Start planning your trip

ขอแนะนำซิมการ์ดราคาสุดคุ้มในการใช้สมาร์ตโฟน สำหรับผู้ที่อยู่ญี่ปุ่นระยะยาว มีซิมราคาถูกให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่บริการที่มีค่าบริการรายเดือนต่ำกว่า 1,000 เยน บริการที่สมัครใช้งานได้ใน 6 ภาษา และบริการที่ให้โทรฟรีในเครือข่ายมือถือเดียวกันได้
สมาร์ตโฟนสะดวกในการค้นหาข้อมูลของญี่ปุ่น ไทย และประเทศต่างๆ แถมดำเนินการแต่ละขั้นตอนทางออนไลน์ได้ ถือเป็นไอเทมจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นเลยทีเดียว
ถ้ามาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงสั้นๆ การใช้ซิมการ์ดแบบเติมเงินอย่าง Japan Travel ซิมก็สะดวกสบาย ในทางกลับกัน หากวางแผนอยู่ในญี่ปุ่นนานเกิน 1 ปี ขอแนะนำซิมการ์ดราคาถูกแบบรายเดือน
ญี่ปุ่นมีบริษัทให้บริการมือถือรายใหญ่ 3 เจ้า คือ docomo, au และ SoftBank ซึ่งมีเครือข่ายโทรศัพท์ของตัวเอง จึงใช้เน็ตได้สะดวกสบาย และมีร้านสาขาให้บริการมากด้วย ให้บริการแพ็กเกจสุดฮิตในหมู่ผู้ใช้ มีปริมาณเน็ตตั้งแต่ 3G ขึ้นไปจนถึงปริมาณเน็ตไม่จำกัด แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง อย่างค่าบริการรายเดือนอยู่ที่ราว 4,000 - 5,000 เยน
ส่วนผู้ที่ให้บริการซิมราคาถูกจะเช่าสายสัญญาณจาก 3 บริษัทข้างต้นในการให้บริการโทรศัพท์มือถือ เน็ตจึงอาจช้า แต่มีค่าบริการรายเดือนราว 1,000 เยน ซึ่งถือว่าถูกมากๆ
จุดเด่นอีกอย่างคือมีผู้ให้บริการซิมราคาถูกหลายเจ้า จึงมีแพ็กเกจที่มีระยะสัญญาและปริมาณเน็ตให้เลือกเยอะ สามารถเลือกซิมที่เหมาะกับตัวเองได้
สามารถดูข้อมูล 3 บริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ได้ที่บทความด้านล่าง
ซิมราคาถูกแบ่งได้คร่าวๆ เป็น 3 แบบ ได้แก่ ซิมการ์ดรับ-ส่งข้อมูล ซิมการ์ดที่รับ-ส่งข้อความ SMS ได้ และซิมการ์ดที่โทรเข้า-ออกได้ (มีหมายเลขโทรศัพท์)
ซิมการ์ดรับ-ส่งข้อมูลนอกจากจะใช้เล่นเน็ต ยังสามารถรับ-ส่งข้อความ SMS ได้ ปัจจุบันสามารถโทรด้วยเสียงและวีดิโอคอลผ่านแอปต่าง ๆ อย่าง LINE และ Messenger ได้ ดังนั้นการโทรด้วยเสียงหรือวีดิโอคอล แค่มีซิมการ์ดรับ-ส่งข้อมูลได้ก็เพียงพอ
แต่ในญี่ปุ่น การลงทะเบียนแอปหรือบริการระบบสมาชิกต่างๆ ต้องมีการยืนยันตัวตน โดยจะมีการส่งรหัสยืนยันตัวตนทาง SMS หากรับ-ส่งข้อความ SMS ไม่ได้ ก็อาจใช้บริการเหล่านี้ไม่ได้
นอกจากนี้ หากโทรด้วยเสียงได้ ยังสามารถโทรสายด่วน 110 (ตำรวจ) หรือ 119 (รถพยาบาล) ในกรณีฉุกเฉิน แถมสัญญาณเสียงจะชัดยิ่งขึ้นหากใช้ซิมที่โทรด้วยเสียงได้ เมื่อเทียบกับซิมที่รับ-ส่งข้อความ SMS ได้
ด้วยข้อมูลที่กล่าวมานี้ คงช่วยให้เลือกบริการที่เหมาะได้ หากจ่ายไหว เลือกแบบโทรด้วยเสียงได้ ก็น่าจะปลอดภัยที่สุด
Photo by Pixta
ปัจจุบัน ยังมี eSIM (Embedded Subscriber Identity Module ต่างจากซิมการ์ดจริง เป็นซิมการ์ดที่ฝังอยู่ในฮาร์ดแวร์ของโทรศัพท์ ไม่สามารถถอดออกได้ ข้อมูลไม่ได้ถูกจัดเก็บไว้ในตัวการ์ด แต่เก็บไว้ในชิปที่ปลอดภัยแทน) ที่ใช้รับ-ส่งข้อความ SMS และโทรด้วยเสียงได้ eSIM เป็นซิมการ์ดที่สามารถใส่ลงในโทรศัพท์มือถือได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมการ์ด
มีข้อดีคือใช้งานสะดวก หากอุปกรณ์รองรับ eSIM สามารถดำเนินการตามขั้นตอนทางออนไลน์ให้เสร็จสิ้นได้ ง่ายๆ
Photo by Pixta
ในกรณีที่นำสมาร์ตโฟนไร้ซิมมาจากต่างประเทศมา หากไม่มี Technical Comformity Mark เครื่องหมายรับรองทางเทคนิค (ให้การรับรองอุปกรณ์รับส่งสัญญาณในญี่ปุ่น) แม้ใส่ซิมก็ใช้งานไม่ได้ โดยพื้นฐานแล้วขอแนะนำให้ใช้มือถือของญี่ปุ่น อย่าง IIJmio และ Rakuten Mobile ที่แนะนำในบทความนี้ สามารถซื้อมือถือรุ่นต่างๆ พร้อมซิมการ์ดได้เลย
ซิมการ์ดราคาถูกมี 3 ขนาด ได้แก่ ซิมมาตรฐาน ไมโครซิม และนาโนซิม ขนาดของซิมการ์ดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรุ่นของสมาร์ตโฟน ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนซื้อซิมราคาถูก
นอกจากนี้ยังมีซิมการ์ดราคาถูกที่ชำระเงินในร้านสะดวกซื้อได้ ไม่มีบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารญี่ปุ่น ก็ยังใช้งานได้
มีบริษัทที่ให้บริการซิมราคาถูกเยอะมากๆ บทความนี้ขอแนะนำบริษัทที่ให้บริการในหลายภาษา บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือสูงซึ่งมีส่วนแบ่งในตลาดสูง และบริษัทที่มีแพ็กเกจไม่เหมือนใคร
บริษัท | ปริมาณเน็ตขั้นต่ำ/เดือน | ซิมรับ-ส่งข้อมูล | ซิมโทรด้วยเสียง/รับ-ส่ง SMS ได้ |
GTN MOBILE | 1 GB | x | 1,200 เยนขึ้นไป |
LINEMO | 3 GB | x | 990 เยนขึ้นไป |
mobal | 1 GB | x | 1,650 เยนขึ้นไป |
Sakura Mobile | 5 GB | 2,728 เยนขึ้นไป | 3,278 เยนขึ้นไป |
ahamo | 20 GB | x | 2,970 เยนขึ้นไป |
IIJmio | 2 GB | 740 เยนขึ้นไป | 850 เยนขึ้นไป |
Rakuten Mobile | 0 - 3 GB | 577 เยนขึ้นไป | 1,078 เยนขึ้นไป |
UQ mobile | 0 -1 GB | x | 2,365 เยนขึ้นไป |
mineo | 1 GB | 880 เยนขึ้นไป | 1,298 เยนขึ้นไป |
HIS Mobile | 100 MB | x | 290 เยนขึ้นไป |
* ขอละซิมที่รับ-ส่งข้อความ SMS ได้เท่านั้นไว้
* ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2024 แพ็กเกจและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบรายละเอียดในเว็บไซต์ของแต่ละบริษัท
Picture courtesy of GTN MOBILE
GTN MOBILE เป็นบริษัทมือถือที่ใส่ใจลูกค้าต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่น นอกจากภาษาญี่ปุ่น ยังให้บริการในภาษาต่างๆ อีก 7 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เกาหลี เวียดนาม อินโดนีเซีย และเนปาล ผู้ที่ไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้สมัครใช้บริการในแต่ละภาษาได้เลย
สามารถชำระค่าบริการได้ที่ร้านสะดวกซื้อ โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคารญี่ปุ่นหรือบัตรเครดิต จองได้ง่ายๆ หากมีหนังสือเดินทาง และยังจองล่วงหน้าได้สูงสุด 14 วันก่อนเดินทาง ดังนั้น เพื่อความสะดวกสบาย ควรสมัครก่อนมาญี่ปุ่น
Picture courtesy of LINEMO
LINEMO เป็นบริษัทลูกของ Softbank ที่เน้นบริการออนไลน์ เปิดให้บริการเมื่อปี 2021 ปริมาณเน็ต 20GB ในราคา 2,728 เยน รับ-ส่งข้อความและโทรด้วยเสียงหรือวิดีโอคอลผ่านแอป LINE ได้โดยไม่กินเน็ต จึงนิยมกันมากในหมู่วัยรุ่นและชาวต่างชาติในญี่ปุ่นที่ใช้ LINE บ่อยๆ
เว็บไซด์ให้บริการในหลายภาษาโดยใช้เครื่องมือแปลอัตโนมัติ ทั้งอังกฤษ จีน เกาหลี และเวียดนาม การสมัครมีเฉพาะหน้าเพจภาษาญี่ปุ่น แต่มีคู่มือสมัครในภาษาอังกฤษพร้อมคำอธิบายที่เข้าใจง่าย ดังนั้นสามารถดูคู่มือภาษาอังกฤษแล้วสมัครบนหน้าเพจภาษาญี่ปุ่นได้
การสมัครแพ็กเกจนี้ทำได้ทางออนไลน์เท่านั้น ไม่สามารถสมัครที่ร้านสาขาได้
Picture courtesy of mobal
mobal เป็นบริษัทของประเทศอังกฤษ เปิดให้บริการในญี่ปุ่นแก่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวและพักอาศัยในญี่ปุ่นระยะกลาง-ยาว มีเว็บไซต์ให้บริการและสมัครในภาษาอังกฤษและภาษาจีนตัวย่อ
จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ mobal คือจัดส่งซิมการ์ดแก่ลูกค้าในญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศให้ฟรี ดังนั้น ลูกค้าจะได้รับซิมการ์ดก่อนมาญี่ปุ่น และสามารถใช้เน็ตได้ทันทีเมื่อมาถึงญี่ปุ่น
mobal ยังให้บริการเราเตอร์ Pocket Wi-Fi ที่ใช้ปริมาณเน็ตได้ 100GB/เดือน ในราคา 4,980 เยน/เดือน เมื่อสมัครพร้อมซิมการ์ดจะได้รับส่วนลด 10% สามารถใช้บริการสุดคุ้มได้
Picture courtesy of Sakura Mobile
Sakura Mobile เป็นบริษัทที่ให้บริการเช่า Pocket Wi-Fi และซิมราคาถูกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซิมและ Wi-Fi มีทั้งแพ็กเกจระยะสั้น (1 สัปดาห์ขึ้นไป) และแพ็กเกจระยะยาว (1 เดือนขึ้นไป)
ใช้เครือข่ายของ NTT Docomo บริษัทมือถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น เล่นเน็ตอย่างเดียวเริ่มต้นที่ 2,728 เยน/เดือน เล่นเน็ตและโทรด้วยเสียงเริ่มต้นที่ 3,278 เยน/เดือน
Sakura Mobile เป็นบริษัทที่โด่งดังเรื่องการตอบคำถามและช่วยแก้ไขปัญหาในภาษาอังกฤษ มีเสียงจากผู้ใช้บริการจริงว่า “ตอนทำซิมการ์ดหาย บริษัทจัดส่งซิมการ์ดใหม่มาให้เร็วสุดๆ ภายใน 2 วัน” และ “ตอนที่สอบถามว่าจะใช้ซิมการ์ดหรือ Pocket Wi-Fi ที่เหมาะกับจุดหมายในการเที่ยว พนักงานก็ช่วยอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด” ดังนั้น ผู้ที่กังวลเรื่องภาษาญี่ปุ่นก็ใช้บริการได้อย่างสบายใจ
แน่นอนว่าสามารถสมัครด้วยภาษาอังกฤษผ่านเว็บไซต์ได้ด้วย
Picture courtesy of ahamo
ahamo เริ่มให้บริการแพ็กเกจเมื่อปี 2021 มีค่าบริการรายเดือน 2 แบบ คือ ปริมาณเน็ต 20GB ในราคา 2,970 เยน และปริมาณเน็ต 100GB ในราคา 4,950 เยน แถมยังโทรในญี่ปุ่นได้ฟรี 5 นาที ถือว่าคุ้มมากๆ
เนื่องจากใช้เครือข่ายของ Docomo การเชื่อมเน็ตจึงราบรื่นไม่สะดุด
Picture courtesy of IIJmio
IIJmio มีความน่าเชื่อถือสูง และครองส่วนแบ่งทางการตลาดระดับสูงสุดในบรรดาซิมการ์ดราคาถูก โดยครองอันดับ 1 ที่ญี่ปุ่นในแง่ของจำนวนสัญญาซิมการ์ด ณ เดือนกันยายน 2023 อีกทั้งยังมีมือถือมากกว่า 60 รุ่นให้บริการ เหมาะกับผู้ที่มีให้ความสำคัญกับเรื่องมือถือ
อีกทั้งยังกำลังขยายขอบเขตการบริการในภาษาอังกฤษด้วย มี AI Chat ช่วยตอบคำถามในภาษาอังกฤษ และบัญชี X ทางการของบริษัท เมื่อถามด้วยภาษาอังกฤษ จะได้คำตอบด้วยภาษาอังกฤษอย่างละเอียด
ทว่าหน้าเพจการสมัครเป็นภาษาญี่ปุ่น (ณ เดือนกรกฎาคม 2024) แต่เว็บไซต์มีคำอธิบายในภาษาอังกฤษ สามารถดูวิธีการสมัครและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ หากไม่มั่นใจในภาษาญี่ปุ่น ควรขอให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นช่วยเหลือในการสมัคร
Picture courtesy of Rakuten Mobile
Rakuten Mobile มีแพ็กเกจพิเศษที่ค่าบริการรายเดือนจะขึ้นอยู่กับปริมาณเน็ตที่ใช้
หากปริมาณเน็ตไม่เกิน 3GB/เดือน ราคาจะอยู่ที่ 1,078 เยน, ปริมาณเน็ตมากกว่า 3GB/เดือน และสูงสุด 20GB/เดือน ราคาจะอยู่ที่ 2,178 เยน และปริมาณเน็ตมากกว่า 20GB/เดือน และสูงสุดไม่จำกัด ราคาจะอยู่ที่ 3,278 เยน หากไม่ใช้เน็ต ค่าบริการในเดือนนั้นจะถูกลง จึงไม่สิ้นเปลืองเงิน
ไม่กี่ปีมานี้ การเชื่อมเน็ตเป็นเรื่องง่ายไม่เพียงแค่ในเขตเมืองอย่างโตเกียวและโอซาก้า แต่ยังรวมถึงในพื้นที่ชนบทด้วย การเชื่อมเน็ตกำลังเพิ่มความเร็วและความแรงขึ้น
จุดเด่นอีกอย่างคือนอกจากญี่ปุ่นยังสามารถใช้เน็ต 2GB/เดือนได้ใน 73 ประเทศและเขตการปกครอง (ข้อมูล ณ เดือนกรกฎาคม 2024) นอกจากจะลงทะเบียนเพื่อทำสัญญาผ่านแอป Rakuten Link ได้ แอปนี้ยังใช้โทรและรับ-ส่งข้อความได้ฟรีในทุกที่ทั่วโลกระหว่างผู้ใช้แอป Rakuten Link เดียวกันด้วย
สามารถสมัครในภาษาอังกฤษได้ด้วย นอกจากนี้แอป my Rakuten Mobile ซึ่งช่วยตรวจสอบปริมาณเน็ตที่ใช้ และอื่นๆ ยังสามารถเปลี่ยนภาษาตามการตั้งค่าภาษาในสมาร์ตโฟนได้
Picture courtesy of UQ mobile
UQ mobile (ภาษาอังกฤษ) มีบริการ 3 แพ็กเกจ ได้แก่ Mini Mini Plan ปริมาณเน็ตสูงสุด 4GB, Komi Komi Plan ปริมาณเน็ตสูงสุด 20GB และ Toku Toku Plan ปริมาณเน็ตสูงสุด 15GB (หากใช้เน็ตไม่ถึง 1GB/เดือน จะได้รับส่วนลดโดยอัตโนมัติ)
ราคาอาจสูงกว่าที่อื่น แต่มีบริการส่วนลดต่างๆ เช่น เมื่อสมัครใช้งานเราเตอร์ที่บ้านของ au HIKARI ราคาก็จะยิ่งถูกมากๆ นอกจากนี้บางแพ็กเกจยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น โทรฟรีไม่อั้น ครั้งละไม่เกิน 10 นาที หรือโอนปริมาณเน็ตที่เหลือไปเดือนถัดไป
จุดเด่นอีกอย่างคือความเร็วเน็ต มีเสียงจากผู้ใช้จริงว่าเชื่อมต่อเน็ตง่ายและราบรื่นไม่สะดุดที่สุดในบรรดาซิมราคาถูก
อีกทั้งเว็บไซด์มีบริการในภาษาอังกฤษ แต่การสมัครมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น (ณ เดือนกรกฎาคม 2024)
Picture courtesy of mineo
จุดเด่นของ mineo คือมีตัวเลือกหลากหลาย สามารถเลือกปริมาณเน็ต ต้องการโทรเข้า-ออกไหม และเครือข่ายได้เอง
มีปริมาณเน็ต 4 แพ็กเกจให้เลือก คือ 1GB, 5GB, 10GB และ 20GB จุดเด่นอีกอย่างคือปรับแต่งแพ็กเกจให้เหมาะกับตัวเองที่สุดได้ โดยสามารถเลือกบริการเสริมโทรฟรีไม่อั้น ครั้งละไม่เกิน 10 นาที หรือโทรได้ไม่จำกัด อีกทั้งยังเลือกเครือข่าย au, Docomo หรือ Softbank ได้ ไม่ว่าจะเลือกเครือข่ายใด ค่าบริการก็ไม่ต่างกัน
จุดเด่นอีกอย่างคือ mineo มีบริการเสริมไม่เหมือนใคร สามารถเพิ่มบริการเสริมเพื่อนับปริมาณเน็ตการเข้าชมโฆษณาที่ขึ้นมาเมื่อท่องอินเทอร์เน็ตได้ฟรี
นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมที่มอบสิทธิประโยชน์โดยการลดปริมาณเน็ตด้วยตัวเองผ่านแอปในช่วงเวลาที่ความเร็วเน็ตช้า และมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อย่างการรับเน็ตเพิ่ม 100MB
Picture courtesy of HIS Mobile
ชื่อนี้คุ้นๆ กันไหม HIS คือบริษัททัวร์เจ้าใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีสาขาในไทยด้วย HIS Mobile มีบริการโทรศัพท์มือถือ ถ้าใช้เน็ตอย่างเดียว ค่าบริการเริ่มต้นที่ 290 เยน/เดือน เป็นซิมที่แนะนำสำหรับผู้ที่ใช้เน็ตน้อยหรือไม่ค่อยได้ใช้
ลองใช้ข้อมูลในบทความนี้ เลือกบริการที่เหมาะกับตัวเอง แล้วไปใช้ชีวิตออนไลน์ที่สะดวกสบายในญี่ปุ่นกัน
Main image by Pixta