Start planning your trip
ติดตั้งอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น เปรียบเทียบเน็ตแต่ละเจ้า วิธีเลือก และราคารายเดือน
คนที่ต้องการใช้เน็ตในญี่ปุ่น ถ้ามาเที่ยวหรืออยู่แป๊บเดียวระยะสั้นๆ ขอแนะนำเป็นพ็อกเก็ตไวไฟ ส่วนคนที่อยู่นานและอยากติดเน็ตบ้าน เรารวบรวมรายชื่อ วิธีสมัคร และข้อดีข้อเสียมาให้แล้ว ลองดูเป็นแนวทางกันได้
อยากติดเน็ตบ้านที่ญี่ปุ่นจะทำยังไง
ตอนนี้ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ตทั้งนั้น นอกจากเน็ตมือถือแล้ว พออยู่บ้านก็ต้องใช้เน็ตบ้านเพื่อทำงานหรือดูหนังฟังเพลง แต่ระบบการสมัครอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่นจะยุ่งยากกว่าของไทยอยู่หน่อย บอกตามตรงว่าตอนที่หาข้อมูลเองก็ทำเอางงไปนานเลยเหมือนกัน
ครั้งนี้เลยขอมาอธิบายเกี่ยวกับระบบอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่นโดยรวม วิธีสมัคร และข้อดีข้อเสียของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าไว้เป็นตัวเลือก
สำหรับคนที่กลัวว่าเจอภาษาญี่ปุ่นเข้าไปจะอ่านไม่เข้าใจหรือคุยกับพนักงานไม่รู้เรื่อง ขอแนะนำเน็ตของ GTN Mobile เพราะเค้ามีเจ้าหน้าที่คนไทย เดี๋ยวจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตของ GTN ที่ใช้ชื่อว่า GTN Hikari อยู่ในบทความนี้ด้วย
สารบัญ
- 1. ประเภทของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น
- 2. วิธีสมัครใช้อินเตอร์เน็ต
- 3. เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียและราคาของแต่ละบริษัท
ประเภทของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น
ประเภทของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่นแบ่งง่ายๆ ได้ 2 แบบคือ แบบมีสาย (有線タイプ / 固定回線) หรือเน็ตบ้าน และ แบบไร้สาย (無線タイプ) หรือพวกพ็อกเก็ตไวไฟ จุดเด่นของแต่ละแบบมีดังนี้
ประเภท | ข้อดี | ข้อเสีย |
แบบมีสาย | - เร็ว ส่ง-รับข้อมูลจำนวนมากได้ - ต่อกับเครื่องกระจายสัญญาณ Wi-Fi เพื่อทำเป็นแบบไร้สายได้ |
เวลาออกไปนอกบ้านจะใช้ไม่ได้ |
แบบไร้สาย | - แบบ Pocket WiFi พกติดตัวไปใช้นอกบ้านได้ | - สัญญาณอาจเร็วบ้างช้าบ้าง และมีจำกัดปริมาณข้อมูล - ด้านความปลอดภัยสู้แบบมีสายไม่ได้ |
แบบมีสาย
แบบมีสาย หรือพวกเน็ตบ้าน ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า 有線タイプ ติดตั้งสายสัญญาณจากช่องเสียบเข้ากับเครื่องเราเตอร์เพื่อใช้เน็ต เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตบ้านจะเจอชื่อ ฮิคาริ (Hikari 光回線) นี่เป็นชื่อเรียกการส่งสัญญาณแบบใหม่ผ่านสายไฟเบอร์ออปติกที่รับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ADSL
ส่วนแบบ ADSL ถึงราคาค่าบริการจะถูกกว่าแต่ก็ส่งสัญญาณได้ช้ากว่า ตอนนี้ในญี่ปุ่นยกเลิกการทำสัญญาใหม่ของ ADSL แล้ว และจะยกเลิกการให้บริการทั่วประเทศในเดือนมกราคม ปี 2023
แบบไร้สาย
แบบไร้สาย หรือเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟ ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า 無線タイプ เป็นการใช้สัญญาณเน็ตผ่านเครื่องรับแบบพกพา สะดวกตรงจะออกไปนอกบ้านก็ยังใช้เน็ตได้
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในระยะเวลาสั้นๆ ส่วนคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นขอแนะนำเป็นแบบมีสายน่าจะคุ้มกว่า เพราะเร็วและสัญญาณมั่นคงกว่าด้วย แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย ถ้าออกนอกบ้านมากกว่าก็อาจเลือกใช้แบบพ็อกเก็ตไวไฟได้
ดูเปรียบเทียบเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟแต่ละเจ้าอย่างละเอียดได้ที่บทความเปรียบเทียบเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟ
เดี๋ยวขอมาอธิบายขั้นตอนเกี่ยวกับการสมัครใช้อินเตอร์เน็ตมีสายแบบฮิคาริให้ดู
ก่อนทำสัญญาต้องดูอะไรบ้าง? ผู้ให้บริการและสัญญาแบบแพ็กคู่
การทำสัญญาใช้อินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น เราต้องทำสัญญากับ 2 บริษัทคือ ผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ และ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
Icons by icons8
ผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ เป็นบริษัทที่ควบคุมดูแลสายสัญญาณเคเบิลต่างๆ บริษัทในญี่ปุ่น เช่น NTT, KDDI และบริษัทเคเบิลทีวีตามท้องถิ่น
ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP : Internet service provider) เป็นบริษัทที่จัดการเรื่องการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต
ถ้าเป็นที่ไทยเราจะไม่มีอย่างนี้ อยากสมัครเน็ตของเจ้าไหนก็ติดต่อทำสัญญาแค่เจ้านั้นก็เสร็จ ง่ายกว่าเยอะเลย หลังๆ มาญี่ปุ่นก็เริ่มมีบริการแบบเซ็ต ทำสัญญาพร้อมจ่ายเงินที่เดียวเสร็จ แต่ก็ยังไม่ได้มีทุกเจ้า ถ้าอยากเอาที่สะดวกก็อย่าลืมดูตรงนี้เวลาเลือกบริษัทกันนะ
วิธีสมัครใช้อินเตอร์เน็ต
Photo by Pixta
ในการสมัครอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกแบบฮิคาริ ให้เข้าไปยังเว็บไซต์ทางการของแต่ละผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ เลือกประเภทที่พัก (เป็นห้องเช่าหรือบ้านเดี่ยว) กรอกข้อมูลชื่อที่อยู่ต่างๆ ที่จำเป็นในการทำสัญญาด้วยภาษาญี่ปุ่น
ถ้าภาษาญี่ปุ่นยังไม่แข็งแรง ลองเลือกบริษัทที่มีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษส่วนหนึ่งจากรายชื่อด้านล่างนี้ได้
บริการแบบเซ็ตที่ทำสัญญาภาษาอังกฤษได้ | |
GTN Hikari (มีเจ้าหน้าที่คนไทย!) | https://www.gtn-mobile.com/s/home-internet |
Sakura fiber internet(English) | https://www.sakuramobile.jp/matcha_internet |
Asahi Net | https://asahi-net.jp/en/ |
NTT EAST | https://flets.com/english/ |
NTT WEST | https://www.ntt-west.co.jp/english/ |
au HIKARI | https://www.au.com/english/internet/ |
SoftBank Hikari | https://www.softbank.jp/en/internet/ |
docomo Hikari | https://www.nttdocomo.co.jp/english/hikari/ |
บางครั้งอาจมีค่าดึงสายสัญญาณด้วย
Photo by Pixta
อินเตอร์เน็ตแบบฮิคาริจะใช้สายไฟเบอร์ออปติกแบบเฉพาะ เพราะฉะนั้นถ้าบ้านหรือห้องที่เราเช่ายังไม่มีสายสัญญาณของฮิคาริ ทางบริษัทจะต้องทำการดึงสายสัญญาณเข้ามาในห้องและติดตั้งช่องเสียบด้วยถึงจะต่อสายกับเครื่องเราเตอร์ได้
การดึงสายสัญญาณนี้ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า 開通工事
สำหรับบ้านเดี่ยวสร้างใหม่ก็ยังไม่มีสายสัญญาณแน่นอน ราคาค่าดึงสายและติดตั้งช่องเสียบจะแล้วแต่บริษัท สำหรับค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ถ้าเป็นห้องในอพาร์ตเมนต์หรือแมนชั่น ราคาประมาณ 15,000 - 30,000 เยน บ้านเดี่ยว ราคาประมาณ 20,000 - 40,000 เยน บางครั้งจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าดึงสายสัญญาณ ถ้าสมัครช่วงนั้นพอดีก็ประหยัดได้เยอะ
หลังจากสมัครแล้วทางบริษัทจะนัดวันเพื่อมาทำการติดตั้งให้ ซึ่งอาจจะต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือน ในระหว่างนั้นจะยังใช้เน็ตไม่ได้ ก็อาจหาเช่า Pocket Wifi มาเป็นตัวเลือกแก้ขัดไปก่อนได้
เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียและราคาของแต่ละบริษัท
Photo by Pixta
ลองมาดูข้อดี ข้อเสีย และราคาคร่าวๆ ของแต่ละบริษัทกัน ราคาในตารางนี้เป็นราคาคร่าวๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามแพ็กเกจและระยะเวลาที่เลือกทำสัญญา อีกเรื่องที่ต้องระวังคือค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าบริการรายเดือน เช่น ค่ายกเลิกสัญญา
ถ้ากังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้ลองสมัครของ GTN Hikari ที่เค้ามีเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยก็ดี
GTN Hikari Home Internet (มีเจ้าหน้าที่คนไทย!)
GTN Hikari | |
ข้อดี | มีเจ้าหน้าที่คนไทย รองรับบริการหลายภาษา |
ข้อเสีย | สัญญาณช้าบางช่วงเวลา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | 4,180 เยน / 5,270 เยน |
GTN Hikari Home Internet ให้บริการเน็ตไฟเบอร์ออปติกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ SoftBank Hikari
ในแบบฟอร์มสำหรับสอบถามราคาจะมีให้เลือกภาษา ก็เลือกภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ของแต่ละภาษาจะเป็นคนช่วยดูแลรับเรื่องให้ตั้งแต่การทำสัญญา นัดวันดึงสายและติดตั้งช่องสัญญาณ ไปจนถึงการยกเลิกสัญญา ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยก็สามารถสอบถามผ่านเจ้าหน้าที่ของ GTN ได้ตลอด
ตอนนี้มีโปรโมชั่นเครื่องเราเตอร์แบบไวไฟให้คนที่สมัครใหม่ด้วย
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต GTN Hikari ที่นี่
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Sakura Fiber Internet
Sakura Fiber Internet | |
ข้อดี | ไม่มีกำหนดระยะเวลาสัญญาขั้นต่ำ |
ข้อเสีย | ค่าบริการค่อนข้างแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 7,128 เยน |
Sakura Fiber Internet ให้บริการเน็ตไฟเบอร์ออปติกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Flet's Hikari มีบริการล่ามภาษาอังกฤษช่วยแปลระหว่างดึงสายสัญญาณ
ระยะเวลาใช้งานต่ำสุดเริ่มต้นที่ 3 เดือน ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาขั้นต่ำ 2 หรือ 3 ปี สามารถจ่ายด้วยเงินสดหรือใช้บัตรเครดิตของต่างประเทศก็ได้
ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดค่าทำสัญญาเหลือเพียง 110 เยนจาก 5,500 เยนด้วย สมัครได้จากลิงก์ด้านล่าง
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต Sakura Fiber Internet ที่นี่
Asahi Net
Asahi Net | |
ข้อดี | รองรับระบบ IPv6 และการให้บริการในภาษาอังกฤษ |
ข้อเสีย | ข้อพึงระวังคือราคาอาจสูงขึ้นงมากหลังจากสิ้นสุดระยะโปรโมชั่น |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 2,750 เยน / 5,720 เยน |
Asahi Net เป็นบริษัทที่เริ่มให้บริการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เมื่อปี 1990
นอกเหนือจาก Asahi Net FTTH with FLET'S ซึ่งรวมบริการของ FLET'S Hikari และ Asahi Net ไว้ด้วยกัน และ Asahi Net docomo Hikari ซึ่งรวมบริการของ docomo Hikari และ Asahi Net ไว้ด้วยกัน ยังสามารถสมัครเฉพาะบริการเน็ตได้เช่นกัน
พนักงานดูแลลูกค้าของที่นี่ให้บริการในภาษาอังกฤษได้ ผู้สมัครใช้เน็ตในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นจึงสบายใจได้
จุดเด่นอีกอย่างคือ ระบบ IPv6 ใช้ได้กับทุกบริการ ระบบ IPv6 ช่วยให้การเชื่อมต่อเน็ตราบรื่นยิ่งขึ้น แม้จะคนใช้เน็ตเยอะก็ไม่ทำให้เน็ตช้า
นอกจากนี้ ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ NTT docomo ยังสามารถใช้รับส่วนลดชุด docomo Hikari ได้เมื่อใช้ Asahi Net docomo Hikari
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต Asahi Net ที่นี่
NURO Hikari
NURO Hikari | |
ข้อดี | สัญญาณเร็วที่สุดในญี่ปุ่น |
ข้อเสีย | พื้นที่ให้บริการยังจำกัด ค่าบริการและค่าดึงสายแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 2,530 เยน / เริ่มต้นที่ 5,217 เยน |
NURO Hikari เค้าดังเรื่องความแรงของสัญญาณเน็ต เรียกว่าเร็วที่สุดในญี่ปุ่นแล้วด้วยเทคโนโลยี GPON (Gigabyte Passive Optical Network) ความเร็วสูงสุดในการรับข้อมูลที่ 2 Gbps
ความเร็วปกติของเน็ตไฟเบอร์ออปติกฮิคาริจะอยู่ที่ 1 Gbps เท่านั้น ของ NURO Hikari นี่แรงเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว แต่ข้อเสียคือพื้นที่ให้บริการยังน้อยอยู่ และค่าดึงสายติดตั้งค่อนข้างแพง
พื้นที่ให้บริการ ข้อมูลเดือนมิถุนายน 2020
ภูมิภาคคันโต: โตเกียว คานากาวะ ไซตามะ ชิบะ อิบารากิ โทจิกิ กุนมะ
ภูมิภาคคันไซ: โอซาก้า เฮียวโกะ เกียวโต ชิกะ นารา
ภูมิภาคโทไค: ไอจิ ชิซุโอกะ กิฟุ มิเอะ
ภูมิภาคคิวชู: ฟุกุโอกะ ซากะ
ฮอกไกโด: เมืองอิชิคาริ เอนิวะ เอเบ็ตสึ โอตารุ ซัปโปโร ชิโตเซะ
ถึงจะอยู่ในจังหวัดหรือเมืองที่บอกไว้ ก็อาจมีพื้นที่ที่ยังไม่สามารถใช้บริการได้อยู่ ลองตรวจสอบเพื่อความแน่ใจได้จาก พื้นที่ให้บริการ NURO Hikari (ภาษาญี่ปุ่น)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต NURO Hikari ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
SoftBank Hikari และ SoftBank Air (ไม่จำเป็นต้องติดตั้ง)
SoftBank Hikari | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | สัญญาณช้าบางช่วงเวลา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | 4,180 เยน / 5,720 เยน (กรณีทำสัญญา 2 ปี) SoftBank Air 5,907 เยน (ทั้งห้องเช่า / บ้านเดี่ยว * ราคานี้ไม่มีส่วนลด) |
SoftBank Hikari เป็นบริการอินเตอร์เน็ตจาก SoftBank บริษัทผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ยักษ์ของญี่ปุ่น ให้บริการแบบเป็นเซ็ต ใช้สายสัญญาณของ NTT และบริการจาก Yahoo!BB ทำสัญญาผ่าน SoftBank ที่เดียวได้เลย
SoftBank Hikari มีโปรโมชั่น Home Discount Hikari (おうち割 光セット) และ New Everybody Family Discount (新みんな家族割) ซึ่งมีค่าบริการรายเดือนถูกกว่าสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ SoftBank สำหรับลูกค้าที่เลือกใช้บริการทั้งอินเตอร์เน็ตและมือถือของ SoftBank จะได้รับส่วนลดสูงสุดเดือนละ 2,310 เยน
ข้อเสียคือตอนสมัครจะมีพวกออปชั่นเสริมติดมาด้วยโดยอัตโนมัติ ทำให้ค่าบริการแพงขึ้น (สามารถยกเลิกทีหลังได้) และความเร็วของเน็ตอาจมีช้าลงบ้างในบางช่วงที่คนใช้เยอะ
SoftBank มีบริการโมเด็มไวไฟไร้สาย SoftBank Air ไม่ต้องดึงสายสัญญาณและติดตั้งช่องเสียบสายให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เน็ตทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายสัญญาณ
เว็บไซต์ทางการ : https://www.softbank.jp/en/internet/ (ภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต SoftBank Air ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
au HIKARI
au HIKARI | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | อาจมีค่ายกเลิกสัญญา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,740 เยน / 5,610 เยน (ราคายังไม่หักส่วนลด) |
เป็นบริการอินเตอร์เน็ตจาก KDDI อีกหนึ่งบริษัทสื่อสารใหญ่ของญี่ปุ่น ใช้สายสัญญาณทั้งของ NTT และของ KDDI เอง ให้ความเร็วสูงสุดที่ 1 Gbps
มีแพ็กเกจความเร็วสูงสุด 5 Gbps oหรือ 10 Gbps สำหรับบ้านเดี่ยวด้วย แต่อาจจะติดตรงที่พื้นที่ให้บริการยังไม่ค่อยครอบคลุม
ถ้ากำลังตัดสินใจเลือกค่ายมือถืออยู่แล้วด้วย ขอแนะนำให้เลือกใช้ของ au คู่กันไปเลยทั้งมือถือหรือแท็บเล็ตกับอินเตอร์เน็ตบ้าน เพราะจะได้สิทธิส่วนลดค่าบริการโทรศัพท์มือถือสูงสุดถึง 1,100 เยนจากโปรโมชั่น au Smart Value แถมรวมเบอร์จากคนในครอบครัวได้ถึง 10 เบอร์ด้วย ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งได้ลดเยอะ
เว็บไซต์ทางการ : https://www.au.com/english/internet/ (ภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต au HIKARI ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
docomo Hikari
docomo Hikari | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | ความเร็วของสัญญาณขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเจ้า |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 4,400 เยน / 5,720 เยน (กรณีทำสัญญา 2 ปี) |
docomo Hikari เป็นบริการสายสัญญาณจาก NTT docomo ผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น
โปรโมชั่นสำหรับคนที่ใช้เน็ตบ้านพร้อมแพ็กเกจมือถือหรือแท็บเล็ตของ docomo คือส่วนลดค่าบริการมือถือตลอดชีพเดือนละ 1,100 เยน ให้สิทธิ์กับคนในครอบครัวที่ใช้เครือข่ายมือถือของ docomo เหมือนกันด้วย ตอนจะทำสัญญาเน็ตบ้านก็ให้คนในครอบครัวเปลี่ยนมาใช้มือถือของ docomo ไปด้วยเลยจะได้คุ้ม
มีหลายคนบ่นว่าเน็ตของ docomo Hikari ช้า แต่ตรงนี้เหมือนจะเป็นปัญหาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่ปัญหาจากสายสัญญาณของ docomo Hikari
ตอนนี้มีผู้ให้บริการที่ใช้สายสัญญาณของ docomo Hikari อยู่ 24 บริษัท ตอนจะเลือกผู้ให้บริการก็ลองหาอ่านรีวิวดูก่อนว่าเจ้าไหนที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้
เว็บไซต์ทางการ : https://www.nttdocomo.co.jp/english/hikari/ (ภาษาอังกฤษ)
BIGLOBE Hikari
BIGLOBE Hikari | |
ข้อดี | พื้นที่ให้บริการครอบคลุม สัญญาณแรงไม่ตก |
ข้อเสีย | อาจมีค่ายกเลิกสัญญา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 4,378 เยน / 5,478 เยน |
นี่เป็นบริการสายสัญญาณจาก BIGLOBE หนึ่งในผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต มีค่าบริการรายเดือนและคุณภาพความเร็วของสัญญาณระดับกลางๆ แต่เด่นตรงบริการที่เจ้าอื่นไม่ค่อยมี
ตัวอย่างเช่นใช้ระบบ IPv6 ที่มีความเร็วกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางคืนที่มีคนใช้เยอะก็ไม่ทำให้เน็ตช้า แต่บริการนี้ต้องติดตั้งโทรศัพท์ไฟเบอร์ออปติกเพิ่มด้วย (เพิ่มค่าบริการรายเดือน 500 เยน)
BIGLOBE ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ au ด้วย ถ้าใช้มือถือของ au ซึ่งเป็นผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ ก็สามารถรับสิทธิ์ส่วนลดระหว่าง au Smart Value หรือ au Set Discount ส่วนลดรายเดือนสำหรับ BIGLOBE Hikari อันใดอันหนึ่งได้ นอกจากนี้ พื้นที่ให้บริการยังครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ถ้าพื้นที่ไหนใช้ au Hikari ไม่ได้ก็มาใช้ของ BIGLOBE Hikari แทนได้
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต BIGLOBE Hikari ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
FLET's Hikari
Flet's Hikari | |
ข้อดี | พื้นที่ให้บริการครอบคลุม |
ข้อเสีย | ค่าบริการค่อนข้างแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,135 เยน / 5,720 เยน (+ ค่าธรรมเนียม เริ่มต้นที่ 500 เยน) |
FLET's Hikari เป็นบริการสายสัญญาณจาก NTT โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ บริษัท NTT East รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น เช่น โตเกียว และ บริษัท NTT West รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น เช่น โอซาก้า
จริงๆ แล้วบริษัท NTT เองเป็นผู้ให้บริการสายสัญญาณ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เพราะงั้นเราต้องไปทำสัญญากับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเพิ่มอีก แต่ตอนนี้ NTT ก็มีแพ็กเกจที่เรียกว่า プロバイダパック (Provider Pack) ช่วยลดขั้นตอนการทำสัญญาแยก ถ้าสมัครทางเว็บจะมีโปรโมชั่นเพิ่มให้ด้วย ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ทางการของ NTT
เว็บไซต์ทางการ FLET'S Hikari (NTT East) : https://flets.com/english/ (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ทางการ FLET'S Hikari (NTT West) : https://flets-w.com/english/ (ภาษาอังกฤษ)
อธิบายเพิ่มเติม
ตอนที่ค้นหาผู้ให้บริการเน็ตอาจจะได้เห็นคำว่า 光コラボレーション (Hikari collaboration) ผ่านตาบ่อยๆ อันนี้หมายถึงบริการสายสัญญาณที่ทาง NTT ทำร่วมกับบริษัทมือถือและผู้ให้บริการอื่นๆ
อย่างของ Softbank Hikari, au Hikari หรือ docomo Hikari ก็ใช้สายสัญญาณของ NTT เหมือนกัน แล้วเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้าของตัวเอง
ศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วเลือกเน็ตเจ้าที่ถูกใจ
Photo by Pixta
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้อินเตอร์เน็ตเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว ยิ่งคนที่จะมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนานๆ ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานก็คงอยากใช้เน็ตบ้านกันทั้งนั้น วิธีการสมัครเน็ตบ้านของญี่ปุ่นอาจจะมีต่างจากที่ไทยบ้าง ยังไงค่อยๆ อ่านรายละเอียดของแต่ละเจ้า แล้วค่อยเลือกสมัครเจ้าที่ตรงใจกันนะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Main image by Pixta
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง