Start planning your trip
{{ inputValue.start }} - {{ inputValue.end }}
กับ:
15 สิ่งน่าทำในอิวาเตะ พร้อมวิธีการเดินทาง (Iwate)
บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
จังหวัดอิวาเตะ เดินทางง่ายจากเซ็นไดหรือโตเกียว มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์มากมาย ตั้งแต่สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่างวัดชูซนจิและวัดโมซือจิ ที่เป็นมรดกโลก ไปจนถึงทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามอย่างเกบิเคและเก็นบิเค ในบทความนี้จะแนะนำที่น่าไปและสิ่งน่าทำในอิวาเตะกันค่ะ
บทความโดย
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
อิวาเตะ แห่งภูมิภาคโทโฮคุ
อิวาเตะ (Iwate) เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากฮอกไกโด ฝั่งตะวันตกเป็นเทือกเขาโออุ ฝั่งตะวันออกติดกับทะเลแปซิฟิก อุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลิตผลจากภูเขาและอาหารทะเล
จังหวัดอิวาเตะยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์สวยงามมากมายที่เกี่ยวข้องกับตระกูลโอชูฟูจิวาระ ที่เคยปกครองภูมิภาคโทโฮคุในช่วงศตวรรษที่ 12 และเป็นสถานที่วิจัยเรื่องราวพื้นบ้านของยานากิตะ คุนิโอะ นักชาติพันธุ์วิทยาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น
ที่นี่ยังเป็นจังหวัดบ้านเกิดของมิยาซาวะ เค็นจิ นักเขียนนิทานเด็กอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น มิยาซาวะเรียกอิวาเตะที่มีธรรมชาติอันสวยงดงามด้วยภาษาที่ตัวเองสร้างขึ้นมาว่า "อีฮาโทบุ" ซึ่งมีความหมายว่ายูโทเปีย หรือโลกในอุดมคติ
ในบทความนี้จะขอแนะนำสถานที่น่าไป สิ่งน่าทำ และการเดินทางจากโตเกียวไปยังอิวาเตะกันค่ะ
15 สิ่งน่าทำในอิวาเตะ
เราจะแนะนำเสน่ห์ของอิวาเตะโดยแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่ใหญ่เพื่อง่ายต่อการเดินทางเที่ยวค่ะ
1. ฮิราอิซุมิและอิชิโนะเซกิ
2. โมริโอกะ
3. ฮานะมากิ
4. โทโนะ
ฮิราอิซุมิและอิชิโนะเซกิ
พื้นที่ทางใต้ของจังหวัดโดยเฉพาะเมืองฮิราอิซุมิ (Hiraizumi) มีวัดวาอาราม สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกอยู่หลายแห่ง และยังเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ เช่น เก็นบิเคและเกบิเค อนุสรณ์ทางธรรมชาติที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยทิวทัศน์งดงามของญี่ปุ่นด้วย
1. ชมวิหารทองคนจิคิโดในมรดกโลก "วัดชูซนจิ"
Photo by Pixta
วัดชูซนจิ (Chuson-ji Temple) ได้รับการบันทึกให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 2011 นอกจากตัววิหารหลักแล้วยังมีอาคารอีกน่าสนใจอีกหลายแห่ง แต่ที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษก็คือ วิหารทองคนจิคิโด (Konjikido Golden Hall) ปิดทองคำเปลวรอบวิหารอย่างงดงามโดยอิงตามความเชื่อเรื่องแดนสุขาวดี สร้างด้วยคำบัญชาจากโอชูฟูจิวาระ ผูุ้ครองดินแดนในช่วงศตวรรษที่ 12
วิหารทองคนจิคิโดตั้งอยู่ในวิหารโออิโดอีกทีเพื่อป้องกันจากลมและฝน ใช้เวลาเดิน 20 นาทีจากสถานีฮิราอิซุมิ ของ JR หรือจะขึ้นรถบัส "รุนรุน (RunRun)" ที่วิ่งวนตามสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองฮิราอิซุมิก็ได้ ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที
วัดชูซนจิ (Chuson-ji Temple)
ที่อยู่ : 202 Koromonoseki, Hiraizumi, Nishiiwai, Iwate Map
ช่วงเวลานมัสการ : เปิดทุกวัน 8:30 - 17:00 (ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน - สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ปิดเวลา 16:30)
เว็บไซต์ : http://www.chusonji.or.jp/language_en/index.html (ภาษาอังกฤษ)
2. สวนดินแดนสุขาวดีใน "วัดโมซือจิ" มรดกโลก
Photo by Pixta
วัดโมซือจิ (Motsu-ji Temple) ใช้เวลาเดิน 10 นาทีจากสถานีฮิราอิซุมิ หรือนั่งบัสแค่ 3 นาทีเท่านั้น ได้รับการบันทึกเป็นมรดกโลกเหมือนเช่นเดียวกับวัดชูซนจิ ไฮไลท์ของที่นี่คือ สวนโจโดะ หรือสวนแดนสุขาวดี (The Pure Land Garden) สวนที่มีสระน้ำขนาดใหญ่สร้างขึ้นตามแนวคิดของแดนสุขาวดี
ในเดือนพฤษภาคมและเดือนพฤศจิกายนจะมีการจัดเทศกาลฟูจิวาระเพื่อเป็นเกียรติแก่ตระกูลฟูจิวาระ มีขบวนผู้คนที่แต่งตัวแบบยุคเฮอัน ในช่วงเดือนมิถุนายนเป็นช่วงชมดอกไอริสที่บานเต็มสวน
วัดโมซือจิ (Motsu-ji Temple)
ที่อยู่ : 58 Osawa, Hiraizumi, Nishiiwai, Iwate Map
เวลานมัสการ : เปิดทุกวัน 9:00 - 16:00
เว็บไซต์ : http://www.motsuji.or.jp/th/index.html
3. ล่องเรือชมหินผาสูงกว่า 100 เมตรในหุบเขาเกบิเค
Photo by Pixta
Picture courtesy of Geibi tourist center
หุบเขาเกบิเค (Geibi Gorge) เป็นหุบเขาที่อยู่ห่างจากสถานีฮิราอิซุมิและสถานีอิชิโนะเซกิของ JR ประมาณ 35 นาทีโดยรถบัสประจำทาง กำแพงหินสูงกว่า 50 - 100 เมตร ยาวต่อเนื่องราว 2 กิโลเมตร จะถูกประดับประดาด้วยสีสันของฤดูทั้ง 4 เช่น ต้นไม้เขียวขจีในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และหิมะในฤดูหนาว
สามารถไปนั่งเรือที่ล่องไปตามน้ำเพื่อชมความงามของเกบิเคอย่างใกล้ชิดได้ค่ะ (ใช้เวลาประมาณ 90 นาที ราคารวมภาษีสำหรับผู้ใหญ่ 1,600 เยน)
หุบเขาเกบิเค (Geibi Gorge)
ที่อยู่ : 467 Higashiyamacho, Nagasaka, Ichinoseki, Iwate Map
เว็บไซต์ : http://www.geibikei.co.jp/th/index.html
(นั่งเรือล่องแม่น้ำ : http://www.geibikei.co.jp/th/route/index.html)
4. "เก็นบิเค" เพลิดเพลินกับกระแสน้ำและหินสวยงาม
Photo by Pixta
หุบเขาเก็นบิเค (Genbi Gorge) มีสายน้ำสีเขียวมรกตที่ไหลผ่านหุบเขาหินรูปร่างแปลกตาและน้ำตกสวยๆ
ของมีชื่ออีกอย่างคือคักโคดังโกะ หรือ ดังโกะเหินฟ้า แค่เราเขียนใบสั่งซื้อและเงินใส่ลงไปในตะกร้าส่งขึ้นไปยังร้านน้ำชาบนเนินเขาฝั่งตรงข้าม ทางร้านจะจัดดังโกะกับน้ำชาใส่ตะกร้าส่งกลับมาให้ นั่งรถบัสประจำทางจากสถานีอิชิโนะเซกิของ JR ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ลงที่ป้ายเก็นบิเคก็จะถึงเลยค่ะ
หุบเขาเก็นบิเค (Genbi Gorge)
ที่อยู่ : 263 ด้านบนน้ำตก, Genbicho, Ichinoseki, Iwate Map
เว็บไซต์ : https://www.ichitabi.jp/spot/data.php?no=8 (ภาษาญี่ปุ่น)
5. ทะเลสาบสีเขียวใต้ดินในถ้ำหินปูนยูเก็นโด
Photo by Pixta
ยูเก็นโด (Yugendo) ถ้ำหินปูนอายุกว่า 350 ล้านปี เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย ทะเลสาปใต้ดินสีเขียว และยังมีการขุดค้นพบซากฟอสซิลของสัตว์และพืชพันธุ์ใต้ทะเลหลายชนิดเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่นด้วย เดินทางโดยรถบัส 5 นาทีจากสถานีเกบิเคของ JR จากนั้นเดินต่อระมาณ 5 นาทีก็ถึง
ยูเก็นโด (Yugendo)
ที่อยู่ : 154-1 Higashimotomachi, Higashiyamacho, Nagasaka, Ichinoseki, Iwate Map
เวลาทำการ : 8:30 - 18:00 (เดือนตุลาคม - เดือนพฤศจิกายนปิดเวลา 17:00 เดือนธันวาคม - เดือนมีนาคม 9:00-16:00)
เว็บไซต์ : http://yuugendo.sakura.ne.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
6. ชิมขนมโมจิขึ้นชื่อ
Photo by Pixta
ของขึ้นชื่อในเมืองอิชิโนะซากิคือขนมโมจิ ที่นี่นิยมทานขนมโมจิโดยใส่เครื่องหลายๆ รสชาติ เช่น อังโกะ โชยุ ถั่ววอลนัท เป็นต้น เราสามารถหาทานได้ตามร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านเซคิโนะอิจิ (Sekino-ichi) ร้านอาหารในโรงเบียร์ เดินจากสถานีอิชิโนะเซกิของ JR ประมาณ 10 นาทีค่ะ
เซคิโนะอิจิ (Sake Brewery Sekino-ichi)
ที่อยู่ : 5-42 Tamuracho, Ichinoseki, Iwate Map
เวลาทำการ : 11:00 - 14:00 และ 17:00 - 21:00 วันหยุดไม่แน่นอน (เดือนมกราคม - มีนาคม หยุดทุกวันอังคาร)
เว็บไซต์ : https://sekinoichi.co.jp/cuisine/ (ภาษาญี่ปุ่น)
วิธีเดินทางจากโตเกียวไปอิชิโนะเซกิ
เราสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวตรงไปยังอิชิโนะเซกิได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลยค่ะ ขบวนรถโทโฮคุชินคันเซ็นที่นั่งไปอิชิโนะเซกิมี 2 ขบวน คือ
ฮายาบุสะ (Hayabusa) ประมาณ 1 ชั่วโมง 54 นาที ที่นั่งธรรมดาเที่ยวเดียว 13,230 เยน (แตกต่างกันตามช่วงเวลาและตารางเดินรถ)
ยามะบิโกะ (Yamabiko) ประมาณ 2 ชั่วโมง 34 นาที ที่นั่งธรรมดาเที่ยวเดียว 12,820 เยน (แตกต่างกันตามช่วงเวลาและตารางเดินรถ)
โมริโอกะ
โมริโอกะ (Morioka) ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอิวาเตะ ในยุคเอโดะที่นี่เป็นเมืองรอบปราสาทที่ครึกครื้น ปัจจุบันก็ยังเป็นศูนย์กลางการบริหารและมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อย่าง ศาลเจ้า วัดวาอารามหลายแห่ง
7. อาคารอิฐแดงแสนสวยของธนาคารอิวาเตะ
Photo by Pixta
อาคารอิฐแดง ธนาคารอิวาเตอะ (Red Brick Building, Bank of Iwate) ในสไตล์ตะวันตกนี้สร้างขึ้นในปี 1911 เห็นแล้วหลายคนอาจรู้สึกคุ้นๆ หรือบางคนอาจรู้สึกว่าดูแล้วนึกถึงอาคารอิฐแดงของสถานีโตเกียว ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะผู้คือทัตสึโนะ คิงโกะ สถาปนิกผู้ออกแบบธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นสาขาใหญ่และสถานีโตเกียว ที่นี่ถูกใช้เป็นที่ทำการธนาคารจนถึงปี 2012 ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว
นั่งรถบัสจากสถานีโมริโอกะของ JR ประมาณ 10 นาที ลงที่ป้าย โมริโอกะบัสเซ็นเตอร์นานัคคุมาเอะ (Morioka Basu Center Nanakku-mae) ก็ถึงเลยค่ะ
อาคารอิฐแดง ธนาคารอิวาเตะ (Red Brick Building, Bank of Iwate)
ที่อยู่ : 1-2-20 Nakanohashidori, Morioka, Iwate Map
เวลาทำการ : 10:00-17:00 หยุดทุกวันอังคารและระหว่าง 29 ธันวาคม - 3 มกราคม
เว็บไซต์ : https://www.iwagin-akarengakan.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
8. สะเดาะเคราะห์ที่ ศาลเจ้าโมริโอกะฮาจิมังกู
Photo by Pixta
ศาลเจ้าโมริโอกะฮาจิมังกู (Morioka Hachimangu) มีวิธีสะเดาะเคราะห์เก๋ๆ ให้ลองค่ะ ถ้าเราเข้ารับพิธีสะเดาะเคราะห์กับศาลเจ้า เราจะได้กระปุกน้ำเต้ามาหนึ่งลูก ให้ขอพรพร้อมกับเป่าลมเข้าไปในน้ำเต้าสามครั้ง ปิดจุกแล้วนำไปแขวนในเขตศาลเจ้า เชื่อว่าเคราะห์ร้ายจะถูกปิดผนึกอยู่ในน้ำเต้าค่ะ การเดินทางไปยังศาลเจ้าโมริโอกะฮาจิมันกู ให้นั่งรถบัสจากสถานีโมริโอกะประมาณ 15 นาที
โมริโอกะฮะจิมันกู
ที่อยู่ : 13-1 Hachimancho, Morioka, Iwate Map
เว็บไซต์ : http://morioka8man.jp/db10/ (ภาษาญี่ปุ่น)
วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปโมริโอกะ
Photo by Pixta
เราสามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวตรงไปยังโมริโอกะได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเลยค่ะ ขบวนรถโทโฮคุชินคันเซ็นที่นั่งไปโมริโอกะมี 2 ขบวน คือ
ฮายาบุสะ (Hayabusa) ประมาณ 2 ชั่วโมง 13 นาที ที่นั่งธรรมดาเที่ยวเดียว 14,230 เยน (แตกต่างกันตามช่วงเวลาและตารางเดินรถ)
ยามะบิโกะ (Yamabiko) ประมาณ 3 ชั่วโมง 18 นาที ที่นั่งธรรมดาเที่ยวเดียว 14,230 เยน (แตกต่างกันตามช่วงเวลาและตารางเดินรถ)
ฮานะมากิ
เมืองฮานะมากิ (Hanamaki) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดอิวาเตะเป็นแหล่งออนเซ็นขึ้นชื่อในภูมิภาคโทโฮคุ นอกจากนั้นยังเป็นเมืองเกิดของมิยาซาวะ เค็นจิ นักแต่งนิทานเด็กอีกด้วย วิธีเที่ยวชมทิวทัศน์ในเมืองที่มิยาซาว่าหลงรักนี้ขอแนะนำให้นั่งรถจักรไอน้ำ SL กิงกะค่ะ
9. สนุกเหมือนเล่นเกมด้วยของกินขึ้นชื่อ วังโกะโซบะ
Photo by Pixta
วังโกะโซบะ (Wanko Soba) เป็นการเสิร์ฟโซบะขนาดพอดีคำทีละถ้วย เมื่อลูกค้าทานไปหนึ่งคำ พนักงานร้านก็จะเทโซบะคำใหม่เติมให้ทันทีไม่ขาด ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดในเมืองฮานะมากินี่เอง
ถ้าอิ่มแล้วให้ปิดฝาถ้วยเป็นการส่งสัญญาบอกพนักงานว่าทานเสร็จแล้ว ไม่งั้นพนักงานก็จะเติมให้ไม่หยุดนะคะ หาทานได้ตามร้านทั่วไป เช่น ร้านยาบุยะ สาขาฮานะมากิโซฮงเท็น (Yabuya)"
ยาบุยะ สาขาฮานะมากิโซฮงเท็น (Yabuya)
ที่อยู่ : 7-17 Futsuparicho, Hanamaki, Iwate Map
เวลาทำการ : 11:00 - 15:00 และ 17:00 - 20:00 หยุดทุกวันจันทร์ (ในกรณีที่วันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ จะเปิดทำการและหยุดในวันอังคารแทน)
เว็บไซต์ : https://yabuya.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
10. แช่ออนเซ็นในเมืองออนเซ็นฮานะมากิ
Photo by Pixta
ฮานะมากิออนเซ็น (Hanamaki Onsen) เป็นเมืองออนเซ็นขึ้นชื่อในภูมิภาคโทโฮคุ มีที่พักแรมแบบเรียงกังและโรงแรมให้เลือกหลายแห่ง จะมาใช้บริการออนเซ็นอย่างเดียวไม่ค้างคืนก็ได้ แหล่งท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับมิยาซาวะก็เช่น บ้านเกิดของมิยาซาว่า เค็นจิ" และ "อาคารอนุสรณ์มิยาซาว่า เค็นจิ" เป็นต้น จึงสามารถวางแผนไปเที่ยวพร้อมกันทีเดียวได้ค่ะ
การเดินทางให้นั่งรถบัสจากสถานีฮานะมากิของ JR ประมาณ 20 นาที หรือนั่งรถบัสรับส่งฟรีจากสถานีชินฮานะมากิก็ได้ ใช้เวลาราว 20 - 30 นาทีค่ะ
ฮานะมากิออนเซ็น (Hanamaki Onsen)
ที่อยู่ : 1-125 Yumoto, Hanamaki, Iwate Map (Hanamaki Onsen Hotel Koyokan)
เว็บไซต์ : https://www.hanamakionsen.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
11. ชมกุหลาบงามหลากสีสันที่ ฮานะมากิออนเซ็น บาระเอ็น
Photo by Pixta
สวนกุหลาบภายในโรงแรมฮานะมากิออนเซ็น (Rose Garden, Hanamaki Onsen Hotel) มีกุหลาบร่วม 450 ชนิดมากกว่า 6,000 ต้นปลูกอยู่เต็มพื้นที่ราว 16,530 ตารางเมตร ช่วงชมดอกกุหลาบจะเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งภายในสวนจะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากสีสัน และมีผู้คนไปเยือนจำนวนมาก
สวนกุหลาบ โรงแรมฮานะมากิออนเซ็น (Rose Garden, Hanamaki Onsen Hotel)
ที่อยู่ : 1-125 Yumoto, Hanamaki, Iwate Map
เวลาทำการ : 8 :00-17:00 (แตกต่างกันตามช่วงเวลา ต้องเช็คในเว็บไซต์ก่อน)
เว็บไซต์ : https://www.hanamakionsen.co.jp/rose/
12. ขึ้นรถจักรไอน้ำ SL กิงกะ
Photo by Pixta
รถไฟสายทางช้างเผือก (Night on the Galactic Railroad) ผลงานอันโดดเด่นของมิยาซาว่า เคนจิ เป็นนิทานเด็กที่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คุ้นเคยเป็นอย่างดี เป็นเรื่องราวของจีโอวานนี เด็กชายผู้โดดเดี่ยวที่ออกเดินทางโดยขึ้นรถไฟไปกับเพื่อนที่ชื่อคัมปาเนลลา ซึ่งต้นแบบของเส้นทางรถไฟในเรื่องก็คือ รถไฟสายคามาอิชิ (Kamaishi Line) ซึ่งวิ่งระหว่างสถานีฮานะมากิและสถานีคามาอิชิ
รถจักรไอน้ำ SL กิงกะ (SL Ginga) ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายชิ้นนี้ นอกจากจะวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำมิยาโมริ (ชื่อเล่น สะพานแว่นตา : เมกาเนะบาชิ) สถานที่มีชื่อเสียงในอิวาเตะที่กำลังจะกล่าวถึงต่อจากนี้แล้ว ยังเพลิดเพลินกับท้องฟ้าจำลองในรถได้ด้วย
รถจักรไอน้ำ SL กิงกะ (SL Ginga)
เว็บไซต์ : http://www.jr-morioka.com/noccha/train/slginga/ (ภาษาญี่ปุ่น)
วิธีการเดินทางจากโมริโอกะไปฮานะมากิ
Photo by Pixta
นั่งรถไฟสายโทโฮคุ (Tohoku Main Line) ปลายทางอิจิโนะเซกิ - โมริโอกะ (Ichinoseki - Morioka) ของ JR จากสถานีโมริโอกะตรงไปยังสถานีฮานะมากิได้เลย ใช้เวลาประมาณ 37 นาที ค่าโดยสาร 670 เยน
โทโนะ
พื้นที่ทางตะวันออกของจังหวัดอิวาเตะเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งนิทานพื้นบ้านผ่านผลงานหนังสือ เรื่องเล่าแห่งโทโนะ (Tono Monogatari) โดยยานางิตะ คุนิโอะเป็นผู้รวบรวมเรื่องเล่าพื้นบ้านที่สืบทอดต่อๆ กันมาในพื้นที่แถบนี้ เรื่องที่โก่งดังที่สุดในโทโนะคือเรื่องของบึงกัปปะ
13. ตำนานปีศาจแห่งบึงคัปปะ
Photo by Pixta
นั่งรถจากสถานีฮานะมากิประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจากสถานีโทโนะประมาณ 11 นาทีและเดินต่ออีก 5 นาที จะเจอกับบึงน้ำ บึงคัปปะ (Kapabuchi Pool) ที่เชื่อว่ามีคัปปะ (*1) อาศัยอยู่ตามหนังสือเรื่องเล่าแห่งโทโนะ ของยานางิตะ คุนิโอะ ริมฝั่งมีศาลขนาดเล็กที่เซ่นไหว้คัปปะตั้งอยู่ด้วย
*1 : คัปปะ ... สิ่งมีชีวิตในตำนานที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ตามบึงน้ำ มีรูปร่างผอมเล็กคล้ายเด็ก ผิวสีเขียว บนหัวมีจานแบนที่มีน้ำใส่อยู่
บึงคัปปะ (Kapabuchi Pool)
ที่อยู่ : Tsuchibuchicho, Tsuchibuchi, Tono, Iwate Map
เว็บไซต์ : https://tonojikan.jp/kanko/kappabuchi.php (ภาษาอังกฤษ)
14. จุดชมสะพานแสนโรแมนติค สะพานแว่นตา
Photo by Pixta
สะพานข้ามแม่น้ำมิยาโมริ (Miyamorigawa Bridge) หรืออีกชื่อนึงที่เรียกกันทั่วไปว่าสะพานแว่นตา (Meganebashi) เป็นสะพานเสาโค้งที่มีการเปิดไฟไลท์อัพตอนกลางคืน ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากกลุ่มส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก ซึ่งหมายถึงสถานที่สุดโรแมนติกที่เหมาะแก่การขอแต่งงาน
ไลท์อัพมีทุกวันตั้งแต่หลังพระอาทิตย์ตกไปจนถึงเวลา 22:00 นั่งรถไฟจากสถานีชินฮานะมากิประมาณ 30 นาที ลงที่สถานีมิยาโมริ จากนั้นเดินต่อประมาณ 10 นาทีก็จะถึงค่ะ
สะพานแว่นตา (Meganebashi)
ที่อยู่ : 30-37-1 Miyamoricho, Shimomiyamori, Tono, Iwate Map
เว็บไซต์ : https://tonojikan.jp/kanko/meganebashi.php (ภาษาญี่ปุ่น)
15. สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านที่หมู่บ้านโทโนะฟุรุซาโตะ
Photo by Pixta
หมู่บ้านโทโนะฟุรุซาโตะ (Tono Furusato Village) จำลองสภาพชนบทในอดีตของญี่ปุ่น อยู่ห่างจากสถานีโทโนะ 20 นาทีโดยรถยนต์ มีเวิร์คชอปหลายอย่างให้ทดลองทำ เช่น ย้อมสีธรรมชาติ ผ่านวิธีแบบดั้งเดิมของโทโนะ และทำแมลงปอไม้ไผ่ ของเล่นจากไม้ไผ่
หมู่บ้านโทโนะฟุรุซาโตะ (Tono Furusato Village)
ที่อยู่ : 5-89-1 Tsukimoushicho, Kamitsukimoushi, Tono, Iwate Map
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 9:00 - 17:00 (เดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ปิดเวลา 16:00)
เว็บไซต์ : http://www.tono-furusato.jp/en/index.html (ภาษาอังกฤษ)
วิธีการเดินทางจากโมริโอกะไปโทโนะ
Photo by Pixta
จากโมริโอกะสามารถเดินทางไปยังโทโนะได้โดยชินคันเซ็นและรถไฟ บางครั้งอาจต้องต่อรถด้วยขึ้นอยู่กับขบวนและเวลาที่ขึ้น จึงควรเช็คตารางเวลาเดินรถก่อนล่วงหน้าค่ะ
นั่งชินคันเซ็น
สถานีโมริโอกะ (ไปยามะบิโกะ - โตเกียว ไม่จองที่นั่ง) → ชินฮานะมากิ (สายคามาอิชิ ไปคามาอิชิ) → โทโนะ
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารรวม 2,180 เยน
นั่งรถไฟอื่นๆ
โมริโอกะ (สายโทโฮคุ ไปคามาอิชิ รถด่วนขบวนมายุริ) → โทโนะ
ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 21 นาที ค่าโดยสารรวม 1,490 เยน
*รถด่วนบางเวลาอาจจะต้องต่อรถไฟสายคามาอิชิ ขบวนที่ไปคามาอิชิ ที่สถานีฮานะมากิ ถ้านั่งรถไฟธรรมดาที่จอดทุกสถานีจะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงค่ะ
อิวาเตะ วัฒนธรรมเก่าแก่ท่ามกลางธรรมชาติสวย
จังหวัดอิวาเตะมีธรรมชาติงดงาม และวัดวาอารามมรดกโลก นอกจากนั้นยังเพลิดเพลินไปกับวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์อย่างวังโกะโซบะและขนมโมจิได้ด้วย
ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีและดอกซากุระบาน โรงแรมที่พักอาจจะเต็ม จึงอยากแนะนำให้จองล่วงหน้าไว้นะคะ
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง
อันดับ
ไม่พบบทความ
บทความเกี่ยวข้อง
บทความพิเศษ
More
