Start planning your trip
ไกด์นำเที่ยวคุมาโมโตะแบบจัดเต็ม! วิธีเดินทาง ที่เที่ยว ที่พัก อาหาร งานเทศกาล! (Kumamoto)
รวมทุกข้อมูลที่อยากรู้สำหรับเที่ยว “คุมาโมโตะ” (Kumamoto) จังหวัดบนเกาะคิวชูที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ออนเซ็น ที่ท่องเที่ยวมากมาย และหมีคุมะมง! แถมยังเป็นแหล่งเพาะปลูกผลไม้ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น แถมมีอาหารท้องถิ่นสุดอร่อยทั้ง ราเม็ง วัววะกิว และซาชิมิเนื้อม้า!
เมืองหมีคุมะมง "คุมาโมโตะ" (Kumamoto)!!
“คุมาโมโตะ” คือ เมืองหลักของภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 890 กิโลเมตร โดยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองทางด้านการเกษตร มีการเพาะปลูกผักผลไม้มากมายไม่ว่าจะเป็นส้ม แตงโม เมล่อน มะเขือเทศ มะเขือม่วง และเห็ดหูหนู เป็นต้น
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อก็ต้องยกให้ภูเขาอาโซะ (Mount Aso) ที่มีแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด (Caldera) ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและออนเซ็นในบริเวณโซนอาโซะอย่าง "สึเอทาเตะออนเซ็น (Tsuetate Onsen)" และ "คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) นอกจากนี้ก็ยังเต็มไปด้วยแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามอย่างหุบเขาคิคุจิ (Kikuchi Valley) และแม่น้ำคุมะกาวะ (Kumagawa) อีกด้วย
“นัตสึเมะ โซเซกิ (Natsume Soseki)” นักประพันธ์ชื่อดังชาวญี่ปุ่นได้กล่าวชมเชยอาคารบ้านเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจีของคุมาโมโตะถึงขนาดเรียกคุมาโมโตะว่า “เมืองหลวงแห่งป่าไม้” เลยทีเดียว
และที่ขาดไม่ได้คือ "คุมาโมโตะ" แห่งนี้คือเมืองต้นกำเนิดของเจ้าหมีจอมกวนแต่สุดน่ารักอย่าง "คุมะมง (Kumamon)" นั่นเอง!
ระหว่างเดินเที่ยวในเมือง รับรองว่าจะได้เห็นเจ้าหมีตัวนี้เป็นระยะๆ แน่นอนค่ะ
เรามาค้นหาเสน่ห์ของจังหวัดคุมาโมโตะกันดีกว่า!
สารบัญ
1. วิธีการเดินทางไปยังคุมาโมโตะ
2. ข้อมูลการเดินทางภายในคุมาโมโตะ
3. ข้อมูลโซนต่างๆในคุมาโมโตะ
4. 27 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในคุมาโมโตะ
5. งานอีเว้นท์และเทศกาลในคุมาโมโตะ
6. อาหารท้องถิ่นของคุมาโมโตะ
7. ของฝากจากคุมาโมโตะ
8. โรงแรมที่พักในคุมาโมโตะ
9. สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวคุมาโมโตะ
10. ภาษาถิ่นคุมาโมโตะสำหรับการท่องเที่ยว
วิธีการเดินทางไปยังคุมาโมโตะ
หากเดินทางจากโตเกียว สามารถเดินทางได้ทั้งสายการบินในประเทศซึ่งมีสายการบินราคาประหยัด (Low Cost Airline) ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที - 2 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 10,000 - 40,000 เยน หรือประมาณ 6,000 - 15,000 เยน สำหรับสายการบินราคาประหยัด หรือจะนั่งรถไฟชินคันเซ็นมาก็ได้เหมือนกัน ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 27,000 เยน
ใครเดินทางจากโอซาก้า เลือกได้ทั้งเครื่องบินจากสนามบินอิตามิ (Itami Airport) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ค่าโดยสารประมาณ 10,000 - 30,000 เยน หากนั่งชินคันเซ็นจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 18,500 เยน หรือใช้รถบัสทางไกลก็ได้เหมือนกัน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10 - 12 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 5,000 - 11,000 เยน
ส่วนการเดินทางจากฟุกุโอกะ หากนั่งรถไฟชินคันเซ็นจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่าโดยสารประมาณ 5,000 เยน หรือรถบัสทางไกลประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณ 3,000 - 5,000 เยน
สำหรับข้อมูลการเดินทางโดยละเอียด สามารถอ่านจากบทความด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ข้อมูลการเดินทางภายในคุมาโมโตะ
ภายในจังหวัดคุมาโมโตะมีระบบขนส่งสาธารณะวิ่งให้บริการมากมายไม่ว่าจะเป็นรถไฟของ JR Kyushu รถบัสของเมือง และรถราง
การท่องเที่ยวภายในเมืองคุมาโมโตะขอแนะนำให้ใช้รถรางหรือรถบัสจะสะดวกกว่า
สำหรับข้อมูลการเดินทางและพาหนะในจังหวัดคุมาโมโตะโดยละเอียด สามารถอ่านจากบทความด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ข้อมูลโซนต่างๆ ในคุมาโมโตะ
เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าตามโซนต่างๆ ในคุมาโมโตะมีเอกลักษณ์ ของขึ้นชื่อ และแหล่งท่องเที่ยวอะไรบ้าง
โซนเมืองคุมาโมโตะ
บริเวณซุยโดโจ (Suidocho) และโทริโจสึจิ (Torichosuji) คือ เขตธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ของคุมาโมโตะ โดยเรียงรายไปด้วยสำนักงานของบริษัทต่างๆ และหน่วยงานราชการ นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าและย่านร้านค้าที่ชื่อว่าคามิโทริ (Kamitori) และชิโมโทริ (Shimotori) อีกด้วย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อประจำคุมาโมโตะไปโดยปริยาย ส่วนบริเวณโดยรอบเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวอย่างปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle) และสวนซุยเซ็นจิ (Suizenji)
บริเวณทางเหนือ"โคชิ (Koshi) โอกุนิ (Oguni) และอาโซะ (Aso)"
ทางตอนเหนือของจังหวัดคุมาโมโตะเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติโดยมีศูนย์กลางเป็นภูเขาอาโซะ
ในเมืองอาโซะมีทั้งภูเขา ยอดเขา "ไดคัมโบ (Daikanbo)" และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ "คุสะเซ็นริกะฮามะ (Kusa Senrigahama)"
นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวอย่างสึเอทาเตะออนเซ็น (Tsuetate Onsen) ในเมืองโอกุนิอีกด้วย
บอกเลยว่าสะพานส่งน้ำซือจุน (Tsujun) ที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การแวะมาชมมาก
บริเวณตะวันตก "ยามากะ (Yamaga) คิคุจิ (Kikuchi) ทามานะ (Tamana) อาราโอะ (Arao) และอุเอกิ (Ueki)"
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของคุมาโมโตะเป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นไม่ว่าจะเป็นทามานะออนเซ็น อุเอกิออนเซ็น ยามากะออนเซ็น และฮิรายามะออนเซ็น (Hirayama Onsen)
โดยเราสามารถสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมใน สมัยเมจิ ได้ที่ “ยาจิโยสะ (Yachiyoza)” โรงละครโบราณที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ (รูปด้านบน)
ส่วนภายในเมืองยามากะมีการค้นพบหลุมศพโบราณกว่า 300 แห่ง เช่น หลุมศพอายุ 1,500 ปีที่ชื่อว่า “จิบุซังโคะฟุน (Chibusan Kofun)” เป็นต้น ที่พิพิธภัณฑ์หลุมฝังศพโบราณจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto Prefectural Ancient Burial Mound Museum) เราจะได้ชมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบ และยังมีกิจกรรมทดลองทำ “มากาทามะ (Magatama)” เครื่องประดับหินในสมัยโบราณ
แถมเมืองอาราโอะก็ยังเป็นที่ตั้งของ “กรีนแลนด์ (Greenland)” สวนสนุกแห่งเดียวในจังหวัดคุมาโมโตะอีกด้วย
จึงบอกได้เลยว่าโซนตะวันตกเฉียงเหนือของคุมาโมโนะแห่งนี้เหมาะสำหรับการพาครอบครัวมาเที่ยวที่สุดแล้ว
บริเวณตอนใต้ "อุโตะ (Uto) ยัตสึชิโระ (Yatsushiro) ชิรานูฮิ (Shiranuhi) มินามาตะ (Minamata) ฮิโตโยชิ (Hitoyoshi) และอาชิคิตะ (Ashikita)"
ทางตอนใต้ของจังหวัดคุมาโมโตะเป็นโซนขึ้นทัศนียภาพอันงดงามทั้งธรรมชาติอันมีแม่น้ำคุมะเสมือนตัวแทน และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองรอบปราสาทที่ยัตสึชิโระ
สำหรับใครที่ต้องการท่องเที่ยวเมืองฮิโตโยชิก็ขอแนะนำให้ใช้บริการรถจักรไอน้ำ SL Hitoyoshi เลยค่ะ เราจะได้เพลิดเพลินกับการชมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำคุมะจากนอกหน้าต่าง
นอกจากนี้ที่นี่มีไฮไลท์เป็นสถานที่เที่ยวสัมผัสประวัติศาสตร์อย่างร่องรอยปราสาทยัตสึชิโระ (Yatsushiro Castle Ruins) ในยัตสึชิโระและร่องรอยปราสาทซาชิกิ (Sashiki Castle Ruins) ในเมืองอาชิคิตะ
โซนอามาคุสะ (Amakusa)
และสุดท้ายก็คือโซนฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดคุมาโมโตะอย่าง “อามาคุสะ” ซึ่งเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยทะเล ที่นี่เป็นบ้านเกิดของ “อามาคุสะ ชิโร่ (Amakusa Shiro)” เด็กหนุ่มผู้นำชาวบ้านก่อจราจลต่อต้านการปราบปรามศาสนาคริสต์ของรัฐบาลในสมัยก่อน ภายในเมืองอามาคุสะเป็นที่ตั้งของสุสานชาวคริสต์และพิพิธภัณฑ์คริสเตียนอามาคุสะ (Amakusa Christian Museum) แหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับชาวคริสต์ในยุคนั้น
ส่วนด้านอาหารก็ขอแนะนำเป็นหม้อไฟเนื้อไก่ ไก่ย่างยากิโทริ และซาชิมิไก่ (โทริซาชิ - Torisashi) ที่ทำมาจากไก่ท้องถิ่นอามาคุสะไดโอ (Amakusa Daio) เลยค่ะ นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องปลาสดใหม่ที่จับได้ในท้องถิ่นอีกด้วย
27 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในคุมาโมโตะ
เดี๋ยวเรามาชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทคุมาโมโตะและธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ในอาโซะกันดีกว่าค่ะ
1. ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle)
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
"ปราสาทคุมาโมโตะ" แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของคุมาโมโตะ ปราสาทแห่งนี้ได้รับการต่อเติมโดยนักรบผู้ปกครองคุมาโมโตะเมื่อ 500 ก่อนอย่าง คาโต้ คิโยมาสะ (Kato Kiyomasa) แต่ภายหลังที่นี่กลายเป็นสนามรบและปราสาทก็ถูกเผาจนหมดในช่วงสงครามเซนันซึ่งเป็นสงครามภายในประเทศครั้งสุดท้ายของญี่ปุ่น ตัวปราสาทถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี 1960 โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ห้องเจาจวิน "โชกุนโนะมะ" (Shogun no ma) สุดโอ่อ่าอลังการที่ปิดแผ่นทองคำบนผนังและประตูบานเลื่อนเล่าเรื่องราวของ "โอโชกุน" หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “หวังเจาจวิน” สาวงามในโศกนาฏกรรมของประเทศจีน
*ในปัจจุบัน (เดือนเมษายน ปี 2019) ยังปิดให้เข้าชมเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในคุมาโมโตะ
ที่อยู่ : 1-1 Honmaru, Chuo, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : https://kumamoto-guide.jp/kumamoto-castle/en/admission/
โรงแรมแนะนำใกล้ปราสาทคุมาโมโต้
2. ยาจิโยสะ (Yachiyoza)
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
ยาจิโยสะ คือ โรงละครที่สร้างขึ้นมาในสมัยเมจิ ในปัจจุบันยังคงจัดการแสดงละครและคาบูกิให้ชมกันอยู่เหมือนเดิม และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติด้วย
ที่อยู่ : 1499 Munakata, Yamaga, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.yachiyoza.com/
3. สะพานซือจุน (Tsujun Bridge)
สะพานซือจุน คือ สะพานส่งน้ำที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ เนื่องจากเป็นการส่งน้ำจากสะพานไปยังที่ราบสูงชิราอิโตะไดจิ (Shiraito Daichi) จึงก่อสร้างขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่เพื่อชมภาพการระบายน้ำจากตรงกลางสะพานกันเพียบเลยล่ะค่ะ
* ในปัจจุบัน (เดือนเมษายน ปี 2019) ยังปิดให้เข้าชมเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในคุมาโมโตะ
ที่อยู่ : Nagahara, Yamato, Kamimashiki, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.town.kumamoto-yamato.lg.jp/map/pub/Detail.aspx?c_id=56&id=395
4. พิพิธภัณฑ์คริสเตียนอามาคุสะ (Amakusa Christian Museum)
พิพิธภัณฑ์คริสเตียนอามาคุสะ คือ พิพิธภัณฑ์อันล้ำค่าที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ในอามาคุสะ และ "กบฎชิมะบาระในอามาคุสะ" ซึ่งเป็นการก่อจลาจลที่ใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ที่อยู่ : 19-52 Funenoo, Amakusa, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.city.amakusa.kumamoto.jp/kirishitan/
5. โบสถ์คาธอลิกโอเอะ (Oe Catholic Church)
โบสถ์คาธอลิกโอเอะ คือ โบสถ์ที่สร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างชาวคริสต์ในท้องถิ่นและมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส การ์นิเย (Frederic Louis Garnier) ผู้อุทิศทั้งชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในอามาคุสะ โดยสร้างขึ้นในปี 1933 หลังยกเลิกการห้ามนับถือศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น อาคารมีเสน่ห์อยู่ที่สถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์ทั้งภายนอกและภายในที่แฝงด้วยความอบอุ่น
ที่อยู่ : 1782 Oe, Amakusama, Amakusa, Kumamoto
6. ร่องรอยปราสาทยัตสึชิโระ (Yatsushiro Castle Ruins)
ร่องรอยปราสาทยัตสึชิโระ คือ ปราสาทที่สร้างขึ้นราว 400 ปีก่อน โดยยังคงหลงเหลือกำแพงหินของปราสาทให้ได้ชมกันในปัจจุบัน ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของชาติในฐานะ “กลุ่มร่องรอยปราสาทยัตสึชิโระ”
ที่อยู่ : 7-34 Matsuejo, Yatsushiro, Kumamoto
7. มันดะโค (Mandako)
มันดะโค คือ ร่องรอยของเหมืองถ่านหินในเมืองอาราโอะ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในฐานะ “มรดกโลกด้านการปฏิวัติอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในสมัยเมจิ อุตสาหกรรมถ่านหิน การต่อเรือ การผลิตเหล็กและทองแดง” ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1800 ถึงต้นยุค 1900 โดยเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาประเทศญี่ปุ่นสมัยใหม่ในฐานะเหมืองถ่านหินที่มีแท่นขุดเจาะขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญ่ปุ่นถึง 2 แท่น
เราสามารถเดินเยี่ยมชมภายในได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ปากเหมืองไปจนถึงห้องเครื่องจักรเลยทีเดียว
ที่อยู่ : 200-2 Haramanda, Arao, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.city.arao.lg.jp/q/list/385.html (มีระบบแปลภาษาอัตโนมัติ)
8. ถนนร้านค้าคามิโทริ (Kamitori Shopping Arcade) / ถนนนามิกิซากะ (Namikizaka Street)
ถนนร้านค้าคามิโทริ คือ ถนนที่เรียงรายไปด้วยคาเฟ่ ร้านขายของจิปาถะ ร้านหนังสือเก่าแก่ ร้านขนมมันจู ร้านจำหน่ายอัญมณี และอื่นๆ
ส่วนถนนนามิกิซากะที่ทอดยาวจากสุดถนนคามิโทริไปทางเหนือนั้นมีทั้งร้านจำหน่ายเสื้อผ้ามือสอง ร้านจำหน่ายสินค้าจุกจิกนำเข้า ร้านขนมญี่ปุ่นที่เปิดมาเป็นเวลานาน คาเฟ่ เป็นต้น ทั้งถนนอบอวลไปด้วยบรรยากาศสุดเก๋ไก๋
ถนนทั้งสองเส้นนับเป็นสถานที่เหมาะจะเดินเล่นสบายๆ อย่างที่สุด!
ที่อยู่ : Kamitori, Chuo, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.kamitori.com/
9. ถนนร้านค้าชิโมโทริ (Shimotori Shopping Arcade) / ถนนซันโรดชินชิไก (Sunroad Shinshigai)
ถนนร้านค้าชิโมโทริ คือ ถนนร้านค้ามีร้านอาหารและร้านค้าจิปาถะมากมายเรียงกัน เมื่อเปรียบเทียบกับถนนคามิโทริที่ให้บรรยากาศสงบแล้ว ที่นี่จะคึกคักไปด้วยนักเรียนมัธยมและวัยรุ่นมากกว่า ส่วนถนนซันโรดชินชิไกที่ทอดยาวออกจากสุดถนนชิโมโทริไปทางใต้นั้นเต็มไปด้วยศูนย์รวมความบันเทิงเพียบ! ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ เกมเซ็นเตอร์ และร้านปาจิงโกะ
ที่อยู่ : Shimotori, Chuo, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://shimotoori.com/ (มีระบบแปภาษาอัตโนมัติ)
10. ถนนกินซ่าโดริ (Ginza Dori)
ถนนกินซ่าโดริที่ทอดยาวตัดกลางถนนชิโมโทรินั้นเป็นโซนที่เต็มไปด้วยร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น (อิซากายะ) และบาร์ ผู้คนไม่น้อยต่างแวะมาดื่มคลายเหนื่อยสักแก้วหลังเลิกงานกันที่นี่
11. มิตสึอิกรีนแลนด์ (Mitsui Greenland)
มิตสึอิกรีนแลนด์ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า "กรีนแลนด์" คือ สวนสนุกแห่งเดียวของจังหวัดคุมาโมโตะที่ตั้งอยู่ในเมืองอาราโอะ ภายในพื้นที่แสนกว้างใหญ่เต็มไปด้วยเครื่องเล่นมากมายกว่า 80 ชนิดเลยทีเดียว
ที่อยู่ : Midorigaoka, Arao, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.greenland.co.jp/park/
12. อาโซะฟาร์มแลนด์ (Aso Farm Land)
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
Aso Farm Land (อาโซะฟาร์มแลนด์) คือ ศูนย์รวมความบันเทิงที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านมินามิอาโซะ (Minami Aso Mura) ภายในพื้นที่มีทั้งด่านปีนป่าย สวนสัตว์ ออนเซ็น ร้านอาหาร และโรงแรมที่พักอย่างครบครัน ตัวโรงแรมยังแปลกตาทั้งรูปร่างทรงโดมกลางป่า ไปจนถึงห้องพักแสนมีเอกลักษณ์ด้วยภาพของไดโนเสาร์ แตงโม หรือลูกฟุตบอล แค่มองก็รู้สึกสนุกแล้ว
ที่อยู่ : 5579-3 Kawayo, Minamiaso-mura, Aso, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.asofarmland.co.jp/
13. ดอลฟินมารีนเวิลด์ (Dolphin Marine World)
Dolphin Marine World (ดอลฟินมารีนเวิลด์) คือ สวรรค์สำหรับใครที่อยากชมโลมาธรรมชาติในอามาคุสะเลยค่ะ โดยเราจะได้นั่งเรือประมงออกไปยังเขตทะเลที่มีเหล่าโลมาอาศัยอยู่
มีค่าบริการอยู่ที่ผู้ใหญ่ 2,500 เยน เด็กเล็ก 1,500 เยน
ที่อยู่ : 2977 Itsuwamachi Futae, Amakusa, Kumamoto Prefecture
เว็บไซต์หลัก : http://im-world.jp/ (มีระบบแปลภาษาอัตโนมัติ)
14. สวนสัตว์อาโซะคัดลี่โดมีเนียน (Cuddly Dominion)
สวนสัตว์อาโซะ คัดลี่โดมีเนียน คือ สวนสัตว์ที่จัดแสดงหมีกว่า 7 สายพันธุ์รวมประมาณ 200 ตัวไม่ว่าจะเป็นหมีควายญี่ปุ่น หมีกริซลี หมีสีน้ำตาล และอื่นๆ
แถมยังมีบูธที่สามารถสัมผัสกับน้องหมาและน้องแมวจากทั่วโลกได้ด้วย
ที่อยู่ : 2163 Kurokawa, Aso, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.cuddly.co.jp/
15. สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์เมืองคุมาโมโตะ (Kumamoto City Zoological and Botanical Gardens)
สวนสัตว์และสวนพฤกษศาสตร์เมืองคุมาโมโตะ คือ สวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทคุมาโมโตะด้วยการนั่งรถไฟประมาณ 15 นาที
โดยภายในสวนมีทั้งสวนพฤกษศาสตร์และสวนสนุกอยู่รวมกันภายในที่แห่งเดียวอีกด้วย ที่นี่จึงนับเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจชั้นดีของชาวเมืองคุมาโมโตะเลยทีเดียว
ที่อยู่ : 5-14-2 Kengun, Higashi, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.ezooko.jp/
16. พิพิธภัณฑ์หลุมฝังศพโบราณจังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto Prefectural Ancient Burial Mound Museum)
พิพิธภัณฑ์หลุมฝังศพโบราณจังหวัดคุมาโมโตะ คือ พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ในเมืองยามากะ ภายในจัดแสดงหลุมศพโบราณ "โคะฟุน" จำลองและวัตถุโบราณที่ขุบพบภายในเมือง
ที่อยู่ : 3085 Iwabaru, Kaomachi, Yamaga, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.kofunkan.pref.kumamoto.jp/ (มีลิงค์ไปแผ่นพับภาษาอังกฤษ)
17. สวนโจจุเอ็น วัดโจเซ็นจิ (Joju-en, Suisenji)
สวนโจจุเอ็น คือ สวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทคุมาโมโตะด้วยการนั่งรถรางประมาณ 10 นาทีเท่านั้น โดยมักกจะเรียกกันทั่วไปว่า “สวนซุยเซ็นจิ” ที่นี่เป็นสวนบรรยากาศเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ราว 400 ปีก่อน
ที่อยู่ : 8-1 Suizenji Koen, Chuo, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก :http://www.suizenji.or.jp/
18. สึเอทาเตะออนเซ็น (Tsuetate Onsen)
สึเอทาเตะออนเซ็น คือ ออนเซ็นในเมืองโอกุนิของอาโซะ ขึ้นชื่อเรื่องการอบไอน้ำ และมีเอกลักษณ์อยู่ที่อาคารบ้านเมืองแบบดั้งเดิมที่ตั้งเรียงราย
เว็บไซต์หลัก : https://tsuetate-onsen.com/english
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก
19. คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen)
คุโรคาวะออนเซ็น คือ ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในเมืองโอกุนิของอาโซะ โดยมีเสน่ห์อยู่ที่อาคารบ้านเมืองอันงดงามที่ทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศสมัยเอโดะ
เว็บไซต์หลัก : https://www.kurokawaonsen.or.jp/eng_new/
20. หุบเขาคิคุจิ (Kikuchi Valley)
หุบเขาคิคุจิ คือ แหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเพลินกับเสียงกระแสน้ำไหลท่ามกลางป่าทึบได้อย่างสบายอารมณ์ อุณหภูมิของน้ำโดยเฉลี่ยในฤดูร้อนอยู่ที่เพียง 13 องศา ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับหนีร้อนอันยอดเยี่ยมจากคุมาโมโตะในฤดูร้อนไปโดยปริยาย
ที่อยู่ : 5026 Fukaba, Haru, Kikuchi, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://kikuchikeikoku.jimdo.com/
21. น้ำตกนาเบกะทาคิ (Nabegataki)
น้ำตกนาเบกะทาคิ คือ น้ำตกที่ตั้งอยู่ในเมืองโอกุนิ
เราสามารถเข้าไปทางหลังน้ำตกเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามจากหลังม่านน้ำตกได้
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับน้ำตกนาเบกะทาคิสามารถเข้าไปดูได้จาก
ที่อยู่ : Kurobuchi, Oguni, Aso District, Kumamoto Prefecture
เว็บไซต์หลัก : https://www.town.kumamoto-oguni.lg.jp/q/aview/143/273.html
22. ยอดเขาไดคัมโบ (Daikanbo)
ยอดเขาไดคัมโบ คือ ยอดเขาที่สูงที่สุดของภูเขารอบนอกของเขาอาโซะและทิวเขาทางตอนเหนือของภูเขาไฟอาโซะด้วย
ที่นี่เป็นจุดชมวิวสุดยอดที่สามารถชมวิวภูเขาอาโซะทั้ง 5 (Aso-gogaku) ได้แก่ เขานากาดาเกะ (Mt. Nakadake) เขาเนโกะ (Mt. Neko) เขาทากะ (Mt. Taka) เขาเอโบชิ (Mt. Eboshi) และเขาคิชิมะ (Mt. Kishima) ได้ในแห่งเดียว
ภาพทิวเขาที่เรียงรายกันเป็นแนวยาวนั้นดูราวกับภาพพระนอนอย่างอัศจรรย์เลยทีเดียว
ที่อยู่ : Daikanbo, Yamada, Aso, Kumamoto
23. แม่น้ำคุมะ (Kuma River)
แม่น้ำคุมะ คือ แม่น้ำที่ไหลผ่านบริเวณคุมะและฮิโตโยชิ โดยเป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อในฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถล่องเรือขนาดเล็กในแม่น้ำคุมะชมทัศนียภาพทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำได้เลย
24. ชายหาดโอโคชิกิ (Okoshiki Beach)
ชายหาดโอโคชิกิ คือ ชายหาดที่ตั้งอยู่ตรงชายฝั่งทางตอนเหนือของคาบสมุทรอูโตะ (Uto Penisula)
โดยได้รับเลือกให้เป็น "1 ใน 100 ทัศนียภาพยามเย็นของญี่ปุ่น"และ"1 ใน 100 ชายหาดของญี่ปุ่น" เลยทีเดียว
ตอนน้ำลงเราจะได้เห็นรอยริ้วคลื่นบนผิวหาดโคลนอันงดงามด้วยนะ
ที่อยู่ : Shimoodamachi, Uto , Kumamoto
25. ต้นน้ำชิราคาวะ (Shirakawa Spring Source)
ต้นน้ำชิราคาวะ คือ ต้นน้ำภายในมินามิอาโซะที่มีน้ำผุดขึ้นมากว่า 60 ตันต่อนาทีเลยทีเดียว เราจึงสามารถดื่มและรองน้ำแสนอร่อยนี้ไปได้อย่างอิสระที่จุดตักน้ำ มีค่าเข้าชม 100 เยน
ที่อยู่ : 2040 Shirakawa, Minamiaso-mura, Aso, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://minamiasokanko.jp/suigen-list/shirakawa-suigen.html (มีภาษาอังกฤษ)
26. มิลค์โรด (Milk Road) และเส้นทางสู่ลาพิวต้า (Laputa Road)
ถนนมิลค์โร้ด คือ ถนนที่ทอดยาวตั้งแต่เขารอบนอกทางใต้ของภูเขาอาโซะไปจนทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ
ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวสุดยอดที่เรียกกันว่า "เส้นทางสู่ลาพิวต้า (Laputa Road)" ทิวทัศน์ที่เห็นจากจุดนี้เหมือนกับเกาะลอยฟ้าที่ปรากฏอยู่ในอนิเมะของสตูดิโอจิบลิเรื่อง "ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา" (Laputa: Castle in the Sky) เลยทีเดียว
ที่อยู่ : Kario, Aso, Kumamoto
27. คุสะเซ็นริกะฮามะ (Kusa Senrigahama)
คุสะเซ็นริกะฮามะ คือ ทุ่งหญ้าเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 กิโมเมตรทอดยาวอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาเอโบชิ
เราจะได้เห็นบรรดาม้าที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระออกมากินหญ้าอย่างสบายใจ แถมเรายังสามารถลองขี่ม้าได้ด้วยนะ
ที่อยู่ : Kusasenri, Aso, Kumamoto
งานอีเว้นท์และเทศกาลในคุมาโมโตะ
ในคุมาโมโตะเต็มไปด้วยงานเทศกาลดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่อดีตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานเทศกาลอุชิบูกะไฮยะ (Ushibuka Haiya Festival) และ งานเทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าฟูจิซากิฮาจิมังงู (The Great Festival of Fujisaki Hachimangu Shrine)
เดือนเมษายน : งานเทศกาลอุชิบูกะไฮยะ (Ushibuka Haiya Festival)
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
งานเทศกาลอุชิบูกะไฮยะ คือ งานเทศกาลสุดคึกคักที่จะมีบรรดาสาวๆ ใส่ชุดกิโมโนออกมาเต้นรำเข้ากับจังหวะเพลงไฮยะบุชิ (Haiya Bushi) ดั้งเดิมซึ่งสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยอุชิบุกะเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคุมาโมโตะ ท่วงท่าในการเต้นรำจึงมีการผสมผสานท่าทางคล้ายกับการชักผ้าใบเรือและการดึงอวนด้วย
ที่อยู่ : Ushibuka Haiya Ohashi Bridge, Ushibuka, Amakusa, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://ushibuka-haiya.com/ (มีภาษาอังกฤษ)
เดือนสิงหาคม : งานเทศกาลโคมไฟยามากะ (Yamaga Lantern Festival)
งานเทศกาลโคมไฟยามากะ คือ งานเทศกาลประจำฤดูร้อนที่สืบทอดต่อกันมาในคุมาโมโตะตั้งแต่อดีต ขึ้นชื่อเรื่อง “ระบำเซ็นนินโทโรโอโดริ (Sennin Toro Odori)” ที่หญิงสาวจะออกมาร่ายรำตามเพลงโยเฮโฮะบูชิ (Yoheho Bushi) โดยมัดโคมไฟติดเอาไว้บนศีรษะ บอกเลยว่าเป็นงานเทศกาลงดงามชวนฝันจริงๆ ค่ะ
ที่อยู่ : Yamaga Elementary School, 351 Yamaga, Yamaga, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://www.y-kankoukyoukai.com/event.php
เดือนกันยายน : งานเทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าฟูจิซากิฮาจิมังงู (The Great Festival of Fujisaki Hachimangu Shrine)
งานเทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าฟูจิซากิฮาจิมังงูจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกันยายน (วันเคารพผู้สูงอายุ) เป็นประจำทุกปี
ภายในงานเราสามารถชมขบวนพาเหรดทหารย้อนยุค “ซุยเบียว (Zuibyo)” จูงม้าประดับตกแต่งในชุดเทศกาลเดินไปรอบเมืองพลางส่งเสียง “โดไค โดไค”
ขบวนพาเหรดสุดคึกคักที่เคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงเครื่องเป่าทองเหลืองและกลองไทโกะนับเป็นสัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนของคุมาโมโตะเลยก็ว่าได้
ที่อยู่ : Fujisaki Hachimangu, 3-1 Igawabuchi, Chuo, Kumamoto, Kumamoto
เว็บไซต์หลัก : http://fujisakigu.or.jp/reisai/
เดือนกันยายน - เดือนพฤศจิกายน : เทศกาลปราสาท (Castle Festival)
เทศกาลปราสาท คือ งานเทศกาลที่จัด ณ ปราสาทคุมาโมโตะ มีการแสดงโชว์ทั้งศิลปะการต่อสู้โบราณ กลองไทโกะ การยิงธนูบนหลังม้า และละครโนห์
ที่อยู่ : 1-1 Honmaru, Chuo Ward, Kumamoto, Kumamoto Prefecture
เว็บไซต์หลัก : https://kumamoto-guide.jp/oshiromatsuri/
อาหารท้องถิ่นของคุมาโมโตะ
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวคุมาโมโตะต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารท้องถิ่นของคุมาโมโตะเขาอร่อยจริงๆ!!
สำหรับใครที่มาเที่ยวคุมาโมโตะห้ามพลาดลิ้มลองอาหารท้องถิ่นอย่างทงคตสึราเม็งและซุปดาโกะจิรุกันนะคะ
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารแนะนำดังต่อไปนี้อีกด้วย
ทงคตสึราเม็ง (Tonkotsu Ramen)
ในฮากาตะและคาโกชิม่าก็มีทงคตสึราเม็งเหมือนกันก็จริง แต่ทงคตสึราเม็งของคุมาโมโตะมีเอกลักษณ์อยู่ที่น้ำซุปซึ่งนอกจากได้มาจากกระดูกหมูแล้วก็ยังใส่กระดูกไก่เข้าไปด้วย แถมยังเสริมความอร่อยบนหน้าราเม็งที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ด้วยกระเทียมคั่วเกรียม
ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นราเม็งเฉพาะตัวของคุมาโมโตะที่มีรสชาติละมุนกว่าของฮากาตะและคาโกชิม่า แต่มีกลิ่นรสเข้มข้นของกระเทียม
ซาชิมิเนื้อม้า : บาซาชิ (Basashi)
บาซาชิ คือ ซาชิมิเนื้อม้าหรือเนื้อม้าดิบนั่นเอง เนื้อม้านั้นนุ่มกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ แถมยังไม่มีกลิ่นคาวอีกด้วย
โดยนิยมจิ้มกับโชยุหวานเฉพาะของคิวชู ทานพร้อมกับกระเทียมหรือขิง
ไทปีเอ็น (Taipiien)
แต่เดิมแล้วไทปีเอ็นเป็นอาหารท้องถิ่นของเมืองฝูโจว ประเทศจีน ว่ากันว่าเผยแพร่เข้ามาในคุมาโมโตะและนางาซากิจากชาวจีนโพ้นทะเลในสมัยเมจิ โดยเป็นเมนูซุปสไตล์จีนรสชาติเบาๆ ที่ใส่วุ้นเส้น ผักกาดขาว และไข่ทอด
ซุปดาโกะจิรุ (Dagojiru)
ดาโกะ หมายถึง "ดังโกะ" ในภาษาถิ่นคุมาโมโตะ ดังนั้น “ดาโกะจิรุ” ก็คือเมนูดังโกะปั้นจากแป้งสาลีใส่ลงในน้ำซุปที่ได้รสชาติจากน้ำซุปดาชิ (น้ำซุปสต๊อกของญี่ปุ่น) นั่นเอง วัตถุดิบอื่นๆ ที่ใส่ได้แก่แครอท เนื้อไก่ เห็ดหอม ต้นหอมญี่ปุ่น และอื่นๆ
เมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นอาหารแห่งจิตวิญญาณของชาวเมืองคุมาโมโตะที่ทั้งอร่อยและอุดมไปด้วยสารอาหารเลย
คาราชิเร็นคง (Karashi Renkon)
คาราชิเร็นคง คือ เมนูมิโซะจากข้าวบาร์เลย์ผสมผงมัสตาร์ดญี่ปุ่นใส่ลงในแต่ละรูของรากบัว จากนั้นจึงชุปแป้งภายนอกและนำไปทอด เนื่องจากมีอายุสั้นมากเพียง 2 – 3 วันเท่านั้น อาจไม่เหมาะกับซื้อเป็นของฝากเท่าไหร่ แต่อยากแนะนำลองให้ซื้อรับประทานเลย
เนื้อวัววะกิวขนดำและวัวอากะ (Akagyu)
เนื้อของวัวอากะและวัวดำญี่ปุ่นที่เลี้ยงกันภายในโซนอาโซะของจังหวัดคุมาโมโตะนั้นมีเอกลักษณ์อยู่ที่มีไขมันชั้นดีและมีเนื้อแดงแสนนุ่มนี่แหละ โดยสามารถหาทานได้ตามร้านอาหารและร้านสเต็กในคุมาโมโตะ
ของฝากจากคุมาโมโตะ
ขนม
ส่วนขนมแนะนำสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากเลย ได้แก่ โดนัทแท่งสัมผัสกรอบเป็นเอกลักษณ์ "โคคุโต โดนัท โบ (Kokuto Donut Bo)" ขนมจากถั่วแดงขึ้นชื่อประจำจังหวัด "โฮมาเระโนะจินไดโกะ (Homare no jindaiko) และ มุชะกาเอชิ (Musha gaeshi) ขนมผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตกด้วยแป้งพายสอดไส้ถั่วแดงกวนเนื้อเนียน
ศิลปหัตถกรรม
ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมของจังหวัดคุมาโมโตะมีทั้ง งานลงรักปิดทองฮิโกะโซกัง (Higo Zogan) โคมไฟยามากะโทโร (Yamaga Toro) กล่องลายดอกไม้ฮานะเทะบาโกะ (Hanatebako) และ ของเล่นไม้รูปไก่ฟ้าคิจิอุมะ (Kijiuma)
เอื้อเฟื้อภาพโดย : จังหวัดคุมาโมโตะ
งานลงรักปิดทองฮิโกะโซกังเดิมทีคือเทคนิคการตกแต่งอาวุธเครื่องป้องกัน เช่น สึบะ (กระบังดาบ) ของดาบญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์อยู่ที่ความละเอียดประณีตและสง่างาม ในปัจจุบันมีการนำเทคนิคไปใช้ทำเครื่องประดับอย่างสร้อยคอ ที่หนีบเนคไท และอื่นๆ กันแล้ว
โคมไฟยามากะโทโรนั้นมีขนาดใหญ่ก็จริง แต่ก็มีจุดเด่นอยู่ที่ความเบาเพราะว่าทำมาจากกระดาษ จึงเหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากตอนมาเที่ยวยามากะสุดๆ
กล่องลายดอกไม้ฮานะเทะบาโกะและของเล่นไม้รูปไก่ฟ้าคิจิอุมะเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นฮิโตโยชิ โดยเป็นผลงานศิลปะดั้งเดิมที่สืบทอดต่อกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 800 ปี
ในช่วงยุคกลางของญี่ปุ่นได้เกิดสงครามแย่งชิงอำนาจเหมือนกับสงครามดอกกุหลาบของประเทศอังกฤษ นั่นก็คือสงครามระหว่างตระกูลเฮเคะ (ไทระ) และตระกูลเก็นจิ (มินาโมโตะ) นั่นเอง ในศึกยุทธนาวีแห่งดันโนะอุระซึ่งเป็นการรบสุดท้ายระหว่างสองตระกูล บรรดาผู้คนของฝั่งเฮเคะที่พ่ายแพ้ต่างพากันหนีมาหลบซ่อนอยู่ภายในบริเวณฮิโตโยชิ พวกเขาหวนคิดถึงวิถีชีวิตหรูหราในเมืองหลสงจนเริ่มสร้างสรรค์กล่องฮานะเทะบาโกะและของเล่นไม้คิจิอุมะขึ้นมา จึงเรียกได้ว่าเป็นผลงานศิลปหัตถกรรมที่ทำให้สัมผัสถึงความอบอุ่นที่แฝงอยู่ภายใต้ความสวยงามจริงๆค่ะ
สินค้าตัวการ์ตูนหมีคุมะมง (Kumamon)
ในปัจจุบันต้องบอกว่าขนมและสินค้าตัวการ์ตูนจากเจ้าหมี "คุมะมง" ซึ่งเป็นมาสคอตประจำท้องถิ่นของจังหวดคุมาโมโตะนั้นกำลังเป็นที่นิยมสุดๆ ไปเลยค่ะ
โรงแรมที่พักในคุมาโมโตะ
ภายในเมืองคุมาโมโตะเต็มไปด้วยที่พักมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงแรมธุรกิจไปจนถึงโรงแรมแคปซูล
ส่วนคุโรคาวะออนเซ็นและสึเอทาเตะออนเซ็นเป็นที่ตั้งของเรียวกังติดออนเซ็นบรรยากาศดั้งเดิม บางแห่งก็เป็นเรียวกังราคาถูก ราคาคืนละตั้งแต่ 5,000 เยน / คน ขึ้นไปเท่านั้น ถ้าเกิดใครลองพักตามเรียวกังภายในหมู่บ้านออนเซ็น รับรองว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตสไตล์ญี่ปุ่นกันอย่างจุใจแน่นอน
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับสึเอทาเตะออนเซ็นสามารถเข้าไปดูได้จาก
สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสำหรับเที่ยวคุมาโมโตะ
คุมาโมโตะมีอุณหภูมิสูงกว่าโตเกียวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูร้อนบางวันอาจต้องเผชิญกับอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเลยทีเดียว
สำหรับคนที่เพิ่งเคยมาเที่ยวคุมาโมโตะเป็นครั้งแรกอาจตกใจในอากาศร้อนชื้นของสภาพภูมิประเทศรูปแอ่งล้อมรอบด้วยภูเขาสูงกัน ดังนั้นในฤดูร้อนจึงขอแนะนำให้เตรียมตัวป้องกันแสงแดดและการเป็นลมแดดกันมาให้พร้อม
ในฤดูหนาวที่นี่แทบไม่มีหิมะตกเลยก็จริง แต่อุณหภูมิอาจต่ำลงไปเกือบ 0 องศาได้ จึงอย่าประมาทและเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้ดี
โดยเฉพาะในโซนอาโซะจะมีอุณภูมิต่ำกว่าตัวเมืองคุมาโมโตะประมาณ 3 – 5 องศา ขอแนะนำให้พกหมวกและเสื้อโค้ทหนามาด้วยนะ
ฤดู | อุณหภูมิต่ำสุด | อุณหภูมิสูงสุด |
ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์) |
1.2 | 13 |
ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม) |
5.6 | 25.6 |
ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม) |
19.8 | 33.2 |
ฤดูใบไม้ร่วง (กันยนยา - พฤศจิกายน) |
8.3 | 29.9 |
*หน่วยเป็นองศาเซลเซียส ข้อมูลโดยเฉลี่ยจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)
ภาษาถิ่นคุมาโมโตะพื้นฐาน
ใครที่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นน่าจะสังเกตได้ว่าภาษาญี่ปุ่นที่ใช้กันในคุมาโมโตะนั้นมีความแตกต่างจากภาษาญี่ปุ่นมาตรฐานที่ใช้กันในโตเกียวเล็กน้อย
ในคุมาโมโตะมีภาษาถิ่นที่เรียกว่า “คุมาโมโตะเบ็ง” ซึ่งยังใช้กันในจังหวัดคุมาโมโตะจนปัจจุบัน
ลองมาเรียนรู้ภาษาถิ่นคุมาโมโต้เอาไว้สักนิด อาจทำให้เที่ยวคุมาโมโตะได้อย่างสนุกสนานมากขึ้นก็ได้นะ!
งั้นเรามารู้จักกับภาษาถิ่นคุมาโมโตะที่ใช้บ่อยๆ กันดีกว่าค่ะ
よか (โยกะ)
よか (โยกะ) มีความหมายทั้ง “ดี” และ “ไม่เอา / ไม่จำเป็น” จะเป็นความหมายไหนต้องดูจากบริบท
ถ้าเกิดมีคนบอกว่า “โยกะเนะ” โดยส่วนใหญ่แล้วจะหมายถึง “ดีจังเลยนะ”
なか (นากะ)
なか (นากะ) หมายถึง “ไม่มี / ไม่...” โดยใช้เวลาต้องการบอกว่าไม่มีอะไรบางอย่างหรือปฏิเสธบางเรื่อง
ตัวอย่างที่ 1 : 醤油のなか (โชยุโนะนากะ : ไม่มีโชยุ)
ตัวอย่างที่ 2 : うもなか (อุโมะนากะ : ไม่อร่อย)
うまか (อุมากะ)
うまか (อุมากะ) หมายถึง “อร่อย” ถ้าเกิดใครพูดชมว่า"たいぎゃ、うまか (ไทเกียะ อุมากะ : อร่อยมาก)" ตามร้านอาหารในคุมาโมโตะ รับรองว่าพนักงานร้านจะต้องดีใจกันอย่างแน่นอน
なんば (นัมบะ)
なんば (นัมบะ) หมายถึง “... อะไร” โดยใช้ในประโยคแนว「なんばしよっと? (นัมบะชิยตโตะ? : ทำอะไรอยู่?)」
... けん (เค็ง) / ... だけん (ดะเค็ง)
... けん (เค็ง) / ... だけん (ดะเค็ง) คือ คำศัพท์ที่ตรงกับคำว่า because ในภาษาอังกฤษหรือ “เพราะว่า” ในภาษาไทยเรานั่นเอง เราจะใช้คำนี้เวลาต้องการบอกเหตุผล
ตัวอย่าง : うまかけん、食べなっせ。(อุมากะเค็ง ทาเบนัตเสะ : อร่อยนะ ลองกินดูสิ)
たいぎゃ (ไทเกียะ)
たいぎゃ (ไทเกียะ) หมายถึง “มาก” หรือ “พอประมาณ” "たいぎゃよか (ไทเกียะ โยกะ)" จึงหมายถึง “ดีมาก”
แต่ถ้าเกิดพูดว่า "たいぎゃにしときなさい (ไทเกียะ นิ ชิโตคินาไซ)" จะหมายถึง “ทำแต่พอประมาณ (อย่าทำอะไรจนมากเกินไป)” นั่นเอง
とっとっと (ทตทตโตะ)
とっとっと (ทตทตโตะ) หมายถึง “คุณมี / คุณเป็นเจ้าของรึเปล่า” โดยส่วนใหญ่มักใช้สอบถามว่าคนนั้นมีอะไรบางอย่างหรือเป็นเจ้าของสถานที่นั้นๆ รึเปล่า
ตัวอย่าง : こことっとっと? (โคโคะ ทตทตโตะ? : คุณจองที่ตรงนี้เอาไว้รึเปล่า?)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
บทสรุป : เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวคุมาโมโตะ
ช่วงเวลาที่อยากแนะนำให้มาเที่ยวจังหวัดคุมาโมโตะมากที่สุด คือ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่มีอากาศสบายๆ ค่ะ แถมในฤดูใบไม้ร่วง ริมแม่น้ำคุมะจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีงดงามมาก
หรือจะเป็นในช่วงงานเทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงของศาลเจ้าฟูจิซากิฮาจิมังงูก็น่าเที่ยวเช่นเดียวกัน
โดยในวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกันยายน (วันเคารพผู้สูงอายุ) จะมีการเดินขบวนพาเหรดทหาร "ซุยเฮียว" ซึ่งบอกเลยว่าเป็นงานเทศกาลสุดคึกคักสมกับฉายา "อาณาจักรแห่งไฟ" ของคุมาโมโตะ งานนี้ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง!
“คุมาโมโตะ” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเพลิดเพลินกับทั้งทัศนียภาพอันงดงามและอาหารรสเลิศได้พร้อมกันในแห่งเดียว
อย่าลืมเตรียมตัวรับมือกับความร้อนและความหนาวมาให้พร้อม แล้วมาตะลุยเที่ยวคุมาโมโตะกันให้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลย!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Photos by Pixta
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง