【จ.ยามากาตะ】5 ไฮไลท์ประจำเมืองทสึรุโอกะและซากาตะสัมผัสวัฒนธรรมแห่งภูมิภาคโทโฮคุ
จ.ยามากาตะเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็นและวิวภูเขาสุดงาม สำหรับใครที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมแห่งยามากาตะตลอด 2 วัน 1 คืนก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวเมืองทสึรุโอกะและเมืองซากาตะเลยค่ะ
จ.ยามากาตะที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นทางตะวันตกของภูมิภาคโทโฮคุแห่งนี้เป็นแหล่งธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่โดดเด่นเรื่องความงดงามทั้งภูเขาและทะเล โดยมีนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาสัมผัสวัฒนธรรมอาหารการกินอันหลากหลายโดยเฉพาะอาหารทะเล, ออนเซ็น, ธรรมชาติ และวัด-ศาลเจ้าเก่าแก่กันเป็นจำนวนมาก สามหุบเขาแห่งเดวะซึ่งยังคงหลงเหลือความเชื่อดั้งเดิมเกี่ยวกับภูเขา, กินซันออนเซ็น และวัดยามะเดระนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อชั้นแนวหน้าประจำจ.ยามากาตะเลยก็ว่าได้
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำไฮไลท์ที่เล่าขานวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แห่งเมืองทสึรุโอกะ(Tsuruoka) และเมืองซากาตะ(Sakata)ในจ.ยามากาตะซึ่ง บรรณาธิการแผนกภาษาอังกฤษประจำเว็บไซต์ MATCHA ได้เดินทางไปเยือนจริงๆกันค่ะ
เส้นทางจากสนามบินฮาเนดะมาถึงสนามบินโชในของจ.ยามากาตะมีเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบิน ANA บินให้บริการโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสามารถเดินทางได้ในราคาสุดคุ้มด้วย ตั๋วส่วนลดพิเศษราคา 10,800 เยน / เที่ยว (เว็บไซต์จองกดที่นี่)
1. Zenpoji (วัดเซ็มโปจิ) วัดเซนที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูมังสวิรัติและกิจกรรมนั่งสมาธิแบบเซนได้
ภายในเมืองทสึรุโอกะที่ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินโชในประมาณ 14 กิโลเมตรแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ Zenpoji (วัดเซ็มโปจิ) วัดเซนที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ในสมัยเฮอัน วัดเซ็มโปจิขึ้นชื่อเรื่องการสักการะ “เทพเจ้ามังกร” ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้พิทักษ์ท้องทะเล ในสมัยก่อนคนญี่ปุ่นจึงเรียกที่นี่ว่า “ริวเกะจิ”
วัดที่สร้างขึ้นเพื่อการสวดภาวนาขอพรแห่งนี้ตั้งอยู่บนทำเลที่รายล้อมไปด้วยสามหุบเขาแห่งเดวะ โดยมีผู้คนเดินทางมาสักการะกันเป็นจำนวนมากตลอดทุกปี
สถาปัตยกรรม 6 แห่งจากในบรรดาสถาปัตยกรรมภายในบริเวณวัดทั้งหมดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ โดยเฉพาะเจดีย์ 5 ชั้น, ประตูยามะมง และโกะเฮียขุราคันโดนั้นถ่ายทอดประวัติศาสตร์ของวัดแห่งนี้ออกมาได้เป็นอย่างดี ส่วนภายในโบสถ์หลักเป็นทั้งสำนักสวดภาวนาและสำนักบำเพ็ญสมาธิ รวมถึงสถานที่จัดแสดงพระพุทธรูปสุดแปลกอันล้ำค่าด้วย
ภายใน โกะเฮียขุราคันโด ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1855 ประดิษฐานรูปปั้นพระอรหันต์ (นักบุญในพุทธศาสนา) เป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อได้เห็นบรรยากาศเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชาวพุทธก็ต้องรู้สึกทึ่งในความขลังกันอย่างแน่นอน
นอกจากสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของวัดเซ็มโปจิแล้วก็ยังมีเสน่ห์สำคัญอีกอย่างหนึ่งอยู่ที่สามารถเพลิดเพลินกับ กิจกรรมนั่งสมาธิแบบเซ็น และ เมนูมังสวิรัติ ได้นี่แหละ ในปัจจุบัน เมนูมังสวิรัติซึ่งรับประทานกันในหมู่นักบุญของพุทธศาสนาก็เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในฐานะที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพเน้นผักเป็นหลัก
สำหรับใครที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวเมืองทสึรุโอกะก็อย่าลืมแวะมาใช้เวลาผ่อนคลายชิลล์ๆที่วัดเซ็มโปจิกันดูนะคะ
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง