สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอิบารากิ สัมผัสกับประเพณีญี่ปุ่นและวัฒนธรรมใหม่

ทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืนไปชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดยามากาตะกัน! (Yamagata)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวยามากาตะด้วยตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) กันค่ะ! มาออกทริปนั่งรถไฟแช่ออนเซ็นเท้าตระเวนเที่ยว 1 ใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ดื่มด่ำอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยและสวนผลไม้แบบ 2 วัน 1 คืนกันดีกว่า!

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ตระเวนเที่ยวจังหวัดยามากาตะด้วยตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สุดคุ้ม!

จังหวัดยามากาตะตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาทและบ้านของเหล่านักรบซามูไร คาเฟ่ที่รีโนเวทมาจากอาคารเก่าแก่ ไปจนถึงอาหารรสเลิศอย่างโซบะและผลไม้มากมาย

สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวสถานที่ที่เต็มไปด้วยที่น่าสนใจเยอะแยะขนาดนี้แต่กังวลเรื่องค่าเดินทาง ขอแนะนำให้ใช้ตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) สุดคุ้มเลยค่ะ เพราะว่าตั๋วชนิดนี้รองรับการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เช่น ชินคันเซ็น, รถไฟด่วนพิเศษ (Limited express trains), รถไฟเร็ว (Rapid trains), รถไฟธรรมดา (Local trains) และรถบัส JR ภายในโซนที่กำหนดแบบไม่จำกัดเที่ยว โดยสามารถหาซื้อได้ทั้งในญี่ปุ่นและประเทศของตัวเอง สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากลิงค์ด้านล่างนี้

- JR EAST PASS (Tohoku area)

*ตั๋วนี้เป็นตั๋วโดยสารสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถใช้ได้

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำทริปท่องเที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในจังหวัดยามากาตะด้วยตั๋ว JR EAST PASS (Tohoku area) แบบ 2 วัน 1 คืนกันค่ะ!

วันที่ 1
ออกเดินทางจากสถานีโตเกียว (Tokyo) 08:00

ทริปเที่ยวยามากาตะแบบ 2 วัน 1 คืนเริ่มต้นจากการนั่งรถไฟยามาบิโกะ (Yamabiko : รอบเวลา 08:08) จากสถานีโตเกียว (Tokyo) ก่อนอื่นก็นั่งชินคันเซ็นสายโทโฮคุมุ่งหน้าไปยังสถานีฟุคุชิมะ (Fukushima) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 46 นาที (เดินทางถึงจุดหมายเวลา 09:46)

10:02 นั่งรถไฟแช่ออนเซ็นเท้า โทเรยุสึบาสะ (Toreiyu Tsubasa)

โทเรยุสึบาสะ (Toreiyu Tsubasa) เป็นรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวพร้อมออนเซ็นเท้าที่วิ่งให้บริการระหว่างเส้นทางฟุคุชิมะ - ยามากาตะ ภายในขบวนรถมีจุดน่าสนใจหลายที่เลย ทั้งการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลไม้ของยามากาตะ บาร์เคาน์เตอร์เหล้าท้องถิ่นและที่นั่งแบบเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นภายในขบวนรถไฟ

เอาล่ะ เรามาผ่อนคลายกับการแช่ออนเซ็นเท้าแสนอบอุ่นขณะมุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรกของเราที่สถานีคามิโนะยามะออนเซ็น (Kaminoyama-Onsen) ของเมืองคามิโนะยามะ จังหวัดยามากาตะ กันดีกว่า!

การใช้บริการรถไฟออนเซ็นเท้าจำเป็นต้องจองล่วงหน้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างหาก สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ทางการ

11:15 ตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ 3 แห่ง

Picture courtesy of Kaminoyama Castle

บริเวณโดยรอบสถานีคามิโนะยามะออนเซ็นเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ประจำเมืองคามิโนะยามะมากมายทั้งปราสาทคามิโนะยามะ บ้านซามูไรโบราณ และฮารุซาเมะอัน เมื่อเดินทางมาถึงแล้วจะรอช้าอยู่ทำไม รีบไปกันเลย!

ปราสาทคามิโนะยามะ (Kaminoyama Castle) คือปราการของตระกูลโมกามิ ไดเมียวสมัยเซ็นโกคุซึ่งปกครองจังหวัดยามากาตะในอดีต เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าปราสาทสึกิโอกะ ในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นของที่นี่ จากจุดชมวิวเราสามารถมองเห็นไปถึงทิวเขาซาโอ (Mount Zao) ได้เลยทีเดียว

ช่วงปลายเดือนเมษายนของทุกปีแถวนี้จะมีต้นซากุระบานสะพรั่ง กลายเป็นแหล่งชมซากุระที่มีผู้คนเดินทางมาเที่ยวกันมากมาย

*ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงจนถึงปลายเดือนมีนาคม 2019 แต่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในได้ตามปกติ

เดินจากปราสาทคามิโนะยามะประมาณ 7 นาทีก็จะถึงบ้านซามูไรโบราณ (Buke yashiki) อายุกว่า 200 ปีค่ะ บ้านซามูไรโบราณเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่านักรบ แม้ในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยวิถีชีวิตของผู้คนสมัยก่อนให้ได้ชมกัน

ฮารุซาเมะอัน (Harusamean)เป็นบ้านของทาคุอันเซ็นชิ (Takuan Zenshi) พระในนิกายรินไซเซ็นที่มาอาศัยอยู่ที่นี่ในสมัยเอโดะ ปัจจุบันเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย

ภายในสวนเป็นที่ตั้งของห้องชงชาชื่อว่าโชอุเท (Choutei) เราสามารถมานั่งจิบชาเขียวท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบได้ที่นี่เลย (ราคารวมภาษี 500 เยน ต้องจองล่วงหน้า)

แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้มีบริการทัวร์ด้วยนะ สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าไปดูได้จากคอร์สเดินเล่นในเมืองประวัติศาสตร์ KAMINOYAMA เลยค่ะ

15:00 เดินเล่นทานมื้อเย็นภายในเมืองยามากาตะ

- เดินจากสถานีเจอาร์ ยามากาตะ (JR Yamagata) → สวนคาโจ (Kajo Park) ประมาณ 10 นาที

ภาพขวาล่าง Picture courtesy of Yamagata Prefecture

หลังจากดื่มด่ำกับเมืองคามิโนะยามะจนเต็มอิ่มแล้วก็นั่งชินคันเซ็นจากสถานีคามิโนะยามะ-ออนเซ็นไปยังสถานีเจอาร์ ยามากาตะ (JR Yamagata) กันต่อโดยใช้เวลาประมาณ 9 นาที

สวนคาโจ (Kajo Park) อยู่ห่างจากสถานีรถไฟด้วยการเดินประมาณ 10 นาทีแห่งนี้ตั้งอยู่ในร่องรอยปราสาทยามากาตะ (Yamagata Castle) อันกว้างใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของญี่ปุ่นและยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ปราสาทขึ้นชื่อของญี่ปุ่นอีกด้วย ที่นี่เป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามได้ตลอดทั้งปี แถมยังมีรูปปั้นสัมฤทธิ์ของโมกามิ โยชิอากิ (Mogami Yoshiaki) ไดเมียวสมัยเซ็นโกคุตั้งเอาไว้ให้ได้ชมกันด้วย

ภายในสวนคาโจเต็มไปด้วยสถานที่ทางวัฒนธรรมมากมาย พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านยามากาตะ (Yamagata City Local History Museum) อดีตอาคารไซเซคังเป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตกที่ก่อสร้างโดยอ้างอิงมาจากโรงพยาบาลทหารเรืออังกฤษในโยโกฮาม่าสมัยเมจิ ที่นี่ดูหรูหรางดงามและมีเอกลักษณ์เป็นระเบียงทางเดินวงกลม

- เดินจากสวนคาโจ (Kajo Park) → บุนโชคัง (Bunshokan) ประมาณ 25 นาที

บุนโชคัง (Bunshokan) เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านยามากาตะอีกแห่งและเป็นสถาปัตยกรรมตัวแทนของสมัยไทโช ที่นี่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 16 - 18 ในสไตล์อังกฤษ เพียงแค่ก้าวเข้ามาก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้มาเยือนยุโรปเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครมากมายหลายเรื่องรวมถึงภาพยนตร์ฉบับคนแสดงจากมังงะยอดนิยมเรื่อง รูโรนิ เคนชิน เกียวโตทะเลเพลิง (Rurouni Kenshin: Kyoto Inferno) ด้วย

- เดินจากบุนโชคัง (Bunshokan) → เบนิโนะคุระ (Beninokura) ประมาณ 18 นาที

เบนิโนะคุระ (Beninokura) ที่รีโนเวทมาจากโกดังเก่าแก่แห่งนี้เป็นศูนย์การค้าครบวงจรที่รวมทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านจำหน่ายของฝากเอาไว้ในแห่งเดียว คำว่า "เบนิ (紅)" ของ "เบนิโนะคุระ (紅の蔵)" มีที่มาจาก "การค้าดอกคำฝอย (เบนิฮานะ : 紅花)" ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองมากในยามากาตะ การค้าดอกคำฝอยในปัจจุบันกลายเป็นอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมไปแล้ว และยังคงหลงเหลือพิพิธภัณฑ์และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้ได้เห็นกันอยู่จนทุกวันนี้

- เดินจากเบนิโนะคุระ (Beninokura) → โซบะโดโคโระ มิตสึยะ (Sobadokoro Mitsuya) ประมาณ 3 นาที

โซบะโดโคโระ มิตสึยะ เดวะจิอัน (Sobadokoro Mitsuya Dewajian) ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี 1921 เป็นร้านโซบะเก่าแก่ขึ้นชื่อจนเหมือนเป็นตัวแทนของยามากาตะไปแล้ว ตระกูลเทระซากิผู้ก่อตั้งนั้นชื่นชอบการทานโซบะตัวยงชนิดที่ไม่มีใครเหมือน จึงเริ่มวิจัยโซบะจากท้องถิ่นต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นและในที่สุดก็ถึงขั้นสร้างสรรค์โซบะในแบบของตัวเองขึ้นมาเลย!

บอกเลยว่าห้ามพลาดแวะมาลิ้มลองโซบะสุดพิถีพิถันของที่นี่ด้วยประการทั้งปวงค่ะ!

ส่วนเรื่องที่พักขอแนะนำเป็นโรงแรมเมโทรโพลิแทน ยามากาตะ (Hotel Metropolitan Yamagata) เพราะมีทางเชื่อมกับสถานียามากาตะโดยตรง จึงเดินทางสะดวกสุดๆ

สำหรับรายละเอียดทัวร์ท่องเที่ยวเดินเล่นชมสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองยามากาตะสามารถเข้าไปดูได้จากเดินเล่นในเมืองยามากาตะ & อาหารกลางวัน โซบะยามากาตะ

วันที่ 2
ตระเวนชมวิวสุดงามของวัดยามาเดระ เต็มอิ่มอาหารรสเลิศ และช้อปปิ้งของฝาก

10:30 วัดยามาเดระ (Yama-dera)

- สถานีเจอาร์ เทนโด (JR Tendo) สาย Yamagata → วัดยามาเดระ (Yama-dera) นั่งแท็กซี่ประมาณ 20 นาทีหรือนั่งรถไฟไปสถานีเจอาร์ ยามาเดระ (JR Yamadera) สาย Senzan

ชื่อทางการของวัดยามาเดระเรียกว่า วัดโฮจุซัง ริชชาคุจิ (Houjusan Risshaku-ji Temple) โดยเป็นสถานที่ที่ได้รับการกล่าวถึงในหนังสือ "เส้นทางสายเล็กๆ ไปสู่ทางเหนือ (Oku no Hosomichi)" ผลงานของมัตสึโอะ บาโช (Matsuo Basho) นักกวีเก่าแก่ของญี่ปุ่น

ระหว่างเดินขึ้นบันได 1,000 ขั้นจากประตูวัดไปยังโอคุโนะอิน (Okunoin) ที่เป็นจุดสูงสุดก็ชมวิวแสนงามโดยรอบไปด้วยได้ มาแล้วต้องห้ามพลาดไปชมโนเคียวโด (Nokyo-do) สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในวัดยามาเดระและโกะไดโด (Godaido) ที่เป็นจุดชมวิวสวยๆ แบบ 180 องศา

12:25 เก็บผลไม้สดใหม่ที่สวนผลไม้โอโชคะจุ (Oshokaju Orchards)

- นั่งแท็กซี่จากวัดยามาเดระ (Yama-dera) → สวนผลไม้โอโชคะจุ (Oshokaju Orchards) ประมาณ 20 นาที

สวนผลไม้โอโชคะจุ (Oshokaju Orchards) เป็นสวนผลไม้เพื่อการท่องเที่ยวยอดนิยมประจำโซนเทนโดที่มีการจัดกิจกรรมเก็บผลไม้ตามฤดูกาลมากมาย เช่น เชอร์รี่ องุ่น ลูกพีช แอปเปิล และอีกมาก แถมยังมีจำหน่ายของหวานและของฝากให้ได้ช้อปปิ้งกันด้วย เพียงแค่ได้แวะมาเที่ยวก็เพลินแล้วล่ะค่ะ

ช่วงเวลาที่เดินทางไปเก็บข้อมูลกันในครั้งนี้ตรงกับฤดูกาลของแอปเปิลพอดี สวนผลไม้โอโชคะจูมีการจัดกิจกรรมเก็บและทานแอปเปิลแบบบุฟเฟ่ต์นาน 30 นาที บอกเลยว่าแอปเปิลที่เพิ่งเด็ดจากต้นใหม่ๆ รสชาติอร่อยอย่าบอกใคร! นอกจากนี้ก็ยังสามารถนำกลับไปเป็นของฝากได้ 3 - 5 ลูกด้วยนะ

13:15 มุ่งหน้าไปยังจุดพักรถเทนโดออนเซ็น (Road Station Tendo Onsen)

- นั่งแท็กซี่จากสวนผลไม้โอโชคะจุ (Oshokaju Orchards) → จุดพักรถเทนโดออนเซ็น (Road Station Tendo Onsen) ประมาณ 15 นาที

เดินมานานตั้งแต่เช้าก็ถึงเวลาแช่ออนเซ็นเท้าที่จุดพักรถเทนโดออนเซ็น (Road Station Tendo Onsen) ผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากันสักหน่อย

เมืองเทนโดเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตหมากรุกโชกิ (*1) จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีออนเซ็นเท้าทรงตัวหมากรุกให้ได้ใช้บริการกันด้วย แถมร้านค้าบริเวณใกล้เคียงยังมีจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและของฝากเพียบ เหมาะจะแวะมาช้อปปิ้งก่อนกลับเป็นอย่างยิ่ง!

*1 : โชกิ ... เกมการแข่งขันเดินหมากบนกระดานโชกิหาผู้แพ้ชนะระหว่างผู้เล่น 2 คนหรือเรียกกันว่าหมากรุกญี่ปุ่น

13:35 ปิดทริปด้วยอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยที่คุนิด้ง (Kunidon)

- นั่งแท็กซี่จากจุดพักรถเทนโดออนเซ็น (Road Station Tendo Onsen) → คุนิด้ง (Kunidon) ประมาณ 5 นาที

มื้อกลางวันขอแวะมาฝากท้องที่คุนิด้ง (Kunidon) ร้านอาหารด้านหน้าสถานีเทนโด (Tendo) กันสักหน่อย โดยขอแนะนำให้มาลิ้มลองอาหารท้องถิ่นประจำยามากาตะอย่างอิโมะนิที่นี่กันดูค่ะ อิโมะนิคือซุปเผือกต้มด้วยโชยุ เหล้าญี่ปุ่น และน้ำตาลให้เข้าเนื้อ ใส่เครื่องอื่นๆ อย่างต้นหอม บุก และเนื้อวัว

เพียงเท่านี้ก็จะได้ชาร์จพลังกายที่เหนื่อยล้ามาตลอดทั้งวันและถือเป็นการปิดทริปเที่ยวโซนเทนโดกันแบบอร่อยสุดๆ ไปด้วยเลยล่ะค่ะ

เที่ยว "ยามากาตะ" และ "นีงาตะ" ด้วยตั๋ว JR EAST PASS กันเถอะ!
https://matcha-jp.com/th/yamagataniigata

พบกับทริปเที่ยวโทโฮคุอันทรงเสน่ห์ทั้งหมดได้ที่นี่!
TOHOKU BUFFET : https://www.tohoku-buffet.com/

Written by Chia
Sponsored by Yamagata Prefecture and Niigata Prefecture

Written by

東京に出てきて8年目です。

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง