ชายหาดอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น! 7 สิ่งที่ไม่ควรพลาดในเกาะมิยาโกะจิมะ โอกินาว่า (Miyakojima, Okinawa)

เกาะมิยาโกะจิมะ สวรรค์บนพื้นดิน

เกาะมิยาโกะจิมะ (Miyakojima Island) ตั้งอยู่ห่างจากเกาะหลักโอกินาว่าไปทางใต้ประมาณ 300 กิโลเมตร ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมง บริเวณใกล้เคียงยังมีเกาะทารามะ เกาะโอกามิ และเกาะอีก 4 แห่ง (เกาะอิเคมะ, เกาะคุริมะ, เกาะอิราบุ, เกาะชิโมะ) ที่เชื่อมถึงกันด้วยสะพาน เรียกรวมกันว่าหมู่เกาะมิยาโกะจิมะ

เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นที่ราบ ไม่มีแม่น้ำไหลลงทะเล จึงมีน้ำทะเลที่ใสมากเป็นอันดับต้นๆ ของโอกินาว่า ถือเป็นแหล่งรวมของนักประดาน้ำจากทั่วโลกเลยค่ะ

ในบทความนี้ จะแนะนำ 7 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดหากไปเที่ยวเกาะมิยาโกะจิมะ เช่น เสน่ห์ของทะเลรอบเกาะมิยาโกะจิมะ ชิมอาหารและสัมผัสวัฒนธรรมโอกินาว่า

1. เพลิดเพลินกับชายหาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ชายหาดโยนาฮา มาเอฮามะ ชายหาดหลักของเกาะมิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima Library

ชายหาดโยนาฮา มาเอฮามะ (Yonaha Maehama beach) หาดทรายสีขาวที่สว่างจนเกือบแยงตาความยาวราว 7 กิโลเมตรแห่งนี้ เป็นชายหาดหลักของเกาะมิยาโกะจิมะ น้ำทะเลที่ไล่ระดับสีน้ำเงินมรกต นั่งมองไปก็เพลินจนลืมเวลา

เหนือทะเลฝั่งตรงข้าม มีสะพานคุริมะ ทอดยาวไปยังเกาะคุริมะ ดูสวยงามมากเช่นกันค่ะ

ชายหาดโยนาฮา มาเอฮามะ (Yonaha Maehama beach)
ที่อยู่ : 1199 Yonaha, Shimoji, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 15 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

ชายหาดซุนะยามะ กับหินลึกลับขนาดใหญ่

Picture courtesy of Miyakojima Library

ชายหาดซุนะยามะ (Sunayama Beach) มีขนาดเล็กและเงียบสงบ โดดเด่นด้วยหินขนาดมหึมา หินผามีรูปร่างคล้ายซุ้มประตู เมื่อมองทะลุออกไปจะเห็นทะเลกว้างใหญ่สวยงามอยู่ข้างหน้า

ที่นี่เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงในการชมพระอาทิตย์ตกดิน หินผาที่อาบไปด้วยแสงสีแดงของอาทิตย์อัสดงยิ่งดูลึกลับมากขึ้นไปอีก

ชายหาดซุนะยามะ (Sunayama Beach)
ที่อยู่ : 705 Nikadori, Hirara, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 20 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

2. ดำน้ำตื้น (สน๊อกเกิลลิ่ง) ชมปลาและปะการังหลากสีสัน

ตามหาปลาเขตร้อนที่หาดอารากุซุคุ

Picture courtesy of Miyakojima Library

หากมาถึงเกาะมิยาโกะจิมะแล้ว กีฬาทางน้ำที่อยากให้ลองคือสน๊อกเกิลลิ่งค่ะ บริเวณหาดอารากุซุคุ (Aragusuku Beach) ที่อยู่ฝั่งตะวันออก มีปลาเขตร้อนหลากสีสัน มีปลาการ์ตูนด้วย

เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำตื้น จึงแนะนำเป็นอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่พาเด็กๆ มาด้วย มีห้องเปลี่ยนชุดและห้องอาบน้ำให้ใช้บริการได้ฟรี นอกจากนั้นบริเวณชายหาดยังมีบริการให้เช่าหน้ากากดำน้ำและตีนกบด้วย ไปตัวเปล่าก็สบายใจได้ค่ะ

หาดอารากุซุคุ (Aragusuku Beach)
ที่อยู่ : Aragusuku, Gusukube, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 30 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

ไปชมเต่าทะเลที่หาดโยชิโนะ

Picture courtesy of Miyakojima Library

หาดโยชิโนะ (Yoshino Beach) ที่อยู่ใกล้ๆ กับหาดอารากุซุคุก็เป็นอีกที่ที่อยากแนะนำให้ไปดำน้ำตื้น หรือสน๊อกเกิลลิ่งเช่นกัน เราจะได้เห็นปะการังอันแสนอุดมสมบูรณ์ในระยะประชิดเลยค่ะ

ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล เราจะได้เห็นภาพของเต่าทะเลกำลังว่ายน้ำในช่วงน้ำขึ้น แต่เนื่องจากเต่าทะเลเป็นสิ่งมีชีวิตที่ละเอียดอ่อนมาก เจอแล้วก็ไม่ควรไปวิ่งไล่ตามให้เต่าตกใจกันนะคะ

หาดโยชิโนะ (Yoshino Beach)
ที่อยู่ : Yoshino, Jouhen, Miyakojima, OkinawaGoogle Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 30 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

3. ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงามเกินบรรยาย

แหลมฮิกาชิเฮ็นนะซากิ แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของเกาะมิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima Library

แหลมฮิกาชิเฮ็นนะซากิ (Higashi Hennazaki) เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลราว 2 กิโลเมตร อยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้สุดของเกาะมิยาโกะจิมะ ได้รับเลือกเป็นสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามของชาติเมื่อปี 2007

ความงดงามราวภาพศิลปะของน้ำทะเลสีเขียมรกต แหลมที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจีและประภาคารสีขาว ถ่ายรูปจากมุมไหนก็ดูสวยงามลงตัวไปเสียหมด หินผาที่กระจายอยู่เกิดจากหินปูนริวกิว (*1) ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดค่ะ ในช่วงกลางคืนที่นี่จะกลายเป็นจุดชมดาวที่สามารถเห็นทางช้างเผือกด้วย

*1 : หินปูนริวกิว ... หินผาที่เกิดจากการทับถมของปะการังและและเปลือกหอยมาอย่างยาวนาน ชาวโอกินาว่าในอดีตจะนำไปใช้สร้างเป็นกำแพงหินและกำแพงปราสาท

แหลมฮิกาชิเฮ็นนะซากิ (Higashi Hennazaki)
ที่อยู่ : Bora, Gusukube, Miyakojima, OkinawaGoogle Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 35 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

สะพานอิราบุโอฮาชิ สะพานที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น

Picture courtesy of Miyakojima Library

สะพานอิราบุโอฮาชิ (Irabu Ohashi Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามระหว่างเกาะมิยาโกะจิมะและเกาะอิราบุ ถือเป็นสะพานที่ข้ามได้ฟรีที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ตลอดความยาว 3,540 เมตรที่ทอดตัวเป็นเส้นโค้งสวยงามมีทั้งส่วนสูงต่ำ ตัวเลขความยาว 3,540 สามารถเล่นคำในภาษาญี่ปุ่นได้เป็นคำว่า ซังโกะโนะชิมะ เกาะแห่งปะการัง

สะพานอิราบุโอฮาชิ (Irabu Ohashi Bridge)
ที่อยู่ : Kugai, Hirara, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 15 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

17END ทิวทัศน์ที่งดงามยามน้ำลง

ชายฝั่งที่อยู่ทางทิศตะวันตกของสนามบินเกาะชิโมจิ มีชื่อเรียกว่า 17END ในช่วงน้ำลง กระแสน้ำจะลดไปไกลจนเผยให้เห็นหาดทราบกว้างใหญ่สีขาวสวยงาม สามารถปีนเทตราพอด (แท่งปูนกันคลื่นเซาะฝั่ง) เดินลงไปยังหาดได้ แต่ก็ระวังกันสะดุดล้มกันด้วยนะ

17END
ที่อยู่ : บริเวณรอบๆ 1739 Sawada Irabu, Miyakojima, OkinawaGoogle Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 40 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ

4. ชิมอาหารเกาะมิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima Library

หนึ่งในเมนูอาหารขึ้นชื่อของเกาะมิยาโกะจิมะคือมิยาโกะโซบะ ถึงจะอยู่ในโอกินาว่าเหมือนกันแต่ก็มีข้อแตกต่างกับโอกินาว่าโซบะตรงเส้นราเม็งจะทรงแบนเล็ก และเป็นเส้นตรงไม่หยัก แล้วก็ยังมีโซบะที่เรียกว่า กุคากุเระ (ซ่อนเครื่อง) พวกเครื่องอย่างหมูสามชั้น ลูกชิ้นปลาคามาโบโกะจะถูกซ่อนเอาไว้ใต้เส้น มีหลากหลายชนิดมากๆ ค่ะ

เต้าหู้ยุชิ เป็นเต้าหู้ที่ทำให้จับตัวเป็นก้อนโดยไม่ใส่ในพิมพ์ เพราะงั้นเนื้อจะนิ่มมาก เป็นของขึ้นชื่อของโอกินาว่า มักนำไปใช้ในหลายๆ เมนู เช่น ชุดอาหารเต้าหู้ยุชิ หรือไม่ก็โซบะเต้าหู้ยุชิ สามารถหาชิมได้ไม่ยากเลย

เต้าหู้ยุชิสามารถทำโดยใช้น้ำทะเลในเกาะมาแทน "นิการิ" สารผสมอาหารเพื่อให้เต้าหู้จับตัว ที่ทำได้ก็เพราะว่าน้ำทะเลมีความสะอาดมาก เป็นอาหารเกาะมิยาโกะจิมะที่อยากให้ลองชิมจริงๆ ค่ะ

อีกทั้ง บนเกาะมิยาโกะจิมะยังมีแบรนด์เนื้อวัวมิยาโกะกิวที่หาได้ทานได้ยากมาก นอกจากในเกาะมิยาโกะจิมะกับเกาะหลักโอกินาว่าแล้วไม่ค่อยมีสักเท่าไร รสชาติกลมกล่อมและเนื้อติดมันที่มีรสหวานคือความพิเศษของมิยาโกะกิว

5. ซื้อของฝากที่ผลิตเฉพาะในเกาะมิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima Library

หากพูดถึงของฝากยอดนิยมจากเกาะมิยาโกะจิมะ ต้องนึกถึงอาวะโมริ มะม่วง และเกลือ

อาวะโมริเป็นเหล้าดั้งเดิมของโอกินาว่า ใช้น้ำจากเกาะมิยาโกะจิมะในการผลิต จึงอุดมไปด้วยแร่ธาตุและแคลเซียม ในเกาะมิยาโกะจิมะปัจจุบัน มีโรงกลั่นเหล้าถึง 6 แห่ง ที่มีชื่อเสียงก็เช่น โรงกลั่นเหล้าคิคุโนะสึยุ (Kiku No Tsuyu) ขอแนะนำให้ลองอาวะโมริที่เรียกว่า คูซุ ใช้เวลาบ่มนานจนได้กลิ่นหอมและรสชาตินุ่มคอ

โอกินาว่าผลิตมะม่วงเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เพราะงั้นเลยหาซื้อทานได้ในราคาถูก ถ้าอยากลองขอแนะนำพันธุ์คีทส์ (Keats) ที่ได้รับฉายาว่า มะม่วงมายา เพราะผลใหญ่และรสชาติหวาน ลองแล้วเป็นต้องติดใจ

ส่วนเกลือก็ต้องยูกิชิโอะ ที่มีเนื้อร่วนราวกับทราย เป็นเกลือที่ทำจากน้ำทะเลของเกาะมิยาโกะจิมะที่มีสารเจือปนน้อยมาก นำไปใช้ได้ง่าย เข้าได้ดีกับอาหารทุกประเภท จึงเหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากแจกให้หลายๆ คน เพราะมีซองขนาดเล็กขายด้วยค่ะ

6. ชมพืชพรรณกว่า 1,600 ชนิดที่สวนพฤกษศาสตร์มิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima library

สวนพฤกษศาสตร์มิยาโกะจิมะ (Miyakojima Botanical Garden) เดินทางด้วยรถยนต์จากสนามบินมิยาโกะเพียง 10 นาที ในพื้นที่กว่า 120,000 ตารางเมตรมีพืชพรรณกว่า 1,600 ชนิดให้ชม เป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะมิยาโกะจิมะ ทำหน้าที่เป็นผืนป่าธรรมชาติเพื่อสิ่งแวดล้อม

Picture courtesy of Miyakojima Library

ภายในสวนสามารถเพลิดเพลินกับพืชพรรณต่างๆ ได้ตลอดทั้งปี เช่น ดอกไม้นานาพรรณในประเทศเขตร้อนอย่างดอกชบา ลีลาวดี เฟื่องฟ้า ผลไม้ต่างๆ เช่น มะละกอ แก้วมังกร และต้นไม้ใหญ่ เช่น ปรงสาคูและปาล์มขวด เป็นต้น

ที่นี่ยังมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติให้เลือกเดินตั้งแต่ 1 - 4 กิโลเมตร ไปเดินชมธรรมชาติแถมได้ออกกำลังไปในตัวด้วยค่ะ

สวนพฤกษศาสตร์มิยาโกะจิมะ (Miyakojima Botanical Garden)
ที่อยู่ : 1166-286 Higashinakasonezoe, Hirara, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 10 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ
เว็บไซต์ : http://www3.miyakojima.ed.jp/shokubutsuen/english/index.htm

7. สัมผัสวัฒนธรรมชาวเกาะที่สตูดิโอซันชิน เกาะมิยาโกะจิมะ

Picture courtesy of Miyakojima Sanshin Kobo

มิยาโกะจิมะ ซันชิน โคโบ (Miyakojima Sanshin Kobo) เป็นสตูดิโอที่มีบริการชุดริวโซ เครื่องแต่งกายดั้งเดิมของโอกินาว่า และถ่ายรูปที่ระลึกด้วยกล้องของตัวเองได้ หากถือหมวกฮานะกาสะที่ดูเหมือนดอกบัวคู่กับชุดที่มีสีสันสดใสล่ะก็ ดูแล้วเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปสมัยราชวงศ์ริวกิว (*2) เลยล่ะค่ะ

ในวันที่อากาศสดใสสามารถถ่ายภาพที่ระลึกในสวนญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีได้ ค่าใช้จ่ายตกคนละ 2,000 เยน (จ่ายเงินสดเท่านั้น) ในหนึ่งครั้งสามารถใส่ได้พร้อมกัน 4 คน จึงแนะนำสำหรับสาวๆ ที่มาท่องเที่ยวกันเป็นกลุ่ม (ผู้ชายใส่ได้พร้อมกันครั้งละ 2 คน) ก่อนมาถึงสตูดิโอจะต้องจองล่วงหน้า และมีบริการจำกัดเฉพาะวันละ 2 คู่เท่านั้น ช่วงเวลาสำหรับกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาลองสวมชุดริวโซจะเริ่มตั้งแต่ 14:00 จนถึง 16:00 ชุดมีขนาดจนถึงไซส์ L (ความสูง 185 เซนติเมตร)

นอกจากนั้นในฮิราระ ย่านค้าขายใกล้ๆ กันก็มีร้านอิซากายะที่เพลิดเพลินกับการเต้นและเพลงพื้นเมืองของเกาะมิยาโกะจิมะได้อยู่มากมาย ไปสนุกสนานกับคะชาชี การเต้นรำเข้าจังหวะกับซันชินได้ (*3)

*2 : ยุคสมัยราชวงศ์ริวกิว ... ราชวงศ์ริวกิว ปกครองโอกินาว่าเป็นเวลา 450 ปี ระหว่างปี 1429 - 1879

*3 : ซันชิน ... เครื่องสายที่ใช้ในโอกินาว่าและภูมิภาคอะมามิ

Miyakojima Sanshin Kobo (สตูดิโอซังชินเกาะมิยาโกะจิมะ)
ที่อยู่ : 209-1 Nishinakasone Hirara, Miyakojima, Okinawa Google Maps
การเดินทาง : โดยสารรถยนต์ประมาณ 15 นาทีจากสนามบินมิยาโกะ
วันหยุดประจำ : วันอังคาร
เว็บไซต์ : http://miyakojima-sannsinn.seesaa.net/

ถ้าจะไปเที่ยวเกาะมิยาโกะจิมะล่ะก็ แนะนำให้ค้างสัก 2 คืน

Picture courtesy of Miyakojima Library

ทั้งในเกาะมิยาโกะจิมะเอง และเกาะอีก 4 แห่งที่เชื่อมต่อกันด้วยสะพาน ก็สามารถทัวร์เกาะย่อยได้ สถานที่น่าสนใจต่างๆ มีอยู่มากมาย ยิ่งกว่านั้น ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้จำนวนมาก อย่างน้อยที่สุดก็อยากจะให้พักสัก 2 คืนค่ะ

ในวันที่ 1 แวะไปตามแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตต่างๆ ให้ครบ ในวันที่ 2 ไปชิลล์ๆ แถวชายหาดหรือไม่ก็เพลิดเพลินกับการดำน้ำ ขอให้เพลิดเพลินกับช่วงเวลารีแล็กซ์สบายๆ บนเกาะมิยาโกะจิมะนะคะ

ฤดูร้อนน่าไปที่สุด

Picture courtesy of Miyakojima Library

ถ้าวางแผนจะมาเที่ยวเกาะมิยาโกะจิมะล่ะก็ แน่นอนว่าทุกคนก็อยากมาเล่นน้ำทะเลใช่ไหมล่ะคะ ช่วงเล่นน้ำทะเลในเกาะมิยาโกะจิมะจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกันยายน พระอาทิตย์ที่ส่องแสงจ้าทำให้น้ำทะเลเป็นประกายระยิบระยับ ยิ่งเป็นฤดูกาลที่เราจะได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามแน่นอน

แต่อุณหภูมิสูงสุดจะมากถึง 32 องศา ทำให้มีรังสียูวีแรงมาก จึงควรเตรียมหมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดดไปด้วย หากจะว่ายน้ำทะเล ให้เตรียมชุดที่ป้องกันรังสี UV ได้อย่าง Rush Guard ไปจะดีกว่าค่ะ แล้วก็อย่าลืมระวังผิวโดนแดดเผา รวมถึงโรคลมแดดด้วยนะคะ

ข้อสำคัญที่ควรทราบอีกอย่างหนึ่ง ในช่วงเดือนสิงหาคมจนถึงกันยายน อาจจะเกิดพายุไต้ฝุ่นพัดผ่านแถวนี้ จึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและข่าวไต้ฝุ่นด้วยค่ะ

การเดินทางจากแต่ละเมือง

Picture courtesy of Miyakojima library

จากโตเกียว

นั่งเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะใช้เวลา 3 ชั่วโมง เที่ยวบินตรงมีวันละ 2 เที่ยว ค่าโดยสารขาเดียว 10,000-40,000 เยน

จากโอซาก้า

นั่งเครื่องบินจากสนามบินนานาชาติคันไซใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เที่ยวบินตรงมีวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น ค่าโดยสารขาเดียว 10,000-30,000 เยน

จากโอกินาว่า

นั่งเครื่องบินจากสนามบินนาฮาใช้เวลา 45 นาที เที่ยวบินตรงมีวันละ 10 เที่ยว ค่าโดยสารขาเดียว 4,000-10,000 เยน

ทุกเที่ยวบิน หากจองก่อนล่วงหน้านาน อาจได้รับส่วนลดค่าโดยสารตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน ฉะนั้นควรจะจองก่อนล่วงหน้านานๆ ค่ะ

เดินทางในเกาะมิยาโกะจิมะ เช่ารถก็สะดวกดี

จาก "วิธีการเช่ารถที่ญี่ปุ่น และข้อควรรู้ต่างๆ"

จำนวนเที่ยวของรถบัสในเกาะมิยาโกะจิมะยังมีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นรถบัสที่มีเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนในท้องถิ่นมากกว่าท่องเที่ยว เลยไม่ค่อยมีรถบัสที่ไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เท่าไหร่ แนะนำให้เช่ารถสำหรับเดินทางในเกาะจะสะดวกกว่าค่ะ

ในการเช่ารถ ควรเลือกบริษัทที่สามารถติดต่อจองที่สนามบินมิยาโกะได้ และมีบริการรับส่งจนถึงสำนักงานขายจะสบายใจกว่า จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ก็สะดวกสบายเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนก็ต้องระมัดระวังโรคลมแดด (Heat Stroke) ด้วยนะคะ

ถนนบนเกาะมิยาโกะจิมะส่วนใหญ่จะเป็นทางราบ เหมาะแก่การเช่าจักรยานปั่นด้วย บางโรงแรมและบางที่พักก็มีบริการให้เช่าจักรยานด้วยนะ

ในส่วนของแท็กซี่นำเที่ยวก็มีคนขับท้องถิ่นที่จะพาไปตามแหล่งท่องเที่ยวแนะนำต่างๆ ราคาจะอยู่ที่ 1 คัน 4 ชั่วโมง 15,000 เยน ถ้านั่ง 4 คน ก็จะตกคนละ 3,800 เยนโดยประมาณค่ะ

รักษาความงดงาม และเที่ยวเกาะมิยาโกะจิมะให้สนุก!

Picture courtesy of Miyakojima Library

ทะเลที่สวยงามเป็นเสน่ห์อันดับต้นๆ ของเกาะมิยาโกะจิมะ แต่ในระยะหลังมานี้ เกาะมิยาโกะจิมะกำลังประสบปัญหาปะการังและสิ่งมีชีวิตในทะเลลดลง

จึงอยากขอความร่วมมือไม่เหยียบยืนบนปะการัง ใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมที่เป็นมิตรกับทะเล ไม่ทิ้งขยะลงในท้องทะเล เป็นต้น เพื่อให้ทิวทัศน์ที่งดงามยังคงอยู่กับเราตลอดไปค่ะ