Start planning your trip

ในอดีตภูมิภาคโทโฮคุเป็นพื้นที่ห่างไกลซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว แต่เป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ และบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ อาทิ ไดเมียวสมัยเซ็นโกคุ "ดาเตะ มาซามุเนะ" นักเขียน "ดะไซ โอซามุ" "มิยาซาวะ เคนจิ" หรือสิ่งมีชีวิตในตำนาน "กัปปะ"
ภูมิภาคโทโฮคุอยู่ทางตอนเหนือของเกาะญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และตำนานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่
ในช่วงฤดูหนาวภูมิภาคโทโฮคุจะกลายเป็นดินแดนสีขาวโพลนที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ลองออกไปเรียนรู้วัฒนธรรมที่เมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ เมืองโทโนะ จังหวัดอิวาเตะ หรือคาบสมุทรสึการุ จังหวัดอาโอโมริ เพื่อสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของโทโฮคุ!
Picture courtesy of Miyagi Prefecture Tourism Division
หากพูดถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคโทโฮคุ ทุกคนคงจะนึกถึง "ดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune)" หรือผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "โดคุกันริว (*1) เซ็นโกคุไดเมียว " ในปัจจุบันที่เมืองเซ็นไดซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุก็ยังคงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่เขาได้สร้างเอาไว้
*1 : โดคุกันริว ...... หมายถึง วีรบุรุษผู้มีดวงตาข้างเดียว แปลตามตัวอักษรได้ว่า "มังกรตาเดียว"
สำหรับคนที่อยากรู้จักดาเตะ มาซามุเนะมากยิ่งขึ้นก็สามารถสอบถามได้กับกองทัพซามูไรของดาเตะ "ดาเตะบุโชไต" ซึ่งเป็นกลุ่มที่พร้อมให้บริการข้อมูลกับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่!
Picture courtesy of Date Bushotai
ดาเตะบุโชไตเป็นกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองเซ็นได ซึ่งจะมาช่วยถ่ายทอดวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดมิยางิโดยเฉพาะเรื่องของ "ท่านดาเตะ มาซามุเนะ"
ส่วน "เซ็นไดโอซัมโปะโก" คือชื่อของรถบัสท่องเที่ยวที่ให้บริการโดย JR Bus Tohoku ในปี 2018 จะมีบางโอกาสพิเศษที่ "กลุ่มดาเตะบุโชไต" ร่วมขึ้นรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองเซ็นไดไปพร้อมๆ กับผู้โดยสาร และมีผู้ที่รับบทเป็น "ท่านดาเตะ มาซามุเนะ" คอยให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดาเตะ มาซามุเนะให้ฟังอีกด้วย!
ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์รถบัส "เซ็นไดโอซัมโปะโก" แนะนำให้สำรองที่นั่งก่อนล่วงหน้า สามารถจองได้ที่นี่
สามารถตรวจสอบกำหนดการที่กลุ่มดาเตะบุโชไตจะขึ้นมาบนรถบัส หรือข้อมูลเกี่ยวกับอีเวนต์ต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ทางการ (ภาษาญี่ปุ่น)
Photo by FUKA KAMATA
มัตสึชิมะมีทิวทัศน์ที่งดงามมากจนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นสถานที่ชมพระจันทร์ที่ผู้ครองแคว้น (*2) ตระกูลดาเตะชื่นชอบมาก ในปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งสามารถขึ้นเรือสำราญชมเกาะต่างๆ และลิ้มรสหอยนางรมที่เป็นอาหารขึ้นชื่อได้ด้วย
ภาพพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าบนท้องฟ้ายามเย็นในช่วงฤดูหนาวนั้นเป็นทัศนียภาพที่งดงามอย่างที่สุด ไม่ควรพลาดกับการลิ้มรสชาเขียวและขนมญี่ปุ่นพลางชมพระอาทิตย์ตกในอ่าวมัตสึชิมะที่เรือนน้ำชาคันรันเท (Kanrantei) ที่ตั้งอยู่บริเวณแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล
*2 : ผู้ครองแคว้น ...... ผู้ที่ปกครองเขตแดนจากการแบ่งพื้นที่ (แคว้น) ในยุคสมัยเอโดะ
Picture courtesy of Miyagi Prefecture Tourism Division
ในยามราตรีของช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนธันวาคม จะมีการจัดงาน "SENDAI Pageant of Starlight" ภายในเมืองเซ็นได ซึ่งจะมีการประดับไฟกว่า 6 แสนดวง เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นถนนแห่งแสงสว่าง ดวงไฟที่ส่องแสงสีเหลืองส้มช่วยทำให้บรรากาศดูอบอุ่นแม้ในฤดูกาลที่อากาศแสนหนาวเย็น
การประดับไฟที่สวยงามอลังการนี้คงทำให้แม้แต่ท่านดาเตะ มาซามุเนะ ผู้ปกครองภูมิภาคโทโฮคุรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก
ที่เมืองโทโนะยังมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับเรื่องของปีศาจญี่ปุ่นหลงเหลือทั่วทุกมุมเมืองอย่างเรื่องของ "กัปปะ" หรือ"ซาชิกิวาราชิ" ซึ่งมีบันทึกอยู่ใน "โทโนะโมโนกาตาริ (Tono Monogatari)" ซึ่งเป็นหนังสือรวบรวมตำนานต่างๆ ในยุคเมจิ
นอกจากนี้ที่เมืองโทโนะยังคงอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างของเกษตรกรและวัฒนธรรมในสมัยโบราณเอาไว้ เมืองนี้จึงเป็นดินแดนอัศจรรย์ที่มีกลิ่นอายชวนให้นึกถึงอดีตอีกด้วย
"โทโนะโมโนกาตาริ" เป็นผลงานที่นักเขียนยานากิดะ คุนิโอะ (Yanagita Kunio) รวบรวมขึ้นจากการบอกเล่าของซาซากิ คิเซ็น (Sasaki Kizen) ผู้เชี่ยวชาญด้านความเชื่อและประเพณีพื้นบ้านของญี่ปุ่น ภายในสวนเด็นโชเอ็นมี "อาคารรำลึกซาซากิ คิเซ็น (Sasaki Kizen Kinenkan)" ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงผู้เล่าขานเรื่องราว และยังเป็นสถานที่ที่สามารถฟังตำนานที่เกี่ยวข้องกับเมืองโทโนะ รวมถึงสัมผัสกับศิลปะพื้นบ้านได้อีกด้วย
โอชิระโด (Oshirado) ซึ่งอยู่ใน "สวนเด็นโชเอ็น" เป็นสถานที่สักการะบูชาเทพเจ้าโอชิระซามะ 1,000 องค์ โอชิระซามะเป็นเทพเจ้าแห่งหนอนไหม ม้า เกษตรกรรม และการบอกข่าว ซึ่งเป็นตำนานที่ปรากฎอยู่ในโทโนะโมโนกาตาริ
นานมาแล้วลูกสาวของชาวนาได้รักกับม้าที่เลี้ยงอยู่ที่บ้าน เมื่อบิดาทราบเรื่องก็โกรธมากจึงฆ่าม้าเสีย หลังจากนั้นลูกสาวก็ตายตามม้าไป และเป็นต้นกำเนิดของเทพเจ้าโอชิระซามะ
หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเทพเจ้าโอชิระซามะนั้นจะมีศีรษะของหญิงสาวกับม้าที่อยู่คู่กัน เชื่อกันว่าหากเขียนสิ่งที่ปรารถนาลงไปบนผ้าและสวมใส่ให้เทพโอชิระซามะแล้วจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ
Picture courtesy of Densho-en
มีความเชื่อว่าบริเวณแอ่งน้ำ "กัปปะบุจิ" ซึ่งใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากสวนเด็นโชเอ็นมีกัปปะอาศัยอยู่ ว่ากันว่าหากใช้แตงกวาเป็นเหยื่อล่อก็จะสามารถจับกัปปะขึ้นมาจากแม่น้ำได้
แถวนี้จะมีบุคคลที่ขึ้นชื่อในการจับกัปปะที่เรียกว่ากัปปะโอจิซัง (คุณลุงกัปปะ) อยู่ด้วย ถ้าได้เจอคุณลุงก็อย่าลืมถามเคล็ดลับในการจับกัปปะดู!
ที่สวนเด็นโชเอ็นยังมีตุ๊กตาน่ารักๆ อย่าง "ผู้อำนวยการสวนกัปปะเอ็นโจ" เป็นผู้ดูแลอยู่ด้วยนะ มาสวมหมวกกัปปะและถ่ายรูปคู่กับท่านผู้อำนวยการเป็นที่ระลึกกัน!
นอกจากตุ๊กตาแล้วก็ยังมีของฝากกัปปะน่ารักๆ จำหน่ายด้วย จะซื้อเป็นของขวัญก็ได้ หรือจะซื้อให้ตัวเองก็ดี
ภาพขวาบน Picture courtesy of Tono Furusato Village
"หมู่บ้านโทโนะฟุรุซาโตะ" เป็นหนึ่งในโลเคชั่นถ่ายทำละครย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์เรื่อง "ซานาดะมารุ (Sanada Maru)" ซึ่งออกอากาศเมื่อปี 2016 ที่นี่ยังคงอนุรักษ์ "มาการิยะ" หรือสิ่งก่อสร้างที่เป็นบ้านของชาวนาที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงม้าเอาไว้
ด้านนอกจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับหิมะ ส่วนด้านในก็สามารถเข้าไปนั่งที่โต๊ะโคทัตสึ ดื่มชาที่ทางอาสาสมัครเตรียมมา แล้วนั่งดื่มด่ำกับกลิ่นอายของอดีตได้
สำหรับผู้ที่อยากรู้เกี่ยวกับโทโนะโมโนกาตาริและตำนานญี่ปุ่นแบบลึกซึ้งกว่านี้ก็สามารถไปที่ "อาคารโทโนะโมโนกาตาริ" ได้ ที่นี่มีการบรรยายด้วยเสียง ฉายภาพ หรือโมเดลจำลอง แม้จะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็สามารถเพลิดเพลินได้
Picture courtesy of Hanamaki Tourism Association
ห่างจากเมืองโทโนะไปไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของ "เมืองออนเซ็นฮานามากิ" เมืองออนเซ็นขนาดใหญ่ในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งมีบ่อน้ำพุร้อนกว่า 10 แห่ง
ในละแวกใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านนิทาน "Miyazawa Kenji Dowa Mura (Fairy Tale Village)" ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมาจากผลงานของมิยาซาวะ เคนจิ นักแต่งนิทานชื่อดังซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่เมืองฮานามากิ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งควรค่าแก่การไปเยือน
Picture courtesy of Aomori Prefecture and Aomori Prefecture Tourism Federation
"คาบสมุทรสึการุ" ในจังหวัดอาโอโมริเป็นบ้านเกิดของนักเขียนนิยายชื่อดัง ดาไซ โอซามุ ในปัจจุบันผลงานของเขาก็ยังเป็นที่นิยมของนักอ่านจำนวนมาก อาทิ สูญสิ้นความเป็นคน (No Longer Human) และ อาทิตย์สิ้นแสง (The Setting Sun)
ผลงานที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกเรื่องหนึ่งที่บรรยายถึงบ้านเกิดของเขานั่นก็คือ "Tsugaru" เป็นผลงานแปลกสำหรับดาไซเนื่องจากให้ความรู้สึกอบอุ่นและสดใส ทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงความรักของเขาที่มีต่อบ้านเกิดเลย
Picture courtesy of Tsugaru Railway
หากใครมาเดินทางตามรอยดาไซ โอซามุที่สึการุก็ไม่ควรพลาด "เส้นทางรถไฟสึการุ (Tsugaru Railway)" รถไฟสึการุเป็นทางรถไฟเอกชนที่วิ่งทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น กรรมการบริษัทรุ่นแรกว่ากันว่าเป็นพี่ชายของดาไซ และเส้นทางนี้รถไฟสายนี้ก็จะขับผ่าน "คานางิโจ (Kanagi-cho)" (สถานีคานางิ) ซึ่งเป็นบ้านเดิมของดาไซด้วย
Picture courtesy of Tsugaru Railway
รถไฟสึการุมี "รถไฟเตาถ่าน (Stove Train)" ซึ่งจะเดินรถเฉพาะในช่วงฤดูหนาว รถไฟเตาถ่านเป็นรถไฟแบบเก่าที่นำระบบทำความร้อนในสมัยโบราณกลับมาใช้ ภายในรถไฟจะมีเตาเผาถ่านหินตั้งอยู่ เพื่อให้ความอบอุ่นในขบวนรถ
Picture courtesy of Tsugaru Railway
ด้านบนของเตาถ่านก็อาจจะมีหมึกย่างบ้าง ซึ่งพนักงานบนรถไฟที่พูดคุยด้วยภาษาถิ่นของสึการุจะคอยบริการและให้ความบันเทิงกับผู้โดยสารบนขบวนรถไฟที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหมึกย่าง
ด้านนอกรถไฟอาจจะปกคลุมไปด้วยทิวทัศน์ของหิมะสีขาวโพลน แต่ภายในขบวนรถกลับมีแต่ความอบอุ่นทั้งกายและใจ
ตรวจสอบตารางรถไฟเตาถ่านในปี 2019 ได้ที่นี่
Picture courtesy of Aomori Prefecture and Aomori Prefecture Tourism Federation
นอกจากจุดท่องเที่ยวเชิงวรรณกรรมแล้ว ยังมีความงดงามของธรรมชาติให้ชมด้วย "ปิศาจหิมะ (ต้นไม้น้ำแข็ง)" ที่เกิดเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยความเหมาะสมของหลายปัจจัย เช่น แรงลม อุณหภูมิ หรือไอน้ำ เป็นภาพธรรมชาติที่หาชมได้ยาก
ถ้าไปที่ภูเขาฮักโคดะในจังหวัดอาโอโมริจะใช้เวลานั่งโรปเวย์ (กระเช้า) จากเชิงเขาขึ้นไปบนยอดเขาโดยใช้เวลาเพียง 10 นาที แล้วเราจะได้ชมวิวของปิศาจหิมะสุดลูกหูลูกตาได้จากบนยอดเขาเลย
Picture courtesy of East Japan Railway Company
ก่อนจะออกเดินทางในทริปสัมผัสประวัติศาสตร์ ตำนาน และวรรณกรรมใน 3 จังหวัด อย่าลืมซื้อ "JR EAST PASS (Tohoku Area)" เพื่อนคู่ใจในการเดินทางท่องเที่ยวโทโฮคุไปด้วย เพียงแค่ถือพาสอันนี้ก็สามารถโดยสารพาหนะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ รถด่วน รถไฟธรรมดา รถบัสของ JR และอื่นๆ ในภูมิภาคโทโฮคุได้ทั้งหมดแบบไม่จำกัด
วิธีการซื้อตั๋วและข้อควรระวัง อ่านเพิ่มเติมได้ใน JR EAST PASS (Tohoku Area)
*JR EAST PASS จำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถใช้บริการได้
วันที่ 1 : ทางรถไฟสึการุ จังหวัดอาโอโมริ "รถไฟเตาถ่าน" เมืองคานางิ บ้านเกิดดาไซ โอซามุ พักในเมืองอาโอโมริ
วันที่ 2 : ปิศาจหิมะแห่งภูเขาฮักโคดะซัง เที่ยวในจังหวัดอาโอโมริ พักในเมืองออนเซ็นฮานามากิ จังหวัดอิวาเตะ
วันที่ 3 : เที่ยวเมืองโทโน จังหวัดอิวาเตะ พักในเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ
วันที่ 4 : นั่งรถ "เซ็นไดโอซัมโปะโก" เมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ เที่ยวมัตสึชิมะ ชมไฟประดับ SENDAI Pageant of Starlight พักในเมืองเซ็นได
วันที่ 5 : เดินเล่นในเมืองเซ็นได ซื้อของฝาก เดินทางกลับ
กำหนดการเดินทาง 5 วันนี้เป็นตัวอย่างแผนการเที่ยวที่ใช้ JR EAST PASS (Tohoku Area) ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความพึงพอใจของคุณ
โทโฮคุในฤดูหนาวเป็นช่วงที่อากาศหนาวจัด อย่าลืมรักษาความอบอุ่นของร่างกาย เตรียมอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม ก่อนจะออกไปสัมผัสกับวรรณกรรม ตำนาน และประวัติศาสตร์กันอย่างลึกซึ้ง!
*รถไฟสึการุ (Tsugaru Railway) ไม่สามารถใช้ "JR EAST PASS (Tohoku Area)" ได้
Written by Chia
Sponsored by East Japan Railway Company
บทความโดย
東京に出てきて8年目です。