Start planning your trip

ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าถ่ายรูปอัพลงโซเชียลในจังหวัดยามากาตะและนีงาตะ! ในยามากาตะมีทั้งปีศาจหิมะแห่งเขาซาโอและแหล่งพาวเวอร์สปอตอันศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในนีงาตะมีทั้งงานศิลปะในรถไฟ "เก็นบิชินคันเซ็น" และแปลงร่างเป็นโออิรัน ถ่ายรูปสวยๆ ไปลงโซเชียล!
จังหวัดยามากาตะและจังหวัดนีงาตะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวแนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาที่ถ่ายรูปเด็ดๆ ไปลงโซเชียล ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมน่าถ่ายรูปไม่ว่าจะเป็นแหล่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ตระการตา สัตว์ทะเลแสนน่ารัก กิจกรรมถ่ายรูปโออิรันแสนสวย และอื่นๆ อีกเพียบ!
นอกจากนี้ก็ยังมีเทคนิคการประหยัดค่าเดินทางให้สามารถท่องเที่ยวได้ในราคาสุดคุ้มด้วยนะ บอกเลยว่าห้ามพลาดค่ะ!
แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวเลยก็คือปีศาจหิมะบนเขาซาโอ (The Snow Monsters of Mount Zao) ในจังหวัดยามากาตะนั่นเอง ระหว่างช่วงปลายเดือนธันวาคม - ต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ลมฤดูหนาวอันหนาวเหน็บจะพัดโหมเข้ากับต้นไม้จำพวกต้นสนที่มีใบเขียวตลอดปีจนเกิดปรากฏการณ์น้ำแข็งและหิมะเกาะต้นสน ก่อเกิดเป็นรูปร่างอันงดงาม
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
ต้นสนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งสีขาวโพลนดูราวกับเป็นสัตว์ประหลาดในดินแดนหิมะ จนถูกเรียกกันว่าเป็น "ปีศาจหิมะ" เลยทีเดียว
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
เมื่อตกกลางคืนจะมีการประดับไฟไลท์อัพต้นสนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะเหล่านี้ ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตอนกลางวันโดยสิ้นเชิง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการไลท์อัพประจำปีนี้สามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์ทางการของกระเช้าลอยฟ้าซาโอ (Zao Ropeway) ได้เลย
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
นอกจากปรากฏการณ์น้ำแข็งเกาะต้นสนแสนสวยแล้วภายในซาโอออนเซ็นสกีรีสอร์ท (Zao Onsen Ski Resort) พื้นที่กว้างใหญ่กว่า 305 ตารางกิโลเมตรก็ยังมีการจัดเตรียมกิจกรรมสุดพิเศษเฉพาะฤดูหนาวเอาไว้ให้สนุกกันเพียบเลยอีกด้วย!
สำหรับใครที่อยากไปนั่งกระเช้าลอยฟ้าซาโอ ชมปรากฏการณ์น้ำแข็งเกาะ และเข้าร่วมกิจกรรมไลท์อัพต้นสนที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสามารถเข้าไปดูได้ที่ "เที่ยวชม Snow Monster ตลอดสองข้างทาง ด้วยรถตะลุยหิมะขบวนพิเศษ NIGHT CRUISER"
การเดินทาง : นั่งรถบัส Yamako จากสถานียามากาตะ (Yamagata) ไปยัง Zao Onsen Bus Terminal โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาทีแล้วเปลี่ยนมาขึ้นกระเช้าลอยฟ้าซาโอ (Zao Ropeway) ไปยังสถานีซาโอซันโจ (Zao Sancho) โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
สัตว์น้ำยอดนิยมของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะ (Kamo Aquarium) ในจังหวัดยามากาตะจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากแมงกะพรุนมากกว่า 50 สายพันธุ์นี่ล่ะค่ะ และมีจำนวนการแมงกะพรุนที่จัดแสดงเยอะมากจนได้รับการบันทึกสถิติโลกกินเนสส์บุ๊คว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่จัดแสดงแมงกะพรุนมากเป็นอันดับ 1 ของโลก
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
ไฮไลท์ประจำพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะแห่งนี้คือ Jellyfish Dome Theater ห้องจัดแสดงแมงกะพรุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตรและบรรจุน้ำกว่า 40 ตัน ออกแบบมาโดยคำนึงถึงพฤติกรรมการลอยตัวตามกระแสน้ำของแมงกะพรุน ขอบอกว่าในนี้มีแมงกะพรุนแหวกว่ายอยู่มากมายกว่า 4,000 ตัวเลยล่ะค่ะ
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
นอกจากแมงกะพรุนแล้วภายในพิพิธภัณฑ์ก็ยังมีการจัดแสดงบรรดาสัตว์แสนน่ารักชนิดอื่นๆ เอาไว้มากมายไม่ว่าจะเป็นปลาน้ำจืดและปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงแมวน้ำและสิงโตทะเล
บริเวณโดยรอบพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำคาโมะเป็นที่ตั้งของทั้งยุโนะฮามะออนเซ็น (Yunohama Hot Spring) และเมืองท่าที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะอย่างเมืองซากาตะ (Sakata) สำหรับใครที่อยากตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองสึรุโอกะ (Tsuruoka) และเมืองซากาตะสามารถเข้าไปดูได้ที่ "Shonai เมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยเรือสำเภา, ชมศิลปะการแสดงของ Maiko, พิพิธภัณฑ์แมงกะพรุน + แท็กซี่ & ค้างคืนที่ Yunohama Onsen"
การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata) นั่งรถไฟสาย Uetsu Main Line มาลงที่สถานีสึรุโอกะ (Tsuruoka) โดยใช้เวลาประมาณ 110 นาที แล้วก็นั่งรถบัส Shonai Kotsu มาลงป้าย Kamo Suizoku-kan โดยใช้เวลาประมาณ 30 - 35 นาที
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
วัดยามาเดระ (Yama-dera) ที่ตั้งอยู่ตรงชานเมืองยามากาตะมีชื่อเรียกทางการว่าวัดริชชาคุจิ (Risshaku-ji Temple) สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ. 860 วัดแห่งนี้เป็นศูนย์รวมความเชื่อมาตั้งแต่ในอดีตว่าถ้าใครมากราบไหว้ขอพรจะช่วยตัดความสัมพันธ์ที่ไม่ดีและดลบันดาลให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และด้วยทัศนียภาพที่งดงาม เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ที่นี่กลายเป็นโลเกชั่นถ่ายทำของภาพยนตร์เรื่อง "ตราบวันฟ้าใส (March comes in like a lion)" ซึ่งดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะเรื่องเดียวกัน
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
อาคารคันซันโด (Kanzandou - 開山堂) และโนเคียวโด (Noukyoudou - 納経堂) ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัดนั้นเป็นแหล่งชมวิวสุดสวยขึ้นชื่อที่เราสามารถชมทัศนียภาพโดยรอบได้
คันซันโดเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นไม้นักบวชชั้นสูงผู้ก่อตั้งวัดยามาเดเระ ส่วนโนเคียวโดหลังสีแดงที่ตั้งอยู่บนโขดหินเป็นสถานที่เก็บพระสูตรต่างๆ และเป็นสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดของวัดยามาเดระ
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
โกะไดโด (Godaidou - 五大堂) ที่สร้างขึ้นเลียบหน้าผาเป็นจุดชมวิวสุดงามสำหรับชมวิวตีนเขาด้านล่าง
บริเวณใกล้กับวัดยามาเดระเป็นที่ตั้งของทั้งสวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเก็บเชอร์รีและองุ่นได้ รวมถึงจุดพักรถเทนโดออนเซ็น (Tendo Hot Spring Rest Area) ที่สามารถเพลิดเพลินกับออนเซ็นเท้าได้ฟรี สำหรับ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Senzan จากสถานียามากาตะ (Yamagata) มาลงที่สถานียามาเดระ (Yamadera) โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
ภูเขากัตซัน (Mount Gassan) ภูเขาฮากุโระ (Mount Haguro) และภูเขายุโดโนะ (Mount Yudono) ที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางจังหวัดยามากาตะนั้นจะถูกเรียกรวมกันว่าสามเขาเดวะซันซัง (Dewa Sanzan) และสถานที่ที่สักการะบูชาเทพเจ้าของภูเขาทั้ง 3 แห่งก็คือศาลเจ้าเดวะซันซัง (Dewa Sanzan-jinja Shrine) นั่นเอง
เจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระ (Five-story Pagoda Of Mount Haguro) ตั้งอยู่ระหว่างทางเดินสักการะของศาลเจ้าเดวะซันซังท่ามกลางป่าสนเก่าแก่อายุมากกว่า 1,000 ปี
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
เจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระแห่งนี้สูง 29 เมตร ตัวอาคารสร้างมาจากไม้ตั้งแต่ราว 600 ปีก่อนโดยไม่มีการลงรักจากธรรมชาติ เจดีย์ 5 ชั้นทรงสูงเพรียวลมดูสง่างามราวกับภาพหงส์กางปีกเลยทีเดียว เป็นเจดีย์สมบัติของชาติเพียงแห่งเดียวของภูมิภาคโทโฮคุ
Picture courtesy of Yamagata Prefecture
เมื่อผ่านเจดีย์ 5 ชั้น เดินขึ้นบันไดหินสูง 2,446 ขั้นมาก็จะถึงอาคารซันจินโกไซเด็น (Sanjingousaiden - 三神合祭殿) หลังคามุงหญ้าฟางแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนี้ก็ห้ามพลาดแวะไปยังเจดีย์ 5 ชั้นแห่งวัดเซ็มโปจิ (Zenpoji Temple’s Five-story Pagoda) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์ 5 ชั้นบนภูเขาฮากุโระด้วย บอกเลยว่าควรค่าแก่การมาเยือนให้ได้สักครั้ง! สำหรับใครที่อยากชมเจดีย์ทั้ง 2 แห่งภายในทริปเดียวสามารถเข้าไปดูได้ที่ "ดูหิมะปกคลุมเจดีย์ห้าชั้นแห่งภูเขา Haguro เที่ยวศาลเจ้า Dewa Sanzanและเจดีย์ห้าชั้นแห่งวัด Zenpou-ji"
การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata) นั่งรถไฟสาย Uetsu Main Line มาลงที่สถานีสึรุโอกะ (Tsuruoka) โดยใช้เวลาประมาณ 110 นาทีแล้วนั่งรถบัส Shonai Kotsu ที่มุ่งหน้าไปยังฮากุโระซันโจ (Haguro Sancho) มาลงป้าย Zuishinmon โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และเดินต่ออีก 10 นาที
เก็นบิชินคันเซ็น (GENBI SHINKANSEN) คือรถไฟชินคันเซ็นแบบ 6 ขบวน (ขบวนที่ 11 - 16) ที่รีโนเวทมาจากชินคันเซ็นรุ่น E3 โดยวิ่งให้บริการระหว่างสถานีเอจิโกะ-ยูซาว่า (Echigo-Yuzawa) ไปจนถึงสถานีนีงาตะ (Niigata) ในจังหวัดนีงาตะ ขบวนที่ 11 เป็นขบวนกำหนดที่นั่ง ส่วนขบวนที่ 12 – 16 เป็นที่นั่งอิสระ การประดับตกแต่งภายในขบวนรถไฟล้วนสร้างสรรค์โดยศิลปินร่วมสมัยทั้งหมด
นอกจากเราจะสามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟ JR แล้วก็ยังสามารถจองผ่านทัวร์ท่องเที่ยวที่ให้บริการโดย East Japan Railway Company ได้ด้วย
Picture courtesy of East Japan Railway Company
ภาพภายนอกขบวนรถไฟเป็นผลงานของช่างภาพนินากาวะ มิกะซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานดอกไม้ไฟนากาโอกะขึ้นชื่อของนีงาตะ บอกเลยว่าไม่ว่าใครก็จะต้องตกตะลึงในความงดงามเจิดจ้าของมันอย่างแน่นอน
Picture courtesy of East Japan Railway Company
ภายในขบวนที่ 13 มีทั้งโซนเด็กและโซนคาเฟ่ให้บริการ คอนเส็ปต์ของโซนเด็กคือรถไฟของเล่น บนกำแพงขบวนได้รับการออกแบบเป็นรูปเส้นรางรถไฟเหมือนกับชิ้นส่วนรางของรถไฟของเล่น ส่วนโซนคาเฟ่มีการจัดเสิร์ฟเครื่องดื่มจากคาเฟ่ยอดนิยมอย่างสึบาเมะคอฟฟี่ (Tsubame Coffee)
Picture courtesy of East Japan Railway Company
บนขบวนที่ 15 มีการจัดแสดงผลงานศิลปะในตู้กระจกให้บรรยากาศราวกับเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์นั่งเก็นบิชินคันเซ็นและแช่ออนเซ็นชิลล์ๆ ที่เอจิโกะ-ยูซาว่าสามารถเข้าไปดูได้ที่ "เดินเล่นรอบๆ ECHIGO-YUZAWA"
การเดินทาง : อยู่ที่สถานีเอจิโกะ-ยูซาว่า (Echigo-Yuzawa) หรือสถานีนีงาตะ (Niigata)
ที่อยู่
เขตให้บริการ : ระหว่างสถานีเอจิโกะ-ยูซาว่า (Echigo-Yuzawa) ไปถึงสถานีนีงาตะ (Niigata)
เวลาทำการ
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ที่<a href="https://www.jreast.co.jp/e/joyful/genbi.html" target="_blank">สถานีที่จอดและตารางเวลาเดินรถ</a>ภายในเว็บไซต์ทางการ
วันหยุด
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ที่<a href="https://www.jreast.co.jp/e/joyful/genbi.html" target="_blank">ปฏิทินเดินรถ</a>ภายในเว็บไซต์ทางการ
บริการwifi
ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
VISA,MASTER,JCB,American Express,Diners Club,銀聯Card
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีเอจิโกะ-ยูซาว่า (Echigo-Yuzawa) หรือสถานีนีงาตะ (Niigata)
HPทางการ
https://www.jreast.co.jp/e/joyful/genbi.html
Picture courtesy of studio Clan
ที่ฟุรุมาจิ (Furumachi) ในจังหวัดนีงาตะ (Niigata) ขึ้นชื่อเรื่องเป็นที่ตั้งของเมืองแห่งสถานเริงรมย์ในสมัยก่อนแห่งนี้มี studio Clan สตูดิโอสำหรับแต่งตัวเป็นโออิรัน (*1) ถ่ายรูปสวยๆ ที่ได้รับความนิยมถล่มทลายด้วยนะ ว่ากันว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เลย
เสื้อผ้าและทรงผมของโออิรันมีเอกลักษณ์อยู่ที่ความงดงามโดดเด่นยิ่งกว่าชุดญี่ปุ่นทั่วไปถึงขนาดได้รับการขนานนามว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งจากความลึกซึ้งของมัน
*1. โออิรัน : ชื่อเรียกของนางโลมระดับสูงสุดในสมัยเอโดะ (ปี 1603 - 1867)
Picture courtesy of studio Clan
ที่นี่มีทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและบูธสำหรับถ่ายภาพให้เราได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูปสุดอาร์ตถึงขั้นว่าไม่ว่าใครเห็นก็จะต้องตกตะลึง (ค่าถ่ายภาพ : ราคารวมภาษีเริ่มต้น 10,584 เยน)
Picture courtesy of studio Clan
เนื่องจากพนักงานร้านสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี ถึงแม้จะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็สามารถใช้บริการได้แน่นอน นอกจากนี้ก็รับประกันว่าได้รับไฟล์รูปภาพทั้งหมดภายในวันเดียวกันนี้แน่นอนค่ะ
การเดินทาง : จากสถานีนีงาตะ (Niigata) นั่งรถบัส C60 ของ Niigata Kotsu ที่มุ่งหน้าไปยัง Irifune Eigyosho มาลงป้าย Higashibori Juni Bancho โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เดินต่ออีก 1 นาที
ที่อยู่
2762 Honchodori 12 Bancho, Chuo, Niigata, Niigata
เวลาทำการ
09:00 - 18:00 น.
วันหยุด
ไม่มีตลอดปี
บริการwifi
ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
VISA,MASTER,JCB,American Express,Diners Club
ภาษาที่รับ
ภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ
สถานีใกล้ที่สุด
Higashibori Juni Bancho (รถบัส Niigata Kotsu)
วีธีการเดินทาง
จากสถานีโตเกียว (Tokyo) นั่งโจเอ็ตสึชินคันเซ็น (Joetsu Shinkansen) มาลงที่สถานีนีงาตะ (Niigata) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที - 2 ชั่วโมง 25 นาที หลังจากนั้นก็นั่ง<a href="http://www.niigata-kotsu.co.jp/~noriai/route-bus/kaisei/timetable/detail/unkoubin_w/c6.pdf" target="_blank">รถบัส C60 ของ Niigata Kotsu</a> ที่มุ่งหน้าไปยัง Irifune Eigyosho มาลงป้าย Higashibori Juni Bancho โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที + เดินต่ออีก 1 นาที
ราคา
เริ่มต้น 10,584 เยน (ราคารวมภาษี)
เบอร์โทรศัพท์
025-201-6896
HPทางการ
https://www.studio-clan.com/home-1
Picture courtesy of East Japan Railway Company
สำหรับใครที่อยากตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่สุดงาม เช่น ปีศาจหิมะบนเขาซาโอหรือวัดยามาเดระในยามากาตะขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว "JR EAST PASS (Tohoku area)"
ส่วนใครที่สนใจอยากเที่ยวแหล่งถ่ายรูปสุดพิเศษเฉพาะของจังหวัดนีงาตะ เช่น เก็นบิชินคันเซ็นและสตูดิโอถ่ายรูปโออิรันก็ขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว "JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)" เลยค่ะ
รับรองว่าใช้แล้วจะสามารถใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะอย่างชินคันเซ็น รถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express Trains) รถไฟเร็ว (Rapid Trains) รถไฟธรรมดา (Local Trains) และรถบัส JR ภายในโซนที่กำหนดได้อย่างไม่จำกัดอย่างแสนคุ้มแน่นอน สำหรับวิธีซื้อและข้อควรระวังในการใช้งานสามารถเข้าไปดูได้จากลิงค์ด้านล่างนี้
■ JR EAST PASS (Tohoku area)
■JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
*JR EAST PASS จำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้น โปรดระวังว่าชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศญี่ปุ่นที่ไม่มีวีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถใช้งานได้
เที่ยว "ยามากาตะ" และ "นีงาตะ" ด้วยตั๋ว JR EAST PASS กันเถอะ!
https://matcha-jp.com/th/yamagataniigata
เว็บไซต์แนะนำสำหรับใครที่กำลังมองหาทริปเที่ยวโทโฮคุ!
TOHOKU BUFFET : https://www.tohoku-buffet.com/
Written by Chen
Sponsored by Yamagata Prefecture and Niigata Prefecture
東京に出てきて8年目です。