Start planning your trip
ขนมคาสเทลล่า (Castella) ของร้าน "โชคะโดคะชิเต็น (Shokado Kashiten)" ในมัตสึชิมะ (Matsushima) รสชาติเรียบง่ายที่แสนคิดถึงซึ่งมีแค่ที่นี่ที่เดียว
ร้านขนมสไตล์โฮมเมดของมัตสึชิมะ จังหวัดมิยางิ เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซนไดประมาณ 30 นาที โดดเด่นด้วยขนมแสนอร่อยที่ผสมผสาน "ข้อดีของปัจจุบันและอดีต" เชิญมาชิมขนมที่ทำด้วยความตั้งใจพร้อมชมทิวทัศน์อันงดงามของมัตสึชิมะผ่านหน้าต่างบานใหญ่
"โชคะโดคะชิเต็น" ร้านขนมและคาเฟ่ที่สามารถชมวิวทะเลได้
จากกำแพงด้านหนึ่งของร้านที่ทำจากกระจกจะมองเห็นอ่าวมัตสึชิมะ (Matsushima Bay) ต้นสนน้อยใหญ่และวัดโกะไดโด (Godaido Temple) ที่อยู่ทางซ้ายมือ เพียงแค่เดินเข้ามาในร้านก็จะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาดได้ในทันที
ที่นี่คือร้านขนมสไตล์โฮมเมด "โชคะโดคะชิเต็น" ซึ่งตั้งอยู่ที่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง "มัตสึชิมะ" ในภูมิภาคโทโฮคุ (ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) สามารถเดินทางด้วยรถไฟจากสถานีเซนไดโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ด้วยความตั้งใจที่จะทำขนมซึ่ง "สามารถทานได้เฉพาะตอนที่มาเยือนมัตสึชิมะเท่านั้น" ทางร้านจึงไม่มีขายออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ นอกจากนี้ภายในร้านยังมีหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นของร้านที่สามารถชมทัศนียภาพอันเป็นสัญลักษณ์ของมัตสึชิมะได้อีกด้วย
ตัวร้านอยู่คู่กับเมืองนี้มายาวนานกว่า 100 ปี และมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบกิจการมาหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันตก คาเฟ่ หรือร้านขายของฝาก และสุดท้ายในปี 2010 ก็ได้กลายมาเป็นร้านขนม "โชคะโดคะชิเต็น" นอกจากนี้บริเวณชั้น 2 ของอาคารก็ยังมีร้านขนมและคาเฟ่อยู่อีกด้วย
ขนมแสนเรียบง่ายที่ผสมผสาน "ข้อดีของปัจจุบันและอดีต"
คุณโคมาคิเนะ (Komakine) ผู้จัดการร้านกล่าวกับเราว่า "เราตั้งใจทำขนมที่รวมทั้งข้อดีของปัจจุบันและอดีตเข้าไว้ด้วยกัน" ร้านของเราใช้กระบวนการผลิตแบบ "ดั้งเดิม" โดยใช้เฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติ ไม่มีสารปรุงแต่งใดๆ ร่วมกับเทคโนโลยีของเตาอบที่ "ทันสมัย"
คุณโคมาคิเนะ
เราใช้วัตถุดิบที่ตั้งใจเลือกมาเป็นอย่างดี
คุณโคมาคิเนะ : "ผมไปพบกับผู้ผลิตวัตถุดิบอย่างเช่น ไข่ หรือน้ำผึ้งให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แล้วเลือกของที่อร่อยที่สุดที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับเรา"
ก่อนหน้านี้คุณโคมาคิเนะเคยทำงานอยู่ที่ร้านอื่น แต่ประทับใจในรสชาติของขนมที่ร้านโชคะโดคะชิเต็น และสัมผัสได้กับความตั้งใจของผู้บริหารที่จะ "ทำขนมที่ทานกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ โดยตัดสิ่งที่ไม่สำคัญออก แล้วให้ความสำคัญกับสิ่งที่จำเป้นจริงๆ เท่านั้น" จึงตัดสินใจย้ายมาทำงานที่นี่
ขนมโฮมเมดที่เต็มไปด้วยความรัก
นอกจากเมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่างคาสเทลล่าแล้วคุณยังจะได้เพลิดเพลินกับขนมหวานสไตล์โฮมเมดอีกหลายเมนูได้ที่ร้านโชคะโดคะชิเต็น และในบทความนี้เราจะขอแนะนำ 3 เมนูเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด
1. ต้องชิม! "โชคะโดคาสเทลล่า (Shokado Castella)" เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน
ขนมคาสเทลล่าของที่นี่จะใส่แค่แป้งสาลี นม ไข่และน้ำผึ้ง เป็นรสชาติเรียบง่ายที่ทานกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ ถ้าได้ชิมสักคำรับรองว่าจะติดใจอยากทานต่ออีกแน่นอน มีลูกค้าชาวต่างชาติที่ประทับใจขนมจนถึงขนาดบอกว่า "อบอุ่นเหมือนกับขนมที่เคยทานตอนยังเป็นเด็ก"
ภายนอกดูฟูนุ่มแต่ด้านในอัดแน่นทำให้อิ่มท้องได้ ถ้าทิ้งไว้สักครู่ก็จะสัมผัสได้กับความชุ่มชื้นที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เพลิดเพลินได้กับอีกรสสัมผัสหนึ่ง
ถ้าสั่งแบบ "เซ็ตโชคะโดคาสเทลล่า" จะสามารถเลือกกาแฟ ชาโฮจิฉะ หรือนมได้อีกหนึ่งอย่างในราคารวมภาษี 670 เยน ทางร้านมีเมนูภาษาอังกฤษเตรียมไว้ให้ด้วย ถ้าต้องการเมนูภาษาอังกฤษก็สามารถแจ้งพนักงานได้
2. "คินาโกะซันโดะ (Kinakosando)" บัตเตอร์ครีมที่ได้ชิมแล้วจะติดใจ
ยิ่งทานก็ยิ่งประทับใจกับรสชาติความอร่อยของ "คินาโกะซันโดะ" บัตเตอร์ครีมคินาโกะ (*1) ถูกประกบด้วยเมอแรงค์รสอัลมอนด์ มีรสชาติที่หวานละมุน เป็นอีกหนึ่งที่เมนูที่ทำด้วยมือด้วยความตั้งใจในทุกๆ ชิ้น
พอทานแล้วจะรู้สึกถึงรสสัมผัสกรุบกรอบของภายนอกแต่ชุ่มฉ่ำอยู่ด้านใน กลิ่นหอมของคินาโกะจะอบอวลอยู่ในปาก แม้จะทานหมดแล้วก็ยังรู้สึกอิ่มเอมอยู่
ถ้าเลือกแบบมีกาแฟหรือชาโฮจิฉะด้วยก็จะราคารวมภาษี 670 เยน นอกจากนี้ก็ยังมีคินาโกะซันโดะแบบซื้อกลับบ้านได้ เหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝากเป็นอย่างมาก
*1 : คินาโกะ ... ถั่วเหลืองคั่วบดละเอียดที่นิยมนำมาทำขนมญี่ปุ่น
3. "โชคะโดพุดดิ้ง (Shokado Pudding)" รสชาติชั้นเลิศและจานที่เสิร์ฟมาอย่างสวยงาม
โชคะโดพุดดิ้งเป็นเมนูที่สามารถทานได้เฉพาะในร้านเท่านั้น เป็นเมนูยอดนิยมที่ขายหมดทุกวัน
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วพุดดิ้งรูปทรงสวยงามนี้เป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีต พอใช้ช้อนตักเข้าไปก็จะเห็นความเด้งดึ๋งของตัวพุดดิ้ง ถ้าทานซอสคาราเมลพร้อมกับเนื้อพุดดิ้งก็จะสัมผัสกับรสขมนิดๆ ด้วย
ถ้ามีกาแฟหรือชาโฮจิฉะด้วยก็จะราคารวมภาษี 720 เยน
มีของฝากที่ไม่ได้อยู่ในเมนูของคาเฟ่ด้วย
นอกจากเมนูที่มีขายอยู่ในคาเฟ่อย่างโชคะโดคาสเทลล่าหรือคินาโกะซันโดะแล้วก็ยังมี "คาสเทลล่ากรอบ (Castella Rusk)" (ราคารวมภาษี 360 เยน) หรือชา "คุโระมาเมะฉะ (Kuromamecha)" ซึ่งทำมาจากถั่วเหลือง (ราคารวมภาษี 720 เยน) ที่สามารถซื้อเป็นของฝากกลับไปได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีผ้ากันเปื้อนคัปโปกิ (Kappogi) ที่ทำมาจากผ้าลินินสีขาวแบบที่พนักงานสวมอยู่นี้วางขายด้วย ผ้ากันเปื้อนนี้เป็นของแฮนด์เมด (*2) คัปโปกิ (Kappogi) เป็นผ้ากันเปื้อนแบบยาวที่มีแขนเสื้อไว้สำหรับสวมคลุมเสื้อผ้าเวลาที่ทำงานบ้านหรือทำอาหาร ช่วงปลายของยุคเมจิจนถึงช่วงยุคโชวะผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะนิยมสวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเลอะเทอะ
ตรงแขนเสื้อจะเป็นยางยืดจึงสามารถดึงแขนเสื้อขึ้นมาได้ และความยาวของชุดก็ยาวจนถึงเข่าจึงช่วยป้องกันเสื้อผ้าจากสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี
*2 : ของแฮนด์เมด ... ของที่ช่างฝีมือทำขึ้นมาด้วยมือล้วนๆ
หลังจากชิมขนมหวานแล้วต้องไม่พลาดเซมเบ้รสโชยุ
ที่ชั้น 1 ของร้านจะมีร้านขายของฝากในเครือเดียวกันอย่างร้าน "ยูคิทาเคะยะ (Yukitakeya)" เราสามารถซื้อเซมเบ้ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อหรือของฝากอื่นๆ ที่มีขายเฉพาะที่มัตสึชิมะหรือจังหวัดมิยางิ (Miyagi)ได้ที่นี่
ด้านหน้าร้านจะมีขนมเซมเบ้ที่ย่างเสร็จใหม่ๆ ขายด้วย อย่าลืมซื้อเซมเบ้ร้อนๆ มาชิมกันดูนะคะ
"โชคะโดคะชิเต็น" ร้านขนมสไตล์โฮมเมดของมัตสึชิมะที่ควรค่าแก่การมาเยือน
คุณโคมากิเนะทิ้งท้ายกับเราว่า "ระหว่างที่ทำเราก็จะคอยเฝ้ามองขนมพร้อมความรู้สึกที่อยากจะทำขนมออกมาให้อร่อย ดังนั้นขนมที่เราตั้งใจทำจึงเต็มไปด้วยความรัก ซึ่งเป็นข้อดีที่ไม่สามารถหาได้จากการผลิตด้วยเครื่องจักร"
ขนมที่ใส่ใจในวัตถุดิบและความรักของคนทำคือคุณภาพที่แท้จริงของเรา เป็นรสชาติที่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจของคนทาน
มัตสึชิมะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มากมายทั้งวัดซุยกันจิ (Zuiganji Temple) ซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติของชาติ หรือทิวทัศน์ของเกาะน้อยใหญ่ที่อยู่ในอ่าว หรือถ้าจะมาเยือนที่นี่เพื่อซื้อขนมเพียงอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองมาสัมผัสกับความเรียบง่ายที่ทรงพลังด้วยตัวคุณเองค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In cooperation with Shokado Kashiten
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง