Start planning your trip
ชม 4 รถไฟในแดนหิมะ ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องลองที่โทโฮคุ (Tohoku)
รถไฟที่วิ่งท่ามกลางวิวหิมะขาวถือเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ฤดูหนาวที่สวยเกินจินตนาการ เพียงใช้ JR EAST PASS มาเที่ยวโทโฮคุ ก็สามารถเจอมีวิวรถไฟสวยๆ ทั้ง "สายทาดามิ" ที่ฟุกุชิมะ รถไฟสายทางช้างเผือก "สายคิตาคามิ" ที่อิวาเตะ และ "สายฟลาวเวอร์นากาอิ" ที่ยามากาตะ
ความลงตัวของหิมะกับรถไฟที่ต้องไปชมสักครั้ง!
พูดถึงวิวสวยบาดตาของฤดูหนาวเราก็คงนึกถึงโลกที่ถูกปกคลุมไปด้วยสีขาวของหิมะ เสียงฉึกฉักที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ พร้อมภาพของรถไฟที่วิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะโปรยในดินแดนสีขาวนี้งดงามมาก และหาชมได้แค่ในฤดูนี้เท่านั้น
ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปตระเวนจุดชมรถไฟวิ่งฝ่าทุ่งหิมะและจุดชมวิวของภูมิภาคโทโฮคุ รวมทั้งที่เที่ยวน่าแวะใกล้ๆ ด้วย
1. รถไฟสาย JR ทาดามิ จังหวัดฟุกุชิมะ
สายรถไฟกับวิวตรึงใจของโทโฮคุ!
Picture courtesy of Mishima Town Tourism Association
เวลาพูดถึงรถไฟวิ่งกลางหิมะ รถไฟสายทาดามิ (Tadami Line) ของ JR จะต้องถูกยกขึ้นมาเสมอ แถมยังได้รับการเรียกขานว่าเป็นรถไฟสายที่โรแมนติกที่สุดในโลก โดยเฉพาะเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำทาดามิที่ 1 (No.1 Tadami River Bridge) ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำระหว่างหุบเขาท่ามกลางวิวหิมะแบบในรูปด้านบน
สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิที่ 1 นี้อยู่ไม่ไกลจากจุดพักรถโอเซะไคโด มิชิมะจูกุ (Michi no Eki : Ozekaido Mishimajuku)
สายทาดามิมีรถไฟวิ่งไม่เกิน 8 ขบวนต่อวัน ที่อยากแนะนำคือรอบเช้าตรู่ ให้นั่งรถไฟรอบแรกสุดจาก สถานีไอซุวากามัตสึ (Aizu Wakamatsu) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งมาลงที่ สถานีไอซุมิยาชิตะ (Aizu Miyashita) แล้วต่อรถบัสไปยังจุดพักรถโอเซะไคโด มิชิมะจูกุ ก็จะถึงจุดถ่ายรูปรถไฟสายทาดามิ
นอกจากสะพานข้ามแม่น้ำทาดามิที่ 1 แล้วยังมีจุดถ่ายรูปอีกหลายจุดที่เราสามารถไปสัมผัสกับเสน่ห์ของรถไฟสายทาดามิได้ อย่างรูปข้างบนนี้คือ สะพานโค้งสามพี่น้องมิยาชิตะ (Miyashita Arch Sankyodai Bridges) ที่เราสามารถเก็บภาพรถไฟพร้อมสะพานโค้ง 3 สะพานไว้ในรูปเดียว
Photo by FUKA KAMATA
สะพานข้ามแม่น้ำทาดามิที่ 2 (No.2 Tadamigawa Bridge) ที่พาดขนานเป็นเส้นตรงก็น่าชมไม่เบา การเดินทางไปยังจุดถ่ายรูปต่างๆ สามารถไปดูได้จากแผนผังที่สถานีไอซุมิยาชิตะ ที่อยู่ใกล้จุดพักรถโอเซะไคโด มิชิมะจูกุมากที่สุด
หลังจากเต็มอิ่มกับวิวสวยๆ สามแห่งนี้แล้วก็ย้อนกลับไปที่จุดพักรถโอเซะไคโด มิชิมะจูกุ กันอีกที ที่นี่มีทั้งที่นั่งพักและร้านอาหาร มาเติมพลังด้วยมื้อกลางวันให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นหน่อยก่อนจะออกเดินทางไปหาวิวสวยๆ กันต่อ
ปราสาทสึรุกะ (ปราสาทไอซุวากามัตสึ)
ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่รถไฟเท่านั้นนะ เพราะงั้นช่วงบ่ายเราจะกลับไปแถวสถานีไอซุวากามัตสึเพื่อไปแวะจุดชมวิวฤดูหนาวสวยๆ กันหน่อย
Picture courtesy of (General Incorporated Foundation) Aizu-Wakamatsu Tourism Bureau
ปราสาทสึรุกะ (Tsurugajo Castle) หรืออีกชื่อคือ ปราสาทไอซุวากามัตสึ (Aizu-Wakamatsu Castle) สัญลักษณ์ของไอซุวากามัตสึ เป็นปราสาทที่มีโครงสร้างสูงที่สุดในแถบญี่ปุ่นตะวันออก ยิ่งมาดูใกล้ๆ ยิ่งรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่
ปราสาทสึรุกะยังเป็นปราสาทแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่มุงด้วยกระเบื้องสีแดง หลังจากหิมะตกลงมาจนคลุมปราสาทสึรุกะและบริเวณรอบๆ ให้เป็นสีขาว กระเบื้องสีแดงก็ยิ่งเด่น ดูราวกับภาพลวงตาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของปราสาทสึรุกะ
ฮิกาชิยามะออนเซ็น
Picture courtesy of Higashiyama Onsen Tourism Association
ฮิกาชิยามะออนเซ็น (Higashiyama Onsen) อยู่ห่างจากสถานีไอซุวากามัตสึประมาณ 20 นาทีด้วยรถบัส แสงไฟจากโคมยูกิมิโรโซคุปกคลุมไปทั่วเมืองออนเซ็นเป็นภาพที่หาดูได้ในช่วงกลางหน้าหนาวเท่านั้น
มาแช่ออนเซ็นร้อนๆ ให้ร่างกายอบอุ่นพร้อมชมวิวหิมะสวยๆ กันดีกว่า
2. รถไฟสาย JR คามาอิชิ จังหวัดอิวาเตะ
รถไฟสายทางช้างเผือกแห่งฤดูหนาว
มีใครรู้จักนิทานเรื่อง "รถไฟสายทางช้างเผือก" ของนักเขียนนิทานชื่อดังชาวญี่ปุ่น มิยาซาวะ เค็นจิ กันบ้าง ต้นแบบของรถไฟสายทางช้างเผือกที่วิ่งไปในอวกาศแบบในนิทานก็อยู่ที่จังหวัดอิวาเตะ บ้านเกิดของเขานี่เอง
Photo by FUKA KAMATA
เดินเท้าประมาณ 10 นาทีจากสถานีมิยาโมริ (Miyamori) เราจะมาถึง สะพานแม่น้ำมิยาโมริ (ชื่อเล่น สะพานแว่นตา : เมกาเนะบาชิ) เวลารถไฟวิ่งไปบนสะพานจะเหมือนกับลอยอยู่กลางอากาศราวกับหลุดออกมาจากนิทานเรื่องรถไฟสายทางช้างเผือกไม่มีผิด นี้คือ รถไฟสายคามาอิชิ (Kamaishi Line) ของ JR ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองฮานามากิกับเมืองคามาอิชิในจังหวัดอิวาเตะ
ไม่ไกลจากสะพานแม่น้ำมิยาโมริจะมีจุดพักรถมิยาโมริ (Michi no Eki : Miyamori) ซึ่งมีป้ายของสถานีมิยาโมริที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสวยงามดูโรแมนติกและชวนให้นึกถึงรถไฟสายทางช้างเผือก
ที่จุดพักรถมิยาโมริมีการจำลองภาพเงาขนาดเท่าตัวจริงของมิยาซาวะ เค็นจิ โดยมีฉากหลังเป็นขบวนรถไฟสายทางช้างเผือกขณะกำลังวิ่งไปยังหมู่ดาวกางเขนใต้ด้วย
Picture courtesy of Tono Tourism Assosiation
หลังพระอาทิตย์ตกดินจะมีการเปิดไฟไลท์อัพสะพานข้ามแม่น้ำมิยาโมริเพิ่มความโรแมนติกเข้าไปอีก ไลท์อัพนี้จะมีตลอดทั้งปี ตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกดินจนถึงเวลา 22:00
3. รถไฟสาย JR คิตาคามิ จังหวัดอิวาเตะ
รถไฟทรงพลังที่เชื่อมต่อแดนหิมะ
อีกหนึ่งวิวรถไฟแสนสวยของจังหวัดอิวาเตะคือ รถไฟสายคิตาคามิ (Kitakami Line) ของ JR ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองคิตาคามิ จังหวัดอิวาเตะกับเมืองโยโคเตะ จังหวัดอาคิตะ
หลังจากลอดอุโมงค์ซึ่งตัดผ่านเขตนิชิวากะ (Nishiwaga) พื้นที่หิมะตกหนักทางตะวันตกของจังหวัดอิวาเตะแล้ว เราก็จะพบกับทะเลสาบคินชู (Lake Kinshu) ซึ่งกลายเป็นน้ำแข็งและทุ่งหิมะสุมหนา
ท่ามกลางโลกสีขาวนี้ปรากฏภาพของสะพานสีแดงสดที่แฟนๆ รถไฟและนักถ่ายภาพทั้งหลายแวะเวียนมาเพื่อเก็บภาพกันไม่ขาด
Photo by FUKA KAMATA
ที่น่าตื่นตายิ่งกว่าคือวิวตอนกลางคืนที่ทะเลสาบคินชูจะกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด แสงของรถไฟที่วิ่งผ่านจะส่องกระทบผิวทะเลสาบสว่างไสว รถไฟที่วิ่งฝ่าความมืดดูราวกับดวงดาวที่กำลังพุ่งผ่านไปยังไงยังงั้น
รายละเอียดของจุดชมวิวนี้สามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวที่ ยูเมะพลาซ่า (Yume Plaza) หน้าสถานีฮตโตะยูดะ (Hottoyuda) ของรถไฟ JR
ฮตโตะยูดะ ออนเซ็นแบบไม่ต้องเข้าพัก
Photo by FUKA KAMATA
รถไฟสายคิตาคามิมีรอบไม่เยอะเท่าไหร่ ระหว่างรอรถก็แวะไปแช่ออนเซ็นที่ ฮตโตะยูดะ ฮิกาเอริออนเซ็น (Hottoyuda Higaeri Onsen) ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ แช่ได้ไม่ต้องค้างคืนที่อยู่ติดกับสถานีฮตโตะยูดะเลย
ในห้องอาบน้ำมีสัญญาณไฟคอยบอกเวลารถไฟรอบถัดไปด้วย เพราะงั้นไม่ต้องกลัวตกรถ แถมป้ายสัญญาณไฟอันนี้ยังเป็นอันที่ทาง JR ใช้มาแล้วจริงๆ ด้วย!
เทศกาลโคมไฟหิมะ ยูกิอาคาริ นิชิวากะ
Picture courtesy of Nishiwaga Society of Commerce and Industry
ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เราสามารถเพลิดเพลินไปกับแสงเทียนสีเหลืองทองเรืองรองท่ามกลางหิมะของเทศกาลโคมไฟหิมะ Yukiakari in Nishiwaga ว่ากันว่าเทศกาลโคมไฟหิมะต่างๆ ก็มีต้นกำเนิดมาจากที่นิชิวากะนี่เอง
ในช่วงเทศกาลเมืองทั้งเมืองจะถูกอาบไปด้วยแสงนวล พร้อมมีโคมหิมะน้อยใหญ่หลากแบบให้ได้เดินชม สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นท่ามกลางฤดูหนาวของนิชิวากะ
4. รถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิ จังหวัดยามากาตะ
ดอกไม้งามบนสะพานเหล็กที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
Picture courtesy of Yamagata Railway
รถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิ (Flower Nagai Line) มีประวัติยาวนานกว่า 105 ปี เดิมมีชื่อว่ารถไฟสายนากาอิเคเบ็น (Nagai Keiben Line) เป็นรถไฟสายท้องถิ่นเล็กๆ ที่ค่อยๆ ขยายเส้นทางออกไปเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบันนี้
ชื่อฟลาวเวอร์นากาอิได้มาเพราะมีแหล่งชมดอกไม้เลื่องชื่อตามเส้นทางรถไฟสายนี้อยู่มากมาย ตู้รถก็เลยมีลวดลายของดอกไม้น่ารักประดับอยู่เต็มคัน
พอได้เห็นรถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิสีสันสดใสวิ่งอยู่ท่ามกลางเมืองหิมะสีขาวโพลนแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลย
Picture courtesy of Yamagata Railway
จุดเด่นอีกอย่างของสายรถไฟนี้คือสะพานแม่น้ำโมกามิ (Mogami River Bridge) สะพานรถไฟเหล็กที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เมื่อข้ามสะพานนี้ไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำก็จะเป็นสถานีอาราโตะ (Arato Station) สถานีปลายทางของรถไฟสายนี้
สะพานเหล็กย้อนยุคกับตู้รถไฟลายดอกไม้สีสันสดใส ราวกับเป็นการพบกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทำให้สถานที่นี้ดูโดดเด่นและเปี่ยมพลังท่ามกลางฤดูหนาวอันเงียบสงบ
กินซันออนเซ็น
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
จุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาจังหวัดยามากาตะในฤดูหนาวคือ กินซันออนเซ็น (Ginsan Onsen) ซึ่งอยู่ที่สถานีโออิชิดะ (Oishida)
ถ้านั่งรถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิไปลงที่สถานีอาคายุ (Akayu) ที่ใช้สถานีร่วมกับบริษัท JR ก็จะสามารถเปลี่ยนไปนั่งรถสายยามากาตะชินคันเซ็น เพื่อไปสถานีโออิชิดะได้
จากสถานีอาคายุไปถึงสถานีโออิชิดะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ต่อรถบัสประจำทางหรือรถบัสรับส่งของโรงแรมเพื่อไปยังกินซันออนเซ็น
JR EAST PASS (Tohoku area) ให้คุณสนุกจุใจกับโทโฮคุ
Picture courtesy of East Japan Railway Company
สำหรับใครที่อยากไปตระเวนเที่ยวให้ครบทั้ง 4 สายรถไฟที่แนะนำในครั้งนี้ ขอแนะนำให้ใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) จะคุ้มที่สุด มีตั๋วนี้ใบเดียวก็สามารถใช้บริการชินคันเซ็น รถไฟด่วน รถไฟด่วนพิเศษ รถไฟธรรมดา และรถบัสของ JR ได้ฟรีแบบไม่จำกัดครั้ง
รายละเอียดการซื้อตั๋วและข้อระวังในการใช้ดูได้จาก JR EAST PASS (Tohoku area)
*JR EAST PASS (Tohoku area) สามารถซื้อได้เฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นหรือชาวต่างชาติที่ไม่มีวีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถซื้อได้
แผนเที่ยว 5 วัน ชมสายรถไฟวิวงาม
รถไฟ 4 สายกับจุดท่องเที่ยวเหล่านี้สามารถเที่ยวชมได้ในเวลา 5 วัน แต่อาจจะต้องเร่งทำเวลากันหน่อย ลองดัดแปลงตารางเที่ยวข้างล่างนี้ให้เข้ากับสไตล์เที่ยวของตัวเองกันได้
วันที่ 1 : จังหวัดฟุกุชิมะ รถไฟสายทาดามิ ปราสาทสึรุกะ (ปราสาทไอซุวากามัตสึ) พักที่ฮิกาชิยามะออนเซ็น
วันที่ 2 : จังหวัดอิวาเตะ สะพานแม่น้ำมิยาโมริ พักที่เมืองคิตาคามิ จังหวัดอิวาเตะ
วันที่ 3 : จังหวัดอิวาเตะ รถไฟสายคิตาคามิ แช่ออนเซ็นที่สถานีฮตโตะยูดะ พักที่เมืองคิตาคามิ
วันที่ 4 : จังหวัดยามากาตะ รถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิ พักที่กินซันออนเซ็น
วันที่ 5 : เที่ยวชมกินซันออนเซ็น แล้วกลับบ้าน
รถไฟแต่ละสายนี้มีรอบไม่มากนัก จะให้ดีก็อย่าลืมเช็ครอบรถขากลับล่วงหน้าไว้ด้วย แล้วก็จุดถ่ายภาพทั้งหมดจะอยู่กลางแจ้ง อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันลมกันหนาวไว้ให้พร้อมนะ
หากจังหวะเหมาะทุกคนจะได้ภาพสวยๆ น่าประทับใจแน่นอน
*รถไฟสายฟลาวเวอร์นากาอิของจังหวัดยามากาตะ ใช้ JR EAST PASS (Tohoku area) ไม่ได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Chia
Sponsored by East Japan Railway Company
東京に出てきて8年目です。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง