Start planning your trip
รวมวิธีการซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟ ชินคันเซ็น รถบัส รถบัสด่วน และรถแท็กซี่
บทความแนะนำวิธีการซื้อตั๋ว มารยาท และวิธีการขึ้นรถไฟ ชินคันเซ็น กรีนคาร์ รถบัส รถบัสด่วน และรถแท็กซี่ที่ควรรู้ไว้ก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่น
〜วิธีการขึ้นรถไฟ〜
การใช้บริการรถไฟ JR ในญี่ปุ่นมีทั้งวิธีการซื้อตั๋วทุกครั้งที่ใช้บริการ, วิธีการชำระค่าโดยสารผ่านบัตรโดยสาร IC การ์ด (Suica) และวิธีการใช้บัตรฟรีพาส (JAPAN RAIL PASS)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ตารางค่าโดยสารระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (รถไฟ,รถบัส,รถแท็กซี่,รถลาก)
ซื้อบัตร Suica ที่เหมาะกับตัวเองกันดีกว่า!
วิธีการขึ้นรถไฟโดยใช้บัตร JAPAN RAIL PASS ในราคาถูก
JAPAN RAIL PASS เป็นบัตรฟรีพาสสำหรับขึ้นรถไฟทั่วญี่ปุ่นแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในระยะสั้น
การใช้บัตร JAPAN RAIL PASS จำเป็นต้องบรรลุเงื่อนไขดังต่อไปนี้
・ต้องเป็นผู้ที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นโดยมีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวมากกว่า 15 วันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 90 วัน
・เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้วจะต้องได้รับตราประทับรับรองการเข้าประเทศบนพาสปอร์ตแบบพำนักระยะสั้น (ในกรณีที่ผ่านด่านตรวจอัตโนมัติไม่สามารถใช้ได้)
นอกจากนี้ การใช้บัตร JAPAN RAIL PASS ในญี่ปุ่นจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าก่อนวันเดินทางผ่านบริษัททัวร์ JTB, Nippon Travel Agency, Kinki Nippon Tourist, Tobu Top Tours, Japan Airlines ※1, All Nippon Airways ※2, JALpak หรือร้านค้าตัวแทนที่รองรับ
เนื่องจาก เราไม่สามารถซื้อหลังวันที่เดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้วได้ ยังไงก็ระวังกันให้ดีด้วยเนอะ เมื่อได้รับตราประทับรับรองการเข้าประเทศแบบพำนักระยะสั้นแล้วก็สามารถนำใบเสร็จไปแลกเป็นบัตรฟรีพาสที่สถานีรถไฟ JR ได้เลย
ส่วนจุดแลกบัตร JAPAN RAIL PASS สามารถเข้าไปเช็คได้จาก เว็บไซต์หลักของ JAPAN RAIL PASS
JR Pass – 7, 14, or 21 Days Unlimited Rail Travel in Japan
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
แค่ตั๋ว Japan Rail Pass ใบเดียวก็เที่ยวญี่ปุ่นได้ตามอำเภอใจในแบบคุณ
การใช้บัตรโดยสาร IC การ์ด・Suica
บัตรโดยสาร IC การ์ด Suica เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การใช้บริการรถไฟและรถบัสสะดวกมากยิ่งขึ้น
Suica เป็นบัตรโดยสาร IC การ์ดที่ออกโดย East Japan Railway Company โดยเราสามารถนำไปใช้ได้ทั่วญี่ปุ่น เพียงแค่แตะบัตรลงบนช่องตรวจตั๋วภายในสถานีรถไฟก็สามารถขึ้น-ลงรถไฟได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ จึงมีข้อดีอยู่ที่การประหยัดเวลาซื้อตั๋วนี่แหละ
เราสามารถซื้อบัตร Suica ได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติหรือเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วภายในสถานีรถไฟ JR ก็ได้ การซื้อจำเป็นต้องเสียค่ามัดจำบัตร 500 เยน โดยเราจะได้เงินคืนเมื่อนำบัตร Suica มาคืน
การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นโดยไม่ใช้ JAPAN RAIL PASS ถ้าเกิดพกบัตร Suica ติดตัวเอาไว้สักใบ รับรองว่าจะช่วยย่นระยะเวลาในการซื้อตั๋วขึ้นรถไฟทุกครั้งได้อย่างแน่นอน สะดวกสบายสุดๆ...
วิธีการซื้อตั๋ว
ไม่เพียงแค่ JAPAN RAIL PASS หรือบัตรโดยสาร Suica เท่านั้น แต่เรายังสามารถ ซื้อตั๋วทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟ ก็ได้เช่นเดียวกัน
ตอนที่ซื้อตั๋ว ก่อนอื่นให้เช็คค่าโดยสารไปถึงจุดหมายปลายทางจากตารางค่าโดยสารใกล้กับเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติก่อนเลย เมื่อรู้ค่าโดยสารแล้วก็จัดแจงใส่เงินลงไปในเครื่องและกดปุ่มที่ระบุจำนวนค่าโดยสารที่ตรงกับที่เราต้องการ แค่นี้เครื่องก็จะพิมพ์ตั๋วออกมาให้แล้วล่ะค่ะ ง่ายใช่มั้ยเอ่ย?
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
〜วิธีการขึ้น Green Car〜
รถไฟญี่ปุ่นทั้งสะอาดและสะดวกสบายก็จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในชั่วโมงเร่งด่วนทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืนนั้นเนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากแค่ไหน สำหรับใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบชิลล์ๆโดยหลีกเลี่ยงรถไฟแสนแน่นขนัดเหล่านั้นก็ขอแนะนำให้ใช้บริการ Green Car ของ JR เลยค่ะ
Green Car เป็นที่นั่งพิเศษบนรถไฟธรรมดา (ด่วน) ของ Tokaido Line, Yokosuka-Sobu Line (Rapid), Utsunomiya Line, Takasaki Line, Shonan Shinjuku Line, Ueno Tokyo Line และ Jōban Line โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ภายในขบวนรถไฟมีทั้งที่นั่งเอนที่สามารถยืดแข้งยืดขาได้ และมีจำหน่ายเครื่องดื่มและของว่างด้วยนี่แหละ
วิธีการซื้อตั๋ว Green Car
เราสามารถใช้บริการ Green Car ได้โดยการซื้อตั๋วรถไฟธรรมดาและตั๋ว Green Car คู่กัน โดยสามารถซื้อตั๋ว Green Car ได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติภายในสถานีรถไฟ, เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสำหรับบัตร Suica บนชานชาลา หรือภายในขบวนรถไฟ Green Car ก็ยังได้
เมื่อซื้อตั๋ว Green Car มาเรียบร้อยแล้วก็ออกไปยืนรอรถไฟตรงประตูทางขึ้น-ลงสำหรับขบวนรถไฟ Green Car ในสถานีได้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
เดินทางสะดวกสบาย จากสนามบินนาริตะไปสู่สถานีโตเกียว!วิธีการขึ้น・การใช้บริการJR Green Car
〜วิธีการขึ้นชินคันเซ็น〜
ชินคันเซ็น ญี่ปุ่นเป็นยานพาหนะที่ว่ากันว่าเร็วที่สุดในโลก สำหรับใครที่วางแผนเดินทางจากโตเกียวไปเที่ยวโกเบ เกียวโต หรือโอซาก้าก็ลองใช้บริการชินคันเซ็นกันดูเนอะ
วิธีการซื้อตั๋วชินคันเซ็น
ตั๋วชินคันเซ็นสามารถซื้อได้จากเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วหรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติภายในสถานีรถไฟ แต่ควรระวังไว้นิดนึงว่าไม่สามารถใช้บัตรโดยสาร IC การ์ดขึ้นได้นะจ๊ะ... เราสามารถใช้บัตร Japan Rail Pass ขึ้นชินคันเซ็นได้ยกเว้น “Nozomi” และ “Mizuho”
สำหรับการซื้อตั๋วให้กรอกขอบเขตในการใช้บริการ, วัน-เวลา และประเภทที่นั่งที่ต้องการผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติสำหรับชินคันเซ็น หรือซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วภายในสถานีก็ได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ว่าด้วยการซื้อตั๋วสําหรับรถไฟชินคันเซ็นที่ทั้งวิ่งเร็ว สะอาด แถมตรงต่อเวลา
〜วิธีการซื้อตั๋วรถบัส〜
การขึ้น รถบัส ในญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เงินสดหรือบัตรโดยสาร IC การ์ดอย่าง Suica
รถบัส 23 เขตในโตเกียว : ชำระค่าโดยสารล่วงหน้า・ค่าโดยสารเท่ากันตลอดสาย
เนื่องจากรถบัส 23 เขตในโตเกียวเป็นระบบชำระค่าโดยสารล่วงหน้าทั้งหมด เราจึงต้องชำระค่าโดยสารตั้งแต่ประตูหน้าตอนขึ้นรถบัส ค่าโดยสารรถบัสภายใน 23 เขตของโตเกียวราคาผู้ใหญ่ 210 เยน (IC 206 เยน) และเด็ก 110 เยน (IC 103 เยน)
ถ้าเกิดใช้บัตรโดยสาร IC การ์ดก็จะได้สิทธิพิเศษลดราคานิดหน่อยด้วยนะเออ...
รถบัสนอก 23 เขตในโตเกียว : ชำระค่าโดยสารทีหลัง・ค่าโดยสารเปลี่ยนแปลงไปตามระยะทาง
รถบัสนอกโตเกียวหรือนอก 23 เขตในโตเกียวเป็นระบบชำระค่าโดยสารทีหลังทั้งหมด โดยรูปแบบการชำระค่าโดยสารทีหลังนี้ทำให้มีค่าโดยสารแตกต่างกันออกไปตามขอบเขตในการใช้บริการ
สำหรับใครที่ต้องการชำระค่าโดยสารเป็นเงินสดก็ให้รับตั๋วตอนขึ้นรถบัสจากประตูด้านหลัง ส่วนใครก็ต้องการชำระด้วยบัตรโดยสาร IC การ์ดก็แค่แตะบัตรเท่านั้น
และตอนลงให้ลงจากประตูหน้า คนที่จ่ายสดก็หยอดเงินสดลงในกล่องค่าโดยสาร ส่วนคนที่จ่ายผ่านบัตรโดยสารก็แตะบัตรด้านหน้าก็เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
〜วิธีการขึ้นรถบัสด่วน〜
สำหรับใครที่อยากตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวมากมายในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโตเกียว นาโงย่า โอซาก้า เกียวโต และอื่นๆอีกมากมายในราคาประหยัดก็ขอแนะนำให้ใช้บริการรถบัสด่วนเลยค่ะ
รถบัสด่วน มีวิธีการใช้บริการอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ วิธีการซื้อตั๋วตามจุดหมายปลายทาง และวิธีการซื้อ Japan Bus Pass สำหรับนั่งรถบัสด่วนแบบไม่อั้น
วิธีการซื้อ Japan bus Pass
Japan bus Pass เป็นตั๋วรถบัสที่ออกจำหน่ายโดยบริษัทรถบัสทางไกลในญี่ปุ่นอย่าง “willer” เราสามารถนั่งรถบัสด่วนได้ไม่จำกัดภายในช่วงเวลาที่เลือกตั้งแต่ 3 วัน 5 วัน ไปจนถึง 7 วัน
โดยสามารถเข้าไปซื้อได้จาก เว็บไซต์ของ Willer
เมื่อเลือกตั๋วและชำระผ่านบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วก็ล็อกอินและกดจองรถบัสที่ต้องการใช้บริการล่วงหน้าก็เป็นอันเสร็จ
การซื้อตั๋วตามจุดหมายปลายทาง
การซื้อตั๋วตามจุดหมายปลายทางจะต้องใช้บริการเว็บไซต์สำหรับจองรถบัสด่วน เช่น「ไฮเวย์บัส ดอทคอม」เป็นต้น
เว็บไซต์สำหรับจองรถบัสด่วน
・จุดหมายปลายทาง
・วัน-เวลาในการใช้บริการ
・จุดขึ้นรถบัส
・ประเภทของรถบัสที่ต้องการ
เราสามารถจองได้โดยการเลือกเงื่อนไขข้างต้น
การชำระค่าโดยสารจำเป็นต้องชำระล่วงหน้าผ่านบัตรเครดิต ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านค้าตัวแทนที่ร่วมมือกับเว็บไซต์สำหรับจองรถบัสด่วน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
〜วิธีการขึ้นรถแท็กซี่〜
สำหรับใครที่ประสบปัญหาสัมภาระเยอะหรือรถบัสรอบดึกหมดก็ขอแนะนำให้ใช้บริการรถแท็กซี่เลยค่ะ เมื่อได้เห็นสภาพภายในรถแสนสะอาด ประตูที่เปิดอัตโนมัติ ถุงมือสีขาว และความสุภาพอ่อนน้อมของคนขับรถแท็กซี่ หลายคนจะต้องตกใจกันอย่างแน่นอน ถ้าเกิดต้องการใช้บริการรถแท็กซี่จำเป็นต้องยืนต่อแถวตรงจุดขึ้นรถแท็กซี่หน้าสถานีรถไฟหรือโบกเรียกเอา
เมื่อขึ้นรถแท็กซี่มาแล้วก็จัดแจงแจ้งจุดหมายปลายทางกับคนขับรถกันให้เรียบร้อย เนื่องจากคนขับรถที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ยังมีน้อยมาก จึงขอแนะนำให้เตรียมแผนที่จุดหมายปลายทางแล้วชี้จุดเอาจะง่ายกว่า
หลังจากเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางกันแล้วก็ชำระค่าโดยสารด้วยเงินสดหรือบัตรโดยสารได้เลย
All pictures from PIXTA
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง