Start planning your trip

เราสามารถจองที่นั่งสำหรับผู้เดินทาง 1 ถึง 16 คนเท่านั้น โปรดแก้ไขจำนวนผู้เดินทางสำหรับการค้นหาของคุณ
โปรดระบุอายุของเด็กทุกคน
เด็ก 1 คน (อายุ 0-2 ปี) ต่อผู้โดยสารผู้ใหญ่ 1 คนเท่านั้น
โปรดเลือกสนามบินต้นทาง
คนที่ต้องการใช้เน็ตในญี่ปุ่น ถ้ามาเที่ยวหรืออยู่แป๊บเดียวระยะสั้นๆ ขอแนะนำเป็นพ็อกเก็ตไวไฟ ส่วนคนที่อยู่นานและอยากติดเน็ตบ้าน เรารวบรวมรายชื่อ วิธีสมัคร และข้อดีข้อเสียมาให้แล้ว ลองดูเป็นแนวทางกันได้
ตอนนี้ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ตทั้งนั้น นอกจากเน็ตมือถือแล้ว พออยู่บ้านก็ต้องใช้เน็ตบ้านเพื่อทำงานหรือดูหนังฟังเพลง แต่ระบบการสมัครอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่นจะยุ่งยากกว่าของไทยอยู่หน่อย บอกตามตรงว่าตอนที่หาข้อมูลเองก็ทำเอางงไปนานเลยเหมือนกัน
ครั้งนี้เลยขอมาอธิบายเกี่ยวกับระบบอินเตอร์เน็ตของญี่ปุ่นโดยรวม วิธีสมัคร และข้อดีข้อเสียของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าไว้เป็นตัวเลือก
สำหรับคนที่กลัวว่าเจอภาษาญี่ปุ่นเข้าไปจะอ่านไม่เข้าใจหรือคุยกับพนักงานไม่รู้เรื่อง ขอแนะนำเน็ตของ GTN Mobile เพราะเค้ามีเจ้าหน้าที่คนไทย เดี๋ยวจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตของ GTN ที่ใช้ชื่อว่า GTN Hikari อยู่ในบทความนี้ด้วย
ประเภทของอินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่นแบ่งง่ายๆ ได้ 2 แบบคือ แบบมีสาย (有線タイプ / 固定回線) หรือเน็ตบ้าน และ แบบไร้สาย (無線タイプ) หรือพวกพ็อกเก็ตไวไฟ จุดเด่นของแต่ละแบบมีดังนี้
ประเภท | ข้อดี | ข้อเสีย |
แบบมีสาย | - เร็ว ส่ง-รับข้อมูลจำนวนมากได้ - ต่อกับเครื่องกระจายสัญญาณ Wi-Fi เพื่อทำเป็นแบบไร้สายได้ |
เวลาออกไปนอกบ้านจะใช้ไม่ได้ |
แบบไร้สาย | - แบบ Pocket WiFi พกติดตัวไปใช้นอกบ้านได้ | - สัญญาณอาจเร็วบ้างช้าบ้าง และมีจำกัดปริมาณข้อมูล - ด้านความปลอดภัยสู้แบบมีสายไม่ได้ |
แบบมีสาย หรือพวกเน็ตบ้าน ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า 有線タイプ ติดตั้งสายสัญญาณจากช่องเสียบเข้ากับเครื่องเราเตอร์เพื่อใช้เน็ต เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับเน็ตบ้านจะเจอชื่อ ฮิคาริ (Hikari 光回線) นี่เป็นชื่อเรียกการส่งสัญญาณแบบใหม่ผ่านสายไฟเบอร์ออปติกที่รับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าแบบ ADSL
ส่วนแบบ ADSL ถึงราคาค่าบริการจะถูกกว่าแต่ก็ส่งสัญญาณได้ช้ากว่า ตอนนี้ในญี่ปุ่นยกเลิกการทำสัญญาใหม่ของ ADSL แล้ว และจะยกเลิกการให้บริการทั่วประเทศในเดือนมกราคม ปี 2023
แบบไร้สาย หรือเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟ ที่ญี่ปุ่นจะเรียกว่า 無線タイプ เป็นการใช้สัญญาณเน็ตผ่านเครื่องรับแบบพกพา สะดวกตรงจะออกไปนอกบ้านก็ยังใช้เน็ตได้
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในระยะเวลาสั้นๆ ส่วนคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นขอแนะนำเป็นแบบมีสายน่าจะคุ้มกว่า เพราะเร็วและสัญญาณมั่นคงกว่าด้วย แต่ก็อาจจะขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย ถ้าออกนอกบ้านมากกว่าก็อาจเลือกใช้แบบพ็อกเก็ตไวไฟได้
ดูเปรียบเทียบเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟแต่ละเจ้าอย่างละเอียดได้ที่บทความเปรียบเทียบเน็ตแบบพ็อกเก็ตไวไฟ
เดี๋ยวขอมาอธิบายขั้นตอนเกี่ยวกับการสมัครใช้อินเตอร์เน็ตมีสายแบบฮิคาริให้ดู
การทำสัญญาใช้อินเตอร์เน็ตในญี่ปุ่น เราต้องทำสัญญากับ 2 บริษัทคือ ผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ และ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
ผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ เป็นบริษัทที่ควบคุมดูแลสายสัญญาณเคเบิลต่างๆ บริษัทในญี่ปุ่น เช่น NTT, KDDI และบริษัทเคเบิลทีวีตามท้องถิ่น
ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ISP : Internet service provider) เป็นบริษัทที่จัดการเรื่องการส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต
ถ้าเป็นที่ไทยเราจะไม่มีอย่างนี้ อยากสมัครเน็ตของเจ้าไหนก็ติดต่อทำสัญญาแค่เจ้านั้นก็เสร็จ ง่ายกว่าเยอะเลย หลังๆ มาญี่ปุ่นก็เริ่มมีบริการแบบเซ็ต ทำสัญญาพร้อมจ่ายเงินที่เดียวเสร็จ แต่ก็ยังไม่ได้มีทุกเจ้า ถ้าอยากเอาที่สะดวกก็อย่าลืมดูตรงนี้เวลาเลือกบริษัทกันนะ
ในการสมัครอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกแบบฮิคาริ ให้เข้าไปยังเว็บไซต์ทางการของแต่ละผู้ให้บริการเส้นสัญญาณ เลือกประเภทที่พัก (เป็นห้องเช่าหรือบ้านเดี่ยว) กรอกข้อมูลชื่อที่อยู่ต่างๆ ที่จำเป็นในการทำสัญญาด้วยภาษาญี่ปุ่น
ถ้าภาษาญี่ปุ่นยังไม่แข็งแรง ลองเลือกบริษัทที่มีเว็บไซต์ภาษาอังกฤษส่วนหนึ่งจากรายชื่อด้านล่างนี้ได้
บริการแบบเซ็ตที่ทำสัญญาภาษาอังกฤษได้ | |
GTN Hikari (มีเจ้าหน้าที่คนไทย!) | https://gtn-mobile.com/hikari/ |
Sakura Fiber Internet | https://www.sakuramobile.jp/ |
NTT EAST | https://flets.com/english/ |
NTT WEST | https://www.ntt-west.co.jp/english/ |
au HIKARI | https://www.au.com/english/internet/ |
SoftBank Hikari | https://www.softbank.jp/en/internet/ |
docomo Hikari | https://www.nttdocomo.co.jp/english/hikari/ |
อินเตอร์เน็ตแบบฮิคาริจะใช้สายไฟเบอร์ออปติกแบบเฉพาะ เพราะฉะนั้นถ้าบ้านหรือห้องที่เราเช่ายังไม่มีสายสัญญาณของฮิคาริ ทางบริษัทจะต้องทำการดึงสายสัญญาณเข้ามาในห้องและติดตั้งช่องเสียบด้วยถึงจะต่อสายกับเครื่องเราเตอร์ได้
การดึงสายสัญญาณนี้ในภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่า 開通工事
สำหรับบ้านเดี่ยวสร้างใหม่ก็ยังไม่มีสายสัญญาณแน่นอน ราคาค่าดึงสายและติดตั้งช่องเสียบจะแล้วแต่บริษัท สำหรับค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ถ้าเป็นห้องในอพาร์ตเมนต์หรือแมนชั่น ราคาประมาณ 15,000 - 30,000 เยน บ้านเดี่ยว ราคาประมาณ 20,000 - 40,000 เยน บางครั้งจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าดึงสายสัญญาณ ถ้าสมัครช่วงนั้นพอดีก็ประหยัดได้เยอะ
หลังจากสมัครแล้วทางบริษัทจะนัดวันเพื่อมาทำการติดตั้งให้ ซึ่งอาจจะต้องรอประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือน ในระหว่างนั้นจะยังใช้เน็ตไม่ได้ ก็อาจหาเช่า Pocket Wifi มาเป็นตัวเลือกแก้ขัดไปก่อนได้
ลองมาดูข้อดี ข้อเสีย และราคาคร่าวๆ ของแต่ละบริษัทกัน ราคาในตารางนี้เป็นราคาคร่าวๆ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามแพ็กเกจและระยะเวลาที่เลือกทำสัญญา อีกเรื่องที่ต้องระวังคือค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าบริการรายเดือน เช่น ค่ายกเลิกสัญญา
ถ้ากังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้ลองสมัครของ GTN Hikari ที่เค้ามีเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยก็ดี
GTN Hikari | |
ข้อดี | มีเจ้าหน้าที่คนไทย รองรับบริการหลายภาษา |
ข้อเสีย | สัญญาณช้าบางช่วงเวลา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | 3,800 เยน / 5,200 เยน |
GTN Hikari Home Internet ให้บริการเน็ตไฟเบอร์ออปติกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ SoftBank Hikari
ในแบบฟอร์มสำหรับสอบถามราคาจะมีให้เลือกภาษา ก็เลือกภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ของแต่ละภาษาจะเป็นคนช่วยดูแลรับเรื่องให้ตั้งแต่การทำสัญญา นัดวันดึงสายและติดตั้งช่องสัญญาณ ไปจนถึงการยกเลิกสัญญา ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยก็สามารถสอบถามผ่านเจ้าหน้าที่ของ GTN ได้ตลอด
ตอนนี้มีโปรโมชั่นเครื่องเราเตอร์แบบไวไฟให้คนที่สมัครใหม่ด้วย
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต GTN Hikari ที่นี่
Sakura Fiber Internet | |
ข้อดี | ไม่มีกำหนดระยะเวลาสัญญาขั้นต่ำ |
ข้อเสีย | ค่าบริการค่อนข้างแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 6,480 เยน |
Sakura Fiber Internet ให้บริการเน็ตไฟเบอร์ออปติกที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Flet's Hikari มีบริการล่ามภาษาอังกฤษช่วยแปลระหว่างดึงสายสัญญาณ
ระยะเวลาใช้งานต่ำสุดเริ่มต้นที่ 3 เดือน ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาขั้นต่ำ 2 หรือ 3 ปี สามารถจ่ายด้วยเงินสดหรือใช้บัตรเครดิตของต่างประเทศก็ได้
ตอนนี้มีโปรโมชั่นลดค่าทำสัญญา 5,000 เยนด้วย สมัครได้จากลิงก์ด้านล่าง
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต Sakura Fiber Internet ที่นี่
NURO Hikari | |
ข้อดี | สัญญาณเร็วที่สุดในญี่ปุ่น |
ข้อเสีย | พื้นที่ให้บริการยังจำกัด ค่าบริการและค่าดึงสายแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 5,743 เยน |
NURO Hikari เค้าดังเรื่องความแรงของสัญญาณเน็ต เรียกว่าเร็วที่สุดในญี่ปุ่นแล้วด้วยเทคโนโลยี GPON (Gigabyte Passive Optical Network) ความเร็วสูงสุดในการรับข้อมูลที่ 2 Gbps
ความเร็วปกติของเน็ตไฟเบอร์ออปติกฮิคาริจะอยู่ที่ 1 Gbps เท่านั้น ของ NURO Hikari นี่แรงเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว แต่ข้อเสียคือพื้นที่ให้บริการยังน้อยอยู่ และค่าดึงสายติดตั้งค่อนข้างแพง
พื้นที่ให้บริการ ข้อมูลเดือนมิถุนายน 2020
ภูมิภาคคันโต : โตเกียว คานากาวะ ไซตามะ ชิบะ อิบารากิ โทจิกิ กุนมะ
ภูมิภาคคันไซ : โอซาก้า เฮียวโกะ เกียวโต ชิกะ นารา
ภูมิภาคโทไค : ไอจิ ชิซุโอกะ กิฟุ มิเอะ
ภูมิภาคคิวชู : ฟุกุโอกะ ซากะ
ฮอกไกโด : เมืองอิชิคาริ เอนิวะ เอเบ็ตสึ โอตารุ ซัปโปโร ชิโตเซะ
ถึงจะอยู่ในจังหวัดหรือเมืองที่บอกไว้ ก็อาจมีพื้นที่ที่ยังไม่สามารถใช้บริการได้อยู่ ลองตรวจสอบเพื่อความแน่ใจได้จาก พื้นที่ให้บริการ NURO Hikari (ภาษาญี่ปุ่น)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต NURO Hikari ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
SoftBank Hikari | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | สัญญาณช้าบางช่วงเวลา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,800 เยน / 5,200 เยน (ราคายังไม่หักส่วนลด) |
SoftBank Hikari เป็นบริการอินเตอร์เน็ตจาก SoftBank บริษัทผู้ให้บริการมือถือรายใหญ่ยักษ์ของญี่ปุ่น ให้บริการแบบเป็นเซ็ต ใช้สายสัญญาณของ NTT และบริการจาก Yahoo!BB ทำสัญญาผ่าน SoftBank ที่เดียวได้เลย
SoftBank Hikari มีโปรโมชั่น Ouchi-Wari Hikari มอบส่วนลดพิเศษสูงสุด 1,100 เยนต่อเดือน สำหรับลูกค้าที่เลือกใช้บริการทั้งอินเตอร์เน็ตและมือถือของ SoftBank ด้วย
ข้อเสียคือตอนสมัครจะมีพวกออปชั่นเสริมติดมาด้วยโดยอัตโนมัติ ทำให้ค่าบริการแพงขึ้น (สามารถยกเลิกทีหลังได้) และความเร็วของเน็ตอาจมีช้าลงบ้างในบางช่วงที่คนใช้เยอะ
SoftBank มีบริการโมเด็มไวไฟไร้สาย SoftBank Air ไม่ต้องดึงสายสัญญาณและติดตั้งช่องเสียบสายให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เน็ตทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสายสัญญาณ
เว็บไซต์ทางการ : https://www.softbank.jp/en/internet/ (ภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต SoftBank Air ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
au HIKARI | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | อาจมีค่ายกเลิกสัญญา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,400 เยน / 4,900 เยน (ราคายังไม่หักส่วนลด และมีค่าบริการเริ่มต้นที่ 500 เยน) |
เป็นบริการอินเตอร์เน็ตจาก KDDI อีกหนึ่งบริษัทสื่อสารใหญ่ของญี่ปุ่น ใช้สายสัญญาณทั้งของ NTT และของ KDDI เอง ให้ความเร็วสูงสุดที่ 1 Gbps
มีแพ็กเกจความเร็วสูงสุด 5 Gbps oหรือ 10 Gbps สำหรับบ้านเดี่ยวด้วย แต่อาจจะติดตรงที่พื้นที่ให้บริการยังไม่ค่อยครอบคลุม
ถ้ากำลังตัดสินใจเลือกค่ายมือถืออยู่แล้วด้วย ขอแนะนำให้เลือกใช้ของ au คู่กันไปเลยทั้งมือถือและอินเตอร์เน็ตบ้าน เพราะจะได้สิทธิส่วนลดตั้งแต่ 500 ถึง 2,000 เยนต่อเดือนจากโปรโมชั่น au Smart Value แถมรวมเบอร์จากคนในครอบครัวได้อีก ยิ่งคนเยอะก็ยิ่งได้ลดเยอะ
เว็บไซต์ทางการ : https://www.au.com/english/internet/ (ภาษาอังกฤษ)
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต au HIKARI ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
docomo Hikari | |
ข้อดี | ราคาถูกถ้าทำสัญญาโทรศัพท์มือถือพร้อมกัน |
ข้อเสีย | ความเร็วของสัญญาณขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเจ้า |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,800 เยน / 5,000 เยน |
docomo Hikari ก็คล้ายกับสองเจ้าข้างบนเพราะเป็นผู้ให้บริการมือถือเหมือนกัน แต่เด่นตรงที่ค่าบริการรายเดือนจะถูกกว่า เลยค่อนข้างเป็นที่นิยม
โปรโมชั่นสำหรับคนที่ใช้เน็ตบ้านพร้อมแพ็กเกจมือถือหรือแท็บเล็ตของ docomo คือส่วนลดค่าบริการมือถือเดือนละ 1,000 เยนตลอดชีพ ให้สิทธิ์กับคนในครอบครัวที่ใช้เครือข่ายมือถือของ docomo เหมือนกันด้วย ตอนจะทำสัญญาเน็ตบ้านก็ให้คนในครอบครัวเปลี่ยนมาใช้มือถือของ docomo ไปด้วยเลยจะได้คุ้ม
มีหลายคนบ่นว่าเน็ตของ docomo Hikari ช้า แต่ตรงนี้เหมือนจะเป็นปัญหาจากผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ไม่ใช่ปัญหาจากสายสัญญาณของ docomo Hikari
ตอนนี้มีผู้ให้บริการที่ใช้สายสัญญาณของ docomo Hikari อยู่ 24 บริษัท ตอนจะเลือกผู้ให้บริการก็ลองหาอ่านรีวิวดูก่อนว่าเจ้าไหนที่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้
เว็บไซต์ทางการ : https://www.nttdocomo.co.jp/english/hikari/ (ภาษาอังกฤษ)
BIGLOBE Hikari | |
ข้อดี | พื้นที่ให้บริการครอบคลุม สัญญาณแรงไม่ตก |
ข้อเสีย | อาจมีค่ายกเลิกสัญญา |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,980 เยน / 4,980 เยน |
มีค่าบริการรายเดือนและคุณภาพความเร็วของสัญญาณระดับกลางๆ แต่เด่นตรงบริการที่เจ้าอื่นไม่ค่อยมี
ตัวอย่างเช่นใช้ระบบ IPv6 ที่มีความเร็วกว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางคืนที่มคนใช้เยอะก็ไม่ทำให้เน็ตช้า แต่บริการนี้ต้องติดตั้งโทรศัพท์ไฟเบอร์ออปติกเพิ่มด้วย (เพิ่มค่าบริการรายเดือน 500 เยน)
BIGLOBE ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับ au ด้วย ถ้าใช้มือถือของ au ก็สามารถรับสิทธิ์ส่วนลดระหว่าง au Smart Value หรือ au Set Discount ส่วนลดรายเดือนสำหรับ BIGLOBE Hikari อันใดอันหนึ่งได้
ข้อดีอีกอย่างคือพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วญี่ปุ่น ถ้าพื้นที่ไหนใช้ au Hikari ไม่ได้ก็มาใช้ของ BIGLOBE Hikari แทนได้
ดูข้อมูลและสมัครอินเตอร์เน็ต BIGLOBE Hikari ที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)
Flet's Hikari | |
ข้อดี | พื้นที่ให้บริการครอบคลุม |
ข้อเสีย | ค่าบริการค่อนข้างแพง |
ค่าบริการรายเดือน (ห้องเช่า / บ้านเดี่ยว) | เริ่มต้นที่ 3,355 เยน / 5,940 เยน (มีค่าบริการเริ่มต้นที่ 500 เยน) |
FLET's Hikari เป็นบริการสายสัญญาณจาก NTT โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ บริษัท NTT East รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น เช่น โตเกียว และ บริษัท NTT West รับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น เช่น โอซาก้า
จริงๆ แล้วบริษัท NTT เองเป็นผู้ให้บริการสายสัญญาณ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เพราะงั้นเราต้องไปทำสัญญากับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเพิ่มอีก แต่ตอนนี้ NTT ก็มีแพ็กเกจที่เรียกว่า プロバイダパック (Provider Pack) ช่วยลดขั้นตอนการทำสัญญาแยก ถ้าสมัครทางเว็บจะมีโปรโมชั่นเพิ่มให้ด้วย ลองดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ทางการของ NTT
เว็บไซต์ทางการ FLET'S Hikari (NTT East) : https://flets.com/english/ (ภาษาอังกฤษ)
เว็บไซต์ทางการ FLET'S Hikari (NTT West) : https://flets-w.com/english/ (ภาษาอังกฤษ)
ตอนที่ค้นหาผู้ให้บริการเน็ตอาจจะได้เห็นคำว่า 光コラボレーション (Hikari collaboration) ผ่านตาบ่อยๆ อันนี้หมายถึงบริการสายสัญญาณที่ทาง NTT ทำร่วมกับบริษัทมือถือและผู้ให้บริการอื่นๆ
อย่างของ Softbank Hikari, au Hikari หรือ Docomo Hikari ก็ใช้สายสัญญาณของ NTT เหมือนกัน แล้วเพิ่มโปรโมชั่นต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้าของตัวเอง
Photo by Pixta
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนนี้อินเตอร์เน็ตเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว ยิ่งคนที่จะมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นนานๆ ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงานก็คงอยากใช้เน็ตบ้านกันทั้งนั้น วิธีการสมัครเน็ตบ้านของญี่ปุ่นอาจจะมีต่างจากที่ไทยบ้าง ยังไงค่อยๆ อ่านรายละเอียดของแต่ละเจ้า แล้วค่อยเลือกสมัครเจ้าที่ตรงใจกันนะ
Main image by Pixta