาษาฝรั่งเศสด้วย

    Global Advanced Communications

    Photo by Global Advanced Communications

    Global Advanced Communications มีบริการในภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ ราคาแพ็กเกจมาตรฐาน 3GB/วัน ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและจำนวนวันที่เช่า MATCHA ได้ลองคำนวณ ณ เดือนมกราคม 2024 อยู่ที่ 4,450 เยน/สัปดาห์

    นอกจากแพ็กเกจมาตรฐานยังมีอีก 2 แพ็กเกจ ได้แก่ Unlimited Plan ปริมาณเน็ตไม่จำกัดและความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 350 Mbps และ 5G Unlimited Plan ซึ่งเข้าถึงเครือข่าย 5G ได้

    10. iVideo: มีแพ็กเกจ DAYPASS

    Wifi Rental Store

    Photo by iVideo
    iVideo เปิดให้บริการในไต้หวันเมื่อปี 1999 ให้บริการ Wi-Fi และซิมการ์ดในประเทศต่างๆ แถบเอเชีย รวมถึงญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

    มีแพ็กเกจ Wi-Fi ที่หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่แพ็กเกจพื้นฐานที่สุดคือ Wi-Fi บนเครือข่าย SoftBank พร้อมปริมาณเน็ตไม่จำกัดในราคา 7.1 ดอลลาร์/วัน (ประมาณ 1,000 เยน พร้อมส่วนลดมากมาย)

    นอกจาก iVideo จะจำหน่าย SIM และ eSIM (Embedded Subscriber Identity Module ต่างจากซิมการ์ดจริง เป็นซิมการ์ดที่ฝังอยู่ในฮาร์ดแวร์ของโทรศัพท์ ไม่สามารถถอดออกได้ ข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ในตัวการ์ด แต่เก็บไว้ในชิปที่ปลอดภัยแทน) ยังให้บริการแพ็กเกจ DAYPASS ซึ่งสามารถซื้อเราเตอร์เฉพาะพร้อมอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดในราคา 3.9 ดอลลาร์/วัน (มีส่วนลด)

    ↑ กลับไปที่ด้านบนของบทความ

    4 Pocket Wi-Fi ที่เหมาะสำหรับการเช่าระยะยาว (1 เดือนขึ้นไป)

    บริการ ราคาแพ็กเกจรายเดือน ปริมาณเน็ตที่ใช้ได้ จุดเด่น
  • Wi-Fi RENTAL.COM
  • 6,600 เยน 5GB/วัน ปริมาณเน็ตเยอะจุใจ
  • mobal
  • 4,980 เยน (ค่าซื้ออุปกรณ์เริ่มต้นที่ 6,980 เยน) 100GB/เดือน แพ็กเกจสุดพิเศษเมื่อใช้ร่วมกับซิมการ์ด
  • CD Japan Rental
  • 7,960 เยน 200GB/เดือน ปริมาณเน็ตเยอะจุใจ
  • Sakura Mobile
  • 5,478 เยน 30GB/เดือน บริการอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นแบบครบวงจร

    หากมาเที่ยวญี่ปุ่น ขอแนะนำบริการดังกล่าวข้างต้น

    แต่ถ้ามาพักที่ญี่ปุ่นระยะยาวเพื่อเรียนหรือทำงาน ขอแนะนำบริการดังต่อไปนี้

    11. Wi-Fi RENTAL.COM: แพ็กเกจปริมาณเน็ตเยอะจุใจ มีเคาน์เตอร์รับเครื่องหลายแห่ง

    Wifi

    Photo by Wi-Fi Rental.com

    Wi-Fi RENTAL.COM เป็นบริการที่มีผู้ใช้บริการรวมมากกว่า 1.5 ล้านคน

    มี 3 แพ็กเกจให้บริการ ได้แก่ ปริมาณเน็ตไม่จำกัด (สูงสุด 5GB/วัน) ในราคา 6,600 เยน/เดือน, ปริมาณเน็ตสูงสุด 5GB/เดือน ในราคา 3,190 เยน/เดือน ให้บริการผ่านเครือข่าย SoftBank และปริมาณเน็ตสูงสุด 10GB/ 3 วัน ในราคา 6,930 เยน/เดือน ให้บริการผ่านเครือข่าย WiMAX

    แพ็กเกจที่ได้รับความนิยมที่สุดคือแพ็กเกจที่มีปริมาณเน็ต 5GB/วัน ใช้งานตกเดือนละราว 150GB ซึ่งสะดวกมากๆ ไม่ว่าจะใช้เรียน ทำงาน หรือดูคลิปวิดีโอในช่วงวันหยุด

    ข้อดีอีกอย่างคือมีเคาน์เตอร์หลายแห่งที่รับเครื่องได้ ครอบคลุมทุกพื้นที่ของญี่ปุ่น ทั้งสนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สนามบินนานาชาติคันไซ สนามบินโอซาก้า (อิตามิ) สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ สนามบินฟุกุโอกะ สนามบินชินชิโตเซะ สนามบินนาฮะ สนามบินโคมัตสึ และสนามบินเซ็นได ดังนั้นจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ทันทีที่มาถึงญี่ปุ่น สะดวกสุดๆ

    นอกจากนี้ ถ้าต้องการให้ส่งไปรษณีย์ไปยังบ้านพักในญี่ปุ่น หรือส่งคืนเมื่อจะกลับประเทศ หากใช้คูปอง MATCHA จะได้ยกเว้นค่าจัดส่ง (ค่าจัดส่งรับ-คืนเครื่องรวม 1,100 เยน) แบบฟรีๆ

    คลิกที่นี่เพื่อรับคูปองพิเศษและบริการฟรีค่าจัดส่งในการรับ-คืนเครื่อง สำหรับผู้อ่าน MATCHA

    12. mobal: ส่วนลด 10% เมื่อใช้ร่วมกับซิมการ์ด! ใช้เครือข่ายหลักๆ ของญี่ปุ่นได้ทั้งหมด

    mobal

    Photo by mobal

    mobal เป็นบริการของ Mobell Communications Limited บริษัทโทรคมนาคมที่เปิดให้บริการในสหราชอาณาจักรเมื่อปี 1989

    มีแพ็กเกจง่ายๆ เพียงแพ็กเกจเดียว (*) ในราคา 4,980 เยน/เดือน (ปริมาณเน็ตสูงสุด 100GB/เดือน) จุดเด่นคือใช้เครือข่ายของบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น อย่าง Softbank, Docomo และ au ได้ทั้งหมด ทำให้เข้าถึงบริการได้รวดเร็วและครอบคลุมพื้นที่กว้าง ช่วยให้มั่นใจในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ราบรื่น โดยเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่น่าเชื่อถือในแต่ละสถานที่ได้ง่าย

    ระยะเวลาเช่าขั้นต่ำ 3 เดือน สามารถจัดส่งเครื่องไปยังสถานที่ที่ต้องการในญี่ปุ่นได้ภายใน 2 - 5 วันทำการหลังจองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

    จุดเด่นของ mobal คือจะได้รับส่วนลด 10% ต่อเดือนสำหรับ Pocket Wi-Fi เมื่อสมัครชุดซิมการ์ดพร้อม Pocket Wi-Fi หากพักอยู่ญี่ปุ่นระยะยาว การมีทั้งซิมการ์ดสำหรับ สมาร์ตโฟนและ Pocket Wi-Fi ปริมาณเน็ตเยอะจุใจ ใช้กับงานคอมพิวเตอร์ได้จะสะดวกมากๆ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ

    นอกจากนี้ Mobell Communications Limited ยังเป็นที่รู้จักในเรื่องการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในงานการกุศลต่างๆ เช่น การแบ่งผลกำไรส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือคนยากจนในแอฟริกา

    * ต้องซื้อ Pocket Wi-Fi Router เอง ในราคาเริ่มต้นที่ 6,980 เยน

    13. CD Japan Rental: เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ปริมาณเน็ตเยอะ

    CD Japan

    Photo by CD Japan Rental

    CD Japan Rental มีบริการ Pocket Wi-Fi ที่สะดวกสบายสำหรับการพักที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป

    แพ็กเกจพื้นฐานเริ่มต้นที่ปริมาณเน็ต 200GB ในราคา 7,960 เยน/เดือน จุดเด่นคือใช้ปริมาณเน็ตได้เยอะในราคาถูก ยิ่งเช่านาน ก็ยิ่งถูกลง สำหรับการเช่าระยะสั้น สามารถเช่าได้ 5 วัน เริ่มต้นเพียง 4,390 เยน

    14. Sakura Mobile: บริการอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นครบวงจร

    Sakura mobile

    Photo by Sakura Mobile

    Sakura Mobile เปิดให้บริการ Wi-Fi ระยะสั้น แต่ยังมีบริการ Pocket Wi-Fi เช่าระยะยาวด้วย สำหรับการเช่าระยะยาว ปริมาณเน็ต 10GB/เดือน ในราคา 3,828 เยน และปริมาณเน็ต 30GB/เดือน ในราคา 5,478 เยน

    จุดแข็งของ Sakura Mobile คือนอกเหนือจาก Pocket Wi-Fi ยังให้บริการซิมการ์ดและบริการอินเทอร์เน็ตบ้านด้วย สะดวกมากเพราะให้บริการอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นแบบครบวงจร และยังมีการบริการเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งสะดวกมากๆ

    ↑ กลับไปที่ด้านบนของบทความ

    คำถามที่พบบ่อย

    เราได้รวมคำถามต่างๆ เกี่ยวกับ Pocket Wi-Fi ไว้แล้ว

    Q1. ตั้งค่าการใช้งาน Pocket Wi-Fi อย่างไร?

    Wifiの設定

    หากต้องการใช้งาน เพียงไปที่หน้าจอ "การตั้งค่า" ของสมาร์ตโฟน เลือก Wi-Fi → คลิกเครือข่าย Wi-Fi ที่ต้องการเชื่อมต่อ → ป้อนรหัสผ่าน

    * หน้าจอการตั้งค่าอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นของอุปกรณ์

    Q2. ซิมการ์ดหรือ Pocket Wi-Fi แบบไหนดีกว่ากัน?

    travel SIM Japan

    ซิมการ์ดจริง (Physical SIM) ต้องใช้เวลาเปลี่ยนซิม Photo by Pixta

    การใช้อินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น นอกจาก Pocket Wi-Fi การใช้ซิมการ์ดที่เสียบในสมาร์ตโฟนโดยตรงก็นิยมเหมือนกัน

    ซิมการ์ดมีข้อดีหลายประการที่ Pocket Wi-Fi ไม่มี

    ขั้นแรก ใส่ซิมการ์ดลงในสมาร์ตโฟนได้โดยตรง ไม่ต้องพกพาอุปกรณ์แยกต่างหาก เช่น เราเตอร์ Wi-Fi ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นและลดความเสี่ยงจากการทำอุปกรณ์เสียหรือสูญหาย (เราเตอร์ Wi-Fi อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกรณีเครื่องเสียหายหรือสูญหาย)

    นอกจากนี้ ปัจจุบันมีการเปิดตัว eSIM ซึ่งใช้งานได้ทันทีเพียงทำตามขั้นตอนออนไลน์ เราเตอร์ Wi-Fi จำเป็นต้องไปรับเครื่องที่สนามบิน โรงแรม หรืออื่นๆ แต่เมื่อใช้ eSIM ไม่จำเป็น

    ทว่าหากใช้ซิมการ์ดอาจยุ่งยากในการเปิดช่องซิมการ์ดของสมาร์ตโฟนและเปลี่ยนซิม นอกจากนี้ แม้จะใช้ eSIM ก็อาจมีกรณีไม่อนุญาตให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นได้

    ในจุดนี้ Pocket Wi-Fi จึงติดตั้งง่าย เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนหลายเครื่องได้ง่ายๆ

    ทว่าแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน ดังนั้นลองเลือกใช้แบบที่เหมาะกับเราที่สุด

    Q3. ระหว่างอยู่ญี่ปุ่น ต้องใช้ปริมาณเน็ตเท่าไร?

    日本のWi-Fiどこが一番お得?8社を比較(料金・容量無制限・予約方法)

    Photo by Pixta

    ปริมาณเน็ตที่ใช้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่อาจใช้แนวทางต่อไปนี้เป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณา

    หากใช้ Wi-Fi ฟรีที่โรงแรมและคาเฟ่ในการทำกิจกรรมที่ใช้ปริมาณเน็ตมากๆ อย่างการดูคลิปวิดีโอ แพ็กเกจที่มีปริมาณเน็ตน้อยก็เพียงพอที่จะเพลิดเพลินกับการเที่ยวสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่นได้

    แต่อาจมีปัญหาที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างเที่ยวในต่างประเทศได้ หากไม่ค่อยคุ้นกับการเดินทาง ขอแนะนำให้ใช้บริการที่มีปริมาณเน็ตอย่างน้อย 1GB/วัน

    รู้ไว้ก่อน! เกณฑ์การใช้ปริมาณเน็ตในญี่ปุ่น (1GB)
    รับส่งอีเมล: 2,090 ฉบับ (ประมาณ 500KB/ฉบับ)
    รับชมคลิปวิดีโอ: ประมาณ 4 ชั่วโมง 16 นาที สำหรับคลิปวีดีโอคุณภาพปานกลาง
    Google Map: ประมาณ 1,432 ครั้ง (ครั้งละ 10 นาที)
    อ้างอิงจาก: Wi-Fi Rental.com

    Q4. การใช้ Wi-Fi ฟรีในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?

    Japan Free Wi-Fi

    Photo by Pixta

    ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีสถานที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงแค่ในสถานีรถไฟและสนามบิน แต่คาเฟ่ในเมืองก็มีด้วย

    อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปไม่สามารถใช้ Wi-Fi ฟรีนอกร้านได้ ยกเว้นภายในร้านดังกล่าว ดังนั้น ของแนะนำให้เตรียม Pocket Wi-Fi หรือซิมการ์ด เผื่อไว้เมื่อต้องไปที่เที่ยวกลางแจ้งหรือใช้ Google Maps ในเมือง

    สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ Wi-Fi ฟรี ได้ที่บทความ MATCHA ด้านล่าง

    Q5. มีแพ็กเกจรวม Japan Rail PASS กับ Pocket Wi-Fi วางจำหน่ายหรือไม่?

    JR Pass and Wifi

    Picture courtesy of เว็บไซต์ทางการของ Japan Rail Pass

    Japan Rail Pass (JR Pass) เป็นบัตรฟรีพาสที่สะดวกสบายในการเดินทาง สามารถนั่งรถไฟ JR ในญี่ปุ่นได้ไม่จำกัด

    ปัจจุบัน NINJA Wi-Fi ที่แนะนำไปข้างต้นมีแพ็กเกจที่ซื้อหรือเช่า Pocket Wi-Fi Router ร่วมกับ Japan Rail Pass (ประเภทเดินทางทั่วญี่ปุ่น) เป็นชุดให้บริการ จองได้ที่เว็บไซต์ทางการ

    แต่การซื้อหรือเช่าแพ็กเกจที่เป็นชุดนั้นไม่ใช่ว่าจะถูกกว่าเสมอไป เช่นเมื่อใช้ส่วนลดที่แนะนำ NINJA Wi-Fi จะมีราคาอยู่ที่ 3,080 เยน/ 5 วัน แต่แพ็กเกจนี้ราคา 5,800 เยน (* พร้อมการรับประกัน)

    สามารถซื้อ Japan Rail Pass ได้ง่ายๆ ผ่าน Klook แพลตฟอร์มที่สามารถค้นหาประสบการณ์ความสนุกสนานได้ทุกที่ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อแพ็กเกจที่เป็นชุดนี้ เว้นแต่จะยอมรับความยุ่งยากเล็กน้อยได้

    ↑ กลับไปที่ด้านบนของบทความ

    ใช้อินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นอย่างสะดวกสบายกัน

    ญี่ปุ่นมีบริการ Pocket Wi-Fi มากมายจนสับสนว่าจะเลือกอันไหนดี

    หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เลือก Pocket Wi-Fi ที่เหมาะกับความต้องการได้ และเพลิดเพลินกับการใช้อินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่นได้อย่างสะดวกสบาย

    Main image by Pixta
    บทความนี้เรียบเรียงขึ้นใหม่จากบทความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2020

    บทความโดย

    Mizzochi

    Mitoyo, Kagawa, Japan

    ก่อนที่จะเข้าร่วม MATCHA เมื่อตุลาคม 2017 ฉันเคยทำงานในหน่วยงาน PR สำหรับ IR/CSR ของ บริษัท และ สำนักพิมพ์ที่เปิดตัวนิตยสารที่เน้นไปที่การร่วมมือระหว่างประเทศก่อนที่มีการย้ายมาอยู่ที่นครมิโตโยะ จังหวัดคาการะในเมษายน 2019 ฉันเขียนบทความสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมประเทศญี่ปุ่น และยังมีส่วนร่วมในการเร่งการดำเนินงานเพื่อวางการบริการของอินเทอร์เน็ต การเช่ารถ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวทางตอนตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น
    more
    เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
    นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

    อันดับ

    ไม่พบบทความ