สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอิบารากิ สัมผัสกับประเพณีญี่ปุ่นและวัฒนธรรมใหม่

ทริปข้ามเวลาสู่ 5 แหล่งท่องท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคในยามากาตะและนีงาตะ! (Yamagata, Niigata)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

มาออกทริปย้อนเวลาไปยังยามากาตะ (Yamagata) ที่ตั้งของกินซันออนเซ็น แช่น้ำชมวิวหิมะ นานูกะมาจิเมืองแห่งสายธาร โยเนซาวะแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และเมืองท่าซากาตะแสนสวย รวมไปถึงนีงาตะ (Niigata) ที่ตั้งของตลาดโบราณและเมืองแห่งเกอิชาขึ้นชื่อที่ฟุรุมาจิ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ยามากาตะเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งปลูกเชอร์รี องุ่น และแหล่งผลิตเนื้อวัวโยเนซาวะ ส่วนนีงาตะขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งปลูกข้าวพันธุ์ดีโคชิฮิคาริและผลิตเหล้าญี่ปุ่น ทั้งสองจังหวัดนี้ไม่ได้เพียงแค่เต็มไปด้วยของกินแสนอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกันมากมายอีกด้วย

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศสมัยโบราณในยามากาตะและนีงาตะ รวมถึงข้อมูลตั๋วสุดคุ้มกันค่ะ!

1. กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) หมู่บ้านออนเซ็นสุดยอดแหล่งชมหิมะ

กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) คือ ออนเซ็นที่ตั้งอยู่ในโอบานาซาว่า (Obanazawa) ของจังหวัดยามากาตะ โดยตั้งชื่อจากเหมืองเงินโนเบซาวะกินซัน (Nobesawa Ginzan) ซึ่งอยู่ใกล้กัน

การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) มาลงที่สถานีโออิชิดะ (Oishida) โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที หลังจากนั้นก็นั่งรถบัส Ginzan Hanagasa Bus จากสถานีโออิชิดะ (Oishida) มาลงป้ายกินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที

สถาปัตยกรรมไม้สไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก สัมผัสกลิ่นอายแห่งยุคไทโช

銀山温泉

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

ปัจจุบันเรียวกังในกินซันออนเซ็นมีอยู่ทั้งหมด 13 แห่งตั้งเรียงรายกันเลียบแม่น้ำกินซัน (Ginzan River) โดยเรียวกังส่วนใหญ่สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคไทโช (ปี 1912 - 1926) จนถึงช่วงต้นยุคโชวะ (ปี 1926 - 1989) สถาปัตยกรรมไม้สูง 3 – 4 ชั้นให้บรรยากาศสไตล์ไทโชโรมัน (*1) อย่างชัดเจน

*1. ไทโชโรมัน : คำเรียกปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมและลักษณะวัฒนธรรมท่ให้บรรยากาศแบบยุคไทโช

銀山温泉

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

เรียวกังที่ขึ้นชื่อที่สุดในพื้นที่คือโนโตยะเรียวกัง (Notoya Ryokan) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรม โดยว่ากันว่าเป็นต้นแบบของอนิเมะเรื่อง “มิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away)” อนิเมชั่นชื่อดังของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ที่กำกับโดยฮายาโอะ มิยาซากิด้วยนะ

โนโตยะเรียวกัง (Notoya Ryokan)
ที่อยู่ : 446 Ginzanshinhata, Obanazawa, Yamagata MAP

เช่าชุดญี่ปุ่นมาถ่ายรูปที่กินซันออนเซ็นกันเถอะ!

銀山温泉

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

เราจะได้เพลิดเพลินกับออนเซ็นซัลเฟตของกินซันออนเซ็นซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยคลายกล้ามเนื้อและเดินเล่นดื่มด่ำกับบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคภายในเมือง

ถ้าใครเช่าชุดญี่ปุ่นที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ไทโชโรมันมาเดินเล่นถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก รับรองว่าจะต้องได้ความทรงจำดีๆ กลับไปกันอย่างแน่นอน

銀山温泉

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

โดยไฮไลท์ที่งดงามที่สุดในรอบปีก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากทัศนียภาพอันขาวโพลนในฤดูหนาวนั่นเอง บรรยากาศสุดโรแมนติกของหิมะที่ปกคลุมหมู่บ้านออนเซ็นดูราวกับเป็นที่ปรากฏในนิยายเลยทีเดียว สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ก็ขอแนะนำว่าห้ามพลาดบรรยากาศสไตล์ดินแดนหิมะด้วยประการทั้งปวง

2. นานูกะมาจิ (Nanukamachi) ย่านร้านค้าแหล่งผสมผสานวัฒนธรรมเก่าและใหม่

นานูกะมาจิ (Nanukamachi) คือ โซนที่เจริญเติบโตที่สุดในเมืองยามากาตะ

นอกจากสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์แล้วที่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยศูนย์การค้าที่รีโนเวทขึ้นใหม่เพียบ! ภายในแหล่งผสมผสานวัฒนธรรมยุคเก่าและใหม่เข้าด้วยกันแห่งนี้จึงเป็นแหล่งรวมเหล่าคนหนุ่มสาวมากมาย

การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) มาลงที่สถานียามากาตะ (Yamagata) โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที - 2 ชั่วโมง 55 นาที หลังจากนั้นก็นั่งรถบัส Beni Chan Bus จากสถานียามากาตะ (Yamagata) มาลงป้ายนานูกะมาจิ (Nanukamachi) โดยใช้เวลาประมาณ 4 นาทีหรือเดินประมาณ 12 นาที

TONGARI BLDG. แหล่งรวมแฟชั่นวัฒนธรรมของยามากาตะในดวงใจของเหล่าวัยรุ่น

TONGARI BLDG

Picture courtesy of TONGARI BLDG.

แหล่งท่องเที่ยวในโซนนานูกะมาจิที่กำลังได้รับการจับตามองในขณะนี้คือ TONGARI BLDG. แห่งนี้นี่เอง

ที่นี่สร้างขึ้นใหม่ในปี 2016 โดยรีโนเวทมาจากอาคารรวมสำนักงานเก่าแก่ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแหล่งรวมร้านอาหารจำหน่ายเมนูจากวัตถุดิบท้องถิ่น, ร้านหนังสือแนะนำธรรมชาติและวัฒนธรรมของยามากาตะ และสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะไปเรียบร้อย นับเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญสำหรับการเผยแพร่วัฒนธรรมของยามากาตะไปในวงกว้างเลยก็ว่าได้

TONGARI BLDG.
ที่อยู่ : Tongari Bldg. 2-7-23 Nanukamachi, Yamagata, Yamagata MAP

เขื่อนอายุมากกว่า 400 ปีแปลงโฉมเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ
มิซุโนะมาจิยะ นานูกะมาจิ โกะเต็นเซกิ (Mizu no Machiya Nanukamachi Gotenzeki)

七日町

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

อีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ห้ามพลาดภายในโซนนานูกะมาจิ

โกะเต็นเซกิ (*2) เป็นหนึ่งในห้าเขื่อนของยามากาตะซึ่งสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้แม่น้ำมามิกาซากิ (Mamigasaki River) ไหลท่วมมาตั้งแต่ช่วง 400 ปีก่อน ในสมัยก่อนถูกใช้เป็นคูเมืองรอบปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) น้ำสำหรับชีวิตประจำวัน และน้ำสำหรับเกษตรกรรม

*2. เซกิ : เขื่อนหรือคันดินที่สร้างขึ้นเพื่อผันน้ำในแม่น้ำไปยังแหล่งอื่นหรือชะลอความเร็วของกระแสน้ำ

ภายในมิซุโนะมาจิยะ นานูกะมาจิ โกะเต็นเซกิ (Mizu no Machiya Nanukamachi Gotenzeki) ที่เปิดให้บริการในปี 2010 เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านโซบะ และร้านน้ำชาเก่าแก่ ไม่ว่าจะเลือกเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจภายในร้านค้าต่างๆ หรือว่าจะเดินเล่นรอบธารน้ำก็ดีทั้งนั้น

มิซุโนะมาจิยะ นานูกะมาจิ โกะเต็นเซกิ (Mizu no Machiya Nanukamachi Gotenzeki)
ที่อยู่ : 2-7-6 Nanukamachi, Yamagata MAP

นอกจากนี้ ภายในยามากาตะก็ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเยือนให้ได้สักครั้งอย่างอาคารสำคัญทางประวติศาสตร์ที่แสนสวยงาม บุนโชคัง (Bunshokan) และสวนคาโจ (Kajo Park) ด้วยนะเออ...

สำหรับใครที่อยากตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในเมืองยามากาตะ ก็ขอแนะนำโรงแรมเมโทรโพลิแทนยามากาตะ (Hotel Metropolitan Yamagata) แสนสะดวกติดกับสถานียามากาตะ (Yamagata Station) สามารถดูข้อมูลได้จาก "เดินเล่นในเมืองยามากาตะ & อาหารกลางวัน โซบะยามากาตะ"

3. โยเนซาวะ (Yonezawa : บริเวณศาลเจ้าอุเอสึกิ / Uesugi Shrine)
เมืองรอบปราสาทกับวัฒนธรรมซามูไร

โยเนซาวะ (Yonezawa) คือ เมืองแห่งเมนูเนื้อวัวโยเนซาวะและเป็นเมืองที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบศาลเจ้าอุเอสึกิ (Uesugi Shrine) นั้นยังคงหลงเหลือสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับตระกูลอุเอสึกิ (*3) อย่างอาคารอุเอสึกิ ฮาคุชาคุเท (Uesugi Hakushakutei) และสุสานตระกูลอุเอสึกิ (Uesugi Family Byosho Graves) ให้เห็นกันอยู่จนถึงปัจจุบัน นับเป็นโซนที่สามารถสัมผัสถึงบรรยากาศของยุคซามูไรได้อย่างแท้จริง

การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) มาลงที่สถานีโยเนซาวะ (Yonezawa) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 55 นาที - 2 ชั่วโมง 10 นาที

*3. ตระกูลอุเอสึกิ : ตระกูลนายพลแห่งยุคเซ็งโกกุ

ศาลเจ้าอุเอสึกิ (Uesugi Shrine) ศาลเจ้าที่บูชาเทพเจ้าแห่งการรบ

上杉神社

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

ศาลเจ้าอุเอสึกิ (Uesugi Shrine) คือ ศาลเจ้าที่สักการะบูชาอุเอสึกิ เคนชิน (*4) รวมถึงเป็นแหล่งชมซากุระขึ้นชื่อด้วย ในฤดูซากุระบาน เราจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของซากุระสายพันธุ์ชื่อดังโซเมโยชิโนะมากกว่า 200 ต้นรอบคูน้ำบานสะพรั่งพร้อมกันงดงามมาก

*4. อุเอสึกิ เคนชิน (Uesugi Kenshin) : นายพลยุคเซ็งโกกุซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการรบ

ศาลเจ้าอุเอสึกิ (Uesugi Shrine)
ที่อยู่ : 1-4-13 Marunouchi, Yonezawa, Yamagata MAP

อุเอสึกิ ฮาคุชาคุเท (Uesugi Hakushakutei) ชมมรดกทางวัฒนธรรมพร้อมลิ้มลองเนื้อวัวโยเนซาวะ

上杉伯爵邸

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

อุเอสึกิ ฮาคุชาคุเท (Uesugi Hakushakutei) คือ คฤหาสน์เก่าของ “อุเอสึกิ โมจิโนริ (Uesugi Mochinori)” ผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 14 ของตระกูลอุเอสึกิซึ่งสร้างขึ้นในปี 1896 โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ ที่นี่ไม่ได้เพียงแค่สามารถชมสวนบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นได้เท่านั้น แต่ยังสามารถลิ้มลองเนื้อวัวโยเนซาวะที่เสิร์ฟด้วยเทคนิคการทำอาหารอันหลากหลายได้ด้วย

อุเอสึกิ ฮาคุชาคุเท (Uesugi Hakushakutei)
ที่อยู่ : 1-3-60 Marunouchi, Yonezawa, Yamagata MAP

สุสานตระกูลอุเอสึกิ (Uesugi Family Byosho Graves) สุสานตระกูล “อุเอสึกิ” ผู้ครองแคว้น

上杉家廟所

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

สุสานตระกูลอุเอสึกิ (Uesugi Family Byosho Graves) แห่งนี้เป็นสถานที่สักการะบูชาผู้ครองแคว้นรุ่นก่อนๆ ของตระกูลอุเอสึกิ ในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกไฮเดรนเยีย (อาจิไซ) สีสันสดใส ส่วนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์จะมีการจัดงานเทศกาลโคมไฟหิมะอุเอสึกิ (Uesugi Snow Lantern Festival) ที่สร้างบรรยากาศชวนฝันของโคมเทียนท่ามกลางหิมะ

สุสานตระกูลอุเอสึกิ (Uesugi Family Byosho Graves)
ที่อยู่ : 1-5-30 Gobyo, Yonezawa, Yamagata MAP

นอกจากนี้ ภายในโซนโยเนซาวะยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์อย่างเซ็นโชขุ โคโบ วาคุวาคุ คัง (Senshoku Koubou Wakuwaku Kan) และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์สิ่งทอโยเนซาวะ (Yonezawa Textile Historical Museum) ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์ย้อมสีเบนิบานะ (ดอกคำฝอย) แบบโบราณได้ด้วย สำหรับใครที่สนใจแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในโยเนซาวะก็สามารถเข้าไปดู ได้ที่ "ลิ้มรสเนื้อวัวโยเนะซาวะ & เดินเล่นในเมืองโยเนะซาวะ" ได้เลย

4. ซากาตะ (Sakata) เมืองท่าอันเจริญรุ่งเรืองพร้อมกลิ่นอายแห่งศิลปะ

เมืองซากาตะ (Sakata) คือ เมืองท่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยก่อน โดยมั่งคั่งจากการขนส่งข้าวและปลาด้วยเรือคิตามาเอะบูเนะ (*5) ไปยังทั่วญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ปัจจุบันที่นี่เป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือจากวัฒนธรรมของเรือสินค้าอย่างโกดังซังเคียวโซโกะ (Sankyo soko) และพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอมมะ (Homma Museum of Art) ให้ได้ชมกันอีกด้วย เราจึงสามารถสัมผัสกับบรรยากาศสไตล์ดังกล่าวได้อย่างชัดเจน

การเดินทาง :
จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งยามากาตะชินคันเซ็น (Yamagata Shinkansen) มาลงที่สถานีชินโจ (Shinjo) โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟสาย Rikuu West Line จากสถานีชินโจ (Shinjo) มาลงที่สถานีซากาตะ (Sakata) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
หรือจากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งโจเอสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) มาลงที่สถานีนีงาตะ (Niigata) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที - 2 ชั่วโมง 25 นาที หลังจากนั้นก็นั่งรถไฟสาย Uetsu Main Line มาลงที่สถานีซากาตะ (Sakata) โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที - 2 ชั่วโมง 20 นาที

*5. คิตามาเอะบูเนะ : เรือสินค้าที่นิยมใช้ขนส่งทางทะเลมาตั้งแต่ยุคเอโดะ (ปี 1603 - 1868) จนถึงยุคเมจิ (ปี 1868 - 1912)

“ซังเคียวโซโกะ (Sankyo soko)” สถานที่ถ่ายทำซีรีส์ “สงครามชีวิตโอชิน”

山居倉庫

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

ภายในเมืองซากาตะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันมีเอกลักษณ์มากมาย สถานที่ขึ้นชื่อที่สุดก็จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากโกดังซังเคียวโซโกะ (Sankyo soko) ที่สร้างขึ้นในปี 1893 แห่งนี้นี่แหละ

เนื่องจากเป็นยุ้งฉางขนาดใหญ่กว่า 12 หลังคาเรือนที่สร้างขึ้นใกล้กับท่าเรือเพื่อจัดเก็บข้าวสำหรับการขนส่ง ด้านหลังจึงมีการปลูกต้นเคยากิเรียงรายเอาไว้เป็นแนวยาวเพื่อป้องกันแสงแดดและคลื่นลมจากทะเลญี่ปุ่น

วิวยุ้งฉางขนาดยักษ์และแนวต้นเคยากินี้เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมที่ปรากฏเป็นฉากหลังของละครหลายเรื่องเลยทีเดียว แม้กระทั่งละครยอดนิยมระดับโลกเรื่อง “สงครามชีวิตโอชิน” ที่ออกอากาศในปี 1983 – 1984 ยังเลือกมาถ่ายทำที่ซังเคียวโซโกะแห่งนี้เลยล่ะค่ะ

ซังเคียวโซโกะ (Sankyo soko)
ที่อยู่ : 1-1-8 Sankyomachi, Sakata, Yamagata MAP

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอมมะ (Homma Museum of Art) แหล่งรวมทรัพย์สมบัติของเจ้าของที่ดินซากาตะ

本間美術館清遠閣

Picture courtesy of Yamagata Prefecture

นอกจากซังเคียวโซโกะแล้วพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอมมะ (Homma Museum of Art) ที่สร้างขึ้นโดยเจ้าของที่ดินใหญ่ในซากาตะอย่างตระกูลฮอมมะก็เป็นอีกหนึ่งในสถาปัตยกรรมขึ้นชื่อประจำเมืองซากาตะเช่นเดียวกัน

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอมมะแห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งของล้ำค่าในยุคสมัยต่างๆ รวมถึงเป็นที่ตั้งของสวนคาคุบุเอ็น (Kakubuen garden) สวนญี่ปุ่นที่จำลองมาจากภูเขาโชไค (Mount Chokai) ซึ่งตั้งอยู่ในพรมแดนของจังหวัดยามากาตะและอาคิตะ และโรงน้ำชาเซเอ็นคาขุ (Seienkaku Tea House) ที่สามารถลิ้มลองชาแสนอร่อยได้ด้วย

พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอมมะ (Homma Museum of Art)
ที่อยู่ : 7-7 Onaricho, Sakata, Yamagata MAP

นอกจากนี้ ภายในเมืองซากาตะยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสัมผัสประวัติศาสตร์อย่างโซมาโร (Somaro) สำหรับชมการแสดงของเหล่าไมโกะ วัดไคโคจิ (Kaikoji Temple) แหล่งสักการะบูชาโซคุจิมบุทสึ (*6) 2 องค์แห่งเดียวในญี่ปุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับใครที่อยากตระเวนชมแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในซากาตะก็เข้าไปดูที่ "Shonai เมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยเรือสำเภา, ชมศิลปะการแสดงของ Maiko, พิพิธภัณฑ์แมงกะพรุน + แท็กซี่ & ค้างคืนที่ Yunohama Onsen"ssกันได้เลย

*6. โซคุจิมบุทสึ : นักบวชในศาสนาพุทธผู้มรณภาพระหว่างการนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมเป็นเวลาอันยาวนานจนร่างกายแห้งกลายเป็นมัมมี่ซึ่งถือเป็นการตรัสรู้ธรรมขั้นสูงสุดในการปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา

5. ฟุรุมาจิ (Furumachi) เมืองเกอิชาอันแสนอบอุ่น

ฟุรุมาจิ (Furumachi) เป็นหนึ่งในโซนที่เจริญที่สุดในนีงาตะ แถมยังเป็นเมือง "ฮานะมาจิ" (Hanamachi) หรือย่านแหล่งบันเทิงเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นอีกด้วย

ภายในโซนที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมแห่งนี้นอกจากจะยังคงหลงเหลือสถานที่ทางประวัติศาสตร์อันเก่าแก่อย่างศาลเจ้าฮาคุซัน (Hakusan Shrine) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านความรักและตลาดฮอนโจ (Honcho Market) แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์สดใหม่จากทะเลและภูเขาแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าขนาดใหญ่และคาเฟ่สุดเก๋ไก๋อีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งโจเอสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) มาลงที่สถานีนีงาตะ (Niigata) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที - 2 ชั่วโมง 25 นาที หลังจากนั้นก็นั่งรถบัสสาย 7 - 11, B1, C2, C3 มาลงป้ายฟุรุมาจิ (Furumachi) โดยใช้เวลาประมาณ 7 - 8 นาที

ศาลเจ้าฮาคุซัน (Hakusan Shrine) ศาลเจ้ายอดนิยมในการขอพรเรื่องความรัก

白山神社

Picture courtesy of Hakusan Shrine

ศาลเจ้าฮาคุซัน (Hakusan Shrine) ที่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรด้านความรักแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความเชื่อของผู้คนท้องถิ่นว่าเป็นสถานที่สิงสถิตของเทพเจ้าแห่งการเดินเรืออย่างปลอดภัย การเดินทางและการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยอีกด้วย

ศาลเจ้าฮาคุซัน (Hakusan Shrine)
ที่อยู่ : 1-1 Ichibanboridoricho, Chuo, Niigata, Niigata MAP

ตลาดฮอนโจ (Honcho Market) ตลาดเก่าแก่แหล่งจำหน่ายพืชผักผลไม้และปลาสดใหม่

本町市場

Picture courtesy of Niigata Prefecture

ภายในตลาดฮอนโจ (Honcho Market) เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากกว่า 60 ร้าน เราสามารถเลือกซื้อปลาสดใหม่จากทะเลนีงาตะและทะเลซาโดะ รวมถึงพืชผักผลไม้ตามฤดูกาลได้ที่นี่เลย เนื่องจากผู้คนที่มาส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านท้องถิ่น เราจึงจะได้เห็นการพูดคุยทักทายแสนอบอุ่นตามประสาชาวบ้านอย่างใกล้ชิด

ตลาดฮอนโจ (Honcho Market)
ที่อยู่ : Honchodori 6 Bancho, Chuo, Niigata, Niigata MAP

ฟุรุมาจิคะไก (Furumachi Kagai) เมืองเกอิชาโบราณและแหล่งภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น

古町花街

Picture courtesy of Niigata Prefecture

ฟุรุมาจิคะไก (Furumachi Kagai) ตั้งอยู่ตรง 8 บังโจและ 9 บังโจของบริเวณฟุรุมาจิ โดยในปัจจุบันมีเกอิชากว่า 20 คนให้บริการอยู่ตามภัตตาคารท้องถิ่น ภัตตาคารขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากในบรรดาภัตตาคารทั้งหมดประกอบด้วยนาเบะชายะ (Nabe Chaya) และอิคินาริยะ (Ikinariya)

นอกจากแหล่งท่องเที่ยวที่ได้แนะนำกันไปในข้างต้นแล้วก็ยังมีสถานที่น่าเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองนีงาตะ (Niigata City History Museum) และแฟชั่นมอลล์ BILLBOARD PLACE ในเขตเมืองนีงาตะ เป็นต้น สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมภายในเมืองนีงาตะก็เข้าไปดูที่ "เดินเล่นในนีงะตะ & อาหารกลางวัน “Kiwami”" กันได้เลย

ห้ามพลาด “JR EAST PASS” ตั๋วท่องเที่ยวยามากาตะ นีงาตะสุดคุ้ม!

JET_TH_A
JET_TH_B

Picture courtesy of East Japan Railway Company (JR East)

สำหรับใครที่อยากตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในยามากาตะไม่ว่าจะเป็นซากาตะ, นานูกะมาจิ, โยเนซาวะ และกันซันออนเซ็นขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว “JR EAST PASS (Tohoku area)”
ส่วนใครที่สนใจแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในนีงาตะอย่างฟุรุมาจิก็ขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว “JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)” ตามเส้นทางการท่องเที่ยวเป้าหมายเลยค่ะ

ตั๋วนี้รองรับการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เช่น ชินคันเซ็น, รถไฟด่วนพิเศษ (Limited express trains), รถไฟเร็ว (Rapid trains), รถไฟธรรมดา (Local trains) และรถบัส JR ภายในโซนที่กำหนดแบบไม่จำกัดเที่ยว สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีซื้อและข้อควรระวังในการใช้งานสามารถเข้าไปดูได้จากลิงค์ด้านล่างเลย

- JR EAST PASS (Tohoku area)
- JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
*ตั๋วนี้เป็นตั๋วโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โปรดระวังว่าชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถใช้งานได้

ชวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคสำหรับใครที่เดินทางมายังยามากาตะและนีงาตะ!

ยามากาตะและนีงาตะไม่เพียงแค่เป็นแหล่งกำเนิดเมนูอาหารยอดนิยมของญี่ปุ่นเท่านั้น แต่แหล่งท่องเที่ยวสไตล์ย้อนยุคก็ยังได้รับความนิยมอย่างมากไม่แพ้กัน ถ้าใครมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็บอกเลยว่าต้องตีตั๋ว “JR EAST PASS” สุดคุ้มมาเที่ยวยามากาตะและนีงาตะกันให้ได้ค่ะ!

เที่ยว "ยามากาตะ" และ "นีงาตะ" ด้วยตั๋ว JR EAST PASS กันเถอะ!
https://matcha-jp.com/th/yamagataniigata

เว็บไซต์แนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาทริปเที่ยวโทโฮคุ!
TOHOKU BUFFET : https://www.tohoku-buffet.com/

Written by Chen
Sponsored by Yamagata Prefecture and Niigata Prefecture

Written by

東京に出てきて8年目です。

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง