เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

7 สิ่งน่าทำที่หอคอยซือเท็นคาคุ สัญลักษณ์คู่เมืองโอซาก้า (Osaka)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

หอคอยซือเท็นคาคุ หอชมวิวความสูง 103 เมตรที่ทำหน้าที่ดูแลเมืองโอซาก้า จะขอนำทางไปยังซือเท็นคาคุที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโอซาก้ากันค่ะ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

หอคอยซือเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower) สัญลักษณ์ของโอซาก้า

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

ในโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง เช่น ปราสาทโอซาก้าหรือโดทงโบริ แต่หากพูดถึง "สัญลักษณ์ของโอซาก้า" คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่คงจะนึกถึง หอคอยซือเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สูงถึง 103 เมตร

หอคอยซือเท็นคาคุอยู่ในย่านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในโอซาก้า เรียกว่า "ชินเซไก" ซึ่งอยู่ใกล้กับนัมบะและชินไซบาชิ เดินทางได้ด้วยรถไฟเพียง 15 นาที และสามารถแวะเที่ยวที่ต่างๆ ได้ในวันเดียวกัน ที่หอคอยซือเท็นคาคุมีอะไรและสามารถทำอะไรได้บ้าง เราจะพาไปชมเสน่ห์ของหอคอยซือเท็นคาคุในหลายๆ มุมกันค่ะ

1. ลองขึ้นหอคอยซือเท็นคาคุกัน

ทางเข้าจุดชมวิวหอคอยซือเท็นคาคุ : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

อย่างแรกเลยลองขึ้นไปด้านบนกันก่อนดีกว่าค่ะ!

การเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวของหอคอยซือเท็นคาคุ มีวิธีการที่แปลกประหลาดนิดหน่อย ด้านล่างของหอคอยซือเท็นคาคุจะมีทางเข้าจุดชมวิว (ในรูป) จากตรงนั้นเราจะต้องลงไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อไปซื้อตั๋วกันก่อน จากนั้นถึงค่อยขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 4 และ 5 ด้วยลิฟท์

จากจุดชมวิวที่มีความสูงเหนือพื้นดินราว 88 เมตร มองเห็นเมืองโอซาก้าได้รอบเลยค่ะ

あべのハルカス

Photo by Pixta ตึกสูงๆ ที่เห็นอยู่ตรงกลางคือ Abeno Harukas

เราจะได้ชมวิว Abeno Harukas (อาเบโนะ ฮารุคัส) ตึกที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น สีเขียวชอุ่มของต้นไม้ที่มีจำนวนมากด้านล่างที่เห็นในรูป คือบริเวณสวนสาธารณะเท็นโนจิกับสวนสัตว์เท็นโนจิที่เดินไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น

Tenbo Paradise : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

ตั๋วปกติที่เราซื้อสามารถเข้าชมได้จนถึงตรงนี้ค่ะ แต่ถ้าจ่ายเพิ่มอีก 500 เยน ก็จะขึ้นไปได้ถึง Tenbo Paradise จุดชมวิวกลางแจ้งด้านบนอีก 1 ชั้น นอกจากนั้นยังสามารถเช่าเหมาสำหรับใช้ส่วนตัวได้ หากโทรศัพท์มาจองก่อนล่วงหน้า 7 วัน (ราคา 10,000 เยน) ดูเหมือนว่าจะมีคู่รักมาขอแต่งงานกันที่นี่ด้วยแหละค่ะ

2. สัมผัสบิลลิเคนซัง เพื่อเสริมความสุข

通天閣

บิลลิเคนซัง : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

จุดที่อยากให้แวะไปหาสักนิดที่จุดชมวิวชั้น 5 คือ บิลลิเคนซัง เป็นรูปปั้นที่มีสีหน้ายิ้มแย้มนั่งยื่นขาสองข้างออกมาด้านหน้า ดูน่ารักน่าเอ็นดู เขาเชื่อกันว่าถ้าเราเอามือไปลูบตรงฝ่าเท้าของบิลลิเคนซัง จะทำให้มีความสุขล่ะ

บิลลิเคนมีชื่อเสียงมากในประเทศญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา เป็นคาแรคเตอร์ที่นักวาดภาพประกอบชื่อ ฟลอเรนซ์ เพรทซ์ (Florence Pretz) สร้างขึ้นมาจากเทพเจ้าที่เห็นในความฝันเมื่อปี 1908

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

บิลลิเคนซังเริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางในญี่ปุ่นในฐานะเทพเจ้าที่ทำให้การค้าเจริญรุ่งเรือง และอวยพรให้ครอบครัวปลอดภัย ในปี 1912 สวนสนุก Luna Park (ลูน่าปาร์ค) ที่อยู่ในซือเท็นคาคุได้มีการนำรูปปั้นสัมฤทธิ์ของบิลลิเคนซังมาตั้งประดับ รูปปั้นที่เราเห็นนั่งอยู่ตรงจุดชมวิวนี้ถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว มีผู้คนที่แสวงหาความสุขมาเยี่ยมเยือนและเข้าคิวรอจั๊กจี้ฝ่าเท้าของบิลลิเคนซังกันเป็นแถวเลย

3. ทานพาร์เฟ่ต์ที่ขายเฉพาะในซือเท็นคาคุ

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

ไหนๆ ก็มาถึงหอคอยซือเท็นคาคุแล้ว เมนูที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ซือเท็นคาคุพาร์เฟ่ต์ (ราคารวมภาษี 700 เยน) นี่เป็นสินค้าออริจินัลของ Cafe de Luna Park ที่อยู่ชั้น 3 มีขายแค่ที่นี่ที่เดียวนะคะ

พาร์เฟ่ต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหอคอยซือเท็นคาคุ มีความสูงถึง 21 เซนติเมตร! ด้านล่างเป็นเยลลี่ผลไม้รวม โรยทับด้วยคอร์นเฟลกและเค้กสปอนจ์ ตามด้วยซอฟท์ครีมแบบเข้มข้น ตบท้ายด้วยชูครีมจิ๋วโปะหน้า

ใน Cafe de Luna Park ยังมีเครื่องดื่มที่ทำจากนมวัวสดใหม่จากฟาร์ม Mother Farm (มาร์เธอร์ฟาร์ม) เราจะได้ลิ้มลองน้ำผลไม้รวมและโยเกิร์ต เมนูขึ้นชื่อของโอซาก้าที่นำผลไม้สีสดใสมาปั่นรวมกับนมวัว นอกจากนั้นยังมีอาหารอื่นๆ เช่น พาสต้าอีกด้วยล่ะ

4. รู้จักประวัติของหอคอยซือเท็นคาคุ

通天閣

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

บริเวณรอบๆ ซือเท็นคาคุเคยมีสวนสนุกชื่อ Luna Park (ปี 1912-1923) โรงละคร และช้อปปิ้งมอลล์ ซึ่งครึกครื้นมากในสมัยก่อน หอคอยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางในรูปนั้นก็คือหอคอยซือเท็นคาคุค่ะ

ต้นแบบมาจากหอไอเฟลในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในส่วนของชั้น 1 มี Arc de Triomphe หรือประตูชัยฝรั่งเศสอยู่ด้วย ที่นี่เป็นหอคอยแบบชาวโอซาก้าขนานแท้ที่ชอบสีฉูดฉาด แต่มีการแยกชิ้นส่วนออกเนื่องจากไฟไหม้และผลกระทบจากสงคราม หอคอยซือเท็นคาคุในปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 2 ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี 1956

แบบจำลองสามมิติของ Luna Park : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

ในชั้นเดียวกับ Cafe de Luna Park มีพื้นที่แสดงภาพและผลงานแบบจำลองสามมิติของ Luna Park ด้วย เห็นแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าแถวย่านชินเซไกจะเคยมีธีมพาร์คแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 100 ปีที่แล้ว!

5. ซื้อของฝากจากโอซาก้า

ตัวละครจากการ์ตูนชื่อดัง Kinnikuman : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

บริเวณชั้น 2 มีสินค้าของ Kinnikuman (คินนิคุแมน) ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดนิยมและส่วนจัดแสดงสำเนาภาพวาดต้นฉบับให้ดูด้วย มีร้านที่ขายของฝากแบบลิมิเต็ดจากซือเท็นคาคุและโอซาก้า มาซื้อของฝากจากที่นี่ก็ได้ค่ะ!

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

นอกจากนี้ที่ชั้น B1 ยังมี Antenna Shop (ร้านที่บริษัทหรือองค์กรเปิดขึ้นชั่วคราวเพื่อทดสอบตลาดสินค้าของตัวเอง) ของสินค้าต่างๆ เช่นขนม มาเลือกซื้อขนมไปเป็นของฝากก็ได้ค่ะ มีคาแรคเตอร์ต่างๆ เช่น Kyorochan (เคียวโระจัง) และ ตุ๊กตากุลิโกะ รอต้อนรับอยู่เต็มเลย

6. ดูสภาพอากาศของวันพรุ่งนี้ จากหอคอยซือเท็นคาคุ

Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

ถ้าได้ไปแถวหอคอยซือเท็นคาคุตอนกลางคืน อย่าลืมมองดูไฟนีออนบนยอดหอคอยกันดูนะคะ แค่ดูสีของไฟบนยอดหอคอยก็จะรู้สภาพอากาศของวันพรุ่งนี้ได้ค่ะ

通天閣

อากาศวันพรุ่งนี้ "สดใสจากนั้นมีเมฆมาก" ไม่ก็ "สดใสและมีเมฆบ้าง" : Picture courtesy of Tsutenkaku Kanko Co., Ltd.

สีขาวหมายถึงอากาศดี สีส้มหมายถึงมีเมฆ ถ้าเป็นสีฟ้าหมายถึงฝนจะตก บางครั้งก็สว่างเป็น 2 สี ถ้าข้างบนเป็นสีขาว ข้างล่างเป็นสีส้ม นั่นหมายถึง "อากาศสดใสแล้วก็เริ่มมืดครึ้ม" หรือไม่ก็ "สดใสและมีเมฆบ้างเป็นบางเวลา" เราจะรู้สภาพอากาศของวันถัดไปได้จากลำดับของโทนสีค่ะ

7. เดินเล่นรอบๆ หอคอยซือเท็นคาคุ

通天閣

อาคารร้านค้าในชินเซไก

ไหนๆ ก็ไปถึงหอคอยซือเท็นคาคุแล้ว ก็ไปเดินเล่นข้างล่างในย่าน ชินเซไก (Shinsekai) กันด้วยเลยดีกว่าค่ะ ละแวกนั้นเรียงรายไปด้วยร้านขายของฝากและร้านอาหารเมนูเด็ดของโอซาก้า คึกคักและคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากทุกวัน

จะมีคำว่า "โคเทะโคเทะ" ที่หมายถึง "นี่แหละสไตล์โอซาก้า" ชินเซไกที่เต็มไปด้วยพลังงานและมีความวุ่นวาย เป็นเมืองที่สัมผัสได้ถึงโอซาก้าที่โคเทะโคเทะจริงๆ ค่ะ

ใน Jan Jan Yokocho (จังจังโยโกะโจ) ที่อยู่ใกล้กับทางเข้าโซนชินเซไกมีร้านคุชิคัทสึ (อาหารเสียบไม้ทอด) และร้านอิซากายะที่ยืนดื่มได้ตั้งเรียงรายอยู่ในซอยเล็กๆ ละแวกนี้เป็นพื้นที่ที่นิยมเล่นหมากล้อม (โกะ) และหมากรุกมาตั้งแต่อดีต เดินไปก็จะเห็นคนเล่นหมากรุกอยู่ด้านในกันเต็มเลยค่ะ

通天閣

ชาอุสุยามะ (Chausuyama) ในสวนเท็นโนจิ (Tennoji Park)

ฝั่งตะวันออกของหอคอยซือเท็นคาคุ มีสวนเท็นโนจิที่มีสวนแบบญี่ปุ่นด้วย เราสามารถมาเดินเล่นเพลินๆ ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติได้ที่นี่ค่ะ และเมื่อไม่กี่ปีมานี้ รอบๆ สถานีชินอิมามิยะ และสถานีโดบุทสึเอ็นมาเอะ มีที่พักราคาถูกสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะเลือกพักแถวนี้ก็ได้ แต่ทางทิศใต้ของสถานีก็เป็นโซนที่ไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่ จึงต้องระมัดระวังเวลาเดินตอนกลางคืนด้วยค่ะ

การเดินทางไปยังหอคอยซือเท็นคาคุ

สถานีที่อยู่ใกล้หอคอยซือเท็นคาคุมากที่สุดมีหลายสถานี ในกรณีที่จะเดินทางจากสถานีโอซาก้า สถานีอุเมดะ(*1) ของ JR ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีอุเมดะ (Umeda Station) สายมิโดสุจิ (Midosuji Line) ขบวนที่มุ่งหน้าไปเท็นโนจิและนากาโมซุ ลงที่สถานีโดบุทสึเอ็นมาเอะ (Dobutuen-mae Station) สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด ใช้เวลา 15 นาที 230 เยน

ในกรณีที่จะเดินทางจากนัมบะและชินไซบาชิ ให้ขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานีชินไซบาชิ (Shinsaibashi Station) ไม่ก็สถานีนัมบะ (Namba Station) สายมิโดสุจิ (Midosuji Line) ขบวนที่มุ่งหน้าไปเท็นโนจิและนากาโมซุ ลงที่สถานีโดบุทสึเอ็นมาเอะ (Dobutuen-mae Station) จากสถานีชินไซบาชิใช้เวลา 6 นาที 230 เยน จากสถานีนัมบะใช้เวลา 4 นาที 180 เยน

จากสถานีโดบุทสึเอ็นมาเอะ ใช้เวลาเดินไปหอคอยซือเท็นคาคุ 10 นาที ซึ่งระหว่างนั้นจะเดินผ่านจังจังโยโกะโจและย่านชินเซไกด้วย

*1 : สถานีโอซาก้ากับสถานีอุเมดะอยู่ติดกัน ต้องดูเส้นทางให้ดี เพราะอาจหลงทางได้ เนื่องจากสถานีอุเมดะมีทางรถไฟผ่านหลายสาย

ชมวิวโอซาก้าบนหอคอยซือเท็นคาคุ

หากไปเที่ยวโอซาก้า อย่าลืมขึ้นไปชมวิวสวยๆ บนหอคอยซือเท็นคาคุกันนะคะ หลังจากชมวิวเมืองโอซาก้าเสร็จแล้ว ก็ไปเที่ยวชินเซไกกันต่อ เราจะได้สัมผัสพลังความเป็นโอซาก้าที่แตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่างโดทงโบริได้อย่างแน่นอนค่ะ



ผู้เขียนบทความต้นฉบับ: Hitoshi Kinoshita
บทความนี้เป็นบทความที่เขียนขึ้นใหม่จากบทความที่เคยเผยแพร่ไปเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ปี 2014

Written by

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ