Start planning your trip
21 ที่เที่ยวทั่วเซนได พร้อมการเดินทาง อาหาร งานเทศกาล (Sendai)
บทความแนะนำ เซนได เมืองที่ผสมผสานระหว่างเมืองใหญ่และธรรมชาติ โดยเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับสัมผัสประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทาง, ข้อมูลโซนต่างๆ, แหล่งท่องเที่ยว และแผนเที่ยวเซนไดกันค่ะ
เซนได
เมืองเซนได จ.มิยางิตั้งอยู่ใน ภูมิภาคโทโฮคุ ของญี่ปุ่น โดยเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุและเป็นศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของภูมิภาคนี้เลยก็ว่าได้
ประวัติศาสตร์ของที่นี่เริ่มต้นขึ้นหลังจากนายพลผู้ยิ่งใหญ่ “มาซามูเนะ” ได้ก่อสร้างปราสาทเซนได (ปราสาทอาโอบะ) ขึ้นในปี 1601 ด้วยความที่เป็นนายพลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้มีผู้คนเดินทางมาเยือนสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ “ดาเตะ มาซามูเนะ” กันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
เมืองเซนไดรายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันเขียวขจีถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น “เมืองแห่งป่า” เลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังเต็มไปด้วยแหล่งออนเซ็นอย่าง “อาคิอุออนเซ็น” และ “ซาคุนามิออนเซ็น” รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่าง “น้ำตกอาคิอุ” และ “น้ำตกโฮเมชิจูฮาจิทาคิ” ด้วย แถมเนื่องจาก “มัตสึชิมะ” 1 ใน 3 ทัศนียภาพอันงดงามของญี่ปุ่นตั้งอยู่ห่างจากเซนไดประมาณนั่งรถไฟเพียง 25 นาทีเท่านั้น จึงนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!
เซนไดเต็มไปด้วยของขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็นกิวตัน (ลิ้นวัว) หรือซุนดะโมจิ ทำให้มีผู้คนเดินทางมาเพื่อลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศกันเป็นจำนวนมาก ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับเซนไดและบริเวณโดยรอบเพื่อให้ทุกคนสัมผัสถึงเสน่ห์ของเซนไดได้อย่างเต็มอิ่มกันค่ะ ^^
สารบัญ
1.วิธีการเดินทางเข้าเมืองเซนได
2.ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองเซนไดและจ.มิยางิ
3.ข้อมูลโซนต่างๆของเซนได
4.21แหล่งท่องเที่ยวในเมืองเซนได จ.มิยางิ
5.แหล่งช้อปปิ้งในเซนได
6.แผนเที่ยวเซนได
7.งานอีเว้นท์ในเซนได
8.โรงแรมที่พักในเซนได
9.อาหารท้องถิ่นของเซนได
10.ของฝากจากเซนได
11.สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวเซนได
12.ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว
วิธีการเดินทางเข้าเมืองเซนได
วิธีการนั่งชินคันเซ็นมาจากโตเกียว
ในกรณีที่ใช้บริการ Tohoku Shinkansen "Hayabusa" ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารแบบระบุที่นั่งธรรมดา 11,200 เยน ส่วนในกรณีที่ใช้บริการ "Yamabiko" ใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมง 50 นาที ค่าโดยสาร 10,890 เยน เนื่องจากถ้าเกิดใช้ Japan Rail Pass เราจะสามารถใช้บริการชินคันเซ็นแบบระบุที่นั่งได้ จึงขอแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปยังเมืองอื่นๆนอกจากเซนไดด้วยเลยจ้า...
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับชินคันเซ็นสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「รวมวิธีการซื้อตั๋วและขึ้นรถไฟ ชินคันเซ็น รถบัส รถบัสด่วน และรถแท็กซี่」
- ซื้อตั๋วเจอาร์พาสสำหรับฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นประเภทต่างๆ ที่ KLOOK
- ซื้อตั๋วเจอาร์พาสที่ KLOOK มีทั้งแบบ 7 วัน 14 วันและ 21 วันให้เลือก!
- ซื้อตั๋วรถไฟชินคันเซ็นระหว่างโตเกียวและเซ็นไดกับ Voyagin
วิธีการนั่งรถบัสมาจากโตเกียว
บริษัทรถบัสกว่า 10 แห่ง เช่น JR Bus Tohoku และ Miyagi Kotsu นั้นให้บริการทั้งรถบัสกลางวันและรถบัสกลางคืน ระยะเวลาในการเดินทางโดยเฉลี่ยประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและวันที่เดินทางตกประมาณ 2,000 - 8,000 เยน
วิธีการนั่งเครื่องบินมาจากโตเกียว
จากสนามบินนาริตะมีเครื่องบินของสายการบิน ANA บินให้บริการ 2 ลำ / วัน ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารที่นั่งธรรมดาประมาณ 21,000 เยน ค่าโดยสารลดพิเศษที่สามารถซื้อได้ก่อนวันบินภายใน 3 วันประมาณ 16,000 เยน ค่าโดยสารลดพิเศษแบบจองล่วงหน้านานประมาณ 6,000 เยน~ จากสนามบินเซนไดมีรถไฟ Sendai Airport Line วิ่งให้บริการ โดยเราสามารถนั่งรถไฟมาถึงสถานีเซนไดได้โดยใช้เวลา 25 นาที ในกรณีที่เป็นรถไฟเร็วใช้เวลา 17 นาที ค่าโดยสาร 650 เยน
ข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวภายในเมืองเซนไดและจ.มิยางิ
JR
นอกจากจะมี Tohoku Shinkansen วิ่งให้บริการภายในจังหวัดแล้วก็ยังมี Tōhoku Main Line, Senseki Line แสนสะดวกสำหรับการเดินทางไปยังชายฝั่งมัตสึชิมะ และ Senzan Line ที่วิ่งให้บริการไปถึงยามากาตะอีก 3 สาย นอกจากนี้ Senseki-Tōhoku Line ก็ยังวิ่งให้บริการผ่าน Tōhoku Main Line ไปถึงอิชิโนะมากิเลยทีเดียว
รถบัส
กรมขนส่งเมืองเซนไดให้บริการรถบัสเมืองจากสถานีเซนได โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ใครๆก็สามารถใช้บริการได้ในราคาสมเหตุสมผลนี่แหละ บริเวณโดยรอบสถานีเซนไดมี「เฮียคุเอ็นพัคขุ」ซึ่งเป็นเขตสุดคุ้มที่สามารถใช้บริการรถบัสได้ในราคาเพียง 100 เท่านั้น ถึงแม้จะเป็นโซนโดยรอบ 3 สถานีรถไฟอย่าง Yagiyama Zoological Park Station, Yakushido Station และ Arai Station ของ Tōzai Line ก็สามารถใช้บริการรถบัสได้ในราคา 100 เยนตลอดสาย
และพาหนะแสนสะดวกสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุดเลยก็คือ Loople Sendai รถบัสสุดเก๋ไก๋สไตล์ย้อนยุคนั่นเอง โดยเป็นรถบัสที่วิ่งให้บริการรับ-ส่งตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆไม่ว่าจะเป็นซุยโฮเด็นและร่องรอยปราสาทเซนไดตรงใจกลางเมืองเซนได
วันธรรมดาจะวิ่งให้บริการทุกๆ 20 นาที ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะวิ่งให้บริการทุกๆ 15 นาที ค่าโดยสาร 260 เยนตลอดสาย, LoopleSendai 1-Day Pass Ticket 620 เยน, LoopleSendai・Subway 1-Day Pass Ticket 900 เยน เนื่องจากตั๋ว 1-Day Pass Ticket นั้นมาพร้อมกับส่วนลดพิเศษมากมาย จึงบอกเลยว่าคุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวสุดๆ โดยสามารถหาซื้อได้ตามสถานีจอดรถบัสของสถานีเซนได ประตูฝั่งตะวันตก, เลียบทางรถไฟ และโรงแรม
รถไฟใต้ดิน
กรมขนส่งเมืองเซนไดให้บริการรถไฟใต้ดินทั้งหมด 2 สายด้วยกันประกอบด้วย Namboku Line และ Tozai Line โดยมีศูนย์กลางเป็นสถานีเซนได ภายในโซนโดยรอบสถานีเซนได 3 สถานีค่าโดยสาร 200 เยนตลอดสาย
Sendai Marugoto Pass
Sendai Marugoto Pass คือ ตั๋วบุฟเฟ่ต์ขึ้น-ลง JR, รถไฟใต้ดิน, รถบัส, Sendai Airport Transit, Abukuma Express ภายในโซนที่กำหนดไว้ได้อย่างไม่จำกัดภายในระยะเวลา 2 วัน นอกจากเราจะสามารถใช้บริการ Loople Sendai ได้แล้วก็ยังมีส่วนลดพิเศษต่างๆอีกมากมายในราคาสุดคุ้มเพียง 2,670 เยนเท่านั้น โดยโซนที่สามารถใช้ได้รวมถึง “มัตสึชิมะ” 1 ใน 3 ทัศนียภาพอันงดงามของญี่ปุ่น, ปราสาทชิโรอิชิ, วัดยามะเดระ(วัดริดชาคุจิ)ในยามากาตะ, ซาคุนามิออนเซ็น และอาคิอุออนเซ็นด้วย
โดยสามารถหาซื้อได้ตามเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วภายในสถานีรถไฟหลักๆของ JR East ภายในโซน, วิวพลาซ่า และตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติของ Sendai Airport Station
เรือเฟอร์รี่
จากสนามบินเซนไดนอกจากจะมีเรือเฟอร์รี่วิ่งให้บริการไปถึงท่าเรือโทมาโคไมโคในฮอกไกโดเป็นประจำทุกวันแล้วก็ยังมีเรือเฟอร์รี่ที่วิ่งให้บริการไปถึงท่าเรือนาโงย่าวันเว้นวันอีกด้วย โดยระยะทางไปถึงท่าเรือโทมาโคไมโค 15 ชั่วโมง ค่าโดยสารตั๋วชั้นสอง 7,200 เยน~ ส่วนระยะทางไปถึงนาโงย่า 21 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสารตั๋วชั้นสอง 6,700 เยน~
รถแท็กซี่
ในเมืองเซนไดมีบริษัทรถแท็กซี่กว่า 12 แห่งด้วยกัน ที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่องมีรถแท็กซี่วิ่งให้บริการภายในเมืองเป็นจำนวนมาก ค่าโดยสารตั้งต้นของแท็กซี่ขนาดกลางภายในเมืองเซนได 680 เยน
รถเช่า
ถ้าเกิดใช้บริการรถเช่า เราจะสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆทั้งภายในเมืองเซนไดและนอกเมืองเซนไดได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นมัตสึชิมะ, ซาโอ และเคะเซ็นนูมะ เป็นต้น บริเวณโดยรอบสถานีเซ็นไดมีสำนักงานรถเช่าให้บริการกว่า 20 แห่งเลยทีเดียว
ข้อมูลโซนต่างๆของเซนได
โซนใจกลางเมืองเซนได
โซนใจกลางเมืองเซนไดที่เต็มไปด้วยป่าไม้เขียนขจีถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น “เมืองแห่งป่า” แห่งนี้มีประวัติศาสตร์แรกเริ่มจากการสร้างเมืองของ “ดาเตะ มาซามูเนะ” จนในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็น เมืองรอบปราสาท ของปราสาทเซนได โซนนี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นปราสาทเซนได, “ซุยโฮเด็น” สุสานสักการะบูชาดาเตะ มาซามูเนะ, ถนนต้นสนเคยากิบนถนนโจเซ็นจิโดริ นอกจากนี้ ภายในเมืองเซนไดก็ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารที่สามารถลิ้มลองอาหารทะเลรสเลิศและของขึ้นชื่ออย่างกิวตันได้ด้วย
โซนอาคิอุออนเซ็น
บริเวณโดยรอบแม่น้ำนาโตริที่ไหลผ่านใจกลางอาคิอุออนเซ็นมีทัศนียภาพอันแสนงดงามของหุบเขาลึกกว่า 20 เมตรและแหลมไรไรเคียว โดยจะมีการไลท์อัพอย่างสวยงามในฤดูใบไม้ผลิ ต้นน้ำนาโตริเป็นที่ตั้งของน้ำตกอาคิอุ 1 ใน 3 น้ำตกขึ้นชื่อของญี่ปุ่น คู่กับ น้ำตกฟุคุโรดะ จ.อิบารากิ และน้ำตกนาจิ จ.วากายาม่า และยังมีอาคิอุโอทาคิฟุโดซอน และสวนพฤกษศาสตร์อาคิอุโดทาคิ เพื่อนๆลองแวะมาแช่ออนเซ็นเท้าผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและลิ้มลองของขึ้นชื่ออย่าง “อาคุอุโอฮากิ” ที่นี่กันดูมั้ยเอ่ย?
โซนซาคุนามิออนเซ็น
โซนนี้ขึ้นชื่อเรื่องน้ำร้อนที่ผุดขึ้นมาจากแม่น้ำฮิโรเสะ บริเวณต้นแม่น้ำฮิโรเสะเป็นที่ตั้งของน้ำตกโฮเมชิจูฮาจิทาคิ ส่วนบริเวณปลายแม่น้ำเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นวิสกี้นิกกะ นอกจากนี้ก็ยังมี “วัดโกคุราคุซังไซโฮจิ” ที่มีเจดีย์ห้าชั้นอันแสนงดงามซึ่งก่อสร้างขึ้นในปี 1706 และเมืองมอนเซ็นอันแสนคึกคักอีกด้วย เราสามารถชมโรงงานผลิตตุ๊กตาโคเคชิดั้งเดิมได้แบบใกล้ชิด แถมยังมีขนมขึ้นชื่ออย่าง “ซึซึมิอาเกะ” ของร้านซึซึมิยะซึ่งเป็นขนมญี่ปุ่นรสชาติหวานน้อยสอดไส้วอลนัทกวนรสเลิศอีกต่างหาก
โซนมัตสึชิมะ
“มัตสึชิมะ” แห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 ทัศนียภาพอันงดงามของญี่ปุ่น โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามบนเรือสำราญได้ที่นี่เลย โดยประกอบด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงามเลื่องชื่อถึง 4 อย่างด้วยกันเรียกว่า “โซคัง” “เรคัง” “อิคัง” และ “ยูคัง” วัดซุยกันจิที่ดาเตะ มาซามูเนะสั่งให้ช่างฝีมือระดับแนวหน้ากว่า 130 คนสร้างขึ้นในปี 1609 แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมสุดขลังที่ใช้รูปแบบโมโมยามะช่วงปลายศตวรรษที่ 16 มากที่สุด โดยภายในปราสาทมีทั้ง ประตูบานเลื่อนกรอบไม้ และภาพอันงดงามระหว่างผนัง
นอกจากนี้ วัดเอ็นซืออินซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในชื่อ “วัดแห่งกุหลาบ” นั้นมีการวาดรูปดอกกุหลาบตะวันตกที่ว่ากันว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเอาไว้ด้านในบานประตูขวาของตู้ประดิษฐานพระพุทธรูป บอกเลยว่าสวนของที่นี่งดงามมากค่ะ ส่วนเรื่องอาหารการกินก็พลาดไม่ได้ เพราะว่าเราสามารถดื่มด่ำกับปลาสดใหม่ เช่น ของขึ้นชื่ออย่างหอยนางรม ที่ “ตลาดปลามัตสึชิมะ” ได้ด้วยจ้า...
〜21 แหล่งท่องเที่ยวในเมืองเซนได จ.มิยางิ〜
<ร่องรอยทางประวัติศาสตร์>
1. Sendai Castle (ปราสาทเซนได)
Sendai Castle (ปราสาทเซนได) คือ ปราสาทซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของ “ดาเตะ มาซามูเนะ” ซึ่งเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ปราสาทอาโอบะ” โดยเป็นป้อมปราการธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยหน้าผาทางฝั่งตะวันออกและใต้ จากร่องรอยปราสาท เราสามารถชมวิวเมืองเซนไดและมหาสมุทรแปซิฟิกได้
ที่อยู่:1-2 Kawauchi, Aoba-ku, Sendai Miyagi Prefecture
เว็บไซต์หลัก:http://www.sendaijyo.com/
2. Taga Castle (ร่องรอยปราสาททากะ)
ภายในปราสาทอันแสนกว้างใหญ่กว่า 900 ตารางเมตรซึ่งสร้างขึ้นในปี 724 แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของสำนักงานรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่จัดงานพิธีและแบกรับงานด้านการบริหารที่สำคัญ โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นคู่กับร่องรอยพระราชวังเฮโจ จ.นาราและร่องรอยดาไซฟุ จ.ฟุกุโอกะ
ที่อยู่:Ichikawa, Tagajo, Miyagi Prefecture
3. Zuihōden (ซุยโฮเด็น)
Zuihōden (ซุยโฮเด็น) แห่งนี้เป็นสุสานสักการะบูชาดาเตะ มาซามูเนะ โดยก่อสร้างขึ้นในรูปแบบคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมโมโมยามะสไตล์หรูหราไฮโซของช่วงปลายศตวรรษที่ 16
4. Ōsaki Hachimangū (โอซากิฮาจิมังงู)
Ōsaki Hachimangū (โอซากิฮาจิมังงู) คือ ศาลเจ้าที่สร้างขึ้นโดยดาเตะ มาซามูเนะในปี 1607 โดยสร้างทั้งวิหารหลัก, อิชิโนะมะ (ส่วนกลางระหว่างวิหารหลักและหน้าวิหารหลัก) และที่สำหรับกราบไหว้หน้าวิหารหลักเป็นหนึ่งเดียวกัน ที่นี่ก็มีเอกลักษณ์เป็นรูปแบบการก่อสร้างแบบโมโมยามะเช่นเดียวกัน
5. Tsuriishi Shrine (ศาลเจ้าทสึริอิชิ)
Tsuriishi Shrine (ศาลเจ้าทสึริอิชิ) คือ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในอิชิโนะมากิ ว่ากันว่าชื่อของศาลเจ้ามีที่มาจากหินขนาดยักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูราวกับว่าถูกตกขึ้นมาด้วยเชือกชิเมนาวะ
ที่อยู่:Jiotsupa , Jusanhama, Kitakamicho Ishinomaki, Miyagi Prefecture
<สวนสนุก>
6. Sendai Anpanman Children's Museum & Mall (พิพิธภัณฑ์และช้อปปิ้งมอลล์อันปังแมน เมืองเซนได)
Sendai Anpanman Children's Museum & Mall (พิพิธภัณฑ์และช้อปปิ้งมอลล์อันปังแมน เมืองเซนได) แห่งนี้เป็นแหล่งรวมทั้งพิพิธภัณฑ์ “อันปังแมน” อนิเมะยอดนิยมในหมู่เด็กๆและร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอันปังแมน ถ้าเกิดท้องหิวขึ้นมาเมื่อไหร่ก็สามารถหาซื้อขนมปังที่ราวกับว่าหลุดออกมาจากอนิเมะได้ที่นี่เลยจ้า...
ที่อยู่:101-14 Odawarayamamotochō, Miyagino-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.sendai-anpanman.jp/
7. Benyland (เบนี่แลนด์)
Benyland (เบนี่แลนด์) คือ สวนสนุกแหล่งรวมเครื่องเล่นกว่า 30 ชิ้นตั้งแต่สไตล์หวาดเสียวไปจนถึงสไตล์ครอบครัวเลยทีเดียว แถมยังมีการจัดงานอีเว้นท์อย่างคาแรคเตอร์โชว์และคอสเพลย์อีกด้วย
ที่อยู่:19-1 Koeji , Taihaku-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.benyland.com/
8. Nikka Whisky Sendai Factory Miyagikyo Distillery (โรงกลั่นวิสกี้นิกกะ)
Nikka Whisky Sendai Factory Miyagikyo Distillery (โรงกลั่นวิสกี้นิกกะ) แห่งนี้สร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจของ “ทาเคซุรุ มาซาทากะ” ผู้ก่อตั้งบริษัทนิกกะวิสกี้ที่ต้องการสรรสร้างวิสกี้ผสมเหล้าของโรงกลั่นอื่นเพื่อให้ได้วิสกี้รสชาตินุ่มลึกกว่าที่เคย โดยเราสามารถเดินเยี่ยมชมโรงงานและชิมวิสกี้รสเลิศได้ที่นี่เลย
ที่อยู่:1 Nikka, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.nikka.com/distilleries/miyagikyo/
<พิพิธภัณฑ์ศิลปะ・พิพิธภัณฑ์สถาน>
9. Sendai Mediatheque (เซนได มีเดียเทค)
Sendai Mediatheque (เซนได มีเดียเทค) คือ อาคารติดกระจกที่ตั้งอยู่บนถนนโจเซ็นจิโดริ โดยเป็นสถานที่สนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับสื่อมีเดียไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรี่, หอสมุด, หอภาพยนตร์ และการนำเสนอข้อมูลสำหรับผู้พิการทางด้านสายตาและการได้ยิน
ที่อยู่:2-1 Kasugamachi, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.smt.jp/
10. Sendai City Museum (พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได)
Sendai City Museum (พิพิธภัณฑ์เมืองเซนได) คือ พิพิธภัณฑ์สถานที่ตั้งอยู่ตรงปราสาทเซนได ซันโนะมารุ โดยจัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับบริจาคมาจากตระกูลดาเตะ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ศิลปะ และวัฒนธรรมของเมืองเซนได
ที่อยู่:3 Chome-7-1 Kokubunchō, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:https://www.city.sendai.jp/museum/
11.Seiji Nakamura Museum of Contemporary Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยนากาโมโตะเซชิ)
Npo Corporation Seiji Nakamura Museum of Contemporary Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยนากาโมโตะเซชิ) คือ สถาปัตยกรรมคล้ายปราสาทสไตล์สเปนสีขาวที่ศิลปิน “นากาโมโตะ เซชิ” สร้างขึ้นเป็นสถานที่สร้างสรรค์และจัดแสดงผลงานของตัวเอง ในปัจจุบันมีเป้าหมายเพื่อฝึกอบรมศิลปินรุ่นใหม่ไฟแรง โดยจัดทั้งงานนิทรรศการ, งานอีเว้นท์, คอนเสิร์ต และการแสดงสด
ที่อยู่:2 Chome-20-15 Higashikatsuyama, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.seishi-nakamoto.com/
12. Rias Ark Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะรีอัสอาร์ค)
Rias Ark Museum of Art (พิพิธภัณฑ์ศิลปะรีอัสอาร์ค) แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินที่สามารถมองลงไปเห็นอ่าวเคะเซ็นนูมะได้ ที่นี่จัดแสดงข้อมูลขนบธรรมเนียมความเชื่อและผลงานศิลปะของโทโฮคุ รวมถึงข้อมูลของเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮคุและข้อมูลความเสียหายจากสึนามิด้วย
ที่อยู่:138-5 Akaiwamakisawa, Kesennuma-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://rias-ark.sakura.ne.jp/2/
13. Kamei Museum (พิพิธภัณฑ์คาเมอิ)
Kamei Museum (พิพิธภัณฑ์คาเมอิ) แห่งนี้จัดแสดงคอลเลคชันส่วนหนึ่งของนักสะสมผีเสื้อชื่อดัง “คุณคาเมอิ บุนโซ” แถมยังมีการจัดงานนิทรรศการด้วย
ที่อยู่:1-23 Itsutsubashi, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.kameimuseum.or.jp/
14. Ishinomori Manga Museum (พิพิธภัณฑ์มังงะอิชิโนะโมริ)
Ishinomori Manga Museum (พิพิธภัณฑ์มังงะอิชิโนะโมริ) คือ พิพิธภัณฑ์สำหรับสัมผัสโลกของ Shotaro Ishinomori นักเขียนการ์ตูนชาวมิยางิซึ่งมีผลงานโด่งดังมาจากการ์ตูนเรื่องคาเมนไรเดอร์และไซบอร์ก009 ที่นี่มีทั้งแกลเลอรี่, งานจัดแสดงภาพต้นฉบับ และงานนิทรรศการ ตรงโซนห้องสมุดมีการเก็บรักษาหนังสือเอาไว้มากกว่า 6,000 เล่มเลยทีเดียว
ที่อยู่:2-7 Nakaze, Ishinomaki-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.man-bow.com/manga/
<สวนสัตว์・พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ>
15. Sendai Umino-Mori Aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนไดอุมิโนะโมริ)
Sendai Umino-Mori Aquarium (พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนไดอุมิโนะโมริ) แห่งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุโดยเหล่าสัตว์ทะเล, กิจกรรมสัมผัสกับเหล่าเพนกวินและสิงโตทะเล รวมถึงสัมผัสทะเลและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของญี่ปุ่นอีกด้วย
ที่อยู่:4 Chome-6 Nakano, Miyagino-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.uminomori.jp/umino/
16. Yagiyama Zoo (สวนสัตว์ยางิยามะเมืองเซนได)
Yagiyama Zoo (สวนสัตว์ยางิยามะเมืองเซนได) คือ สวนสัตว์ที่เลี้ยงสัตว์เอาไว้กว่า 140 สายพันธุ์รวม 550 ตัว เช่น หมีขั้วโลก, สิงโต และเสือโคร่งสุมาตรา เป็นต้น โดยมีไฮไลท์อยู่ที่กิจกรรมให้อาหารสัตว์นี่แหละ
ที่อยู่:1 Chome-43 Yagiyamahonchō, Taihaku-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:https://www.city.sendai.jp/zoo/
<ออนเซ็น>
17. Akiu Onsen (อาคิอุออนเซ็น)
Akiu Onsen (อาคิอุออนเซ็น) ซึ่งเรียกกันว่าเป็นห้องด้านหลังของเมืองเซนไดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เคยมีจักรพรรดิในศตวรรษที่ 6 เดินทางมาเพื่อรักษาโรคโดยธรรมชาติบำบัดเป็นเวลาหลายวันจนหายดี ด้วยเหตุนี้ คนญี่ปุ่นจึงเรียกกันว่าเป็น “น้ำร้อนแห่งนาโตริ” โดยมีเสน่ห์อยู่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับดื่มด่ำกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้อย่างเต็มอิ่มไม่ว่าจะเป็นแหลมไรไรเคียวและน้ำตกอาคิอุ
18. Sakunami Onsen (ซาคุนามิออนเซ็น)
Sakunami Onsen (ซาคุนามิออนเซ็น) แห่งนี้ถูกค้นพบโดยพระเกียวกิเมื่อปี 721 ตรงประตูทางเข้าหมู่บ้านออนเซ็นมีของขึ้นชื่ออย่าง “ตุ๊กตาโคเคชิ” ขนาดใหญ่ตั้งต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนอยู่ แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมแสตมป์แรลลี่ด้วยนะเออ... ถ้าเกิดใครสะสมแสตมป์ได้เยอะๆจะได้รับสิทธิพิเศษในการแช่บ่อน้ำร้อนแบบชั่วคราวได้ฟรี 1 แห่ง
<ธรรมชาติ>
19. Akiu Great Falls (น้ำตกอาคิอุ)
Akiu Great Falls (น้ำตกอาคิอุ) คือ น้ำตกขนาดใหญ่กว้าง 6 เมตร สูงกว่า 55 เมตร โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 น้ำตกของญี่ปุ่น โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามได้ตลอดทุกฤดูกาล
ที่อยู่:Ōtaki Akiumachi Baba, Taihaku-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
20. Houmei Shijuhachitaki Falls (น้ำตกโฮเมชิจูฮาจิทาคิ)
Houmei Shijuhachitaki Falls (น้ำตกโฮเมชิจูฮาจิทาคิ) แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำฮิโรเสะ บรรยากาศที่น้ำตกน้อย-ใหญ่ไหลจากแอ่งน้ำตกที่หนึ่งลงสู่อีกที่หนึ่งเป็นขั้นบันไดเป็นอะไรที่งดงามถึงขนาดไม่อยากละสายตาเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเสียงน้ำตกฟังดูราวกับเสียงร้องของ “นกโฮโอ” ซึ่งเป็นนกในตำนานของญี่ปุ่น จึงตั้งชื่อกันว่าแบบนี้นั่นเอง
ที่อยู่:Bōmeki Sakunami, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
21. Matsushima (มัตสึชิมะ)
Matsushima (มัตสึชิมะ) คือ หมู่เกาะน้อย-ใหญ่รวมกว่า 260 แห่งที่ลอยอยู่เหนืออ่าวมัตสึชิมะ โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ทัศนียภาพอันงดงามของญี่ปุ่น นอกจากที่นี่จะมีเรือนำเที่ยววิ่งให้บริการกว่า 3 เส้นทางแล้วก็ยังมีเรือสำราญขนาดเล็กวิ่งให้บริการตามช่วงเวลาอีกด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามได้อย่างใกล้ชิด
ที่อยู่:Matsushima, Miyagi District, Miyagi Prefecture
เว็บไซต์หลัก:http://www.matsushima-kanko.com/
แหล่งช้อปปิ้งในเซนได
Aer (อาเอรุ)
Aer (อาเอรุ) คือ อาคาร 31 ชั้นที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีเซนไดซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของเมืองเซนไดเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ชั้น 1F – 4F ประกอบด้วยร้านค้ากว่า 30 ร้าน, ชั้น 5F – 7F เป็นห้างร้านของเมืองเซนได ส่วนชั้น 8F – 30F เป็นสำนักงาน แถมเรายังสามารถชมวิวอาคารบ้านเมืองเซนไดจากบนระเบียงชมวิวชั้น 31F ได้ด้วยนะเออ...
ที่อยู่:1 Chome-3-1 Chūō, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.sendai-aer.jp/
MITSUI OUTLET PARK SENDAIKO (มิตสึอิเอ้าท์เลทปาร์คเซนไดโค)
MITSUI OUTLET PARK SENDAIKO (มิตสึอิเอ้าท์เลทปาร์คเซนไดโค) คือ เอ้าท์เลทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุซึ่งตั้งอยู่บริเวณท่าเรือเซนได โดยเต็มไปด้วยร้านค้าคัดสรรและร้านค้าแบรนด์ดังจากทั้งในและต่างประเทศกว่า 120 ร้านด้วยกัน
ที่อยู่:3 Chome-7-2 Nakano, Miyagino-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.31op.com/sendai/
Sendai Izumi Premium Outlets (เซนได อิซุมิ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท)
Sendai Izumi Premium Outlets (เซนได อิซุมิ พรีเมี่ยม เอ้าท์เลท) คือ เอ้าท์เลทที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรัฐนิวอิงแลนด์ของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่ภายในอิซุมิปาร์คทาวน์ ที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์ดังจากทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 80 ร้านเลยทีเดียว
ที่อยู่:6 Chome-1-1 Teraoka, Izumi-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.premiumoutlets.co.jp/en/sendaiizumi/
S-pal Sendai Main Building (เอสพาล เซนได อาคารหลัก)
S-pal Sendai Main Building (เอสพาล เซนได อาคารหลัก) คือ ศูนย์การค้าที่เชื่อมต่อกับสถานีเซนไดโดยตรง นอกจากที่นี่จะเป็นที่ตั้งของร้านค้าแฟชั่นและร้านอาหารแล้ว บน “เซนไดมิยาเกะคัง” บนชั้น B1F ก็ยังเต็มไปด้วยของขึ้นชื่อของเซนไดให้เลือกช้อปปิ้งกันจนตาลายอีกด้วย บอกเลยว่าเหมาะสำหรับหาซื้อของฝากกลับไปฝากเพื่อนๆ ครอบครัว หรือคนพิเศษสุดๆ
ที่อยู่:1 Chome-1-1 Chūō, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://www.s-pal.jp/sendai/
Clisroad (คริสโร้ด)
Clisroad (คริสโร้ด) คือ ถนนร้านค้าสไตล์สมัยใหม่ที่สว่างไสวไปด้วยแสงแดดธรรมชาติ ตรงกลางเป็นที่ตั้งของ Mitakisanfudoin (วัดมิตากิซังฟูโดอิน) ซึ่งศักดิ์สิทธิ์เรื่องการค้าขายเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ไม่ได้มีแค่ร้านค้าเก่าแก่ที่จำหน่ายสินค้าคุณภาพดีเท่านั้นแต่ยังมีร้านค้าแฟชั่นและร้านค้าคัดสรรจิปาถะอีกด้วย
ที่อยู่:Chuo, Aoba Ward, Sendai, Miyagi Prefecture
เว็บไซต์หลัก:http://www.clisroad.jp/
Nishikigaoka Hillside Mall (นิชิกิกาโอกะ ฮิลไซด์ มอลล์)
Nishikigaoka Hillside Mall (นิชิกิกาโอกะ ฮิลไซด์ มอลล์) แห่งนี้ประกอบด้วยร้านค้าแฟชั่น, ร้านค้าจิปาถะ, ร้านอาหาร, “อควาเทอเรส นิชิกิกาโอกะ” ธีมปาร์คน้ำและแสง และโรงพยาบาลสัตว์ เนื่องจากสวนระหว่างอาคารในวันอาทิตย์จะมีการจัดกิจกรรมสัมผัสสัตว์โลกน่ารัก ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีลานเด็กเล่นอัดลมยางและรถไฟจิ๋วสำหรับคุณหนูๆด้วย จึงบอกเลยว่าเด็กๆจะต้องชื่นชอบกันอย่างแน่นอน
ที่อยู่:1 Chome-3-1 Nishikigaoka, Aoba-ku, Sendai-shi, Miyagi-ken
เว็บไซต์หลัก:http://hillside-mall.com/
แผนเที่ยวเซนได
หลังจากชมวิวเมืองเซนไดจากบนระเบียงชมวิวของอาเอรุกันจนจุใจแล้วก็แวะมาเดินเล่นที่ฮาปินะนาคาเคโจและคริสโร้ดกันเลยดีกว่าค่ะ เมื่อเดินเล่นบนถนนโจเซ็นจิโดริที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้สักพักก็เริ่มรู้สึกท้องร้องขึ้นมานิดๆแล้วล่ะสิ... งั้นก็ถึงเวลาลิ้มลองกิวตัน (ลิ้นวัว) เป็นมื้อเที่ยงที่เมืองโคคุบุนจิกันแล้ว ต่อมาก็เดินสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ซุยโฮเด็นและร่องรอยปราสาทเซนไดซึ่งเกี่ยวข้องกับดาเตะ มาซามูเนะพลางชมทัศนียภาพของเมืองเซนไดด้านล่าง
สำหรับใครที่มีเวลาเที่ยวเหลือเฟืออีก 1 วันเต็มก็ขอแนะนำให้เข้าพักที่อาคิอุออนเซ็นหรือซาคุนามิออนเซ็นสักคืนแล้วเดินทางต่อไปยังมัตสึชิมะเลยจ้า...
งานอีเว้นท์ในเซนได
เดือนมกราคม : Enkorosetsu Festival (งานเทศกาลเอ็งโคโรเซ็ตสึ), Donto Festival (งานเทศกาลดอนโตะ)
Enkorosetsu Festival (งานเทศกาลเอ็งโคโรเซ็ตสึ) หรือการแข่งขันเพลงพื้นบ้านเอ็งโคโรเซ็ตสึซึ่งสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ สมัยเอโดะ จัดขึ้นที่เมืองวาตาริ ตำบลวาตาริในเดือนมกราคมของทุกปี ส่วน Donto Festival (งานเทศกาลดอนโตะ) เป็นงานเผาของประดับตกแต่งช่วงเทศกาลปีใหม่ดั้งเดิมเพื่อขอพรให้สุขภาพแข็งแรงและครอบครัวแคล้วคลาดปลอดภัย เนื่องจากภาพการลุกโชติช่วงของเปลวไฟเปรียบได้กับเสียง “ดอนดอน” คนญี่ปุ่นจึงตั้งชื่อว่าแบบนี้นั่นเอง
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับงานเทศกาลดอนโตะสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「แนะนำงานเทศกาลสุดแปลกของญี่ปุ่นผ่านวีดิโอ!」
เดือนกุมภาพันธ์ : Yukinko Festival (งานเทศกาลยูคิงโกะ)
Yukinko Festival (งานเทศกาลยูคิงโกะ) คือ งานอีเว้นท์ซึ่งจัดขึ้นที่ Akiu Visitor Center โดยเราสามารถสัมผัสกิจกรรมการเล่นกระดานเลื่อนหิมะ, สวมรองเท้าสโนว์ชูส์เดินลุยหิมะ และหาสมบัติท่ามกลางหิมะได้ในงานนี้เลยจ้า...
เดือนเมษายน : Kumano Hongu Taisha Annual Festival (งานเทศกาลประจำปีศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูไทฉะ)
Kumano Hongu Taisha Annual Festival (งานเทศกาลประจำปีศาลเจ้าคุมาโนะฮอนงูไทฉะ) คือ งานเทศกาลที่สืบทอดมาจากยามาบูชิ (※1) เมื่อราว 500 ปีที่แล้ว โดยจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนเมษายน นักเต้นของงานนี้สืบทอดต่อกันมาเป็นตระกูลด้วยระบบเซชูเซ (※2)
※1 : ยามาบูชิ……ผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดบนภูเขา
※2 : เซชูเซ……ระบบการสืบทอดจากพ่อ-แม่สู่ลูก
เดือนพฤษภาคม : Bonten-bayai (บอนเต็นบาไย), Sendai Aoba Festival (งานเทศกาลเซนไดอาโอบะ)
Bonten-bayai (บอนเต็นบาไย) คือ พิธีกรรมโกไคโจของชินโตซึ่งจัดขึ้นที่ศาลเจ้าฟุนากาตายามะในวันที่ 1 พฤษภาคม โดยพระจะโยนเครื่องสักการะบูชา “บอนเต็น” ให้กลุ่มผู้ที่เดินทางมากราบไหว้สักการะแย่งกันโดยเชื่อว่าจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้าแห่งการเกษตร ส่วน Sendai Aoba Festival (งานเทศกาลเซนไดอาโอบะ) คือ งานเทศกาลสัญลักษณ์แห่งการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิในเซนไดซึ่งจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมและวันก่อนหน้านั้น โดยเริ่มต้นจากการเป็นงานเทศกาลเซนไดโทโชงูในปี 1655 บรรยากาศการตีกลองฮายาชิ, การเดินทางขบวนพาเหรดของเหล่านักรบ และการแห่เกี้ยวดาชินั้นถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิมออกมาได้เป็นอย่างดี
เดือนสิงหาคม : Sendai Tanabata Festival (งานเทศกาลเซนไดทานาบาตะ)
Sendai Tanabata Festival (งานเทศกาลเซนไดทานาบาตะ) คือ งานเทศกาลสัญลักษณ์แห่งฤดูร้อนของเซนได โดยสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่สมัยที่ดาเตะ มาซามูเนะเป็นผู้ครองปราสาทเซนได ในช่วงนี้จะมีการประดับสิ่งของตกแต่งอันแสนงดงามตั้งแต่ด้านหน้าสถานีเซนไดไปจนถึงย่านร้านค้าบนถนนอิจิบังโจเลยทีเดียว
เดือนธันวาคม : Shimada-Ame Festival (งานเทศกาลชิมาดะอาเมะ)
ชาวเมืองเซนไดเชื่อกันว่าถ้าเกิดได้รับของมงคลอย่าง “ลูกกวาดชิมาดะอาเมะ” ซึ่งถูกนำมาถวายวัดในวันที่ 14 ธันวาคม ในปีหน้าจะได้พบกับเนื้อคู่ที่ดี ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนเดินทางมาเข้าร่วม Shimada-Ame Festival (งานเทศกาลชิมาดะอาเมะ) กันเยอะแยะมากมาย บอกเลยว่าต้องชมขบวนพาเหรดเจ้าสาวในงานนี้กันให้ได้ค่ะ >โรงแรมที่พักในเซนได
เมืองเซนไดเต็มไปด้วยโรงแรมที่พักมากมายไม่ว่าจะเป็นโรงแรมธุรกิจและโรงแรมแคปซูล นอกจากนี้ก็ยังมีเรียวกังติดออนเซ็นอีกด้วย โรงแรมระดับหรูราคาสูงกว่า 2 หมื่นเยน / คืนขอแนะนำเป็น「The Westin Sendai」โรงแรมระดับ 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนชั้น 28F~ ของเซนไดทรัสต์ทาวเวอร์เลยค่ะ เนื่องจากเราสามารถชมทั้งวิวเมืองเซนได ทะเล และภูเขาได้จากหน้าต่างห้องพัก จึงบอกเลยว่าเป็นประสบการ์สุดหรูเกินบรรยาย
นอกจากนี้ก็ยังมี「Sendai Royal Park Hotel
」โรงแรมระดับ 4 ดาวที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับปราสาทเลยทีเดียว โดยมีทั้งห้องพักที่สามารถชมวิวสวนสไตล์อังกฤษและห้องพักที่สามารถชมวิวป่าไม้ได้ หรือว่าใครที่กำลังมองหาโรงแรมระดับ 4 ดาวที่สามารถเข้าพักได้ในราคาประมาณ 1 หมื่นเยนก็มีเหมือนกันก็คือ「Mitsui Garden Hotel Sendai」โรงแรมติดโรงอาบน้ำสาธารณะพร้อมสปาบนชั้นสูงสุด, 「Sendai Washington Hotel」โรงแรมที่พิถีพิถันเรื่องอาหารเช้าซึ่งสามารถเดินเท้าจากสถานีเซนไดมาถึงได้ในเวลาเพียง 3 นาที และ「Hotel Metropolitan Sendai」โรงแรมแสนสะดวกสำหรับการเข้าพักกับครอบครัวซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีเซนไดโดยตรงนั่นเอง
ส่วนโรงแรมธุรกิจระดับ 3 ดาวที่สามารถเข้าพักได้ในราคาประมาณ 1 หมื่นเยน / คืนประกอบด้วย「Richmond Hotel Premier Sendai Ekimae」โรงแรมที่เตรียมผ้าห่มฟุตงเป็นคนเป็ดเพื่อการนอนหลับที่สบายมากยิ่งขึ้นกับทุกห้อง, 「Hotel Monterey Sendai」โรงแรมที่มีห้องคอนเส็ปต์เป็นกรุงปรากและศิลปะอาร์ตนูโว, 「Hotel Jal City Sendai」โรงแรมที่มีห้องพักสไตล์ยุโรปผสมญี่ปุ่น, 「Daiwa Roynet Hotel Sendai」โรงแรมที่มีมีรูปร่างหน้าตาโดดเด่นเหมือนกับกระดาษเขียนคำอธิษฐานในงานเทศกาลเซนไดทานาบาตะ และ「Hotel Leopalace Sendai」โรงแรมที่มีห้องพักสว่างไสวสไตล์ยุโรปเหนือ
สำหรับใครที่ต้องการเข้าพักที่เรียวกังในเซนไดก็ขอแนะนำเป็น「Bansuitei Ikoiso」ที่ตั้งอยู่ภายในเมืองเซนไดเลยจ้า... โดยเราสามารถเข้าพักได้ในราคา 4,200 เยน~ / คืนสำหรับการเข้าพัก 2 คน / ห้อง นอกจากนี้ก็ยังมี「Sakan」ที่ตั้งอยู่ที่อาคิอุออนเซ็นอีกด้วย ที่นี่มีออนเซ็นมากมายถึงขนาดว่าสามารถทัวร์แช่ออนเซ็นภายในเรียวกังได้เลย โดยเราสามารถเข้าพักได้ในราคา 2 หมื่นเยน~ / คนพร้อมอาหาร 2 มื้อ / คืน
ส่วนอาคารหลักของ「Saryo Soen」เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์สึคิยะสึคุริ (※3) โดยห้องพักแยกทั้ง 10 ห้องติดออนเซ็นกลางแจ้งทุกห้อง อาคารหลักสามารถเข้าพักได้ในราคา 34,710 เยน~ พร้อมอาหาร 2 มื้อ / คืน ส่วนอาคารแยกราคา 48,750 เยน~
「Ryokusuitei」โรงแรมที่มีสวนขนาดใหญ่แห่งนี้นอกจากจะสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามจากหน้าต่างห้องพักได้แล้วก็ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งที่ส่องสว่างไปด้วยกองไฟอีกด้วย เราสามารถเข้าพักได้ในราคา 16,200 เยน~ สำหรับแพ็คเกจมาตรฐานพร้อมอาหาร 2 มื้อสำหรับ 1 คืน แถมบางแพ็คเกจก็มีราคาเพียง 11,880 เยน~ เท่านั้นเอง แต่ถ้าเกิดใครอยากอยากไปซาคุนามิออนเซ็นก็ขอแนะนำเป็น「Yudukushi Salon Ichinobo」ที่สามารถเพลิดเพลินกับต้นน้ำ 3 แห่งและออนเซ็น 8 แห่งได้เลยค่ะ... โดยเราสามารถเลือกแพ็คเกจที่พักได้มากมายตั้งแต่ราคา 1 หมื่นเยน~ / คนพร้อมอาหาร 2 มื้อสำหรับ 1 คืน
※3 : สึคิยะสึคุริ ……รูปแบบสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสไตล์โรงน้ำชา
อาหารท้องถิ่นของเซนได
กิวตัน
“กิวตัน” คือ เมนูลิ้นวัว กิวตันของเมืองเซนไดมีชื่อเสียงโด่งดังไกลไปทั่วญี่ปุ่นเชียวนะจะบอกให้...
อาบุระอาเกะ
“อาบุระอาเกะ” คือ เมนูเต้าหู้ฝานบางทอดด้วยน้ำมัน “อาบุระอาเกะรูปสามเหลี่ยม” ของร้าน Jougitoufuten (โจงิโตฟูเต็น) ซึ่งตั้งอยู่ภายในเมืองมอนเซ็นของวัดโกคุราคุซังไซโฮจิเป็นเมนูขึ้นชื่อที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ชวนฟินได้จากการราดโชยุและโรยชิจิมิ (※4) กระเทียมลงบนอาบุระอาเกะทอดสดใหม่จากเตารับประทาน โดยเราสามารถหาทานได้จากห้างสรรพสินค้าฟูจิซากิภายในเมืองเซนได
※4:ชิจิมิ……เครื่องปรุงที่ผสมผสานกันระหว่างเครื่องเทศทั้ง 7 ชนิด เช่น พริกและงา
ซาซาคามะ
“ซาซาคามะ” ของฝากยอดนิยมที่เหมาะกับการรับประทานเป็นกับแกล้มเหล้านี้คือลูกชิ้นปลาคามาโบโกะรูปใบไผ่ โดยเป็นหนึ่งในของขึ้นชื่อประจำเมืองเซนได
เฮียวตันอาเกะ
“เฮียวตันอาเกะ” คือ เนริโมโนะ (เนื้อปลาบด) หรือลูกชิ้นปลาเสียบไม้ชุบแป้งสไตล์แพนเค้กทอด เนื่องจากมีรูปร่างหน้าตาเหมือนน้ำเต้า(ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เฮียวตัน) จึงตั้งชื่อกันว่าแบบนี้ โดยนับเป็นเมนูเดินไปกินไปประจำเมืองเซนไดเลยก็ว่าได้
ฮาราโกะเมชิ
“ฮาราโกะเมชิ” คือ เมนูข้าวหุงน้ำสต็อกปลาแซลมอนหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอนซึ่งคิดค้นสูตรขึ้นโดยชาวประมง
อิชิโนะมากิยากิโซบะ
“อิชิโนะมากิยากิโซบะ” คือ ยากิโซบะเส้นสีน้ำตาลที่ผ่านการนึ่งทั้งหมด 2 รอบด้วยกัน รอบที่ 2 ใส่น้ำซุปดาชิลงไปนึ่งด้วยและโปะหน้าด้วยไข่ดาว ตอนรับประทานก็อย่าลืมราดซอสกันด้วยนะจ๊ะ...
เซนไดยูเบชิ
“เซนไดยูเบชิ” คือ ขนมโมจิดั้งเดิมมีเอกลักษณ์อยู่ที่ใส่วอลนัทลงไปด้วยนี่แหละ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าอยากทานรสโชยุวอลนัท,วอลนัทงา หรือวอลนัทชาเขียว
ซุนดะโมจิ
“ซุนดะโมจิ” คือ โมจิถั่วแระบด โดยเป็นของขึ้นชื่อประจำเมืองเซนไดที่มีสีเขียวอ่อนสดใสน่ารับประทาน
ของฝากจากเซนได
“ซุนดะโมจิ” ของขึ้นชื่อประจำเมืองเซนได
แน่นอนว่าจะต้องมีของขึ้นชื่ออย่างซุนดะโมจิด้วยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีขนมสไตล์ญี่ปุ่น-ตะวันตกอย่าง “ฮากิโนะทสึกิ” ขนมแป้งสปันจ์นุ่มนิ่มสอดไส้คัสตาร์ดแบบเน้นๆ, “ฮาเซคุรายากิ” คุกกี้กรอบสอดไส้ถั่วขาวกวนรสวอลนัท รวมถึงของหวานอย่าง “ขนมดั้งเดิมของเซนได” หลากหลายรูปแบบน่ารับประทานและ “ซันโชขุโมนากะ” สอดไส้งา, ถั่วแดงกวน และถั่วขาวกวนอีกด้วย
นอกจากนี้ ขนมพิเศษเฉพาะฤดูหนาวก็พลาดไม่ได้เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น “ชิโมะบาชิระ” ขนมชั้นเลิศชวนฝันซึ่งทำโดยช่างขนมหวานมืออาชีพ เพราะว่าตัวขนมทำยากและต้องใช้ความละเอียดพิถีพิถันเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าถิ่นข้าวอย่างมิยางิจะพลาดเหล้ารสเลิศไปได้ยังไง?! “อุรากะซุมิ” เหล้าใสของบริษัทซาอุระ, “อิจิโนะคุระ” และ “ฮิเมเซ็น” ของบริษัทอิจิโนะคุระซึ่งมีคติประจำบริษัทว่า “ผลิตเหล้าคุณภาพดีโดยผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันจากข้าวคุณภาพดี” ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน
สภาพอากาศและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวเซนได
ในฤดูร้อนจะมีสภาพอากาศเย็นสบายอยู่ง่ายกว่าโตเกียวด้วยอิทธิพลของลมทะเล แต่เนื่องจากบางวันก็มีอากาศร้อนจัด จึงขอแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าบางๆระบายอากาศได้ดีมาจะดีที่สุด ส่วนในฤดูหนาวมีอากาศไม่หนาวจัดและหิมะตกน้อยแตกต่างจากตำแหน่งละติจูดก็จริง แต่แม้กระทั่งช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิประมาณเดือนพฤษภาคมบางวันก็ยังคงมีอากาศหนาวเย็นให้เห็นอยู่บ้าง ช่วงผลัดเปลี่ยนจากฤดูใบไม้ร่วงเข้าสู่ฤดูหนาวจะค่อนข้างเร็วกว่าโตเกียว ดังนั้น จึงควรเตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อมทั้งในฤดูหนาวและช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูกาลกันด้วยนะจ๊ะ...
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...
ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^
สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ「Japan Connected-free Wi-Fi」แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะเออ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย
เอ่อ...แล้วค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง