【จังหวัดมิยาซากิ】เพลิดเพลินไปกับทั้งภูเขาและท้องทะเล! ออกสำรวจมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ยังไม่ถูกค้นพบ

วิธีนั่งแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่การหารถ ขึ้นรถ จ่ายเงินไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวก!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
วิธีนั่งแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่การหารถ ขึ้นรถ จ่ายเงินไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวก!

แท็กซี่เป็นรถโดยสารสาธารณะราคาแพงกว่าพาหนะชนิดอื่นก็จริง แต่ก็สะดวกมากในยามฉุกเฉินเร่งรีบหรือในยามที่มีสัมภาระเยอะเดินทางลำบาก ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีนั่งแท็กซี่และแอปพลิเคชันแสนสะดวกสำหรับหารถแท็กซี่กันค่ะ!

บทความโดย

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

more

สัมผัสบริการด้วยใจสไตล์ญี่ปุ่นบนแท็กซี่

ผู้เขียนเชื่อว่าไม่ว่าใครที่เพิ่งเคยใช้บริการแท็กซี่ญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกจะต้องตกใจในมาตรฐานระดับสูงของแท็กซี่ที่นี่กันบ้างแหละ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถแสนสุภาพที่มาพร้อมกับถุงมือสีขาว สภาพภายในตัวรถอันสะอาดเอี่ยม และประตูอัตโนมัติ แถมยังมีระบบราคาเป็นมาตรฐานชัดเจนด้วย จึงรับรองว่าไม่มีการโก่งราคาให้ได้เสียอารมณ์อย่างแน่นอน

โดยราคาจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่ารถโดยสารสาธารณะชนิดอื่นๆ พอสมควร แต่ก็บอกเลยว่าสะดวกมากๆ ในยามเร่งรีบหรือในยามที่ต้องขนสัมภาระเยอะๆ จากสถานีรถไฟไปยังโรงแรม ทำให้เดินทางลำบาก

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีเรียกแท็กซี่ วิธีใช้บริการแท็กซี่ วิธีจ่ายเงินค่าโดยสาร ไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวกในการเรียกแท็กซี่กันค่ะ! ^^

วิธีใช้บริการแท็กซี่

1. ค้นหาแท็กซี่

วิธีนั่งแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่การหารถ ขึ้นรถ จ่ายเงินไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวก!

แท็กซี่จะจอดรับผู้โดยสารบริเวณด้านหน้าโรงแรมและรอบสถานีรถไฟ หรือว่าจะใช้วิธียกมือสูงๆ เรียกแท็กซี่ข้างทางเอาก็ได้เหมือนกัน

ถ้าไฟบนหลังคารถเปิดอยู่แสดงว่า "ว่าง" หรือไม่มีผู้โดยสารท่านอื่นกำลังใช้บริการอยู่ในขณะนั้น แต่ถ้าไฟปิดอยู่แสดงว่า "ไม่ว่าง" หรือมีผู้โดยสารท่านอื่นกำลังใช้บริการอยู่ในขณะนั้น เพราะฉะนั้น เวลาเรียกแท็กซี่ให้เลือกคันที่เปิดไฟอยู่เท่านั้นนะจ๊ะ

2. ขึ้นแท็กซี่

ประตูที่นั่งด้านหลังจะเปิด - ปิดด้วยระบบอัตโนมัติ

สำหรับใครที่มาพร้อมกับสัมภาระขนาดใหญ่ก็สามารถแจ้งพนักงานขับรถให้เปิดท้ายรถเพื่อใส่สัมภาระด้านหลังได้นะ

3. แจ้งจุดหมายปลายทาง

พนักงานขับรถชาวญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความสุภาพและมารยาทดีก็จริง แต่ส่วนใหญ่มักจะสื่อสารภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยได้ ดังนั้น เวลาแจ้งจุดหมายปลายทางจึงอาจใช้วิธีให้ดูหนังสือนำเที่ยวหรือเขียนภาษาญี่ปุ่นเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าก็สะดวกดีเหมือนกัน นอกจากนี้ก็อย่าลืมรัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยก่อนออกเดินทางเสมอนะคะ ^^

4. ถ้าอยากให้แวะจอดระหว่างทางต้องทำอย่างไร?

ถ้าเกิดใครอยากแวะร้านสะดวกซื้อหรือแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทางก็สามารถแจ้งพนักงานขับรถได้เลย แล้วเขาจะหาที่จอดรถที่ใกล้ที่สุดให้เอง แต่ระวังเอาไว้นิดนึงว่าระหว่างจอดรถ ค่าโดยสารก็ยังขึ้นอยู่เหมือนเดิมนะจ๊ะ

5. ชำระเงิน

วิธีนั่งแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่การหารถ ขึ้นรถ จ่ายเงินไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวก!

เมื่อเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางแล้วก็จ่ายเงินตามราคาบนมิเตอร์ได้เลย ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าในญี่ปุ่นไม่มีมิเตอร์ดัดแปลง จึงสบายใจหายห่วงค่ะ XD แล้วที่สำคัญก็คือไม่จำเป็นต้องให้ทิปกับพนักงานค่ะ

โซนใจกลางโตเกียว (เขตปกครองพิเศษในโตเกียว 23 เขต, เขตมุซาชิโนะ และเขตมิทากะ) ราคามิเตอร์แท็กซี่เริ่มต้นที่ 410 เยน (1 กิโลเมตรแรก) และจะบวกเพิ่มอีก 80 เยนทุกๆ 237 เมตร โดยราคาเริ่มต้นมีแปะเอาไว้ตรงประตูที่นั่งด้านหลังและภายในตัวรถ ยังไงก่อนขึ้นแท็กซี่ก็อย่าลืมถามพนักงานให้ชัวร์ก่อนนะคะ

นอกจากนี้ ช่วงกลางคืนและช่วงเช้าตรู่ (22.00 – 05.00 น. ของวันถัดไป) ก็จะมีการชาร์จค่าโดยสารเพิ่มเป็น 2 เท่าด้วย

แท็กซี่ส่วนใหญ่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและช่องทางออนไลน์ก็จริง แต่บางคันก็ไม่สามารถใช้ได้ โดยเราสามารถเช็คว่าคันไหนรับหรือไม่รับบัตรเครดิตได้จากสติกเกอร์ที่แปะเอาไว้บนกระจกที่นั่งด้านหลัง

6. ลงจากแท็กซี่หลังชำระเงินเรียบร้อย

ก่อนลงจากแท็กซี่ก็อย่าลืมตรวจเช็คสิ่งของติดตัวเสมอ พอรับใบเสร็จมาจะเห็นชื่อบริษัทของแท็กซี่และเบอร์โทรศัพท์ระบุเอาไว้บนใบเสร็จ ทำให้เราสามารถติดต่อหลังใช้บริการได้ในกรณีที่ลืมสิ่งของไว้บนแท็กซี่

ยิ่งถ้าตอนลงลองพูดขอบคุณเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "อาริกาโตะ" รับรองว่าพนักงานขับรถเป็นปลื้มอย่างแน่นอนค่ะ ^o^

เรียกแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นด้วยแอปพลิเคชัน!

スマートフォン

ในกรณีที่บริเวณใกล้เคียงไม่มีแท็กซี่วิ่งให้บริการเลยก็สามารถโทรศัพท์ไปยังบริษัทแท็กซี่ให้มารับถึงที่ได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากรองรับเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ จึงเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อยเลย

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ก็ขอแนะนำให้เรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเลยค่ะ

เดินทางแสนสบายด้วยบริการ Uber

Uber คือ แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่ผ่านการดาวน์โหลดมาใช้งานบนสมาร์ทโฟน โดยเราสามารถเรียกให้คนขับรถที่ลงทะเบียนกับ Uber และอยู่ภายในพื้นที่บริการเดินทางมารับตรงจุดที่ต้องการเพื่อไปส่งยังจุดปลายปลายทางได้

บริการนี้รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเท่านั้น ทำให้เราสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเงินสดเลย ณ ปัจจุบันปี 2018 Uber สามารถใช้งานได้ทั่วทั้งโตเกียว

ค่าโดยสารจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของรถที่เลือก โดยตกอยู่ที่ประมาณ 309 – 329 เยน / 1 กิโลเมตร เนื่องจากราคารวมนั้นขึ้นอยู่กับราคาเริ่มต้นและช่วงเวลาด้วย จึงขอแนะนำให้ประเมินราคาคร่าวๆ ผ่านเว็บไซต์ทางการล่วงหน้าก่อนจะดีที่สุด

รถที่ทางแอปพลิเคชันจัดหาให้เป็นรถหรูหมดทุกคัน จึงขอแนะนำสำหรับใครที่อยากเดินทางแบบสบายๆ เลยค่ะ ^^

เดินทางแสนสะดวกด้วยบริการ LINE TAXI

LINE TAXI คือ บริการจัดหาแท็กซี่บนแพลตฟอร์มของ “LINE” แอปพลิเคชันแชทยอดนิยมทั่วเอเชีย

เนื่องจากเราสามารถเรียกแท็กซี่บนแอปพลิเคชัน LINE ได้เลย การเรียกแท็กซี่จึงเป็นอะไรที่ง่ายกว่าที่เคย แถมยังมีการระบุเวลาในการรอแท็กซี่เอาไว้ให้ด้วย จึงเป็นการรอแท็กซี่อย่างมีจุดหมายและเป็นระบบสุด ๆ

ส่วนค่าโดยสารจะบวกเพิ่มจากราคาแท็กซี่ปกติและมีค่าเรียกรถตามที่บริษัทแท็กซี่แต่ละเจ้ากำหนดเอาไว้ด้วย บริการนี้รับชำระเงินผ่าน LINE Pay เท่านั้น ไม่มีการจ่ายเป็นเงินสดตอนลงแท็กซี่ แล้วที่สำคัญก็คือเป็นบริการที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ในญี่ปุ่น จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ ^^

ตอบโจทย์ทุกอย่างด้วยรถเช่า 

อีกวิธีการที่รับประกันความสะดวกสบาย ได้ทุกอย่างที่ต้องการคือการเช่ารถค่ะ ทั้งแบบขับเองสำหรับผู้ที่ขับรถเป็น หรือแบบมีพนักงานขับรถสำหรับผู้ที่อยากมีคนจัดการเรื่องเดินทางให้
Tabirai Japan และ Web-Rentacar เป็นเว็บไซต์ที่จะช่วยเปรียบเทียบค่าบริการเช่ารถยนต์ (แบบขับเอง) และหากเจอรถที่ถูกใจ ก็สามารถกดจองได้เลยด้วย
หรือสำหรับคนที่ต้องการรถเช่าพร้อมคนขับ ลองหาจากเว็บไซต์ของ KLOOK หน้านี้ซึ่งจะแยกตามจังหวัด เช่น เช่ารถพร้อมคนขับในโตเกียว ในโอซาก้า ในฮอกไกโด บริเวณภูเขาไฟฟูจิ และอื่นๆ

เดินทางแสนสบายด้วยพาหนะตามการใช้งาน!

วิธีนั่งแท็กซี่ที่ญี่ปุ่นตั้งแต่การหารถ ขึ้นรถ จ่ายเงินไปจนถึงแอปพลิเคชันแสนสะดวก!

พื้นที่อื่นๆ ในญี่ปุ่นไม่ได้มีระบบขนส่งสาธารณะครบครันเหมือนในโตเกียว จึงอาจจำเป็นต้องพึ่งพารถเช่าหรือแท็กซี่บ้างเป็นบางครั้งบางคราว

ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองเปรียบเทียบวิธีการเดินทางหลากหลายแบบดูเพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุดกันนะคะ ^^


*บทความนี้เป็นการนำบทความที่เคยเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2014 มาเขียนและเรียบเรียงใหม่ในปี 2018

All pictures from PIXTA

บทความโดย

MATCHA

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ