Start planning your trip

เราสามารถจองที่นั่งสำหรับผู้เดินทาง 1 ถึง 16 คนเท่านั้น โปรดแก้ไขจำนวนผู้เดินทางสำหรับการค้นหาของคุณ
โปรดระบุอายุของเด็กทุกคน
เด็ก 1 คน (อายุ 0-2 ปี) ต่อผู้โดยสารผู้ใหญ่ 1 คนเท่านั้น
โปรดเลือกสนามบินต้นทาง
รถไฟชินคันเซ็นเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางไม่นาน ที่นั่งก็สะอาดสอ้านและนั่งสบาย แต่การจะนั่งรถไฟชินคันเซ็นได้นั้นก็ต้องซื้อบัตรโดยสารเสียก่อน เราขอมาแนะนำวิธีการซื้อบัตรและวิธีการขึ้นรถไฟชินคันเซ็นค่ะ
หากต้องการเดินทางไกลอย่างสะดวกสบายหรืออยากเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ทุกคนย่อมนึกถึงรถไฟชินคันเซ็นค่ะ หากใช้บริการรถไฟชินคันเซ็นก็จะสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยที่นั่งสะอาดเอี่ยม การให้บริการก็ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว โอซาก้า เกียวโต โทโฮคุ และคิวชู
นี่คือเส้นทางการเดินรถทั่วประเทศของรถไฟชินคันเซ็นค่ะ อย่างแรกที่ต้องทำคือกำหนดว่าเราจะเดินทางไปยังพื้นที่ใด เมื่อรู้ว่าจะต้องขึ้นรถไฟสายอะไรแล้ว จากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการซื้อบัตรโดยสาร คราวนี้เราจะมาแนะนำประเภทของบัตรโดยสารรถไฟชินคันเซ็นและวิธีการซื้ออย่างละเอียดค่ะ
1. ประเภทที่นั่ง
2. ประเภทบัตรโดยสาร
3. การจองที่นั่งผ่านอินเทอร์เน็ต
- เดินทางไปญี่ปุ่นตะวันออก
- เดินทางไปญี่ปุ่นตะวันตก
- เดินทางไปทั่วญี่ปุ่น
- วิธีการจองและข้อควรระวัง
4. การซื้อบัตรโดยสารที่สถานี
- ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร (Ticket Office)
- เครื่องขายบัตรโดยสาร
- วิธีซื้อบัตรโดยสารชินคันเซ็นในราคาลดพิเศษ
5. หลังจากที่ซื้อบัตรแล้ว
รถไฟชินคันเซ็นมีที่นั่ง 3 ประเภท ได้แก่ reserved seat, non-reserved seat และ green seat
reserved seat เป็นที่นั่งแบบระบุหมายเลข ต้องซื้อบัตรโดยสารล่วงหน้าจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่นั่ง สำหรับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับการนั่งรถไฟชินคันเซ็น เมื่อทราบวันเวลาที่จะออกเดินทางแล้วก็ขอแนะนำให้ซื้อบัตรแบบ reserved seat ได้เลยค่ะ
สำหรับขบวนรถส่วนใหญ่ ตู้โดยสารหมายเลข 1 - 3 จะเป็นที่นั่งแบบ non-reserved seat (แต่ละขบวนอาจแตกต่างกัน) เป็นที่นั่งแบบไม่ระบุหมายเลข ผู้โดยสารสามารถนั่งตรงไหนก็ได้ภายในสามตู้นี้ ราคาบัตรจะถูกกว่าที่นั่งแบบ reserved seat เล็กน้อย (ประมาณ 500 เยน) แต่หากเป็นช่วงที่มีคนเดินทางเป็นจำนวนมากอย่างช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หรือช่วงหยุดยาวโกลเด้นวีค บางครั้งตู้โดยสารแบบ non-reserved seat ก็ไม่มีที่ว่างให้นั่ง ผู้โดยสารบางส่วนจึงต้องยืนในขบวนรถค่ะ
รถไฟชินคันเซ็นบางสายเช่นสายโทโฮคุ อาจมีเฉพาะที่นั่งแบบ reserved seat โดยไม่มีที่นั่งแบบ non-reserved seat เพราะงั้นแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบข้อมูลของรถไฟสายที่จะใช้บริการเอาไว้ก่อนค่ะ
ส่วนที่นั่งแบบ green seat นั้นจะมีจำนวนน้อย และราคาก็แพงกว่าที่นั่งแบบ reserved seat อยู่หลายพันเยนทีเดียว แต่ที่นั่งจะกว้างขวางเป็นพิเศษ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและปราศจากเสียงรบกวนค่ะ
บัตรที่ต้องใช้เวลาโดยสารรถไฟชินคันเซ็นมี 2 ใบ ได้แก่ passenger ticket และ express ticket
อธิบายง่ายๆ คือ passenger ticket เป็นบัตรโดยสารที่ต้องใช้ในการเดินทางจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทาง ส่วน express ticket เป็นบัตรโดยสารสำหรับการขึ้นรถไฟแบบด่วนพิเศษอย่างรถไฟชินคันเซ็นนั่นเอง
ในการซื้อบัตรโดยสารเที่ยวเดียวของรถไฟด่วนพิเศษเช่นรถไฟชินคันเซ็น จะต้องซื้อทั้ง passenger ticket และ express ticket รวมเป็น 2 ใบค่ะ (แต่บางกรณีก็อาจมีการรวมบัตรโดยสารทั้งสองแบบอยู่ในบัตรใบเดียวเช่นกัน)
หลังจากที่ขึ้นรถไฟมาแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจบัตรอย่างที่เห็นในภาพ ให้ยื่นทั้ง passenger ticket และ express ticket ให้เจ้าหน้าที่ไปค่ะ
ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โกลเด้นวีค เทศกาลโอบ้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคม หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์อื่นๆ รถไฟชินคันเซ็นจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คน หรือแม้แต่ช่วงสุดสัปดาห์ ที่นั่งแบบ reserved seat ก็อาจเต็มได้เช่นกัน หากเป็นไปได้ก็ขอแนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้าค่ะ
เว็บไซต์ที่ใช้ในการจองจะแตกต่างกันตามพื้นที่ เราจะขอแนะนำวิธีการจองโดยแบ่งเป็นญี่ปุ่นตะวันออก ญี่ปุ่นตะวันตก และทั่วประเทศนะคะ
ย่านเมืองเก่า ฮิกาชิจายะ (Higashi Chaya) ในเมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ
สำหรับผู้ที่จะเดินทางในฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นแถบโฮคุริคุอย่างเมืองคานาซาวะ แถบโทโฮคุ หรือฮอกไกโด สามารถจองบัตรโดยสารได้จากเว็บไซต์ทางการของ JR East ค่ะ เราสามารถซื้อบัตรโดยสารไปกลับราคาประหยัดให้ตรงกับสถานที่ที่จะไปได้จากเว็บไซต์นี้ด้วย หรือหากไม่ต้องการเดินทางไปกลับก็สามารถจองแบบเที่ยวเดียวได้เช่นกัน
เว็บไซต์ทางการของ JR East (ภาษาอังกฤษ)
https://www.eki-net.com/pc/jreast-shinkansen-reservation/English/wb/common/Menu/Menu.aspx
ถนนหนทางในเกียวโต
หากจะท่องเที่ยวในฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโอซาก้า, เกียวโต, ฮิโรชิม่า, คิวชู หรือนาโกย่า เราสามารถซื้อบัตรโดยสารไปกลับของแต่ละพื้นที่และจองที่นั่งได้จากเว็บไซต์ทางการ JR West ค่ะ
เว็บไซต์ทางการของ JR West (ภาษาอังกฤษ)
https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/pass/
นอกจากนี้ยังมีแอปพลิเคชั่น Smart EX สำหรับอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างโตเกียว - ฮากาตะด้วยค่ะ เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชั่นนี้แล้วก็จะสามารถซื้อบัตรโดยสารล่วงหน้าได้ พอถึงวันเดินทางก็เพียงแค่นำสมาร์ทโฟนไปแตะที่ช่องตรวจบัตร จากนั้นก็ขึ้นรถไฟได้ทันที แต่ตัวแอปพลิเคชั่นยังมีข้อจำกัดในการใช้งานจากนอกประเทศญี่ปุ่น ต้องระวังในจุดนี้เอาไว้ด้วยค่ะ
Smart EX (ภาษาอังกฤษ)
https://smart-ex.jp/en/lp/app/
ถ้าต้องการเดินทางไปทั่วประเทศญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้ซื้อ JAPAN RAIL PASS ค่ะ หากมีพาสนี้ก็จะสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะรวมถึงรถไฟชินคันเซ็นได้แบบไม่จำกัดเที่ยว (ระยะเวลา 7 วันเป็นต้นไป ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 29,110 เยน) ค่าโดยสารรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวไปโอซาก้า (reserved seat แบบเที่ยวเดียว) ราคา 14,450 เยน เพราะฉะนั้นแค่นั่งไปกลับก็คุ้มแล้วค่ะ
แต่ถึงจะมีพาสนี้ก็ใช่ว่าจะนั่งรถไฟชินคันเซ็นได้ทุกขบวนนะคะ ยกตัวอย่างเช่นรถไฟขบวน Nozomi ที่วิ่งระหว่างโตเกียว - ฮากาตะโดยใช้เวลาน้อยที่สุดจะไม่รวมอยู่ในพาสนี้ (ต้องซื้อ passenger pass และ express pass แยกต่างหาก) ด้วยเหตุนี้คนส่วนใหญ่จึงใช้บริการขบวน Hikari หรือไม่ก็ Kodama แทนค่ะ
สำหรับการซื้อ JAPAN RAIL PASS สามารถไปติดต่อซื้อได้จากเอเย่นต์ในแต่ละประเทศก่อนออกเดินทาง เราจะยังไม่ได้พาสตัวจริงนะคะ เราจะได้มาเป็นตั๋วแลกพาส เมื่อมาถึงญี่ปุ่นแล้วให้นำตั๋วแลกพาสไปแลกเป็นพาสตัวจริงที่จุดรับแลก หรือหากต้องการซื้อพาสในญี่ปุ่น ก็สามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายบางจุดซึ่งจะเปิดให้บริการถึงวันที่ 31 มีนาคม 2019 ลองตรวจสอบรายละเอียดที่เว็บไซต์ทางการดูนะคะ
นอกจากนี้ เราขอแนะนำเว็บไซต์ "KLOOK" และ "Voyagin" ในการจองและซื้อบัตรโดยสารรถไฟชินคันเซ็นทั่วประเทศค่ะ เว็บไซต์นี้มีรีวิวจากผู้ใช้จริง จึงสามารถซื้อได้อย่างสบายใจ มีบริการส่งบัตรโดยสารไปที่โรงแรมด้วย ลองใช้กันดูนะคะ
- ซื้อตั๋วเจอาร์พาสกับ KLOOK ได้ที่นี่ มีทั้งแบบ 7 วัน 14 วันและ 21 วันให้เลือก!
- ซื้อตั๋วเจอาร์พาสกับ Voyagin ได้ที่นี่!
เมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์สำหรับจองบัตรแล้วก็ให้ทำตามขั้นตอนต่างๆ จนกระทั่งเสร็จสิ้น ขั้นตอนคร่าวๆ ได้แก่
การเลือกรถไฟชินคันเซ็นที่จะใช้บริการ
↓
เลือกที่นั่งแบบ non-reserved seat หรือ reserved seat
↓
เลือกตำแหน่งที่นั่งและจำนวนคน
ข้อควรระวังคือ ในการจองบัตรส่วนใหญ่ หลังจากที่จองแล้วจะต้องไปรับบัตรโดยสารที่ห้องจำหน่ายบัตร (Ticket Office) หรือที่เครื่องจำหน่ายบัตรภายในสถานี ไม่ได้จบแค่ขั้นตอนการจองทางอินเทอร์เน็ตนะคะ สำหรับการไปรับบัตรโดยสาร จะไปรับเอาไว้ก่อนล่วงหน้าก็ได้ หรือจะไปรับเอาวันที่จะเดินทางเลยก็ได้ค่ะ แต่เผื่อเวลาไปด้วยนะคะ
หากต้องการซื้อบัตรโดยสารรถไฟชินคันเซ็นที่สถานี จะสามารถซื้อได้ที่ "ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร" (Ticket Office) หรือเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสาร สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบัตรโดยสารแบบเที่ยวเดียวหลังจากที่เข้าประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว ลองใช้วิธีนี้ดูนะคะ
ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารที่สถานีอุเอโนะ
ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารจะตั้งอยู่ตามสถานีใหญ่ๆ เราสามารถซื้อบัตรโดยสารได้โดยตรงจากพนักงานค่ะ
ข้อดี : ได้พูดคุยกับพนักงานโดยตรงจึงรู้สึกอุ่นใจกว่า ว่าได้บัตรตามที่ต้องการ
ข้อเสีย : ต้องต่อแถวนาน บางสถานีก็ไม่มีพนักงานที่พูดภาษาอื่นนอกจากภาษาญี่ปุ่น
เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟชินคันเซ็นที่สถานีเกียวโต
ที่สถานีรถไฟชันคันเซ็นจะมีเครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารแบบนี้ตั้งอยู่ค่ะ สามารถซื้อได้ทั้งบัตรแบบ reserved seat, non-reserved seat และ green seat นอกจากนี้ยังเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลเป็นภาษาอังกฤษได้อีกด้วย
ที่เครื่องจำหน่ายบัตรโดยสารจะไม่ค่อยมีคนมาต่อแถวมากนัก แต่การใช้งานจะค่อนข้างซับซ้อน ถ้าจดวันเวลา สายที่จะขึ้น และที่นั่งที่ต้องการเอาไว้ก่อนจะสะดวกกว่าค่ะ
บนเครื่องขายบัตรโดยสารจะมีตารางเวลาเดินรถในวันนั้นๆ แสดงเอาไว้ สามารถใช้อ้างอิงในการซื้อบัตรแบบ reserved seat ได้ค่ะ
ข้อดี : มีหน้าจอภาษาอังกฤษ ไม่ต้องต่อแถวนานเท่าการซื้อบัตรที่ห้องจำหน่ายบัตร
ข้อเสีย : การใช้งานค่อนข้างซับซ้อน
สำหรับใครที่อยากซื้อตั๋วชินคันเซ็นในราคาประหยัดพิเศษ ก็มีหนทางอยู่เหมือนกันค่ะ คือการไปยังศูนย์บริการอง JR TOKAI ตามสถานีขนาดใหญ่ของรถไฟ JR บางสถานี ในร้านนี้จะมีจำหน่ายบัตรโดยสารรถไฟชินคันเซ็นในราคาพิเศษสำหรับชาวต่างชาติเพียงแสดงพาสปอร์ต ซึ่งมีทั้งตั๋วเดินทางขาเดียวไปทางโตเกียวและไปทางเกียวโต โอซาก้า ฯลฯ รวมถึงตั๋วแบบไปกลับด้วย ตั๋วเหล่านี้ยังมาพร้อมกับคูปองกิจกรรมหรือร้านอาหารอีกต่างหาก
สามารถตรวจสอบรายละเอียดบัตรโดยสารราคาพิเศษเหล่านี้และร้านที่จำหน่ายได้จากลิงค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
ที่สถานีรถไฟชินคันเซ็นจะมีเครื่องตรวจบัตรสำหรับชินคันเซ็นโดยเฉพาะซึ่งอยู่คนละที่กับทางเข้ารถไฟปกติ สำหรับการผ่านเครื่องตรวจบัตรก็เพียงแค่สอดบัตรโดยสารทั้ง 2 ใบเข้าไปในเครื่องตรวจบัตรเช่นเดียวกับรถไฟประเภทอื่นๆ ค่ะ
บนป้ายไฟจะแสดงเวลาและสถานีปลายทาง สามารถตรวจสอบชานชาลาจากป้ายนี้ได้เลย หากซื้อบัตรแบบ non-reserved seat ก็ให้ตรวจสอบด้วยว่า "ที่นั่งแบบ non-reserve seat อยู่ที่ตู้โดยสารหมายเลขใด?" เพื่อที่จะได้ไปยืนรอให้ถูกตำแหน่งค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วที่บริเวณใกล้กับเครื่องตรวจบัตรจะมีร้านค้าขายข้าวกล่องและเครื่องดื่มอยู่ จะซื้อไว้ก่อนก็ได้ค่ะ แต่ในรถไฟก็มีอาหารและเครื่องดื่มขายเช่นกัน
เมื่อขึ้นรถไฟแล้วก็นั่งตามสบายแล้วรอให้ถึงปลายทางแค่นั้นเอง! อย่าลืมชมวิวนอกหน้าต่างด้วยนะคะ
รถไฟชินคันเซ็นทำให้เราสามารถเดินทางได้ไกล และยังทำให้ญี่ปุ่นเล็กลงทันตาเห็น หากมีโอกาสได้ใช้บริการก็เตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินทางอย่างมีความสุขกันเลยค่ะ!
ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Miki Takeshita
* บทความนี้เรียบเรียงใหม่จากบทความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2014