Start planning your trip
มาถึงมัตสึชิมะแล้วต้องไม่พลาด! อาหารทะเลสดใหม่ของ "ซันโตริฉะยะ (Santori Chaya)"
"มัตสึชิมะ" แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจังหวัดมิยางิ ที่จะได้เพลิดเพลินกับอาหารทะเลแสนอร่อย วัตถุดิบที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น หอยนางรม ปลาไหลทะเล บทความนี้ขอแนะนำร้าน "ซันโตริฉะยะ" ที่อิ่มอร่อยกับอาหารได้ทั้งกลางวันและกลางคืน!
"มัตสึชิมะ" เสน่ห์ของทิวทัศน์ที่สวยงามและอาหารทะเลสดใหม่
มัตสึชิมะ (Matsushima) จังหวัดมิยางิ มีทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะต่างๆ ในอ่าวมัตสึชิมะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ใช้เวลาเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซนได (Sendai) เพียง 30 นาที ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน "สามทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น" ซึ่งรู้จักกันดีว่ามีวิวทะเลที่สวยงามให้ชมในตอนกลางวัน และสามารถชมพระจันทร์ที่งดงามได้ในตอนกลางคืน
ถ้ามาชมทิวทัศน์งดงามที่มัตสึชิมะแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นของที่นี่ เพราะมัตสึชิมะยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดใหม่ด้วย
บทความนี้ขอแนะนำร้านอาหารที่คุณจะได้อิ่มอร่อยกับของขึ้นชื่อจากมัตสึชิมะกันค่ะ นั่นก็คือร้าน "ซันโตริฉะยะ" ในช่วงมื้อกลางวันคุณสามารถกินอาหารไปพร้อมกันชมวิวทะเล และในมื้อเย็นก็สามารถเพลิดเพลินกับอาหารและพูดคุยกับพนักงานอย่างสนุกสนาน รับรองว่าคุณจะมีความทรงจำที่ดีจากอาหารแสนอร่อยของทริปนี้กลับไปอย่างแน่นอน
ชิมเมนูเด็ดซึ่งปรุงจากวัตถุดิบของจังหวัดมิยางิที่ "ซันโตริฉะยะ"
ถ้าเดินจากสถานี JR มัตสึชิมะไคกัง (JR Matsushima-Kaigan) ไปประมาณ 10 นาที บริเวณเลียบชายหาดระหว่างทางมุ่งหน้าไปยังเกาะฟุคุอุระจิมะ (Fukuurajima Island) (*1) ก็จะมองเห็นอาคารที่มีโนเร็นสีม่วงแขวนอยู่ ที่นี่ก็คือร้านอาหาร "ซันโตริฉะยะ" ซึ่งมีที่จอดรถกว้างขวางบริเวณหน้าร้าน
อาหารส่วนใหญ่จะทำจากปลาและผักที่เก็บเกี่ยวได้ในละแวกท้องถิ่นนี้ เมนูก็จะมีดงบุริเทโชคุที่เป็นข้าวสวยราดหน้าด้วยอุนิ (ไข่หอยเม่น), อิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) หรือมากุโระในปริมาณที่พูนชาม นอกจากนั้นยังมีอาหารจานเดียวอย่างซาชิมิและเทมปุระที่เข้ากันกับสาเกญี่ปุ่น เมนูแนะนำในแต่ละวันจะแตกต่างกันไป สามารถสอบถามกับพนักงานตอนที่สั่งอาหารได้
บทความนี้ขอแนะนำ 3 เมนูเด็ดที่ต้องกินให้ได้ ถ้ามาถึงที่มัตสึชิมะค่ะ
*1 : เกาะฟุคุอุระจิมะ…..เกาะที่อยู่ทางตะวันออกของชายฝั่งมัตสึชิมะ (Matsushima Coast) เป็นจุดท่องเที่ยวหลักของมัตสึชิมะที่มีสะพานสีแดงยาว 252 เมตร เชื่อมระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่
1. เมนูเด็ดประจำฤดูร้อน! "ชุดข้าวหน้าปลาไหลทะเล" เพียง 20 ชุดต่อวัน
"อานาโกะด้งเทโชคุ (ชุดข้าวหน้าปลาไหลทะเล)" เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมิโซะ สลัด และโอชิงโกะ (*2) (ราคารวมภาษี 1,730 เยน) อานาโกะหรือปลาไหลทะเลนั้นมีลักษณะคล้ายกับอุนางิหรือปลาไหลน้ำจืดซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่มีราคาแพง มักนิยมใช้ทำอาหารญี่ปุ่นหลากหลายประเภท เช่น เทมปุระ, ซูชิ และอื่นๆ
แม้ว่าเมนู "อานาโกะด้งเทโชคุ" จะเป็นเมนูอาหารที่มีขายตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบที่จับได้มีจำนวนจำกัด จึงมีจำหน่ายจำกัดเพียง 20 - 50 ชุดต่อวันเท่านั้น
อานาโกะมีเนื้อสัมผัสที่ฟูนุ่มละมุนลิ้น หากกินพร้อมทามาโกะยากิ (ไข่หวานญี่ปุ่น) กับแตงกวาหั่นฝอยที่อยู่ระหว่างข้าวกับอานาโกะด้วยแล้ว จะได้เนื้อสัมผัสที่เคี้ยวเพลินไปอีกแบบ ถ้ากินกับซอสรสหวานๆ เค็มๆ ที่ราดมาด้วยแค่นั้นก็อร่อยแล้ว แต่อยากให้ลองลิ้มรสพร้อมกับวาซาบิที่วางอยู่ตรงกลางดูด้วย จะช่วยเพิ่มความสดชื่นขึ้นมาได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
ช่วงเวลาที่อานาโกะอร่อยที่สุดคือช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ถ้ามาเที่ยวที่นี่ในช่วงฤดูร้อน นี่เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาด
*2: โอชิงโกะ.....ผักที่นำไปดองในเครื่องปรุงรสในระยะไม่นาน มีรสชาติอ่อนๆ นิยมใช้เป็นเมนูเครื่องเคียงอาหารจานหลักหรืออาหารที่มีรสชาติเข้มข้น
2. เมนูฤดูหนาว "หอยนางรมย่างทั้งเปลือก"
สำหรับคนที่มาเยือนที่นี่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมต้องไม่พลาดหอยนางรมของมัตสึชิมะ! พนักงานของร้านเล่าให้เราฟังว่า "หอยนางรมที่จับได้จากอ่าวมัตสึชิมะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมากเมื่อเทียบกับที่อื่น" ถ้าหอยนางรมอยู่ในทะเลที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว หอยนางรมจะปกป้องตัวเองโดยส่งสารอาหารต่างๆ ไปที่เปลือกหอย แต่ในอ่าวมัตสึชิมะมีกระแสน้ำสงบนิ่ง เนื้อหอยนางรมจึงอุดมไปด้วยสารอาหาร
เมื่อหอยนางรมมาเสิร์ฟบนโต๊ะ เราจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของทะเลลอยมาทันที ช่วงเวลาที่หอยนางรมอร่อยที่สุดคือช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลเย็นลง รสชาติความอร่อยก็จะยิ่งอัดแน่นขึ้น และกลิ่นหอมของทะเลก็จะโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
"คาคิคาระยากิ (หอยนางรมย่างทั้งเปลือก)" 2 ชิ้น ราคารวมภาษี 660 เยน บีบเลมอนที่เสิร์ฟมาด้วยก่อนแล้วกินกันเลยค่ะ
3. ลิ้มรสวัตถุดิบตามฤดูกาลกับ "รวมมิตรเทมปุระ"
ถ้านำปลาไปทำเป็นเมนูดงบุริหรือนำไปย่างก็อร่อยแล้ว แต่ถ้านำมาทำเป็นเทมปุระก็จะเป็นอาหารรสเลิศไม่แพ้กัน "เทมปุระโมริ (รวมมิตรเทมปุระ)" ราคารวมภาษี 1,280 เยน เป็นเมนูที่คุณสามารถดื่มด่ำกับเทมปุระที่ทำมาจากวัตถุดิบตามฤดูกาลได้ ตอนที่เราไปเก็บข้อมูลนั้นมีเมนูอาหารทะเลอย่างอานาโกะ ปลาหมึก กุ้ง และผักตามฤดูกาลอย่างฟักทอง ในช่วงฤดูหนาวเมนูจะเปลี่ยนจากปลาหมึกเป็นหอยนางรม
นอกจากนี้ยังมีเซ็ต "เทมปุระเซ็น" (ราคารวมภาษี 1,420 เยน) ที่จะเสิร์ฟมาพร้อมกับซุปมิโซะ สลัด และโอชิงโกะอีกด้วย
Picture courtesy of Santori Chaya
ตอนสั่งเมนูอาหารจานเดียวอย่างหอยนางรม เทมปุระ หรือซาชิมิ อยากให้ลองสั่งเหล้าญี่ปุ่นซึ่งผลิตที่จังหวัดมิยางิมาลองชิมด้วย จะมีเหล้าญี่ปุ่นที่เข้ากันได้ดีกับอาหาร และเหล้าญี่ปุ่นที่มีขายเฉพาะในช่วงเวลานั้น หากคุณสนใจสามารถสอบถามกับทางพนักงานได้ค่ะ
ลองเลือกที่นั่งตามช่วงเวลา
ตัวร้านเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งบริเวณชั้น 1 เป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ ส่วนชั้น 2 เป็นที่นั่งแบบโต๊ะ
เลือกนั่งที่โต๊ะพร้อมชมวิวทะเลในช่วงกลางวัน
สำหรับคนที่มากินอาหารในช่วงกลางวันแนะนำให้ขึ้นไปที่ชั้น 2 ซึ่งมีหน้าต่างจำนวนมาก แล้วยังกว้างขวาง บรรยากาศโล่งโปร่งสบาย หากมองไปนอกหน้าต่างก็จะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของอ่าวมัตสึชิมะได้ชัดเจน
นอกจากนี้การตกแต่งบนผนังและหิ้งก็เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของร้าน ผ้ากันเปื้อนสีดำที่ประดับบนกำแพงเป็นผ้ากันเปื้อนที่ใช้ในคุราโมโตะ (Kuramoto) (*3) นับตั้งแต่ที่ได้บริหารงาน "สมาคมผลิตเหล้าพื้นเมือง" ที่ร้านก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโรงกลั่นเหล้าในท้องถิ่น และดูเหมือนว่าบางครั้งลูกค้าของที่ร้านก็จะมีโอกาสลิ้มลองสาเกท้องถิ่นด้วย
บริเวณด้านหน้าของคามิดานะ (*4) ที่แขวนใกล้เพดานนั้นมีการประดับด้วยของขวัญจากลูกค้าประจำ ซึ่งทำจากกระดาษ 3 แผ่น ตัดด้วยกรรไกรเป็นลวดลายซับซ้อน ถือเป็นของประดับล้ำค่าของศาลเจ้า และมีแค่ไม่กี่คนในจังหวัดมิยางิที่ทำได้
*3: คุราโมโตะ (Kuramoto)…..ผู้ที่ผลิตและจำหน่ายเหล้า
*4: คามิดานะ (Kamidana)…..หิ้งบูชาเทพเจ้า หิ้งที่ทำขึ้นเพื่อสักการะเทพเจ้าของลัทธิชินโต มักจะตั้งไว้บริเวณที่มีความสว่าง สะอาด และมีลูกค้าเยอะ
เพลิดเพลินกับการสนทนาตรงที่นั่งเคาน์เตอร์ในตอนกลางคืน
Picture courtesy of Santori Chaya
ชั้น 1 มีที่นั่งเคาน์เตอร์แบบเดียว พนักงานจะเตรียมอาหารให้ตรงหน้า เหมาะสำหรับคนที่เดินทางมาคนเดียวหรือคนที่อยากเพลิดเพลินกับการพูดคุยกับคนในท้องถิ่นแบบสบายๆ ส่วนใหญ่ลูกค้าขาประจำที่ชอบพูดคุยจะนั่งที่เคาน์เตอร์ ทุกคนจะพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
แม้บางคนจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะพยายามสื่อสารให้เข้าใจได้มากที่สุดเลยล่ะค่ะ
ความสบายๆ อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านคือเสน่ห์ของ "ซันโตริฉะยะ"
ครอบครัวคุณโกะโต (Goto) ที่บริหารงานร้าน "ซันโตริฉะยะ"
"ซันโตริฉะยะ" บริหารงานโดยคุณโกะโต ซึ่งเป็นเจ้าของร้านร่วมกับคนในครอบครัว ดังนั้นบรรยากาศภายในร้านจึงอบอุ่นเหมือนเราไปเที่ยวบ้านของคนในท้องที่ เราอาจจะได้ฟังเรื่องราวสมัยก่อนและเสน่ห์ของมัตสึชิมะจากคนที่เกิดและเติบโตที่นี่มากมายเลยค่ะ
สำหรับคนที่อยากเพลิดเพลินกับอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของมัตสึชิมะและสนุกกับการสนทนา อยากให้ลองแวะมาเยือนที่นี่ดูค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In cooperation with Santori Chaya
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง