เมืองนาฮะเองก็เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้เหมือนกันนะ! มาสัมผัสเกาะในโอกินาว่าที่คงอยู่มาตั้งแต่สมัยก่อน “เกาะคุดากะจิมะ” กันเถอะ

ที่ทางตอนใต้ของเกาะโอกินาวะ มีเกาะเก่าแก่ที่รู้จักกันในนาม “เกาะแห่งเทพเจ้า” อยู่ด้วยนะ และชื่อของมันก็คือ เกาะคุดากะจิมะ นั่นเอง

ภายในเกาะนั้นไม่มีอาคารสูงเลยแม้แต่อาคารเดียว และมีหมู่บ้านเก่าที่คงสภาพธรรมชาติในสมัยก่อนเอาไว้ ให้เราได้เข้าไปพูดคุยกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในเกาะด้วยภาษาแบบดั้งเดิม อุจินากุจิ (*1) ได้อีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน คนในพื้นที่ทุกคนก็จะคอยทักเราว่า “คอนนิจิวะ (สวัสดี)” อยู่ตลอดเวลา และคำอธิบายนี้ก็คือเกาะที่คงสภาพความเป็นสมัยเก่าของโอกินาวะเอาไว้ให้เราได้สัมผัสอย่างครบถ้วน เกาะคุดากะจิมะ

*1 อุจินากุจิ เป็นภาษาแบบเก่าที่ใช้พูดกันในโอกินาวะ

เริ่มจากนั่งรถมาจากเมืองนาฮะประมาณ 30 นาที มุ่งหน้าเข้าสู่เซฮะอุตากิที่อยู่ในเมืองนันโจ จากนั้นก็นั่งเรือเร็วต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึงที่หมาย พื้นที่รอบนอกของเกาะยาวประมาณ 8 กิโลเมตร และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200 เคน เมื่อมาถึงแล้วเราก็จะเห็นภาพวิวอันสวยงามและสงบเงียบของเกาะคุดากะจิมะอยู่ตรงหน้านี่แล้ว

ในปัจจุบันเกาะคุดากะจิมะ เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจมากขึ้นบ้างแล้ว แถมช่วงเวลาที่ได้ใช้ผ่อนคลายอย่างสงบท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามเช่นนี้ยังทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่สุดยอดไปเลยล่ะ

เกาะที่เทพเจ้าแห่งโอกินาวะลงมาจุติเป็นที่แรก

ที่เกาะคุดากะจิมะ มีความเชื่อที่บอกต่อ ๆ กันมาว่า เป็นที่ ๆ เทพเจ้าผู้สร้างเกาะริวคิว (*2) “อามะมิคิโยะ” ได้จุติลงมาสถิต และสร้างประเทศขึ้นมาตามลำดับ ทำให้ในปัจจุบันนี้เอง เกาะคุทากะจิมะเองก็ยังถูกสักการะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และที่มาของชื่อที่เรียกกันว่า “เกาะแห่งเทพเจ้า” นั่นเอง

ในประวัติศาสตร์เองก็ระบุไว้ว่า ราชาผู้ปกครองเกาะริวคิวเองก็แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนเกาะคุดากะจิมะเป็นประจำ และในปัจจุบันเองก็ยังมีงานเทศกาลกว่า 30 งานจัดขึ้นทุก ๆ ปีอีกด้วย

*2 เกาะริวคิวเป็นชื่อเรียกเกาะโอกินาวะในสมัยก่อน

ระบบการจัดการเมืองแบบพิเศษที่อนุรักษ์วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมเก่าของเกาะเอาไว้

ภายในเกาะคุดากะจิมะ จะมีระบบการจัดการเมืองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกาะนี้อยู่ โดยเกาะคุทากะจิมะจะได้รับการยกเว้นให้เป็นพื้นที่ปกครองตนเอง และนับพื้นที่ทั้งเกาะเป็นส่วนของตนเองทั้งหมด

โดยในพื้นที่ ประชากรแต่ละคนจะมีสิทธิพิเศษของตนที่ต่างจากคนนอกพื้นที่เกาะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องเกาะไม่ให้ถูกพัฒนาให้ตามสมัยจนเกินไป และเพิ่มความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในเกาะด้วยกัน อันจะส่งผลให้วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมภายในเกาะส่งต่อกันได้อย่างปกตินั่นเอง โดยแต่ละบ้านก็จะมีสิทธิของตนเอง และปฏิบัติตามกฎร่วมกันที่มีอยู่เพื่อรักษาเกาะของตนเอาไว้ เราจึงแทบไม่เห็นพื้นที่ที่เสื่อมโทรมอยู่ตรงจุดไหนของเกาะแห่งนี้เลย นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกาะนี้ดูขลังมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้

วนรอบเกาะได้ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น! ถ้าจะวนดูรอบเกาะล่ะก็ขอแนะนำให้ใช้จักรยาน

แม้ว่าอิมเมจของการมาเที่ยวเกาะในจังหวัดโอกินาวะจะเป็นพวกกีฬาทางน้ำ แต่ภายในเกาะคุดากะจิมะนั้น การสัมผัสธรรมชาติไปพร้อม ๆ กับการปั่นจักรยานชมเกาะนั้นน่าสนุกยิ่งกว่า!

โดยพื้นผิวบนเกาะแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ราบเรียบ และมีขนาดใหญ่ประมาณให้วน 1 รอบด้วยจักรยานได้ในเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น โดยจักรยานสามารถเช่าได้ในร้านให้เช่าจักรยานที่ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณท่าเรือ แม้ว่าแผนที่ที่แจกบนเรือโดยสารจะเป็นแบบเขียนด้วยมือ แต่ก็เขียนอธิบายสถานที่ต่าง ๆ ภายในเกาะได้อย่างประณีตและละเอียดดีทีเดียว เห็นแล้วก็สัมผัสได้ถึงใจรักบริการของผู้คนในเกาะนี้จริง ๆ นะ

เกาะนี้ไม่ได้มีสัญลักษณ์ที่สะดุดตา หรือป้ายที่บอกอะไรไปมากกว่าชื่อสถานที่ต่าง ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้นก็มาปั่นจักรยานกันแบบช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อนกันเถอะ

ภายในเกาะนั้น เราสามารถเดินทางไปสำรวจที่ต่าง ๆ ได้อย่างเสรี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีพื้นที่ที่ถูกยกเว้นเอาไว้แห่งหนึ่งด้วย สิ่งนั้นก็คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บนเกาะนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นทะเล หรือป่าที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็มีพื้นที่ส่วนที่ห้ามเช้าอยู่ด้วยทั้งนั้น ดังนั้นต้องระวังเวลาเดินทางเอาไว้สักนิดหนึ่งด้วยนะ

สถานที่แนะนำ Top 5 ในเกาะคุดากะจิมะ!

แหลมคาเบลบนเกาะโอกินาวะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลสีคราม

1.แหลมคาเบล: เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเรื่องเล่ากันว่าเทพอามามิคิโยะลงมาจุติ ทิวทัศน์ที่นี่แค่ยืนมองก็เหมือนกับได้ชำระล้างจิตใจแล้วเลยล่ะ

2.ภูเขาฟุโบ (ภูเขาคุโบ): แม้แต่ในเกาะอย่างโอกินาวะเองก็มีที่ ๆ เป็นจุดสูงสุดอยู่เหมือนกัน ภูเขาทั้งลูกนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามเข้าของโอกินาวะที่เรียกว่า “ภูเขาใหญ่ทั้งเจ็ด (นานะอุตากิ) แต่เพียงแค่เดินไปชมทางเข้าภูเขา ก็รู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์และความสงบที่อยู่ภายในแล้ว

3. คุดากะโดโนะ (อุดุนเมีย) / โฮกามะโดโนะ (วาคามะดุน):
เป็นลานจัดกิจกรรมขนาดใหญ่ 2 แห่งในเกาะคุดากะจิมะ เป็นทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสถานที่ประกอบพิธีกรรมในเวลาเดียวกัน

เป็นเพียงแค่พื้นที่โล่งสีขาวเท่านั้น ดูแล้วไม่มีสิ่งปลูกสร้างอยู่เลยสักแห่งเดียว

4. ชายหาดอิชิกิ ชายหาดทรายสีขาวที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ในสมัยก่อนนั้น ได้มีการขนส่งผลผลิตเป็นธัญพืชและแจกันดอกไม้ของโอกินาวะขึ้นที่นี่ และชาวโอกินาวะในสมัยก่อนว่าอีกฟากของทะเลที่มองจากหาดนี้ยังเป็นที่ตั้งของ นิไรคะไน (*3) จึงเปิดที่สักการะกราบไหว้ของคนในสมัยนั้นอีกแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน

*3 นิไรคะไน คือชื่อเรียกของดินแดนในอุดมคติโพ้นทะเลที่ปรากฎในคำสอนเก่าแก่ของโอกินาวะ

ภายในเกาะแห่งนี้ ไม่ว่าจะวิ่งไปที่ไหนก็ยังมีบรรยากาศสดชื่นและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามให้สัมผัสได้ทุกที่จริง ๆ

5. Romance Road: เป็นถนนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพียงไม่กี่แห่งของเกาะนี้ ระหว่างเดินพักผ่อนตามถนนนี้ เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสีน้ำเงินเข้มที่สวยจนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง และอีกฟากหนึ่งของชายหาดยังมองไปเห็นเกาะโอกินาวะหลัก แค่ได้มานั่งชมวิวทะเลอยู่ที่นี่จิตใจก็สงบลงไปมากแล้ว

บางทีการมาใช้เวลาพักผ่อนกายใจท่ามกลางธรรมชาติ และทำสมาธิสูดอากาศให้เต็มปอดที่นี่ดูบ้างก็น่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองอันเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่าง “ซุปอิราบู” ให้ได้ลองทานกันอีกด้วย

อาหารการกินของเกาะนี้ จะใช้อาหารที่เชื่อกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างอิราบู (งูทะเล) และสมุนไพรประจำท้องถิ่นมากมายมาเป็นวัตถุดิบเฉพาะของเกาะอีกด้วย ดังนั้นห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ

และทั้งหมดนี้ก็คือเกาะคุทากะจิมะที่จะพาเราไปสัมผัสถึงจิตใจของคนโอกินาวะ และภาพวิวสวย ๆ ที่ถูกรักษามาเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยก่อนของเกาะโอกินาวะได้ สนใจอยากจะลองเดินทางจากเมืองนาฮะแบบไปเช้าเย็นกลับมาพักผ่อนร่างกายให้สดชื่นที่นี่ดูสักครั้งหรือยังล่ะ?

information

ที่อยู่: Kudaka Chinen, Nanjo-shi, Okinawa
การเดินทาง: นั่งเรือเร็วมาจากท่าเรืออาซามะ ไปจนถึงท่าเรือโทคุจินประมาณ 15 นาที หรือนั่งเรือสำราญ (เฟอร์รี่) ประมาณ 25 นาที
【ค่าใช้จ่าย】 (ค่าเรือด่วน, เฟอร์รี่ 1 วัน ไปกลับชนิดละ 3 รอบ รวมเป็น 6 รอบเดินทาง/1วัน)
ค่าเรือด่วน: เที่ยวเดียว 760 เยน, ไปกลับ 1,460 เยน
เฟอร์รี่: เที่ยวเดียว 670 เยน, ไปกลับ 1,280 เยน

【วิธีการเดินทางไปยังท่าเรืออาซามะ】

◎จากสนามบินนาฮะ เดินทางด้วยรถยนต์: เดินทางลงใต้ไปทาง Tomigusuku/เกาะ Senagajima ขับผ่านสี่แยกนากามะไปทางด่วนโอกินาวะ ลงที่ Haebaru North IC เลี้ยวขวาที่ทางหลวงหมายเลข 329 ขับผ่านสี่แยก Yonabaru (หน้าสถานีตำรวจโยนาบารุ) มุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 331 ผ่านนันโจ เมือง Sashiki ไป เลี้ยวขวาที่ท่าเรือ Chinen Azama (ที่หน้าทางเข้าจะมีป้ายสัญลักษณ์อยู่ ใช้ทางเข้าเดียวกับ Sansan Beach)

◎เดินทางด้วยรถประจำทางในตัวเมืองนาฮะ: ขึ้นรถบัส Touyou หมายเลข 38 ที่ Naha Bus Terminal ลงรถที่ป้าย “Chinen Asama Sansan Beach Iri-guchi” เดินต่อประมาณ 5 นาที

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ Kudakakaiun Official Homepage
All pictures from PIXTA