【จังหวัดมิยาซากิ】เพลิดเพลินไปกับทั้งภูเขาและท้องทะเล! ออกสำรวจมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ยังไม่ถูกค้นพบ

มาถึงมัตสึชิมะแล้วต้องไม่พลาด! อาหารทะเลสดใหม่ของ "ซันโตริฉะยะ (Santori Chaya)"

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

"มัตสึชิมะ" แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดมิยางิ ที่จะได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลแสนอร่อย วัตถุดิบที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น หอยนางรม ปลาไหลทะเล บทความนี้ขอแนะนำร้าน "ซันโตริฉะยะ" ที่อิ่มอร่อยกับอาหารได้ทั้งกลางวันและกลางคืน!

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more

"มัตสึชิมะ" เสน่ห์ของทิวทัศน์ที่สวยงามและอาหารทะเลสดใหม่

松島

มัตสึชิมะ (Matsushima) จังหวัดมิยางิ มีทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะต่างๆ ในอ่าวมัตสึชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซนได (Sendai) เพียง 30 นาที ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน "สามทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น" ซึ่งรู้จักกันดีว่ามีวิวทะเลที่สวยงามให้ชมในตอนกลางวัน และสามารถชมพระจันทร์ที่งดงามได้ในตอนกลางคืน

ถ้ามาชมทิวทัศน์งดงามที่มัตสึชิมะแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นของที่นี่ เพราะมัตสึชิมะยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ด้วย

บทความนี้ขอแนะนำร้านอาหารที่คุณจะได้อิ่มอร่อยกับของขึ้นชื่อจากมัตสึชิมะกันค่ะ นั่นก็คือร้าน "ซันโตริฉะยะ" ในช่วงมื้อกลางวันคุณสามารถกินอาหารไปพร้อมกันชมวิวทะเล และในมื้อเย็นก็สามารถเพลิดเพลินกับอาหารและพูดคุยกับพนักงานอย่างสนุกสนาน รับรองว่าคุณจะมีความทรงจำที่ดีจากอาหารแสนอร่อยของทริปนี้กลับไปอย่างแน่นอน

ชิมเมนูเด็ดซึ่งปรุงจากวัตถุดิบของจังหวัดมิยางิที่ "ซันโตริฉะยะ"

さんとり茶屋

ถ้าเดินจากสถานี JR มัตสึชิมะไคกัง (JR Matsushima-Kaigan) ไปประมาณ 10 นาที บริเวณเลียบชายหาดระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังเกาะฟุคุอุระจิมะ (Fukuurajima Island) (*1) ก็จะมองเห็นอาคารที่มีโนเร็นสีม่วงแขวนอยู่ ที่นี่ก็คือร้านอาหาร "ซันโตริฉะยะ" ซึ่งมีที่จอดรถกว้างขวางบริเวณหน้าร้าน

อาหารส่วนใหญ่จะทำจากปลาและผักที่เก็บเกี่ยวได้ในละแวกท้องถิ่นนี้ เมนูก็จะมีดงบุริเทโชคุที่เป็นข้าวสวยราดหน้าด้วยอุนิ (ไข่หอยเม่น), อิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) หรือมากุโระในปริมาณที่พูนชาม นอกจากนั้นยังมีอาหารจานเดียวอย่างซาชิมิและเทมปุระที่เข้ากันกับสาเกญี่ปุ่น เมนูแนะนำในแต่ละวันจะแตกต่างกันไป สามารถสอบถามกับพนักงานตอนที่สั่งอาหารได้

บทความนี้ขอแนะนำ 3 เมนูเด็ดที่ต้องกินให้ได้ ถ้ามาถึงที่มัตสึชิมะค่ะ

*1 : เกาะฟุคุอุระจิมะ…..เกาะที่อยู่ทางตะวันออกของชายฝั่งมัตสึชิมะ (Matsushima Coast) เป็นจุดท่องเที่ยวหลักของมัตสึชิมะที่มีสะพานสีแดงยาว 252 เมตร เชื่อมระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่

1. เมนูเด็ดประจำฤดูร้อน! "ชุดข้าวหน้าปลาไหลทะเล" เพียง 20 ชุดต่อวัน

さんとり茶屋

"อานาโกะด้งเทโชคุ (ชุดข้าวหน้าปลาไหลทะเล)" เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมิโซะ สลัด และโอชิงโกะ (*2) (ราคารวมภาษี 1,730 เยน) อานาโกะหรือปลาไหลทะเลนั้นมีลักษณะคล้ายกับอุนางิหรือปลาไหลน้ำจืดซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่มีราคาแพง มักนิยมใช้ทำอาหารญี่ปุ่นหลากหลายประเภท เช่น เทมปุระ, ซูชิ และอื่นๆ

แม้ว่าเมนู "อานาโกะด้งเทโชคุ" จะเป็นเมนูอาหารที่มีขายตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบที่จับได้มีจำนวนจำกัด จึงมีจำหน่ายจำกัดเพียง 20 - 50 ชุดต่อวันเท่านั้น

さんとり茶屋

อานาโกะมีเนื้อสัมผัสที่ฟูนุ่มละมุนลิ้น หากกินพร้อมทามาโกะยากิ (ไข่หวานญี่ปุ่น) กับแตงกวาหั่นฝอยที่อยู่ระหว่างข้าวกับอานาโกะด้วยแล้ว จะได้เนื้อสัมผัสที่เคี้ยวเพลินไปอีกแบบ ถ้ากินกับซอสรสหวานๆ เค็มๆ ที่ราดมาด้วยแค่นั้นก็อร่อยแล้ว แต่อยากให้ลองลิ้มรสพร้อมกับวาซาบิที่วางอยู่ตรงกลางดูด้วย จะช่วยเพิ่มความสดชื่นขึ้นมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

ช่วงเวลาที่อานาโกะอร่อยที่สุดคือช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ถ้ามาเที่ยวที่นี่ในช่วงฤดูร้อน นี่เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาด

*2: โอชิงโกะ.....ผักที่นำไปดองในเครื่องปรุงรสในระยะไม่นาน มีรสชาติอ่อนๆ นิยมใช้เป็นเมนูเครื่องเคียงอาหารจานหลักหรืออาหารที่มีรสชาติเข้มข้น

2. เมนูฤดูหนาว "หอยนางรมย่างทั้งเปลือก"

さんとり茶屋

สำหรับคนที่มาเยือนที่นี่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมต้องไม่พลาดหอยนางรมของมัตสึชิมะ! พนักงานของร้านเล่าให้เราฟังว่า "หอยนางรมที่จับได้จากอ่าวมัตสึชิมะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเมื่อเทียบกับที่อื่น" ถ้าหอยนางรมอยู่ในทะเลที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว หอยนางรมจะปกป้องตัวเองโดยส่งสารอาหารต่างๆ ไปที่เปลือกหอย แต่ในอ่าวมัตสึชิมะมีกระแสน้ำสงบนิ่ง เนื้อหอยนางรมจึงอุดมไปด้วยสารอาหาร

เมื่อหอยนางรมมาเสิร์ฟบนโต๊ะ เราจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของทะเลลอยมาทันที ช่วงเวลาที่หอยนางรมอร่อยที่สุดคือช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลเย็นลง รสชาติความอร่อยก็จะยิ่งอัดแน่นขึ้น และกลิ่นหอมของทะเลก็จะโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

"คาคิคาระยากิ (หอยนางรมย่างทั้งเปลือก)" 2 ชิ้น ราคารวมภาษี 660 เยน บีบเลมอนที่เสิร์ฟมาด้วยก่อนแล้วกินกันเลยค่ะ

3. ลิ้มรสวัตถุดิบตามฤดูกาลกับ "รวมมิตรเทมปุระ"

さんとり茶屋

ถ้านำปลาไปทำเป็นเมนูดงบุริหรือนำไปย่างก็อร่อยแล้ว แต่ถ้านำมาทำเป็นเทมปุระก็จะเป็นอาหารรสเลิศไม่แพ้กัน "เทมปุระโมริ (รวมมิตรเทมปุระ)" ราคารวมภาษี 1,280 เยน เป็นเมนูที่คุณสามารถดื่มด่ำกับเทมปุระที่ทำมาจากวัตถุดิบตามฤดูกาลได้ ตอนที่เราไปเก็บข้อมูลนั้นมีเมนูอาหารทะเลอย่างอานาโกะ ปลาหมึก กุ้ง และผักตามฤดูกาลอย่างฟักทอง ในช่วงฤดูหนาวเมนูจะเปลี่ยนจากปลาหมึกเป็นหอยนางรม

นอกจากนี้ยังมีเซ็ต "เทมปุระเซ็น" (ราคารวมภาษี 1,420 เยน) ที่จะเสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมิโซะ สลัด และโอชิงโกะอีกด้วย

さんとり茶屋

Picture courtesy of Santori Chaya

ตอนสั่งเมนูอาหารจานเดียวอย่างหอยนางรม เทมปุระ หรือซาชิมิ อยากให้ลองสั่งเหล้าญี่ปุ่นซึ่งผลิตที่จังหวัดมิยางิมาลองชิมด้วย จะมีเหล้าญี่ปุ่นที่เข้ากันได้ดีกับอาหาร และเหล้าญี่ปุ่นที่มีขายเฉพาะในช่วงเวลานั้น หากคุณสนใจสามารถสอบถามกับทางพนักงานได้ค่ะ

ลองเลือกที่นั่งตามช่วงเวลา

ตัวร้านเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งบริเวณชั้น 1 เป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ ส่วนชั้น 2 เป็นที่นั่งแบบโต๊ะ

เลือกนั่งที่โต๊ะพร้อมชมวิวทะเลในช่วงกลางวัน

さんとり茶屋

สำหรับคนที่มากินอาหารในช่วงกลางวันแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งมีหน้าต่างจำนวนมาก แล้วยังกว้างขวาง บรรยากาศโล่งโปร่งสบาย หากมองไปนอกหน้าต่างก็จะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของอ่าวมัตสึชิมะได้ชัดเจน

さんとり茶屋

นอกจากนี้การตกแต่งบนผนังและหิ้งก็เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของร้าน ผ้ากันเปื้อนสีดำที่ประดับบนกำแพงเป็นผ้ากันเปื้อนที่ใช้ในคุราโมโตะ (Kuramoto) (*3) นับตั้งแต่ที่ได้บริหารงาน "สมาคมผลิตเหล้าพื้นเมือง" ที่ร้านก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโรงกลั่นเหล้าในท้องถิ่น และดูเหมือนว่าบางครั้งลูกค้าของที่ร้านก็จะมีโอกาสลิ้มลองสาเกท้องถิ่นด้วย

บริเวณด้านหน้าของคามิดานะ (*4) ที่แขวนใกล้เพดานนั้นมีการประดับด้วยของขวัญจากลูกค้าประจำ ซึ่งทำจากกระดาษ 3 แผ่น ตัดด้วยกรรไกรเป็นลวดลายซับซ้อน ถือเป็นของประดับล้ำค่าของศาลเจ้า และมีแค่ไม่กี่คนในจังหวัดมิยางิที่ทำได้

*3: คุราโมโตะ (Kuramoto)…..ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายเหล้า

*4: คามิดานะ (Kamidana)…..หิ้งบูชาเทพเจ้า หิ้งที่ทำขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าของลัทธิชินโต มักจะตั้งไว้บริเวณที่มีความสว่าง สะอาด และมีลูกค้าเยอะ

เพลิดเพลินกับการสนทนาตรงที่นั่งเคาน์เตอร์ในตอนกลางคืน

さんとり茶屋

Picture courtesy of Santori Chaya

ชั้น 1 มีที่นั่งเคาน์เตอร์แบบเดียว พนักงานจะเตรียมอาหารให้ตรงหน้า เหมาะสำหรับคนที่เดินทางมาคนเดียวหรือคนที่อยากเพลิดเพลินกับการพูดคุยกับคนในท้องถิ่นแบบสบายๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าขาประจำที่ชอบพูดคุยจะนั่งที่เคาน์เตอร์ ทุกคนจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

แม้บางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะพยายามสื่อสารให้เข้าใจได้มากที่สุดเลยล่ะค่ะ

ความสบายๆ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านคือเสน่ห์ของ "ซันโตริฉะยะ"

さんとり茶屋

ครอบครัวคุณโกะโต (Goto) ที่บริหารงานร้าน "ซันโตริฉะยะ"

"ซันโตริฉะยะ" บริหารงานโดยคุณโกะโต ซึ่งเป็นเจ้าของร้านร่วมกับคนในครอบครัว ดังนั้นบรรยากาศภายในร้านจึงอบอุ่นเหมือนเราไปเที่ยวบ้านของคนในท้องที่ เราอาจจะได้ฟังเรื่องราวสมัยก่อนและเสน่ห์ของมัตสึชิมะจากคนที่เกิดและเติบโตที่นี่มากมายเลยค่ะ

สำหรับคนที่อยากเพลิดเพลินกับอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของมัตสึชิมะและสนุกกับการสนทนา อยากให้ลองแวะมาเยือนที่นี่ดูค่ะ

In cooperation with Santori Chaya

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ